แชร์

บทที่16

ผู้เขียน: มู​๋​สะเต๊ะ​
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-24 20:08:58

"ใยไหม แกหาของขวัญ​ให้พี่ภัทรยัง" 

"ของขวัญ?" 

"อ่าฮะ" 

"หาทำไมอะ" 

"เอ้า! ก็สัปดาห์​หน้าพี่รหัสของเราสองคนรับปริญญาแล้วนะ" 

"จริงด้วย ฉันลืมไปเลย" 

"แต่ไม่ให้หรอก เปลืองเงิน" ใยไหมทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้แล้วยกแก้วมัทฉะโคโคนัทขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ 

"ว่าแต่แกเถอะ หาหรือยัง" 

"แน่นอนสิ" เป็นเสื้อเชิ้ตสีดำธรรมดาแต่เป็นแบรนด์​โปรดของเขา ไว้ให้เขาใส่ไปทำงานยังไงหล่ะ

"ป่านนี้คะแนนแกเต็มพันแล้วมั้ง" ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีหน่ะสิ

"เว่อมาก ติดลบละสิไม่ว่า" เขาหน่ะ เล่นหาเรื่องหักคะแนนฉันสามเวลาหลังอาหารเลย เท่านั้นยังไม่พอเพราะนอกจากจะลบครั้งละยี่สิบสามสิบแล้ว คุณเขาก็บวกคะแนนให้นะ ให้ทีละครึ่งคะแนนอย่างมากที่สุดคือสองคะแนน ทำเอาใจฉันห่อเหี่ยวถึงทุกวันนี้

"แล้วแกบอกพี่เขาหรือยัง เรื่องทุนแลกเปลี่ยนหน่ะ"

"ยังเลย หาโอกาสไม่ได้เลยอะ" 

เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้ฉันรู้สึกหน่วงในหัวใจมาหลายวัน มันทั้งรู้สึกดีใจที่ได้ทำตามความฝันของตัวเอง แต่มันก็เศร้ามากเหมือนกันที่จะไม่ได้เจอเขาเป็นปีเลย ยิ่งเขาเรียนจบและต้องเข้าไปบริหารบริษัทเต็มตัวด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เรื่องของฉันกับเขาต่อจากนี้มืดลงทุกที

ไทม์โซนก็คนละเวลา โอกาสที่ฉันจะทำคะแนนต่อนั้นมีน้อยมาก เรื่องเจอหน้าหน่ะเหรอ ปัดทิ้งไปได้เลย เฮ้อ...ยิ่งคิด ก็ยิ่งกลุ้ม

"ฉันว่าแกควรจะรีบบอกพี่เขานะ" 

"ถ้าพี่เขาไม่รู้สึกกับแก เขาคงไม่เทียวไปเทียวมาให้แกจีบเขาหรอก" 

มาแกล้งหาเรื่องจับผิดฉัน แล้วเอาไปหักคะแนนละสิไม่ว่า

"ยังไม่อยากกลับเลยอ่ะ"

"ไปเดินดูของกันมั้ยละ เผื่อมีที่แกอยากซื้อให้พี่ภัทร"

"ก็ได้ แต่ดูของฉันนะ ไม่ได้ซื้อให้เขา" 

"ตามใจ ไปกัน"

ฉันกับใยไหมจูงมือกันเดินไปร้านนั้นดูร้านนี้ตามประสาผู้หญิง แต่ร้านที่ทำให้เราสองคนใช้เวลานานที่สุดคงจะเป็นร้านเครื่องสำอางร้านนี้นี่แหละ ทำเอาสองมือของฉันกับเพื่อนเต็มไปด้วยสีลิปและบลัชออนคอลเลคชั่นล่าสุดเกือบครบทุกเฉดเชียวละ สวยทุกสีจนเลือกไม่ถูก เพราะงั้นฉันเลยตัดปัญหาโดยการไม่ซื้อ

"เวลาหมดเร็วชะมัดเลย"

"นั่นสิ เสียดายเนอะ" มองนาฬิกาอีกทีก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้วถึงเวลาต้องแยกย้ายกันกลับ

ใยไหมบอกว่ามีรถมารับ ส่วนฉันก็พาตัวเองเดินไปยืนรอตรงร้านกาแฟเพื่อเรียกรถกลับ เพราะมือเต็มไปด้วยถุงช้อปปิ้ง​ขืนกลับรถไฟฟ้ามีหวังแขนได้หลุดออกจากบ่าแน่

แต่แล้วสิ่งที่ฉันไม่เคยเตรียมใจเผื่อไว้เลยตลอดเกือบสองปีที่ผ่านมา ใช่ว่าฉันจะไม่รู้ว่าเขาฮอตมากให้รั้วมหาวิทยาลัย​แต่ที่ฉันเคยเห็นเขาจะปฏิเสธผู้หญิงทุกคนที่เข้าหา และไม่เคยยิ้มให้ใครแบบนี้เลยสักครั้ง มีก็แต่กับคู่ชิปตั้งแต่มัธยมของเขาคนนี้ 'พี่มินิน' 

หรือข่าวลือที่ฉันเคยได้ยินมาตลอดหลายปีจะเป็นเรื่องจริง เขาสองคนไม่ใช่แค่คู่ชิปแต่คือคู่จริงแค่ไม่เปิดตัวจะรู้กันเฉพาะคนสนิทเท่านั้น คงมีแต่ฉันที่โลกสวยคิดว่าเขาสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน ยังดื้อดึงไปขอจีบเขาอีก น่าตลกชะมัด! 

คนหนึ่งก็สวยมากๆ อีกคนก็หล่อเท่ดูเหมาะสมกันสุดๆ  ยิ่งเวลาเดินคล้องแขนคู่กันอย่างนี้ยิ่งดูน่ารักมากๆ เลย

อย่างนี้สินะ ฉันถึงจีบเขาไม่ติดสักที 

'เจ็บ' เขารู้สึกกันแบบนี้นี่เอง อยากจะหายตัวไปจากตรงนี้จัง แต่เหมือนว่าจะไม่ทันซะแล้วสิ พี่มินินดันเหลือบมาเห็นฉันเข้าแล้ว และกำลังดึงแขนใครบางคนเดินตรงมาหาฉันด้วย

"น้องพรีม" 

"สวัสดีค่ะ​พี่มินิน" เชื่อเถอะ! ถ้ามีกระจกและมองเห็นหน้าตัวเองตอนนี้คงดูตลกมากแน่ๆ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็พยายามยิ้มอย่างมีมารยาท เพราะยังไงพี่มินินก็เป็นรุ่นพี่ที่น่ารัก แถมเมื่อตอนที่ได้ร่วมงานกันพี่มินินก็ดูแลฉันดีมากๆ ด้วย

"มาช้อปปิ้งหรอจ๊ะ" 

"ค่ะ" จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่กล้ามองตาเขาเลย กลัวใจตัวเองจะเก็บอาการไม่อยู่ กลัวน้ำตาจะไหลออกมา ได้แต่ยืนบีบมือตัวเองเงียบๆ ภายใต้รอยยิ้มที่พยายามปกปิดทุกอย่างเอาไว้

"มาคนเดียวหรอ"

"ใยไหมเพิ่งกลับไปค่ะ" 

"แล้วน้องพรีมกลับยังไงจ๊ะ ให้เลนส์​ไปส่งมั้ย"​

"อะ เอ่อ พรีมเรียกรถแล้วค่ะ" ฉันชูหน้าจอมือถือให้พี่มินินดู 

อย่างน้อยวันนี้โชคยังเข้าข้างกันบ้างเพราะไรเดอร์ส่งข้อความมาบอกว่าถึงแล้วพอดี ฉันเลยถือโอกาสนี้บอกลาพี่มินินและรีบพาตัวเองวิ่งออกมาจากสถานการณ์​นี้ให้ดูเหมือนว่ารีบวิ่งมาขึ้นรถอย่างไงอย่างงั้น

lens.lff : ถึงแล้วโทรหาด้วย

ใครเขาอยากจะโทรไปหากัน! 

คนตัวเล็ก​เก็บมือถือลงกระเป๋าสะพาย​ไม่อยากจะสนใจหรือคุยกับใครตอนนี้ ใจมันยังไม่พร้อม ไม่พร้อมรับความจริงตอนนี้

แกร๊ก! 

"..." ร่างบางบนโซฟากันมามองตามเสียงประตูที่ถูกเปิดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ

"ทำอะไร" ผมถามคนนั่งเงียบที่ไม่แม้แต่จะทักทายกันตั้งแต่เมื่อช่วงหัวค่ำ 

"ดูซีรีย์ค่ะ"

"ถึงแล้วทำไมไม่โทรหา" ถ้าตอบว่าไม่เห็นข้อความจะฟาดก้นให้สักที เพราะข้อความถูกอ่านแล้ว

"ไม่อยากโทรค่ะ" เธอตอบไม่เต็มเสียงนัก ก่อนจะสะบัดหน้าหนีกลับไปดูซีรีย์ที่เปิดค้างไว้ ท่าทางแบบนี้คงไม่ใช่แค่งอน แต่เธอโกรธผม

"เป็นอะไร" 

"..."

ผมเดินไปนั่งตรงโซฟาข้างคนหน้าบึ้งตึงจัดการช้อนตัวเธอขึ้นมานั่งซ้อนบนตักแกร่งพร้อมกับใช้สองแขนกอดเอวล็อคแขนเล็กไว้แน่นไม่มีทางให้เธอหนี แน่นอนว่าเธอขัดขืนขยับดิ้นไปดิ้นมาจนอะไรต่อมิอะไรบดเบียดกันทำอารมณ์​ผมว้าวุ่นไปหมด

ฟอด

"พี่ถาม" 

"พี่เลนส์​อย่ามายุ่งกับพรีมได้มั้ยคะ" 

"หมายความว่าไง" คิ้วเข้มขมวดเป็นปมแน่น เขาขับรถวนกลับมาหาไม่ได้ต้องการที่จะมาได้ยินคำพูดไม่เข้าหูแบบนี้

วันนี้ผมชวนมินินให้ไปช่วยเลือกของขวัญเป็นเพื่อน ของขวัญ​แสดงความยินดีที่ตัวเล็กสอบทุนแลกเปลี่ยนได้ ใช่...ผมรู้ และรอให้เธอเป็นฝ่ายบอกผมเอง แต่ก็ไม่ยอมบอกสักที

ด้วยความที่มินินตื่นเต้นไปกับความลับของผมจนไม่ระวังทำให้ข้อเท้าพลิกเพราะตกส้นสูงห้านิ้วที่ชอบใส่ ผมในฐานะเพื่อนและเป็นคนชวนมินินมาทำธุระให้ก็ต้องรับผิดชอบโดยการให้ยืมแขนเป็นที่พยุงเวลาเดิน จนบังเอิญเจอคนตัวเล็กหน้าร้านกาแฟนั่นแหละ

"หมายความตามที่พูด พรีมไม่อยากจีบพี่แล้ว เพราะงั้น..."

"ทำไม" ไม่รอให้เธอพูดไม่เข้าหูต่อ พยายามถามหาเหตุผลอย่างใจเย็นทั้งที่ข้างในมันร้อนรนจนลุกเป็นไฟ แต่ถ้าเดาไม่ผิดอาการที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้คือ 'หึง'​ ผมกับเพื่อน และคงจะเข้าใจผิดจนคิดไปไกล

"พรีมเหนื่อย ไม่อยากจีบแล้ว" อืม นึกอยากจะจีบก็ขอจีบ พอโกรธไม่พอใจก็ไม่อยากจีบ 

'หึ' ได้เห็นดีกันแน่ครับน้องพรีม! 

"แค่นี้จะยอมแพ้?" มุมปากได้รูปยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์​ถามคนที่ยังไม่รู้ตัวว่าภัยกำลังใกล้เข้ามา

"พี่เลนส์ไม่เคยรักใคร ไม่รู้หรอกค่ะว่าพรีมรู้สึกยังไง"

"รู้ได้ยังไง?"

"อ่อ ลืมไปค่ะ ต้องบอกว่าพี่เลนส์​มีแฟนแล้ว ไม่..."

"ใครมีแฟน"

"ก็พี่เลนส์​ไงคะ" 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รักในความร้าย   บทที่22

    หลังจากที่ตัวเล็กเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ห้องที่ผมไม่สามารถเข้าไปด้วยได้ ทำได้เพียงแค่นั่งรออยู่หน้าประตูอย่างมีความหวัง พยายามเรียกสติของตัวเองกดโทรหาไอ้แฝดคนที่ผมคิดว่าเวลานี้น่าจะจัดการทุกอย่างแทนผมได้ ผมเล่าเหตุการณ์ให้แฝดฟังจนพอเข้าใจ และให้เป็นธุระไปส่งข่าวให้คุณพ่อคุณแม่ของพรีมทราบด้วยตัวเองจะได้คอยดูแลพวกท่าน รวมถึงจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินไฟล์ทที่เร็วที่สุดและที่พักในเครือใกล้โรงพยาบาล พาขึ้นเครื่องบินมาพร้อมกัน แน่นอนว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตัวเล็กสร้างความตกใจให้ท่านทั้งสองคนมาก ยิ่งคุณแม่ด้วยแล้วถึงกับเป็นลมไปหลายรอบ จนไอ้ฟิล์มต้องขอให้ท่านทั้งสองคนพักอยู่ที่โรงแรม ก่อนที่มันจะมาหาผมด้วยความเป็นห่วงและรู้สึกหน่วงในหัวใจ ที่เขาบอกว่า การมีพี่น้องฝาแฝด ความรู้สึกจะสื่อถึงกัน ถ้าอีกคนมีความสุข อีกคนจะสุขด้วย ถ้าอีกคนทุกข์ อีกคนก็ทุกข์ไม่ต่างกัน ผมว่าจริงนะ และเป็นแบบนี้ตลอดเวลาเกือบยี่สิบสี่ปี"ไอ้แฝด เป็นยังไงบ้างวะ""น้องยังไม่ฟื้น""มึงใจเย็นๆ" ไอ้ฟิล์มตบไหล่ปลอบใจเบาเบา ให้ผมพยายามตั้งสติ"กูว่า มึงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่าหว่ะ" เพราะผมอยู่ในชุดนี้มาเกือบสามวัน ต

  • รักในความร้าย   บทที่21

    "ฝนจะตก" "พี่กูอยู่ไทย" "กวนตีน" ทุกวันอาทิตย์​ครอบครัวของผมจะต้องรวมตัวกันที่บ้านใหญ่ เพื่ออัพเดตเรื่องราวในช่วงเวลาที่ไม่ได้เจอกัน จิบชายามบ่ายเป็นเพื่อนมามี๊และน้องโฟ ตีกอล์ฟเป็นเพื่อนป๊า ปิดท้ายวันด้วยการกินมื้อเย็นด้วยกันพร้อมหน้าแน่นอนว่าพี่คนโตของบ้านอย่างผมต้องกลับมาทุกครั้งที่อยู่ไทยเป็นประจำอยู่แล้ว เพียงแต่ไอ้แฝดชอบกวนประสาทให้ผมด่าเล่นเท่านั้นแหละ "น้องโฟคิดถึงพี่เลนส์​มากเลย" น้องสาวคนสวยวิ่งลงมาจากบันได โผลเข้ากอดคอผมอย่างออดอ้อน ทำผมเอ็นดูจนหันไปกดจมูกลงผมหนาเบาเบา "หึ พี่ก็คิดถึงน้องโฟ""แล้วพี่ละหมูอ้วน" "น้องโฟเจอพี่ฟิล์มบ่อยแล้วนี่นา" "หึ" "น่าน้อยใจมั้ย" เราสามคนพี่น้องนั่งคุยกันเรื่องทั่วๆ ไปที่ห้องนั่งเล่นระหว่างรอป๊าพามามี๊ลงมาจากห้องนอน ซึ่งส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนฟังไอ้แฝดถามน้องโฟมากกว่า น้องสาวของเราสองคนเป็นเด็กน่ารักมากแลพก็พูดเก่งมากเช่นกัน เธอเป็นเหมือนความสดใสของบ้านเราเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าคนที่จะมาดูแลน้องไปทั้งชีวิตจะต้องผ่านการคัดเลือกจากผมและไอ้ฟิล์ม​มาแล้ว คัดเลือกและดูความประพฤติมาตั้งแต่เด็กนั่นแหละ แต่ต้องขึ้นอยู่ว่าน้องจะยอมให้ดูแลด้วยรึป่

  • รักในความร้าย   บทที่20

    สัปดาห์​นี้เป็นสัปดาห์ที่พี่เลนส์​ทำงานอยู่ไทยเพราะสองสัปดาห์​ที่ผ่านมาเขาบินมาทำงานที่นี่และอยู่เป็นเพื่อนฉันแล้ว ตลอดระยะเวลาเกือบหกเดือนเจ้าของสายการบินอย่างเขาก็บินไปบินกลับระหว่างไทยกับอเมริกาเป็นว่าเล่น อยู่ไทยสองสัปดาห์​ อีกสองสัปดาห์​บินมาอเมริกา​สลับไปอย่างนี้และช่วงเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน เขาก็ไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกเหงาหรือว่าห่างกันเลยสักนิดถึงเวลาเราจะไม่ตรงกันเลยแต่เขาก็จะรอฉันตื่นแล้ววิดีโอ​คอลคุยกันทุกวัน บางวันถ้าฉันเข้านอนแล้วเขาก็ให้เปิดกล้องทิ้งไว้ส่วนเขาก็นั่งทำงานคอยมองฉันเงียบๆ ไม่ส่งเสียง"ไม่ใส่สร้อย?""พรีมกลัวตกหาย""กลัวคนรู้ว่ามีแฟน?""พบคนงอนหนึ่งอัตราแล้วน๊าา"อย่างตอนนี้ฉันกำลังแต่งตัวไปเรียนส่วนเขาก็กำลังเข้านอน แต่สั่งให้เปิดกล้องอยากจะดูว่าฉันใส่ชุดอะไรไปเรียนเรียบร้อยถูกใจเขาหรือเปล่า รู้สึกเหมือนมีสไตลิสต์​ส่วนตัวคอยช่วยเลือกเสื้อผ้าให้เลย ที่สำคัญสิ่งที่ขาดไม่ได้และเขาจะงอแงทุกครั้งถ้าฉันไม่ใส่ก็คือสร้อยคอที่มีตัวย่อ 'PL' ชื่อของเราสองคนที่เขาให้เป็นของขวัญแสดงความยินดีที่ฉันสอบทุนได้ ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบหรือไม่อยากใส่หรอกนะ แต่เขาหน่ะชอบคิดไปไกล

  • รักในความร้าย   บทที่19

    "ตัวเล็ก" "คะ" แก้มนุ่มแดงราวกับลูกสตอเบอร์รี่​พยายามหลบสายตาคู่คมที่มองไม่ห่าง"พี่ไม่อยากเป็นแฟนตัวเล็กแล้ว" ตากลมโตฉายความสงสัยปนความน้อยใจมาเห็นให้อย่างปิดไม่มิด ทั้งๆ ที่เขาพึ่งจูบสูบวิญญาณ​ฉันไปแท้ๆ หน่ะหรอ"อยากเป็นผัวเลย" "ได้มั้ย" แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้ความน้อยใจอยู่กับฉันนาน เสียงที่แหบพร่าบอกความต้องการของตัวเองพร้อมกับแววตาออดอ้อนแฝงความเอาแต่ใจจนทำให้ฉันรู้สึกหวามไหวมวนท้องไปหมดอยากจะมุดหนีไปจากตรงนี้ ติดตรงที่ใจดันคิดสวนทางกันนี่แหละ"เดี๋ยวก็ลบหนึ่งร้อยเลยนี่" ฉันเลยสู้โดยการเลียนแบบเขาที่จ้องแต่หาเรื่องมาหักคะแนนกัน ติดลบไปเลย ดูซิ!​ จะยังกล้าเล่นกับใจฉันอยู่มั้ย"ยอม"ปากร้อนฉกจูบลงมาที่ปากของฉันอีกครั้งโดยไม่รอให้ฉันอนุญาติเหมือนครั้งก่อน จูบของเขาครั้งนี้มันทั้งดูดดื่มทั้งเอาแต่ใจทั้งเจ้าเล่ห์​คอยหลอกล่อให้ฉันเผลอไผลจนเขาสามารถรุกล้ำเข้ามาได้อย่างง่ายดายเขาพาฝูงผีเสื้อมาบินเล่นในร่างกายของฉัน"อะ อื้อ" ฉันไม่รู้ว่าเผลอตัวปล่อยใจไปกับรสจูบของเขานานเท่าไหร่ รู้ตัวอีกทีเดรสตัวยาวที่ฉันใส่ก็ร่นขึ้นมากองอยู่บนหน้าท้องแบนราบ มือหนาลูบแผ่วเบาวนไปมาตามผิวเนียนลื่นบริเวณต้

  • รักในความร้าย   บทที่18

    "ทำไมมึงรีบบินจังวะ" "นัดลูกค้า" "นัดลูกค้า อาทิตย์​หน้าไม่ใช่?""กูไม่ต้องเตรียมตัว?" "ปกติมึงไม่ไปล่วงหน้านานขนาดนี้" ไอ้แฝดพูดถูก ปกติถ้ามีงานผมจะบินไปล่วงหน้าอย่างมากคือสองวันเพราะมีเรียน แต่ตอนนี้ผมเรียนจบแล้ว และมีใครบางคนรออยู่ที่นั่นผมจึงรีบเดินทางไปตามที่รับปากเธอเอาไว้ วันนี้เลยให้แฝดทำหน้าที่เป็นคนขับรถพาผมมาส่งที่สนามบิน แต่ก็ลืมคิดไปว่า...ไอ้ฟิล์ม​มันพูดมาก เลยเลือกเปิดเพลงที่เราชอบเหมือนกันคลอเบาเบาเป็นการบอกทางอ้อมให้น้องรักหยุดพูด ซึ่งก็ได้ผลเพราะตอนนี้ไอ้แฝดกำลังร้องเพลงสบายอารมณ์ไปพร้อมกับเพลงที่เปิดให้ได้ยิน"ถึงแล้วแชทบอก" "ครับคุณน้องชาย" "ค่อยว่านอนสอนง่ายสมกับเป็นแฝดกูหน่อย" ไม่รู้ไอ้ฟิล์มมันกวนตีนเหมือนใคร? ผมใช้เวลากว่ายี่สิบชั่วโมงบนเครื่องบินที่มีที่นั่งส่วนตัวของผมโดยเฉพาะสามารถปิดที่กั้นเป็นห้องมีทีวีและสิ่งอำนวยความสะดวก​ครบครันและปรับที่นั่งเป็นที่นอนได้สบายเลยทำให้ผมได้พักสายตาเต็มอิ่ม มีแรงพอพาเธอไปเดินเที่ยวได้ทันทีที่ไปถึงส่วนที่พัก ผมก็แอบเช่าห้องฝั่งตรงข้ามห้องของเธอเอาไว้แบบไม่มีกำหนดโดยที่เธอไม่รู้ เพราะเธอยื่นคำขาดไม่ให้ผมนอนห้องเดียวกั

  • รักในความร้าย   บทที่17

    ป๊อก!"โอ๊ย! พรีมเจ็บนะ" นิ้วเรียวยาวดีดลงบนหน้าผากมนไม่เต็มแรงนัก แต่ก็พอให้คนตัวเล็กรู้สึกเจ็บและเป็นรอยแดง จนตาคู่คมไหววูบอย่างรู้สึกผิด ค่อยๆ เป่าเบาเบาตรงรอยแดงเป็นการไถ่โทษ"คิดเองเออเอง" เสียงทุ้มแอบบ่นคนบนตักแกร่งเบาเบาอย่างลืมตัว"..." "หึ" ทำตากลมโตมองตาขวางพองขนขู่จนทำให้ผมเริ่มรู้สึกกลัว รีบอธิบายเคลียร์​ตัวเองแสดงความบริสุทธิ์ใจ​ว่าที่เธอเข้าใจทั้งหมด...ผมถูกเธอกล่าวหา ผมกับมินินเป็นเพียงเพื่อนสนิทกันเท่านั้นไม่มีทางเป็นอย่างอื่นได้ ที่ผ่านมาใช่ว่าผมกับเพื่อนจะไม่เคยได้ยินข่าวลือที่คนอื่นต่างจับคู่ให้เราสองคน และเป็นไอ้ตริติณที่ถือโอกาสนี้ใช้ผมเป็นไม้กันหมาไม่ให้ใครเข้ามาจีบน้องตัวเองได้ ซึ่งผมก็ปล่อยเลยตามเลยเพราะไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่ตอนนี้ ต่างจากตอนนั้น..."พี่ยังไม่มีแฟน""แต่กำลังจะมี" "จิ๊ ปล่อยพรีมเดี๋ยวนี้เลย" แต่ดูเหมือนจะทำให้ลูกเสือโกรธมากกว่าเดิมสินะ สองแขนแกร่งจึงต้องออกแรงกระชับแขนกอดเธอให้แน่นขึ้น จนแทบอยากให้เธอละลายเข้าไปอยู่ในตัวจะได้ไม่หนีหายไปไหน"ไม่อยากรู้​หรอว่าใคร" "เรื่องของพี่ค่ะ เพราะพรีมไม่ได้จีบพี่แล้ว" คนแสนงอนทำหน้าบึ้งตึงยืนกรานว่าเธอ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status