เช้าวันต่อมาภาคินตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่างไป เพราะไม่มีมะลิมาเตรียมเสื้อผ้าของใช้ต่างๆ ให้เขาเหมือนเช่นทุกเช้า พร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานๆมาให้เขาตลอดเวลาถึงเขาจะแสดงอาการไม่ชอบใจก็ตาม
"พี่คิน ตื่นแล้วเหรอคะ" มินเดินเข้ามาในห้อง
"ใช่พี่เพิ่งตื่นเอง"
"ไปค่ะ ไปอาบน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันกัน" มินพยุงภาคินลงบนวีลแชร์แล้วเข็นเข้าไปในห้องน้ำ
พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จมินก็พาภาคินไปทานข้าวที่บ้านใหญ่ ระหว่างที่ทานข้าวไปมินก็คอยตักกับข้าวใส่จานภาคินอยู่ตลอด
"มิน มะลิจะกลับมากี่โมงลูก" อัมพรถามขึ้น
"น่าจะสายๆ มั้งค่ะ"
"เดี๋ยว ถ้ามินออกไปที่ร้าน แม่จะไปอยู่เป็นเพื่อนคินเองก็แล้วกัน"
"ไม่ต้องหรอกครับ ผมอยู่คนเดียวได้"
"งั้นก็ตามใจลูกก็แล้วกัน"
ด้านมะลิกำลังนั่งทานข้าวเช้ากับพ่อและแม่ หลังทานเสร็จเธอก็จะกลับไปทำงานเลย ทานข้าวไปแต่ในหัวกลับคิดถึงภาคินที่อาละวาดโมโหใส่เธอเมื่อวาน ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง
"มะลิลูกมือไปโดนอะไรมา ทำไมแดงๆ แม่ว่าจะถามตั้งแต่เมื่อวานแล้ว" อิ่มถามขึ้น
"เอ่อ หนูซุ่มซ่ามเองแหละแม่ เอาน้ำร้อนลวกมือตัวเอง"
"คราวหน้าคราวหลังก็ระวังหน่อยนะลูก"
"ค่ะ แม่"
หลังทานข้าวเสร็จมะลิก็เตรียมตัวจะกลับไปทำงานดูแลภาคินต่อ หยิบกระเป๋าสะพายบ่าเดินไปที่รถ โดยที่อิ่มเดินตามไปส่งที่รถ
"กลับดีๆ นะลูก"
"ค่ะ หนูรักแม่นะคะ" เดินเข้าไปสวมกอดแม่ตัวเอง
"จ้ะ แม่ก็รักลูก" ยกมือขึ้นลูบหัวมะลิเบาๆ
"ไปกันเถอะ" จอบเอ่ยขึ้น
มะลิให้จอบพ่อของเธอไปส่งที่หน้าไร่ จริงๆแล้วจอบอยากจะไปส่งถึงบ้าน พงษ์ไพศาลแต่มะลิไม่อยากรบกวนพ่อตัวเอง ก็เลยจะขึ้นรถสองแถวไปเอง
ไม่นานรถก็มาจอดตรงหน้าปากซอย มะลิจึงลงจากรถและเดินเข้าไปในซอยจนถึงบ้านพงษ์ไพศาล มะลิเดินตรงไปยังบ้านหลังเล็ก ไม่เห็นภาคินอยู่ในบ้านก็เลยเดินตามหาจนไปถึงริมสระบัว เจอภาคินนั่งเหม่อลอยอยู่จึงเดินเข้าไปใกล้ๆ
"พี่คินค่ะ พร้อมทำกายภาพหรือยังคะ"
ภาคินไม่ตอบแต่หันไปตามเสียงของมะลิ แล้วหันกลับไปทางเดิม มะลิเห็นอย่างนั้นก็ไม่อยากเซ้าซี้อะไรอีกกลัวภาคินจะโมโหใส่เธอ
"ไม่อยากทำก็ไม่เป็นไรค่ะ" หมุนตัวจะเดินออกไป
"เดี๋ยวก่อน ใครบอกว่าไม่อยากทำ"
"ค่ะ"
"ไม่ต้องทำหน้างงหรอก พาฉันเข้าไปข้างในสิ"
"ค่ะ" เดินไปเข็นภาคินเข้าไปข้างในบ้าน
พอเข้ามาในห้องนอนมะลิพยุงตัวภาคินลงบนเตียงและลงมือทำกายภาพทันที โดยไม่มีการพูดจาใดๆ กับภาคินเลยสักคำ ภาคินเห็นว่ามะลิเงียบผิดปกติก็เริ่มหงุดหงิดไม่พอใจขึ้นมา มองหน้ามะลิที่เอาแต่ก้มหน้าทำกายภาพขาให้เขาไปเงียบๆ
ทำไปสักพักมะลิก็เปลี่ยนท่าให้ภาคินนอนราบลงกับเตียง จากนั้นก็จับยกขาภาคินขึ้นลง เพื่อบริหารกล้ามเนื้อขาให้แข็งแรงขึ้น ทำอยู่นานพอสมควรมะลิก็วางมือหันไปมองหน้าภาคิน
"วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็แลัวกัน จะลงนั่งบนวีลแชร์เลยไหมคะ"
"อืม"
มะลิพยุงตัวภาคินลงบนวีลแชร์ ส่วนภาคินก็เอาแต่มองมือของมะลิที่ยังแดงๆ อยู่ อยากจะถามอาการว่าเป็นยังไงบ้าง แต่ก็ปากหนักไม่กล้าถามออกไป
"พี่คิน จะเอาอะไรไหมคะ"
"ไม่ ฉันไม่อยากได้อะไร"
"งั้นมะลิขอตัวก่อนนะคะ"
"เดี๋ยวก่อน" ยื่นมือไปคว้าแขนมะลิไว้ก่อน
"มีอะไรหรือเปล่าคะ"ก้มลงมองมือภาคินที่จับแขนเธอไว้
"เปล่า ฉันแค่จะถามเธอว่ามือเป็นยังไงบ้าง" รีบปล่อยมือออกจากแขนมะลิทันที
"มือไม่เป็นไรค่ะ แค่แดงนิดหน่อย อีกไม่กี่วันก็คงจะหายแล้ว ขอตัวก่อนนะคะ" เดินออกจากห้องไปทันที
ภาคินเห็นมะลิแสดงอาการไม่รู้สึกรู้สาอะไรก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาเสียดื้อๆ ที่มะลิไม่ร่าเริงและชวนเขาคุยเหมือนทุกครั้ง แต่กลับพูดน้อยถามคำ ตอบคำแค่นั้น
มะลิเดินไปในครัวบ้านใหญ่จัดการปอกผลไม้ใส่จานและน้ำส้มหนึ่งแก้วใส่ถาดยกไปให้ภาคินที่นั่งอยู่ตรงริมสระบัว มะลิยกวางจานผลไม้และแก้วน้ำส้มลงบนโต๊ะข้างๆภาคิน
"พี่คินของว่างค่ะ"
"ฉันไม่หิว"
"ไม่เป็นไรค่ะ เอาไว้ตรงนี้ก่อน เดี๋ยวมะลิมาเก็บเองค่ะ" เดินออกไปทันที
มะลิเดินกลับเข้าไปในบ้านนั่งลงบนเตียงมองมือตัวเอง ที่ยังแดงอยู่เพราะเกิดจากฝีมือของภาคิน ที่เธอไม่อยากพูดมากหรือเซ้าซี้อะไรเขาอีกเพราะไม่อยากให้เขาโมโหใส่เธอและไม่อยากจะขัดใจเขาด้วย
สักพักมะลิก็ออกจากห้องไปยังริมสระบัวเพื่อที่จะเก็บจานผลไม้และแก้วน้ำส้ม แล้วก็ต้องแปลกใจที่ผลไม้ในจานกับน้ำส้มหายเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว มะลิจึงหันไปมองหน้าภาคินที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยความสงสัยไหนเขาบอกว่าไม่หิวไงมะลิคิดในใจ
"ไม่ต้องแปลกใจหรอก ฉันทานเองแหละ เดี๋ยวคนเอามาให้จะเสียน้ำใจหมด"
"ค่ะ คนทำให้คงจะดีใจมากเลยตอนนี้"มะลิยิ้มกว้างพร้อมกับเดินถือจานและแก้วเอาไปเก็บ
ได้เวลาทานมื้อเที่ยงมะลิกับภาคินก็เข้าไปในบ้านใหญ่ ระหว่างที่นั่งทานอาหารไปอัมพรก็ถามอาการแม่ของมะลิขึ้นมา
"แม่หนูเป็นยังไงบ้างจ้ะ"
"หายดีแล้วค่ะ เป็นไข้หวัดธรรมดาเอง"
"อ่อ ดีแล้วล่ะ หนูจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลอีก"
"ขอบคุณค่ะ"
"แล้วคินล่ะลูก ทำกายภาพหรือยังวันนี้"
"ทำแล้วครับ"
"ดีแล้วลูก กล้ามเนื้อขาจะได้แข็งแรง ไม่แน่นะอีกหนึ่งปีข้างหน้าลูกอาจจะกลับมาเดินได้ เหมือนคนปกติทั่วไปแล้วก็ได้" สุวัตรเอ่ยเสริมขึ้น
"ลูกต้องทำกายภาพทุกวันเลยรู้ไหม" อัมพรเอ่ยขึ้น
"ครับแม่"
"แม่คงต้องฝากความหวังไว้ที่หนูมะลิแล้วล่ะ" อัมพรหันไปส่งยิ้มให้มะลิ
"เอาเป็นว่าหนูจะทำให้สุดความสามารถของตัวเองเลยก็แล้วกันค่ะ" หันไปส่งยิ้มให้ทุกคนบนโต๊ะอาหาร
ณ ร้านกาแฟ
มินกำลังนั่งพักอยู่ตรงเก้าอี้ในร้านด้วยอาการร้อนๆหนาวๆ เหมือนจะมีไข้ หมอต้นเดินเข้ามาในร้านพอดี
"คุณผมเอาเหมือนเดิมนะ"
"ค่ะ" ลุกขึ้นจากเก้าอี้ไปชงกาแฟทันที
"คุณวันพรุ่งนี้ ผมขอไปเยี่ยมมะลิที่บ้านคุณได้ไหม ผมจะขับรถตามหลังคุณไป"
"ได้สิคะ"
"ว่าแต่ทำไมคุณดูไม่ค่อยดีเลยล่ะ"
"ฉันไม่เป็นอะไร ได้แล้วค่ะ" ยกแก้วกาแฟวางลงตรงเคาร์เตอร์หน้าหมอต้น
"คุณไม่สบายหรือเปล่า" หมอต้นจ้องหน้ามิน
"เปล่าค่ะ ฉันขอตัวก่อนนะ" เดินตรงไปหลังร้านทันที
หมอต้นได้แต่มองตามหลังมินที่เดินไปหลังร้าน แล้วยกแก้วกาแฟไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะแล้วนั่งจิบกาแฟไปเพลินๆ ส่วนมินก็หยิบกระเป๋ากับกุญแจรถจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านเพราะเธอรู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวเหมือนจะไม่สบาย
มินเดินออกมาตรงหน้าร้านแล้วเดินผ่านหน้าหมอต้นออกไปนอกร้าน ตรงไปที่รถของตัวเอง กำลังจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่งแต่อยู่ๆ ก็หน้ามืดขึ้นมาเหมือนจะเป็นลมจากนั้นก็ดับวูบหมดสติไป ยังดีที่หมอต้นมารับร่างเธอไว้ได้ทัน ก่อนที่มินจะล้มลงไปกองลงพื้น
"คุณได้ยินผมไหม" หมอต้นเรียกมินที่เป็นลมแน่นิ่งไป แต่ไม่มีการตอบสนองใดๆ หมอต้นจึงอุ้มมินเข้าไปในรถของตัวเองจากนั้น ก็แล่นรถตรงไปยังโรงพยาบาลทันที
พอไปถึงโรงพยาบาลหมอต้นก็อุ้มมินเข้าไปและทำการปฐมพยาบาลด้วยตัวเอง พร้อมกับให้น้ำเกลือ ไม่นานมินก็ลืมตาตื่นขึ้นมา พร้อมกับกระพริบตาถี่มองไปรอบๆ ตัวที่ไม่คุ้นเคย ขยับตัวจะลุกขึ้น หมอต้นก็เดินเข้ามาพอดี
"คุณจะลุกขึ้นมาทำไม นอนลงไปก่อน" จับตัวมินให้นอนลงไปบนเตียง
"ฉันจะกลับบ้าน"
"รอให้น้ำเกลือหมดก่อนผมถึงจะอนุญาตให้คุณกลับ"
"คุณเป็นคนช่วยฉันหรอคะ"
"ใช่ผมเอง ที่เข้าไปรับตัวคุณไว้ตอนที่เป็นลม ก็เลยพามาโรงพยาบาล"
"ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยฉันไว้อยู่ๆ ฉันก็หน้ามืดดับวูบไปเลย"
"คุณต้องพักผ่อนเยอะๆ นะรู้ไหม จะได้ไม่เป็นอย่างนี้อีก แล้วอีกอย่างที่คุณเป็นลมไปเพราะมีไข้ต่ำๆด้วย"
"ค่ะ ฉันจะดูแลตัวเองให้มากกว่านี้"
"เดี๋ยวผมจะจัดยาให้คุณไปทานก็แล้วกัน"
"ค่ะ"
ไม่นานน้ำเกลือก็หมดกระปุก พอถอดสายน้ำเกลือออกมินก็ลงมาจากเตียงโดยมีหมอต้นช่วยประคอง หลังจากที่ไปรับยากับเคลียร์ค่าใช้จ่ายเสร็จ ทั้งคู่ก็เดินออกไปตรงลานจอดรถ พอมินขึ้นไปนั่งบนรถก็หันไปส่งยิ้มให้หมอต้น
"เดี๋ยวคุณไปส่งฉันที่ร้าน แล้วฉันจะกลับบ้านเองค่ะ"
"ให้ผมไปส่งเถอะ คุณยังดูอ่อนเพลียอยู่เลย"
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันดีขึ้นแล้ว"
"ก็ได้ตามใจคุณก็แล้วกัน คุณก็ขับรถกลับดีๆล่ะ" หันไปมองหน้ามิน
"ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยฉันไว้ แถมยังต้องเสียเวลาคุณอีก"
"ไม่เป็นไรครับ ผมเป็นหมอเห็นใครเป็นอะไรตรงหน้าผมก็ต้องช่วยอยู่แล้ว"
"ค่ะ" รับคำสั้นๆ แล้วหันหน้าไปมองข้างทาง
หมอต้นไปส่งมินที่ร้านกาแฟจากนั้นต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับ ระหว่างทางกลับบ้านมินก็อดที่จะเก็บเอาคำพูดของหมอต้นมาคิดไม่ได้ เขาพร้อมที่จะช่วยเหลือทุกคนนั้นคือจรรยาบรรณของหมอ แต่เรื่องหัวใจเขาก็คงมีแต่มะลิเท่านั้น เธอจะพยายามไม่คิดอะไรที่มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ไม่นานมินก็มาถึงบ้าน จากนั้นก็ขึ้นไปพักผ่อนบนห้องตัวเองทันที
ตอนเย็นของวันมะลิกำลังจะอาบน้ำให้ภาคิน ถอดเสื้อออกเหลือแต่กางเกงมะลิมองหน้าภาคินเผื่อว่าเขาอยากจะถอดเอง เธอไม่อยากทำอะไรที่ทำให้เขาไม่พอใจอีก
"พี่คินจะถอดกางเกงและอาบน้ำเองใช่ไหมคะ มะลิจะได้ไปรอข้างนอก" เดินจะออกจากประตูไป
"เดี๋ยว เธอนั้นแหละถอดและอาบน้ำให้ฉัน แล้วก็สระผมกับโกนหนวดให้ด้วย"
"ค่ะ" หันกลับไปมองหน้าภาคิน
มะลิเดินเข้าไปใกล้ๆ ภาคินจัดการถอดกางเกงแล้วลงมือสระผมและโกนหนวด ระหว่างที่มะลิโกนหนวดไป ภาคินก็มองหน้ามะลิไปเพลินๆ จนเจ้าตัวถึงกับประหม่าทำตัวไม่ถูก จึงได้แต่หลบสายตาภาคินเท่านั้น ใช้เวลาไม่นานมะลิก็จัดการอาบน้ำใส่เสื้อผ้าให้ภาคินจนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นก็พาไปทานข้าวเย็นกัน
หลังทานข้าวเสร็จมะลิก็เข็นภาคินไปตรงริมสระเพื่อสูดอากาศ สักพักมะลิก็เข็นภาคินเข้าไปในห้องนอน แล้วจึงกลับเข้าไปในห้องของตัวเอง เพื่อทำธุระส่วนตัวและเปลี่ยนเป็นชุดนอน หอบผ้าห่มกับหมอนออกมาจากห้องไปวางลงบนโซฟาเพื่อจะนอนในคืนนี้
พอจัดที่นอนเสร็จมะลิก็เดินเข้าไปในห้องภาคินเพื่อส่งเข้านอน เดินไปหยุดตรงข้างวีลแชร์ของภาคินเงียบๆ
"พี่คินง่วงหรือยังคะ"
"ก็นิดหน่อย"
"แล้วเธอล่ะ ง่วงหรือยัง"
"ก็นิดหน่อยเหมือนกันค่ะ"
"งั้นก็ช่วยพาฉันไปที่เตียงหน่อย"
"ค่ะ" เข้าไปพยุงยกตัวภาคินขึ้นจากวีลแชร์ไปที่เตียง แต่มะลิกลับเดินเซเสียหลักทำให้ตัวภาคินเอียงเทน้ำหนักมาทางมะลิ จึงทำให้มะลิรับน้ำหนักไม่ไหวเซล้มลงไปนอนลงบนเตียงโดยที่ตัวของภาคินลงมาทาบทับข้างบนตัวเธออย่างจัง ทั้งคู่ต่างก็จ้องมองสบตากัน ภาคินค่อยๆยื่นหน้าตัวเองเข้าไปใกล้ๆหน้ามะลิ มะลิจึงค่อยๆหลับตาลงช้าๆ ภาคินจึงใช้ริมฝีปากหยักหนาประกบจูบริมฝีปากอ่อนนุ่มของมะลิเบาๆ แล้วถอนออกช้าๆมามองสบตากัน
"เอ่อ มะลิว่าพี่คินนอนเถอะค่ะ ดึกแล้ว" รีบลุกขึ้นพยุงตัวภาคินออกจากตัวเอง ลงนั่งบนเตียงด้วยอาการเขินอายที่อยู่ๆภาคินก็จูบริมฝีปากของเธอ
"ช่วยจัดท่านอนให้ฉันด้วย ฉันง่วงแล้ว" จ้องมองหน้ามะลิที่เอาแต่ก้มหน้าเขินอายเขา
"ค่ะ" เข้าไปยกขาทั้งสองข้างของภาคินขึ้นเหยียดยาวนอนราบลงบนเตียงแล้วดึงผ้าห่มให้
"ฝันดีนะคะ พี่คิน"
มะลิกำลังจะเดินออกไปแต่ภาคินกลับคว้าแขนดึงกระชากแรงๆ จนมะลิเซลงไปทาบทับตัวภาคินที่นอนอยู่บนเตียง
"ว้าย! พี่คินจะทำอะไรคะ"มะลิถามด้วยความตกใจ
"เปล่าฉันแค่อยากจะชื่นใจเธออีกครั้ง" ยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มมะลิฟอดหนึ่ง
"พี่คินทำแบบนี้ทำไมคะ" ยกมือขึ้นมาจับแก้มของตัวเอง
"ไปนอนเถอะ ฉันจะนอนแล้ว" ล้มตัวลงนอนหน้าตาเฉยโดยไม่ยอมตอบคำถามของมะลิ
มะลิเห็นอย่างนั้นจึงลุกขึ้นไปปิดไฟในห้องจนมืดสนิทแล้วปิดประตูลง ไปนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับใช้มือยกขึ้นมาจับริมฝีปากของตัวเอง ด้วยความรู้สึกหลากหลายจนบอกไม่ถูก ว่าภาคินคิดอะไรถึงได้ทำอย่างนี้กับเธอ แต่ในใจลึกๆเธอก็รู้สึกดีที่ภาคินทำกับเธอเหมือนคนรักกัน ถึงแม้จะไม่มีเหตุผลเลยก็ตาม มะลินั่งอยู่สักพักก็ล้มตัวลงนอน
ส่วนภาคินก็ลืมตาอยู่ในความมืดด้วยความรู้สึกหลากหลาย ที่เขาล้วงเกินมะลิลงไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเหมือนกัน ว่าเขาเป็นอะไรเพราะรู้สึกดีที่ได้ใกล้ชิดกันหรือว่าเพราะอะไรกันแน่