หลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นวางสายบูมก็ตั้งใจจะนอนต่อเพราะเมื่อคืนเขาไปเที่ยวและดื่มหนัก ร้านปิดแล้วยังดื่มต่อที่หอเพื่อนอีกยาว กลับมาถึงห้องก็ตอนตีสามครึ่ง กว่าจะได้นอนก็ตีสี่ คิดจะตื่นนอนสักเที่ยงหรือช่วงบ่าย ปิดไฟปิดกระจกและม่านทุกบานจนห้องมืดสนิทแถมเปิดเครื่องเปิดอากาศจนเย็นฉ่ำ
แต่แม่งมีคนโทรปลุกตอนแปดโมง!
พอจะนอนต่อก็นอนไม่หลับเพราะเรื่องที่รบกวนจิตใจจากคนปลายสายนั้นทำเอาเส้นเลือดข้างขมับเขาปวดตุบ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกล้าดีอย่างไรถึงมาทำให้เขาหงุดหงิดแต่เช้า มาบอกว่าท้องทั้งที่คนอย่างเขาป้องกันตลอด ถุงยางอนามัยแบบแพงที่สุดที่ต้องสั่งมาใช้เองเป็นพิเศษตามขนาดหายาก
ไม่ได้โม้ครับ ของมันใหญ่จริง ถึงขั้นที่ผู้หญิงโทรมาโกหกว่าท้องก็คิดดูเถอะ
“ไอ้ปืน มึงรู้จักคนชื่อเฌอไหม”
เขาต่อสายถึงเพื่อนที่เรียนสาขาเดียวกัน ไม่ใช่เพื่อนสนิทแต่ก็ไปดื่มด้วยกันบ่อยครั้ง เพราะแบบนี้ถึงทำให้เขาไปเจอผู้หญิงที่ชื่อว่าเฌออะไรนั่น
เอ๊ะ
เขาจำได้แล้ว คนที่สวยๆ แต่เรื่องบนเตียงห่วยแตก นอนเป็นตุ๊กตายางให้เอาอย่างเดียว แต่ให้อภัยเพราะยังซิงและสวยมาก สวยที่สุดในบรรดาผู้หญิงที่เขาเคยนอนด้วย
(เฌอ เพื่อนน้องสาวกูเหรอ)
“เออ คนนั้นแหละ”
(ทำไม มึงชอบน้องเขาเหรอ)
คนฟังถึงกับหัวเราะเสียงดังหึในลำคอหลายทีเมื่อได้ยินเพื่อนพูดอย่างนั้น ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยเขายังไม่รู้สึกว่าชอบใครเป็นพิเศษจนถึงขั้นต้องโทร.ไปถามข้อมูลอย่างนี้
“เป็นคนยังไงวะ”
เขาไม่ได้ตอบคำถาม ที่หัวเราะแบบนั้นปืนน่าจะเข้าใจบ้างว่าไม่ใช่เหตุผลนั้น ไอ้จะพูดว่าผู้หญิงท้องก็กลัวจะเป็นเรื่องใหญ่ เขาก็เป็นผู้ชายพอที่จะไม่ขายผู้หญิงหรอกน่า แต่จะให้รับผิดชอบมันก็ไม่ใช่ ในเมื่อเขามั่นใจว่าไม่พลาดแน่
นอกจากถุงมันจะแตกแต่ไม่รู้ตัวนั่นแหละ
ไม่หรอกมั้ง แตกเลยเหรอวะ กูก็ซื้อมาตรงไซส์ตลอดนี่หว่า สั่งมาหลายรอบมันจะพลาดได้ไง
(เฌอเหรอ ก็นิสัยดีนะ น่ารัก ไม่มีแฟน ไม่เคยมีแฟนเลย)
คนสวยน่ารักขนาดนั้นไม่มีแฟนมันก็น่าคิดแล้ว อาจจะเป็นเรื่องที่ไอ้ปืนไม่รู้ก็ได้ แล้วคำตอบของเพื่อนก็ไม่ได้ช่วยไขข้อข้องใจของเขาเลยสักนิดเดียว
“เคยมีปัญหาเรื่องเงินอะไรอย่างนี้ไหม แบบหลอกเอาเงิน สร้างเรื่องหลอกคนอื่นอย่างนี้”
(กูไม่รู้ว่ะ แต่น้องเขาอยู่บ้านกับพ่อและแม่เลี้ยง ฐานะก็พอมีพอกินมั้ง เรื่องเงินนี่กูไม่รู้ว่ามีปัญหาหรือเปล่า ทำไม น้องเขาไปหลอกอะไรมึง)
คำถามของปืนทำให้เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขากำลังใส่ร้ายใครบางคนอยู่ถึงแม้ไม่ได้พูดมันออกไปตรงๆ เดี๋ยวเขาได้กลายเป็นคนใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นพอดี ฟังจากคำพูดของเพื่อนยิ่งเห็นเด็กนั่นเป็นคนดีอยู่ด้วย
“กูน่าจะเข้าใจผิดมั้ง เห็นชื่อคล้าย เจอในกลุ่มโกงเงินค่าเสื้อผ้า”
คำตอบที่คิดสดแบบไม่ต้องวิเคราะห์ ยังนับถือตัวเองว่าคิดได้อย่างไร
(ออ แปลว่ามึงสนใจน้องเขาอยู่ เจอกันวันนั้นได้คุยต่อไหมวะ)
เรื่องคืนนั้นไม่มีใครรู้ว่าเขากับเธอมีความสัมพันธ์กันต่อถึงขั้นไหน และคิดว่ามันจะไม่มีใครรู้ต่อไปถ้าไม่มีเรื่องวุ่นวายอย่างตอนนี้เกิดขึ้น
ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจเธอเพราะความสวยแต่เขาแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นต้องการอะไรถึงมาโกหกเขาอย่างนี้ อยากรู้นักว่าทำแบบนี้แล้วจะได้อะไร เขาต้องรู้ให้ได้
“นิดหน่อย เพิ่งได้กลับมาคุยอีกทีตอนนี้ มึงรู้ไหมบ้านน้องอยู่แถวไหน ไม่ได้เห็นหน้าเห็นหลังคาบ้านก็ยังดี”
เขาหลอกถามที่อยู่ของเธอจากเพื่อน ถ้าเจอจะจัดการให้เข็ดหลาบ คนท้องที่ไหนจะดูเข้มแข็งขนาดนั้น มันต้องตกใจบ้างดิ แล้วตอนนี้ก็ผ่านมาห้าเดือนแล้ว เพิ่งรู้ว่าท้อง โกหกทั้งนั้น
แกล้งทำเสียงสั่นแต่ไม่ขอร้องอ้อนวอนอะไรเลยสักนิด ถึงขั้นมาหลอกกันอย่างนี้คิดว่าเขาโง่มากหรือไง!
บูมได้ที่อยู่ของเฌอมาแล้ว ไม่นงไม่นอนมันก็ได้ กูจะไปจัดการยัยเฌออะไรนั่นก่อน เอาให้ร้องไห้โฮขอโทษเขา จะได้ไม่ต้องไปใช้วิธีนี้หลอกใครอีก หรือบางทีอาจจะใช้กับใครแล้วได้ผลก็ได้ถึงทำซ้ำ
ขอเงินไปทำแท้งอะไรเถือกนี้ แต่กับเขาอย่าหวังเลยว่าจะได้ไปแม้แต่ครึ่งสลึง เขาไม่ใช่คนมองโลกในแง่ร้าย แต่เธอทำเขาทั้งหงุดหงิดและโมโหกับเช้าของวันนี้ที่เขาควรได้นอนหลับอย่างสบาย
รถสปอร์ตคันหรูขับเคลื่อนมาจอดยังบ้านไม้หลังหนึ่งสภาพเริ่มค่อนไปทางเก่าแล้ว เขาจอดรถเยื้องไปเล็กน้อยเพราะตอนนี้มีรถกระบะคันหนึ่งจอดอยู่ตรงนั้น มีผู้หญิงสองคนกำลังขนของออกมาจากบ้าน ละมีข้าวของที่ขนขึ้นแล้วเกือบเต็มกระบะ
หนึ่งในนั้นคือ ‘เฌอ’ ภาพจำในคืนนั้นทำให้เขานึกได้ชัดเจนก็ตอนนี้ เธอเป็นสาวร่างเล็กผิวขาวนวลแต่ช่วงคิ้วตาคมเข้ม จมูกโด่งเป็นสันดูเด่น ตาคู่นั้นกลมสวยน่ามอง หุ่นสวยสะพรั่งยามที่อยู่บนเตียงเดียวกับเขา ทว่าวันนี้รู้สึกว่าสภาพไม่น่าดูเท่าไหร่
บูมเพ่งมองหน้าสวยจนลืมว่าตอนนี้เขามาทำอะไร พอเรียกสติได้ถึงกับต้องส่ายหน้าไปมา เขานอนน้อยไปหรือเปล่าวะ เหม่ออยู่ได้
---------------
ไอ้พี่บูมคนขี้โม้!!!
บทที่ 24เสียงนาฬิกาปลุกดังซ้ำอยู่หลายทีแล้ว แต่เจ้าของมันไม่แม้แต่จะขยับ คนที่ปลุกไม่ยอมตื่นส่วนคนที่ตื่นไม่ได้ตั้งปลุกมือน้อย ๆ ของเด็กชายธีธัชตบลงที่แขนแม่เฌอหลายที เมื่อแม่ไม่ตื่นเขาจึงคลานขยับไปอีกนิด ตบที่แขนของผู้เป็นพ่อ คราวนี้มีคนปิดเสียงรบกวนที่ฟังไม่รื่นหูเสียที“อือ~” คนร่างสูงขยับตัวเล็กน้อย แต่แขนกำยำยังกอดก่ายอยู่บนร่างกายของเมียเขา ปรือตามองเพียบเล็กน้อยก็เห็นว่าลูกชายนั่งมองเขากับเธออยู่บนเตียงตากลมแป๋ว“พ่อบูม”ลูกชายชินแล้วที่เห็นหน้าชายหนุ่มตอนตื่นนอนแต่ที่ไม่ชินคงเป็นเพราะเขาเลื่อนขั้นมาอยู่บนเตียงแถมยังได้กอดเมียทั้งคืน บูมยิ้มให้ลูกชายก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่ง อ้าแขนให้ลูกเข้ามาหา“ตื่นเช้าจัง มาหาพ่อเร็ว”น้องฌอนคลานข้ามตัวแม่ไปหาพ่อ คว้าเอามือถือไปด้วยให้เขาช่วยปิด บูมเลิกคิ้วแต่เมื่อพลิกจอดูแล้วถึงรู้ว่านาฬิกาปลุกของคนที่ยังหลับปุ๋ยนั้นดังอยู่หลายครั้งแล้วเมื่อคืนเขาจัดหนักจัดเต็ม แตกยกแรกแล้วต่อยกสองที่ครัว จัดต่อในห้องน้ำ จนเธอหลับไหลคา…อกเขาอยากเห็นแบบนี้ทุกวัน อยากตื่นนอนแล้วได้เห็นหน้าลูก เห็นหน้าเมีย กอดหอม ดอมดมทั้งลูกทั้งเมียเท่านี้ก็มีความสุขมากแล้
บทที่ 23ยกจนหมดอีกกระป๋องเฌอก็เริ่มกรึ่มได้ที่ กลิ่นหอมที่ลอยตลบผ่านลมโชยเข้าจมูกชวนให้ใจดวงน้อยรู้สึกกระสับกระส่ายคล้ายลมพายุกำลังใกล้เข้ามาเตรียมจะพัดพาร่างของเธอให้ลอยหวือลอยหวือ!ร่างบอบบางถูกรวบกอดแล้วยกจนตัวลอยให้ไปนั่งอยู่บนตักในท่าเดิม เขารวดเร็วจนเธอตกใจ อาบน้ำห้านาทีไม่มีขาดเกิน“ห้านาทีไม่เกินจริง สะอาดไหมเนี่ย”“สะอาดทุกซอกมุม”คำว่า ‘ซอกมุม ‘ทำเอาคนตัวเล็กตัวสั่นขึ้นมาทีหนึ่ง ขนลุกไปทั้งตัว อุตส่าห์คิดว่าเบียร์สองกระป๋องจะทำให้เธอใจกล้าหน้าด้านแต่เรียกความกล้าหน้าด้านนั้นมาแล้วมันก็ไม่ยอมออกมาเสียที“ขออีกป๋อง”“พอแล้วเดี๋ยวเมาหลับ”ก็ต้องหลับไม่ใช่หรือ“ง่วงแล้วเหมือนกัน” เธอแกล้งว่าทั้งที่ตื่นทั้งตาทั้งอวัยวะส่วนอื่น“เธอครับ พี่รีบอาบน้ำยิ่งกว่าอยู่ค่ายทหาร”เฌอหัวเราะกับคำเปรียบเปรยของเขามอบจุมพิตหวานหอมให้คนเร่งรีบอาบน้ำเป็นรางวัล ถ้าแกล้งอีกสงสัยมีงอนให้เธอได้ง้อแน่“รีบทำไมเฌออยากรู้”“รีบมากิน…เบียร์กับเธอ”“แต่ไม่เห็นแตะเบียร์”“เบียร์ในปากเธออร่อยกว่า”เขาดื่มเบียร์ไปเพียงหนึ่งกระป๋อง อีกสองเธอดื่ม เหลือไว้หนึ่งกระป๋องที่สงสัยจะถูกเมินแล้ว บูมเหมือนเมาได้ที่ ม
เธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี อารมณ์ตกใจ ประหลาดใจปะปนกันไปหมด หัวใจเต้นโครมครามกับเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างน่าเป็นห่วง จนนึกไม่ออกว่าควรทำอย่างไรต่อเมื่อกี้ฉันทำอะไรค้างไว้นะเขาเองก็ไม่เคยพูดเรื่องของแม่ให้เธอฟัง ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรู้เรื่องของเธอกับเขาแล้วหรือยัง แต่ดูจสกภาพที่เห็น สรรพนามที่เธอได้รับเดาว่าคงรู้แล้ว“แม่จะเข้ามาหาหลานหลายทีแล้ว แต่เจ้าบูมบอกว่าเพิ่งมา กลัวแม่เฌอตกใจ” เพ็ญศรีหัวเราะขบขัน “ไม่ต้องตกใจนะ แม่แค่เหงาอยากมาเล่นกับหลานน่ะ”“ค่ะ” เธอตอบสั้น ๆเฌอริตาขยับขาที่แข็งเป็นหินนั้นไปข้างหน้า หวังจะเดินไปเก็บของเล่นลูกชายที่เรี่ยราดอยู่บนพื้นแต่แทบสะดุดขาตัวเองล้มเมื่อเพ็ญศรีพูดประโยคถัดมาหน้าระรื่น“แม่จะมาคุยเรื่องหมั้นหมายด้วยน่ะ”เธอหันขวับไปที่คุณนายเพ็ญศรี นึกว่าหูตัวเองฟังผิดเพี้ยนไป อ้าปากพะงาบ ๆ แต่ไม่มีเสียงพูดเพราะคิดคำไม่ออกสถานการณ์ชักน่าเป็นห่วง แต่เฌอรู้ว่าไม่มีใครมาช่วยคิดอะไรได้เลยจึงเปลี่ยนเป็นไปนั่งพับเพียบอยู่บนพื้นข้างเพ็ญศรีกับลูกชายแทน“คือว่า…” เธอไม่เคยคิดเรื่องนี้“เจ้าบูมมันไม่บอกหรือ” เพ็ญศรีมองด้วยสีหน้าสงสัยปนตกใจเฌอริตาสั่นหน้า เพ็ญศรีจึงตบขาต
บทที่ 22เรื่องราวของทั้งคู่กลายมาเป็นประเด็นร้อนให้คนพูดถึงแทนเรื่องตำแหน่งดาวเดือน หลายคนให้กำลังใจแต่ก็มีอีกส่วนน้อยที่ยังด่าว่าคนประเภทนั้นจะเรียกว่าไม่อยู่ในความสนใจก็ไม่ใช่ เขาสนใจที่จะเก็บหลักฐานไปฟ้องเล่น ๆ แต่ไม่สนใจจะเอาคำพูดพวกมันมาใส่ใจ คนพวกนี้ไม่ต่างกับหมาที่นั่งเห่าอยู่หน้าจอไปวัน ๆ“เงินเหลือเหรอมึง”“เออ มีสปอนเซอร์ดี” คุณนายเพ็ญศรีตัวแม่เขาตอบเพื่อนที่นั่งหัวเราะมองเขาเก็บภาพที่มีคนด่าว่าบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเอาให้ทนายส่วนตัวของแม่จัดการให้เข็ดหลาบส่วนพลอยก็หายไปจากชีวิตของเขาเลยจนไม่ต้องทำอะไร นอกจากอวดลูกกับเมียไปวัน ๆกระเช้ากูก็ไม่เอาและไม่ต้องมายกมือไหว้กู!“ว่ากูไม่เท่าไร ด่าลูกเมียกูกูไม่ยอม”“กล้าเรียกเขาว่าเมียเขายอมให้มึงเป็นผัวหรือยัง”คำแซวของไมเนอร์ทำเอาคนฟังสะอึก นอกจากจูบแล้วก็ไม่มีอย่างอื่นเผื่อแผ่มาให้เขาได้ลิ้มลอง เฌอไม่เปิดโอกาสให้เขาสักทีนี่ก็ผ่านไปเดือนหนึ่งแล้วนะที่เธอยอมรับเข้า แต่เขารอได้ อีกไม่นานเกินรอ ก็เขาอ่อยเธออยู่ทุกเช้าเย็น ทั้งถอดเสื้อเดินผ่าน โชว์กล้ามหน้าท้องปึ๋งปั๋ง กอดรัดฟัดเหวี่ยงเธอให้เธอรู้ว่าอ้อมกอดเขามันอบอุ่น แล้วมั
ลมหายใจของคนตัวเล็กหอบหนัก ในหัวอื้ออึง สติกระจัดกระจายไปหลายที่ ร่างกายอ่อนเปรี้ย ดวงตาหยาดเยิ้มฉ่ำปรือ“หวานจัง”ขยับพูดขณะที่ริมฝากยังแนบชิด ขบกลีบปากของเธออย่างหยอกเย้า คนตัวเล็กอกสั่นขวัญผวาเมื่อเขาขยับริมฝีปากออกจากลีบปากเธอ กดแนบลงที่แก้ม ขยับไปที่ขมับ“พี่บูม” อยากตีปากตัวเองสักสิบที ตั้งใจจะห้ามเขาแต่เสียงเธอกลับสั่นพร่าราวกับเชื้อเชิญ“ครับ” เขาตอบทั้งที่ยังง่วนอยู่กับการก่อกวนเธอ กำปั้นเล็กที่ทุบอยู่ตรงอกไม่มีผลให้คนตัวใหญ่สะทกสะท้าน กล้ามเนื้อไม่มีสะเทือนเลยสักนิด“ไปดูลูกก่อนค่ะ”ชายหนุ่มหัวเราะหึคล้ายชอบใจ เธอเลือกใช้คำได้ดีทีเดียว อยากจะให้เขาปล่อยแล้วหนีแต่ให้ความหวังคล้ายจะกลับมาต่อกันอีก“ข้างนอกหนาวจัง นอนข้างในด้วยได้ไหม”“เฌอมีผ้าห่มให้”“พี่นอนกับพื้น ไม่ขึ้นเตียงให้เธอต้องลำบากแน่นอน”เฌอริตาไม่ยอมตอบเธอขยับตัวเพื่อให้เขาปล่อย อยู่อย่างนี้ต่อรองไปเธอก็แพ้ เขากอดรัดเธอไว้ทั้งร่างจะเอาแรงที่ไหนไปสู้“ได้คืบจะเอาศอก”“ไม่ได้จะเอาศอก” จะเอาเธอต่างหากเขาคิดเล่น ๆ แล้วยิ้มตามหลังคนตัวเล็กที่เหมือนจะยอมให้เข้าไปนอนในห้องด้วยกัน แต่เขากลับรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เพราะเ
บทที่ 21นานทีเดียวกว่าเธอจะยอมปริปากพูดกับเขา แต่ใบหน้าสะสวยนั้นยังซุกซบอยู่กับลาดไหล่แกร่ง เธอหยุดร้องไห้แล้วแต่ไม่ขยับตัวไปไหนที่เป็นอย่างนั้นเพราะมันทั้งรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย“เฌอแค่เหนื่อยจนอยากร้องไห้”เสียงของเธออู้อี้อยู่บนตัวเขา“แค่เหนื่อยหรือมีมากกว่านั้น พูดมันออกมาให้หมด ไม่ต้องเก็บมันไว้สักเรื่อง”เธอเงียบอยู่เป็นนาทีถึงขยับใบหน้าออกมา ไม่ทันจะยกฝ่ามือขึ้นปาดน้ำตามือของเขาก็ทำหน้าที่แทนเสียแล้ว เข้าใช้ฝ่ามืออบอุ่นนั้นประคองใบหน้า ใช้นิ้วโป้งปาดเอาหยดน้ำตาที่เกาะพราวกับของตานั้นออก สัมผัสที่ใส่ใจและนุ่นนวลนั้นทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเป็นกองโดนเขาตกอีกแล้ว เหมือนกับตอนนั้นเมื่อสองปีก่อน“พี่บูมรู้ไหม เฌอไม่มีใครเลยน้องจากลูก เพราะเฌอถูกไล่ออกจากบ้านตอนที่ทุกคนรู้ว่าท้อง”เขารู้ถึงไม่เคยถามให้เธอรู้สึกไม่ดี รู้ตั้งแต่ตอนที่ตามไปดูเธอถึงบ้านเมื่อสองปีก่อน“รู้ครับ”“รู้ได้ยังไง” เธอถามด้วยดวงตาที่แดงก่ำถึงแม้จะหยุดร้องแต่น้ำตามันก็พร้อมจะทะลักออกมาทุกเมื่อ“ที่เล่าให้ฟังไปไง เมื่อสองปีที่แล้วพี่ตามไปดูเราเห็นเราถูกไล่ออกจากบ้าน”เฌอพยักหน้าอย่างเข้าใจจสกนั้นเธอก็พูดต่อ“แม่เฌ