Share

ตอนที่ 5.

last update Last Updated: 2025-07-03 19:36:09

รูปภาพหลายใบวางกระจายอยู่บนโต๊ะ บนเก้าอี้มีร่างของชายคนหนึ่งรูปร่างค่อนข้างสูงนั่งอยู่ มือเรียวยาวขาวจัดหยิบรูปใบหนึ่งขึ้นมาพินิจใกล้ๆ

“รูปมีเท่านี้ใช่ไหม”

 ชายร่างเล็กผิวคล้ำที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม พยักหน้ารับ

“ครับ ตอนนี้นายนภวินท์กับแฟน พักอยู่ที่โรงแรมด้วยกัน ผมให้ลูกน้องตามประกบอยู่ วันพรุ่งนี้คงจะได้ภาพกับข้อมูลเพิ่มขึ้นครับ”

ร่างสูงใหญ่ขยับลุกขึ้น หยิบรูปถ่ายใบหนึ่งขึ้นมา หญิงสาวในรูปกำลังยิ้มกว้าง ขณะกระโดดกอดคอชายหนุ่ม กิริยาของคนในรูปถ่าย แสดงถึงความสนิทสนมเกินธรรมดาของทั้งคู่

“บอกคนของคุณ ให้เก็บภาพของนายนภวินท์ มาให้มากที่สุด” เขาเอ่ยจบก็หมุนกายเดินออกไปจากห้องนั้น

วิชิตละสายตาจากลูกค้าคนสำคัญ เมื่ออีกฝ่ายเดินลับประตูไปแล้ว

“ไม่รู้ไอ้จรัล มันตามเป้าหมายไปถึงไหนแล้ว” เขาบ่นงึมงำในคอ ขณะกดโทรศัพท์โทรหาลูกน้อง

“จรัล ลูกค้าอยากได้ข้อมูลของนายนภวินท์เพิ่ม แกรีบจัดการด่วนเลยนะ ทางนั้นให้ไอ้เปี๊ยกช่วยดูให้ก่อน เรื่องนี้งานด่วนโว้ย! ถ้าอยากได้เงินเร็วก็ รีบๆเข้า แค่นี้นะ”

บ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง ทาสีขาวสะอาดตา ด้านหน้าดอกพวงชมพูเลื้อยพันซุ้มประตูทางเข้าจนเป็นพุ่มหนา บางส่วนเลื้อยลงมาพาดพันเสาด้านข้าง ออกดอกกระจิดริดสีชมพูอ่อนเจือขาว ด้านหนึ่งของบ้านเป็นระเบียงโล่งกว้างติดกับแม่น้ำ มองเห็นศาลาหกเหลี่ยมสวยแปลกตา เรือโดยสารลำเล็ก เล่นมาจอดตรงท่าน้ำหน้าศาลา ผู้โดยสารชายหญิงสองคนก้าวขึ้นมาบนท่า

“ขอบคุณมากครับลุง”

นภวินท์เอ่ยขอบคุณเจ้าของเรือ ก่อนจะคว้าเป้คู่ใจสะพายบ่า เดินนำปลายรุ้งขึ้นมาบนท่าน้ำ หญิงสาวมีสะพายเป้ใบใหญ่สีเขียวเข้มเดินตามร่างสูงสง่าของเพื่อนชาย ไปตามทางเดินลาดซีเมนต์แคบๆ สองข้างทางอุดมไปด้วยไม้ผลน้อยใหญ่เรียงราย ตลอดทาง กิ่งก้านใบหนามีร่มเงาบังแสงแดดแผดกล้าในยามบ่ายได้เป็นอย่างดี สองหนุ่มสาวเดินทอดน่องอย่างสบายอารมณ์ โดยเฉพาะปลายรุ้งที่ดูจะเพลิดเพลินกับบรรยากาศร่มรื่นนี้เป็นพิเศษ

“ไม่ได้มาซะนาน ต้นไม้พวกนี้โตขึ้นเยอะเลย”

ปลายรุ้งหยุดมองดูต้นมะม่วงที่อยู่ติดรั้วบ้านไม้สองชั้นใกล้กับบ้านไม้สีขาว ประตูรั้วมีโซ่เส้นใหญ่คล้องกุญแจดอกโตไว้แน่นหนา มองลอดรั้วไม้ระแนงมองเห็นตัวบ้านค่อนข้างทรุดโทรมตามกาลเวลา บางส่วนสีลอกล่อนมองเห็นเนื้อไม้ผุพัง ทว่าต้นไม้นานาพันธุ์ที่เจ้าของปลูกไว้ กลับได้รับการตัดแต่งอย่างเป็นระเบียบ ไม่รกเรื้อ

“แม่จ้างคนมาดูแลต้นไม้พวกนี้ ถ้าฉันว่างฉันก็มาตัดหญ้าให้” นภวินท์แตะศอกเพื่อนสาว พาเดินไปยังบ้านไม้สีขาว

“ฉันโทรมาบอกแม่  ว่าเธอจะแวะมา สงสัยเตรียมของกินไว้เพรียบ ได้กลิ่นไข่เจียวลอยมาแวบๆ”

กลิ่นกับข้าวโชยมาตามลมอย่างที่นภวินท์บอกจริงๆนั่นแหละ ปลายรุ้งสูดลมหายใจแรงๆ ก่อนจะเร่งฝีเท้าจนกลายเป็นวิ่ง นำหน้าเจ้าของบ้านไปก่อน

“เฮ้ย! ได้กลิ่นของกิน รีบแจ้นไปเลยนะ” เขาหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะซอยเท้าตามร่างเล็กบางนั้นไป

บริเวณระเบียงบ้าน ติดชายน้ำ มองเห็นหญิงวัยกลางคนรูปร่างผอมบาง ในชุดกระโปรงยาวสีอ่อนกำลังส่งยิ้มให้สองหนุ่มสาวที่แข่งกันวิ่งเข้ามา ปลายรุ้งตรงรี่เข้าสวมกอดคนที่ยืนอยู่ไว้แน่น

“คิดถึงป้ารจจัง...” น้ำเสียงฟังดูออดอ้อน จนคนที่ตามมาด้วย หมั่นไส้

“คิดถึงแม่ หรือคิดถึงกับข้าวฝีมือแม่กันแน่”

ปลายรุ้งคลายอ้อมกอดออกแต่ยังจับมือมารดาเพื่อนชายไว้มั่น “โตแล้วยังขี้อิจฉาไม่หาย เนอะป้ารจ” ประโยคหลังหันมา หาแนวร่วมข้างๆ

 “ฉันมันขี้อิจฉา แต่เธอ มันขี้ประจบ ถอยออกมา ฉันจะกอดแม่ฉันมั่ง”

นภวินท์ดึงแขน เพื่อนให้ออกห่าง แล้วแทรกตัวมาแทนที่ อ้อมแขนแข็งแรงรัดร่างบอบบางของมารดาไว้แน่น แถมยังหอมฟอดๆ เหมือนแกล้งยั่วปลายรุ้ง ให้อิจฉาบ้าง

“พอ พอ แม่จะช้ำในตายแล้ว”

คุณรจนาเอ็ดลูกชาย น้ำเสียงเอ็นดู มากกว่าจะจริงจัง ก่อนจะเบี่ยงกายออกจากอ้อมแขนผู้เป็นลูก

“โตๆกันแล้ว ยังทำเป็นเด็กๆอีก”

“ปลายหิวข้าวจังเลย ป้ารจทำอะไรคะ กลิ่นห้อม ...หอม”

ปลายรุ้งเมียงมองไปยังโต๊ะกินข้าว ที่ตั้งอยู่ที่ระเบียง กลิ่นหอมของกับข้าว โชยมากระทบจมูก ชวนน้ำลายสอ

“เห็นไหมครับแม่ ผมพูดผิดเสียเมื่อไหร่”  นภวินท์ได้โอกาสรีบไส่ไฟ

“หิวก็ไปกินข้าวกันลูก ป้าเตรียมของที่ปลายชอบไว้ทั้งนั้น”

คุณรจนาไม่สนใจฟังลูกชาย โอบไหล่ปลายรุ้งพาไปยังโต๊ะกินข้าว จัดการตักข้าวใส่จานให้คนบ่นหิวทันที ทำให้ลูกชายต้องรีบเข้ามาร่วมวง ก่อนที่จะได้กินแต่ข้าวเปล่า เห็นปลายรุ้งตัวผอมบางแบบนี้ แต่อีกฉายาที่เพื่อนๆร่วมกลุ่มตั้งให้ นั่นคือ

น้องปลาย ปอบเรียกพี่

ประตูรั้วถูกเปิดออก ช้าๆ มองเห็นบ้านไม้หลังน้อย อยู่ท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่ดูร่มรื่นเย็นสบาย ปลายรุ้งเดินเข้าไปด้านในตามทางเดิน ที่ปูด้วยตัวหนอนทอดยาวไปจนถึงหน้าบ้าน สองข้างทางปลูกต้นพลับพลึงไว้ตลอดแนว ดอกสีขาวตัดกับก้านใบสีเขียวสดดูสบายตา                 สายลมพัดโชยเอื่อย นำพากลิ่นหอมอ่อนๆของดอกจำปีลอยมาเบาบาง หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ หัวใจที่อ่อนล้า อ่อนแรง ละม้ายถูกเติมเต็ม ให้สดใสด้วยกลิ่นอายของบรรยากาศอันคุ้นชิน

ดวงตากลมโต ระยับไหว ด้วยประกายของความตื้นตัน ขณะกวาดสายตามองไปรอบบ้านหลังน้อย สมบัติชิ้นเดียวในชีวิต ที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้ให้ สภาพบ้านทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลา หากไม่ได้น้ำใจเอื้ออารี จากเพื่อนบ้านอย่างคุณรจนากับนภวินท์ บ้านคงทรุดโทรมมากกว่านี้ หญิงสาวระบายลมหายใจออกเบาๆ เมื่อสายตาหันไปพบกับตุ๊กตาดินเผารูปเด็กหัวเราะ ที่วางไว้ข้างๆอ่างบัว หน้าประตูบ้าน

“หนูดี ยังอยู่หรือเรา” ร่างเพรียวบาง ยอบตัวนั่งลง ปลายนิ้วเอื้อมไปแตะตุ๊กตาปั้น “ขอโทษนะที่ปล่อยให้เฝ้าบ้านคนเดียว”

ปลายรุ้งลูบศีรษะของตุ๊กตาเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วไขกุญแจบ้าน บานประตูไม้เปิดกว้าง หญิงสาวแทรกตัวเข้าไปภายใน  ปลายนิ้วควานหาสวิทช์ไฟข้างประตู แสงสว่างจากโคมไฟกลางบ้านสว่างจ้า มองเห็นเฟอร์นิเจอร์ถูกคลุมไว้ด้วยผ้าขาวกันฝุ่น ทว่า...พื้นกลับสะอาดเอี่ยม ไม่มีรอยคราบสกปรกแม้เพียงน้อย  ริมฝีปากบางแย้มออก เมื่อนึกถึงคำพูดของเพื่อนชาย

“ฉันจ้างคนมาทำความสะอาดบ้านปลายทุกอาทิตย์ กลัวว่าเวลาที่เธอกลับมา จะมาแย่งบ้านฉันนอน”

ปลายรุ้งรู้ ว่านภวินท์ตั้งใจดูแลบ้านหลังนี้ให้เธอ เขาเป็นทั้งเพื่อนและพี่ชายที่แสนดี ความผูกพันอันแน่นแฟ้น ที่เพาะบ่มตามกาลเวลา ทำให้เธอกับนภวินท์เข้าใจกันมากกว่าเพื่อนคนไหนๆ ในความผูกพันเจือด้วยความห่วงหาอาทรซึ่งกันและกัน ฉันมิตรแท้ บ้านหลังนี้ยังคงสภาพเดิมไว้แทบทั้งสิ้น ห้องนั่งเล่นกลางบ้าน วางเปียโนหลังงามไว้ตรงมุมห้อง เปียโนของแม่เป็นเครื่องดนตรีชิ้นแรกที่ปลายรุ้งหัดเล่น และเป็นเครื่องดนตรีชิ้นเดียวที่เธอเล่นเป็น ภาพความทรงจำเก่าๆหมุนวนหลั่งไหลมาในมโนนึก ละม้ายจะได้ยินเสียงเปียโนดังแว่วมา โซฟายาวตัวนั้น มักจะมีร่างสูงใหญ่ของพ่อนอนเหยียดยาว ฟังเสียงเพลงของแม่ ข้างๆกายพ่อ จะมีเธอนั่งอยู่ด้วยเสมอ

“พ่อขา แม่ขา ปลายกลับมาบ้านเราแล้วนะคะ”

หยาดน้ำตาคลอคลองหน่วยตาจนผ่าวร้อน หัวใจอาบอุ่นเต็มตื้น เหมือนได้กลับมาสู้อ้อมแขนของพ่อกับแม่อีกครั้ง

“ปลายของพ่อต้องเข้มแข้ง และไม่ยอมแพ้ต่อสิ่งใด วันนี้เราล้มได้ แต่เราต้องลุกได้เสมอ เหมือนในยามที่พายุฝนได้พัดผ่านไป ท้องฟ้าหม่นๆ จะมีสายรุ้งทอดเงาให้เรามองเห็น เพียงเราไม่ท้อถอยเราจะมีวันที่สดใสงดงามรออยู่”

คำพูดของพ่อเมื่อหลายปีก่อน ยังคงดังก้องอยู่ในหู ปลายรุ้งจดจำทุกคำพูดของท่านได้ขึ้นใจ และนั่นคือสิ่งยึดเหนี่ยวสิ่งเดียวในชีวิต ทำให้เธอไม่ยอมแพ้ต่ออะไรที่ผ่านมา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รุ้งปลายเมฆ   ตอนที่ 92.(จบ)

    “ตายยากจังวินท์ คิดถึงทีไร โทรมาทุกที” เธอรีบกดรับ ก่อนที่อีกฝ่ายจะวางสายไปก่อน “ไปไงวินท์ อื้อ... ใช่ปลายกับคุณเมฆกำลังจะไปที่บ้านพักที่จัน อะไรนะวินท์อยู่ที่นั่นเหรอ อีกสักชั่วโมงนะปลายกับคุณเมฆจะไปถึง อย่าแย่งกินกุ้งย่างหมดก่อนล่ะ”“นายวินท์ อยู่ที่รีสอร์ทเหรอ” ฆนากรถามคนที่เพิ่งกดวางสาย“ค่ะ บอกว่าพายายสิงห์ หลานเฮียเป๋งไปด้วย” ปลายรุ้งเล่าสิ่งที่ได้ยินให้สามีรับรู้ ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิม“ยายสิงห์ หลานเฮียเป๋งเป็นใครกัน” เขาขมวดคิ้ว แปลกใจชื่อประหลาดนั่นปลายรุ้งหัวเราะขำ ใครได้ยินชื่อเล่นของสิงหกัลยา เป็นต้องทำหน้าแบบนี้ทุกคน ผู้หญิงในประเทศไทยที่ชื่อสิงห์ จะมีสักกี่คน“เธอชื่อสิงหกัลยาค่ะ เป็นรุ่นน้องของปลายกับวินท์ที่มหาลัย ปลายเป็นพี่รหัสของยายสิงห์ เฮียเป๋งเจ้านายของวินท์เป็นน้าชายของยายสิงห์ นี่คงโดนเฮียเป๋งบังคับให้พายายสิงห์มาเที่ยวด้วยแหงๆ”“และคุณสิงห์ที่ปลายว่าเนี่ย หน้าตาเป็นยังไงสวยมั้ย”“สวยสิคะ ยายสิงห์แกเป็นลูกครึ่งไทยอิตาลี่ ขาวสูงหุ่นนางแบบเชียวแหละ เสียอย่าง...” ปลายรุ้งยิ้มแห้งๆ เมื่อนึกถึงวีรกรรมของสิงหกัลยา“เสียอะไร นิสัยหรือว่าอะไร” ฆนากรซักไซร้ เขาช

  • รุ้งปลายเมฆ   ตอนที่ 91.

    “ให้มันได้อย่างนี้สิวะ รับรองสิ้นปีเฮียแจกโบนัสไม่อั้น” เปรมศักดิ์ตบไหล่ช่างภาพหนุ่มแรง สีหน้าสดชื่นขึ้นทันตาเห็น“แล้วจะให้ใครไปเป็นล่ามให้ผม บอกก่อนนะว่าผมได้แค่ภาษาอังกฤษ ภาษาสเปนอิตาลี่เนี่ยผมไม่รู้สักคำ” นภวินท์ยังกังวลใจ“เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง ฉันเตรียมผู้ช่วยให้แกแล้ว รับรองมีเซอร์ไพรซ์” เปรมศักดิ์หลิ่วตาให้ เขาหยิบโทรศัพท์มากดโทรหาใครบางคน“เออ... ไอ้วินท์มันรับปากแล้ว ไอ้ช่วงมันขาหักไปไม่ได้ เป็นไอ้วินท์ทำแทน รีบมารายงานตัวเลยนะ ไอ้วินท์มันอยู่ที่นี่แล้ว จะได้เตรียมแผนงานกันล่วงหน้า มาเลย มาเร็วๆ” พูดจบก็วางหู“ใครเหรอพี่ ที่หามาเป็นผู้ช่วยผม ที่สำนักพิมพ์เราไม่เห็นมีใครเก่งภาษาสเปนกับอิตาลี่สักคน” นภวินท์อยากรู้เหลือเกิน ว่าผู้ช่วยเขาเป็นใคร“น่าเดี๋ยว มาถึงแกก็รู้เอง” เปรมศักดิ์เอ่ยยิ้มๆราวครึ่งชั่วโมง ประตูห้องของบรรณาธิการฝ่ายบริหารก็ถูกเคาะ เมื่อได้ยินเสียงอนุญาตคนเคาะก็เปิดประตูเข้ามา นภวินท์หันไปมองพร้อมกับลุ้นตัวโก่ง คนที่เดินเข้ามาส่งยิ้มมาแต่ไกล“ดีจ้า น้าเป๋ง เฮียวินท์” เสียงใสแจ้ว ราวกับระฆังแตก ทักทายคนในห้องร่างสูงเพรียวในชุดกระโปรงยาวกรอมเท้าลวดลายแบบยิปซี มีเ

  • รุ้งปลายเมฆ   ตอนที่ 90.

    “อย่าคิดอะไรแบบนั้นอีกนะ คนดี”เขาแย้มริมฝีปากมอบรอยยิ้มแสนอบอุ่น ดวงตาคมทอประกายอ่อนหวาน ขณะก้มลงแตะริมฝีปากบนหน้าผากเนียน บนเปลือกตาทั้งสอง บนจมูกโด่งเล็กนั้น ก่อนจะกดริมฝีปากบนเรียวปากนุ่มหนักๆ“ปลาย... คุณคือผู้หญิงคนแรก คนเดียวในชีวิตผม”ชายหนุ่มทอดเสียงนุ่ม เอ่ยช้าและชัดเจน คลื่นความอบอุ่นไหลรินสู่หัวใจคนฟัง ปลายรุ้งหลับตาลงปล่อยให้ตัวเองซึมซับทุกถ้อยคำนั้นไว้ในหัวใจ ไม่มีคำว่ารักสักคำสิ่งที่สัมผัสนั้นมากกว่าคำว่ารักหญิงสาวแทบไม่รู้ตัวว่าร่างของตัวเอง ถูกเขาโอบประคองพามาถึงระเบียงริมน้ำบ้านของป้ารจตั้งแต่เมื่อไหร่“คุณพาปลายมาที่นี่ทำไมคะ ดึกแล้ว” น้ำเสียงของเธอช่างแผ่วพร่า เหลือเกินเมื่อเอ่ยถามเขาฆนากรยิ้มละมุน เขาประคองร่างบางให้นั่งบนผ้านวมหนาที่ปูไว้บนพื้นไม้ ดวงไฟสีนวลถูกเปิดไว้เพียงดวงเดียว บรรยากาศยามนี้เงียบสงบเย็นสบาย ท้องฟ้ากระจ่างนวลตาด้วยแสงจันทรา สายลมพัดพาความสดชื่นของแม่น้ำมากระทบกายแผ่วๆ สองร่างทอดกายนอนเคียงกัน ศีรษะเล็กหนุนท่อนแขนแข็งแรงของคนตัวโตต่างหมอน“เวลาผมเหงาหรือคิดอะไรไม่ออก ผมจะหอบผ้านวมมานอนดูดาว ดูดวงจันทร์แบบนี้” มือหนากุมมือเรียวไว้ในอุ้งมืออุ่น

  • รุ้งปลายเมฆ   ตอนที่ 89.

    “มีอะไรก็ผัดๆรวมกันมาเถอะ ฉันหิวแล้วนะ” ปลายรุ้งพูดแก้เก้อมือบางจับหน้าอกข้างซ้ายตัวเองที่กำลังเต้นรัวแรงด้วยความตกใจ ทำไมเธอต้องใจสั่นแบบนี้ด้วยนะ หญิงสาวมองร่างสูงใหญ่ ที่กำลังหั่นผัก เตรียมทำอาหารให้เธอด้วยสายตาไม่เข้าใจ เธอไม่เคยเกิดความรู้สึกแบบนี้กับนภวินท์มาก่อน เขาเคยจับมือโอบไหล่หลายครั้ง ทุกครั้งไม่เคยรู้สึกแบบนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ปลายรุ้งหาคำตอบให้ตัวเองไม่พบ“เสร็จแล้ว ข้าวผัดไส้กรอกของเชฟกระทะเหล็ก”ข้าวผัดไส้กรอกหอมน่าอร่อยถูกวางตรงหน้า ปลายรุ้งมองคนทำที่ภูมิใจนำเสนออาหารของตน ก่อนจะหยิบช้อนมาตักเข้าปาก ตาโตๆของจิตรกรสาวโตกว่าเดิม เมื่อพบว่ามันอร่อยเหลือเชื่อ รีบตักอีกคำเข้าปาก จากนั้นก็ไม่สนใจสายตาที่จ้องมองอีก“อร่อยใช่ไหม”ดวงตาคมจ้องหน้าเธอนิ่งริมฝีปากหยักโค้งเจือสีแดงสดขยับแย้ม ก่อนที่มือหนาจะยื่นมาแตะมุมปากหญิงสาว หยิบเม็ดข้าวที่ติดออกมาส่งเข้าปากตัวเองหน้าตาเฉย“อื้อ... อร่อยจริงๆด้วย”ปลายรุ้งอ้าปากค้าง มองคนที่กำลังกินข้าวด้วยความตกใจ หน้าร้อนผ่าวกับการกระทำของอีกฝ่ายคนบ้าอะไรกินข้าวติดปากคนอื่นได้ด้วย“นี่น้ำเดี๋ยวสำลักตาย ขี้เกียจผายปอด”เขาหัวเราะเบาๆ

  • รุ้งปลายเมฆ   ตอนที่ 88.

    “ฉันมีอะไรจะบอกนายแผนสักอย่าง”เฟอร์นันโดขยับเข้าไปใกล้นายแผน เขาก้มศีรษะป้องปากกระซิบบางอย่างที่หูของอีกฝ่าย บอดี้การ์ดของภัทรมือสั่นระริก หันมามองหน้าคนพูดก่อนจะพยักหน้าช้าๆ แววตาอ่อนแสงลง“ไอ้สุริยะ ฉันไม่จำเป็นต้องฆ่าคนที่ตายแล้วอย่างแก ให้มือฉันต้องเปื้อนเลือดสกปรก แกกำลังจะได้รับกรรมของแกแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า...”ร่างใหญ่ตัวของแผนขยับออกห่าง พร้อมกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เสียงหัวเราะบาดหัวใจคนฟังเหลือเกิน จนทนไม่ไหว“แกหัวเราะอะไรกัน นี่แกไม่ฆ่าฉันแล้วใช่ไหม”“ฉันไม่ฆ่าแกหรอก ถ้าแกตายแกจะไม่ได้ลิ้มรสความเจ็บปวด ของการตายทั้งเป็น”นายแผนหยุดหัวเราะ ดวงตาดำใหญ่จ้องหน้าเขาด้วยแววตาสมเพช ก่อนจะเอ่ยประโยค ที่ทำให้สุริยะต้องช็อคตาตั้ง“แกจำผู้หญิงสวยๆ ชุดแดง ที่งานเลี้ยงของคุณเฟอร์นันโดได้ไหม เธอเป็นเอดส์!”“แกพูดบ้าอะไร ฉันไม่เชื่อแกหรอก ถึงผู้หญิงคนนั้นจะเป็นเอดส์ แต่ฉันไม่เคยนอนกับผู้หญิงโดยไม่ป้องกัน” เขาค้านเสียงหลง“หึ... ป้องกันเหรอ คืนนั้นแกเมา แกลืมป้องกัน แกกำลังจะตายไอ้สุริยะ ตายด้วยความมักมากในกามของแกไงล่ะ” นายแผนตอกย้ำอีกครั้งสุริยะทบทวนความทรงจำก่อนจะใจหายวาบชาไปทั้งตัว คืนน

  • รุ้งปลายเมฆ   ตอนที่ 87.

    นภวินท์ยิ้มบางๆ ตบบ่าพี่ชายแรงๆ “อย่าคิดมากสิ ยายปลายน่ะขี้เหงา อีกไม่เกินอาทิตย์ ต้องรีบแล่นกลับมาหาพวกเราแน่” เขามั่นใจเหลือเกิน“นายเข้าใจปลายดีนี่ สมแล้วที่ปลายรักนาย”ฆนากรมองหน้าน้องชายด้วยแววตาเศร้า ชายหนุ่มเฝ้ามองปลายรุ้งกับนภวินท์ อย่างเงียบๆ ตั้งแต่กีรดารินทร์จากไป ปลายรุ้งพาตัวเองเข้าไปใกล้ชิดกับนภวินท์ จนไม่สนใจเขาเลย เขาพยายามจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าปลายรุ้งรักเขา แต่ท่าทีที่จิตกรสาวปฏิบัติต่อนภวินท์ ทำให้ฆนากรต้องถอยกลับมาอยู่ในมุมมืดของตัวเอง พ่อกับแม่และน้องชายกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่ฆนากรกลับรู้สึกว่าตัวเองเหมือนอากาศที่ไม่มีใครสนใจ แม่เอาใจใส่ดูแลพ่อที่ไม่ค่อยสบาย ส่วนปลายรุ้งขลุกอยู่กับนภวินท์แทบเป็นเงาของกันและกัน ตัวเขาต้องรับภาระดูแลบริษัทแทนบิดา เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับงาน เมื่อมีเวลาส่วนตัวเขาอยากใช้มันกับปลายรุ้ง แต่หญิงสาวกลับออกเดินทางท่องเที่ยว โดยไม่บอกลาเขาสักคำ เหมือนเขาไม่ใช่คนที่เธอเห็นความสำคัญอีก“ใช่ ฉันกับปลายเรารักกัน เรารักกันมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่นายจะได้รู้จักกับเธอ”นภวินท์มองอาการคอแข็งของพี่ชายอย่างขบขัน ฆนากรไม่เคยเปลี่ยนนิสัยชอบคิดเองเออเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status