“ต้องขอโทษคุณปราบอีกครั้งนะครับ เดี๋ยวทางเราจะส่งตัวแทนไปคุยสัญญาอีกรอบนะครับ”
“ทางนี้ก็ต้องขอโทษเหมือนกันครับ แทนลูกขอโทษหนูลลิตด้วยสิ” ปกติลูกชายคนโตของเขาเป็นเด็กเรียบร้อย ไม่เคยทำตัวเกเรสักครั้งแต่วันนี้มาแปลกสงสัยคงจะชอบหนูลลิตมากทีเดียว
“.....” แทนไทมองไปยังร่างเล็กที่หลบอยู่หลังผู้เป็นพ่อไม่ยอมออกมา ครามเห็นแววตาสำนึกผิดของหนูน้อยแทนไทก็ดันหลังลูกชายออกมาเผชิญหน้า
“พี่ขอโทษที่ทำให้ร้องไห้นะ”แทนไทกล่าวขอโทษก่อนจะก้าวเข้าไปจุ๊บแก้มกลมป่องเบา ๆ หนึ่งที
“แงงงงงง ป๊ะป๋า” ครั้งนี้ลลิตตกใจจริง ๆ ครามรีบอุ้
“คุมปู่ คุมย่า แงงงงงง” เมื่อรถกอล์ฟจอดสนิทที่ลานหน้าบ้านโยธินตระกูล ลลิตก็รีบลงจากรถวิ่งร้องไห้เรียกทั้งคุณปู่ทั้งคุณย่าเสียงลั่น“ลลิต หลานเป็นอะไร ร้องไห้ทำไมครับ” คุณพิศาลที่จิบกาแฟอยู่แทบจะพ่นออกมาเมื่อได้ยินเสียงหลานรักร้องไห้วิ่งเข้ามาในบ้าน“ลลิตหลานย่า” คุณไพลินเดินออกมาห้องครัวก่อนจะรับร่างที่ยังอยู่ในชุดนอนโผเข้ามาหา“หม่าม้า ฮึก หม่าม้า” ลลิตร้องไห้พร้อมกับพูดไปด้วยทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองจับใจความไม่ได้ จนกระทั่งป้าจิตรีบเดินเข้ามาพร้อมกับอธิบายเรื่องที่ลออจันทร์หมดสติและตอนนี้เจ้านายหนุ่มของตนพาภรรยาไปส่งโรงพยาบาลจึงขอฝากลลิตไว้กับพ่อแม่ก่อน“ฮึก คุมย่า ลลิตอยากไปหาหม่าม้า” หนูน้อยซบอกออดอ้อนคุณไพลินจนใจแทบละลาย“ได้จ้ะ เดี๋ยวลลิตไปเปลี่ยนชุดลงมาทานข้าวเช้าก่อนนะจ๊ะ แล้วย่าจะพาหนูไปหาหม่าม้า” ลลิตรับปากอย่างว่าง่ายก่อนจะถูกคุณไพลินจูงมือขึ้นไปอาบน้ำด้านบน ส่วนคุณพิศาลสั่งให้คนขับรถเตรียมรถไว้สำหรับเดินทาง
“หม่าม้า ระวังคับ” ลออจันทร์ยิ้มขำเมื่อลูกชายตัวเล็กคอยเดินนำหน้าเฝ้าระวังภัยให้โดยการกำจัดสิ่งกีดขวางเล็ก ๆ ไม่เว้นแม้แต่ก้อนหินและกิ่งไม้แห้ง“ลลิตหนูมาเดินจับมือหม่าม้าดีกว่าครับ”“จะดีเหยอฮะ” คิ้วเล็กขมวดเป็นโบเมื่อได้ยินคำแนะนำของแม่“ดีสิครับ มาเร็วคนเก่ง” ลออจันทร์ยื่นมือมาจับมือน้อยก่อนจะเดินเข้าบ้านได้เสียที ลออจันทร์ออกจากโรงพยาบาลได้สามวันแล้วแต่ก็ต้องหัวหมุนกับพ่อลูกที่แสดงความเป็นห่วงเกินไปจนลออจันทร์ต้องคอยห้ามปรามเป็นระยะคนลูกไม่เท่าไหร่แต่คนพ่อนี่สิตั้งแต่รู้ว่าเขาตั้งครรภ์ครามสั่งเปลี่ยนกระเบื้องในบ้านให้เป็นแบบกันลื่นและแทบจะปูพรมทั้งบ้าน ดีที่เขาได้ยินคำสั่งนี้เสียก่อนเรื่องนี้จึงถูกระงับไว้ทันแต่ครามก็อิดออดขอเปลี่ยนตรงบริเวณห้องครัวที่ลออมักจะขลุกอยู่ที่นั่นเป็นประจำแทนลออจันทร์จึงได้แต่พยักหน้ายอมอ่อนข้อให้ คราม
“นี่แน่ะ กล้าแย่งของลลิตเหรอ” ลลิตนั่งทับร่างเล็กที่สูงกว่าตนไม่เท่าไหร่ นิ้วมือป้อมขย้ำกลุ่มผมนุ่มไปมา“โอ๊ย ยงไปนะ” แทมมาลีนร้องเสียงหลง จนในที่สุดครูพี่เลี้ยงก็แงะร่างของลลิตออกไปจนได้สภาพเด็กทั้งสองต่างดูไม่ได้ ผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมดถ้าไม่มีครูคอยรั้งตัวเอาไว้ต่างฝ่ายต้องกระโจนใส่กันอีกรอบแน่ ๆ“พวกหนูสองคนเล่นกันแบบนี้ไม่ได้นะคะ” คุณครูพยายามสอนเด็กทั้งสองอย่างใจเย็นที่สุดจึงใช้วิธีทำโทษให้เด็กสองคนกอดกันและกล่าวขอโทษแต่ก็สูญเปล่าเมื่อเห็นทั้งสองต่างหันหลังให้กันเชิดหน้าไปทางอื่น“งั้นคุณครูคงต้องแจ้งผู้ปกครองนะคะ” เด็กวัยนี้กลัวผู้ปกครองที่สุดและมันก็ใช้ได้ผลเมื่อเด็กน้อยทั้งสองหันมากางแขนโอบตัวอีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมกอดแต่ดูเหมือนจะใช้แรงมากไปหน่อย“อึก เราขอโทษนะ” แทมมาลีนกัดฟันขอโทษลลิต คิดถึงแม่ใจร้ายที่บ้านแล้วเขายอมขอโทษก็ได้
“หม่าม้า ลลิตอยู่ตรงนี้คับ” ลลิตรีบวิ่งออกจากห้องเรียนไปยังจุดที่หม่าม้ายืนอยู่ ลออจันทร์แม้จะสวมเสื้อคลุมตัวหลวมแต่ก็ปิดปังหน้าท้องกลมโตไม่มิด ชายหนุ่มยืนมองลูกชายตนที่วิ่งมาหา“ไปโรงเรียนวันแรกสนุกไหมครับ” ลออจันทร์เช็ดเหงื่อบนหน้ากลมป้อมอย่างอ่อนโยน“คับ สนุกดีคับ”ถ้าไม่นับเรื่องที่เขาหยุมหัวแทมมาลีนตอนเช้าน่ะนะ“แล้วคนข้างหลังหนู ใช่เพื่อนใหม่ลลิตไหมจ๊ะ” ลลิตหันขวับกลับทันทีก็เห็นแทมมาลีนยืนกระมิดกระเมี้ยนท่าทางเขินอาย“หวัดดีคับ ผมแทมคับ” แทมมาลีนแนะนำตัวต่อตัวละครตัวโปรดด้วยใบหน้าแดงก่ำแม่เจ้าโว้ย ลออจันทร์ตัวจริงสวยยิ่งกว่าดาราตัวท็อปอีก“สวัสดีจ้ะ เรียกน้าลออก็ได้นะจ๊ะ”“คับ นี่สำหรับคุณน้าคับ” แทมมาลีนยื่นดอกกุหลาบที่ลลิตไม่รู้ว่าแอบไปตัดมาตั้งแต่เมื่อไหร่ยื่นมาให้ลออจันทร์ โอเมก้าแม่ลูกสองเลิกคิ้วก่อนจะหัวเราะและยื่นมือไปรับไว้ก่อนจะเอ่ยขอบคุณเด็ก
สองเดือนผ่านไป“เป็นอะไย ทำไมหน้าบึ้งแบบนั้น” ลลิตถามแทมมาลีนด้วยความสงสัย เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าบึ้งตึงตั้งแต่เข้าโรงเรียนมา“ก็พระเอกน่ะสิ ทำตัวน่าโมโหชะมัด” ไอ้เรารึอุตส่าห์หวังดีนำของกินไปให้ตอนกลางคืน กะว่าจะสานสัมพันธ์พี่น้องสักหน่อย กลับถูกไล่กลับห้องแถมถูกตอบกลับด้วยเสียงเย็นชาอีก“คราวหน้าไม่ต้องมาเคาะประตูด้วยเรื่องไร้สาระอีก”ปัง เสียงปิดประตูทำให้หนูน้อยวัยสามขวบโกรธจัด เตรียมไปฟ้องผู้ปกครองที่อยู่ในห้องนอนแต่ก็ต้องเลี้ยวกลับแทบไม่ทันเมื่อได้ยินเสียงร่วมรักอย่างหนักหน่วงดังลอดออกมาให้ตาย ครอบครัวนี้มีคนปกติบ้างไหมเนี่ย“เหม่ออะไยอีกแย้ว” ลลิตเรียกคนที่หน้าตาคล้ายพระเอกแต่มีความหวานมากกว่า คงได้จากป้าดาหวันมาเยอะ“ไม่มีแย้ว ว่าแต่นายจะแอ๊บเด็กไปถึงไหน” แทมมาลีนเอ่ยอย่างสงสัย เขาเพิ่งมาที่นี่ไม่ถึงเดือนเอง ภายในร่างเด็กน้อยมีความคิดของผู้ชายวัยสามสิบอยู่เต็มเปี่ยมถึงแม้จะยังพูดไม
“อ้าปาก”“ไม่เอา ลลิตจะกินเอง” มือเล็กพยายามคว้าช้อนตักไอติม“ลลิตกินเลอะ อ้าปากเร็ว”“ก็ได้” ปากจิ้มลิ้มอ้าปากรับเอาไอติมที่ถูกป้อนโดยพระเอกของเรื่อง ส่วนแทมมาลีนนั้นถูกดาหวันนั่งเทศนาไปด้วยป้อนไปด้วย“เก่งจริงลูกฉัน ตัวกะเปี๊ยกเดียวยังกล้าไปกระโดดกัดผู้ใหญ่อีก อ้าปาก”“อ้าม ก็ยัยป้านั่นผลักพี่จ๋านี่นา”เสียงเล็กเอ่ยแย้งผู้เป็นแม่ก่อนจะอ้าปากรับไอติมคำต่อไป“ยังจะเถียงอีก ลูกได้นิสัยใครมาเนี่ย” ดาหวันยังคงบ่นกระปอดกระแปด ปราบและครามที่ก้าวเข้ามาในร้านอดยิ้มกับภาพตรงหน้าไม่ได้“ลลิต พ่อมารับแล้วครับ”“ป๊ะป๋ามาแย้ว” ลลิตละจากช้อนที่แทนไทป้อนกระโดดลงเก้าอี้วิ่งกระโจนสู่อ้อมอกพ่อตัวเอง“กินไอติมอร่อยไหมครับ” หอมไปที่ขมับลูกน้อยก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้โดยที่จับลลิตนั่งลงบนตัก“ป๊ะป๋าป้อนให้ดีกว่า” ครามส่งสายตาอ
“ตาคราม ลออเป็นยังไงบ้าง” คุณไพลินกับคุณพิศาลมาถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว หญิงวัยกลางคนมาถึงก็ถามไถ่อาการของลูกสะใภ้ทันที“ตอนนี้หมอกำลังผ่าคลอดครับ” ครามนั่งหน้าห้องโดยที่กอดตัวลลิตที่คอพับคออ่อนไว้กับตัว“แม่จัดการเรื่องห้องพักไว้แล้ว ให้ลลิตไปนอนที่ห้องก่อนเถอะ”คุณไพลินเข้ามาอุ้มร่างของหลานชายไว้ก่อนจะเดินไปยังห้องพักวีไอพี“ฝากคุณแม่ด้วยนะครับ”ให้ลลิตไปนอนรอที่ห้องน่าจะดีกว่าอยู่กับเขา เมื่อเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ครามก็ยิ่งอย่างกระวนกระวายใจคุณพิศาลตบบ่าให้กำลังใจลูกชาย “แกไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนี้ก็ได้ เป็นพ่อลูกสองแล้วนะ”“ตอนลลิตเกิดผมไม่ได้อยู่ด้วยนี่ครับ” คราวของอัยวาเขาก็ไม่ได้อยู่ด้วยเหมือนกัน ชายหนุ่มลงจากเครื่องมาดูหน้าอัยวาแค่แวบเดียวก่อนจะนั่งเครื่องเพื่อไปทำงานต่อครามนึกด่าตัวเองในใจทำไมเขาถึงไม่ย้อนเวลามาเร็วกว่านี้นะตอนลออจันทร์คลอดลลิตต้องลำบากแค่ไหน ตอนที่เขาดูแลลออจันทร์ในช่วงหลายเดือนมานี้เ
“น้องคีย์ คลานมาทางนี้สิ” ลลิตส่งเสียงเรียกน้องชายตัวอวบอ้วนที่ค่อย ๆ ยันตัวคลานมาที่ตนนั่งอยู่“อา อา” คีย์น้อยอายุได้แปดเดือนแล้วในขณะที่ลลิตอายุห้าขวบอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนแต่ร่างกายไม่ได้ยืดขึ้นแต่อย่างใดมีเพียงคำพูดที่ฟังชัดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด“เร็วเข้า ไม่งั้นพี่จะออกไปเล่นกับแพนเค้กแล้วนะ” คีย์น้อยเมื่อได้ยินว่าพี่ชายจะทิ้งตนไปเล่นกับเจ้าแพนเค้กก็ออกแรงคลานจนมาถึงจุดที่ลลิตอยู่ด้วยความเร็วสูงสุด“เก่งมากเลย น้องใครกันนะ”“อาอาอา”“พูด ลาาา ลิตตต” ลลิตพยายามให้น้องฝึกพูดชื่อตัวเอง“อาาาาา” เจ้าหนูน้อยก็เลียนเสียงเก่งเสียด้วย พยายามทำเสียงตามพี่ชายด้วยตากลมแป๋ว“ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด” ลลิตเบ้ปากเมื่อได้ยินเสียงน้องชาย“น้องเพิ่งแปดเดือนเองครับ ตอนหนูแปดเดือนก็เป็นแบบนี้แห
แทนไทเดินเข้าไปที่ห้องรับแขก วันนี้นอกจากจะมีครอบครัวเพลิงโชติเมธีแล้วยังมีครอบครัวโยธินตระกูลมาร่วมรับประทานอาหารด้วยลินินตอนนี้อยู่ในอ้อมแขนของคุณวาสินีที่ยิ้มไม่หุบตั้งแต่เข้ามา ร่างตุ้ยนุ้ยนั่งเก้าอี้คอยชวนคุณยายพูดคุยด้วยท่าทางไร้เดียงสา ครามกับปราบนั่งคุยล้อมวงกับคุณอารัญและคุณพิศาล เด็กชายคีตานั่งไถโทรศัพท์เงียบ ๆ นั่งข้างลลิตกับแทมมาลีน“อ้าว พี่จ๋าหายไปไหนมา”แทมมาลีนเอ่ยทัก เผลอละสายตาจากหมากรุกที่เขากับลลิตฟาดฟันมาหลายนาที จังหวะที่ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไม่รู้ตัวเลยว่าลลิตแอบหยิบหมากตัวเองออกไปหนึ่งตัว“ตานายแล้ว รีบเดินสิ”“เร่งทำไม เอ๊ะ ทำไมมันแปลก ๆ”“แปลกอะไร ไม่มี้” ลลิตพูดเสียงสูง ไม่มีพิรุธสักนิด แทมมาลีนที่เห็นท่าทางลลิตเป็นแบบนี้ก็กระโจนเข้าไปขยี้ผมนุ่มทันที“หน็อยแน่ ทำเป็นเนียนเลยนะ”“ปล่อยนะ นายกล้าทำกับพี่เขยแบบนี้ได้ยังไง” ลลิตเผลอตัวหลุดโพล่งออกมา
“บาดแผลสมานตัวดีมาก อย่าลืมมาพบแพทย์ตามนัดอีกสองสัปดาห์นะครับ ตอนนี้คุณหนูสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้วครับ”คุณหมอมอบรอยยิ้มให้เด็กหนุ่มตรงหน้าที่นั่งยิ้มหน้าบาน“ขอบคุณคุณหมอมาก ๆ ครับ”ลลิตไหว้ขอบคุณลุงหมอเจ้าของไข้ที่คอยดูแลเขามาตลอดที่อยู่โรงพยาบาลเมื่อบอกลาคุณหมอเสร็จเจ้าตัวแสบก็ลงมายืนข้างเตียงโดยที่ไม่ต้องมีใครช่วยพยุงอีกแล้ว“...”แทนไทที่เตรียมอุ้มลลิตทำหน้าเสียดาย ช่วงหลังที่ลลิตพักฟื้นเท้าแทบไม่ติดพื้นเพราะมีครามกับแทนไทคอยอุ้มไปไหนต่อไหนตลอดถึงจะถูกลออจันทร์บ่นว่าก็ทำหูทวนลมทั้งสามีและลูกเขยวันนี้ครามติดประชุมสำคัญทำให้มารับลูกชายออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ แทนไทจึงอาสามารับแทนสร้างความประทับใจให้แก่ลออจันทร์ยิ่งไปอีก“ไปกันครับ ผมอยากกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว”ลลิตเดินนำหน้าลออจันทร์และแทนไทออกไปอย่างร่าเริง“ลูกคนนี้นับวันยิ่งแก่นแก้วไปทุกที” แทนไทมองลลิตที่ทำตัวร่าเริงด้วยแววตาอ่อนโยน“ดีแล้วครับ ผมชอบที่เขาเป็นแบบนี้”“หม่าม้า ล
“ตอนนี้แผลผ่าตัดของคุณหนูลลิตปกติดีครับ ไม่มีการติดเชื้อใด ๆ ผู้ป่วยสามารถลุก เดิน นั่งได้ด้วยตัวเอง หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนภายใน หมอจะทำการตัดไหมในวันที่ 7 พร้อมกลับบ้านในวันเดียวกันได้เลยครับ”ครามและลออจันทร์นั่งฟังคำวินิจฉัยของแพทย์ด้วยความดีใจ“คุณหมอหมายความว่า ลลิตหายแล้วใช่ไหมครับ” ลออจันทร์ถามย้ำอย่างตื่นเต้น“ครับ ตอนนี้คุณหนูลลิตปลอดภัยแล้วครับแต่ยังต้องทานยาและมาพบแพทย์ตามนัดด้วยนะครับ”“ขอบคุณครับหมอ” ครามโค้งตัวขอบคุณคุณหมอที่ช่วยชีวิตลูกชายของเขาไว้“ไม่เป็นไรครับ เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว”คุณหมอนพ เจ้าของคนไข้นึกชื่นชมเจ้าของโรงพยาบาลตรงหน้าที่ไม่ถือตน เมื่อได้เวลาที่ต้องไปตรวจคนไข้ก็ขอตัวออกไปก่อน ลออจันทร์ลูบกลุ่มผมนุ่มของคนที่ยังหลับใหล“ลลิตปลอดภัยแล้วนะครับ”“รีบตื่นมาฟังข่าวดีได้แล้ว เจ้าตัวยุ่ง” เหมือนลลิตรู้ตัวว่าหม่าม้ากำลังพูดกับตน ร่างบางส่งเสียงพึมพำออกมาอย่าง
ครามที่สองมือหอบข้าวของของภรรยาและลูกชายมาเต็มสองมือไม่ยอมให้ป้าจิตช่วยถือเดินเข้าโรงพยาบาลมาพร้อมกับคุณไพลินและคุณพิศาลที่เดินหน้าเครียดสร้างความตื่นตกใจให้แก่บุคลากรของโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก“พี่คราม ผมได้ยินข่าวของลลิตแล้ว หลานของผมเป็นยังไงบ้างครับ” หมอกันต์ที่ออกไปสัมมนาข้างนอกวิ่งเข้ามาเจอครอบครัวของญาติผู้พี่พอดีถามเสียงลั่นไม่นะ หลานชายที่น่ารักของเขาทำไมต้องโชคร้ายขนาดนี้ด้วย“ตอนนี้ลลิตยังปลอดภัย แกก็อย่าตื่นตระหนกไปมากกว่านี้ได้ไหม กว่าฉันจะปลอบคุณแม่ให้สงบลงต้องใช้เวลาแค่ไหน”ครามกระซิบบอกน้องชายเสียงเบา สายตาคอยมองคุณไพลินที่เดินนำหน้าด้วยความเป็นห่วง“แหะ แหะ เข้าใจแล้วครับ” หมอกันต์แย่งตุ๊กตาไดโนเสาร์สีเหลืองที่ผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน&
“ป๊ะป๋าตื่นสาย”ลลิตพูดลอย ๆ เมื่อเห็นครามอุ้มลินินเดินลงมาจากชั้นบน ตอนนี้เขากับคีตากำลังกินข้าวเช้าที่ป้าจิตเป็นคนทำให้ คีตาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เกี่ยวกับแผนการของพี่ชายนั่งตักข้าวต้มกินต่อไป “วันนี้วันหยุด ป๊ะป๋าก็อยากตื่นสายบ้าง หม่าม้าก็ชอบตื่นสายเหมือนป๊ะป๋านะ” ครามตอบโต้ลูกชายด้วยการยกหม่าม้าของเจ้าตัวขึ้นมาอ้าง ลลิตหน้าบูดเมื่อพูดอะไรไปเจ้าพ่อบ้ากามก็ไม่สะทกสะท้านจึงนั่งจ้วงข้าวต้มเข้าปากคำโต “มาค่ะ ลินินเดี๋ยวพ่อป้อนหนูนะคะ” “อื้อ ไม่เอาค่ะ หนูอยากกิงเอง ลินินโตแย้วนะ” เด็กหญิงบอกว่าตัวเองโตแล้ว ครามได้แต่นั่งลงทานข้าวแต่โดยดี “เด็ก ๆ ทานข้าวเสร็จหรือยังครับ”ลออจันทร์ที่แต่งตัวเรียบร้อยเดินมาหาลูกชายลูกสาวก่อนจะไล่หอมหัวคนละหนึ่งที&nbs
"แล้วนายจะกลับอิตาลีเลยหรือเปล่า”ลลิตถามอัยวาขณะที่ทั้งสองอยู่ในลิฟต์ ครามอยากตามลงมาด้วยแต่ถูกเตวิชขวางไว้เสียก่อนจึงได้แต่มองลูกชายและอดีตลูกชายเดินออกไปตาละห้อย “คงต้องกลับเลย ฉันลาหยุดได้แค่ไม่กี่วัน” ราฟาเอลก็ทิ้งการเรียนตามเขามาด้วย อัยวาไม่อยากให้แฟนตัวเองถูกไล่ออกจึงต้องรีบกลับไป“ฉันอยากแวะไปหาคุณยายกับคุณตานะแต่ฉันไปตามที่อยู่เดิมกลับมีคนอื่นเข้ามาอาศัยอยู่แล้ว” อัยวาพูดด้วยน้ำเสียงจนใจ ลลิตได้แต่เห็นใจเรื่องของครอบครัวอัยวาเขาคงไปยุ่งมากไม่ได้โอเมก้าสองคนเดินไปยังร้านกาแฟของลออจันทร์ ทันทีที่ลลิตเปิดประตูเข้าไปก็ต้องอมยิ้มเมื่อเห็นอัลฟ่าสองคนนั่งจ้องหน้ากันโดยมีน้องคีย์นั่งทำการบ้านด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ“พี่ลลิตมาแย้ว”ลินินที่นั่งอยู่บนตักแทนไทดิ้นลงวิ่งมาหาพี่ชาย“ลินินมาได้ไงครับ” ลลิตถามด้วยความแปลกใจ นี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนนี่นา“วันนี้โยงเยียนเล
“ป๊ะป๋าพรุ่งนี้ว่างหรือเปล่าครับ”ลลิตที่ยื่นหน้ามาทางประตูเอ่ยถามครามที่นั่งทำงานอยู่ในห้องหนังสือ “ลลิต พ่อตกใจหมด”ครามลูบอกปลอบตัวเอง จู่ ๆ ลูกชายก็โผล่แค่ส่วนหัวเข้ามาทำให้ครามตกใจ “คิกคิก ป๊ะป๋าขี้กลัว”ลลิตยอมโผล่ออกมาเต็มตัวเดินเข้าไปนั่งหน้าโต๊ะดี ๆ หยิบปากกาที่วางอยู่บนโต๊ะมาควงเล่น “หม่าม้าทำอะไรอยู่ครับ”ครามอยากจะถามว่าทำไมลลิตถึงมาหาเขาที่ห้องหนังสือได้ปกติจะตัวติดหม่าม้าตลอด “หม่าม้าอาบน้ำให้ลินินอยู่ครับ ส่วนน้องคีย์นั่งทำการบ้านอยู่ในห้องนอนแล้ว”ลลิตเอ่ยรายงานครบถ้วนก่อนจะวกเข้าเรื่องที่ต้องการถาม “พรุ่งนี้ผมพาเพื่อนใหม่มาเจอป๊ะป๋าได
ตึก ตึก ตึก“พี่คีย์ เร็วหน่อยจิ”เสียงของเด็กน้อยดังขึ้นทำให้เด็กชายรูปร่างสูงปราดเปรียวเร่งจังหวะฝีเท้าให้ทันสาวน้อยวัยอนุบาล“ลินิน รอพี่ด้วย”เสียงห้าวที่เพิ่งแตกหนุ่มของเด็กชายคีตาเรียกน้องสาวตัวน้อยให้รอตนด้วย“ไม่เอา ลินินคิดถึงพี่ลลิตนี่นา”สาวน้อยวิ่งเข้าไปบริษัทไม่ยอมรอพี่ชายอีกต่อไป ทำให้ คีตาต้องวิ่งตามเข้าไปก่อนจะอุ้มร่างตุ้ยนุ้ยขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนหม่าม้าของเขาเลี้ยงลูกเก่งทุกคนเหมือนที่คุณย่าเคยว่าไว้เป๊ะ จะมีลูกกี่คนก็เลี้ยงลูกให้ตัวจ้ำม่ำทุกคนถึงคุณไพลินจะว่าอย่างนั้นแต่ในใจก็อดปลื้มใจที่บรรดาลูกหลานตัวอวบอ้วนทุกคน ถึงตอนโตขึ้นมาจะหุ่นดีกันหมดก็เถอะ“คิกคิก ปล่อยลินินนะ”สาวน้อยดีดดิ้นอยากลงไปวิ่งเองมากกว่าแต่คีตาไม่ยอมปล่อยให้น้องสาววิ่ง กระชับอ้อมกอดเดินไปยังร้านกาแฟ“พี่ลลิตจะมาหรือยังนะ”ลินินโอบคอพี่ชายคนรองถามอย่างใคร่รู้“คงมาแล้วล่ะ พี่แทนก็คงมาด้วย”“พี่
“อัยวา?”“...”ผู้ชายผิวขาวหน้าตาคล้ายโรสรินหันมาตามเสียงเรียก สายตามีความงุนงงเล็กน้อยก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อคิดออก“ลลิตใช่ไหม !!”คราวนี้ลลิตเป็นฝ่ายงุนงงบ้าง เคยเจอกันแค่ตอนเด็กเพียงครั้งเดียวอัยวาไม่น่าจะจำเขาได้นะ“พวกนายรู้จักกันงั้นเหรอ”เสียงภาษาไทยติดสำเนียงแปร่งดังออกมาจากร่างบึกบึนด้านหลังอัยวาแทนไทมองท่าทีคุกคามของชาวต่างชาติก็ไม่พอใจเคลื่อนตัวมาบังหน้าลลิต ราฟาเอลเห็นท่าทางของแทนไทก็เดินมาบังหน้าโอเมก้าของตนบ้างตอนนี้ต่อให้ลลิตและอัยวาเขย่งสุดเท้าแค่ไหนก็ไม่สามารถมองข้ามหัวไหล่ของอัลฟ่าทั้งสองไปได้“หลบไปเลยนะ” อัยวาร้อนใจถีบไปที่หน้าแข้งของคนตัวยักษ์ทำให้ราฟาเอลถลาไปกอดแทนไทที่อยู่ตรงข้ามหมับสถานการณ์ในตอนนี้ช่างดูอิหลักอิเหลื่อเหลือเกิน แทนไทเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองตกอยู่ในอ้อมกอดของราฟาเอลก็ผลักร่างหนาออกไปทันทีพร้อมกับราฟาเอลที่ดีดตัวออกอย่างรวดเร็ว