"ปล่อย" แววตาเจ้าเล่ห์แฝงรอยยิ้มน่ากลัวถูกส่งไปให้คนที่เดินมาขวางทางเขา
"หลบ" น้ำเสียงทุ้มต่ำน่าเกรงขามเอ่ยบอกเด็กหนุ่ม ขุนพลไม่มีท่าทีกลัวครูซเลยกสักนิด เขายังคงยืนขวางอยู่แบบนั้น "ฮะ เฮียครูซ" ฮันน่าเรียกเพื่อนพี่ชายเสียงสั่น เธอกลัวครูซจะทำอะไรเพื่อนตัวเอง "อยากให้เฮียบอกมันไหม" หมายถึงวาฟิกซ์ ถ้าฮันน่ายังยืนยันจะไปต่อกับเพื่อน เขาคงต้องใช้วาฟิกซ์มาขู่เธอ "ไม่นะคะ!" เธอเบิกตาโพลงมองเขาอย่างตกใจ กลัวครูซจะเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพี่ชายตัวเอง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เธอตายแน่ "งั้นก็กลับ" กระตุกแขนเบา ๆ เพื่อบอกให้เธอเดินตามเขาไป "ฉันกลับก่อนนะขุนพล!" ฮันน่าเอี้ยวตัวตะโกนบอกลาขุนพล อย่างน้อย ๆ เพื่อนก็รู้ว่าเธอกลับแล้ว ดีกว่าไม่มีใครรู้เลย "...." ด้านขุนพลมองตามทั้งสองไปแววตาเรียบนิ่งยากจะคาดเดา เขามองครูซลากฮันน่าไปจนสุดสายตา ก่อนจะกลับไปหาเพื่อนคนอื่น ๆ ที่รออยู่โต๊ะ ตึก ตึก.. "ฮันน่าล่ะขุนพล" ฟ้าสวยมองหาฮันน่า ไหนขุนพลบอกว่าไปตาม ทำไมเขาถึงกลับมาคนเดียว แล้วอีกคนล่ะ "กลับไปแล้ว" "หมายความว่าไงกลับไปแล้ว?" ทำไมหญิงสาวถึงทิ้งเพื่อนกลับก่อน ทั้งยังไม่เข้ามาลาใครสักคน หรือว่าพี่ชายเธอจับได้ว่าหนีเที่ยว "ตามนั้น" เขาไม่รู้จะพูดอะไรมากมาย เมื่อเขาได้ตอบคำถามไปหมดแล้ว "กลับกับใคร" คีรินถามเพื่อนตัวสูงที่นั่งข้างตัวเอง "เพื่อนเฮียวาฟิกซ์" ทั้งกลุ่มรู้จักวาฟิกซ์และฟลินต์ดี ทั้งสองไม่เคยห้ามพวกเขาคบกัน แต่ไม่รู้ทำไมครูซถึงทำเหมือนไม่อยากให้ฮันน่าเข้าใกล้เขา โดยเฉพาะขุนพลที่ครูซดูจะไม่ชอบขี้หน้าเอาเสียเลย กับเพื่อนคนอื่นไม่เท่าไหร่ เป็นแค่ขุนพลคนเดียวเท่านั้น "คนที่ชื่อครูซป่ะ" คีรินเลิกคิ้มถาม "อืม" "กูเริ่มสงสัยแล้วว่าเฮียเขาเป็นอะไรนักหนาวะ ทุกครั้งที่พวกเรามาเที่ยวกันเฮียแม่งต้องตามมาเจอตลอด" ไม่ว่าจะไปร้านไหน ไกลแค่ไหนครูซยังตามไปเจอ นับถืออีกคนจริง ๆ "หรือเฮียแม่งมีซัมติงกับฮันน่าวะ" ทว่าประโยคของคีรินทำขุนพลชะงักไปทันที เขาปรายตามองเพื่อนเล็กน้อย ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป "เลิกพูดแล้วแดก" ฟ้าสวยไม่อยากให้บรรยากาศเสีย เธอจึงชวนเปลี่ยนบทสนทนา บนรถ "เฮียครูซจะพาหนูไปไหนเหรอคะ" เพราะทางที่ไปไม่ใช่ทางกลับคอนโดเธอแต่อย่างใด "ไปทำธุระ" ตอบโดยที่ตายังโฟกัสถนนเบื้องหน้า "อ๋อ..ค่ะ" ดวงตาคู่สวยมองข้างทางขณะที่รถกำลังวิ่งไปด้วยความเร็ว แม้จะไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ว่าเขาลากเธอมาด้วยทำไม ทั้งที่ตัวเองมีธุระ อยากถามแต่ไม่ดีกว่า กลัวครูซดุ "...." ครูซปรายตามองหญิงสาวเล็กน้อย "นานไหมคะ" "ไม่ครับ" และนี่คือคำตอบเขา ฮันน่าพยักหน้าเข้าใจก่อนจะกลับไปนั่งนิ่งเหมือนเดิม เพราะความเชื่อใจที่มีให้เขาเธอจึงไม่อยากเซ้าซี้อะไรมาก รถยนต์ขับไปเรื่อย ๆ กระทั่งขับเข้าไปจอดในบ้านหลังหนึ่ง ฮันน่ากวาดมองไปรอบ ๆ บริเวณก่อนจะนิ่งไปชั่วขณะ เพราะเธอไม่คุ้นกับสถานที่แห่งนี้ "บ้านใครเหรอคะ" "รออยู่นี่" ไร้ซึ่งคำตอบ ครูซลงจากรถแล้วเดินเข้าบ้านไปอย่างไม่สนใจหญิงสาวที่ตนพามาด้วย ซึ่งในขณะนั้นเอง.. Line! Cruz🤍 : อย่าลงจากรถเด็ดขาด "ทำไมต้องห้ามด้วย" คนตัวเล็กพึมพำเสียงเบาเล่นมือถือรออีกคนไปพลาง ๆ ระหว่างนั้นเธอก็กดเข้าแอปพลิเคชันหนึ่ง นิ้วเรียวเลื่อนดูภาพไปเรื่อย ๆ กระทั่งไปสะดุดที่โพสต์หนึ่ง มีคนมาอ้อนถึงบ้าน ข้อความใต้ภาพทำโทรศัพท์ในมือร่วงหล่นลงตัก เพราะผู้ชายในภาพเธอจำได้ขึ้นใจ ครูซ เธอจำเสื้อที่อีกคนใส่ได้ มันคือชุดที่เขาใส่อยู่ตอนนี้ ดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ใบหน้าสวยขยับมองเข้าไปในบ้านหลังนั้นอย่างช้า ๆ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน เขาเอาเธอมาด้วย แล้วปล่อยให้รอบนรถขณะที่ตัวเองไปมีความสุขกับผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ ใจร้ายไปหรือเปล่า "ใจร้ายจัง" เมื่อได้รู้สึกกับอีกคนไปแล้ว นั่นเลยทำให้เธอหน่วงบริเวณอกซ้าย ฮันน่าหักห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล เธอจะไม่มีวันให้เขาได้เห็นน้ำตาของเธอเด็ดขาด รักเขาในพื้นที่ของเราก็พอ.. ครูซ เจ้าของความสูง 189 เซนติเมตร อายุ 39 ปี มีนิสัยที่ใครก็ยากจะเข้าถึง ไม่ชอบผู้หญิงงี่เง่า เอาแต่ใจ ขี้โวยวาย เกลียดพวกพูดไม่รู้เรื่อง ใครก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเขาพร้อมจะเขี่ยทิ้งทันที สถานะมีแฟนแล้ว แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน นาน ๆ เจอกันทีเพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ครูซและฮันน่าอายุห่างกันถึง 15 ปี และเขายังเป็นเพื่อนสนิทกับวาฟิกซ์ พี่ชายคนโตของฮันน่า ทั้งสองรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก บ้านพวกเขาอยู่ติดกัน สมัยฮันน่ายังเด็กเธอชอบไปเล่นที่บ้านครูซเป็นประจำ ครูซรักและเอ็นดูเธอเหมือนน้องสาวแท้ ๆ คนหนึ่ง แต่มันก็แค่อดีตเท่านั้น.. ราว ๆ สองชั่วโมงได้ที่ครูซหายเข้าไปในบ้านหลังนั้น ก่อนที่เขาจะออกมาด้วยสภาพเสื้อผ้ายับเยิน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาไปทำอะไรมา ฮันน่าแสร้งทำเป็นหลับตอนที่อีกคนเดินตรงมาที่รถ ดีที่มันมืดทำให้เขาไม่ทันสังเกตว่าหญิงสาวนั่งมองเขาอยู่ก่อนหน้านั้น ปัง! (เสียงปิดประตู) "...." ไม่มีคำพูดใดหลุดจากปากอีกคน มีเพียงกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ลอยมาเตะจมูก เธอจำกลิ่นน้ำหอมเขาได้ดี..ซึ่งมันไม่ใช่กลิ่นนี้ อยู่ ๆ น้ำตาก็พานจะไหล ฮันน่าทำเป็นรู้สึกตัวขยับพลิกข้างไปทางประตูรถ แต่แล้วน้ำตาก็กลั้นไว้ไม่ไหว ยิ่งอยู่ใกล้มากเท่าไหร่ หัวใจยิ่งเจ็บซ้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาใจร้ายกับเธอเกินไป ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย คอนโดฮันน่า "ฮันน่า" เสียงทุ้มต่ำเขย่าตัวพร้อมกับเรียกหญิงสาวข้างกาย "อื้อ~ ถึงแล้วเหรอ" แสร้งว่าตัวเองเพิ่งตื่น ทั้งที่ความจริงเธอไม่ได้หลับเลยต่างหาก "ครับ" การกระทำและคำพูดช่างสวนทางกันเหลือเกิน พูดเพราะแต่กลับใจร้ายที่สุด "...." อยู่ ๆ คนตัวเล็กก็นิ่งไป "มีอะไรหรือเปล่า" "เฮียครูซ" น้ำเสียงจริงจังของเธอทำครูซนิ่งรอฟัง "...." เขามองเธออย่างรอคำถาม "บ้านที่ไปเมื่อกี้.." "บ้านแฟนเฮียเอง" แล้วทุกอย่างก็พังทลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี เขามีแฟนแล้วจริง ๆ เป็นตัวเธอเองที่คิดไม่ซื่อ มันไม่ควรมีความรู้สึกนี้มาตั้งแต่ต้นเลยต่างหาก อย่าลืมว่าเขาคือเพื่อนสนิทพี่ชายตัวเอง ไม่ควรไปรู้สึกเกินเลยด้วยซ้ำ จำเอาไว้ และใช่.. ฮันน่าเคยสารภาพรักกับครูซไปแล้ว และคำตอบที่ได้กลับมามีเพียงคำว่า..อืม เป็นคำตอบที่เหมือนไม่อะไร แต่มันกลับเจ็บปวดที่สุดสำหรับเธอ "ฮะ เฮียมีแฟนแล้ว" ทั้งที่เขาเองก็รู้ว่าเธอรู้สึกยังไง แต่เขายังเลือกที่จะทำร้ายเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วเธอที่รักเขาข้างเดียวต้องเจ็บปวดเสียใจอีกกี่ครั้งเขาถึงจะหยุดมัน ครูซทำทุกอย่างเหมือนปกติ ทั้งที่มันไม่เหมือนเดิมตั้งแต่วันนั้น..วันที่เขาปฏิเสธรักเธอ เขามันเลือดเย็นที่สุด "อืม" เพราะสำหรับเขาแล้วไม่จำเป็นต้องบอก เธอไม่ได้สำคัญกับชีวิตเขาขนาดนั้น ก็แค่น้องเพื่อน.. "เฮียคบกันนานหรือยังคะ" รู้ว่าคำถามที่พ่นออกไปเสียมารยาทแค่ไหน แต่เธออยากรู้ว่าพวกเขาคบกันนานหรือยัง แม้ว่าคำถามจะสร้างบาดแผลให้ตัวเองมากก็ตาม ผู้หญิงคนนี้ใช่คนเดียวกับที่เขาเคยขึ้นสถานะด้วยหรือเปล่า "เฮียต้องไปแล้ว" นัยน์ตาหญิงสาวเต็มไปด้วยความบอกช้ำ การที่ครูซตัดบทมาแบบนี้ ไม่ต่างอะไรกับการไล่เธอลงจากรถ "..." เหมือนโดนไม้หน้าสามทุบเขาที่หัวอย่างแรง ฮันน่าฝืนยิ้มก่อนจะลงจากรถโดยไม่มีคำลา เจ็บแต่ถือว่าจบ เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรเอาใจลงไปเล่นกับเขาอีกต่อไป และนี่คือจุดเริ่มต้นของทั้งสอง..Part : ครูซ"กูเรียกมาเอง""ไอ้ครูซ?" ผมปรายตามองไอ้ฟลินต์ มันขมวดคิ้วทำหน้าเหมือนคนกำลังสงสัย มันคงสงสัยแหละว่าผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"สวัสดีครับ" ผมยกมือไหว้คุณป้า หรือแม่เมียผมนั่นแหละ "สวัสดีลูก" ท่านรับไหว้พร้อมกับเดินมาสวมกอดผม "แม่ไปกอดมันทำไม" ไอ้ฟลินต์ถามทันทีเมื่อแม่มันเดินผ่านหน้ามันเพื่อมากอดผม กูจะทำให้มึงเป็นหมาหัวเน่าให้ดู"เอ๊ะ ตาลูกคนนี้หนิ" ท่านหันไปปรามมันเสียงดุ สมน้ำหน้าไอ้ลูกพ่อแม่ไม่รัก"กับผมแม่ยังไม่กอดเลย" ก็มึงมันลูกเมียน้อย"เรามีคดีอยู่นะเจ้าฟลินต์" เยอะเลยคดีมันน่ะ"ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย" หน้าด้านมาก พูดออกมาได้ยังไงว่าตัวเองไม่ได้ทำอะไร ให้กูบรรยายความเหี้xมึงไหมไอ้เวร"พ่อไม่เกี่ยวนะ" ผมขยับสายตามองไปยังลุงชีวอน พ่อของมัน"พ่อมาทำไม" "มากับเมีย" "แล้วน้องล่ะลูก" แม่ผมถามหาฮันน่า "น้องนอนอยู่ครับ" เมื่อกี้เธองอแงขอนอนต่อสักงีบ ผมที่สงสารจึงยอมใจอ่อนให้นอนก่อนค่อยขึ้นไปปลุก "งั้นเรามาคุยกันก่อนระหว่างรอน้องตื่น" เห็นด้วยครับแม่"เชิญทางนี้ครับ" ผมผายมือให้ผู้ใหญ่ทั้งสี่เดินไปนั่งที่โซฟาราวกับว่านี่เป็นบ้านของผม แล้วไอ้ฟลินต์กับพี่มันคือคนมาขออาศัยอย
สามวันต่อมา.."ฮันน่าออกมาคุยกับเฮียหน่อย" ฟลินต์และวาฟิกซ์พยายามง้อน้องสาวที่งอนตุ๊บป่องขังตัวเองอยู่ในห้องราวสามชั่วโมงกว่า เธอยื่นคำขาดหากทั้งสองพังประตูเข้ามาเธอจะหนีไปอยู่ที่อื่น สาเหตุที่ทำใหเธองอนก็มาจากเรื่องนั้นแหละ เชื่อไหมว่าครั้งสุดท้ายที่เธอได้คุยกับครูซคือวันเดินทางตอนอยู่บนเครื่อง ฮันน่าพยายามติดต่อเท่าไหร่ก็ติดต่ออีกคนไม่ได้ วาฟิกซ์เองก็ไม่รู้ว่าเพื่อนหายไปไหน สุดท้ายเขาต้องเดินทางมาหาน้องสาวคนเดียว ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเขาต้องมากับครูซ "ไม่ค่ะ" "เฮียขอโทษ" ทั้งสองไม่นึกว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้ เขาตั้งใจจะแกล้งเล่น ๆ ไหงกลายเป็นว่าครูซเสียใจแล้วหายไปเลย เบอร์มือถือก็ปิด ไลน์ก็ไม่ตอบ ปิดหนีทุกช่องทาง"เพราะมึงเลยไอ้ฟลินต์""แม่งใครจะคิดว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้ว่ะ""มึงเคลียร์กับน้องให้หายงอนกูเลยไอ้เวร" เขาโดนหางเลขไปด้วยทั้งที่มันคือความคิดของฟลินต์คนเดียว"เครียดเลยกู" ฟลินต์เกาหัวตัวเองแรง ๆ ด้วยความหงุดหงิด แม่งผิดแผนไปหมดเลยตอนนี้ "ไปจัดการสิไอ้ฟลินต์" วาฟิกซ์คาดคั้นให้น้องชายเข้าไปง้อน้องสาว"กูเข้าไปหาน้องไม่ได้มึงก็เห็น" ก็ยืนอยู่ด้วยกันเห็นอยู่ว่าน้องล็อ
สองวันต่อมาณ สนามบินหญิงสาวตัวเล็กที่หน้าท้องเริ่มใหญ่เดินเคียงคู่มากับพี่ชาย ไร้เหงาอีกคนมาส่งอย่างที่ควรจะเป็น ฮันน่ายังคงตั้งหน้าตั้งตาเดินตามฟลินต์ไปขึ้นเครื่องโดยที่เขาเป็นคนขับอีกเช่นเคย"หิวไหม""ไม่ค่ะ""คิดถึงมันเหรอ""เฮียก็รู้" เอ่ยหน้าเศร้า "หึ ทนหน่อยคนเก่ง" เขาว่าพลางจูงมือน้องสาวไปขึ้นเครื่อง หากคนที่ผ่านไปผ่านมาเห็นคงเข้าใจว่าทั้งสองคือคู่สามีภรรยา เพราะความอ่อนโยนที่ฟลินต์มีให้น้องสาว ผู้หญิงเห็นต่างก็หลงใหลอยากได้ผู้ชายแบบนี้มาเป็นพ่อของลูก กระทั่งฟลินต์พาฮันน่าขึ้นมานั่งบนเครื่องบินส่วนตัว"อีกครึ่งชั่วโมงเครื่องออก" ต้องรอใครบางคนก่อน "หนูของีบก่อนนะคะ""ครับ"อีกด้านPart : ครูซ"นายทำอะไรอยู่""ออกไป" ผมไล่มันออกไป ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครทั้งนั้น ผมนั่งมองรูปฮันน่าในมือถือตัวเองนิ่ง ในเมื่อเธอขอไม่ให้ผมไปส่งผมก็จะไม่ไป แต่อย่าเพิ่งคิดว่าผมจะยอมแพ้ ไม่มีทาง..คนอย่างผมไม่มีทางยอมแพ้อะไรง่าย ๆ อยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องที่มันเกี่ยวกับเธอ"คิดจะหลอกกูมันไม่ง่ายหรอกไอ้พวกเวร" มันคงคิดว่าผมโง่จนไม่รู้ว่าพวกแม่งกำลังวางแผนแกล้งผมอยู่ อยากเล่นผมก็จะเล่นด้วยกลัวเด็
เวลา 16:00"....." ผมพาตัวเองมาอยู่หลังบ้านคนเดียวเงียบ ๆ ในสมองคิดเรื่องก่อนหน้านี้ เธอจะไปจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ แล้วเขาล่ะ ทำไมคนสุดท้ายต้องเป็นเขาตลอดที่รู้เรื่อง"นาย" "...." ไร้ซึ่งการตอบกลับจากอีกคน หนึ่งมองผู้เป็นนายแววตางุนงงก่อนจะก้าวไปหยุดข้าง ๆ "นายอกหักอีกแล้วเหรอ คนไหนอีกล่ะรอบนี้" น้ำเสียงเย้าแหย่ถูกส่งไปให้ผู้เป็นนาย นัยน์ตาเรียบนิ่งขยับมองลูกน้องตัวเองนิ่งแต่แฝงไปด้วยแรงอาฆาตที่พร้อมพุ่งไปกระชากให้หลับกลางอากาศ"สายตาแบบนี้ ใบหหน้าแบบนี้..""ไปไกล ๆ ตีนกู" ประโยคแรกที่เขามอบให้ลูกน้อย"ผมเอา..""ไอ้หนึ่ง!" ฟลินต์มาจากไหนไม่รู้ตะโกนเรียกหนึ่งเสียงดังจนเจ้าตัวสะดุ้งตกใจพร้อมกับหันไปมอง"คุณฟลินต์" ทำไมฟลินต์ต้องทำราวกับว่ากลัวอะไรสักอย่าง"มาช่วยกูยกของหน่อย" "แต่ว่า.." เขาคุยกับเจ้านายยังไม่จบ หนึ่งมองผู้เป็นนายที่เบือนหน้าไปทางอื่นพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินไปหาฟลินต์แทน"คุณฟลินต์ไม่มีเงินจ้างลูกน้องแล้วเหรอครับ ผมให้ยืมเอาไหม" ลูกน้องฟลินต์มีน้อยซะที่ไหน ทำไมหวยต้องมาตกที่เขา"อย่าไปยุ่งกับมัน""นายโดนคุณฮันน่าบอกเลิกหรือครับ""ไม่ กูนี่แหละบอกเลิ
น่าย้ายไปอยู่ต่างประเทศแล้ว" ที่บอกว่าย้ายถาวรไม่ได้พูดเล่น เขาให้ฮันน่าย้ายไปอยู่ที่นั่นจริง ๆ ซึ่งในตอนแรกเขาจะให้น้องสาวไปอยู่กับป้า แต่พอมาคุยกับจริงจังฟลินต์เลยตัดสินใจที่จะซื้อบ้านใหม่เพื่อน้องสาวกับหลานที่กำลังจะเกิด แล้วพ่อแม่พวกเขาเห็นด้วยกับเรื่องนี้ หลังจากกลับไปรอบนี้ คนที่จะมาอยู่กับฮันน่าเป็นคนที่ฟลินต์จ้างมาโดยเฉพาะ เขามั่นใจว่าคนนั้นจะดูแลน้องสาวแทนพวกเขาได้เป็นอย่างดีไม่ต่างจากพวกเขาแน่นอน"ไม่เห็นหนูบอกเฮียเลย" ครูซถามคนตัวเล็กด้วยความน้อยใจ เขาตัวติดเธอทุกวันทำไมหญิงสาวถึงไม่บอกอะไรเขาเลย หรือที่เธอทำดีด้วยทุกวันนี้เพียงเพราะสงสารเท่านั้น พอคิดได้อย่างนั้นครูซก็นิ่งไป เขาไม่รู้จะพูดอะไรออกไปดี มันรู้สึกน้อยใจ แต่เขายังไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเธอทั้งนั้น เห็นเขาเสนอหน้าอยู่ในบ้านก็เพราะความหน้าด้านของตัวเองล้วน ๆ คิดว่าเธอจะไม่ไปไหนแน่นอน สุดท้ายแล้วเธอก็ทิ้ง.."คือว่า.." มีท่าทีอึกอักเล็กน้อย"หนูไม่อยากอยู่กับเฮียใช่ไหม" เขาก้มหน้าเพื่อไม่ให้เธอเห็นดวงตาแดงก่ำของตัวเอง มันน่าสมเพชหากต้องร้องไห้ให้ใครเห็น"ใช่ น้องกูไม่อยากอยู่กับมึง" พอได้เห็นอาการครูซ ฟลินต์ยิ่งยากแกล
"ทำไมยังไม่นอนอีกมันดึกแล้ว" ครูซเข้ามาดูหญิงสาวในห้องของเธอ เข้ามาก็พบฮันน่ายังนอนทำตาแป๋วดูซีรีส์หน้าตาเฉย"กำลังจะนอนค่ะ" "จะนอนก็ปิดไอแพคก่อน" "เฮียไม่พักผ่อน" เธอเปลี่ยนเรื่องไปถามเขาแทน ครูซที่รู้ทันจึงส่ายหัวเบา ๆ กับความแสบซนของเธอ"เดี๋ยวเฮียเอาหนูนอนก่อนค่อยไป" ไม่อยากให้เธอนอนดึก ยิ่งกำลังท้องอยู่ด้วย มันไม่ดีต่อสุขภาพตัวเองและลูกน้อยซึ่งในขณะนั้นเอง... ก็อก ก็อกครูซกำลังจะล้มตัวนอนเป็นต้องดีดตัวลุกนั่งเหมือนเดิมเพราะเสียงเคาะประตูห้อง เขาเดินเพื่อไปดูว่าเป็นใคร แล้วคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นฟลินต์พี่ชายคนตัวเล็ก แอดด"มึงมาทำไมไอ้ฟลินต์" "กูมานอน แล้วช่วยตั้งคำถามใหม่ด้วยนะ" นี่มันบ้านของเขา ซึ่งไม่ว่าเขาจะเดินหรือทำอะไรก็ได้ไม่ผิด คำถามนี้เป็นเขามากกว่าที่ควรถามครูซ"มึงจะมานอนนี่ทำไมห้องมึงก็มี" "นั่นแหละคำถามกู" "แต่ฮันน่าเป็นเมียกู" "กูอยากนอนกับน้องกู มึงมีปัญหาอะไร""น้องมึงแต่เมียกู""...." ฟลินต์ไม่ตอบเขาเดินผ่านหน้าชายหนุ่มไปยังเตียงพร้อมกับทิ้งตัวลงนอนหน้าตาเฉย"เพิ่งกลับเหรอคะ" "ครับ" "เดี๋ยวนี้ติดสาวนะเฮีย""เหมือนที่หนูติดมัน"