หน้าหลัก / รักโบราณ / ลมหายใจมังกร / Chapter 13. ทำไมพวกเจ้าถึงตัวสูงใหญ่กว่าข้านักนะ

แชร์

Chapter 13. ทำไมพวกเจ้าถึงตัวสูงใหญ่กว่าข้านักนะ

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-08 08:27:01

          “ทำไมพวกเจ้าถึงตัวสูงใหญ่กว่าข้านักนะ”

          หญิงสาวบ่นอุบอิบแต่กระนั้นคนที่อยู่ด้านหลังยังได้ยิน กันอี๋ไม่เอ่ยอะไร ได้แต่สูดเอากลิ่นหอมจากเรือนกายของหญิงสาวไว้เต็มปอด เขาเดินทางไปพร้อมกับซิ่นหลิงและซาโม่ ครั้งสุดท้ายที่เห็นนางก็เป็นเพียงเด็กหญิงอายุสิบสอง ห้าปีผ่านมาจากเด็กผู้หญิงคนนั้นมาบัดนี้นางกลายเป็นหญิงสาวงดงามเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ทว่าดวงตาคู่นี้ของนางยังคงประกายระยิบระยับ ยามนางยิ้มหรือหัวเราะ ดวงตาจะให้ประกายแวววาวเป็นความงามที่ตรึงคนที่เผลอสบตาให้ต้องลุ่มหลงไปในดวงตาคู่นี้

          กันอี๋ควบม้าอย่างไม่เร่งรีบนัก ซิ่นหลิงนัดหมายเวลาและห้องที่เลือกไว้แล้ว เพื่อให้เขาพาซิ่นฮวาตามไปพอดี เขายอมรับว่าความคิดของนางช่างแปลกประหลาดนัก แต่ก็นั่นแหละ มันไม่แปลกเลยถ้าหากเป็นความคิดที่มาจากสมองน้อยๆ ของ

ซิ่นฮวา เพราะนางมักมีความคิดแปลกประหลาดเช่นนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว

          ใบหน้าที่มักเรียบเฉยอยู่เสมอปรากฏรอยยิ้ม นางเป็นเช่นนี้ตั้งแต่ยังเด็กจนเติบโตเป็นหญิงสาวงามสะพรั่งยังคงเป็นเช่นเดิม แม้เป็นบุตรีแสนรักของท่าน

อ๋องเฟยเทียนแต่นางกลับไม่เคย...ไม่เคยสักครั้งที่ใช้ยศศักดิ์ฐานะของตนข่มเหง

ผู้อื่น

          เขารู้ดีว่าในหัวใจของนางมีใครคนหนึ่งยืนเต็มพื้นที่หัวใจอยู่นานแล้ว

          ซิ่นฮวาในอาภรณ์ของบุรุษมองอาคารที่อยู่เบื้องหน้า พลันในใจกลับบังเกิดความลังเล นี่นาง...ช่างกล้าขนาดนี้เพียงเพื่อชายผู้นั้น คนที่อยู่ด้านหลังลงจากม้าก่อนแล้วจึงยื่นมือไปหมายจะอุ้มนางลงมา แต่ซิ่นฮวารู้ตัวก่อน ตนเองแต่งกายเป็นบุรุษจะให้บุรุษด้วยกันมาอุ้มลงจากม้าได้อย่างไร นางเบี่ยงตัวหลบ สายตาของทั้งคู่ปะทะกัน กันอี๋หรี่ตาเล็กน้อยก็เข้าใจอีกฝ่ายได้ทันที เขายอมถอยห่างให้หญิงสาวในชุดบุรุษลงจากม้าอย่างงามสง่า แม้นางไม่เป็นวรยุทธแต่เรื่องทักษะการขี่ม้าของนางชำนาญไม่ต่างจากบุรุษเลยสักนิด

          กันอี๋แสดงท่าทีอ่อนน้อมประหนึ่งเป็นเพียงบ่าวไพร่ กิริยาของเขาทำให้

ซิ่นฮวาเบ้ปากใส่ด้วยความไม่พอใจ แต่กระนั้นยังสวมบทเป็นคุณชายให้กันอี๋นำเข้าไปด้านใน เมื่อพบเสี่ยวเอ้อ เขาเป็นฝ่ายเอ่ยปากบอกห้องที่ตนเองต้องการ เมื่อเดินด้วยกันแล้ว กันอี๋จึงโน้มหน้าลงกระซิบ

          “ซิ่นหลิงจองห้องไว้แล้ว ห้องนี้เป็นห้องใหญ่ติดกันสองห้อง เวลานี้เขาเลือกสตรีเข้าไปปรนนิบัติ รอให้ท่านหญิง เอ่อ คุณชายเข้าไปขอรับ”

          ซิ่นฮวาพยักหน้าหงึกหงักแต่หัวใจเต้นโครมคราม นางเคยแอบเข้าหอนางโลมอยู่สองสามครั้ง มาช่วยคน มาสืบข่าว แน่นอนว่า หอนางโลมล้วนเป็นแหล่งข่าวชั้นเยี่ยม! แต่ที่เข้ามาล้วนมีเหตุผลอื่น แต่ไหนแต่ไรซิ่นหลิงมักเจ้าแผนการอยู่เสมอ คิดแล้วก็ยิ้มกว้าง นางคิดถูกแล้วที่ปรึกษาเรื่องนี้กับซิ่นหลิง!

          แต่! ไม่อยู่ตุนหวงตั้งห้าปี ไฉนกลับรู้ว่าหอนางโลมแห่งนี้มีห้องพิเศษเช่นนี้ด้วย!

          เดินขึ้นบันไดมาที่ชั้นบน ห้องพิเศษที่ว่าอยู่ด้านในสุด มีระเบียงส่วนตัวมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองตุนหวงได้เด่นชัด หญิงสาวในชุดบุรุษหนุ่มนึกขึ้นได้รีบหมุนตัวกลับใช้ฝ่ามือดันแผ่นอกของกันอี๋ไว้ก่อน ทำให้ชายหนุ่มมองมือเรียวที่ทาบอยู่บนหน้าอกของตนอย่างงุนงง

          “เจ้าไม่ต้องตามข้าไป”

          “เหตุใดมิใช้ข้า เอ่อ บ่าวติดตามไปด้วย”

           “ข้าก็เขินอายเป็นนะ” นางพูดเสียงเบา

          ใบหน้าหวานแดงระเรื่อขึ้นมา “เจ้ารอด้านนอก หรือไม่ก็...หาหญิงงาม

สักคนมาปรนนิบัติ ข้าจะออกเงินให้เจ้าเอง”

          กันอี๋เห็นมือเล็กเลื่อนลงไปหยิบถุงเงินแล้วส่งให้เขา ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมาเผลอยิ้มน้อยๆ นึกเอ็นดูท่าทางไร้เดียงสาที่เจ้าตัวไม่รู้ตัว

          “เช่นนั้น บ่าวรอที่ชั้นล่างนะขอรับ”

          “อืม”

          ซิ่นฮวาพยักหน้ารับมองกันอี๋ที่เดินกลับไปทางเดิม นางหมุนตัวกลับมาแล้วก้าวเดินได้เพียงสองก้าว ประสาทหูที่ค่อนข้างไวของนางได้ยินบางประโยคเข้าทำให้หันขวับไปทิศทางที่ได้ยินทันที

          “วันงานบวงสรวงเทพมังกรดิน ชาวเมืองจัดงานเฉลิมฉลองสนุกสนานไม่มีผู้ใดใคร่สนใจนัก เราฉวยจังหวะนี้ลงมือย่อมดีที่สุด”

          “หุบปาก!”

          ร่างเล็กในชุดบุรุษสาวเท้าไปตามเสียงที่ได้ยิน ว่ากันว่ามารดาของนางได้ยินเสียงเหล่าพฤษาพูดคุย และเพื่อช่วยบิดาต่อกรกับปีศาจกระหายเลือด มารดาฝืนผนึกที่ปิดโสตประสาทการได้ยินจนโลหิตไหลรินจากหูทั้งสองข้าง นั่นเป็นสาเหตุให้บางครั้งมารดาไม่ได้ยินผู้อื่นสนทนา แต่กระนั้นมารดาก็ใช้วิธี ‘อ่านปาก’ เมื่อครั้งยังเยาว์วัยนางกับซิ่นหลิงเล่นสนุกซุกซนถูกมารดาจับได้และลงโทษ นางน้อยใจมารดาจำไม่ได้ว่าตนเองพูดอะไรออกไปแต่หันหลังให้ ทำให้มารดาไม่ได้ยินเสียงของนาง ทำให้มารดาน้อยใจไม่ยอมพูดคุยกับนาง บิดาต้องมาช่วยไกล่เกลี่ยให้ทำให้มารดาหายโกรธ

          แม้นางไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธและไม่สามารถฟังเสียงพฤษาได้เช่นมารดา แต่นางสามารถเรียกขานเทพมังกรดินได้ และประสาทหูของนางค่อนข้างไว ในน้ำเสียงนั้นมีความตื่นเต้นระคนตื่นตระหนกของคนที่มีความคิดทำเรื่องไม่ดีอยู่หลายส่วน นางเห็นแผ่นหลังของชายสองคนไวๆ เดินเลี้ยวทางแยกแล้วหายไป หญิงสาวก้าวพรวดพราดอย่างลืมระวังตัว ร่างเล็กเลี้ยวไปตามทิศทางที่ตนคิดว่าใช่ ทว่าร่างของนางกับปะทะกับแผงอกของบุรุษผู้หนึ่งเข้าเต็มแรง ไม่คิดว่าตนเองจะพลาดท่าง่ายดายเช่นนี้ เท้าเล็กรีบถอยหลังทว่าช้าเกินไปร่างของนางถูกรวบไว้แล้วลากเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว

          ดวงตาของหญิงสาวเบิกกว้างด้วยความตกใจ บุรุษร่างสูงใหญ่สวมชุดดำดวงตาคมกริบดุจกระบี่จ้องมองเหมือนจะฉีกผิวกายของนางออกมาเป็นชิ้นๆ

          เล่นสนุกซุกซนอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยใกล้ชิดบุรุษใดเช่นนี้มาก่อน ดวงตาคู่คมที่จับจ้องปล้นเอาสติของนางไปด้วย ที่เคยคิดว่าตนเองนั้นสามารถดูแลตัวเองไม่ให้ใครมารังแกได้ มาบัดนี้นางรู้แล้วว่าตัวเองนั้นอ่อนแอยิ่งนัก และเพราะตกใจจนเผลออุทานเสียงเบาออกมา แม้เสียงไม่ดังนักแต่เป็นเสียงหวานใสของสตรี เสื้อผ้าบุรุษที่สวมอยู่ไม่อาจช่วยปกปิดซุกซ่อนความเป็นหญิงของนางได้

          ซิ่นฮวาถูกดันไปชิดกับผนังห้อง นางกลอกตามองไปด้านข้างเพื่อหาช่องทางหลบหนี ทว่ามือใหญ่กลับยื่นมายันผนังกักขังนางไว้ตามด้วยร่างใหญ่ที่บดเบียดมาแนบชิด นางสะบัดใบหน้าหนีเป็นจังหวะเดียวกับที่มือใหญ่อีกข้างยกขึ้นดึงปิ่นปักผมของนางออก เส้นผมสีดำสนิทที่ขมวดไว้ทิ้งตัวลงมาราวกับม่านไหม หญิงสาวสะบัดหน้ากลับมาขึงตาใส่แต่กลับพบแววตาคู่นั้นมองนางอย่างหยอกล้อ โน้มใบหน้าลงมาทาบริมฝีปากกดทับริมฝีปากของหญิงสาวที่เผยอขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

          ดวงตากลมเบิกกว้าง ริมฝีปากล่างถูกขบเม้มทำให้ซิ่นฮวาได้สติ ชายแปลกหน้าขบริมฝีปากนุ่ม ดวงตาคู่คมและดำมืดจ้องมองนางไม่กะพริบตา

          จุมพิต?

          นางถูกจุมพิต!

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 92.   จบ.

    ยังไม่ทันเอ่ยถามสิ่งใด นางรู้สึกว่าร่างของตนถูกส่งขึ้นบนหลังม้า คล้ายได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายของซาโม่ ตามด้วยเสียงของซิ่นหลิงห้ามไม่ให้ติดตามนางมา ม้าควบทะยานไปในความมืดมีแสงจันทราเต็มดวงส่องนำทาง สายลมปะทะร่างของนางแต่ไม่ได้ทำให้นางเหน็บหนาวเพราะผู้ที่บังคับม้านั้นกระชับเสื้อคลุมห่อหุ้มนางไว้มิดชิด นางแนบหน้ากับอกอุ่นวางความไว้ใจไว้ในอุ้งมือของชายที่ตนรัก ไม่ถึงครึ่งชั่วยามม้าก็ชะลอฝีเท้าลงจนหยุดนิ่ง ร่างของนางถูกประคองลงจากหลังม้าแล้วจึงแกะผ้าผูกตาของนางออก ซิ่นฮวาประหลาดใจกับภาพกระโจมเบื้องหน้า นางกวาดตามองไปรอบๆ กระโจมหลังใหญ่ตั้งใกล้สระน้ำขนาดใหญ่คล้ายจันทร์เสี้ยวที่ยามนี้ผิวน้ำสะท้อนแสงจันทรางดงาม “อ๊ะ!” ซิ่นฮวาหลุดปากหวีดร้องด้วยความตกใจที่จู่ๆ ร่างของนางก็ถูกแบกขึ้นบ่า นางเห็นรอยยิ้มและเสียงอวยพรของผู้คนที่ก้มศีรษะให้ระหว่างที่บุรุษหนุ่มแบกร่างเจ้าสาวเข้ากระโจมที่ถูกเตรียมไว้ ใบหน้าของชายหนุ่มเปี่ยมรอยยิ้มแห่งความสุข เขาพานางเข้ามาด้านในแล้ววางนางลงบนเตียงที่ปูด้วยผ้าไหมเรียบรื่น ภายนอกเป็นกระโจมที่แลดูเรียบง่ายแต่ด้านในมีเครื่องใช้หรูหราและอบอุ่

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 91.   ความปรารถนาของเจ้าสาว

    “ข้าไม่ปรารถนาพิธีใหญ่โต ขอแค่ท่านพ่อท่านแม่ยอมรับก็พอ” ความปรารถนาของเจ้าสาวคือพิธีแต่งงานอย่างเรียบง่าย ทว่าในเวลาเพียงเจ็ดวันตระกูลได้แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งร่ำรวยจัดงานแต่งงานขึ้นที่ตุนหวงตามคำร้องขอของบิดาเจ้าสาว เมื่อเสร็จพิธีจึงเดินทางกลับแคว้นหาน เจ็ดวันที่ตระเตรียมงานมงคล หญิงสาวไม่ได้รับอนุญาตให้พบหน้าบุรุษที่จะเป็นสามีในอนาคต ซิ่นหลิง ซิ่นสือ กันอี๋ และซาโม่ที่คอยส่งข่าวให้นางรู้ว่าเขาสบายดี ว่านหนิงเหมยมองดูบุตรสาวที่ยามนี้สวมชุดเจ้าสาวสีแดงมงคล หากจะกล่าวว่านางเตรียมชุดมงคลนี้ไว้ให้บุตรสาวนานแล้วก็เกรงว่าจะเป็นที่หัวเราะ คนเป็นมารดาหวังเพียงเห็นลูกๆ มีความสุขในชีวิตคู่ ครั้งที่นางแต่งงานนั้นเป็นสมรสพระราชทาน มารดาของนางไม่ได้ช่วยเหลือใดๆ ไม่มีสินเดิมให้ติดตัวมากนัก เมื่อถึงคราวลูกสาวของตนแต่งงาน นางจัดเตรียมไว้เต็มที่ มิใช่เพื่ออวดความร่ำรวยแต่เพื่อให้ลูกสาวไม่ลำบากในภายภาคหน้า ทว่านางมั่นใจว่าเจ้าบ่าวหรือว่าที่ลูกเขยคนนี้จะรักและดูแลแก้วตาดวงใจนางอย่างดียิ่ง นางเชื่อใจว่าเพราะคนผู้นั้นได้ยอมสละลมหายใจของตนเองเพื่อรักษาชีวิตของซิ

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 90.   สามีกอดภรรยาจะเป็นอะไรไป

    “อย่ากลัว มันจะปกป้องเจ้า” ดวงตางดงามเบิกตากว้าง น้ำตาที่เหือดแห้งไปหลั่งออกมาอีกระลอก “เป็นท่าน” ซิ่นฮวาจ้องมองเขา ระหว่างที่นางคลุกคลีในบ้านตระกูลเยี่ยน นางลอบถามบรรดาบ่าวไพร่ รับรู้มาว่าเยี่ยนหรงเหยาหมดสติไปนานห้าวัน ท่านหมอไม่อาจรั้งชีวิตได้ พลันจู่ๆ เขาก็ฟื้นขึ้นมา และร่างกายเกือบจะแข็งแรงดี ห้าวันที่เขาหมดสติไปคือวันที่เทพมังกรดินสูญสลายกลายเป็นหมอกสีเงินสลายมนตร์ดำที่ปกคลุมแคว้นหาน “ใจร้าย!” นางต่อว่าแล้วทำมือทุบแผ่นอกของเขาหลายครั้ง “ไยท่านไม่บอกข้าตั้งแต่แรก” ฮวงหลงเพิ่งรู้ว่ามือเรียวของนางมีน้ำหนักไม่น้อย แต่เขายอมให้นางทุบตีอยู่เช่นนั้นโดยไม่ปัดป้อง “สภาพข้าเช่นนี้ เจ้ายอมรับได้หรือ?” “ข้าเคยพูดแล้ว” นางฝืนกลั้นเสียงสะอื้น “ข้ารักท่านไม่ว่าท่านจะเป็นอย่างไรก็ตาม ข้ารักที่จิตใจของท่าน...แต่ท่าน...ท่านอยู่ตรงหน้าข้าแท้ๆ แต่ไม่ยอมเปิดเผยตัวเองแก่ข้า” “ฮวาเอ๋อร์ เขาเรียกนางอย่างอ่อนโยน รวบมือน้อยๆ ของนางไว้แล้วถอนหายใจแผ่วเบา “ข้ากำลังรับเคราะห์กรรมที่ทำไว้กับเจ้า ข้าเห็นเจ้า จดจำเจ้าได้ แต่เจ้ามองข

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 89.   ไม่มีวันลืม

    “ข้าจะไม่วันลืม” “อืม” ซ่งซีเหมยพยักหน้าและยิ้มรับถ้อยคำของเขา หัวใจเด็กหญิงพองโตอย่างน่าประหลาดใจ นางกลอกตาไปมาแล้วคิดได้ว่าเสร็จสิ้นภารกิจของตนแล้ว จึงหมุนตัวเดินออกมา แต่เดินจากมาได้ไม่กี่ก้าว นางก็นึกได้ว่าลืมกล่าวลาเขาจึงหมุนตัวกลับไปโบกไม้โบกมือ แล้วรีบหมุนตัวกลับออกวิ่งทันที กันอี๋ลุกขึ้นยืนช้าๆ มองร่างเล็กวิ่งไปจนสุดสายตา เขากังวลว่านางจะหกล้มอีก แต่ครั้งนี้นางวิ่งไปทางบุรุษผู้หนึ่งที่เหมือนจะยืนรออยู่นานแล้ว แม้จะเห็นไกลๆ แต่กันอี๋ก็เห็นสายตาของซ่งเหว่ยหนานจ้องมองมาทางเขา ก่อนจะยื่นมือไปรับน้องสาวให้เดินไปพร้อมกัน เด็กคนนั้นอายุเท่าไรกันนะ อายุสิบสองใช่ไหม? อายุน้อยกว่าเขาตั้งห้าปี เขาตบอกตัวเองเบาๆ ปิ่นหยกธรรมดาแต่เมื่อคนที่มอบให้เขานั้นไม่ธรรมดาเอาเสียเลย หรือว่าเขาควรจะสมัครเป็นองครักษ์ของเด็กน้อยคนนั้นดีนะ “เราไม่ได้เดินเล่นกันแบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ” ซ่งซีเหมยส่งเสียงเจื้อยแจ้วถามซ่งเหว่ยหนานที่จูงมือนางเดินดูโคมไฟหลากสีสันและน่าตาแปลกประหลาด “นั่นสินะ นานเพียงใดกันหนอ” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ “พี่ช่างเป็นพี่ชายที่ไม่

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 88.  ไฉนกลับรู้สึกอาลัยอาวรณ์

    “พบสหายรู้ใจถือเป็นวาสนา” ฮวงหลงยิ้มบางๆ เขาไม่กล้าหาญพอที่จะเอ่ยกับนางว่าเขาคือ ‘ฮวงหลง’ และด้วยสภาพร่างกายที่อาศัยอยู่นี้ เส้นผมสีขาวโพลนเหมือนคนแก่ชรา ร่างกายยังอ่อนแอ และฐานะด้อยกว่านางมาก แม้รู้ว่านางไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยเรื่องเหล่านี้ ทว่า นางคิดว่าเขาจากนางไปแล้ว นางมีคนให้เลือกเคียงข้างมากนัก เขาได้แต่หวังว่าจะ...มีเยื่อใยใดบ้างที่นางจะสัมผัสถึงตัวเขาได้ ซ่งซีเหมยนั่งใกล้ๆ ซิ่นฮวา นางจิบน้ำชาและกินของว่างอย่างเพลิดเพลิน ช่วงเวลาที่นางป่วยอยู่นั้นกินอะไรไม่ค่อยได้มากนัก ซ้ำยังรู้สึกขมปลายลิ้นตลอดเวลาทำให้เบื่ออาหารไปด้วย แต่หลังจากปีศาจงูดำตายไป ร่างกายของนางก็ดีขึ้นหลายส่วน นางกลับมากินอาหารได้ปกติ อีกไม่นานร่างกายผ่ายผอมเหมือนเด็กโตไม่เต็มวัยนั้นคงสมบูรณ์ดีแลเป็นหญิงสาวกับคนอื่นบ้างกระมัง เด็กหญิงคิดในใจแอบลอบมองทางองครักษ์ของซิ่นฮวาหลายครั้ง เมื่อครู่นางแย่งปิ่นที่ซื้อมาจากมือแม่นมเก็บไว้ในอกเสื้ออย่างดี หวังใจว่าตัวเองจะมีความกล้าพอที่จะมอบให้... ซ่งเหวยหนานเดินเข้ามา สีหน้าอิดโรยอยู่บ้างแต่ยังคงประดับรอยยิ้ม ในฐานะผู้ปกครองแคว้นหาน แม้รับหน้า

  • ลมหายใจมังกร   Chapter 87. สีหน้าเขินอายของเด็กหญิง

    “หายตกใจแล้วหรือไม่” กันอี๋เอ่ยขึ้นแต่ยังยืนนิ่ง ใบหน้าและน้ำเสียงเรียบเฉย เขาคว้าเอวบางของเด็กหญิงไว้ได้ทันก่อนที่หน้าคว่ำลงพื้นไป “อืม” ซ่งซีเหมยพยักหน้าหงึกหงัก คำตอบของนางทำให้สองมือที่จับเอวของนางอยู่นั้นยกตัวนางให้ปลายเท้ายืนบนพื้นดินแล้วค่อยคลายมือออก แต่ยังคงรอจนนางยืนได้มั่นคงแล้วจึงถอยออกไป เด็กหญิงทำตาปริบๆ นอกจากพี่ชายและท่านพ่อแล้ว นางไม่เคยใกล้ชิดบุรุษใดเช่นนี้มาก่อน กันอี๋ถอยห่างออกมารอจนเด็กหญิงตัวน้อยยืนได้มั่นคง ทว่าดวงตาคู่นั้นที่จ้องมองเขาและตามด้วยพวงแก้มที่แดงระเรื่อขึ้นมาอย่างช้าๆ ทำให้เขาเผลอขมวดคิ้ว ‘นางบาดเจ็บหรือไร?’ ขยับตัวเข้าไปใกล้หมายจะเอ่ยถาม แต่เด็กหญิงถอยหลังแล้ววิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังของซิ่นฮวา ทำให้เขาได้แต่อ้าปากค้างอย่างงุนงง “เป็นอะไรไปรึซีเหม่ย” ซิ่นฮวากลั้นหัวเราะ เข้าใจว่าเด็กน้อยคงเขินอายที่ตัวเองซุ่มซ่ามต่อหน้าผู้อื่น “ไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ” นางส่ายหน้าไปมาเร็วๆ ไม่กล้ามองไปทางองครักษ์ของซิ่นฮวา “ได้ยินว่าพี่สาวจะไปงานเลี้ยง ข้าจึงมาขอติดตามไปด้วย” “พี่ชายเจ้ารู้หรือไม่ที่จะไปกับข้า”

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status