공유

ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก
ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก
작가: องค์หญิงโนเนม

บทที่ 1 การพบเจอ

last update 최신 업데이트: 2025-06-05 12:34:23

เมืองหลวงหวงเฉวียน

รัชศกเจิ้งหลงปีที่สิบ

"หลีกทาง ท่านอ๋องมาถึงแล้ว!!!"

เสียงกีบเท้าม้าที่ย่ำลงบนพื้นดินดังสนั่นกึกก้องไปทั่วทั้งปฐพี กอปรกับเสียงออกคำสั่งให้หลีกทางของเหล่าองครักษ์ทำให้เหล่าชาวบ้านที่กำลังเดินสัญจรไปมาบนถนนต้องรีบหลบเข้าข้างทาง พลางมองดูขบวนทหารร่วมแสนนายที่กำลังเดินทางเข้าประตูเมืองหลวง 

บนอาชาสีขาวมีบุรุษผู้หนึ่งรูปร่างกำยำ ใบหน้าของเขาคมคายหล่อเหลา ดวงตาเย็นชาราวหิมะแรกของเหมันต์ฤดู จมูกโด่งคมเป็นสัน ริมฝีปากหนาใหญ่ องคาพยพทั้งห้าบนใบหน้าของเขาช่างหล่อเหลาเสียจนสตรีทั้งเมืองหลวงเฝ้าใฝ่ฝันคะนึงหา

เขาคือ ชินอ๋องฟางเทียนอวี้ น้องชายร่วมมารดาของฮ่องเต้ฟางเจิ้งหลง ผู้นำทัพกองกำลังทหารนับแสนนาย บุกโจมตีเหล่ากบฏและศัตรูจนแตกพ่ายและยอมศิโรราบ 

"โอ๊ย ท่านอ๋องช่างรูปงามยิ่งนัก!!!" 

"ดูเรือนร่างกำยำนั่นสิ ข้าอยากจะโผเข้าไปกอดเสียเหลือเกิน" 

"ให้ตายเถิด!!! ข้าอยากจะเป็นสตรีของท่านอ๋องจนจะบ้าตายอยู่แล้ว!!!" 

เสียงชื่นชมของเหล่าสตรีน้อยใหญ่ดังเซ็งแซ่ขึ้นมาเป็นระยะตลอดทางที่ฟางเทียนอวี้ควบม้าผ่าน เขาไม่ได้แสดงสีหน้าใดใดออกมา แต่กลับเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง พลางครุ่นคิดในใจ 

แน่นอน!!! ข้าน่ะหล่อเหลาที่สุดในใต้หล้าแห่งนี้แล้ว 

วังหลวง

"น้องรักของข้า เจ้ากลับมาพร้อมชัยชนะอีกแล้ว" 

ฮ่องเต้ฟางเจิ้งหลงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยินดีปรีดา พลางจ้องมองฟางเทียนอวี้ด้วยความรักใคร่ ยามนี้ภายในห้องทรงอักษรมีเพียงเขากับพี่ชายสองคน ฟางเทียนอวี้จึงยกขาขึ้นไปพาดบนโต๊ะอย่างสบายอารมณ์ ฟางเจิ้งหลงเองก็ไม่ได้ถือสา กลับเอ่ยถามน้องชายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน 

"อาเทียน เจ้าอยากได้สิ่งใดเป็นรางวัล บอกพี่มาเถิด พี่จะให้เจ้าทุกอย่าง" 

ฟางเจิ้งหลงยิ้มตาหยีจ้องมองฟางเทียนอวี้อย่างมีความสุข แต่ไหนแต่ไรมาเขากับน้องชายผู้นี้ก็รักใคร่ปรองดองกันมาโดยตลอด อีกทั้งยังมีมารดาคนเดียวกัน ฟางเทียนอวี้ก็ไม่เคยคิดแย่งชิงบัลลังก์กับเขา อีกทั้งยังปกป้องเมืองหลวงเอาไว้อย่างสุดกำลัง เขาจึงรักน้องชายผู้นี้ยิ่งกว่าใคร 

ฟางเทียนอวี้จ้องมองฟางเจิ้งหลง ก่อนจะยิ้มมุมปาก

"ท่านพี่ ข้าอยากได้สมุนไพรบำรุงผิวพรรณ ทั้งภายในและภายนอก" 

ฟางเจิ้งหลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย 

น้องชายคนนี้อะไรก็ดีไปเสียหมด ติดอย่างเดียว สำอางยิ่งกว่าสตรี!!! 

แม้จะอยู่ในสนามรบตรากตรำสู้รบกับศัตรูไม่ได้หยุดพัก แต่ทว่าฟางเทียนอวี้กลับมีผิวกายที่ขาวสะอาด แม้จะไม่ขาวงดงามเฉกเช่นสตรี แต่ก็ดีกว่าบุรุษในวัยเดียวกันมากนัก 

"อาเทียน เจ้าน่ะเป็นบุรุษ จะนำสิ่งของพวกนี้ไปทำไม..." 

"ท่านพี่จะไม่ยอมมอบให้ข้าหรือ?" 

ฟางเจิ้งหลงเงียบกริบไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เพราะรู้จักนิสัยของน้องบัดซบผู้นี้ดี 

หากเขาไม่ตามใจ มันก็จะหาข้ออ้างนั่นนี่มาทำให้เขาลำบากใจ! 

"เอาเถิด ข้าจะให้คนนำไปส่งให้เจ้าที่จวน" 

"ท่านพี่นี่ดีเหลือเกิน" 

ดีกับผีน่ะสิ!!! น้องเวร 

"อาเทียน ข้าว่าเจ้าถึงวัยที่จะต้องแต่งงานแล้ว ข้าจะหาสตรีที่เหมาะสมให้เจ้าดีหรือไม่?" 

ฟางเจิ้งหลงเอ่ยถามฟางเทียนอวี้ด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีเท่าใดนัก นับแต่ฟางเทียนอวี้ถึงวัยหนุ่ม ได้หมั้นหมายกับสตรีถึงสามคน แต่ยังไม่ทันได้แต่งงานสตรีเหล่านั้นก็ล้มป่วยจนตกตายไปเสียก่อน เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้คนจึงเล่าลือกันว่า ฟางเทียนอวี้มีดวงกินภรรยา ทำให้ไม่มีสตรีบ้านไหนอยากจะหมั้นหมายและแต่งงานเข้าจวนอ๋องของเขา 

ยิ่งคิดฟางเจิ้งหลงก็ยิ่งกลุ้มใจ ต่างจากฟางเทียนอวี้ที่มีสีหน้าเรียบเฉย 

"ท่านพี่จะกังวลไปไย ข้าไม่ใช่องค์รัชทายาทที่จะต้องรีบแต่งงานมีภรรยาสืบทอดตำแหน่งเสียหน่อย" 

"ไม่ได้!! เจ้าต้องมีชายาดูแลจัดการเรือนหลัง นี่เป็นธรรมเนียมของราชวงศ์เรา เจ้าต้องรีบแต่งงานก่อนอายุยี่สิบปี เข้าใจหรือไม่?" 

"น่าเบื่อ!!!" 

"อ้อ! ข้านึกออกแล้ว หลายวันก่อนข้าได้ยินเหล่าขุนนางเล่าลือกันว่า ที่เมืองหลวงเรา มีสำนักร้อยบุปผา เป็นสำนักที่ขึ้นชื่อเรื่องการแก้ไขปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกจากตัวคนได้ นี่ ๆ ๆ เจ้าลองไปดูเสียหน่อย" 

"ไร้สาระท่านพี่!!!" 

"ข้าสั่งให้เจ้าไป!!! ไปเถิดน่า หากเจ้าไม่ชอบใจก็ไม่ต้องไปอีก ข้าได้ยินว่าสำนักร้อยบุปผาน่ะมีดีหลายอย่าง ทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องสมุนไพรที่บำรุงหน้าตาด้วยนะ ส่วนหนึ่งที่ข้าได้มาก็เพราะมีขุนนางนำมาถวาย ฮองเฮาของข้าก็ใช้อยู่" 

ฟางเทียนอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้นก็หูผึ่งขึ้นมาทันที 

เรื่องเกี่ยวกับความหล่อเขาสนใจเป็นอย่างมาก! 

ผู้ใดบ้างไม่อยากให้ตนเองหล่อเหลาดูดี 

ไปสักรอบก็ได้ 

เมื่อคิดได้เช่นนั้นฟางเทียนอวี้จึงพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะขอตัวกลับจวนของตนไปในทันที

ยามนี้เป็นช่วงกลางเหมันต์ฤดู หิมะโปรยปรายลงมาเป็นระยะ ฟางเทียนอวี้ควบม้ามาหยุดอยู่ที่ร้านขายสุราชั้นดีร้านหนึ่ง ก่อนจะกระโดดลงจากหลังม้า แล้วลงไปซื้อสุรามาเก็บเอาไว้หลายไห เมื่อจ่ายเงินและบอกที่ให้ไปส่งสุราเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าร้าน ก่อนจะยื่นมือขึ้นไปรองรับหิมะที่ตกโปรยปรายลงมาบาง ๆ พลางครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างไปเรื่อยเปื่อย

ในขณะที่เขากำลังยื่นเหม่อลอยคิดบางสิ่งบางอย่างโดยไม่ทันระวัง ก็ถูกสตรีผู้หนึ่งชนเข้าอย่างจัง สุราในมือของสตรีนางนั้นหกราดรดเสื้อผ้าของเขาจนเปียกชุ่ม 

"ไม่มีตามองหรือ!!!!!" 

"ขออภัยเจ้าค่ะ ขออภัยเจ้าค่ะ" 

"โว้ยยยย!!! ผีปากบวม!!!" 

ฟางเทียนอวี้ที่กำลังจะหันไปด่าทอสตรีนางนั้น แต่เมื่อหันไปเขาก็ต้องสะดุ้งโหยง 

ให้ตายเถิด!!! เหตุใดปากของนางจึงบวมขนาดนั้น!!! 

"ปะ ปากเจ้า?" 

"ขออภัยด้วยนะคุณชายท่านนี้ บังเอิญข้าโดนผึ้งต่อยปากมาน่ะเจ้าค่ะ เลยรีบหาสุรามาดื่ม เขาว่ามันบรรเทาอาการบวมได้" 

ฟางเทียนอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น พลางมองสตรีตรงหน้าด้วยสายตาที่รังเกียจ 

ตำราบทไหนกันบอกว่าสุราลดอาการปากบวมได้!!! 

แต่ช้าก่อน! นางทำเสื้อผ้าข้าเลอะนี่นา

"เจ้าทำเสื้อข้าเลอะ!!!" 

"ขออภัยด้วยคุณชาย ข้ามีเงินติดตัวอยู่สามอีแปะ ท่านเอาไปก่อนนะเจ้าคะ ข้าไปละ ข้ารีบ" 

"เดี๋ยว!!! กลับมานะ!!! บัดซบ!!! เงินแค่สามอีแปะจะเอาไปทำสิ่งใดได้" 

ฟางเทียนอวี้กำลังจะวิ่งตามสตรีนางนั้นไปแต่ก็ต้องหยุดชะงัก 

จะวิ่งไม่ได้!!! เดี๋ยวความหล่อกระจัดกระจาย 

เมื่อคิดได้เช่นนั้นฟางเทียนอวี้จึงสงวนท่าที กระโดดขึ้นไปบนหลังม้ามุ่งหน้ากลับจวนอ๋องทันที 

อย่าให้ข้าได้เจอหน้าเจ้าอีกรอบนะ!!! สตรีปากบวม

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   ตอนพิเศษ

    1 ปีต่อมา ยามนี้สายลมฤดูหนาวพัดผ่านมาอีกครา บนพื้นถนนมีหิมะสีขาวปกคลุมอยู่เต็มไปหมด ยิ่งดึกอากาศยิ่งหนาวเย็น ผู้คนต่างพากันซุกกายอยู่ในผ้าห่มที่หนานุ่ม เข้าสู่ห้วงนิทราอันแสนมีความสุข'โมง' เวลายามสาม เสียงระฆังดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันในยามราตรี เสียงนี้เป็นเสียงสัญญาณของระฆังแจ้งการมรณกรรม เสียงนั้นดังมาจากวังหลวงติดต่อกันหลายครั้ง นอกจากจะเกิดเหตุการณ์ที่ฮ่องเต้สวรรคตแล้ว ไม่มีผู้ใดปฏิบัติตามธรรมเนียมนี้ ภายในวังหลวงยามนี้ เหล่าขันทีและนางกำนัลกำลังคุกเข่าพลางร่ำไห้กับการจากไปของฮ่องเต้ฟางเจิ้งหลง ภายในห้องบรรทม ไป๋ฮองเฮากำลังจัดการเปลี่ยนฉลองพระองค์ให้ฮ่องเต้ฟางเจิ้งหลงเป็นครั้งสุดท้าย เหล่าสนมนางในเองก็โศกเศร้ากับการจากไปของฮ่องเต้ในครานี้ ฟางเทียนอวี้ทำความเคารพพระศพของพี่ชายร่วมมารดาเป็นครั้งสุดท้าย เขานึกเสียใจไม่น้อย ที่ฟางเจิ้งหลงไม่เคยบอกเขาเลยว่าตนเองมีอาการเจ็บป่วยรุนแรงถึงเพียงนี้ จนกระทั่งวันที่สวรรคตเขาก็ได้มาดูใจพี่ชายคนนี้เพียงไม่นาน ฟางเทียนอวี้หวนนึกถึงคำพูดของฟางเจิ้งหลงที่บอกเขาก่อนจะสวรรคตได้ขึ้นใจ จงปกครองหวงเฉวียนอย่างมีคุณธรรม รักใคร่ราษฎรประหนึ่งลูกใน

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   บทที่ 54 The End

    แม่ทัพใหญ่เฉินส่งสัญญาณเรียกรวมพลทหารที่แอบซ่อนตัวให้มารวมพล ก่อนจะจัดการสังหารเหล่าชาวบ้านที่ขวางทางจนหมด แล้วมุ่งหน้าไปที่ประตูเมืองหลวงทันที แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่ได้รับสัญญาณตอบกลับจากฟางเจียเอ๋อร์ในขณะที่แม่ทัพใหญ่เฉินกำลังร้อนใจ ก็ปรากฏว่ามีทหารวังหลวงหลายแสนนายที่เข้ามาล้อมกำลังทหารของเขาเอาไว้ แม่ทัพเฉินมีท่าทีตื่นตระหนก ก่อนจะหันไปมองเสียงกีบเท้าม้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆฟางเทียนอวี้!!! มันยังไม่ตายหรอกหรือ!!! แม่ทัพเฉินหน้าซีดเผือดก่อนจะหันไปมองด้านหลังของฟางเทียนอวี้ก็ยิ่งตกใจมากกว่าเดิม ยามนี้ฟางเจียเอ๋อร์ถูกจับมัดลากมากับพื้นสภาพสะบักสะบอมเป็นอย่างมาก ลูกพ่อ!!! ฟางเทียนอวี้คร้านจะเอ่ยสิ่งใดให้มากความ เขาจึงหันไปสั่งการทหารทันที "สังหารพวกมันให้หมด แล้วจับตัวแม่ทัพใหญ่เฉินมาให้ข้า" เหล่าทหารที่ได้ยินต่างก็พุ่งเข้าไปรบราฆ่าฟันกับศัตรูตรงหน้าอย่างบ้าเลือด ฟางเทียนอวี้เชิดหน้าขึ้นมองดูเหล่ากบฏถูกสังหารอย่างไร้ความรู้สึก ผ่านไปราวหนึ่งชั่วยาม ทหารของแม่ทัพใหญ่เฉินก็ถูกสังหารตายไปจนหมด ส่วนแม่ทัพใหญ่เฉินก็ถูกจับกุมในข้อหากบฏ จวนจวิ้นอ๋องถูกรื้อค้น ขันทีและบ่าวรับใช้ทหารปร

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   บทที่ 53 จัดการคนชั่ว

    เวลาผ่านไปร่วมเดือน พิธีล่าสัตว์ก็มาถึง แม่ทัพใหญ่เฉินยิ้มกริ่มด้วยความพึงพอใจ ได้ยินว่าฝ่าบาททรงไม่เสด็จไปล่าสัตว์เพราะพระวรกายไม่สู้ดี จึงส่งชินอ๋องฟางเทียนอวี้ให้เป็นผู้นำขบวนล่าสัตว์ไปแทน ส่วนฝ่าบาทจะทรงทำพิธีขอพรกลางแจ้งอยู่ที่ลานขอพรในวังหลวงฟางเทียนอวี้นั่งอยู่บนหลังม้าสีขาว เขาสวมชุดสีดำที่ชอบใส่อยู่เสมอ ในปีนี้เขาเป็นผู้นำขบวนออกไปล่าสัตว์แทนฟางเจิ้งหลง โดยมีฟางเจียเอ๋อร์ติดตามไปร่วมล่าสัตว์ในปีนี้ด้วย ฟางเจียเอ๋อร์ปรายตามองฟางเทียนอวี้คราหนึ่งด้วยแววตาที่เย็นชา ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ยามนี้นักฆ่าที่ตระกูลเฉินฝึกฝนเอาไว้ กำลังรอคอยอยู่บนเขา ขอเพียงฟางเทียนอวี้นำขบวนไปจนถึงทางขึ้นเขา เหล่านักฆ่าก็จะบุกลงมาสังหารทันที แม้องครักษ์ของวังหลวงที่ติดตามมาจะมีไม่น้อย แต่นักฆ่าที่เขาเตรียมการเอาไว้ก็มีฝีมือเยี่ยมยอดเช่นเดียวกันเมื่อคิดว่าจะได้ตัดหัวของฟางเทียนอวี้แล้วนำไปมอบให้เซียวเหมยลี่เป็นของกำนัล เขาก็สนุกเต็มทนแล้ว ดูสิว่านางจะทำหน้าเช่นไร ครานี้นางจะได้รู้เสียที ว่าการที่คิดปฏิเสธเขาจะต้องพบกับจุดจบเช่นไร ฟางเทียนอวี้ไม่ได้แสดงท่าทีใดใดเลยสักครา เขายังคงมีใบหน้าเรียบเ

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   บทที่ 52 วางแผน

    หมอหลวงสวีรีบนำยามาให้เซียวเหมยลี่กินในยามดึกคืนนั้นทันที หลังจากกินยาเข้าไปไม่นานนัก นางก็อาเจียนเป็นโลหิตสีดำออกมา ก่อนจะหมดสติไป ฟางเทียนอวี้ที่เห็นเช่นนั้นก็ตื่นตระหนกลนลานจนทำสิ่งใดไม่ถูก "หมอหลวงสวี เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้!!!" "ท่านอ๋องโปรดวางพระทัย พระชายาปลอดภัยแล้วพ่ะย่ะค่ะ พิษถูกขจัดออกหมดแล้ว แต่ต้องดื่มยาถอนพิษของกระหม่อมต่ออีกสามวัน เพื่อขับพิษที่หลงเหลืออยู่ให้ออกมาจนหมด"เมื่อได้ยินเช่นนั้นฟางเทียนอวี้ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ก่อนจะมองดูเซียวเหมยลี่ที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ใบหน้าสวยหวานกลับมางดงามมีชีวิตชีวาเช่นเดิมแล้ว เช้าวันต่อมาฟางเทียนอวี้เดินทางเข้าวังหลวงแต่เช้า หลังจากประชุมยามเช้าเสร็จสิ้น เขาก็ตามไปพบฟางเจิ้งหลงที่ห้องทรงอักษรทันที "ร้อนใจเรื่องใด จึงรีบเร่งมาหาข้า ไม่รีบกลับจวนแล้วหรือ?" ฟางเทียนอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ทิ้งกายลงนั่งเก้าอี้ข้าง ๆ กันกับฟางเจิ้งหลง ก่อนจะเล่าเรื่องราวที่เฉินหมิงหยวนนำยาถอนพิษมามอบให้เขา และบอกอีกว่าเฉินหมิงหยวนบอกว่าแม่ทัพใหญ่เฉินคิดการไม่ซื่อ หากอยากรู้เรื่องใดเพิ่มก็ให้มาถามกับฟางเจิ้งหลง ฟางเจิ้งหลงมองฟางเท

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   บทที่ 51 ยาถอนพิษ

    ฟางเทียนอวี้และเซียวเหมยลี่ใช้เวลาอยู่ที่วัดบนเขาราวครึ่งค่อนวัน ก่อนจะเดินทางกลับถึงจวนในตอนเย็น เซียวเหมยลี่รู้สึกแข็งแรงขึ้นไม่น้อย นางสบายใจขึ้นมากกว่าหลายวันก่อน อีกทั้งยังไม่อ่อนเพลียแล้วด้วย หมอหลวงสวีให้นางดื่มยาบำรุงติดกันมาร่วมเจ็ดวัน ก่อนที่จะทำการถอนพิษ หมอหลวงสวีบอกว่าการถอนพิษอาจจะทรมานในช่วงสามวันแรก แต่เมื่อผ่านไปได้ เซียวเหมยลี่จะค่อย ๆ กลับคืนสู่ร่างกายที่ปกติดังเดิม เซียวเหมยลี่ยกถ้วยยาบำรุงขึ้นดื่มจนหมด ก่อนจะหันไปส่งถ้วยยาคืนให้แก่หมอหลวงสวี "วันพรุ่ง ข้าจะต้องถอนพิษออกจากร่างกายแล้วใช่หรือไม่?" "พ่ะย่ะค่ะพระชายา เอ่อ กระหม่อมมีเรื่องหนึ่งอยากจะทูลให้ทรงทราบพ่ะย่ะค่ะ" "เรื่องอันใดหรือ?" หมอหลวงสวีหันไปมองหน้าฟางเทียนอวี้คราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ "เดิมทียาถอนพิษชนิดนี้หายากยิ่งนัก ในใต้หล้านี้หนึ่งปีจะปรุงขึ้นมาได้เพียงห้าเม็ดเพราะใช้สมุนไพรพิเศษหลายตัว ยาถอนพิษนี้เพียงได้กินไปเม็ดเดียวก็จะช่วยขับพิษออกจากร่างกายได้ทันที โดยไม่ทรมานพ่ะย่ะค่ะ" ฟางเทียนอวี้ที่ได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มเอ่ยถามหมอหลวงสวีทันที "เราจะหายาถอนพิษนั้นได้จากที่ใด" "ยากนักท่านอ๋อง ยามนี้ไม่

  • ร้อยบุปผาบานพร้อมรัก   บทที่ 50 ส่งมอบหลักฐาน

    แม่ทัพใหญ่เฉินกลับมาที่จวนของตนเอง โดยไม่ได้สงสัยสิ่งใดเลยแม้แต่น้อย วันนี้เขาไปที่จวนจวิ้นอ๋องเพื่อหารือกับฟางเจียเอ๋อร์ อีกหนึ่งเดือนข้างหน้าฝ่าบาทจะทรงออกไปล่าสัตว์ ซึ่งเป็นประเพณีที่กระทำสืบเนื่องต่อกันมาหลายปี เขาจะถือโอกาสนี้สังหารคนตระกูลฟางให้สิ้นซากไปเสีย แล้วผลักดันฟางเจียเอ๋อร์บุตรชายของเขาให้ขึ้นมาเป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ จากคำบอกเล่าของไป๋ฮองเฮานางบอกว่าระยะนี้ฝ่าบาททรงไม่ค่อยแข็งแรงเท่าใดนัก เขาจะถือโอกาสนี้ลอบส่งคนไปใส่ยาพิษในอาหารเพื่อทำให้พระวรกายอ่อนแอลงไปเรื่อย ๆ จนไม่สามารถออกนอกวังได้ ในเมื่อออกนอกวังหลวงไม่ได้ ฝ่าบาทที่เป็นคนเคร่งพิธีการทุกอย่าง ย่อมต้องส่งฟางเทียนอวี้ไปทำหน้าที่แทน เขาจะถือโอกาสนี้สังหารฟางเจิ้งหลงในวังหลวง ส่วนฟางเจียเอ๋อร์จะคอยถ่วงเวลาฟางเทียนอวี้เอาไว้ เมื่อเขาบังคับให้ฟางเจิ้งหลงมอบบัลลังก์ให้สำเร็จ ยามนั้นอำนาจจะตกอยู่ในมือของคนตระกูลเฉิน ฟางเทียนอวี้ย่อมไม่มีปัญญาทำสิ่งใดได้อีกนอกจากยอมจำนนอย่างไร้หนทางต่อสู้!!! ยิ่งคิดแม่ทัพใหญ่เฉินก็ยิ่งอารมณ์ดีไม่น้อย เขานับวันรอที่จะเสพสุขกับอำนาจในมือไม่ไหวแล้ว!!! ด้านเฉินหมิงหยวนนั้น เขาเก็บหลักฐานท

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status