แชร์

บทที่ 5 เปลี่ยนหลังคาใหม่ 70%

ผู้เขียน: ทิพย์ทิวา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-06 20:05:57

“ค่ะ งั้นพี่คีรินก็รีบกินสิคะ” หญิงสาวว่าแล้วก็รีบตักอาหารกินอย่างรีบร้อน ราวกับกลัวว่าหากช้าแล้วเขาจะไม่พาไป

“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ เราน่ะ ค่อย ๆ กินเดี๋ยวก็สำลักหรอก” เขาว่า พลางอมยิ้มอย่างนึกขันเมื่อเห็นท่าทางเหมือนเด็ก ๆ นั้น จนอดนึกถามในใจไม่ได้ว่า นภาธรเอาเด็กมาให้เขาเลี้ยงหรืออย่างไรกัน ก่อนจะก้มลงรับประทานอาหารตรงหน้าต่อจนหมดจาน

“ตักข้าวให้พี่อีกจาน” เขายื่นจานเปล่าให้คนตรงหน้า เพียงฤดีรับแล้วตักให้อย่างรู้สึกประหลาดใจ

“พี่คีรินหิวหรือคะ”

“พี่ไม่ได้กินผัดเผ็ดแบบใต้มานานแล้ว เราเก่งนะมาอยู่ใต้ไม่กี่วันก็ทำอาหารใต้เป็นแล้ว” เขาว่า

“เอ่อ ฤดีก็แค่ซื้อพริกแกงคั่วใต้มาลองทำดูค่ะ ไม่ได้ยากอะไรเลย พี่คีรินชอบอาหารแบบนี้หรือคะ ฤดีก็นึกว่าพี่คีรินชอบอาหารแบบฝรั่งซะอีก” เธอว่า เพราะเห็นซื้อหมูเนื้อสันมาให้เธอทำสเต็ก แล้วซื้อไส้กรอกประเภทต่าง ๆ มาอีกหลายถุง ไหนจะซอสหลากหลายชนิด มายองเนสและน้ำสลัดอีกหลายขวด

“พี่เป็นคนใต้ ก็ต้องชอบอาหารใต้สิ มันถูกปากกว่าอาหารฝรั่ง พอได้กินแล้วเจริญอาหาร” เขาว่า ที่ผ่านมาเขากินอาหารแบบคนในเมืองมานาน จนจำแทบไม่ได้ว่าไม่ได้กินอาหารพื้นบ้านแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว เพราะนิราไม่ชอบกินอาหารประเภทนี้ ส่วนเขาก็กินตามที่เธอชอบกิน จะได้ไม่ต้องขัดใจกัน

“งั้นต่อไปฤดีจะหัดทำอาหารใต้แล้วกันค่ะ” เธอว่า

“ก็แล้วแต่เราเถอะ ทำอะไรมาพี่ก็กินได้หมดแหละ พี่ไม่ซีเรียสเรื่องกินหรอก ขอแค่ได้กินอิ่มก็พอ แต่ถ้ารสชาติถูกปากก็จะกินได้มากหน่อย เหมือนกับวันนี้ที่ผัดเผ็ดอร่อยก็เลยกินมากหน่อย” เขาว่าพลางตักผัดเผ็ดใส่จานแล้วกินต่อ ส่วนคนทำนั้นยิ้มกว้างจนแก้มแทบฉีก

เพราะเธอทำกับข้าวให้คนที่บ้านกินมาหลายปี แต่แทบไม่เคยได้รับคำชมแบบนี้เลย เหมือนต้องทำไปตามหน้าที่ ที่ทุกคนตื่นมาก็ต้องมีข้าวกิน มีเพียงนภดลที่คอยชมอยู่บ้างเมื่อได้กินของแบบที่ตนเองชอบ ส่วนพี่ชายกับมารดานั้นถ้าอร่อยก็คือกินเงียบ ๆ เหมือนกับว่าการทำอาหารให้อร่อยเป็นหน้าที่ของเธอ แต่ถ้ารสชาติไม่ถูกปากขึ้นมาจะบ่นไม่หยุดหย่อนเลยทีเดียว

เพียงฤดีเดินตามคีรินเข้าไปในสวน เธอตื่นเต้นคอยถามเขาตลอดทางว่าต้นนั้นคืออะไร ต้นนี้คืออะไร แล้วเขาก็จะเล่าเรื่องต้นไม้แต่ละต้นให้เธอฟังว่ามันมาจากไหน ใครให้มา และใครเป็นคนปลูก

“ต้นนี้เป็นลองกองได้พันธุ์มาจากเกาะสมุย เพื่อนปู่เป็นคนเอามาฝาก แล้วปู่ใช้ให้พี่เอามาปลูกอีกที ตอนพี่ไปกรุงเทพฯ มันยังไม่ออกลูกเลย ตอนนี้ดูสิลูกเต็มต้น ถ้าสุกเราคงกินกันไม่ไหวแน่” เขาเงยหน้าขึ้นไปมอง แล้วเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่า ตอนนี้เข้าสู่ช่วงฤดูผลไม้แล้ว เมื่อเห็นลองกองช่อใหญ่สีเขียวเต็มต้น

ซึ่งอีกไม่กี่วันลองกองราวสิบกว่าต้นก็คงสุก ที่ผ่านมาคงสุกคาต้นจนร่วงทิ้งมาหลายปีแล้วแน่ ๆ หรืออย่างมากบิดาก็คงเข้ามาเก็บไปกิน เพราะท่านคงไม่มีเวลาเอาไปขาย เนื่องจากมีงานในสวนแปลงใหม่ให้ทำมากมาย

“งั้นฤดีเอาไปช่วยขายตลาดนัดไหมคะ หรือว่าเราจะขายออนไลน์” เธอหันไปถามเขา

“กล้าไปนั่งขายตลาดนัดด้วยหรือเราน่ะ ส่วนเรื่องส่งออนไลน์ก็ต้องคิดให้ดีว่าจะส่งวิธีไหน เพราะลองกองเสียเร็ว บางทีส่งออนไลน์อาจจะช้ำง่าย แล้วก็เน่าเสียระหว่างขนส่งได้” เขาว่า

“ทำไมฤดีจะไม่กล้าขายตลาดนัดล่ะคะ น่าสนุกออก แต่พี่คีรินต้องแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ฤดีด้วยนะคะ ฤดีจะเอาเงินไปทำบ้าน” เธอบอกเขาตามตรง

“เอาสิ เราจะเอาเท่าไหร่ก็เอาไป จะเอาอะไรที่นี่ไปขายก็เอาไป ให้มันขายให้ได้ก่อนเถอะ” ชายหนุ่มยิ้มขบขัน เขาไม่คิดว่าเธอจะไปนั่งขายตลาดนัดจริง ๆ ขณะที่อีกคนยิ้มตาพราวเห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองไปหมด

“ฤดีเอาสามสิบเปอร์เซ็นนะ” เธอชูสามนิ้วขึ้น

“อือ” เขาพยักหน้าราวกับคุยกับเด็ก ๆ ที่ไม่ได้จริงจังอะไรนัก เพราะหากเขาไม่กลับมาของในสวนนี้ก็ถูกปล่อยทิ้ง

บิดาจะให้คนมาถางหญ้าให้บ้างปีละครั้งสองครั้งเพื่อไม่ให้รกจนกลายเป็นป่า แต่ให้ลานปาล์มมาแทงปาล์มให้เป็นประจำเดือนละสองครั้ง แล้วโอนเงินเข้าบัญชีให้เขา ผลผลิตในสวนที่ไม่ใช่พืชเศรษฐกิจที่มีที่รับซื้ออย่างจริงจังก็ปล่อยทิ้ง ไม่ได้สร้างรายได้ให้มากนัก

ส่วนมะพร้าวก็หล่นเกลื่อนกลาดให้คนแถวนี้ได้เข้ามาเก็บไปกิน นาน ๆ บิดาจะเรียกรถพ่อค้าที่รับซื้อมะพร้าวเอาลิงมาปีนเก็บขายให้สักที ซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจเงินจำนวนเล็กน้อยนั้นนัก เนื่องจากงานที่เขาทำส่วนใหญ่ก็ได้เงินก้อนใหญ่เข้ามา จึงบอกให้ท่านเก็บเงินไว้สำหรับให้คนมาตัดหญ้าหรือใช้จ่ายส่วนตัวไปบ้าง แต่ท่านก็ยังให้พี่ชายช่วยโอนส่วนที่เหลือไปให้อยู่เรื่อย ๆ

“โอ้โห นั่น ๆ มีทุเรียนด้วยค่ะพี่คีริน กำลังออกลูกด้วย พี่คีรินนี่ร้วยรวยนะคะ มีทุเรียนด้วย ตอนนี้ทุเรียนแพ้งแพง ฤดีอยากกินยังไม่กล้าซื้อเลยค่ะ” เธอชี้ไปยังแปลงทุเรียน

“เดี๋ยวทุเรียนสุกก็คงได้กินจนร้องว่ากินไม่ไหวแล้ว” เขาว่า

“พี่คีรินจะให้ฤดีกินจริง ๆ หรือคะ” เธอทำตาโต

“อ้าว ก็เราอยู่กับพี่ พี่จะไม่ให้เรากินได้ยังไง ถามอะไรตลกอีกแล้ว” 

“ก็ทุเรียนแพงขนาดนี้ เขาก็เอาไปขายกันสิคะ ใครเขาจะเอามาให้กินกันง่าย ๆ ล่ะ” เธอว่า เพราะราคาทุเรียนที่แพงราวกับทองคำ แถมมีเท่าไรก็ขายหมด แล้วยังมีคนแย่งกันซื้ออีก เธอจึงนึกว่าเขาจะหวง

“พี่ให้เรากินให้อิ่มก่อนแล้วค่อยเอาไปขาย โอเคมั้ย” เขาเอามือตบหัวเธอเบา ๆ อย่างเอ็นดู เห็นรอยยิ้มแป้นออกมาจากคนตรงหน้า ก็ทำให้เขายิ้มออกมาได้เหมือนกัน

“งั้นไปดูฝั่งโน้นดีกว่า ว่ามังคุดออกลูกหรือเปล่า พี่ว่าน่าจะออกบ้างแล้วเหมือนกัน”

“ว้าว มีมังคุดด้วย ไปค่ะ ฤดียังไม่เคยเห็นต้นมังคุดเลย” เธอยิ้มสดใสแล้วรีบเดินนำไป ขณะที่อีกคนก็รู้สึกไม่ต่างจากพาเด็กมาเดินเที่ยวสวนสนุก

“ทางนี้” เขาเรียก เมื่อเห็นคนตื่นเต้นรีบเดินไม่รอเจ้าของสวน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 100%

    “นายไปเถอะ ฤดีทำกับข้าวไว้แล้ว บอกแม่ว่าพรุ่งนี้จะพาฤดีไปกินข้าวด้วย” คีรินว่าพลางโอบเอวของภรรยาข้าวใหม่ปลามันเข้ามาชิด “โอเค งั้นผมไปละ โคตรหิว” ปรัชญาโบกมือลาแล้วเดินดุ่ม ๆ มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังน้อยของเพียงฤดีที่ตอนนี้เปิดไฟสว่างขึ้น คีรินและเพียงฤดีมองตามร่างสูงของปรัชญาที่เดินเข้าไปยังบ้านหลังเล็กที่อยู่ไกล ๆ เพียงฤดีมองภาพนั้นอย่างมีความสุข เพราะบ้านหลังน้อยของเธอนอกจากจะเป็นบ้านที่ให้แม่และน้องได้อยู่อย่างมีความสุขแล้วยังเป็นที่พึ่งพิงของชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ทำตัวเป็นคนโปรดของมารดาเธอได้อย่างน่าเอ็นดู แถมยังทำให้มารดามีความสุขกับการได้มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ต้องมีเรื่องทุกข์ร้อนให้ต้องกังวลใจอีกไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่เคยชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช้เดือนไม่เคยชนเดือน ตอนนี้ท่านก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทองอีก เพราะเดือนละหนึ่งหมื่นบาทที่เธอให้ ท่านแทบไม่ได้เอาไปซื้ออะไรเลย เพราะใช้เงินจากที่นภดลนำผักไปขายเอาเงินไปซื้ออาหารสด และนภดลก็เริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 70%

    หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็ใช้ความพยายามกล่อมภรรยาจนได้กินเธออีกรอบอย่างที่ต้องการ นอนคลอเคลียด้วยกันอยู่บนที่นอนจนถึงอาหารมื้อเที่ยง ถึงได้ออกจากห้องคีรินเปิดประตูออกไปหน้าบ้าน เห็นคนงานกำลังเคลียร์สถานที่ที่ใช้จัดงาน โดยมีปรัชญาคอยดูแล“อ้าว พี่คี ออกมาได้แล้วเหรอ เมื่อคืนคงหนักสินะ” รุ่นน้องหนุ่มเอ่ยแซวพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย“แล้วมึงละ หนักเหมือนกันละสิไอ้เป้ ป่านนี้ถึงได้เพิ่งมาเก็บของ”“แหม ก็ยันเช้าอ่ะพี่ พี่ณัฐกับไอ้บุ๋มยังไม่ตื่นเลย พี่เทพพาเมียไปเดินเล่นในสวน ส่วนไอ้หนึ่งพาเมียไปออกไปซื้อของตลาดเดี๋ยวคงจะมา เห็นว่าจะกลับกันเย็นนี้” ปรัชญารายงาน“แล้วยายนภาล่ะ เมื่อคืนนอนที่ไหน”“เห็นพี่ชลพากลับไปนอนบ้านโน้น แต่รถยังอยู่ที่นี่เห็นว่าค่อยกลับมาเอาตอนจะกลับกรุงเทพฯ” ปรัชญาตอบ“อืม งั้นนายก็ทำงานไปเถอะ ฝากช่วยหน่อยนะ วันนี้เพลีย ๆ เดี๋ยวพี่ไปช่วยเมียทำกับข้าวก่อน นายก็หากินเอาเองนะ”“ไปเลยพี่ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องกินน่ะผมฝากท้องกับแม่แล้ว ผูกปิ่นโตทุกวัน เดี๋ยวก็ว่าจะย้ายของในห้องไปอยู่กระท่อมแล้วละ ส่วนพี่ก็เก็บแ

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 50%

    “งั้นเดี๋ยวพี่ป้อนให้” ว่าแล้วก็ดันร่างบางของหญิงสาวให้มาเผชิญหน้า เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย มือเรียวปิดหน้าอกเอาไว้ เขาเพิ่งรู้ว่ามันไม่ได้เล็กอย่างที่เขาคิด แต่ความอวบอิ่มนั้นล้นมือของเธอทีเดียว ปกติเขาจะเห็นเธอแต่งชุดเรียบร้อย เสื้อผ้าก็ใส่แบบหลวม ๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับมีจนเขาต้องแอบกลืนน้ำลาย เขาเอาองุ่นใส่ปากหญิงสาวที่กำลังจะอ้าปากท้วง “อร่อยไหม” ถามด้วยดวงตามระยิบระยับ ที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา “พี่คีริน ไปอาบน้ำสิคะ ฤดีกินเองได้ค่ะ” เธอหลบสายตาหวานฉ่ำนั้นด้วยความเขินอาย พลางไล่ให้เขาไปอาบน้ำก่อน “พี่ไม่อาบคนเดียวหรอก เราต้องไปอาบกับพี่ด้วย รู้ไหมตอนตกแต่งห้องนี้ พี่แอบคิดว่าถ้าวันหนึ่งพี่แต่งงานกับฤดี ก็อยากอาบน้ำด้วยกันทุกวัน จึงได้ติดตั้งอ่างจากุชซี่ไว้ในห้องนอนด้วย” “อะไรน

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 30%

    ๒๒วิวาห์แสนหวาน งานแต่งงานที่จัดขึ้นที่ไร่คีรินจบลงอย่างสวยงาม แม้ว่าเพื่อนเจ้าบ่าวกับเพื่อนเจ้าสาวออกอาการเขม่นกันอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้ทำให้งานแต่งงานเสียบรรยากาศแต่อย่างใดส่วนเอกกมลผู้เป็นพี่ชายของเจ้าสาวนั้นพาภรรยาวัยสาวน้อยมาด้วย แต่อยู่ร่วมงานเพียงไม่นาน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ก็พาภรรยากลับไปซึ่งเพียงฤดีก็เข้าใจและเห็นใจในความลำบากใจของพี่ชาย ซึ่งรู้ว่าภรรยาของตนกับมารดานั้นไม่ค่อยลงรอยกันนัก จึงไม่ได้ว่าอะไรที่เขาไม่ได้อยู่จนจบงาน แค่เขาได้มาร่วมงาน เธอก็ดีใจมากแล้ว และเห็นว่าเอกกมลเปลี่ยนตัวเองให้ใจเย็นลงได้อย่างมากก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว “น้องฝากยายฤดีด้วยนะพี่คีริน ดูแลให้ดีนะ ไม่งั้นน้องโกรธจริง ๆ ด้วย” นภาธรว่า ขณะที่อยู่ในห้องหอของบ่าวสาวที่เพิ่งทำพิธีจบลง และหมดหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวของเธอแล้ว&nb

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 21 ปรับตัวเองง่ายกว่า 100%

    ปรัชญาเดินดุ่มขึ้นมาบนบ้านหลังเล็กของเพียงฤดีเมื่อเห็นคีรินนั่งอยู่หน้าบ้าน เขาเดินขึ้นระเบียง ถอดหมวกแก๊ปวางบนโต๊ะด้วยท่าทางหงุดหงิด แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าชายหนุ่มรุ่นพี่“เป็นอะไรไอ้เป้” คีรินถาม“ก็ผู้หญิงอะไรไม่รู้ หน้าตาก็ดี แต่เหมือนคนบ้า ผมจอดรถของผมอยู่ดี ๆ ก็มาเคาะกระจกเรียก ด่าผมว่าเสียมารยาทไปจอดรถตรงที่ที่เขาจองไว้แล้ว บ้าบอมาก มันตลาดนัด ใครไปถึงก็จอดก่อน ผมก็ไม่เห็นว่าเขากำลังจะเข้าจอด เห็นรถถอยออกก็เสียบเข้าไป ยังไม่ทันได้ดับเครื่องก็มาเคาะเรียก บังคับให้ผมเอารถออกทั้ง ๆ ที่ตรงอื่นก็จอดได้เยอะแยะ ผมขี้เกียจรำคาญก็เลยถอยรถออกมานี่แหละ จะแวะซื้อเป็ดตุ๋นมากินสักหน่อยเลยไม่ได้กินเลย”“เออน่า อย่าเพิ่งโมโหหิว แม่กับฤดีทำกับข้าวอยู่ น่าจะใกล้เสร็จแล้วละ เดี๋ยวก็กินด้วยกันที่นี่แหละ แล้วว่าไง ออกไปหาลูกค้าไร่พิงอรุณมาเป็นยังไงบ้าง”“ก็ดี ลุงแกก็โอเคแหละ คนแก่น่ะ ให้เราออกแบบระบบให้แล้วเสนอราคาไปก่อน เห็นบอกว่าลูกสาวที่อยู่กรุงเทพฯ อยากให้วางระบบฟาร์มอัจฉริยะไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาอยู่บ้านแล้ว”“อืม เห็นลุงแกจะขายที่ดินให

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 21 ปรับตัวเองง่ายกว่า 70%

    งานแต่งงานกำลังจะจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า วันนี้ทั้งประสิทธิ์ สายชล และชลธรมาช่วยเตรียมงานในไร่ตั้งแต่เช้า ไหนจะช่วยจัดเตรียมวางแผนเรื่องอาหาร การจัดสถานที่ รวมทั้งชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว แม้ว่าทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะบอกว่าอยากได้งานเล็ก ๆ อบอุ่น ๆ ภายในครอบครัวแต่ในที่สุดก็ไม่สามารถจัดแบบนั้นได้ เมื่อพ่อแม่เจ้าบ่าวไม่ยอม เนื่องจากเป็นลูกชายคนแรกที่ได้แต่งงาน และไม่รู้ว่าลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็กจะมีโอกาสได้แต่งงานไหม จึงขอจัดงานให้ถูกใจพ่อแม่เจ้าบ่าวก่อน“อย่าว่าฉันอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะแม่หทัย ฉันน่ะก็ไม่อยากให้ทุกคนเหนื่อยกันหรอก แต่ฉันก็มีลูกอยู่แค่สามคน อีกสองคนยังไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่งงาน เลยขอจัดงานพ่อคีรินให้มันใหญ่หน่อย ให้พออวดเพื่อนได้ว่าฉันได้ลูกสะใภ้ดี แม่หทัยนี่สอนลูกดีจริง ๆ น่ารักน่าเอ็นดู ขยันขันแข็ง อ่อนน้อมถ่อมตน ฉันเห็นครั้งแรกก็หลงรักแล้ว” สายชลว่าพลางนั่งตรวจเช็คของชำร่วยไปพลาง ว่าจำนวนชิ้นพอกับแขกเหรื่อที่เชิญไว้หรือไม่ขณะคนที่ถูกชมกลับยิ้มเจื่อน ๆ เพราะตนเองก็ไม่ได้สอนอะไรลูกสาวมากนัก มีแต่ใช้งานหนักให้ทำโน่น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status