เฌอขมวดคิ้วมองเพื่อนสนิทสีหน้ารู้สึกผิดเมื่อคิดว่าต้องทำร้ายหนึ่งชีวิตที่อยู่ในท้องของตัวเอง ถึงแม้เธอจะเป็นเพียงเด็กอายุสิบแปดย่างสิบเก้าแต่ก็พอมีความคิดแล้ว รู้จักผิด ชอบ ชั่ว ดี มีความเมตตาเอ็นดูแล้ว
คงทำใจไม่ได้ที่จะให้มันเป็นอย่างนั้น
“แล้วถ้าเก็บไว้แกจะไหวเหรอ เรื่องเรียนล่ะ “
“ดรอปเรียนดีไหม ระหว่างนี้ก็จะหาตังให้ได้เยอะๆ”
การได้ออกมาอยู่ตัวคนเดียวคงทำให้เธอมีเวลามากขึ้น ไม่ต้องหลบซ่อน เพราะก่อนหน้านี้หากแม่เลี้ยงหรือพ่อรู้ว่าเธอมีรายได้มันคงไม่ราบรื่นแบบนี้ เหมือนครั้งแรกที่เธอขายของได้เงินยังถูกแม่เลี้ยงยึดไปแล้วกล่าวหาว่าเฌอขโมยเงินแม่เลี้ยงไปอีก
ช่วงแรกเมื่อสามปีก่อนเฌอริตาลงทุนสั่งของพรีออเดอร์จากจีนมาขายผ่านแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ ใช้ทุนเพียงสามพันกว่าบาทจากเงินที่เธอเก็บไว้
เฌอศึกษาเรียนรู้จากการลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ จนกระทั่งจับทางตลาดได้ เธอเพิ่งรู้ว่าการขายสินค้าที่แตกต่างจากคนอื่นไม่ใช่แนวทางที่จะขายดี แต่การขายสินค้าที่กำลังเป็นกระแสต่างหากที่ทำให้คนมองเห็นสินค้ามากขึ้น
ทว่าข้อเสียก็มี สินค้าในกระแสมักจะมาเร็วไปเร็ว หากคนเลิกสนใจก็จะขายไม่ออก กลายเป็นสินค้าค้างสต็อค เฌอริตาแก้ปัญหานั้นโดยการนำมาจัดโปรโมชั่นราคาถูก ซื้อถึงยอดเท่าไหร่ก็จัดเป็นของแถม
เฌอไม่เคยบอกให้ใครรู้นอกจากเพื่อนสนิทสองคน เธอเปิดบัญชีและซ่อนไว้ไม่ให้แม่เลี้ยงรู้จนตอนนี้มีเงินเก็บหลักแสนปลายๆ แล้ว ช่วงไหนที่มีออเดอร์เข้ามาเยอะจนล้นมือเธอต้องใช้เหตุผลเรื่องงานกลุ่มมาอ้าง เพื่อออกจากบ้าน บางครั้งก็ต้องจ้างคนอื่นมาช่วยแพ็คของก็มี
ทำอย่างนี้มาเกือบสามปี มีติดขัดบ้างเรื่องเวลาที่ไม่เพียงพอ แต่เธอก็คอยพัฒนาระบบการขายให้ดีขึ้นตลอด จนตอนนี้มีผู้ติดตามร้านรวมทุกแพลตฟอร์มแล้วราวแสนคน
“ถ้าแกเลือกเก็บไว้ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ ท้องป่องไปคนได้ถามมากอีก พร้อมเมื่อไหร่ก็ต้องกลับไปเรียน”
“แกอย่าให้ใครรู้นะป็อป แม้แต่พี่ปืนก็ห้ามรู้”
“แล้วถ้าเกิดพี่บูมอะไรนั่นถามล่ะ”
“มันไม่มาถามแกหรอกคนแบบนั้น ถ้าเป็นคนอื่นแกบอกว่าไม่รู้อย่างเดียวก็พอ มาอยู่แถวนี้ก็คงไม่เจอใครหรอก” ถ้าไม่บังเอิญ
เธอไม่ใช่คนที่ชอบออกไปเที่ยว เวลาว่างก็แทบไม่มีเพราะต้องคอยตอบคำถามของลูกค้า ถ้าย้ายมาอยู่ที่นี่ก็คงจะไม่ออกไปไหน ทำงานหาเงินอย่างเดียวก็พอแล้ว
ส่วนเรื่องเรียนยังไงเธอก็ต้องกลับไปเรียนให้จบ เพราะมันคือสิ่งที่วางเป้าหมายเอาไว้แล้ว
“แล้วอีบอยล่ะ”
“เดี๋ยวฉันจะบอกมันเอง รายนั้นคงไม่อะไรหรอก”
บอยเป็นเพื่อนผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกันแต่มองภายนอกแทบไม่มีใครรู้ว่าเขาชอบเพศเดียวกันเพราะยังไม่เปิดเผยเรื่องนี้กับใคร มีเพียงเพื่อนสนิทสองคนที่รู้ จนบางทีมีคนทักว่าบอยเป็นแฟนกับเฌอก็มี
นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เฌอริตาไม่เคยมีแฟนเลย ทั้งที่เธอเป็นคนสวย บางครั้งก็ดูเป็นคนน่ารัก มีแต่คนมองไม่มีใครเข้ามาจีบเลยสักคนเพราะความใกล้ชิดกับเพื่อนชายคนสนิท
“อืม งั้นถ้าแกมีอะไรให้ช่วยก็บอกกันนะ เรื่องลูกพวกฉันจะช่วยเลี้ยง”
เธอพยักหน้าแล้วถอนหายใจ หัวใจมันเต้นไม่เป็นปกติเลยตั้งแต่ที่รู้ว่าตัวเองท้องกับผู้ชายแปลกหน้า ผู้ชายที่นอนด้วยกันคืนเดียว คนที่ไม่เจอกันอีกเลยหลังจากผ่านค่ำคืนนั้น
แถมเขายังไม่รับ ไม่ช่วย ไม่ให้คำปรึกษาใดๆ ทั้งสิ้น หรือบางทีเขาอาจจะมีแฟนแล้วก็ได้เธอจึงไม่อยากเข้าไปวุ่นวายให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่
เอาวะ ต่อให้ไม่เหลือใครอย่างน้อยคนอย่างยัยเฌอก็มีลูกที่ทำให้รู้ว่าจะอยู่บนโลกนี้ไปเพื่ออะไรตั้งแต่วันนี้
--------------
คือพี่บูมตื่นมารับโทรศัพท์แบบงัวเงียเลยคิดว่าตัวเองฝันไป ตื่นขึ้นมา ออ กูฝันไปงี้ไหมอ่า 555555
บทที่ 24เสียงนาฬิกาปลุกดังซ้ำอยู่หลายทีแล้ว แต่เจ้าของมันไม่แม้แต่จะขยับ คนที่ปลุกไม่ยอมตื่นส่วนคนที่ตื่นไม่ได้ตั้งปลุกมือน้อย ๆ ของเด็กชายธีธัชตบลงที่แขนแม่เฌอหลายที เมื่อแม่ไม่ตื่นเขาจึงคลานขยับไปอีกนิด ตบที่แขนของผู้เป็นพ่อ คราวนี้มีคนปิดเสียงรบกวนที่ฟังไม่รื่นหูเสียที“อือ~” คนร่างสูงขยับตัวเล็กน้อย แต่แขนกำยำยังกอดก่ายอยู่บนร่างกายของเมียเขา ปรือตามองเพียบเล็กน้อยก็เห็นว่าลูกชายนั่งมองเขากับเธออยู่บนเตียงตากลมแป๋ว“พ่อบูม”ลูกชายชินแล้วที่เห็นหน้าชายหนุ่มตอนตื่นนอนแต่ที่ไม่ชินคงเป็นเพราะเขาเลื่อนขั้นมาอยู่บนเตียงแถมยังได้กอดเมียทั้งคืน บูมยิ้มให้ลูกชายก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง อ้าแขนให้ลูกเข้ามาหา“ตื่นเช้าจัง มาหาพ่อเร็ว”น้องฌอนคลานข้ามตัวแม่ไปหาพ่อ คว้าเอามือถือไปด้วยให้เขาช่วยปิด บูมเลิกคิ้วแต่เมื่อพลิกจอดูแล้วถึงรู้ว่านาฬิกาปลุกของคนที่ยังหลับปุ๋ยนั้นดังอยู่หลายครั้งแล้วเมื่อคืนเขาจัดหนักจัดเต็ม แตกยกแรกแล้วต่อยกสองที่ครัว จัดต่อในห้องน้ำ จนเธอหลับไหลคา…อกเขาอยากเห็นแบบนี้ทุกวัน อยากตื่นนอนแล้วได้เห็นหน้าลูก เห็นหน้าเมีย กอดหอม ดอมดมทั้งลูกทั้งเมียเท่านี้ก็มีความสุขมากแล้
บทที่ 23ยกจนหมดอีกกระป๋องเฌอก็เริ่มกรึ่มได้ที่ กลิ่นหอมที่ลอยตลบผ่านลมโชยเข้าจมูกชวนให้ใจดวงน้อยรู้สึกกระสับกระส่ายคล้ายลมพายุกำลังใกล้เข้ามาเตรียมจะพัดพาร่างของเธอให้ลอยหวือลอยหวือ!ร่างบอบบางถูกรวบกอดแล้วยกจนตัวลอยให้ไปนั่งอยู่บนตักในท่าเดิม เขารวดเร็วจนเธอตกใจ อาบน้ำห้านาทีไม่มีขาดเกิน“ห้านาทีไม่เกินจริง สะอาดไหมเนี่ย”“สะอาดทุกซอกมุม”คำว่า ‘ซอกมุม ‘ทำเอาคนตัวเล็กตัวสั่นขึ้นมาทีหนึ่ง ขนลุกไปทั้งตัว อุตส่าห์คิดว่าเบียร์สองกระป๋องจะทำให้เธอใจกล้าหน้าด้านแต่เรียกความกล้าหน้าด้านนั้นมาแล้วมันก็ไม่ยอมออกมาเสียที“ขออีกป๋อง”“พอแล้วเดี๋ยวเมาหลับ”ก็ต้องหลับไม่ใช่หรือ“ง่วงแล้วเหมือนกัน” เธอแกล้งว่าทั้งที่ตื่นทั้งตาทั้งอวัยวะส่วนอื่น“เธอครับ พี่รีบอาบน้ำยิ่งกว่าอยู่ค่ายทหาร”เฌอหัวเราะกับคำเปรียบเปรยของเขามอบจุมพิตหวานหอมให้คนเร่งรีบอาบน้ำเป็นรางวัล ถ้าแกล้งอีกสงสัยมีงอนให้เธอได้ง้อแน่“รีบทำไมเฌออยากรู้”“รีบมากิน…เบียร์กับเธอ”“แต่ไม่เห็นแตะเบียร์”“เบียร์ในปากเธออร่อยกว่า”เขาดื่มเบียร์ไปเพียงหนึ่งกระป๋อง อีกสองเธอดื่ม เหลือไว้หนึ่งกระป๋องที่สงสัยจะถูกเมินแล้ว บูมเหมือนเมาได้ที่ ม
เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี อารมณ์ตกใจ ประหลาดใจปะปนกันไปหมด หัวใจเต้นโครมครามกับเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างน่าเป็นห่วง จนนึกไม่ออกว่าควรทำอย่างไรต่อเมื่อกี้ฉันทำอะไรค้างไว้นะเขาเองก็ไม่เคยพูดเรื่องของแม่ให้เธอฟัง ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรู้เรื่องของเธอกับเขาแล้วหรือยัง แต่ดูจสกภาพที่เห็น สรรพนามที่เธอได้รับเดาว่าคงรู้แล้ว“แม่จะเข้ามาหาหลานหลายทีแล้ว แต่เจ้าบูมบอกว่าเพิ่งมา กลัวแม่เฌอตกใจ” เพ็ญศรีหัวเราะขบขัน “ไม่ต้องตกใจนะ แม่แค่เหงาอยากมาเล่นกับหลานน่ะ”“ค่ะ” เธอตอบสั้น ๆเฌอริตาขยับขาที่แข็งเป็นหินนั้นไปข้างหน้า หวังจะเดินไปเก็บของเล่นลูกชายที่เรี่ยราดอยู่บนพื้นแต่แทบสะดุดขาตัวเองล้มเมื่อเพ็ญศรีพูดประโยคถัดมาหน้าระรื่น“แม่จะมาคุยเรื่องหมั้นหมายด้วยน่ะ”เธอหันขวับไปที่คุณนายเพ็ญศรี นึกว่าหูตัวเองฟังผิดเพี้ยนไป อ้าปากพะงาบ ๆ แต่ไม่มีเสียงพูดเพราะคิดคำไม่ออกสถานการณ์ชักน่าเป็นห่วง แต่เฌอรู้ว่าไม่มีใครมาช่วยคิดอะไรได้เลยจึงเปลี่ยนเป็นไปนั่งพับเพียบอยู่บนพื้นข้างเพ็ญศรีกับลูกชายแทน“คือว่า…” เธอไม่เคยคิดเรื่องนี้“เจ้าบูมมันไม่บอกหรือ” เพ็ญศรีมองด้วยสีหน้าสงสัยปนตกใจเฌอริตาสั่นหน้า เพ็ญศรีจึงตบขาต
บทที่ 22เรื่องราวของทั้งคู่กลายมาเป็นประเด็นร้อนให้คนพูดถึงแทนเรื่องตำแหน่งดาวเดือน หลายคนให้กำลังใจแต่ก็มีอีกส่วนน้อยที่ยังด่าว่าคนประเภทนั้นจะเรียกว่าไม่อยู่ในความสนใจก็ไม่ใช่ เขาสนใจที่จะเก็บหลักฐานไปฟ้องเล่น ๆ แต่ไม่สนใจจะเอาคำพูดพวกมันมาใส่ใจ คนพวกนี้ไม่ต่างกับหมาที่นั่งเห่าอยู่หน้าจอไปวัน ๆ“เงินเหลือเหรอมึง”“เออ มีสปอนเซอร์ดี” คุณนายเพ็ญศรีตัวแม่เขาตอบเพื่อนที่นั่งหัวเราะมองเขาเก็บภาพที่มีคนด่าว่าบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเอาให้ทนายส่วนตัวของแม่จัดการให้เข็ดหลาบส่วนพลอยก็หายไปจากชีวิตของเขาเลยจนไม่ต้องทำอะไร นอกจากอวดลูกกับเมียไปวัน ๆกระเช้ากูก็ไม่เอาและไม่ต้องมายกมือไหว้กู!“ว่ากูไม่เท่าไร ด่าลูกเมียกูกูไม่ยอม”“กล้าเรียกเขาว่าเมียเขายอมให้มึงเป็นผัวหรือยัง”คำแซวของไมเนอร์ทำเอาคนฟังสะอึก นอกจากจูบแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นเผื่อแผ่มาให้เขาได้ลิ้มลอง เฌอไม่เปิดโอกาสให้เขาสักทีนี่ก็ผ่านไปเดือนหนึ่งแล้วนะที่เธอยอมรับเข้า แต่เขารอได้ อีกไม่นานเกินรอ ก็เขาอ่อยเธออยู่ทุกเช้าเย็น ทั้งถอดเสื้อเดินผ่าน โชว์กล้ามหน้าท้องปึ๋งปั๋ง กอดรัดฟัดเหวี่ยงเธอให้เธอรู้ว่าอ้อมกอดเขามันอบอุ่น แล้วมั
ลมหายใจของคนตัวเล็กหอบหนัก ในหัวอื้ออึง สติกระจัดกระจายไปหลายที่ ร่างกายอ่อนเปรี้ย ดวงตาหยาดเยิ้มฉ่ำปรือ“หวานจัง”ขยับพูดขณะที่ริมฝากยังแนบชิด ขบกลีบปากของเธออย่างหยอกเย้า คนตัวเล็กอกสั่นขวัญผวาเมื่อเขาขยับริมฝีปากออกจากลีบปากเธอ กดแนบลงที่แก้ม ขยับไปที่ขมับ“พี่บูม” อยากตีปากตัวเองสักสิบที ตั้งใจจะห้ามเขาแต่เสียงเธอกลับสั่นพร่าราวกับเชื้อเชิญ“ครับ” เขาตอบทั้งที่ยังง่วนอยู่กับการก่อกวนเธอ กำปั้นเล็กที่ทุบอยู่ตรงอกไม่มีผลให้คนตัวใหญ่สะทกสะท้าน กล้ามเนื้อไม่มีสะเทือนเลยสักนิด“ไปดูลูกก่อนค่ะ”ชายหนุ่มหัวเราะหึคล้ายชอบใจ เธอเลือกใช้คำได้ดีทีเดียว อยากจะให้เขาปล่อยแล้วหนีแต่ให้ความหวังคล้ายจะกลับมาต่อกันอีก“ข้างนอกหนาวจัง นอนข้างในด้วยได้ไหม”“เฌอมีผ้าห่มให้”“พี่นอนกับพื้น ไม่ขึ้นเตียงให้เธอต้องลำบากแน่นอน”เฌอริตาไม่ยอมตอบเธอขยับตัวเพื่อให้เขาปล่อย อยู่อย่างนี้ต่อรองไปเธอก็แพ้ เขากอดรัดเธอไว้ทั้งร่างจะเอาแรงที่ไหนไปสู้“ได้คืบจะเอาศอก”“ไม่ได้จะเอาศอก” จะเอาเธอต่างหากเขาคิดเล่น ๆ แล้วยิ้มตามหลังคนตัวเล็กที่เหมือนจะยอมให้เข้าไปนอนในห้องด้วยกัน แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เพราะเ
บทที่ 21นานทีเดียวกว่าเธอจะยอมปริปากพูดกับเขา แต่ใบหน้าสะสวยนั้นยังซุกซบอยู่กับลาดไหล่แกร่ง เธอหยุดร้องไห้แล้วแต่ไม่ขยับตัวไปไหนที่เป็นอย่างนั้นเพราะมันทั้งรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย“เฌอแค่เหนื่อยจนอยากร้องไห้”เสียงของเธออู้อี้อยู่บนตัวเขา“แค่เหนื่อยหรือมีมากกว่านั้น พูดมันออกมาให้หมด ไม่ต้องเก็บมันไว้สักเรื่อง”เธอเงียบอยู่เป็นนาทีถึงขยับใบหน้าออกมา ไม่ทันจะยกฝ่ามือขึ้นปาดน้ำตามือของเขาก็ทำหน้าที่แทนเสียแล้ว เข้าใช้ฝ่ามืออบอุ่นนั้นประคองใบหน้า ใช้นิ้วโป้งปาดเอาหยดน้ำตาที่เกาะพราวกับของตานั้นออก สัมผัสที่ใส่ใจและนุ่นนวลนั้นทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเป็นกองโดนเขาตกอีกแล้ว เหมือนกับตอนนั้นเมื่อสองปีก่อน“พี่บูมรู้ไหม เฌอไม่มีใครเลยน้องจากลูก เพราะเฌอถูกไล่ออกจากบ้านตอนที่ทุกคนรู้ว่าท้อง”เขารู้ถึงไม่เคยถามให้เธอรู้สึกไม่ดี รู้ตั้งแต่ตอนที่ตามไปดูเธอถึงบ้านเมื่อสองปีก่อน“รู้ครับ”“รู้ได้ยังไง” เธอถามด้วยดวงตาที่แดงก่ำถึงแม้จะหยุดร้องแต่น้ำตามันก็พร้อมจะทะลักออกมาทุกเมื่อ“ที่เล่าให้ฟังไปไง เมื่อสองปีที่แล้วพี่ตามไปดูเราเห็นเราถูกไล่ออกจากบ้าน”เฌอพยักหน้าอย่างเข้าใจจสกนั้นเธอก็พูดต่อ“แม่เฌ