ประเทศไทย
บริษัท คานิก กรุ๊ป จำกัด
มินตราเดินทางมาถึงประเทศไทยและเธอไม่รอช้าที่จะรีบเข้าไปรายงานตัวที่บริษัท เธอรีบเดินตรงไปที่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ทันที
“ขอโทษค่ะ ดิฉันมาพบท่านประธาน คุณแอนโทนี่ คานิก ค่ะ”
“ไม่ทราบว่าได้นัดไว้ไหมคะ”
“ดิฉัน มินตรา ชาร์ค ค่ะ บริษัทแม่ที่ไมอามี่ส่งมาค่ะ”
“อ๋อ สวัสดีค่ะคุณมินตรา เชิญที่ชั้น 35 ได้เลยนะคะ”
ร่างบางส่งยิ้มให้พนักงานที่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์เล็กน้อยก่อนจะเดินตรงไปที่ลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังชั้น 35 ตามที่พนักงานคนนั้นได้แจ้ง เมื่อมาถึงชั้น 35 ก็ถึงกับทำให้เธองุนงง เพราะทั้งชั้นเงียบกริบมีเพียงพนักงานสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ที่หน้าห้อง เธอจึงเดินเข้าไปหาพนักงานคนนั้น
“สวัสดีค่ะ ดิฉันมินตรา ชาร์ค ที่นัดเอาไว้ค่ะ”
“สวัสดีค่ะคุณมินตรา เดี๋ยวฉันไปเรียนท่านประธานให้ค่ะ”
หญิงสาวส่งยิ้มให้เธอพร้อมกับเดินไปเปิดประตูห้องทำงานนั้น
“ท่านประธานคะ คุณมินตรามาถึงแล้วค่ะ”
“อืม...ให้เข้ามาได้”
สิ้นเสียงอนุญาตเธอได้เชิญให้มินตราเข้าไปภายในห้อง
“เชิญค่ะคุณมินตรา”
“ขอบคุณค่ะ”
วันนี้เป็นวันที่ผมเซ็งที่สุดเมื่อต้องเข้าบริษัทแต่เช้า แค่เลขาคนเก่าของผมลาคลอดพ่อถึงกับต้องส่งเลขาคนใหม่มาช่วยงานผมชั่วคราวเลยเหรอ ทั้งที่ผมบอกไปแล้วว่าไม่ต้อง ผมสามารถจัดการเองได้แต่พ่อก็ไม่ยอม สุดท้ายผมก็เลยต้องมานั่งเซ็งรอคุณเลขาที่พ่อส่งมาให้อยู่แบบนี้
เสียงเปิดประตูดังขึ้นพร้อมเสียงบอกเล่าของผู้ช่วยสาวสวยของผมว่าเลขาคนนั้นที่พ่อส่งมาเดินทางมาถึงแล้ว คนที่เห็นตรงหน้าตอนนี้ผิดคาดกับที่ผมคิดไว้เยอะมาก ตอนแรกที่พ่อบอกผมนึกว่าเธอจะอายุมากกว่าผม แต่ที่เห็นตอนนี้ดูยังไงก็น่าจะอายุน้อยกว่าผมหลายปี แถมยังสวย เซ็กซี่ ตาคม ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาว ผมสีดำที่ยาวสลวยยิ่งขับให้ดวงหน้านั้นดูโดดเด่น อกเป็นอก เอวเป็นเอว สวยน่าฟัดชะมัดเลย
“สวัสดีค่ะ ดิฉันมินตรา ชาร์ค มารายงานตัวค่ะ”
“ครับ ผมแอนโทนี่ คานิก เป็นเจ้านายของที่นี่”
ร่างสูงทักทายกลับแต่ดวงตาของเขากลับจ้องอีกคนอย่างไม่ละสายตาจนทำให้มินตรารู้สึกทำตัวไม่ถูก
“เอ่อ ที่หน้าดิฉันมีอะไรติดอยู่หรือเปล่าคะ”
“อ๋อ เปล่า ผมแค่สงสัยน่ะ นึกว่าเลขาของคุณพ่อจะอายุเยอะกว่านี้ แต่คุณยังดูเด็กอยู่เลย ทำงานกับพ่อผมมานานแค่ไหนแล้ว”
“5 ปีแล้วค่ะ”
“5 ปี ถือว่านานทีเดียว ผมขอเสียมารยาทถาม คุณอายุเท่าไหร่ครับ”
“ปีนี้ก็ 26 ปีแล้วค่ะ”
“อายุแค่นี้แต่กลับได้ตำแหน่งเลขาของพ่อผมมาครอบครองตั้งแต่เรียนจบแสดงว่าคุณต้องเก่งมากแน่ๆ”
เขาเอ่ยชม เพราะหาได้ยากมากที่คนอายุเพียงแค่นี้จะได้เข้ามาเป็นเลขาของพ่อตัวเอง
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ” เธอเอ่ยอย่างถ่อมตัว
“เอาล่ะ คุณเริ่มงานวันนี้ได้เลยไหม”
“ได้เลยค่ะ ดิฉันพร้อม” เธอตอบออกไปอย่างมั่นใจ
“ดี งั้นตอนบ่ายผมมีประชุม คุณเตรียมตัวเข้าประชุมกับผมด้วย”
“ได้ค่ะ”
“งั้นเชิญที่โต๊ะทำงานได้เลยครับ ยินดีที่ได้ร่วมงานกันนะครับคุณเลขา”
“เช่นกันค่ะ ดิฉันขอตัวนะคะ”
บทสนทนาระหว่างทั้งคู่จบลง หลังจากคนตัวเล็กหันหลังเดินออกจากห้องไป ร่างสูงไม่รอช้า เขาล้วงหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออกหาผู้เป็นพ่อทันที
(โทรมาไวเชียวนะไอ้ลูกชาย) ปลายสายทักขึ้นคำแรกเมื่อกดรับสาย
“พ่อคิดจะทำอะไรครับ”
(หึ! เปล่านิ)
“พ่อคิดว่าผมรู้ไม่ทันพ่อรึไง”
(รู้ทันแล้วยังไง แกคิดว่าแกสามารถทำสำเร็จได้ไหมล่ะ)
“หึ! สบายมากครับ ผมมันเสือที่ยังมีเขี้ยวเล็บนะครับไม่ใช่เสือที่ถอดเขี้ยวถอดเล็บแล้วเหมือนพ่อ”
(ฮ่า ฮ่า ฉันจะคอยดู แต่มีข้อแม้นะ ฉันให้เวลาแกจีบหนูมินแค่ 2 เดือนเท่านั้น ถ้าจีบไม่ติดแกต้องยอมหมั้นกับคนที่ฉันหาให้)
“ได้ครับ แค่นี้สบายมาก แค่อาทิตย์เดียวก็เสร็จผมแล้ว”
(แล้วฉันจะคอยดู)
“โอเค แค่นี้ก่อนนะครับผมเตรียมตัวเข้าประชุมก่อน”
สิ้นเสียงสนทนา แอนโทนี่นั่งเอนหลังกับเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่พลางยิ้มออกมาด้วยความเจ้าเล่ห์
ด้านนอกหน้าห้องทำงานของแอนโทนี่ นอกจากจะมีมินตรานั่งอยู่ที่โต๊ะประจำของเลขาแล้วยังมีหญิงสาวอีกคนซึ่งเป็นผู้ช่วยนั่งอยู่อีกโต๊ะข้างกัน
“สวัสดีจ้ะ พี่ชื่อมินนะ เราชื่ออะไรเหรอ”
“หนูชื่อฟ้าค่ะ เป็นผู้ช่วยค่ะ ฝากตัวด้วยนะคะ”
“พี่ต่างหากที่ต้องฝากตัวเพราะถือว่ายังใหม่สำหรับที่นี่”
“ไว้เราช่วยแนะนำกันและกันนะคะพี่มิน”
“ได้เลยจ้า ทำงานกันเถอะเนอะ”
สองสาวนั่งทำงานตามหน้าที่ต่อไป ส่วนมินตรานั้นกำลังจัดเตรียมเอกสารต่างๆ เพื่อรอเข้าประชุมตามที่ผู้เป็นเจ้านายได้บอกเอาไว้
หลังจากทำเรื่องฝากครรภ์แบบพิเศษเสร็จเรียบร้อย และได้รับคำแนะนำต่างๆ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง แอนโทนี่ก็ได้พาคนตัวเล็กกลับมาที่คอนโดเพื่อเตรียมตัวเดินทางไปเยี่ยมผู้เป็นพ่อที่มหานครไมอามี่“ตื่นเต้นจังเลยค่ะ มินไม่ได้กลับไมอามี่นานแล้ว คิดถึงทุกคนที่นั่นจัง”“ตั้งแต่คุณพ่อรู้ว่าคุณท้องก็เตรียมของรับขวัญหลานไว้แบบอลังการแล้วครับ”“คุณพ่อนี่ชอบทำอะไรยิ่งใหญ่ตลอดแหล่ะค่ะ ตอนที่มินเป็นเลขาให้ท่านก็เป็นแบบนี้”“ผมพาคุณนั่งเจ็ตส่วนตัวไปนะครับ ไม่อยากให้เมียผมต้องไปเบียดกับคนเยอะแยะ”แอนโทนี่พูดพลางเดินเข้ามาโอบกอดภรรยาไว้แน่น ปกติเขาก็ดูทั้งห่วงทั้งหวงคนตัวเล็กอยู่แล้ว แล้วนี่ยิ่งเธอตั้งท้องเขายิ่งไม่ยอมห่างจากคนตัวเล็กเลย“คุณไม่ต้องพยุงมินตลอดก็ได้ มินเดินเองได้ค่ะ”“ไม่ได้สิผมเป็นห่วง”“อย่าเวอร์ได้ไหม มินแค่ท้องนะไม่ได้เจ็บป่วยหรือเป็นง่อย”ร่างสูงพยุงคนตัวเล็กอยู่ข้างๆ ไม่ยอมปล่อยจนเธอเริ่มจะหงุดหงิด เธอแค่ท้อง ไม่ได้เจ็บป่วยหรือเป็นง่อยสักหน่อย เขาก็ทำเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้ ตั้งแต่ที่รู้ว่าเธอท้อง แอนโทนี่ก็เห่อมาก เขาตระเตรียมซื้อเสื้อผ้า และของเล่นไว้ให้ลูกทั้งที่ยังไม่รู้เพศเสียด้
งานแต่งของทายาทแห่งคานิก กรุ๊ปถูกจัดขึ้นที่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวใจกลางเมือง ภายในงานเต็มไปด้วยนักธุรกิจและผู้มีอิทธิพลมากมายที่มาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว โดยมีท่านประธานใหญ่แห่งคานิก กรุ๊ป นั่งอยู่ด้านหน้าเวทีเป็นประธานของงานในวันนี้“ยินดีกับมึงด้วยที่ลงเอยได้สักทีโทนี่”ราฟาแอลที่เดินเข้ามาพร้อมกับแอลลีน่าน้องสาวของเขาพูดขึ้น พวกเขาเป็นเพื่อนกันมานาน วันนี้เป็นอีกวันที่เขาดีใจกับเพื่อนคนนี้มากจริงๆ“ขอบใจมากมึง สำหรับทุกเรื่องที่คอยช่วยเหลือกูมาตลอด”“แอลยินดีด้วยนะคะ วันนี้พี่มินสวยมาก ฝากดูแลพี่โทนี่ด้วยนะคะ”“ขอบใจจ้ะ น้องแอล เดี๋ยวเจอกันในงานตอนถ่ายรูปนะจ๊ะ”ทั้งคู่ยืนต้อนรับแขกที่หน้างานอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง เมื่อถึงเวลาเริ่มพิธี ทางพิธีกรจึงได้ประกาศเชิญคู่บ่าวสาวขึ้นบนเวที เพื่อกล่าวความในใจที่มีต่อกันและดำเนินพิธีการไปตามขั้นตอนที่ได้เตรียมไว้“ผม แอนโทนี่ คานิก ขอรับคุณมินตรา ชาร์ค เป็นภรรยาของผม ผมสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามทุกข์ยาก ในยามเจ็บไข้และสบายดี ผมจะรักคุณและให้เกียรติคุณตลอดชั่วชีวิตของผม”“ดิฉัน มินตรา ชาร์ค ขอรับคุณแอนโทนี่ เป็นสามีของดิฉัน ด
มินตราเดินเข้ามาในห้องพักพร้อมกับแอนโทนี่หลังจากที่ทุกคนกินข้าวเสร็จและแยกย้ายกันไปพักผ่อน ประตูห้องถูกปิดลง ร่างสูงไม่รอช้า เขาคว้าคนตัวเล็กเข้ามากอดไว้แน่นก่อนที่จะบดเบียดริมฝีปากหนาเข้าหาริมฝีปากบาง“อื้อออ...”ลิ้นร้อนลุกล้ำเข้าไปกวาดชิมความหอมหวานจากโพรงปากบางจนพอใจจึงค่อยๆผละออกก่อนจะเอ่ยปากร้องขอบางอย่างจากคนตัวเล็ก“ขอมัดจำไว้ก่อนจนกว่าจะถึงวันแต่งงานได้ไหมครับที่รัก”เป็นคำร้องขอที่ไม่รอการอนุญาต ปากหนาค่อยๆไล่ขบไปที่ติ่งหู ซึ่งเป็นจุดกระสันอีกจุดที่สร้างความอ่อนระทวยให้คนตัวเล็กได้เป็นอย่างดีเขาลากไล่ลิ้นร้อนลงมาถึงเนินอกที่ขาวเนียน ที่ถูกมือซุกซนปลดเสื้อผ้าที่ปกปิดมันเอาไว้ออกหมดแล้ว ปากหนาครอบครองดูดดุนมันราวกับขนมหวานแสนอร่อย“อ๊ะ...อื้อ....เสียว...อื้อ....”เสียงครางนั้นเร้าอารมณ์ของเขาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แอนโทนี่ค่อยๆ ไล่เลียลิ้นร้อนลงมาจนถึงช่องทางสีกุหลาบสีแดงระเรื่อ มันช่างเชิญชวนให้เขาเชยชิมความหอมหวานจากกลีบกุหลาบนั้นเสียจริง---แผล่บ---“อร๊ายยย!!!...ตะ...ตรง...นั้น”“หวาน...หวานไปทั้งตัว...อื้มมม”“อ๊ะ...อ๊ะ”มือเล็กกำกลุ่มผมที่ดกดำไว้แน่นด้วยความเสียวซ่านท
“ไอ้คริส กูอยากให้มึงช่วยจัดเตรียมเรื่องอะไรบ้างอย่างหน่อย”“วางมาได้เลย มีอะไร”“กูอยากขอมินตราแต่งงานที่โรงแรมของมึงวันที่พวกเราจะไปเชียงใหม่ ฝากด้วย”“เห้ย!!! เอาจริงดิ สรุปกับคนนี้แน่นอนแล้วใช่ไหม”“เออ! กูไม่อยากปล่อยเวลาให้มันนานไปมากกว่านี้ ฝากด้วย แล้วเดี๋ยวรอเจอกันที่เชียงใหม่เลย”หลังจากวางสายแอนโทนี่ก็เดินเข้าไปส่องดูคนตัวเล็กที่อยู่ในห้องนอน แต่เธอกลับยังไม่ตื่น เขารู้สึกสงสัยมาสักพักแล้ว ช่วงนี้มินตราดูแปลกไป อารมณ์แปรปรวนไม่คงที่ ดูอ่อนเพลียและนอนทั้งวัน“มิน มินครับ ตื่นได้แล้ว”“อื้อ...”คนตัวเล็กค่อยๆ ลืมตาขึ้นเมื่อโดนอีกคนปลุก ไม่รู้ว่าเธอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนไหน แต่เธอรู้สึกเพลียและง่วงเหลือเกิน ตอนนี้ก็เช่นกัน ทั้งที่เพิ่งจะตื่นแต่ก็ยังรู้สึกง่วงไม่หาย“คุณแปลกๆ ไปนะช่วงนี้ ดูอ่อนเพลีย ไปหาหมอหน่อยไหมครับ ผมพาไป”“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มินคงเหนื่อยสะสมมาหลายวัน พักอีกหน่อยคงจะดีขึ้น เดี๋ยวมินไปอาบน้ำให้สดชื่นดีกว่าค่ะ”“ครับ อาบน้ำเสร็จมากินข้าวนะครับ ผมเตรียมไว้รอ”“ค่ะที่รัก”เธอเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างอ้อยอิ่ง ร่างบางเปิดน้ำอุ่นใส่อ่างแล้วลงไปนอนแช่อยู่ครู่ใหญ่ อุ
“นายครับ ผมพาคนนั้นมารอที่ห้องทำงานของนายแล้วนะครับ”ปลายเสียงพูดขึ้นทันทีเมื่อแอนโทนี่กดรับสาย เขาไม่รอช้าที่จะถามกลับว่าคนผู้นั้นเป็นใคร คนที่กล้าทำเรื่องรุนแรงขนาดนี้“ใคร?”“นายมาดูเองดีกว่าครับ”“ได้ รอแป๊บฉันกำลังไป”หลังจากวางสาย เขารีบปลุกคนตัวเล็กให้ตื่น เพราะตัวเขาเองรอไม่ไหวแล้ว เขาอยากจะเห็นหน้าของคนที่ก่อเรื่องวุ่นวายนี้เต็มทน“ที่รักครับ ตื่น ไปบริษัทกันครับ”“มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมไปแต่เช้าจัง”“ผมจะพาคุณไปดูหน้าตัวการที่ก่อเรื่องวุ่นวายทั้งหมด รีบไปอาบน้ำเถอะครับ”คนตัวเล็กดีดผึงขึ้นจากเตียง เธอเองก็อยากรู้เต็มประดาว่าคนที่ก่อเรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นใคร และมีเหตุผลอะไรที่มาทำร้ายเธอแบบนี้ที่คานิก กรุ๊ป ห้องทำงานของแอนโทนี่ เมื่อเขาและมินตราเดินเข้ามาถึงภายในห้อง กลับเจอเพียงแค่ลูกน้องของแอนโทนี่สองคนและฟ้าที่นั่งก้มหน้าอยู่บนโซฟา“อ้าว ไหนล่ะคนที่ว่า แล้วทำไมฟ้าถึงมานั่งอยู่ในนี้”มินตราถามออกไปด้วยความสงสัย“ผู้หญิงคนนี้แหล่ะครับที่เป็นคนทำเรื่องทั้งหมด ทั้งเรื่องปล่อยข่าว เพจแอนตี้ โทรศัพท์ข่มขู่ และกล่องพัสดุนั่นล้วนแต่เป็นฝีมือของเธอ”มินตราตกใจกับสิ่งที่ได้ย
วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่มินตรารู้สึกเหนื่อยล้ามากกว่าปกติ เหตุการณ์ที่เธอได้เจอเมื่อตอนกลางวันนั้น นึกไม่ออกเลยว่าถ้าไม่มีแอนโทนี่เธอจะจัดการกับมันได้อย่างไร“กลับกันเถอะครับวันนี้คุณเหนื่อยมามากแล้ว”ร่างสูงเอ่ยขึ้นเมื่อเดินออกมาจากห้องทำงาน เขาเห็นคนตัวเล็กกำลังจะปิดคอมพิวเตอร์และวุ่นวายอยู่กับการเก็บของบนโต๊ะทำงาน“คุณฟ้า คุณเองก็กลับไปแล้วครับ เลยเวลามามากแล้ว”“ค่ะท่านประธาน งั้นฟ้าขอตัวกลับนะคะ ฟ้ากลับก่อนนะพี่มิน เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ”“โอเคจ้ะ เจอกันพรุ่งนี้ ขับรถดีๆ นะจ๊ะ”วันนี้ทั้งคู่ตกลงจะไปนอนค้างที่คอนโดของมินตรา ซึ่งก่อนกลับทั้งคู่ได้พากันแวะกินมื้อเย็นที่ร้านอาหารใกล้บริษัทเรียบร้อยแล้ว เมื่อกลับถึงคอนโด แอนโทนี่จึงได้เข้าไปอาบน้ำก่อนเพราะคนตัวเล็กนั่นต้องเช็ดเครื่องสำอางค์และทำอะไรต่างๆนานาตามประสาผู้หญิงสายเรียกเข้าดังขึ้นจากโทรศัพท์มือถือของมินตรา เป็นเบอร์แปลกที่ไม่คุ้นมาก่อน เธอรีบกดรับสายทันที“สวัสดีค่ะ โทรจากไหนคะ”“เลิกยุ่งกับแอนโทนี่ซะ”ปลายสายที่ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูน่ากลัวเป็นเสียงแหลมเล็กของผู้หญิงปริศนาคนหนึ่ง“เธอเป็นใคร”“ไม่สำคัญว่าฉันเป็นใคร แต่ฉันข
“อ้าวแอลลีน่าเองเหรอ รู้จักกันไว้สินี่พี่มินตรา มินตรานี่แอลลีน่าน้องสาวไอ้ราฟ”“อ้าว นี่น้องสาวคุณราฟหรอกเหรอคะ สวัสดีค่ะน้องแอลลีน่า ยินดีที่ได้พบนะคะ”“สวัสดีค่ะพี่มิน เรียกแอลเฉยๆก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้พบเช่นกันนะคะ”หญิงสาวผู้มาใหม่ส่งยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร เธอดูเป็นคนน่ารัก พูดเก่งและอัธยาสัยดีเอาเสียมากๆ“แล้วนี่มาหาพี่ทำไม มาเฉยๆหรือมาเรื่องงาน”“พี่ราฟให้มาถามเรื่องงาน โครงการที่จะเปิดใหม่ที่ภาคเหนือแล้วก็อยากมาเจอว่าที่พี่สะใภ้ด้วย เห็นพี่ราฟเล่าให้ฟังว่าคนนี้รักนักรักหนา”แอลลีน่าเอ่ยแซว“เด็กรู้มาก” แอนโทนี่ตอบกลับ“พี่มินขา เที่ยงแล้ว น้องแอลขอไปกินข้าวด้วยได้ไหมคะ”“ได้เลย ยินดีมากๆจ้ะ ไปกินหลายคนสนุกออก”“อ้าว ลุกสิพี่โทนี่ คือที่บอกว่าจะไปกินข้าวด้วยเนี่ยหมายถึงว่าให้พี่ไปเลี้ยงนะเร็วสิ”แอลลีน่าสำหรับเขาแล้วเขารักและห่วงราวกับน้องสาวแท้ๆ เพราะเห็นเธอมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่แปลกที่เขากับแอลลีน่าจะดูสนิทกันแอนโทนี่พาทั้งคู่ไปกินข้าวที่ร้านอาหารของแทนไท ซึ่งเป็นร้านที่อยู่นอกเมืองไม่ไกลนัก แต่บรรยากาศภายในร้านตกแต่งอย่างสวยงามสร้างความตื่นตาตื่นใจกับมินตราเป็นอย่างมากหลังจาก
“ว่าไงไอ้คริส”“โกดังเก็บไม้ของกู ห่างจากโรงแรมไปทางทิศเหนือ 10 กิโลเมตร มาตอนนี้”“โอเค 10 นาทีถึง”แอนโทนี่รีบเหยียบแบบมิดเข็มไมล์เพื่อให้ไปถึงจุดนัดพบโดยเร็วที่สุด เขาอยากรีบจัดการปัญหาที่ยังค้างคาให้จบโดยเร็ว ซึ่งก่อนออกไปเขาก็ไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปบอกคนตัวเล็กที่ยังนอนอยู่เอาไว้ เผื่อว่าเธอตื่นขึ้นมาไม่เจอเขาเธอจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง//ผมมีธุระด่วนที่ต้องไปจัดการ จะรีบกลับมาหานะครับ//ณ โกดังเก็บไม้รถหรูวิ่งมาจอดหน้าโกดังเก็บไม้ เขาเจอคริส แทนไท ไนท์ และราฟาแอลรออยู่ก่อนแล้ว“มันอยู่ไหน” แอนโทนี่เอ่ยถามขึ้นทันทีที่ก้าวลงจากรถ“อยู่ข้างใน ตามกูมา” คริสตอบ“โทนี่!! ช่วยฝ้ายด้วยค่ะ”หญิงสาวร้องตะโกนเรียกเขาเสียงดังเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา เธอหวังว่าคนที่เพิ่งมาใหม่จะมาช่วยให้เธอหลุดพ้นไปจากสถานที่น่ากลัวแห่งนี้“เจ็บไหมครับ? นั่งอยู่แบบนี้ทั้งคืนคุณคงเมื่อยแย่เลย”“เจ็บค่ะ ฝ้ายเจ็บ ปล่อยฝ้ายไปเถอะนะคะ”“วันนั้นที่คอนโดผมบอกคุณว่ายังไงนะครับ”แอนโทนี่ยังเอ่ยถามต่อด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาเอื้อมมือหนาไปบีบที่คางของหญิงสาวเบาๆ ก่อนที่จะตะคอกเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน
ในครั้งนี้อารมณ์และความต้องการของแอนโทนี่มีมากและรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ นั่นก็เพราะการถูกกระตุ้นจากฤทธิ์ยาที่เขากินเข้าไปบวกกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เขาดื่มนั้นยิ่งทำให้ตัวยาออกฤทธิ์มากขึ้นเป็น 2-3 เท่าตัว“อ๊ะ!…อ๊าส์!”---สวบ!!---ร่างสูงสอดใส่ทั้งที่ยังไม่มีการเล้าโลมอะไรเสียด้วยซ้ำ ตอนนี้ในหัวของเขามีแต่ความต้องการเต็มไปหมด อารมณ์ที่เดือดพล่านมันบ่งบอกว่าเท่าไหร่ก็ยังไม่พอแอนโทนี่สอบสะโพกหนาเข้าออกไม่ยั้ง เขาซอยถี่ยิกจนคนตัวเล็กหัวสั่นครอนไปตามแรงกระแทกนั้น“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ”เธอร้องครางรัวจนไม่เป็นภาษา วันนี้เขาช่างรุนแรงกับเธอเหลือเกิน“อ๊าส์....บะ...เบา...เบา...หน่อย...ค่ะ”“อ๊าส์...ซี๊ด”“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ กรี๊ดดดดดดด”ปึ่ก-ปึ่ก-ปึ่ก-ปึ่ก-ปึ่กทุกการกระแทกแบบเข้าสุดออกสุดนั้นสร้างความเสียวกระสันให้แกคนตัวเล็กเป็นอย่างมาก เธอส่งเสียงครางปนเสียงกรีดร้องออกมาไม่ขาดสาย“อ๊าส์...ไม่ไหวแล้วครับ..อ๊าส์...อ๊ากกก!!”“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ..อร๊ายยยยย”หลังจากกระตุกไล่น้ำเชื้อสองสามครั้ง ร่างสูงก็ถอดถอนแก่นกายใหญ่ยักษ์ออกจากร่องสวาท มือหนายกตัวเธอให้ลอยขึ้นอีกครั้ง เขาจัดท่าให้เธอยืมก้มโค้ง สองมือเ