ข้าวทิพย์ก้าวเดินออกมาจากมหาวิทยาลัย สิ่งแรกที่เธอทำคือ..ทิ้งทุกอย่าง
หญิงสาวหยิบเอาโทรศัพท์ออกมา แล้วใช้เข็มจิ้มดึงเอาซิมการ์ดโทรศัพท์ออกมาจากเครื่อง
"ลาก่อนนะทุกคน" ซิมการ์ดนั้นถูกทิ้งลงถังขยะหน้ามหาวิทยาลัยก่อนที่เธอจะเรียกแท็กซี่
ในเวลาต่อมาที่บ้านหลังหนึ่ง..
"ทำไมถึงจะไม่เรียนต่อ"
"ป้าก็รู้ว่าข้าวหัวไม่ดี ถึงเรียนต่อไปก็คงเรียนไม่จบ"
"ป้าถึงให้เราเรียนมหาวิทยาลัยของเอกชนไง..หรือเรากลัวว่าป้าจะไม่มีเงินส่งเรา"
"กว่าจะเรียนจบมันต้องหมดอีกกี่ล้านล่ะคะป้า"
"กิจการครอบครัวของเราก็มี จะกลัวอะไร"
"ของที่ขายไม่ค่อยได้เนี่ยเหรอคะ"
"อย่าเอาเหตุผลนี้มาเป็นข้ออ้าง"
"ข้าวท้องค่ะ" ถึงยังไงสักวันป้าก็คงจะรู้เรื่องนี้ ถ้ารับไม่ได้เธอพร้อมที่จะออกจากบ้านของท่าน
".........." คนเป็นป้าแทบเข่าทรุดเมื่อได้ยินหลานสาวบอกเหตุผล ถ้าแค่หลานกลัวว่าป้าจะไม่มีเงินส่ง ป้าต้องดิ้นรนจนสุดชีวิตแน่ แต่ถ้าเพราะด้วยเหตุผลนี้มันหมดคำจะพูดแล้ว
"ป้าตีข้าวสิคะ ป้าตบข้าวสิ ข้าวเป็นเด็กเกเรเด็กไม่ดี" ข้าวทิพย์เอื้อมมือไปดึงมือของผู้เป็นป้ามาตบตีตัวเอง เพื่อให้ท่านลงโทษ
"แล้วพ่อของเด็กรู้หรือยัง" สุนีย์เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะถามต่อ
"เขาบอกเลิกข้าวค่ะ"
"บอกเลิกทั้งๆ ที่รู้ว่าเราท้องน่ะเหรอ"
"เปล่าค่ะเขายังไม่รู้"
"ทำไมเราไม่บอกเขา"
"ป้าคิดเหรอคะว่าผู้ชายแบบนั้นจะดีใจถ้ารู้ว่าตัวเองมีลูก ขนาดเขาไม่รู้เขายังบอกเลิกข้าวเลย ถ้ารู้เขาจะไม่ให้ข้าวเอาลูกออกเหรอคะ"
"เราทำถูกแล้วล่ะ"
"ป้าไม่ว่าอะไรข้าวเหรอคะ"
"จะว่าอะไรล่ะ ดีสะอีกครอบครัวเราจะได้มีสมาชิกเพิ่มขึ้นมาอีกคน" ขณะที่พูดดวงตาของผู้เป็นป้าเศร้ามาก ความฝันของนางคืออยากจะให้หลานเรียนจบมหาวิทยาลัยดีๆ เรียนจบสูงๆ เพื่อให้เขาดูแลตัวเองได้ถ้าไม่มีป้าแล้ว
ข้าวทิพย์อาศัยอยู่กับป้า เพราะพ่อกับแม่เสียชีวิตทั้งสองคนแล้ว ป้าไม่เคยมีสามีและรักเธอเหมือนลูกแท้ๆ
"ป้าคะ ข้าวขอโทษ" คิดไว้แล้วถ้าป้ารับเรื่องนี้ไม่ได้เธอก็จะออกจากบ้านของท่าน เพราะไม่มีทางที่เธอจะเอาเด็กคนนี้ออก ถึงแม้จะมีโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาคือทุกสิ่งทุกอย่างของเธอในเวลานี้ เธอยอมทิ้งอนาคตเพื่อให้ได้อยู่กับเด็กคนนี้
ข้าวทิพย์มองตามหลังผู้เป็นป้าที่เดินออกไป ทีแรกท่านว่าจะปิดร้านแล้ว แต่พอได้คุยกับหลานสาวท่านก็เดินไปเปิดร้านใหม่อีกครั้ง
"ข้าวช่วยค่ะ"
"หนูกลับมาเหนื่อยๆ ไปพักเถอะ"
"ขนาดป้ายังไม่พักเลย"
ตอนพิเศษ ฟีฟ่า♡มิ่งขวัญหลายเดือนผ่านไป.. หลังจากที่นักรบเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศทุกคนก็ยังคงดำเนินชีวิตต่อไป และตอนนี้อายุครรภ์ของมิ่งขวัญก็ 8 เดือนแล้ว"ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องมาทำงานแล้ว" ตอนนี้ฟีฟ่าทำงานแทนมิ่งขวัญได้ทุกอย่างแล้ว เขาไม่อยากให้เธอต้องมานั่งทำงานให้เหนื่อยอีก ..แต่พอเขามาถึงบริษัทมิ่งขวัญก็ตามมา"เหลืออีกตั้งเป็นเดือนกว่าคุณหมอจะนัดคลอด""แต่คุณไม่ค่อยแข็งแรง ผมอยากให้พักผ่อนมากๆ""แต่วันนี้เป็นวันประชุมผู้ถือหุ้นนี่คะ""ผมประชุมแทนได้ มีอะไรเดี๋ยวผมจะโทรไปหา""ก็ได้ค่ะ ประชุมเสร็จฉันสัญญาว่าจะกลับบ้าน" พูดจบมิ่งขวัญก็เดินไปที่ชั้นเอกสาร เพื่อจะเอาเอกสารไปร่วมประชุม"คุณเป็นอะไร" ฟีฟ่าที่ยืนมองอยู่รีบเข้าไปพยุงเธอไว้เพราะเห็นว่าเธอเอามือมากุมท้อง"สงสัยลูกจะดิ้นแรงไปค่ะ""ไปนั่งก่อน""โอ๊ยย" ทีแรกคิดว่าตัวเองจะกลั้นได้ แต่จังหวะก้าวเท้าก็รู้สึกเจ็บหน่วงขึ้นมา"ขวัญ" ชายหนุ่มช้อนร่างเธอขึ้นมาอุ้มก่อนที่จะพาเดินมาที่ประตูทางออก"เจ็บท้องค่ะ""ผมรู้แล้ว เดี๋ยวผมพาไปโรงพยาบาล""ผู้จัดการเป็นอะไรคะ" พอประตูห้องทำงานเปิดออกคนที่อยู่หน้าห้องก็รีบเข้ามา เพราะเห็นว่
"ร้อนจังเลยค่ะ""ร้อน?" ที่เขาสงสัยเพราะในห้องนี้เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบเลยจะเอาอะไรมาร้อน"หรือคุณไม่ร้อนคะ" ยูริถามพร้อมกับค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อที่ใส่อยู่ออก"ร้อนครับ ร้อนมากเลยครับ" เธอนี่ทำให้เขาตื่นเต้นได้ตลอดเวลาเลย ที่เปิดห้องคิดว่าอยากจะคุยกับเธอให้รู้เรื่อง เพราะต้องรีบไปดูห้องจัดเลี้ยง และต้องไปทำอะไรอีกหลายอย่างเลย เพราะงานแต่งกระชั้นชิดเข้ามาแล้ว..แต่ไม่เป็นไรจัดเธอก่อนแล้วกัน"อือ ใจเย็นก่อนสิคะยังไม่อาบน้ำเลย""ไม่ทันแล้ว""อ๊อย" นี่แหละสิ่งที่เธอชอบในตัวเขามากที่สุด เพราะแค่สะกิดเล็กน้อยเขาก็จัดให้แล้ว คนอะไรจะไฟติดง่ายขนาดนี้ต้องขอบคุณพ่อกับแม่ไหมเนี่ยที่แยกทางกัน เพราะถ้าเธอไม่ตามแม่กลับมาคงไม่รู้จักกับผู้ชายคนนี้แน่เลย"อื้อ คุณนักรบไม่ค่ะ" มือเรียวผลักใบหน้าอีกฝ่ายที่ฝังจูบลงเนินน้องสาวให้ออกไปก่อนแต่แรงของเธอหรือจะสู้เขาได้ ชายหนุ่มกดใบหน้าลงไปแล้วก็ใช้แรงดูด"ซี๊ดดด แรงอีกนิดค่ะ" จากที่ห้ามอยู่เมื่อครู่เพราะไม่มั่นใจในตัวเอง แต่พอเจอทั้งปากและลิ้นเข้าไปใครจะไปทนได้ล่ะ สะโพกงามเด้งรับเรียวลิ้นที่แทรกผ่านกลีบร่องเข้ามา"อ๊อยยย เอาอีกค่ะ" ทำไมเขาเก่งขนาดนี้ ท
หลายวันต่อมา.."ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ" เขตแดนพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปรับการ์ดเชิญจากนักรบ"ขอบคุณมากครับ""แล้วนี่เมื่อไรจะกลับมาทำงานได้ล่ะครับเนี่ย" ตั้งแต่วันนั้นนักรบก็ขอลางานเพื่อที่จะจัดเตรียมงานแต่ง เพราะเขาต้องจัดงานก่อนที่พ่อเธอจะเดินทางกลับต่างประเทศ"เรื่องนี้ผมก็อยากจะคุยกับบอสอยู่พอดีเลยครับ""อย่าบอกนะว่า.. ผมยังไม่พร้อมที่จะฟัง" เขตแดนก็พอจะรู้แล้วล่ะ ตอนนี้นักรบเป็นถึงลูกเขยของฮิโรชิเจ้าของบริษัทชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น มีเหรอที่เขาจะยังมาช่วยงานที่นี่อยู่"คุณพ่ออยากให้ผมไปดูแลที่นั่นช่วยลูกสาวของท่านครับ" ที่ประเทศไทยไม่มีอะไรให้เขาต้องห่วง นักรบถึงได้บอกว่าญี่ปุ่นแค่ปากซอย เพราะเขาพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเธอได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเธอจะไปอยู่ที่ไหนเขาก็พร้อมที่จะไปอยู่ที่นั่นด้วย"ถ้างั้นผมก็ขอแสดงความยินดีด้วยอีกเรื่องแล้วกัน นี่ผมต้องหาผู้จัดการคนใหม่แล้วเหรอเนี่ย" เพราะผู้จัดการที่พูดได้หลายภาษาแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะหาง่ายๆ แถมยังเข้าได้กับทุกคน"ถ้างั้นผมขอไปแจกการ์ดห้องอื่นก่อนนะครับ" วันนี้เขาเตรียมการ์ดเชิญวันแต่งงานมาให้กับผู้บริหารทุกท่านเลยจนมาถึงห้องสุดท้ายก็
"เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ?""ที่ผมเรียกพ่อมาด้วยเพราะผมอยากจะสู่ขอลูกสาวของท่าน""สู่ขอฉันเหรอ?""ใช่ครับ""ฉันฟังผิดไปหรือเปล่า คุณบอกว่าจะสู่ขอฉันกับพ่อแม่เหรอ?""ยูริ" ยี่หวาต้องห้ามปรามลูกไว้เพราะอาการดีใจออกหน้าออกตามาก"ที่ผมจอดรถ เพราะผมไปซื้อไอ้นี่มาให้คุณ" ชายหนุ่มเปิดกล่องแหวนที่เขาแวะร้านเพชรก่อนที่จะมาที่นี่เพราะว่าเขายังไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย ไม่คิดว่าเธอจะขอแต่งงาน และที่นักรบไม่พูดอะไรเลยเพราะเขาอยากเป็นฝ่ายขอเธอแต่งงานมากกว่า"ทำไมคุณไม่บอกล่ะคะ" ถ้ารู้ว่าเขาไปซื้อแหวนมีเหรอที่เธอจะเรียกแท็กซี่กลับเอง"บอกก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะสิ แต่ผมดันถูกคุณเซอร์ไพรส์กลับ""หึหึ" จากที่ยืนฟังอยู่คนเป็นแม่ก็อดขำไม่ได้ เห็นแล้วล่ะว่าลูกสาวร้องไห้วิ่งเข้ามาในบ้าน แต่ไม่คิดว่าที่ร้องไห้เพราะการเข้าใจผิดกันนี่เองแต่จังหวะที่ยี่หวามีรอยยิ้มฮิโรชิก็แอบมองดูรอยยิ้มนั้นของอดีตภรรยา ตั้งแต่นางจับได้ว่า ท่านนอกใจ ท่านก็ไม่เคยเห็นรอยยิ้มแบบนี้อีกเลย "คุณก็สวมแหวนให้ฉันสิ""สวมแหวนเลยเหรอ" เขายังไม่ทันได้ขอเธอกับพ่อแม่เลย "คุณพ่อกับคุณแม่ว่ายังไงคะ""ถ้ารักกันชอบกันแม่ก็ไม่ห้าม แต่แม่ขออย่างเดียวอย่า
"พ่อเจ็บมากไหมคะ""เจ็บโอ๊ยย" เห็นว่าลูกเป็นห่วงก็เลยอ้อนหน่อยมือเรียวเอื้อมไปแตะหน้าผากของพ่อตรงที่มีผ้าพันแผลแปะอยู่ "ยูริบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าเพิ่งมาหาแม่.. ไปหาหมอหรือยังคะ""ยัง""ทำไมไม่ไปให้หมอตรวจดูหน่อย""พ่อไม่เป็นอะไรหรอก แล้วแม่ว่ายังไงบ้าง""แม่จะว่าอะไรล่ะคะยิ่งโกรธเพิ่ม" ประโยคนี้เธอกรอกหางตามองไปดูคนที่พาพ่อไปเที่ยว"อย่าว่าให้แฟนเราเลยพ่อเองต่างหากที่อยากไปดื่ม""ถ้าเขาไม่พาไปพ่อก็ไม่ได้ไปที่นั่น""ผมผิดเองครับ"ยูริตกใจเล็กน้อยที่เขาบอกว่าตัวเองผิด ทั้งๆ ที่ เธอก็พยายามยัดเยียดความผิดให้เขา"ผมว่าเรากลับโรงแรมดีกว่าครับ เดี๋ยวผมจะไปส่ง" ไม่รู้ว่ามีความรู้สึกแบบนี้ได้ยังไง รู้สึกแอบน้อยใจที่เธอดูไม่เป็นห่วงเขาเลย"อีกไม่กี่วันพ่อคงต้องกลับ แต่ก่อนกลับพ่ออยากคุยกับแม่เราก่อน""พ่อจะกลับแล้วหรือคะ" เธอรู้ว่าพ่อต้องดูแลบริษัท พนักงานอีกหลายร้อยชีวิตยังรอท่านกลับไปบริหารงานอยู่"คงต้องกลับ พ่อมาหลายวันแล้ว""พ่อรอยูริอยู่บนรถนะคะ เดี๋ยวยูริไปเอาของก่อน" ได้ยินว่าพ่อจะกลับก็รู้สึกใจหาย เลยคิดว่าจะไปส่งท่านที่โรงแรมยูริเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะเธอใส่เสื้อผ้าอยู่บ้าน แล้ว
"มีอะไรอีก" เขตแดนชักจะใจไม่ดีเมื่อเห็นสีหน้าของนักรบที่มองโทรศัพท์ คิดว่ามีคลิปอะไรตามมาอีกพอแน่ใจแล้วนักรบก็ยื่นคลิปที่ทางบาร์ส่งมาให้กับบอสได้ดูด้วย หลังจากที่ดูคลิปนั้นแล้ว ทั้งเขตแดนแผ่นดินและคนที่อยู่ในห้องนั้นมองไปที่จรัญแทบจะพร้อมกัน"พวกคุณมองผมทำไม" จากที่นั่งทำตัวสบายๆ อยู่ก็ชักจะไม่สบายแล้ว"คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร""ผมทำอะไร อย่าบอกนะว่าคุณจะเชื่อคนที่กล่าวหาผม""คุณรู้ว่าผมหมายถึงเรื่องอะไรงั้นเหรอ""ผมยังไม่รู้หรอกแต่สายตาคุณมันฟ้อง""ทางร้านที่คลิปถูกเผยแพร่ ได้ส่งคลิปคนที่เป็นตัวต้นเหตุมาให้""ตัวต้นเหตุ?" จรัญที่นั่งอยู่ถึงกับดันตัวลุกขึ้น "พวกคุณจะรู้ได้ยังไงว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร""ผมยังไม่ได้บอกเลยว่าเป็นผู้ชาย""ผมแค่เดาเอาก็พวกคุณมองมาที่ผม""คนที่ใส่หมวกสีขาวผมว่าหุ่นคล้ายๆ คุณเลยนะ""ผมไม่เคยใส่หมวกสีขาว""อ้าวเหรอครับแล้วคุณใส่หมวกสีอะไร""สีดำ!" ตอบออกไปถึงรู้ว่าตัวเองเสียรู้แล้ว "คุณมีหลักฐานอะไรมากล่าวหาผม""ถึงแม้อยู่ในร้านคุณจะใส่หมวกใส่แว่นตาดำ แต่ยังมีคลิปหน้าร้านให้ผมได้เห็น ก่อนที่คุณจะสวมสองอย่างนั้น แต่ถึงแม้ไม่มีคลิปหน้าร้านคุณดูละครมากเกินไปหรือเปล่