เพราะเป็นผู้หญิงที่ถูกประมูลได้ และตามที่ได้ตกลงเอาไว้กับเจ๊ต้นอ้อตั้งแต่ตอนแรกคือเธอจะต้องไปอยู่กับเขาคนนั้น
คิดแล้วก็หดหู่ใจ เธอไม่ได้อยากทำแบบนี้เลย แต่มันก็เลี่ยงไม่ได้ แต่ก็เป็นวิธีหาเงินทางเดียวที่สามารถได้เงินก้อนใหญ่ได้
ปึก!
“อ๊ะคุณ...?” เฌอรีนกำลังจะต่อว่าที่ถูกชนทั้งๆ ที่เธอยืนหลบอยู่แล้วแท้ๆ การที่เขาเข้ามาชนขนาดนี้แสดงว่าเขาต้องตั้งใจมากๆ เลยล่ะ แต่ทว่าพอหันกลับไปเห็นเธอก็ต้องตกใจรีบหุบปากที่กำลังจะก่นด่าใส่เขาเพราะจำเสื้อผ้าที่เขาใส่ได้ เป็นผู้ชายที่ประมูลเธอ ในราคาหลักสิบล้าน! “คุณ?”
“ไปได้ยัง?”
“ปะ ไปไหนคะ?” เฌอรีนถามอย่างงๆ ก็เขาไม่ได้บอกก่อนนี่นา จู่ๆ ก็จะมาพากันไปเลย อย่างน้อยๆ ก็ควรคุยสักนิด
“ที่ถามนี่โง่หรือแกล้งซื่อเรียกร้องอะไร?” พูดจบเขาก็ถอนหายใจใส่เธอแรงๆ พร้อมกับมองหน้าเธอตาแข็งกร้าวที่กำลังบ่งบอกว่าไม่พอใจเธอ
“ปะ เปล่านะคะ ก็คุณจะพาฉันไปไหนล่ะ?”
“ขายตัวให้ฉันแล้ว จะให้ฉันพาเธอกลับไปส่งบ้านเหรอ หน้าก็ไม่ได้โง่นะ”
“เฮ้ยคุณ ด่ากันแรงไปป่ะ พูดดีๆ ก็ได้ไหม? ฉันแค่ถามว่าเราจะไปไหนกันแค่นั้นเอง”
“.....” พอเห็นว่าเธอกล้าตอบกลับ ไม่ได้กลัวก้มหน้าร้องไห้เหมือนที่เคยเจอก็แสดงความไม่พอใจมากกว่าเดิมอีก มือหนาคว้าจับที่แขนของเธออย่างแรงก่อนจะดึงเธอไปที่รถของเขาที่จอดอยู่ ถึงจะเจ็บแต่ก็ขัดขืนแรงของเขาไม่ได้ จนกระทั่งเธอถูกผลักให้เขาไปอยู่ในรถ
“มันเจ็บนะคุณ! พูดกันดีๆ ก็ได้ไหม?”
หมับ!!
ชายหนุ่มจับที่คางเรียวของเธอและออกแรงบีบจนคิ้วของเธอนั้นขมวดย่นเพราะความเจ็บปวดที่รุกรานเข้าหาแบบไม่ได้ตั้งตัว
“จะ เจ็บนะ!!”
“คิดว่าฉันใจดีกับเธอขนาดนั้นเลยหรือไง!?” สายตาและน้ำเสียงของเขาน่ากลัวเอามากๆ มันน่ากลัวจนเธอทำตัวไม่ถูกเลย จนเธอรู้สึกว่าเขาอยากจะฆ่าเธอ ทั้งๆ ที่ก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน
“ก็ถ้าไม่ชอบ จะประมูลฉันมาทำไม?”
“ของเล่นที่ฉันอยากได้ ต่อให้มันจะแพงแค่ไหน ฉันก็จะเอามาให้ได้”
“ของเล่นเหรอ?”
“เธอคงยังไม่รู้จักฉันสินะ”
“......” คราวนี้เธอไม่ได้ตอบกลับอะไร เพราะเขาเริ่มน่ากลัวขึ้นมาแล้วจริงๆ ผู้ชายที่เธอไม่ได้รู้จักมาก่อน แต่กลับทำกับเธอราวกับว่าเธอไปฆ่าใครมา
“คุ้นนามสกุล อธิวัฒน์ไพศาล ไหมสาวน้อย”
พอได้ยินชื่อนี้แล้วก็ถึงกับขนลุกวูบหนาวสั่นจนบอกไม่ถูก นามสกุลนี้เธอจำได้ จำได้ขึ้นใจเลยว่าของใคร
“คุณคือ...”
“จำหน้าฉันไว้ให้ดีๆ ฉันนี่แหละเจ้าหนี้ของเธอสาวน้อย จำชื่อของฉันไว้ให้ดีด้วย ฉันชื่อ สิงห์ ต่อไปจะได้ไม่ลืม”
“......”
“ออกรถ!”
“ครับนาย”
“เพราะเรื่องนี้หรือเปล่าคะ คุณถึงมาประมูลฉันด้วยเงินขนาดนี้”
“คิดว่าตัวเองมีค่าขนาดนั้นเลยหรือไง”
“แค่ไม่เข้าใจค่ะ”
“เห็นเธอกล้าขายตัวแล้วฉันก็เลยอยากได้น่ะ ไว้เป็นของเล่น”
“งั้นเหรอคะ”
“ทำงานแบบนั้นกี่ชาติจะหาเงินมาใช้ฉันหมด?”
“ถ้าคุณอยากได้เร็วๆ ก็ไปจุดธูปทวงเขากับพ่อแม่ฉันสิคะ”
หมับ!
“โอ้ย!!”
“ฉันไม่ได้ตลกกับเธอด้วยหรอกนะ อย่ามาพูดเล่นลิ้นกับฉัน”
“ฉันก็ไม่ได้เล่นลิ้น ฉันพูดจริง ก็ถ้าคุณอยากได้ก็ไปขอเอาสิ บ้านฉันล้มละลาย พ่อแม่ตาย ฉันเป็นลูกก็จริงแต่ฉันไม่ได้มีอะไรเลย แต่ต้องมารับชดใช้ทุกอย่าง อีกอย่างฉันก็ไม่ได้เฉย ฉันหาเงินมาคืนให้อยู่เหมือนกัน แต่ก็คิดด้วยสิคุณเงินเดือนฉันเท่านี้เอง แต่ละวันฉันต้องอดๆ อยากๆ เพื่อเอาเงินสะสมใช้หนี้ให้ได้มากที่สุดนะ”
“เรื่องนั้นฉันไม่สน ที่ฉันสนคือเงินของฉัน ที่พ่อแม่ของเธอโกงไปปรนเปรอตัวเอง เธอเองก็คงได้ใช้เหมือนกัน เพราะไม่งั้นเธอไม่ไปเรียนถึงเมืองนอกได้หรอก”
“เห็นแก่ตัว” เฌอรีนพูดเสียงแผ่วเหมือนกำลังพึมพำกับตัวเอง
เธอเป็นเด็กเรียนนอกก็จริงแต่ยังไม่ทันเรียนจบเลย อีกอย่างสมัยนี้ต่อให้จะเรียนสูงแค่ไหนเดือนเงินสตาร์ทก็เท่าๆ กันทั้งนั้น แล้วยิ่งไม่ใช่สายตรงด้วย ยิ่งยากเลย
**********************
เวลาต่อมา
หลังจากที่มาถึงได้สักพักใหญ่ๆ
“แก้ผ้าแล้วนอนลง ฉันจะเอาเธอ”
“ดะ เดี๋ยวก่อนค่ะ มันดึกแล้วนะคะ”
“แล้วไง? ฉันจะเอาเธอ ต้องมีเวลาด้วยเหรอ?”
“แต่มันก็ต้อง..”
“จะพร่ำอีกนานไหม ถ้าฉันอารมณ์เสีย เธอจะเจ็บตัวเอานะ เตือนไว้ก่อน”
เอิ่ม! คำพูดคำจานี่แบบ แย่มากนะผู้ชายคนนี้ ตอนอยู่บนรถก็ขู่ฟ่อๆ อย่างกับงูเห่ามาแล้ว มาถึงที่นี่ยังจะเบ่งอำนาจอีก
“ฉะ ฉัน”
“อะไร? จะยื้อเวลาเอาอะไร? ค่าตัวไม่มีหรอกนะ เพราะฉันประมูลเธอขาดมาแล้ว ต่อจากนี้ฉันจะเอาเธอเวลาไหน ตอนไหน ที่ไหน กี่ครั้ง เธอก็ไม่มีสิทธิ์ขัดขืน”
“ฉันรู้ แต่ฉันจะบอกว่า ฉันยัง...ไม่เคย” เธอพูดกับเขาอย่างจริงจังมากๆ เพราะยังไม่เคย เธอเลยไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน และทำยังไง
“ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ เธอคิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ? ผู้หญิงขายตัว แต่โกหกว่ายังซิง เธอบ้าหรือเปล่าเฌอรีน ฉันเคยเอาผู้หญิงแบบเธอมาก่อนนะ ฉันรู้ว่าที่พูดแบบนี้เนี่ย เพื่อต้องการโก่งราคาค่าตัว แต่บอกแล้วไง ฉันประมูลเธอขาดมาแล้ว”
พอได้ยินเขาพูดอย่างนั้นใบหน้าของเธอมันก็ชาวาบไปหมด ทำตัวไม่ถูกเลย จะพูดแต่มันก็อ้ำอึ้งไปหมด
“ถอดเสื้อผ้าออกซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะฉีกให้หมด”
“.....” เฌอรีนค่อยๆ ลุกขึ้นและถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละชิ้น ยังกล้าๆ กลัวๆ แล้วก็เกร็งไปหมดเลย
“ตอนนี้เธอจะซิงหรือไม่ซิง ฉันก็ไม่สน”
“ถะ ถุงยางล่ะ?”
“ฉันเตรียมไว้หมดแล้ว” พูดจบกล่องถุงยางอนามัยก็ถูกโยนลงบนเตียงให้กับเธอได้เห็น ท่าทางของเขามันบ่งบอกว่าเตรียมพร้อมรออยู่แล้ว จะมีก็แต่เธอที่ยังลีลาเพื่อยื้อเวลาอยู่ รู้ทั้งรู้ว่ามันจะทำให้เขาอารมณ์เสีย แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก
“เมื่อไหร่จะเสร็จ เสื้อใน กางเกงใน แค่นี้จะถอดเป็นวันเลยหรือไง?”
“ฉันต้องทำยังไง คุณถึงจะเชื่อฉัน?”
“ไม่ต้องทำ เพราะฉันไม่เชื่อ ผู้หญิงขายตัวแต่กลับมาบอกว่าตัวเองยังซิงเนี่ยนะ”
“ก็ฉันเพิ่งรับงานนี้ครั้งแรก”
“......” เขามองด้วยสายตานิ่งๆ แต่เหมือนกับกำลังถามว่า แล้วยังไง?
“ฉันไม่ได้จะโก่งค่าตัวหรืออะไร ฉันแค่อยากให้คุณเบาๆ ก่อน ครั้งแรกฉันรู้ว่ามันเจ็บ”
“จะพยายามก็แล้วกัน”
เขาตอบรับแบบหัวเสียเล็กน้อย ก่อนจะรูดซิปกางเกงลงและก็ควักเอาแก่นกายใหญ่ออกมาโชว์ต่อหน้าเธอ
“อมให้เสร็จก่อนรอบนึง”
...ภายในห้องฉุกเฉิน “อะ โอย...” เสียงร้องแผ่วจากปากของหญิงสาว พร้อมกับใบหน้าที่เหยเกของเธอ มันบ่งบอกถึงความเจ็บร้าวที่แผลรอยเย็บซึ่งเกิดจากการผ่าตัดคลอดก่อนหน้านี้“เฌอรีน ฉันอยู่นี่นะ”“อืม..คุณสิงห์”“นอนนิ่งๆ ก่อนนะ อย่าเพิ่งขยับตัวเดี๋ยวแผลปริ”“ลูกล่ะคะ?” เอ่ยถามเสียงแหบ“พยาบาลดูแลให้อยู่น่ะ น่าจะป้อนนมให้อยู่”“อืม...ลูกเราน่ารักมั้ยคะ?”“น่ารักสิ น่ารักมากๆ เลยด้วย”“.....” เฌอรีนได้แต่ยิ้มตอบรับ“นอนพักเถอะนะ อย่าเพิ่งขยับตัวเลย เดี๋ยวเจ็บแผล”“ฉันนอนพอแล้วล่ะ นอนไม่หลับแล้ว” เธอตื่นเต้นที่จะได้เจอหน้าลูกของเธอมากกว่า เขาทั้งสองต้องน่ารักมากๆ เลยล่ะ“แล้วน้องกันต์ล่ะคะ อยู่กับใคร?”“นมบอกว่าไม่ให้พามาโรงพยาบาล กลัวจะงอแงไม่เอาใคร เลยดูแลให้ก่อนน่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะแกไม่ดื้อกับนมเลย”“ค่ะคุณสิงห์”ถึงจะมีลูกแฝดที่เป็นลูกแท้ๆ ในไส้ของตัวเองแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ลืมเลยว่ายังมีลูกชายคนโตอีกคนนึง เขายังคือคนในครอบครัวที่สำคัญมากที่สุดอีกคนนึงเสมอ และก็ไม่ลืมว่าจะต้องดูแลเขาด้วยเช่นกัน แต่ในเวลานี้ต้องรักษาตัวเองให้หายก่อน....เวลาต่อมาก๊อกๆๆๆ“ขออนุญาตนะคะ พาน้องมาส่งค่ะ”เฌอรีนพยาย
...เก้าเดือนต่อมา โรงพยาบาลHH“ขั้นตอนแรกต้องตรวจร่างกายของคุณพ่อคุณแม่ก่อนนะครับ”“ฉันต้องตรวจอะไรบ้างคะ?”“คุณแม่ต้องตรวจอย่างละเอียดเลยนะครับ เพื่อป้องกันการผิดพลาด”“ค่ะคุณหมอ”ไม่ค่อยเข้าใจหรอกเพราะเพิ่งเคยทำแบบนี้เป็นครั้งแรกเลย ยอมรับว่าแอบเกร็งไม่น้อยเหมือนกัน มันกลัวยังไงก็ไม่รู้ ปกติก็ไม่ชอบโรงพยาบาลอยู่แล้ว พอต้องมาห้องตรวจแคบๆ ฉันรู้สึกหวั่นไปหมดเลยพรึ่บ!!“คุณเฌอรีนคะ!”“มะ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันคงกลัวที่แคบ อยู่ๆ ก็เวียนหัวขึ้นมา”“นั่งพักก่อนนะคะ รอผลตรวจก่อนนะคะ เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ”“ค่ะ”ให้ตายสินี่ฉันเป็นอะไรไปกันแน่เนี่ย อยู่ๆ ก็เวียนหัวขึ้นมาซะงั้น เพราะกลัวเหรอ กดดันเหรอ รู้สึกร้อนหน้าร้อนตาไปหมด หัวใจก็เต้นเร็วกว่าเดิมมากพยาบาลพาฉันเดินออกมาจากห้องตรวจ มาเจอกับคุณสิงห์ พอเขาเห็นฉันเดินกุมหน้าออกมาก็รีบเข้ามาประคองทันที“เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมหน้าซีดแบบนั้น เจ็บเหรอ?”“เปล่าค่ะ แค่เวียนหัว”“คุณเฌอบอกว่ากลัวที่แคบน่ะค่ะ ก็เลยเวียนหัว นั่งพักก่อนนะคะ เดี๋ยวผลตรวจก็เรียบร้อยแล้ว”“ครับ”“อืม...”“เป็นยังไงบ้าง”“ฉันตื่นเต้นน่ะ ครั้งแรกด้วยที่ทำแบบนี้ มันเลยกังวลไปหมด
หนึ่งปีต่อมานี่ก็ปีกว่าแล้วที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน มีความสุขกันมากๆ เลยด้วย เพราะยังไม่มีเจ้าตัวเล็กการใช้ชีวิตมันเลยค่อนข้างอิสระ ได้ไปเที่ยวแบบไม่ต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลัง แต่ก็เงียบเหงาไม่น้อยเลยเหมือนกัน ระหว่างนี้ก็เลี้ยงหลาน (ลูกของเสือ+น้ำหนึ่ง) พลางๆ ไปก่อน แต่ก็อยากมีลูกเป็นของตัวเองเหมือนกัน ถึงเวลานั้นก็คงจะมีความสุขปนความวุ่นวาย ดูน่าสนุกดีไม่น้อยเลยล่ะนะพรึ่บ!"คุณสิงห์ตกใจหมดเลยค่ะ!" จู่ๆ เขาก็เข้ามาสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง ด้วยความตกใจเธอสะดุ้งจนของในมือแทบจะหล่นลงพื้น"คิดถึงจัง" เสียงทุ้มกระซิบแหบพร่าข้างหู"คิดถึงอะไรกัน ก็เจอกันอยู่ทุกวันนี่คะ""แค่วินาทีเดียวฉันก็คิดถึงแล้วล่ะเมียสุดที่รัก""เวอร์ละ อะไรมันจะขนาดนั้น""อืม จะพูดอะไรก็พูด แต่อย่าผลักออกนะ ฉันอยากกอดแบบนี้นานๆ หน่อย""ว่าแต่วันนี้กลับเร็วกว่าปกตินะคะ""ก็คิดถึงเมียไงครับ เลยกลับเร็วกว่าปกติ""งั้นเหรอคะ นับวันนี่ปากหวานนะคะ""เหงาหรือเปล่า""ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ หาอะไรทำเรื่อยเปื่อยก็หายเหงาแล้วค่ะ""เธอตัดสินใจได้หรือยัง เรื่องทำเด็กหลอดแก้วน่ะ ฉันจะได้ไปปรึกษาหมอเอาไว้""....." พอได้ยินอย่างนั้นเธ
กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากงานแต่งงาน “อึกอืม คุณสิงห์ คุณอย่าเพิ่งรีบ อ๊ะ...!!” เธอพยายามดันเขาออกไปเพราะมันรุนแรงจนเธอตั้งรับไม่ทันทั้งๆ ที่หลังแต่งงานก็มีเซ็กซ์กันอยู่ทุกวันทุกคืน แต่สำหรับเขาเท่าไหร่มันก็ไม่พอเลยจริงๆ นะ“เมียจ๋า อยากเอาแล้ว”“ดะ เดี๋ยวก่อนค่ะ คุณสิงห์อื้อ” ไม่รู้จะต้องทำยังไงแล้วจริงๆ เขารุนแรงจนเธอตั้งตัวไม่ทันเลย“อืม ตัวหอมจังเลยเมียจ๋า”“คนบ้า อ๊ะอ๊า!!”เขาสูดดมตามตัวของเธอ แถมไม่วายขบเม้มตามลำคอขาวจนเธอสะดุ้งเพราะมันเจ็บแปล๊บไปอยู่ชั่วขณะไอ้คนบ้า ทำไมถึงได้ทำกันแบบนี้นะ ไม่รู้หรือไงว่ามันเจ็บ!“อืม...”“อยะ อย่าทำแรง มันเจ็บนะคุณสิงห์”“แฮ่ก ขอโทษครับ ลืมตัวไปหน่อย”มาเฟียหนุ่มพูดเสียงแหบพร่า ก่อนที่เขานั้นจะค่อยๆ เล้าโลมเธออย่างนุ่มนวลและตั้งใจเอามากๆ มือหนาบีบเคล้นหน้าอกของเธอไม่ยอมปล่อยเลย มันทั้งเสียว รู้สึกดี ทั้งร่างกายของเธอนั้นสั่นสะท้านจนต้องจิกปลายเท้าลงกับเตียง“อึกอือ...”“จ๊วบ จ๊วบ อืม...นมโคตรหวานเลยครับ”“แฮ่ก! อย่าพูดสิคะ ฉันเขินนะ”“ก็มันอร่อยนี่นา หอมด้วย”ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ถึงได้พูดออกมาแบบนี้ แต่ท่าทางของเขามันทำเอาเธอเขินมากๆ สายตาข
เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงวันแต่งงาน สิงห์ดูแลเจ้าสาวของเขาเป็นอย่างดีมากๆ ใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องรองเท้าของเธอ ที่กลัวว่าเธอนั้นจะเจ็บเพราะต้องใส่และอยู่ในงานแทบทั้งวัน แต่เธอก็ไม่ได้เป็นอะไร เพราะชินกับการใส่รองเท้าส้นสูงไปแล้ว ถึงเดี๋ยวนี้จะไม่ได้ใส่บ่อยนักแต่มันก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะใส่ไม่ได้อีกแล้วเฌอรีนไม่มีครอบครัวที่ไหน หลังจากที่พ่อแม่เสียไปญาติผู้ใหญ่บางคนที่รู้ข่าวเรื่องพ่อแม่เธอก็พร้อมใจกันตัดขาดเธอเพราะไม่อยากเกี่ยวข้อง ไม่อยากมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องพวกนั้นแต่เธอก็ไม่ได้เสียใจมากนักหรอกถึงวันนี้เธอเลยได้แม่หยกผู้ดูแลมูลนิธิเด็กกำพร้าที่เธอทำงานอยู่มาเป็นญาติผู้ใหญ่ให้ งานแต่งนั้นถูกจัดขึ้นแบบเล็กๆ ภายในบ้านของเขา คนร่วมงานก็ไม่ได้มีใครที่ไหนนอกจากคนในครอบครัว กินเลี้ยงกันแบบปาร์ตี้เล็กๆ แต่มีความสุขมาก และจดทะเบียนสมรสกันได้เป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายสมดั่งใจ"เจ็บมากหรือเปล่า ตรงข้อตรงนี้มันแดงมากเลยนะ" มาเฟียหนุ่มย่อตัวนั่งลงพร้อมกับจับเท้าของเธอนั้นพลิกดูอย่างระมัดระวัง เพราะต้องใส่รองเท้าส้นสูงอยู่ตลอด มันจึงมีรอยแดงบริเวณรอบๆ เท้า ซึ่งมันคล้ายกับการถูกรองเท้ากัด"คงเป็น
บ้านของสิงห์ฉันได้มีโอกาสกลับมาที่บ้านของเขาอีกครั้ง นานมากๆ แล้วที่ไม่ได้มา แต่อะไรๆ ที่นี่ไม่ได้เปลี่ยนเลย ห้องนอนที่ฉันเคยอยู่ ของบางอย่างที่ฉันเคยใช้งาน มันยังคงถูกดูแลทำความสะอาดให้เหมือนกับมีคนใช้อยู่ทุกวัน ไม่มีฝุ่นเกาะเลยสักนิดเดียวแต่ก็มีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป เหมือนตั้งใจปรับให้มันดูโล่งกว่านี้"มีอะไรหรือเปล่า มองแปลกๆ นะ""แปลกสิคุณ ทำไมถึง...เปลี่ยนล่ะ คุณเคยบอกว่าหวงจะตาย"เขาเคยพูดกับฉันว่าเขาหวงทุกอย่างในบ้านหลังนี้ และไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ถ้าจะมีคนหยิบจับไปตามอำเภอใจ หรือเปลี่ยนที่วางของมันไปที่อื่น"ไม่รู้สิ แค่รู้สึกว่ามันรกตาน่ะ ก็เลยให้แม่บ้านเอาออกไป""....."บางอย่างที่เขาเคยเอาวางไว้มันกลับกลายเป็นแจกันและมีดอกไม้หลากสีใส่เอาไว้อยู่ ที่ฉันรู้ว่ามันแปลกไป ก็เพราะเขาไม่ใช่คนที่จะชอบดอกไม้หรือชอบสีสันอะไรสักเท่าไร"ฉันอยากให้เธอกลับมา""ฉันขอจัดการอะไรให้เสร็จก่อนนะ""บ้านหลังนี้ รอต้อนรับเธอกลับมาเสมอนะ""เฮ้อ..." ฉันถอนหายใจออกมา บ้านหลังนี้มันก็ไม่ได้แย่เลยนะหลังใหญ่น่าอยู่ ถึงมันจะไม่ได้อยู่โซนในตัวเมืองแต่มันก็เงียบสงบ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ตอนมา