ตอนที่ 2 ตื่นจากฝัน
“แอ้...ผมรักคุณ เราแต่งงานกันนะ” เสียงเข็มทิศแฟนหนุ่ม ยืนตรงหน้าหญิงสาว พร้อมยื่นช่อดอกกุหลาบสีแดง ช่อใหญ่ ด้านบนมีกล่องเล็ก ๆ ที่เปิดออก ด้านในมีแหวนวงเล็กวางอยู่
หญิงสาวน้ำตารื้นขึ้น พร้อมพยักหน้าตอบตกลง ทั้งสองโอบกอดกันแน่น ด้วยความตื้นตันและดีใจ
หญิงสาวค่อย ๆ ยิ้มออกมาเบา ๆ อย่างละเมอ ฝันนั้นช่างดีเหลือเกิน จนเธอเองไม่อยากลืมตาขึ้นมารับรู้สิ่งใดทั้งสิ้น
กุลนารีค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นจากการสลบไหล แสงแดดที่สาดส่องเข้ามา ทำให้เธอต้องหรี่ดวงตาลงเพื่อปรับแสง
หลังจากปรับสภาพดวงตาได้ เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง คุณอัศวินและคุณมาลา พ่อแม่ของเธอรีบปรี่เข้ามาอย่างดีใจ
“แอ้...เป็นยังไงบ้างลูก ขวัญเอ๋ยขวัญมา” คุณมาลาลูบไล้ศีรษะด้วยความรักใคร่ หญิงกลางคนก้มลงจุมพิตที่หน้าผากลูกสาวอย่างแผ่วเบา
“แม่...แอ้อยู่ที่ไหน” หญิงสาวเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรกด้วยเสียงแหบพร่า
“ตอนนี้หนูอยู่โรงพยาบาล หมอบอกว่าอีกไม่นานก็กลับบ้านเราได้แล้วลูก” คุณมาลารีบตอบลูกสาว
“แอ้ อย่าทำอย่างนี้อีกนะ รู้ไหมว่าพ่อกับแม่เป็นห่วงมากแค่ไหน” คุณอัศวินพูดออกมาทั้งเป็นห่วง ทั้งตำหนิ ที่ลูกสาวคิดสั้นแบบนี้
หญิงสาวน้ำตารื้นขึ้น ก่อนจะเบือนหน้าหนี และหลับตาลง
“นี่คุณ อย่าเพิ่งพูดอะไรมากเลย รอให้ลูกหายดีก่อน ค่อยกลับไปคุยกันที่บ้าน” คุณมาลาหันไปปรามสามีทันที เธอห่วงเหลือเกิน กลัวลูกสาวจะทำอะไรบ้า ๆ อีกครั้ง
“เฮ้อ...” คุณอัศวินถอนหายใจแรงออกมา เขาเองก็จนปัญญาจะทำอะไรมากกว่านี้อีกแล้ว
บ่ายแก่ ๆ ของวัน ประตูห้องพักหญิงสาว เปิดออกอย่างเร่งรีบ เข็มทิศพุ่งตรงเข้ามาหาเธอที่ข้างเตียง สีหน้ากระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด
“แอ้ เป็นไงบ้าง ทำไมเกิดเรื่องบ้า ๆ อย่างนี้” แฟนหนุ่มรีบปรี่เข้ามาพร้อมเอ่ยเสียงดังด้วยความเป็นห่วง
หญิงสาวเห็นชายหนุ่มตรงหน้า เธอยันกายขึ้น ก่อนจะรีบโผเข้าหาชายหนุ่มอันเป็นที่รักของเธอ
“ฮือออ...ฮืออ....” หญิงสาวร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนัก น้ำหูน้ำตาไหลออกมาอย่างก๊อกน้ำรั่ว เนื้อตัวสั่นเทาด้วยแรงสะอื้นหนัก ลืมแม้กระทั่งบาดแผลบนข้อมือที่อาจได้รับบาดเจ็บจากการเคลื่อนไหวที่เร็ว และแรงจนเกินไป
ชายหนุ่มโอบกอดพร้อมลูบหลังหญิงสาวอย่างต้องการปลอบประโลมเธอให้หายดี
ชายหนุ่มพอจะรู้เรื่องที่บ้านเธออยู่บ้าง แต่ด้วยฐานะเขาที่เพียงพอมีพอกิน จึงไม่อาจเข้าช่วยเหลือครอบครัวหญิงสาวได้เลย ลำพังเพียงหญิงสาวคนเดียว เขาคิดว่าเขาคงสามารถดูแลเธอได้เป็นอย่างดี แม้ว่าอาจจะไม่สามารถให้ความหรูหราแบบที่เธอเคยได้รับ แต่เขาก็พร้อมจะมอบความรักและการดูแลเอาใจใส่ต่อแฟนสาวได้ แต่ถ้าต้องรับภาระทั้งครอบครัวเธอ เขาเองก็ค่อนข้างลำบากใจเช่นกัน
หลังจากแฟนสาวร้องไห้สักพัก เสียงสะอื้นก็ค่อย ๆ เบาลง ชายหนุ่มดันกายหญิงสาวออก พร้อมยกมือสองข้างขึ้นปาดน้ำตาที่นองหน้า
“ไม่เป็นไรแล้วนะ ห้ามทำร้ายตัวเองแบบนี้อีก เข้าใจไหม” เข็มทิศ จ้องหน้าหญิงสาวนิ่ง พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุและจริงจัง
กุลนารีได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ รับ ก่อนจะทอดถอนหายใจออกมา
เข็มทิศประคองร่างหญิงสาวนอนลง เพื่อให้เธอได้พักผ่อน
หลังจากหญิงสาวหลับลง คุณอัศวินเดินไปหาชายหนุ่ม พร้อมตบไหล่เบา ๆ
“ฉันขอคุยด้วยหน่อย” พ่อหญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงด้วยความกังวลใจ
“ฉันรู้ดีว่า เราสองคนรักกัน แต่สถานการณ์ตอนนี้...” ชายชราท่าทางอิดโรย เขายกมือขึ้นลูบท้ายทอยอย่างชั่งใจ
“ฉันขอให้เธอเลิกยุ่งกับยายแอ้เสีย ฉันรู้ว่าที่ฉันพูดออกมาออกจะเห็นแก่ตัวสักหน่อย แต่เพื่ออนาคตที่ดีของลูกสาวฉัน ยายแอ้ต้องแต่งงานกับคุณคิมหันต์ เขาเป็นคนเดียวที่จะช่วยประคองกิจการต่อไปได้” คุณอัศวินพูดขึ้นอย่างลำบากใจเป็นที่สุด
คุณมาลาเดินมากุมมือชายหนุ่มแน่น แม้ว่าตอนแรกเธอไม่ค่อยเห็นด้วยนักกับการคบหากันของลูกสาวกับชายหนุ่มคนดังกล่าว แต่ด้วยที่ผ่านมา เข็มทิศรักและดูแลลูกสาวตนเป็นอย่างดี ทำให้เธอเริ่มใจอ่อน ถ้าไม่เพราะครอบครัวที่กำลังร่อแร่อยู่ตอนนี้ เธอคงไม่เห็นด้วยกับความคิดสามีเท่าไหร่นัก
“แม่ขอร้อง มันเป็นทางเดียวที่จะช่วยครอบครัวเรา และเป็นทางเดียวที่จะทำให้ยายแอ้สุขสบายอย่างที่เคยเป็น”
“คุณพ่อ...คุณแม่...ผม...” เข็มทิศตัดพ้อออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
ตอนที่ 36 ดีใจที่มีเธอหลังจากงานแต่งงานของแพรวพราวและเข็มทิศเสร็จสิ้น คิมหันต์และกุลนารีก็กลับมาถึงห้องพักของพวกเขา ห้องพักที่จัดไว้สวยงามและเรียบร้อย มีแสงไฟอ่อน ๆ ที่ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและผ่อนคลาย ผ้าม่านสีครีมปิดลงครึ่งหนึ่ง ทิ้งให้แสงจันทร์ส่องเข้ามาอย่างนุ่มนวลคิมหันต์นั่งลงบนเตียงพร้อมดึงกุลนารีมานั่งข้าง ๆ เขา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย "แอ้...แอ้เสียใจไหมที่คนข้าง ๆ แอ้เป็นพี่" เขาถามออกมาอย่างนึกหวั่นใจ น้ำเสียงที่อ่อนโยนปนด้วยความประหม่าที่ยังคงติดอยู่ในใจของเขากุลนารีหันมองหน้าคิมหันต์อย่างอ่อนโยนก่อนจะยิ้มและส่ายหน้าไปมา "แอ้ไม่เสียใจค่ะ" สายตาของหญิงสาวที่ดูจริงจังและหนักแน่น ทำเอาคิมหันต์ถึงกับยิ้มกว้างออกมากับคำตอบที่ได้รับ"งั้นแปลว่าดีใจใช่ไหม" คิมหันต์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของกุลนารี ก่อนจะจ้องมองหน้าของหญิงสาวด้วยสายตากรุ้มกริ่มและความออดอ้อนกุลนารียิ้มอย่างนึกขำ "แน่นอน แอ้ต้องดีใจสิคะ" หญิงสาวพูดพร้อมยกมือบางลูบไล้ไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างหลงใหล สายตาหญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มด้วยแววตาที่หวานซึ้ง กุลนารีอยากให้คิมหันต์รับรู้ถึงความรู้สึกที่เธอ
ตอนที่ 35 รักลงตัวบรรยากาศในวันแต่งงานของแพรวพราวและเข็มทิศอบอวลไปด้วยรอยยิ้มและความสุข สวนสวยกลางแจ้งที่จัดงานเต็มไปด้วยดอกไม้หลากสีสันและไฟประดับระยิบระยับ แขกเหรื่อที่มาร่วมงานต่างยิ้มแย้มและแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว แพรวพราวในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ เดินเคียงข้างเข็มทิศผู้สวมชุดสูทสีเทาเข้ม ทั้งคู่ต่างมองหน้ากันไปมาด้วยความรักลึกซึ้ง มือใหญ่ของเข็มทิศกอบกุมมือบางไว้ไม่หยุดเมื่อเข็มทิศและแพรวพราวเดินเข้ามาในพิธีแต่งงาน เข็มทิศกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลและมั่นคง "ผมขอขอบคุณทุกคนที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเราในวันนี้ ผมเคยทำผิดพลาดจนเกือบจะต้องเสียแพรวไปจากชีวิตของผม วันนี้ผมได้หัวใจของผมคืนมาแล้ว ผมสัญญาว่าจะรักและดูแลพราวอย่างดีที่สุด จะทำให้เธอมีความสุขในทุกๆ วันครับ"คำพูดของเข็มทิศทำให้แขกทั้งหลายต่างปรบมือและส่งเสียงแสดงความยินดี แพรวพราวยิ้มอย่างเขินอาย รอยยิ้มกว้างใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุขฉายออกมาอย่างชัดเจน หญิงสาวกอดแขนของเข็มทิศแน่น ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความรักและความซาบซึ้งคิมหันต์กับกุลนารีที่มาร่วมงานในชุดสูทสีดำที่ตัดเย็บอย่างประณีต ดูหล่อเหล
ตอนที่ 34 ข่าวดี ในช่วงบ่ายวันหนึ่ง แพรวพราวและเข็มทิศขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของคิมหันต์ เมื่อมาถึงบ้านของชายหนุ่ม ทั้งสองคนก้าวลงจากรถและเดินเข้าไปในบ้าน บรรยากาศยามบ่ายที่บ้านของคิมหันต์และกุลนารีเต็มไปด้วยความเงียบสงบ เมื่อมาถึงคิมหันต์และกุลนารีนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น คิมหันต์เงยหน้าขึ้นมองทั้งสองคนที่เข้ามาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย “ทำไมวันนี้ถึงมาที่นี่ได้เล่า” คิมหันต์ทักทายแพรวพราว พร้อมปรายตามองเข็มทิศที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างไม่สบอารมณ์แพรวพราวทำเป็นไม่สนใจสีหน้าของคิมหันต์ หญิงสาวจูงมือเข็มทิศมานั่งด้านข้างคนทั้งสอง ก่อนจะยิ้มกว้างให้กับคิมหันต์และกุลนารี “พี่คิม คุณแอ้ พราวมีเรื่องสำคัญจะบอกค่ะ” คิมหันต์เลิกคิ้วมองน้องสาวด้วยความสงสัย “พราวมีเรื่องอะไรเหรอ” แพรวพราวสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคง “พี่คิมคะ พราวกับเข็มทิศตัดสินใจจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้ค่ะ” คำพูดนี้ทำให้ทุกคนในห้องเงียบลงไปชั่วขณะ กุลนารีมีสีหน้ายิ้มแย้ม เธอรู้สึกตื่นเต้นและดีใจกับข่าวที่ได้รับ หญิงสาวรีบแสดงความยินดีกับทั้งสอง
ตอนที่ 33 เรื่องของเราคิมหันต์และกุลนารีกลับออกมาจากห้องของแพรวพราว ความเงียบสงบในคอนโดตัดกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในใจของคิมหันต์ เมื่อถึงพวกเขาถึงที่รถ คิมหันต์เองที่ยังคงรู้สึกหงุดหงิดใจอยู่ไม่หาย เขายืนอยู่ข้างรถ เอามือเท้าสะเอว พลางมองไปรอบๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจกุลนารีมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง “พี่คิม คิดอะไรอยู่คะ”คิมหันต์หันมามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด “พี่ไม่ชอบหน้าไอ้เข็มทิศเอาเสียเลย เชอะ...จะให้พี่ยอมรับงั้นเหรอ เข็มทิศทำให้พราวเกือบต้องตาย แล้วจะให้พี่วางใจง่ายๆ ได้ยังไง”กุลนารีมองค้อนคิมหันต์ ก่อนจะพูดประชดออกมา “พี่คิม อันที่จริงจะโทษเข็มทิศฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกนะ เพราะจริง ๆ แล้วเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากพี่คิมไม่ใช่เหรอ”คิมหันต์ได้ยินถึงกับสะอึกไปทันที ชายหนุ่มมองหญิงสาวตาละห้อย ก่อนจะรีบโอบร่างบางเข้าหา “แอ้กำลังโทษพี่เหรอ” เสียงออดอ้อนทำเอากุลนารีถึงกับอ่อนใจ หญิงสาวได้แต่เบนหน้าหนี “แล้วแอ้พูดผิดตรงไหนกัน” เสียงหญิงสาวยังคงกล่าวออกมาด้วยความงอน ชายหนุ่มถึงกับไปไม่เป็น รีบแก้ตัว “เพราะพี่รักแอ้หรอกนะ ถ้าพี่ไม่ทำอย่างนั้น วันน
ตอนที่ 32 เผชิญหน้าในเช้าวันต่อมา แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องของแพรวพราว บรรยากาศอบอุ่นและสงบ เข็มทิศลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเบิกบาน ชายหนุ่มหันมองหน้าหญิงสาวในอ้อมกอด เขาเผลอยิ้มขึ้นมาในทันใด มือหน้าลูบไล้เส้นผมที่ปรกลงบนใบหน้าอย่างรู้สึกเอ็นดู เขาเหม่อมองใบหน้านวลเนิ่นนานอย่างรู้สึกโล่งใจ บัดนี้เขารับรู้ความรู้สึกที่ตนมีต่อหญิงสาวถึงความเสน่หาอย่างแท้จริงทันใดนั้นเสียงกริ่งประตูดังขึ้นทำให้เข็มทิศชะงักมือลง แพรวพราวยังคงงัวเงียด้วยความอ่อนเพลียอยู่อย่างนั้น ชายหนุ่มได้แต่นึกเอ็นดู เขาค่อย ๆ ขยับตัวลงจากเตียงอย่างเงียบ ๆ เพื่อไม่ให้รบกวนหญิงสาวตรงหน้า เข็มทิศที่ยังสวมเสื้อผ้าไม่เรียบร้อยเดินมาเปิดประตู ทันทีที่เห็นแขกมาเยือนเขาก็ได้แต่ชะงักงันลงไปคิมหันต์ที่ถือข้าวของมาอย่างพะรุงพะรังนิ่งอึ้งไป เขาเกือบโยนข้าวของดังกล่าวแล้วกระโจนเข้าใส่ชายหนุ่มตรงหน้า คิมหันต์มองเข็มทิศด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”เข็มทิศมองคิมหันต์อย่างไม่เกรงกลัว “ผมค้างที่นี่” คำตอบของเขาทำเอาคิมหันต์ถึงกับบันดาลโทสะ ชายหนุ่มโยนของลงกับพื้นพร้อมปรี่เข้าหาเข็มทิศ “
ตอนที่ 31 ตามง้อเข็มทิศยังคงมาหาแพรวพราวที่โรงพยาบาลทุกวัน ชายหนุ่มรู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจทุกครั้งที่เห็นแพรวพราวที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าของเธอดูสดใสขึ้นแม้จะยังซีดเซียวอยู่ แต่แพรวพราวก็ยังคงปากแข็งไม่ยอมคืนดีด้วย ทุกครั้งที่เข็มทิศเอ่ยปากขอโทษและพยายามอธิบายความรู้สึกของตัวเอง แพรวพราวก็เพียงแค่เบือนหน้าหนีและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เข็มทิศ คุณกลับไปเถอะ ฉันไม่ต้องการเห็นหน้าคุณอีกแล้ว” แพรวพราวพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและแววตาแสดงถึงความงอนง้อคิมหันต์ยืนอยู่ข้างๆ เตียงผู้ป่วย เอาแต่มองเข็มทิศด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมั่นไส้ “คุณควรจะเลิกมาที่นี่ได้แล้ว แพรวพราวต้องการคนที่ดีกว่าคุณ”เข็มทิศถอนหายใจหนัก ความรู้สึกท้อแท้เข้ามาท่วมท้นในใจเขา แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ “ผมรู้ว่าผมทำผิดพลาดมาก แต่ผมอยากให้พราวให้โอกาสผมอีกครั้ง”คิมหันต์ส่ายหน้าอย่างไม่พอใจ “โอกาส คุณเคยมีโอกาสแล้วแต่คุณก็ทำมันพัง คุณคิดว่าคุณสมควรได้รับโอกาสอีกครั้งหรือ”ในขณะที่สถานการณ์ดูเหมือนจะไม่ดีขึ้นเลย กุลนารีมองค้อนคิมหันต์อย่างไม่พอใจ หญิงสาวกระทุ้งแขนเข้าที่เอวชายหนุ่มอย่างแรง คิมหันต์ได้แต่มองกุลนารีตาละห้อย พร