Share

ตอนที่ 8.

last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-03 19:42:59

“คุณเมฆคงไม่ถูกใจของขวัญ” ขจรเกียรติเปิดฝากล่องที่วางไว้ออกดู เมื่อเห็นว่าเป็นอะไร เขาก็ส่ายหน้า “มิน่า ถึงทำท่าแบบนั้น”

สุณีขยับเข้ามาใกล้ ดึงกล่องไปดูบ้าง ก่อนจะถอนใจยาวเหยียด “นายท่านก็เหลือเกิน เอามาให้คุณเมฆทำไม ไอ้รถพวกนี้” นางหยิบกุญแจรถสปอร์ต มาวางบนโต๊ะ สีหน้าเหนื่อยใจ

ของขวัญที่สุริยะมอบให้ลูกชาย คือรถสปอร์ตคันหรูซึ่งเป็นคันที่สิบได้กระมัง นับตั้งแต่ ฆนากร โตเป็นหนุ่มมา สุริยะชื่นชอบความเร็วและเป็นนักสะสมรถยนต์คนหนึ่ง เมื่อเขาชอบสิ่งใด เขามักพยายามให้ลูกชายชอบตาม ทว่าคนเป็นลูกกลับไม่นิยมรถและความเร็ว ไม่น่าแปลกใจที่ฆนากรจะทำหน้าแบบนั้นเมื่อเห็นของขวัญ

“คุณเมฆคงจะรู้ว่าของขวัญเป็นอะไร ถึงไม่ได้ทำท่าตื่นเต้น” ขจรเกียรติมองของขวัญด้วยสายตาอ่อนใจ

“ใครจะตื่นเต้นไหว ก็เล่นให้รถแบบนี้ทุกปี” สุณีถอนหายใจอีกเฮือก นึกสงสารคุณเมฆของนางขึ้นมา “แล้วของขวัญจากคุณผู้หญิงล่ะ ยังส่งมาไม่ถึงหรือไง”

คำถามนั้นทำให้ขจรเกียรติ ยิ้มกว้าง สีหน้าเซ็งๆเมื่อครู่เลือนหาย นั่นทำให้ผู้เป็นภรรยา มองหน้าสามีด้วยแววตาสดใสขึ้น

“ตาบ้านี่! แกบังอาจแกล้งคุณเมฆของฉันเหรอ” นางตีเผียะที่ต้นแขนสามีแรงๆ “รู้ทั้งรู้ ว่าคุณเมฆรอของขวัญของคุณผู้หญิง แกยัง...”

ขจรเกียรติหัวเราะลั่น คว้าเอวหนาๆของภรรยามากอดไว้ พร้อมกับแก้มฟอดใหญ่ สุณีค้อนขวับ ก่อนจะหัวเราะขึ้นบ้าง

ติ๊ด... ติ๊ด... ติ๊ด...

เสียงนั้นดังลั่นปลุกให้คนที่กำลังนอนหลับอยู่ สะดุ้งตื่น แสงสว่างจ้าลอดผ่านม่านหน้าต่างเข้ามาภายในห้อง ทำให้คนที่กำลังงัวเงียตื่นถึงกับตาพร่า จนต้องรีบกระพริบตาแรงๆ เมื่อหายตาลายก็หันไปคว้าโทรศัพท์ที่ส่งเสียงลั่นขึ้นมากดรับ

“วินท์ นี่ลูกอยู่ที่ไหน!” เสียงเอ็ดของมารดาทำให้ ความง่วงหายเกลี้ยง

“ผมอยู่บ้านเพื่อนครับ พอดี เอ่อ... เมื่อคืนเฮียเป๋งเขาเลี้ยง เลย...”

นภวินท์ตอบคำถามมารดาด้วยเสียงตะกุกตะกัก เมื่อมีมือของใครคนหนึ่ง ที่นอนอยู่ข้างๆ กำลังลูบไล้แผ่นอกเปลือยเปล่าของตนเองอยู่ เขาหันไปทำตาดุๆ อีกฝ่ายหัวเราะคิกยังราวีไม่เลิก มือบางเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ จนต้องตะครุบไว้

“แม่ครับ เอ่อ... เดี๋ยวผมจะรีบกลับครับ”

เขารีบตัดบทสนทนา เกรงมารดาจะได้ยินเสียงของใครที่ยืนหน้าเข้ามาใกล้

“แม่แค่โทรมาบอกว่า หนูปลายเขาไม่อยู่แล้วนะ เขาตามลุงอินไปตั้งแต่เมื่อวาน เขาฝากแม่ให้บอกวินท์ว่า ไม่ต้องเป็นห่วงเขา ตามสบาย

พูดจบคุณรจนาก็วางสายทันที คำพูดที่ปลายรุ้งฝากไว้ ฟังดูคล้ายเจ้าตัวกำลังเหน็บแนมเขาอยู่ นภวินท์ขยับลุกขึ้นนั่ง เขารีบกดเช็ครายการโทรของเมื่อวาน มีสายของปลายรุ้งเข้ามา แต่ใครเป็นคนรับสาย เขาจำได้ว่าฝากโทรศัพท์ไว้กับเพื่อนคนหนึ่ง และเพื่อนคนนั้นคงหวังดีรับสายให้แน่แท้

“เมื่อคืนน้องสาวพี่โทรมา ลิลลี่เลยบอกว่าไม่ต้องห่วง ลิลลี่ดูแลพี่อยู่” เสียงแหลมๆของสาวสวยข้างกาย เฉลยคำตอบให้ฟัง

เจ้าหล่อนเป็นหญิงสาวที่เขาพบในผับเมื่อคืน ความเมาบวกกับลูกยุของเพื่อน ทำให้นภวินท์ลองเข้าไปสีเล่นๆ แต่สาวเจ้ากับเล่นด้วยโดยแทบไม่ต้องออกแรง ก่อนจะพากันมาจบที่คอนโดของเขา นภวินท์นึกเสียใจที่เขามัวแต่สนุกสนานจนลืมปลายรุ้ง เธอคงโทรมาหาเมื่อรู้ว่าเขากำลังทำอะไรก็เลยไม่รบกวน ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ รู้สึกเซ็งจัด เขาสลัดผ้าห่มที่พันกายออก พร้อมๆกับสลัดปลาหมึกสาว ที่พัวพันยุกยิกรอบตัวเขาด้วย ร่างสูงเดินตัวเปล่าหายเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อกลับมาอีกครั้ง แม่สาวบนเตียงแต่งตัวเสร็จแล้ว โดยไม่เสียเวลาอาบน้ำสักนิด

“ให้ผมไปส่งไหม” นภวินท์เอ่ยถาม

“ไม่เป็นไรค่ะ ลิลลี่เรียกเพื่อนมารับแล้ว” เจ้าหล่อนยักไหล่ปฎิเสธ ดวงตาคู่สวย ที่ตกแต่งด้วยขนตาปลอม มองหน้าเจ้าของห้องด้วยแววตาหวานหยด “ คืนนี้เจอกันที่เดิมนะคะ ลิลลี่ไปล่ะ”

หญิงสาวเขย่งตัว โน้มคอของคนตัวสูงลงมา แตะริมฝีปากบนแก้มสากๆทีหนึ่ง ก่อนจะโบกมือลา แล้วพาร่างอวบอัดของตัวเองออกไปจากห้อง ทิ้งให้เจ้าของห้อง ยืนนิ่งในท่านั้นนานหลายนาที

“ปลาย... อย่าโกรธฉันนะ”

ชายหนุ่มทรุดตัวนั่งลงบนขอบเตียง ซบหน้าลงบนฝ่ามือ หัวใจไหววูบ ความรู้สึกผิดพุ่งเข้ากระแทกหัวใจจนชาหนึบ ครั้งนี้เขาทำผิดอย่างมหันต์ ทั้งที่บอกกับปลายรุ้งแล้ว ว่าจะกลับมาฉลองด้วยกันที่บ้าน จะฟังเธอเล่นเปียโน

แต่เขากลับ...ลืมสัญญา

ร่วมสามเดือนที่ไม่ได้รับโปสการ์ดจากปลายรุ้ง ทำให้คุณรจนารู้สึกเป็นห่วงหญิงสาวมาก เดือนแรกที่เธอไปทำงานกับอินสรวง ยังมีโปสการ์ดรูปวิวสวยๆของปายส่งมาให้ทุกอาทิตย์ ทว่า... สามเดือนถัดมากลับไร้ข่าวคราวของจิตรกรสาวอีก ปลายรุ้งไม่เคยหายเงียบไปเฉยๆเช่นนี้มาก่อน ห่างที่สุดก็เพียงแค่เดือนเดียว แต่นี่ผ่านมาร่วมสามเดือนแล้ว โปสการ์ดสักใบอันเป็นเครื่องมือสื่อสารระหว่างกัน ไม่มีส่งมาถึงเลย

“วินท์ หนูปลายส่งเมลมาหาวินท์ บ้างหรือเปล่าลูก”

คุณรจนาตัดสินใจโทรหาลูกชาย ที่กำลังตระเวนถ่ายภาพสารคดีของเขาในต่างจังหวัด

“ไม่นี่ครับ มีอะไรหรือเปล่าครับแม่”

นภวินท์วางกล้องลงบนเตียง รามือจากการเช็คภาพชั่วคราว ขณะนี้เขาอยู่ในห้องพักของโรงแรมในจังหวัดอุบลราชธานี หลังจากเก็บภาพการแห่เทียนพรรษาตลอดช่วงเช้าถึงบ่ายเสร็จเสร็จ ชายหนุ่มก็กลับมาพักผ่อน เช็คภาพที่ถ่ายไว้ ก่อนจะเตรียมตัว กลับไปเก็บบรรยากาศในช่วงค่ำต่อ เสียงโทรศัพท์จากมารดาดังก้องขึ้น ทำให้เขาต้องรีบรับ

“วินท์ แม่เป็นห่วงหนูปลาย แกหายเงียบไปสามเดือนแล้วนะลูก เป็นอะไรไปหรือเปล่าก็ไม่รู้” น้ำเสียงของคุณรจนาฟังดูร้อนรน จนคนเป็นลูกรู้สึกได้

“ยายปลายเป็นแบบนี้ประจำ แม่ยังไม่ชินอีกเหรอครับ” เขาเอ่ยปลอบใจมารดา “แล้วแม่โทรไปหาลุงอินหรือยังครับ ยายปลายไปช่วยลุงอินเขียนรูปไม่ใช่เหรอครับ”

ข่าวสุดท้ายของปลายรุ้งที่นภวินท์รู้คือ หญิงสาวไปช่วยอินสรวงเขียนรูปตามออเดอร์จากชาวต่างชาติที่แกลลอรี่ของอีกฝ่ายที่แม่ฮ่องสอน ปลายรุ้งอาจจะทำงานเพลินจนลืมส่งโปสการ์ดให้มารดาก็เป็นได้ เขาสันนิษฐาน

“แม่โทรไปแล้ว ลุงอินเขาว่า มีลูกค้าเขาติดใจรูปของหนูปลาย เขาเลยจ้างให้หนูปลายไปเขียนรูปให้”

“ก็ดีนี่ครับแม่ ปลายเขาคงกำลังยุ่งๆมังครับ เลยไม่ได้ส่งข่าวให้แม่รู้”

สิ่งที่ลูกชายบอกทำให้คุณรจนาใจชื้นขึ้น แต่ความห่วงใยยังไม่จางจากใจ

“หนูปลายเขาไม่เคยเป็นแบบนี้นะลูก ลุงอินบอกว่านายจ้างของหนูปลาย เขาให้หนูปลายบินไปเขียนรูปที่บ้านของเขา หนูปลายเขาน่าจะติดต่อกลับมาบ้าง เงียบไปแบบนี้ แม่ชักใจไม่ดี”

ตอนนี้คนที่พลอยใจไม่ดีไปด้วยคือคนที่รู้เรื่อง นภวินท์วูบในหัวใจ รู้สึกห่วงเพื่อนสาวขึ้นมา แต่ยังแข็งใจปลอบมารดาไปว่า

“ปลายเขาไม่เป็นไรหรอกครับแม่ เดี๋ยวผมเสร็จงาน จะลองไปเช็คข่าวให้ แม่ทำใจให้สบายนะครับ”

“ถ้าได้ข่าวอะไร รีบบอกแม่นะลูก แม่กวนวินท์แค่นี้นะ ดูแลตัวเองด้วยลูก” คุณรจนาพูดจบก็วางสาย

นภวินท์มองโทรศัพท์ในมืออย่างชั่งใจ ก่อนจะกดโทรออก

“ลุงอินหรือครับ ผมมีเรื่องรบกวน เกี่ยวกับปลายครับ...”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • รุ้งปลายเมฆ   ตอนที่ 92.(จบ)

    “ตายยากจังวินท์ คิดถึงทีไร โทรมาทุกที” เธอรีบกดรับ ก่อนที่อีกฝ่ายจะวางสายไปก่อน “ไปไงวินท์ อื้อ... ใช่ปลายกับคุณเมฆกำลังจะไปที่บ้านพักที่จัน อะไรนะวินท์อยู่ที่นั่นเหรอ อีกสักชั่วโมงนะปลายกับคุณเมฆจะไปถึง อย่าแย่งกินกุ้งย่างหมดก่อนล่ะ”“นายวินท์ อยู่ที่รีสอร์ทเหรอ” ฆนากรถามคนที่เพิ่งกดวางสาย“ค่ะ บอกว่าพายายสิงห์ หลานเฮียเป๋งไปด้วย” ปลายรุ้งเล่าสิ่งที่ได้ยินให้สามีรับรู้ ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิม“ยายสิงห์ หลานเฮียเป๋งเป็นใครกัน” เขาขมวดคิ้ว แปลกใจชื่อประหลาดนั่นปลายรุ้งหัวเราะขำ ใครได้ยินชื่อเล่นของสิงหกัลยา เป็นต้องทำหน้าแบบนี้ทุกคน ผู้หญิงในประเทศไทยที่ชื่อสิงห์ จะมีสักกี่คน“เธอชื่อสิงหกัลยาค่ะ เป็นรุ่นน้องของปลายกับวินท์ที่มหาลัย ปลายเป็นพี่รหัสของยายสิงห์ เฮียเป๋งเจ้านายของวินท์เป็นน้าชายของยายสิงห์ นี่คงโดนเฮียเป๋งบังคับให้พายายสิงห์มาเที่ยวด้วยแหงๆ”“และคุณสิงห์ที่ปลายว่าเนี่ย หน้าตาเป็นยังไงสวยมั้ย”“สวยสิคะ ยายสิงห์แกเป็นลูกครึ่งไทยอิตาลี่ ขาวสูงหุ่นนางแบบเชียวแหละ เสียอย่าง...” ปลายรุ้งยิ้มแห้งๆ เมื่อนึกถึงวีรกรรมของสิงหกัลยา“เสียอะไร นิสัยหรือว่าอะไร” ฆนากรซักไซร้ เขาช

  • รุ้งปลายเมฆ   ตอนที่ 91.

    “ให้มันได้อย่างนี้สิวะ รับรองสิ้นปีเฮียแจกโบนัสไม่อั้น” เปรมศักดิ์ตบไหล่ช่างภาพหนุ่มแรง สีหน้าสดชื่นขึ้นทันตาเห็น“แล้วจะให้ใครไปเป็นล่ามให้ผม บอกก่อนนะว่าผมได้แค่ภาษาอังกฤษ ภาษาสเปนอิตาลี่เนี่ยผมไม่รู้สักคำ” นภวินท์ยังกังวลใจ“เรื่องนี้ไม่ต้องห่วง ฉันเตรียมผู้ช่วยให้แกแล้ว รับรองมีเซอร์ไพรซ์” เปรมศักดิ์หลิ่วตาให้ เขาหยิบโทรศัพท์มากดโทรหาใครบางคน“เออ... ไอ้วินท์มันรับปากแล้ว ไอ้ช่วงมันขาหักไปไม่ได้ เป็นไอ้วินท์ทำแทน รีบมารายงานตัวเลยนะ ไอ้วินท์มันอยู่ที่นี่แล้ว จะได้เตรียมแผนงานกันล่วงหน้า มาเลย มาเร็วๆ” พูดจบก็วางหู“ใครเหรอพี่ ที่หามาเป็นผู้ช่วยผม ที่สำนักพิมพ์เราไม่เห็นมีใครเก่งภาษาสเปนกับอิตาลี่สักคน” นภวินท์อยากรู้เหลือเกิน ว่าผู้ช่วยเขาเป็นใคร“น่าเดี๋ยว มาถึงแกก็รู้เอง” เปรมศักดิ์เอ่ยยิ้มๆราวครึ่งชั่วโมง ประตูห้องของบรรณาธิการฝ่ายบริหารก็ถูกเคาะ เมื่อได้ยินเสียงอนุญาตคนเคาะก็เปิดประตูเข้ามา นภวินท์หันไปมองพร้อมกับลุ้นตัวโก่ง คนที่เดินเข้ามาส่งยิ้มมาแต่ไกล“ดีจ้า น้าเป๋ง เฮียวินท์” เสียงใสแจ้ว ราวกับระฆังแตก ทักทายคนในห้องร่างสูงเพรียวในชุดกระโปรงยาวกรอมเท้าลวดลายแบบยิปซี มีเ

  • รุ้งปลายเมฆ   ตอนที่ 90.

    “อย่าคิดอะไรแบบนั้นอีกนะ คนดี”เขาแย้มริมฝีปากมอบรอยยิ้มแสนอบอุ่น ดวงตาคมทอประกายอ่อนหวาน ขณะก้มลงแตะริมฝีปากบนหน้าผากเนียน บนเปลือกตาทั้งสอง บนจมูกโด่งเล็กนั้น ก่อนจะกดริมฝีปากบนเรียวปากนุ่มหนักๆ“ปลาย... คุณคือผู้หญิงคนแรก คนเดียวในชีวิตผม”ชายหนุ่มทอดเสียงนุ่ม เอ่ยช้าและชัดเจน คลื่นความอบอุ่นไหลรินสู่หัวใจคนฟัง ปลายรุ้งหลับตาลงปล่อยให้ตัวเองซึมซับทุกถ้อยคำนั้นไว้ในหัวใจ ไม่มีคำว่ารักสักคำสิ่งที่สัมผัสนั้นมากกว่าคำว่ารักหญิงสาวแทบไม่รู้ตัวว่าร่างของตัวเอง ถูกเขาโอบประคองพามาถึงระเบียงริมน้ำบ้านของป้ารจตั้งแต่เมื่อไหร่“คุณพาปลายมาที่นี่ทำไมคะ ดึกแล้ว” น้ำเสียงของเธอช่างแผ่วพร่า เหลือเกินเมื่อเอ่ยถามเขาฆนากรยิ้มละมุน เขาประคองร่างบางให้นั่งบนผ้านวมหนาที่ปูไว้บนพื้นไม้ ดวงไฟสีนวลถูกเปิดไว้เพียงดวงเดียว บรรยากาศยามนี้เงียบสงบเย็นสบาย ท้องฟ้ากระจ่างนวลตาด้วยแสงจันทรา สายลมพัดพาความสดชื่นของแม่น้ำมากระทบกายแผ่วๆ สองร่างทอดกายนอนเคียงกัน ศีรษะเล็กหนุนท่อนแขนแข็งแรงของคนตัวโตต่างหมอน“เวลาผมเหงาหรือคิดอะไรไม่ออก ผมจะหอบผ้านวมมานอนดูดาว ดูดวงจันทร์แบบนี้” มือหนากุมมือเรียวไว้ในอุ้งมืออุ่น

  • รุ้งปลายเมฆ   ตอนที่ 89.

    “มีอะไรก็ผัดๆรวมกันมาเถอะ ฉันหิวแล้วนะ” ปลายรุ้งพูดแก้เก้อมือบางจับหน้าอกข้างซ้ายตัวเองที่กำลังเต้นรัวแรงด้วยความตกใจ ทำไมเธอต้องใจสั่นแบบนี้ด้วยนะ หญิงสาวมองร่างสูงใหญ่ ที่กำลังหั่นผัก เตรียมทำอาหารให้เธอด้วยสายตาไม่เข้าใจ เธอไม่เคยเกิดความรู้สึกแบบนี้กับนภวินท์มาก่อน เขาเคยจับมือโอบไหล่หลายครั้ง ทุกครั้งไม่เคยรู้สึกแบบนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ปลายรุ้งหาคำตอบให้ตัวเองไม่พบ“เสร็จแล้ว ข้าวผัดไส้กรอกของเชฟกระทะเหล็ก”ข้าวผัดไส้กรอกหอมน่าอร่อยถูกวางตรงหน้า ปลายรุ้งมองคนทำที่ภูมิใจนำเสนออาหารของตน ก่อนจะหยิบช้อนมาตักเข้าปาก ตาโตๆของจิตรกรสาวโตกว่าเดิม เมื่อพบว่ามันอร่อยเหลือเชื่อ รีบตักอีกคำเข้าปาก จากนั้นก็ไม่สนใจสายตาที่จ้องมองอีก“อร่อยใช่ไหม”ดวงตาคมจ้องหน้าเธอนิ่งริมฝีปากหยักโค้งเจือสีแดงสดขยับแย้ม ก่อนที่มือหนาจะยื่นมาแตะมุมปากหญิงสาว หยิบเม็ดข้าวที่ติดออกมาส่งเข้าปากตัวเองหน้าตาเฉย“อื้อ... อร่อยจริงๆด้วย”ปลายรุ้งอ้าปากค้าง มองคนที่กำลังกินข้าวด้วยความตกใจ หน้าร้อนผ่าวกับการกระทำของอีกฝ่ายคนบ้าอะไรกินข้าวติดปากคนอื่นได้ด้วย“นี่น้ำเดี๋ยวสำลักตาย ขี้เกียจผายปอด”เขาหัวเราะเบาๆ

  • รุ้งปลายเมฆ   ตอนที่ 88.

    “ฉันมีอะไรจะบอกนายแผนสักอย่าง”เฟอร์นันโดขยับเข้าไปใกล้นายแผน เขาก้มศีรษะป้องปากกระซิบบางอย่างที่หูของอีกฝ่าย บอดี้การ์ดของภัทรมือสั่นระริก หันมามองหน้าคนพูดก่อนจะพยักหน้าช้าๆ แววตาอ่อนแสงลง“ไอ้สุริยะ ฉันไม่จำเป็นต้องฆ่าคนที่ตายแล้วอย่างแก ให้มือฉันต้องเปื้อนเลือดสกปรก แกกำลังจะได้รับกรรมของแกแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า...”ร่างใหญ่ตัวของแผนขยับออกห่าง พร้อมกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เสียงหัวเราะบาดหัวใจคนฟังเหลือเกิน จนทนไม่ไหว“แกหัวเราะอะไรกัน นี่แกไม่ฆ่าฉันแล้วใช่ไหม”“ฉันไม่ฆ่าแกหรอก ถ้าแกตายแกจะไม่ได้ลิ้มรสความเจ็บปวด ของการตายทั้งเป็น”นายแผนหยุดหัวเราะ ดวงตาดำใหญ่จ้องหน้าเขาด้วยแววตาสมเพช ก่อนจะเอ่ยประโยค ที่ทำให้สุริยะต้องช็อคตาตั้ง“แกจำผู้หญิงสวยๆ ชุดแดง ที่งานเลี้ยงของคุณเฟอร์นันโดได้ไหม เธอเป็นเอดส์!”“แกพูดบ้าอะไร ฉันไม่เชื่อแกหรอก ถึงผู้หญิงคนนั้นจะเป็นเอดส์ แต่ฉันไม่เคยนอนกับผู้หญิงโดยไม่ป้องกัน” เขาค้านเสียงหลง“หึ... ป้องกันเหรอ คืนนั้นแกเมา แกลืมป้องกัน แกกำลังจะตายไอ้สุริยะ ตายด้วยความมักมากในกามของแกไงล่ะ” นายแผนตอกย้ำอีกครั้งสุริยะทบทวนความทรงจำก่อนจะใจหายวาบชาไปทั้งตัว คืนน

  • รุ้งปลายเมฆ   ตอนที่ 87.

    นภวินท์ยิ้มบางๆ ตบบ่าพี่ชายแรงๆ “อย่าคิดมากสิ ยายปลายน่ะขี้เหงา อีกไม่เกินอาทิตย์ ต้องรีบแล่นกลับมาหาพวกเราแน่” เขามั่นใจเหลือเกิน“นายเข้าใจปลายดีนี่ สมแล้วที่ปลายรักนาย”ฆนากรมองหน้าน้องชายด้วยแววตาเศร้า ชายหนุ่มเฝ้ามองปลายรุ้งกับนภวินท์ อย่างเงียบๆ ตั้งแต่กีรดารินทร์จากไป ปลายรุ้งพาตัวเองเข้าไปใกล้ชิดกับนภวินท์ จนไม่สนใจเขาเลย เขาพยายามจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าปลายรุ้งรักเขา แต่ท่าทีที่จิตกรสาวปฏิบัติต่อนภวินท์ ทำให้ฆนากรต้องถอยกลับมาอยู่ในมุมมืดของตัวเอง พ่อกับแม่และน้องชายกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่ฆนากรกลับรู้สึกว่าตัวเองเหมือนอากาศที่ไม่มีใครสนใจ แม่เอาใจใส่ดูแลพ่อที่ไม่ค่อยสบาย ส่วนปลายรุ้งขลุกอยู่กับนภวินท์แทบเป็นเงาของกันและกัน ตัวเขาต้องรับภาระดูแลบริษัทแทนบิดา เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับงาน เมื่อมีเวลาส่วนตัวเขาอยากใช้มันกับปลายรุ้ง แต่หญิงสาวกลับออกเดินทางท่องเที่ยว โดยไม่บอกลาเขาสักคำ เหมือนเขาไม่ใช่คนที่เธอเห็นความสำคัญอีก“ใช่ ฉันกับปลายเรารักกัน เรารักกันมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่นายจะได้รู้จักกับเธอ”นภวินท์มองอาการคอแข็งของพี่ชายอย่างขบขัน ฆนากรไม่เคยเปลี่ยนนิสัยชอบคิดเองเออเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status