ฉันแตะฝ่ามือลงไปบนกล้ามท้องของเขาผ่านชุดบาทหลวงสีดำสนิทนั่น.. “ยินดีต้อนรับสู้ห้วงความฝันที่ยาวนานนับนิรันดรค่ะ..ท่านเอสวา” ถึงแม้ว่าจะพยายามต้านทานมากแค่ไหน แต่ทว่าเอสวาก็ไม่สามารถเอาชนะเปลือกตาที่หนักอึ้งของตัวเองได้เลย เขาล้มตัวลงบนโซฟาที่ทำจากไม้ และโรแอนด์มองดูเอสวาที่กำลังนอนหลับด้วยรอยยิ้ม เธอมีเวลาสองชั่วโมงในการเข้าไปในความฝันของเขา เพราะแบบนั้นแล้ว เธอจะตั้งใจกลืนกินความฝันของเขาไม่ให้หลงเหลือแม้แต่นิดเดียว “.....” โรแอนด์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเธอเข้ามาในความฝันของเอสวา ที่นี่ไม่ได้สว่างเจิดจ้าเหมือนกับที่เธอคิดเอาไว้ แต่มันมืดครึ้มและอึมครึมเหมือนกับว่าฝนจะตกลงมา เธอบินไปเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดยั้งเพื่อตามหาเจ้าของความฝัน เขาอยู่ที่ไหนกันนะ อย่าให้เธอหาเจอนะ แม่จะจับมัดกับเก้าอี้ไว้เลย “สวย..จังเลยนะครับ” เสียงนั้นทำให้โรแอนด์หยุดชะงักในทันที เมื่อเธอมองเห็นเด็กน้อยที่กำลังเงยหน้าขึ้นเพื่อมองเธอ เขามีเส้นผมและดวงตาสีดำ ที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือเธอรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเขามากเป็นพิเศษ อย่าบอกนะว่านี่คือมินิเอสวา เอสวาตอนเด็กงั้นเรอะ!! ให้ตายสิถึงแม้ว่าเธอจะเป็นปีศาจแต่ว่าเธอก็มีจรรยาบรรณนะโว้ย จะให้ทำร้ายมินิเอสวาได้อย่างไรกัน “พี่สาวคือนางฟ้าอย่างนั้นหรือครับ?” เธอบินลงมาหาเขาก่อนจะจับมือเล็กนั่นเอาไว้ “นางฟ้า?..อ่า..ใช่พี่คือนางฟ้าล่ะ แล้วหนูมาทำอะไรตรงนี้คนเดียวล่ะ..” จะโตตอนไหนเนี่ยพ่อหนุ่ม “ผม..มารอท่านแม่ครับ” ในป่าเช่นนี้เนี่ยนะ เมื่อโรแอนด์กวาดสายตามองไปรอบๆ ก็พบเจอกับตะกร้าอาหารที่วางเอาไว้ไม่ไกลจากจุดที่เอสวานั่งอยู่ เขาเล่นปั้นดินและเก็บกิ่งไม้มาสร้างเป็นบ้านอยู่คนเดียว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมในใจของโรแอนด์ถึงได้รู้สึกสงสารเห็นใจเขามากทีเดียว “แล้วแม่ของหนูไปไหนล่ะ?” เมื่อได้ยินคำถามนั้น เอสวาตัวน้อยก็ชี้ไปที่บ้านหลังหนึ่งที่อยู่ลึกเข้าไปในป่า โรแอนด์มองเข้าไปในนั้นก็มองเห็นบุรุษสามคนกำลังกระทำเรื่อง..อย่างว่ากับสตรีผู้หนึ่ง เสียงร้องครางดังบาดหูออกมาจนโรแอนด์ต้องยกมือขึ้นมาปิดหูของเอสวาตัวน้อยเอาไว้ เธอขมวดคิ้วด้วยใบหน้าที่ไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก.. นี่แม่ของเอสวา..เป็นโสเภณีอย่างนั้นหรือ? แล้วเขาต้องออกมาเล่นที่นี่คนเดียวเพื่อรอแม่ทำงานอย่างงั้นเรอะ!! โหดร้ายเกินไปแล้ว ทำไมชีวิตของบาทหลวงผู้สูงส่งอย่างเอสวา ในวัยเด็กของเขาถึงได้หม่นหมองมากขนาดนั้นกันนะ “พี่นางฟ้าจะให้พรข้ารึเปล่าครับ” โรแอนด์กลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากด้วยความรู้สึกผิด “นะ..แน่นอน ขอพรมาสิเจ้าเด็กตัวน้อย” เอสวาส่งยิ้มให้กับเธอ มันคือรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสาของเขา “พี่นางฟ้าช่วยทำให้ท่านแม่ไม่ต้องทำงานได้ไหมครับ ข้าอยากเล่นกับท่านแม่บ้าง..ไม่อยากให้ท่านแม่เหนื่อยมากเกินไป..ท่านแม่รับแขกวันละสิบกว่าคน หลังเลิกงานท่านไม่มีแรงแม้แต่จะยกมือขึ้นมาโอบกอดข้าด้วยซ้ำ” ความชื่นบานจางหายไปจากน้ำเสียงของเด็กน้อย ที่คอของเขามีสร้อยไม้กางเขนคล้องอยู่ มือเล็กๆกำสร้อยนั้นเอาไว้ด้วยศรัทธาที่แรงกล้า “ข้าเฝ้าวิงวอนต่อพระเจ้าเพื่อร้องขอพรให้ท่านแม่ และแล้วพระเจ้าก็ส่งพี่สาวมาเพื่อทำให้คำขอของข้าเป็นจริงอย่างนั้นสินะครับ” โรแอนด์รู้สึกผิดจนยิ้มไม่ออก “เจ้าจะผ่านมันไปได้อย่างแน่นอนเด็กน้อย เมื่อเจ้าเติบโตขึ้นมาเจ้าจะสง่างามมากกว่าใครๆ ทั้งหมด.." “พี่สาวนางฟ้า..พูดจริงอย่างนั้นหรือครับ” ออกมาเดี๋ยวนี้!! ในขณะที่ฉันกำลังจะยื่นมือไปลูบผมของเอสวาในวัยเด็กก็มีเสียงดังขึ้นมาจนกึกก้องไปทั่วบริเวณ ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตั้งตัว ร่างกายก็ถูกฉุดรั้งอย่างแรงมายังสถานที่แห่งใหม่ และที่นี่คือห้องนอนของเอสวา แต่ฉันมั่นใจว่าเรายังไม่ได้ออกไปจากความฝันเพราะว่าฉันยังมีปีกและมีหางอยู่เลย.. “ใครใช้ให้เจ้าแอบดูความฝันของข้าอย่างนั้นหรือครับ!!” แล้วต้องตอบว่าไง ก็เธอเป็นปีศาจกินฝัน ถ้าไม่เข้าไปในความฝันแล้วจะกินฝันของเขาได้ไงล่ะน้อ ทว่านี่คือเรื่องที่ควรใส่ใจอย่างนั้นหรือในเมื่อตอนนี้เขานั่งอยู่เบื้องหน้าแล้ว โรแอนด์ยืนขึ้น เธอเดินเข้าไปหาเอสวาที่กำลังนั่งกอดอกมองหน้าเธอ “เอสวา..ที่นี่คือความฝันนะ เพราะแบบนั้นไม่ว่าท่านจะทำอะไรที่นี่ก็ตามที มันจะไม่เป็นไร..ผู้คนมักจะกล่าวคำพูดติดปากว่าฝันกลางวันอยู่รึไง..ท่านเข้าใจความหมายนั้นรึเปล่า เพราะกับบางเรื่องมันไม่สามารถเกิดในชีวิตจริงได้ หรือแม้กระทั่งกับบางเรื่องมันไม่สามารถกระทำในชีวิตจริงๆได้ ผู้คนจึงมักกระทำมันในความฝัน ห้วงฝันนั้นคือความต้องการ ในจิตใต้สำนึกของเรา..เพราะฉันนั้นท่านทำได้ทุกอย่างที่อยากจะทำ..” จะว่าไปแล้วเพราะแบบนี้รึเปล่าเมื่อครู่เธอถึงได้พบเจอเขาในสภาพที่ยังเด็ก เพราะในช่วงเวลานั้นเอสวาต้องการความช่วยเหลือจากใครสักคน เขาคาดหวังว่าจะมีคนมาพาเขาและแม่ออกไปจากสถานการณ์ที่แสนเลวร้ายเช่นนั้น “ข้าไม่อยากจะเชื่อจริงๆ ว่าตัวเองจะนำพาปีศาจซักคิวบัสเข้ามาในโบสถ์ของเรา นั่นคือความผิดที่พระเจ้าเองก็คงจะไม่ให้อภัยข้า” ฉันยกมือขึ้นมากอบกุมใบหน้านั้นของเขาเอาไว้ “ข้าสาบานว่าจะไม่เข้าไปรบกวนความฝันของผู้อื่น ข้าจะกลืนกินความฝันของท่านคนเดียวเท่านั้น ทีนี้ท่านก็เบาใจได้แล้วว่าข้าจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่บาทหลวงคนอื่นๆอย่างแน่นอน” เพราะข้าจะสร้างความเดือดร้อนให้ท่านเพียงคนเดียวเท่านั้นค่ะท่านเอสวาสุดหล่อ~~ โรแอนด์ทำสีหน้าในแบบที่รู้ว่าเขาจะใจอ่อน ดวงตากลมช้อนขึ้นมาหน้าเขาพร้อมกับริมฝีปากที่จรดลงไปบนสันกรามของเขาเบาๆ เอสวาไม่ได้ผลักไสโรแอนด์ออกไป เขากำลังต่อสู้อยู่กับความต้องการที่ว้าวุ่นภายในจิตใจ เธอมีปีกเล็กๆ อยู่ที่กลางหลังและหางสีดำที่ดูน่ารักมากกว่าที่จะรู้สึกหวาดกลัวว่าเธอคือปีศาจ ริมฝีปากอวบอิ่มนั่น กำลังหว่านพรมรอยจูบลงไปตามลำคอของเขาอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน สายตาของเธอวาดผ่านร่างกายของเขาไปอย่างเชื่องช้า ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกลืนกินด้วยความปรารถนา ที่นี่คือห้องนอนของเขา มันคือฝันที่เหมือนกับความจริงจนน่าขนลุก ความรู้สึกร้อนในยามที่ริมฝีปากของเธอพรมจูบลงมาบนร่างกาย มันเหมือนกับกำลังมีเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นมาตามผิวหนัง ความเร่าร้อนก่อตัวขึ้นมาในร่างกายทำให้ความรู้สึกในส่วนลึกของเขากำลังปะทุออกมาคล้ายภูเขาไฟที่กำลังระเบิด หากเอื้อมมือไปจับเข้าที่หางเล็กๆนั่นจะเป็นเช่นไรกันนะ หากว่าริมฝีปากคู่นี้ของเธอสัมผัสลงไปบนส่วนนั้นของเขา..ร่างกายจะรู้สึกถึงความสุขสมได้มากแค่ไหนกัน? ขอพระเจ้าได้โปรดให้อภัย กับความผิดบาปในครั้งนี้ของลูกด้วยเถิด เอสวากล่าวคำขอโทษในใจก่อนที่มือของเขาจะเอื้อมไปจับเข้าที่เอวของโรแอนด์
เฟอน่าระบายยิ้มหวานเมื่อเธอมองเห็นโรแอนด์มีความสุขในการใช้ชีวิตคู่ของตัวเองได้เป็นอย่างดีราชินีผู้งดงามและที่คู่ควรกับราชาปีศาจที่น่าเกรงขาม พวกเขามีลูกๆ ที่น่ารักด้วยกัน ครองครัวที่แสนอบอุ่นและความรักที่มั่นคงบอกตามตรงว่าเธอชอบเด็กนะ ยิ่งเด็กเล็กๆ แล้วเฟอน่าชอบมากๆ ในบ้านจะรู้สึกอบอุ่นมากยิ่งขึ้นเมื่อมีเด็กตัวน้อยวิ่งวนไปมาในบ้าน และครอบครัวจะสมบูรณ์ในทันทีเมื่อมีพยานความรักถือกำเนิดขึ้นมาแต่เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสกับความรัก เรียกได้ว่าความรู้สึกตอนนั้นคงเหมือนกับตายแล้วเกิดใหม่เลยทีเดียว เธอเจียนตายถึงเพียงนั้นในยามนี้เฟอน่าจึงต้องการใช้เวลากับมาร์สองคนก่อนเธออยากเป็นสามีและภรรยากับเขา ใช้ชีวิตคู่ให้คุ้มค่าก่อนที่จะตกลงสร้างครอบครัวของเรา เพราะเมื่อมีลูกแล้วเราจะต้องเอาความสนใจที่มีทั้งหมดไปมอบให้ลูก..ในตอนนี้เธอยังไม่พร้อมจะส่งมอบความสนใจของตัวเองไปที่ใครเลยนอกจาก..มาร์เขาเป็นเสือที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา ชอบก็บอกว่าชอบ ไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ การแสดงออกมาของมาร์นั้นมันไม่มีการเสแสร้งหรือว่าแกล้งทำ“คิดอะไรอยู่”“คิดเรื่องของเราค่ะ..เราไม่ได้ไปท่องเที่ยวกันนานแล้ว
ริมฝีปากของมาลิคกระตุกยิ้มที่ผลิบานเหมือนกับกลีบดอกไม้ หลังจากวันที่องค์ราชาของปีศาจจัดงานแต่งที่โบสถ์ของเขานั้น พวกปีศาจตนอื่นๆ ก็หันมาจัดงานแต่งที่วิหารมากยิ่งขึ้น อีกทั้งปีศาจที่นี่ยังเกิดความศรัทธาขึ้นมาด้วย..เขาได้ทำให้ในพื้นที่ที่ไร้ซึ่งศรัทธากลับมามีความศรัทธาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปีก่อนเท่าที่เขาได้ยินข่าวมา เห็นว่าที่เมืองมนุษย์เกิดการก่อกบฏขึ้นมา เนื่องจากคำสั่งที่เต็มไปด้วยอารมณ์โกรธเคืองขององค์รัชทายาท นั่นจึงทำให้เกิดการเข่นฆ่ากันไม่เว้นแต่ละวัน อีกทั้งยังเกิดการใส่ร้ายกันจำนวนมากอีกด้วย บางคนมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับปีศาจแต่ถูกใส่ร้ายเพื่อการเมืองและทรัพย์สินเมืองมนุษย์สิ้นหวังถึงขีดสุดและเขาไม่คิดเอาตัวเองกลับไปสู่ขุมนรกนั้นอีก เมืองปีศาจที่คราแรกเขาหวาดกลัวแต่ในยามนี้มิได้เป็นเช่นนั้น ผู้คนที่นี่มีความเมตตามากกว่าที่เขาคิดเอาไว้ อีกทั้งองค์ราชายังนำพาเมืองปีศาจก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นคงจนมักจะมีมนุษย์หลบหนีมาที่นี่บ่อยๆ“ท่านพ่อครับ..”สิ่งที่ดึงความสนใจจากมาลิคคือบุตรชายวัยสามขวบของเขาเอง“ว่าอย่างไรลูกรัก”เขาก้มลงอุ้มลูกชายขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนด้วยความรัก ในงานแต่งงานข
เอสวาขบเม้มริมฝีปากไปมาด้วยความรู้สึกประหม่า ในโบสถ์เล็กๆ แห่งนี้เขากำลังยืนรอโรแอนด์อยู่ เบื้องหน้าของเขาคือมาลิคที่รับหน้าที่ทำพิธีให้ในวันนี้ แน่นอนว่านี่คืองานแต่งงานที่แปลกประหลาดมากที่สุดในเมืองปีศาจ ที่ผ่านมาไม่เคยมีการจัดงานแต่งขึ้นมาในโบสถ์เลยเพราะว่าไม่มีโบสถ์หรือว่าบาทหลวงคนไหนอยู่ที่นี่แต่ก็นะ..ในยามนี้มีแล้ว มีมาลิคที่พร้อมจะทำพิธีแต่งงานให้แก่ปีศาจทุกตนเอสวามั่นใจว่าเขาเคยเห็นงานแต่งงานมามากมาย มากมายจริงๆ ในช่วงที่เขาคือบาทหลวงเอสวา เขาตบมือยินดีให้แก่คู่บ่าวสาวที่เขาทำพิธีให้ ยิ้มแย้มเพื่อแสดงความยินดีให้กับผู้คนเหล่านั้น แต่เมื่อถึงงานของตัวเองในวันนี้เขากลับ..ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อคืนโรแอนด์ไม่ได้อยู่กับเขา ที่นี่มีพิธีที่สืบต่อกันมาและเขาไม่อยากจะขัดลุคคาสักเท่าไหร่ ในคืนก่อนวันแต่งงานจะต้องซ่อนตัวของเจ้าสาวจากเจ้าบ่าว เมื่อคืนนี้โรแอนด์จึงไปค้างที่คฤหาสน์ของเชอรีนนั่นยิ่งทำให้เขาคิดถึงเธอมากพอสมควร ในใจมันโหยหา ทรมาน..แทบขาดใจ“ทุกอย่างจะเรียบร้อยครับองค์ราชา..”มาร์กล่าวพร้อมกับส่งมอบกล่องแหวนให้เขา นี่คือแหวนแสนพิเศษที่เขาทำขึ้น เอสวาทำแหวนวงนี้ด้วยตัวเอ
มาร์พ่นลมหายใจออกมาเบาๆ เขามองร่างกายของสตรีผู้หนึ่งซึ่งกำลังหลับใหลอยู่อันที่จริงเธอควรจะต้องฟื้นขึ้นมาได้แล้วเพราะว่าเขาป้อนยาลับของตระกูลเสือให้เธอทานไปเมื่อสองวันก่อน แต่ทว่ากลับไม่มีวี่แววที่เธอจะฟื้นขึ้นมาเลย“ตั้งใจจะตายอย่างนั้นหรือ? ..ให้ตายสิ หากจะตายก็เอาไว้โอกาสหน้าได้ไหม ข้าอุตส่าห์เสียสละยาที่แสนล้ำค่าของตระกูลเพื่อให้เจ้าตื่นขึ้นมาเลยนะ..เจ้าจะเอาแต่นอนแบบขี้เกียจเช่นนี้ไปอีกนานแค่ไหนกัน”เขานั่งลงข้างๆ เตียงพร้อมกับลอบมองใบหน้าของเธอ แน่นอนว่าซักคิวบัสนั้นงดงาม ปีศาจชนิดนี้จะต้องมีความงามเพื่อที่พวกนางจะเอาไว้หลอกล่อหรือแม้กระทั่งเอาไว้ล่อลวงมนุษย์ให้มาติดกับดักที่พวกนางสร้างขึ้นมาเท่าที่เห็นท่านราชินีนั้นก็เคยเป็นซักคิวบัสมาก่อนถึงแม้ว่าในยามนี้พระนางจะไม่ใช่ซักคิวบัสแล้วก็ตามที แต่สตรีที่กำลังนอนอยู่ผู้นี้พบเจอเรื่องเลวร้ายมามากแค่ไหนกันนะ นางถึงตัดใจเรื่องการมีชีวิตของตัวเองไปแล้ว..“เจ็บปวดมากเลยอย่างนั้นหรือ? ให้ตายสิช่วยลืมตาขึ้นมาหน่อยได้ไหม หากเจ้าพบเจอความเจ็บปวดที่อยากจะระบายให้ใครสักคนได้รับฟัง เช่นนั้นก็รีบๆ ตื่นขึ้นมาสิ ข้าจะรับฟังเจ้าเอง..”เมื่อมาร์กล่
โรแอนด์มองไปรอบๆห้อง นี่คงเป็นเช้าที่เธอไม่คุ้นเคยมากที่สุดเพราะว่าที่ข้างกายของเธอ บนเตียงนอนที่เธอล้มตัวนอนลงนั้นไม่มีเอสวาอยู่ บนผ้าปูเย็นเฉียบราวกับว่าไม่เคยมีเขาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรก เธอรีบลุกขึ้นจากเตียงนอนในทันที“เอสวา..ไปไหนกันลุคคา”ลุคคาเดินเข้ามาด้านใน มือของเขาถือถาดอาหารเช้ามาให้นายหญิงของเขา“นายท่านออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้วครับ แต่ไม่มีเรื่องอะไรให้นายหญิงต้องเป็นกังวลเพราะนายท่านน่าจะออกไปพูดคุยเรื่องงาน..”โรแอนด์พยักหน้า เธอนั่งลงและเริ่มทานมื้อเช้าโดยที่ดวงตาเบนออกไปมองด้านนอกหน้าต่าง มันเป็นความเคยชินที่น่ากลัวมากพอสมควร เธอชอบมองออกไปด้านนอกหน้าต่างในยามที่เธออาศัยอยู่ที่พระราชวังกับลีออน การมองออกไปด้านนอกหน้าต่างมันทำให้เธอมองเห็นการใช้ชีวิตของผู้คนมากมายที่กำลังวนเวียนอยู่ด้านนอก มีต้นไม้ สายลม หรือแม้กระทั่งนกที่กำลังโบยบินอยู่บนท้องฟ้า ชีวิตที่อิสระเสรีพวกนั้นมันคือสิ่งที่เธอใฝ่ฝันมาโดยตลอด..แต่ในยามนี้เธอไม่จำเป็นที่จะต้องคอยนั่งมองและนึกอิจฉานกที่กำลังโผบินเพราะว่าเธอเองก็สามารถเดินทางออกไปจากห้องนอนห้องนี้ได้ตามใจชอบเอสวาให้อิสระพวกนั้นแก่เธอ ให้ตายสิ.
รุ่งเช้าของวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อในปราสาทที่เก่าคร่ำครึของเชอรีนมีบุรุษอยู่ที่นี่เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคน เธอตื่นตั้งแต่เช้า สวมชุดเดรสที่พึ่งซื้อมาเมื่อวาน และสวมรองเท้าส้นสูงสีแดงสด เชอรีนรวบผมขึ้นไปเพื่ออวดโชว์ลำคอที่ยาวระหง เธอไม่ลืมสวมแหวนแห่งความรักวงนั้นไว้ที่นิ้วนางข้างขวาเชอรีนกำลังสะกดจิตตัวเองเบาๆ“วันนี้มันจะดี ข้าจะได้พบเจอมาลิคในมุมที่คนอื่นไม่เคยเห็นมาก่อน..”เมื่อกล่าวจบเชอรีนก็เดินลงมาที่ด้านล่าง เธอยกยิ้มให้กับสาวใช้พร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามเมื่อมองเห็นสวนดอกไม้ที่ด้านหน้าปราสาทกำลังมีบุรุษผู้หนึ่งขุดดินอยู่..อย่างไม่ต้องเอ่ยถามเลยว่านั่นคือใคร มาลิคอยู่ในสวนแห่งนั้นและเขากำลังขุดดอกไม้สีน้ำตาลของเธอทิ้งไป“ข้าพยายามห้ามแล้วค่ะท่านเชอรีน แต่ทว่าบุรุษผู้นั้นต้องการตอบแทนเรื่องที่ท่านให้ที่อยู่อาศัย ข้าไม่รู้ว่าเขาเอาเมล็ดผักมากมายพวกนั้นมาจากไหน แต่เขากำลังพยายามทำให้สวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้ราคาแพงของท่าน..เป็นสวนผัก”หากเป็นในยามปกติเธออาจจะเป็นลมล้มพับไปเมื่อได้ยินเช่นนี้ แต่ทว่า..นี่คือบุรุษที่โชคชะตาส่งมาให้เธอ เพราะแบบนั้นเงินทองมันเป็นของนอกกาย อีกทั