ตลอดชีวิตที่ผ่านของมาของฉัน ฉันไม่เคยสนใจสิ่งไหนเลยนอกจากการหาเงิน ทำงาน หาเงิน ทำงานอีกและหาเงินให้มากเข้าไว้ ฉันไม่เคยสนใจเพื่อนร่วมงานหรือว่าผู้ชายคนไหนเลยด้วยซ้ำ เพราะมีความตั้งมั่นในใจว่าฐานะของฉันมันควรจะมั่นคงซะก่อน ความรักที่ดีและครอบครัวที่ดีถึงจะตามมา
ทว่าเมื่อมองเห็นตัวเองตายด้วยการทำงานหนัก โรคภัยรุมเร้าจนมันยากเกินเวลาที่จะรักษา สุดท้ายแล้วการพยายามอย่างหนักมาทั้งชีวิตมันสูญเปล่าไปหมดเลย เมื่อสิ่งที่ได้รับตอบแทนมามันคือความตาย.. ในยามนี้ฉันคือปีศาจซักคิวบัส มีเหตุผลอะไรกันที่จะต้องมาคอยนึกถึงเรื่องของผู้อื่น มีเหตุผลอะไรที่ต้องมาคอยเห็นใจคนอื่น ในเมื่อ..ฉันควรจะใช้ชีวิตเพื่อตัวเองสักครั้งหนึ่ง.. “ถอดออก..ได้ไหมคะ” เธอเอ่ยถามพร้อมกับถอดเสื้อคลุมสีดำของเขาออก ชุดบาทหลวงนี้ปกคลุมมิดชิดกระทั่งลำคอและข้อมือ แทบไม่มีส่วนไหนเลยที่โผล่พ้นออกมาจากชุดที่สวม แต่ทว่า เอสวายังคงสามารถทำให้เธอหลงใหลเขาได้ทั้งๆ ที่เขาอยู่ในชุดบาทหลวงนี้ เขาดึงรั้งร่างกายของเธอเข้าไปใกล้ ลมหายใจของเขาสัมผัสใบหูของเธอ ขณะที่มืออีกข้างหนึ่งของเขาลูบไล้เบาๆไปตามแผ่นหลัง เขาสัมผัสลงไปบนปีกสีดำนั้น “ข้าควรจะ..ทำเช่นไรต่อไปดี” เขาเอ่ยถามออกมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำราวกับลูกมะเขือเทศ เรียวคิ้วคู่นั้นขมวดเข้าหากันด้วยความไม่มั่นใจ เขาเอ่ยถามออกมาเพื่อที่จะขอคำแนะนำจากเธอในเรื่องการทำรักแสนหวานที่เราทั้งคู่จะจับมือกันเดินข้ามไป..แต่เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะต้องทำอย่างไรต่อไป.. ความพยายามที่อ่านคู่มือมาทั้งวันมันจางหายไปหมด เพียงแค่ได้มองสบตาเขา พระเจ้าช่วย..ดูเหมือนว่าพระองค์จะทรงรักและเอ็นดูเอสวามากเหลือเกินเพราะไม่ว่าส่วนใดบนใบหน้าของเขา มันล้วนแล้วแต่งดงามและบรรจงสร้างทั้งนั้น เธอเอื้อมมือไปจับเข้าที่เส้นผมสีรัตติกาลของเขา มันเงางามและนุ่มลื่นมากกว่าที่คิด แน่นอนว่าเธอไม่มีประสบการณ์เรื่องเช่นนี้..แต่จะให้เขารู้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด! กว่าเธอจะโน้มน้าวให้เขาคล้อยตามนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแบบนั้น..ก่อนอื่นถอดชุดบาทหลวงเขาออกมาก่อน “ให้ข้าช่วยถอดมันออกนะคะ” เขาลูบไล้ลงไปเบาๆ ตามต้นแขน ทำให้เธอขนลุกทุกครั้งที่สัมผัส ในขณะที่เธอเอื้อมมือไปถอดชุดสีดำนั่นออกจากร่างกายของเขา ผิวกายของเอสวาขาวเนียนไปหมด ทว่าที่น่าตกใจคือเขามีรอยแผลเป็นจากการถูกตีที่แผ่นหลังมานับรอยไม่ถ้วน ในช่วงเวลาที่อยู่ในห้องอาบน้ำเธอไม่ทันได้สังเกตดีๆ แต่ในยามนี้ดูเหมือนกับว่ารอยเหล่านั้นมันจะเด่นชัดมากทีเดียว “มัน..ไม่เจ็บแล้วล่ะ..” เธอไม่กล้าเอ่ยถามด้วยซ้ำว่าใครเป็นคนทำร้ายเขา โรแอนด์คิดว่าในวันนี้เธอควรจะโฟกัสแค่ความรู้สึกของเราทั้งสองคนก็พอ เรื่องอื่นเอาไว้เราสนิทสนมกันมากกว่านี้ค่อยพูดคุย.. “ท่านจะไม่เป็นไร ในยามที่ท่านอยู่ในอ้อมแขนของข้านั้น ใครหน้าไหนก็มาทำร้ายท่านไม่ได้ทั้งนั้น..” เอสวาจุดยิ้มที่มุมปาก โรแอนด์กำลังถอดเสื้อของเขาออก ขณะที่ลมหายใจของเธอเริ่มถี่ขึ้น เขาเคยคิดว่าจะไม่มีวันยินยอมให้ผู้อื่นมองเห็นร่างกายที่โสมมของตัวเองอย่างเด็ดขาด เอสวาไม่ชอบที่ตัวเองถูกมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ ร่างกายของเขามีรอยแผลการถูกตีนับรอยไม่ถ้วน มันคือรอยแผลจากการถูกทารุณกรรมซ้ำๆจากมารดาที่รักของเขา..ถึงแม้ว่าในยามนี้มันจะไม่เจ็บปวด แต่ไม่ว่าจะพยายามลบรอยแผลพวกนั้นอย่างไรมันก็ยังคงลบล้างไม่ออก มันเหมือนกับความรู้สึกที่เจ็บปวดในใจของเขา.. ไม่ว่าจะลบล้างมาแค่ไหน ก็ไม่มีวันลืมเลือนวันเวลาที่เลวร้ายพวกนั้น..ชีวิตที่อยู่ในนรกที่แม่ของเขาสร้างขึ้นมา ปลายนิ้วของเขาลูบไล้ผ่านลำตัวของเธออย่างเชื้องช้า ราวกับกำลังลิ้มรสในทุกความรู้สึกที่ถูกส่งผ่านในร่างกายของโรแอนด์ เธอโบกมือขึ้นมาเบาๆ ปีกและหางพวกนั้นก็จางหายไปพร้อมกับชุดที่เธอสวม ในยามนี้เธอยืนเปลือยกายอยู่ด้านหน้าของเขา นี่คือซักคิวบัสที่ถูกจารึกเอาไว้ในหนังสือต้องห้ามที่เขาเคยศึกษามา รูปโฉมงดงามและมีความสามารถในการล่อลวงบุรุษเพื่อดูดกลืนความฝันไปเพิ่มพลังชีวิตให้กับตัวเอง “ข้าเป็น..คนที่เท่าไหร่ของเจ้ากัน ก่อนหน้านี้เจ้าคงจะ..ทำเรื่องเช่นนี้กับบุรุษมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วใช่ไหม รสชาติความฝันของแต่ละคนมันแตกต่างกันมากรึเปล่า?” “......” คำถามพวกนั้น..เธอจะตอบอย่างไรดีว่าเขาเป็นคนแรก และในยามนี้เธอก็พึ่งจะเคยเห็น..ส่วนนั้นของบุรุษครั้งแรกเช่นเดียวกัน มันตั้งชันขนานไปกับหน้าท้องแถมยังมีเส้นเลือดมากมายปูดโปนขึ้นมา ลำแท่งแดงก่ำและ..ร้อนมากเมื่อได้เอื้อมมือไปสัมผัส เอสวาหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อเขามองเห็น..โรแอนด์ที่กำลังนั่งจ้องส่วนนั้นของเขาด้วยดวงตาลุกวาว เธอยื่นมือมาสัมผัสมันเบาๆ ด้วยความกระหายใคร่รู้ราวกับว่าโรแอนด์ไม่เคยเห็นมันมากก่อน “โรแอนด์..อย่าบอกนะว่าข้าคือคนแรกอย่างนั้นหรือ?” เธอเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อมองหน้าเขาด้วยดวงตาที่สั่นระริก ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ด้วยความเขินอาย บนใบหน้างามขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ริมฝีปากนั้นเม้มๆ คลายๆ ด้วยความไม่มั่นใจ เอสวานิ่งอึ้งไปพักหนึ่ง บรรยากาศในห้องนี้เต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วนแบบไม่คาดคิดมาก่อน เขาเองก็ใช่ว่าจะมีประสบการณ์ เอสวาคิดว่าโรแอนด์จะช่ำชองมากและนำพาเขาไปยังสรวงสวรรค์ที่เขาไม่เคยไปสัมผัส แต่กลับกลายเป็นว่าเธอกำลังนั่งทำหน้าไร้เดียงสาต่อเจ้าส่วนนั้นของเขาที่มันกำลังผงาดขึ้นมาและต้องการจะปลดปล่อย “...แล้วเจ้าไม่ตายอย่างนั้นหรือ ข้าได้ยินมาว่าหากซักคิวบัสมิได้กลืนกินความฝัน..มันจะตาย..” โรแอนด์พยักหน้า “เพราะว่าข้าจะตาย..อีกสองวัน ข้าพึ่งจะเป็นปีศาจซักคิวบัสไม่กี่วันนี่เอง วันที่เราพบเจอกันครั้งแรกมันคือวันที่ข้า..เป็นปีศาจวันแรก และบนร่างกายของท่านมันมีกลิ่นหอมหวานในแบบที่ข้าลืมไม่ลง เอสวา..ท่านคือบาทหลวงผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาเพราะแบบนั้น..ท่านจะมองดูข้าตายไปไม่ได้นะคะ..ท่านจะต้องช่วยเหลือข้า อย่างน้อยให้ข้าได้กลืนกินความฝันของท่านสักหน่อยก็ยังดี” เอสวาหลับตาลงช้าๆ แต่ไหนๆ เราทั้งคู่ก็ไม่มีทางเลือกแล้ว เช่นนั้นก็ปล่อยให้ทุกอย่างมันเดินทางต่อไปด้วยความต้องการที่ก่อตัวขึ้นมาเถิด..เฟอน่าระบายยิ้มหวานเมื่อเธอมองเห็นโรแอนด์มีความสุขในการใช้ชีวิตคู่ของตัวเองได้เป็นอย่างดีราชินีผู้งดงามและที่คู่ควรกับราชาปีศาจที่น่าเกรงขาม พวกเขามีลูกๆ ที่น่ารักด้วยกัน ครองครัวที่แสนอบอุ่นและความรักที่มั่นคงบอกตามตรงว่าเธอชอบเด็กนะ ยิ่งเด็กเล็กๆ แล้วเฟอน่าชอบมากๆ ในบ้านจะรู้สึกอบอุ่นมากยิ่งขึ้นเมื่อมีเด็กตัวน้อยวิ่งวนไปมาในบ้าน และครอบครัวจะสมบูรณ์ในทันทีเมื่อมีพยานความรักถือกำเนิดขึ้นมาแต่เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสกับความรัก เรียกได้ว่าความรู้สึกตอนนั้นคงเหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่เลยทีเดียว เธอเจียนตายถึงเพียงนั้นในยามนี้เฟอน่าจึงต้องการใช้เวลากับมาร์สองคนก่อนเธออยากเป็นสามีและภรรยากับเขา ใช้ชีวิตคู่ให้คุ้มค่าก่อนที่จะตกลงสร้างครอบครัวของเรา เพราะเมื่อมีลูกแล้วเราจะต้องเอาความสนใจที่มีทั้งหมดไปมอบให้ลูก..ในตอนนี้เธอยังไม่พร้อมจะส่งมอบความสนใจของตัวเองไปที่ใครเลยนอกจาก..มาร์เขาเป็นเสือที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ การแสดงออกมาของมาร์นั้นมันไม่มีการเสแสร้งหรือว่าแกล้งทำ“คิดอะไรอยู่”“คิดเรื่องของเราค่ะ..เราไม่ได้ไปท่องเที่ยวกันนานแล้ว
ริมฝีปากของมาลิคกระตุกยิ้มที่ผลิบานเหมือนกับกลีบดอกไม้ หลังจากวันที่องค์ราชาของปีศาจจัดงานแต่งที่โบสถ์ของเขานั้น พวกปีศาจตนอื่นๆ ก็หันมาจัดงานแต่งที่วิหารมากยิ่งขึ้น อีกทั้งปีศาจที่นี่ยังเกิดความศรัทธาขึ้นมาด้วย..เขาได้ทำให้ในพื้นที่ที่ไร้ซึ่งศรัทธากลับมามีความศรัทธาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปีก่อนเท่าที่เขาได้ยินข่าวมา เห็นว่าที่เมืองมนุษย์เกิดการก่อกบฏขึ้นมา เนื่องจากคำสั่งที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธเคืองขององค์รัชทายาท นั่นจึงทำให้เกิดการเข่นฆ่ากันไม่เว้นแต่ละวัน อีกทั้งยังเกิดการใส่ร้ายกันจำนวนมากอีกด้วย บางคนมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปีศาจแต่ถูกใส่ร้ายเพื่อการเมืองและทรัพย์สินเมืองมนุษย์สิ้นหวังถึงขีดสุดและเขาไม่คิดเอาตัวเองกลับไปสู่ขุมนรกนั้นอีก เมืองปีศาจที่คราแรกเขาหวาดกลัวแต่ในยามนี้มิได้เป็นเช่นนั้น ผู้คนที่นี่มีความเมตตามากกว่าที่เขาคิดเอาไว้ อีกทั้งองค์ราชายังนำพาเมืองปีศาจก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นคงจนมักจะมีมนุษย์หลบหนีมาที่นี่บ่อยๆ“ท่านพ่อครับ..”สิ่งที่ดึงความสนใจจากมาลิคคือบุตรชายวัยสามขวบของเขาเอง“ว่าอย่างไรลูกรัก”เขาก้มลงอุ้มลูกชายขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนด้วยความรัก ในงานแต่งงานข
เอสวาขบเม้มริมฝีปากไปมาด้วยความรู้สึกประหม่า ในโบสถ์เล็กๆ แห่งนี้เขากำลังยืนรอโรแอนด์อยู่ เบื้องหน้าของเขาคือมาลิคที่รับหน้าที่ทำพิธีให้ในวันนี้ แน่นอนว่านี่คืองานแต่งงานที่แปลกประหลาดมากที่สุดในเมืองปีศาจ ที่ผ่านมาไม่เคยมีการจัดงานแต่งขึ้นมาในโบสถ์เลยเพราะว่าไม่มีโบสถ์หรือว่าบาทหลวงคนไหนอยู่ที่นี่แต่ก็นะ..ในยามนี้มีแล้ว มีมาลิคที่พร้อมจะทำพิธีแต่งงานให้แก่ปีศาจทุกตนเอสวามั่นใจว่าเขาเคยเห็นงานแต่งงานมามากมาย มากมายจริงๆ ในช่วงที่เขาคือบาทหลวงเอสวา เขาตบมือยินดีให้แก่คู่บ่าวสาวที่เขาทำพิธีให้ ยิ้มแย้มเพื่อแสดงความยินดีให้กับผู้คนเหล่านั้น แต่เมื่อถึงงานของตัวเองในวันนี้เขากลับ..ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อคืนโรแอนด์ไม่ได้อยู่กับเขา ที่นี่มีพิธีที่สืบต่อกันมาและเขาไม่อยากจะขัดลุคคาสักเท่าไหร่ ในคืนก่อนวันแต่งงานจะต้องซ่อนตัวของเจ้าสาวจากเจ้าบ่าว เมื่อคืนนี้โรแอนด์จึงไปค้างที่คฤหาสน์ของเชอรีนนั่นยิ่งทำให้เขาคิดถึงเธอมากพอสมควร ในใจมันโหยหา ทรมาน..แทบขาดใจ“ทุกอย่างจะเรียบร้อยครับองค์ราชา..”มาร์กล่าวพร้อมกับส่งมอบกล่องแหวนให้เขา นี่คือแหวนแสนพิเศษที่เขาทำขึ้น เอสวาทำแหวนวงนี้ด้วยตัวเอ
มาร์พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เขามองร่างกายของสตรีผู้หนึ่งซึ่งกำลังหลับใหลอยู่อันที่จริงเธอควรจะต้องฟื้นขึ้นมาได้แล้วเพราะว่าเขาป้อนยาลับของตระกูลเสือให้เธอทานไปเมื่อสองวันก่อน แต่ทว่ากลับไม่มีวี่แววที่เธอจะฟื้นขึ้นมาเลย“ตั้งใจจะตายอย่างนั้นหรือ? ..ให้ตายสิ หากจะตายก็เอาไว้โอกาสหน้าได้ไหม ข้าอุตส่าห์เสียสละยาที่แสนล้ำค่าของตระกูลเพื่อให้เจ้าตื่นขึ้นมาเลยนะ..เจ้าจะเอาแต่นอนแบบขี้เกียจเช่นนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน”เขานั่งลงข้างๆ เตียงพร้อมกับลอบมองใบหน้าของเธอ แน่นอนว่าซักคิวบัสนั้นงดงาม ปีศาจชนิดนี้จะต้องมีความงามเพื่อที่พวกนางจะเอาไว้หลอกล่อหรือแม้กระทั่งเอาไว้ล่อลวงมนุษย์ให้มาติดกับดักที่พวกนางสร้างขึ้นมาเท่าที่เห็นท่านราชินีนั้นก็เคยเป็นซักคิวบัสมาก่อนถึงแม้ว่าในยามนี้พระนางจะไม่ใช่ซักคิวบัสแล้วก็ตามที แต่สตรีที่กำลังนอนอยู่ผู้นี้พบเจอเรื่องเลวร้ายมามากแค่ไหนกันนะ นางถึงตัดใจเรื่องการมีชีวิตของตัวเองไปแล้ว..“เจ็บปวดมากเลยอย่างนั้นหรือ? ให้ตายสิช่วยลืมตาขึ้นมาหน่อยได้ไหม หากเจ้าพบเจอความเจ็บปวดที่อยากจะระบายให้ใครสักคนได้รับฟัง เช่นนั้นก็รีบๆ ตื่นขึ้นมาสิ ข้าจะรับฟังเจ้าเอง..”เมื่อมาร์กล่
โรแอนด์มองไปรอบๆห้อง นี่คงเป็นเช้าที่เธอไม่คุ้นเคยมากที่สุดเพราะว่าที่ข้างกายของเธอ บนเตียงนอนที่เธอล้มตัวนอนลงนั้นไม่มีเอสวาอยู่ บนผ้าปูเย็นเฉียบราวกับว่าไม่เคยมีเขาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก เธอรีบลุกขึ้นจากเตียงนอนในทันที“เอสวา..ไปไหนกันลุคคา”ลุคคาเดินเข้ามาด้านใน มือของเขาถือถาดอาหารเช้ามาให้นายหญิงของเขา“นายท่านออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วครับ แต่ไม่มีเรื่องอะไรให้นายหญิงต้องเป็นกังวลเพราะนายท่านน่าจะออกไปพูดคุยเรื่องงาน..”โรแอนด์พยักหน้า เธอนั่งลงและเริ่มทานมื้อเช้าโดยที่ดวงตาเบนออกไปมองด้านนอกหน้าต่าง มันเป็นความเคยชินที่น่ากลัวมากพอสมควร เธอชอบมองออกไปด้านนอกหน้าต่างในยามที่เธออาศัยอยู่ที่พระราชวังกับลีออน การมองออกไปด้านนอกหน้าต่างมันทำให้เธอมองเห็นการใช้ชีวิตของผู้คนมากมายที่กำลังวนเวียนอยู่ด้านนอก มีต้นไม้ สายลม หรือแม้กระทั่งนกที่กำลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้า ชีวิตที่อิสระเสรีพวกนั้นมันคือสิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาโดยตลอด..แต่ในยามนี้เธอไม่จำเป็นที่จะต้องคอยนั่งมองและนึกอิจฉานกที่กำลังโผบินเพราะว่าเธอเองก็สามารถเดินทางออกไปจากห้องนอนห้องนี้ได้ตามใจชอบเอสวาให้อิสระพวกนั้นแก่เธอ ให้ตายสิ.
รุ่งเช้าของวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อในปราสาทที่เก่าคร่ำครึของเชอรีนมีบุรุษอยู่ที่นี่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน เธอตื่นตั้งแต่เช้า สวมชุดเดรสที่พึ่งซื้อมาเมื่อวาน และสวมรองเท้าส้นสูงสีแดงสด เชอรีนรวบผมขึ้นไปเพื่ออวดโชว์ลำคอที่ยาวระหง เธอไม่ลืมสวมแหวนแห่งความรักวงนั้นไว้ที่นิ้วนางข้างขวาเชอรีนกำลังสะกดจิตตัวเองเบาๆ“วันนี้มันจะดี ข้าจะได้พบเจอมาลิคในมุมที่คนอื่นไม่เคยเห็นมาก่อน..”เมื่อกล่าวจบเชอรีนก็เดินลงมาที่ด้านล่าง เธอยกยิ้มให้กับสาวใช้พร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามเมื่อมองเห็นสวนดอกไม้ที่ด้านหน้าปราสาทกำลังมีบุรุษผู้หนึ่งขุดดินอยู่..อย่างไม่ต้องเอ่ยถามเลยว่านั่นคือใคร มาลิคอยู่ในสวนแห่งนั้นและเขากำลังขุดดอกไม้สีน้ำตาลของเธอทิ้งไป“ข้าพยายามห้ามแล้วค่ะท่านเชอรีน แต่ทว่าบุรุษผู้นั้นต้องการตอบแทนเรื่องที่ท่านให้ที่อยู่อาศัย ข้าไม่รู้ว่าเขาเอาเมล็ดผักมากมายพวกนั้นมาจากไหน แต่เขากำลังพยายามทำให้สวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้ราคาแพงของท่าน..เป็นสวนผัก”หากเป็นในยามปกติเธออาจจะเป็นลมล้มพับไปเมื่อได้ยินเช่นนี้ แต่ทว่า..นี่คือบุรุษที่โชคชะตาส่งมาให้เธอ เพราะแบบนั้นเงินทองมันเป็นของนอกกาย อีกทั