LOGINเว่ยหย่งฮวายังไม่ได้เดินไปดูทางนั้น นางจึงละสายตาจากพู่กันแบบอื่นๆ ที่กำลังเลือกอยู่
จากอุปนิสัยของอู๋ซือหนิงที่หนิงชิงชิงบอกมาเขาก็โปรดปรานน้ำชาจากต่างแดนอยู่ไม่น้อย เช่นนั้นการซื้อชุดถ้วยชาไปให้ก็อาจจะไม่เลว
นางเลือกชุดถ้วยชาสีเขียวไข่กาที่วาดลายสีทองประดับไว้ขึ้นมาดู จับมันหมุนดูทั้งบนล่างและซ้ายขวา แม้ลายจะเรียบง่ายที่สุดในหมู่ของที่วางแสดงไว้ แต่หากสังเกตดี ๆ จะพบว่าลวดลายบนถ้วยชาที่ไม่ใช่ลายวาดของตัวมันเองนั้นมีความซับซ้อนมากกว่า
เหมาะทีเดียว
"เถ้าแก่ ข้าเอาชุดนี้ ห่อให้ดีๆ เลยนะ"
"ได้ขอรับคุณหนู ข้าจะทำให้สวยงามสุดฝีมือ"
เถ้าแก่มารับถุงเงินจากหนิงชิงชิงแล้วรีบไปจัดการให้ตามสั่ง
ความสนุกของการใช้เงินจับจ่ายซื้อของโดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังมันเป็นอย่างนี้นี่เอง!
เว่ยหย่งฮวายิ้มแล้วยิ้มอีก นางไม่ได้สัมผัสความสุนทรีแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ พอเรียนจบก็มุ่งหน้าทำแต่งาน งาน งานและงาน จนเหมือนตัวเองเป็นเครื่องจักรหรือหุ่นยนต์ไม่ใช่มนุษย์แล้ว
รับของมาจากเถ้าแก่เรียบร้อยนางก็ตั้งใจจะกลับจวนเลย
"คุณหนูอยากได้ที่เรียบมากกว่านี้หรือเจ้าคะ" นางคิดว่าที่นำมานั้นลวดลายก็น้อยมากแล้ว แต่คุณหนูของนางยังอยากได้ที่น้อยกว่านี้อีก"แบบที่ไม่มีลายเลยมีบ้างไหม""มีอยู่นะเจ้าคะ"นางนึกขึ้นได้ว่ามีแจกันชุดหนึ่งที่ไม่ค่อยได้นำมาใช้ เพราะตามความนิยมแล้วผู้คนชอบแบบมีลายไว้ก่อน สาวใช้คนสนิทเดินกลับเข้าไปในห้องเก็บของแล้วนำกล่องไม้ใบหนึ่งออกมาด้านในเป็นแจกันขนาดเล็กคู่หนึ่ง กระเบื้องสีเขียวไข่กาไม่มีลวดลาย พอลองจัดเข้ากับดอกไม้ที่นำมาก็เข้ากันได้อย่างไม่มีที่ติด สีของแจกันและการที่มันไม่มีลวดลายนั้นทำไมดอกไม้สีสันโดดเด่นขึ้นมา"ใช้ได้ เอาใบนี้""มันจะไม่เรียบเกินไปหรือเจ้าคะคุณหญิง""เชื่อข้าเถอะ จัดไปตามที่บอกก็พอแล้ว"นางไม่รู้จะอธิบายให้เห็นภาพได้มากไปกว่านี้อย่างไร นอกทำให้เห็นจริงๆ ไปเลยเชื่อว่าสาวใช้คนสนิทผู้นี้ก็ยังคงมีคำถามกับนางอยู่ เข้าใจได้ด้วยพฤติกรรมก่อนหน้าคงเป็นไปตามธรรมชาติของคนที่เติบโตมากับวัฒนธรรมในต้าซาน แต่เว่ยหย่งฮวาเป็นผู้มาจากที่อื่นอย่างแท้จริง"คุณหนูเจ้าขามีจดหมายมาหลายฉบับเลยเจ้าค่ะ"
"ท่านหญิงดูสุนทรีย์กับการทานอาหาร"เขาก้มลงเหลือบมองจานที่ว่างเปล่า ขนมสองอย่างที่สั่งมาก่อนหน้านี้ไม่เหลือร่องรอยแม้แต่เศษผงจากแป้ง"ของอร่อยก็ต้องกินสิ" ว่าแล้วนางก็ยกมือเรียกเสี่ยวเอ้อร์มาสั่งขนมเพิ่ม"ท่านหญิงพูดถูกต้อง" ชายหนุ่มพยักหน้าเห็นดีเห็นงามด้วย ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้ม มองหญิงสาวที่ดูมีความสุขกับการทานอาหารผิดกับสตรีคนอื่นที่ต้องระมัดระวังการกินจนบางครั้งก็ดูน่ารำคาญ ทว่าสำหรับนางในสายตาของเขากลับดูน่ารักน่าเอ็นดูเสียอย่างนั้น"เห็นด้วยกับข้าไปเสียทุกอย่าง ไม่เอาใจกันเกินไปหรือ""เป็นความจริงใจทุกประการ ไม่มีเรื่องใดต้องโป้ปด"หลังน้ำชาหมดไปได้หนึ่งกาตามที่รับปากไว้ อู๋ซือหนิงก็เดินมาส่งนางที่จวน หนิงชิงชิงเดินตามหลังผู้เป็นนายโดยเว้นระยะห่างไปประมาณหนึ่ง นางมองดูท่าทีที่ใต้เท้าอู๋เข้าหาคุณหนูของนางแล้วก็คิดปักใจไปกว่าครึ่งว่าเขามีใจให้นายตรง แต่ว่าคุณหนูของนางเหมือนจะไม่รู้ตัวเลยสักนิดเดียว"ขอบคุณใต้เท้าอู๋สำหรับวันนี้ ข้าสนุกมาก"ชายหนุ่มไม่ได้ตอบรับอะไรเพียงแค่พยักหน้าให้ยิ้มๆ เท่านั้น เขายืนอยู่หน้าประตูจนกระท
"วิธีคิดของท่านหญิงช่างล้ำลึก ข้าคงต้องเรียนรู้ไว้บ้าง""บัณฑิตต้าซานไม่น่ามีอะไรให้เรียนรู้จากสตรีผู้น้อยเช่นข้ากระมัง""ท่านหญิงกล่าวเกินไปแล้ว การหาความรู้นั้นไม่มีสิ้นสุด แม้วันนี้รู้แล้ววันหน้าก็ยังมีเรื่องที่ไม่รู้อีก"การต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่เป็นจริงเป็นจังดำเนินไป ครั้งนี้ไม่มีอะไรมาขัด ทำให้พวกเขาสามารถเพลิดเพลินกับการดื่มชาได้จนหมดกา แต่อู๋ซือหนิงยังไม่อยากให้เวลานี้สิ้นสุดลง เขารู้สึกต้องการได้สนทนากับท่านหญิงเป็นความเพลิดเพลินอย่างมากสตรีผู้นี้มีอะไรให้ค้นหาได้ตลอดเวลา ความคิดและสิ่งที่อยู่ลึกลงไปในจิตใจของนาง หลายครั้งมันทำให้เขานึกไม่ถึง และจุดประกายคำถามใหม่ต่อตัวเองขึ้นมา"หลังจากนี้ท่านหญิงมีธุระที่ใดต่อหรือไม่""ข้าแค่เดินซื้อของที่ต้องการไปตามเรื่องตามราว ไม่มีกำหนดการแน่ชัด""ข้าเห็นท่านหญิงซื้อผ้าอยู่หลายวันแล้ว ตอนนี้จวนของท่านคงเต็มไปด้วยม้วนผ้า" เขาหัวเราะน้อยๆ ยามได้สนทนากับนาง และมันเกิดขึ้นเกือบทุกประโยคเลยทีเดียว"ไม่ผิดไปจากที่ใต้เท้าว่า ตอนนี้ทั้งจวนของข้าเต็มไปด้วยม้วนผ้าและอุปกรณ์
อู๋ซือหนิงยืนนิ่งอยู่หน้าร้าน ได้ยินเสียงที่ดังแว่วออกมาจากด้านในก็แน่ใจว่าเป็นคนที่ตนตามหา แต่ว่าชายหนุ่มก็ยังไม่กล้าพรวดพราดเข้าไป เขายืนประมาอยู่อย่างนั้นจนบ่าวรับใช้ทนดูไม่ได้"คุณชาย ไม่เข้าไปล่ะขอรับ""ข้าไม่รู้ว่าควรทักทายนางอย่างไร""ก็ทักทายอย่างปกติไม่ได้หรือ"บางทีควรมีโรงหมอตั้งอยู่ใกล้ๆ นี้ เผื่อว่าเขาจะได้หายาแก้วิงเวียนกลับไปด้วยเลย"คุณชาย ท่านกล้าๆ หน่อยสิขอรับ""แต่ว่าท่านหญิงอาจจะไม่ชอบให้เข้าหามากไปก็ได้นะ""ท่านข้ามเส้นนั้นมาแล้ว สบายใจได้""ตงฟาง เจ้าอยู่ข้างใครกันแน่" อู๋ซือหนิงหันขวับ มองผู้ติดตามตาขวาง"ข้างคุณชายสิขอรับ"ยอดบัณฑิตทั้งถอนหายใจทั้งส่ายหน้า เริ่มสงสัยแล้วว่าอีกฝ่ายยังเป็นบ่าวเขาจริง ๆ หรือเปล่า จิกกัดเขาจนแทบจะเป็นสหายคนหนึ่งแล้ว แต่เรื่องนี้ก็ว่าใครไม่ได้เพราะเป็นสหายที่เล่นกันมาแต่เด็กจริงระหว่างที่สองนายบ่าวกำลังโต้เถียงกันอยู่นั้น โชคดีคนที่พวกเขาตามหาก็เดินออกมาจากร้านแล้ว"นี่พวกท่านกำลังทำอะไรกัน?""นี่พวกท่านกำลังทำอะไรกัน?"
กว่าจะได้สติคุณหนูสามก็เดินไปไกลแล้ว หนิงชิงชิงตกใจรีบกองม้วนผ้าที่หอบมาไว้แถวๆ นั้นแล้วตามเจ้านายออกไป เว่ยหย่งฮวาเดินเร็วมาก คลาดสายตาจากนางเพียงนิดก็ไปไกลแล้วย่านการค้าของเมืองหลวงคุ้นตากับการที่ท่านหญิงหรูเหยียนมาเดินเตร่เป็นอย่างดี แม้วันใดจะไม่ได้ซื้อของติดไม้ติดมือกับไปแต่ไม่มีวันที่จะไม่พบนาง เหมือนว่าการได้ทำอย่างนี้ทำให้นางอารมณ์ดี สำหรับคนที่เคยอุดอู้อยู่แต่ในเรือนคงแปลกตา แต่สำหรับเว่ยหย่งฮวาที่เป็นนักแสดง นางคุ้นเคยกับการทำงานนอกอาคารและเดินทางบ่อยยิ่งกว่านกการเดินเล่นสำหรับเว่ยหย่งฮวาคือช่วงเวลาที่ได้ผ่อนคลายและใช้ความคิดได้เยอะที่สุด เวลาที่ต้องเดินทางไปกองถ่ายก็มีแต่ตอนอยู่บนรถเท่านั้นที่นางใช้จินตนาการได้ และบางครั้งก็ปล่อยให้ตัวเองใจลอยไปการเลี้ยงเทศกาลสายฝนเมื่อวันก่อนทำให้นางรู้อะไรหลายๆ อย่างเพิ่มมากขึ้นกว่าแค่ในตำราหรือผ่านคำบอกเล่าของผู้อื่น คุณหนูน้อยที่มอบผ้าเช็ดหน้าปักเองให้นางในวันนั้นล้วนมีความทะเยอะทะยานอยู่ในแววตา บางทีหากได้เชิญพวกนางมาร่วมสนทนากันสักครั้งคงดี"ชิงชิง จำคนที่เอาผ้าเช็ดหน้าให้ข้าในงานเลี้ยงได
"จำอะไรไม่ได้เลย""หลังจากนี้ข้าขอไปพบเจ้าที่จวนได้หรือไม่""ย่อมได้ ข้าแน่ใจว่าถ้าท่านเป็นสหายข้าจริง คนในจวนย่อมยินดีจะให้ท่านเข้ามา""วาจาฉะฉาน เจ้าดูเปลี่ยนไปนิดหน่อย" เผิงป๋อเฟิงยิ้มให้ แต่แววตาบ่งบอกถึงความงุนงง"อาจไม่กลับเป็นคนเดิมอีกแล้ว"ถ้าเขาหวังจะให้สหายกลับไปเป็นดั่งกาลก่อน นางไม่สามารถให้ได้ เว่ยหย่งฮวาที่เติบโตในแค้วนต้าซานไม่มีอะไรเหมือนนาง หรืออย่างน้อยในความคิดของนางก็ต่างกันถึงครึ่งต่อครึ่ง และเหมือนกันอยู่ครึ่งต่อครึ่ง"หวังว่าเราจะได้พูดคุยกันหลังจากนี้ ขอบคุณท่านหญิง"หลังจบเพลงเจ้ากรมยุติธรรมก็โค้งลงแล้วมาส่งนางที่โต๊ะนอกจากคุณหนูน้อยทั้งหลายจะชื่นชมท่านหญิงหรูเหยียนแล้ว วันนี้ก็ยังมีคุณชายสกุลอื่นปรารถนาจะเต้นรำกับนางมากกว่าครั้งไหน วันนี้ไม่แน่ใจว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะเห็นว่านางทำตัวประหลาดไปจนรู้สึกอยากรู้อยากเห็น หรือว่ามีใจปรารถนาแล้วฉวยโอกาสจากการที่นางความจำเสื่อมเข้าหากันแน่"ท่านหญิง ไม่ทราบว่าคราวนี้พอจะให้เกียรติเต้นรำกับข้าได้หรือไม่"เว่ยหย่งฮวายังถือตะเกียบค้างไว







