LOGIN“สนุกไหมครับรันเวย์” ใบชาเอ่ยถามลูกชาย หลังจากออกมาจากโรงภาพยนตร์
“สนุกมากครับมี๊...เวย์อยากอยู่กับมี๊ทุกวันเลย...ไม่อยากกลับเลย” ว่าแล้วก็งอแงอ้อนแม่เสียหน่อย
“งั้นก็ต้องกลับไปตั้งใจเรียน ปิดเทอมค่อยมาอยู่ด้วยกันโอเคไหมครับ” ย่อตัวลงตรงหน้าลูกชาย แล้วใช้สองมือประคองใบหน้าเขา ตามด้วยเอ่ยบอกด้วยความเอ็นดู
“หม่ามี๊ครับ...เราไม่ย้ายคอนโดได้ไหมครับ”
“ทำไมครับ?”
“เวย์อยากเจอคุณลุง เวย์อยากเจอพี่ชาย”
“เวย์ครับ...มี๊เคยบอกใช่ไหมครับว่าเราไม่ควรไว้ใจคนแปลกหน้า...ต่อให้เขาดีแค่ไหน...ก็ไม่ควรอยู่ใกล้...บางคนอาจจะไม่ได้หวังดีกับเราก็ได้นะครับ” ที่เธอพูดเธอไม่ได้จะบอกว่าสายหมอกไม่ดี แต่เธอแค่กลัวว่าลูกชายจะไว้ใจคนอื่นง่ายเกินไป การที่เขาเป็นแบบนี้ มันเป็นภัยต่อตัวเขาเอง หากคนที่เข้าหาไม่ใช่สายหมอกแต่เป็นคนอื่น ทำท่าทีใจดีแบบนี้กับเขา แล้วจับตัวไปจะทำยังไง ใจของเธอจะไม่ขาดหรอกเหรอ
“แต่คุณลุง...เป็นคนดีนะครับ...คุณลุงใจดีกับเวย์มากๆ เลย”
“แต่คนอื่นที่ไม่ใช่คุณลุงล่ะครับ ถ้าเขามีหมา มีแมว เวย์ก็จะมองว่าเขาใจดีทุกคนแบบนี้เหรอ”รู้แหละว่าลูกชายรักสัตว์ แต่การที่คนอื่นเอาสิ่งที่ชอบมาล่อมันก็เข้าตาโจรพอดีน่ะสิ
“เวย์ขอโทษครับ...ต่อไปเวย์จะระวังตัว...แต่ขอรู้จักคุณลุงคนเดียวได้ไหมครับ อ้อไม่สิ พี่ชายด้วย...ได้ไหมครับมี๊” แม้จะลำบากใจกับสิ่งที่เขาขออยู่ไม่น้อย สุดท้ายก็ต้องจำใจตอบรับไปก่อน เอาไว้...ค่อยหาหนทางเลี่ยงอีกทีก็แล้วกัน เธอคิด
“เฮ้อ...ครับ...”
“เย่...หม่ามี๊ใจดีที่สุดเลย” เด็กน้อยกระโดดโลดเต้นยิ้มแก้มปริเมื่อแม่อนุญาต
“กลับกันเถอะครับเดี๋ยวจะดึก อาบน้ำตอนค่ำเดี๋ยวจะเป็นหวัดอีก และต้องรีบนอนเข้าใจไหมครับ...พรุ่งนี้เช้าน้าหม่อนจะมารับ”
“รับทราบครับหม่ามี๊”
วันต่อมา...
“น้องเวย์ครับ...ตื่นได้แล้ว...น้าหม่อนมารอแล้วนะครับ” ใบชาเขย่าแขนลูกชายเบาๆ เพื่อปลุกให้เขาตื่น
“งื้อ...มี๊ครับ...เวย์กลับตอนเย็นก็ไม่ได้เหรอครับ...เวย์ยังง่วงอยู่เลย” เด็กน้องต่อรอง
“ไม่ได้ครับ...หม่ามี๊ต้องเตรียมตัวไปบินพรุ่งนี้อีก...อย่าดื้อกับมี๊นะครับ”
“ก็ได้ครับ...เวย์ลุกแล้วก็ได้...แต่...คุกกี้ของเวย์ล่ะครับ...มี๊ได้ทำให้เวย์ครบหรือเปล่า”
“ครบแล้วครับ กระเป๋ามี๊ก็เก็บให้เรียบร้อยแล้ว...ไปครับลุกไปอาบน้ำแต่งตัว น้าหม่อนรอนานแล้ว” พูดพร้อมกับพยุงแขนลูกชาย เพื่อประคองให้เขาลุกออกจากเตียง
กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมง ทานมื้อเช้าเสร็จใบหม่อนก็เป็นคนรับช่วงต่อ
พอลงมาที่ชั้นล่างแทนที่จะรีบกลับบ้าน รันเวย์กลับยืนมองไปรอบๆ ราวกับกำลังรอใครบางคนตามที่หวัง
“เวย์ครับ เวย์รอใคร” ใบหม่อนถามหลานชาย เพราะรันเวย์เอาแต่ชะเง้อชะแง้สายตามองไปทั่วคอนโด
และเพียงไม่นานก็เป็นไปตามคาด เพราะสายหมอกกำลังเดินเข้ามาในคอนโดแถมยังอุ้มเจ้าแมวอ้วนมาด้วย วินาทีที่เขาเห็น รันเวย์ก็รีบวิ่งไปดักตรงหน้าสายหมอก ก่อนที่เขาจะเดินไปที่ลิฟต์
“คุณลุงครับ”
เสียงเด็กน้อยคนเดิมที่เขาคุ้นเคยตะโกนเรียก พร้อมกับดวงตาที่เป็นประกายแห่งความสุข ดีใจราวกับได้ของเล่นที่ถูกใจ
“สวัสดีครับคุณลุง” ว่าแล้วก็ยกมือไหว้ด้วยความอ่อนน้อม “สวัสดีครับพี่ชาย...พี่ชายหายป่วยแล้วเหรอครับ”
“อ้าวยังไม่กลับอีกเหรอ...” สายหมอกถาม ก่อนที่จะย่อตัวลงนั่งตรงหน้ารันเวย์ แล้วปล่อยให้นมสดเดินไปหา แล้วราวกับนมสดกำลังรอคอยเขา เพราะทันทีที่ถูกปล่อยตัวลงจากอก ก็เดินไปคลอเคลียออดอ้อนรันเวย์อย่างกับคนรักกันที่ไม่ได้เจอกันนานๆ
“กำลังจะกลับแล้วครับ...อ้อ...เวย์มีขนมมาฝากคุณลุงด้วยนะครับ” ผละมือออกจากนมสด แล้วหันไปหาใบหม่อนที่ถือถุงกระดาษอยู่ข้างๆ จากนั้นก็ล้วงไปหยิบกล่องคุกกี้ที่ใบชาแยกไว้ออกมา ตามด้วยส่งให้สายหมอกด้วยความภาคภูมิใจ
“หืม...ใจดีจังมีขนมมาฝากด้วยเหรอเนี่ย” เอ่ยตอบพร้อมกับยื่นมือไปรับมาถือเอาไว้
“ใช่ครับ”
“ขอบคุณนะเจ้าเด็กน้อย” ลูบศีรษะรันเวย์ด้วยความเอ็นดู ไม่รู้ว่าเพราะเจอกันบ่อยหรือเปล่า ยิ่งเจอก็ยิ่งรู้สึกถูกชะตาและผูกพัน ทั้งที่เขาเองก็ไม่ได้คุยเล่นกับคนอื่นไปทั่วแบบนี้ ออกจะติดไปทางเงียบๆ เสียมากกว่า ทว่ากับเด็กคนนี้ดันมีบางสิ่งดึงดูดให้เขารู้สึกแบบนั้น
“รันเวย์ครับ...ไปกันเถอะครับ รบกวนคุณลุงนานแล้ว” ใบหม่อนกล่าวด้วยความเกรงใจ กลัวว่าที่หลานทำมันจะเป็นการรบกวนเขามากเกินไป “ต้องขอโทษคุณด้วยนะครับที่หลานผม...”
“หลาน?” เลิกคิ้วมองเพราะสะดุดคำว่าหลาน นี่เขาเข้าใจผิดมาตลอดเลยเหรอเนี่ย
“ครับ...หลาน...รันเวย์เป็นลูกของพี่สาวผม” ใบหม่อนกล่าว
“อ๋อ...” พยักหน้าตอบรับ พร้อมกับคิดในใจว่า ถึงว่าล่ะไม่มีส่วนไหนเหมือนใบหม่อนเลยสักนิด แอบคิดเหมือนกันว่าลูกหน้าตาดีขนาดนี้ พ่อแม่จะหน้าตาดีขนาดไหนกันเชียว ไปทำกันท่าไหนนะ ลูกถึงหล่อแบบนี้
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ไปครับเวย์...คุณยายรอแล้ว” รบเร้าหลานชายที่ดูไม่ค่อยอยากจะไปจากตรงนี้สักเท่าไหร่ให้ลุกขึ้น แล้วคืนแมวสายหมอกไป
“ว้า...ต่อไปก็ไม่ได้เจอกันแล้ว...งั้น...บ๊ายบายนะครับคุณลุง...บ๊ายบายนะครับพี่ชาย” ยกมือโบกไปมาเพื่อลาด้วยท่าทีหงอยๆ
“อ้าว...ทำไมถึงไม่ได้มาล่ะ...”
“มี๊ติดงานครับ...ถ้าจะมาก็ต้องปิดเทอมก่อน”
“ไว้ปิดเทอมก็ค่อยมาเล่นด้วยกันไง”
“คุณลุงกับพี่ชายจะจำเวย์ได้ไหมครับ”
“ใครจะไปลืมคนที่ให้คุกกี้ลุงได้ล่ะ”
“จริงนะครับ” ดวงตาสุกใสลุกวาวจ้องมองสายหมอกด้วยความรู้สึกที่มันล้นปรี่เต็มไปด้วยความหวัง
“ครับ...ไว้ปิดเทอม...เจอกันนะ...” ร่ำลากันด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกกันไป
ติ้ง!!
ประตูลิฟต์เปิดออก พร้อมกับร่างสูงที่อุ้มแมวอ้วนตัวสีขาวออกมาด้วย แต่แทนที่เขาจะเดินกลับห้อง ทว่ากลับหยุดและยืนมองไปที่ห้องของใบชาที่อยู่ของอีกฟากตึก ยืนนิ่งอยู่เนิ่นนานหลายนาทีแต่สุดท้ายก็ตัดใจแล้วเดินกลับห้องของตัวเองไป
และด้วยเพราะในมือมีคุกกี้ที่รันเวย์ให้มาหนึ่งกระปุก บวกกับคุกกี้ของเขาก็หมดพอดี จึงลองแกะกล่องออกมาชิม แต่ก็ต้องรีบคายทิ้ง เพราะคุกกี้กล่องนี้มันหวานแสบคอจนกลืนแทบไม่ลง
“แหวะ...หวานอะไรขนาดนั้นวะเนี่ย” อุทานบอกกับตัวเอง ก่อนที่จะรีบเดินไปหยิบน้ำมาดื่มเพื่อล้างความหวานนั้นออกไป “ก็นะ...หวานๆ เด็กชอบ...” เมื่อลองนึกเหตุผลก็พอจะเข้าใจได้ แต่เพื่อรักษาน้ำใจก็เก็บเอาไว้แทนและกัน หากจะให้กินเบาหวานคงได้ขึ้นตากันพอดี
ถึงแม้ว่าเขาจะชอบกินคุกกี้มากแค่ไหน แต่คุกกี้รสโปรดที่เขากินก็ต้องไม่หวานแสบคอ แล้วช็อกโกแลตที่เป็นส่วนผสมต้องไม่ใช่ช็อกโกแลตคอมพาวด์ จะต้องเป็นช็อกแท้และรสชาติเข้มข้นเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าร้านเดียวที่ถูกปากเขาและรสชาติใกล้เคียงกับใบชามากที่สุดก็คงจะมีแค่ร้านนั้นที่น้องสาวสั่งให้นั่นแหละ
หลายวันมานี้ใบชาเตรียมเอกสารเพื่อไปสมัครงานที่สายการบินแห่งใหม่ แต่ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นสายการบินอันดับสองก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น และโชคดีหน่อยที่เธอยังไม่ใช่ตัวตึงในสายการบินเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยนักบินเท่านั้น ตอนลาออก แม้ว่าเขาจะเสียดายเธอ แต่พอฟังเหตุผลเขาก็จำยอมให้เธอออกตามที่ต้องการเธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายพักใหญ่เลย จนกระทั่งวันนี้เธอได้ถูกเรียกตัวไปสัมภาษณ์งาน“แม่คะ ชาจะไปสัมภาษณ์งานแล้ว ขอพรจากแม่หน่อยได้ไหมคะ” ร่างเล็กเดินเข้าไปนั่งตรงหน้าผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่เหนือเธอที่โซฟาไม้สัก พร้อมพนมมือขอพรจากพระในบ้าน“ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี ราบรื่น ไม่ติดขัด ลูกของแม่เก่งอยู่แล้ว แม่เชื่อว่าลูกทำได้” อวยพรพร้อมทั้งยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาวสุดที่รัก จากนั้นใบชาก็ก้มลงกราบไปที่ตักเมื่อได้รับพรที่ศักดิ์จากปากของแม่“ขอบคุณนะคะ...ตอนเย็น...ฝากไปรับรันเวย์หน่อยนะคะแม่...วันนี้ชาอาจจะกลับดึกหน่อยเพราะเดี๋ยวชาจะแวะไปดูคอนโดใหม่ด้วย...”“พี่ชาเอารถของหม่อนไปใช้ก็ได้นะ...วันนี้หม่อนมีนัดกับเพื่อนเดี๋ยวเพื่อนมารั
เช้าวันต่อมา...ใบชารีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปบินตามไฟล์ทในตาราง จัดการจัดเตรียมอาหารเช้า และเอกสารสำหรับการบินเรียบร้อยแล้วก็รีบออกจากห้องไป แต่พอเปิดประตูห้องออกไปกลับเจอสายหมอกยืนพิงผนังรออยู่ที่หน้าห้อง ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก“กินข้าวเช้ายังครับ...” สายหมอกถาม ส่วนเธอก็สอดส่ายสายตามองด้วยความระแวง กลัวว่าคนของเขาจะออกมาเห็นและเข้าใจผิดได้“เอ่อ...เรียบร้อยแล้ว” ตอบเพียงเท่านั้น แล้วเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าของเธอมาถือไว้แทน“มะ...หมอก...ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ถือเอง”“เดี๋ยวหมอกถือให้” ในเมื่อเขาดันทุรังที่จะทำก็จำยอมให้เขาทำไป ก่อนที่จะรีบเดินไปเข้าลิฟต์ เพราะกลัวว่าใครจะเห็นเข้า เธอไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งคนของใครทั้งนั้น แม้จะรักมากแค่ไหน หากเขาเป็นของคนอื่นไปแล้ว เธอก็ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปยุ่ง“หมอกคิดถึงพี่มากเลยนะ พี่หายไปไหนมา พี่ช่วยบอกหมอกได้ไหมครับ” เอ่ยถามเหตุผลหลังจากที่ทั้งคู่เข้ามาอยู่ในลิฟต์“พี่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพิ่งกลับมาได้สองปี”“ที่เลิกกันเพราะไปเรียนต่อเหรอ”“อืม...”“ทำไมไม่บอกหมอกดีๆ ทิ้งไปแบบนั้น หมอกใจหายนะรู้ไหม ติดต่อก็ไม่ไ
แล้วใครบอกกันล่ะว่าที่ผ่านมาเธอไม่รักเขา เธอรักเขาสุดขั้วหัวใจ และยิ่งรู้ว่าเธอมีลูกกับเขา แน่นอนว่ารักนี้ไม่มีวันจาง หรือลดน้อยลงไปเลยสักวัน เจอหน้าลูกทุกวันก็ยิ่งรักมากขึ้น ยิ่งคิดถึงจนแทบขาดใจ แต่คิดถึงแล้วจะให้ทำยังไง ในเมื่อตอนนี้เธอไม่กล้าแม้แต่จะดึงเขากลับมา เธอไม่กล้าเห็นแก่ตัวได้เลย เพราะเธอเป็นคนที่ทิ้งเขาไปเอง“ตอบดิชา แค่ชาพูดว่าชาเองก็ยังรักหมอก แค่นี้เลย” เขายังคงคาดคั้นเธออีกครั้ง ดวงตาแดงก่ำของสายหมอกตอนนี้มันสะท้านความหวังออกมา หวังให้เธอนั้นพูดมันออกมาสักที“...”“พูดดิชา!!!...”ตะโกนใส่หน้าเธอจนเธอสะดุ้ง“แล้วหมอกล่ะ...ถ้าหมอกพูด...พี่ก็พูด”“รักสิ ไม่รักหมอกจะเป็นบ้าแบบนี้เหรอ”หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเร็วขึ้นมา ดีใจที่ตอนนี้เขายังมีความรู้สึกนั้นกับเธอ แต่พอจะดีใจมันก็มีหน้าแฟนเขาผุดขึ้นมาหลอกหลอนเธอและทำให้เธอต้องเก็บความรู้สึกที่มีเอาไว้ภายในใจ พร้อมกับย้ำตัวเองในใจว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ควร เธอไม่ควรไปบอกรักแฟนชาวบ้านแบบนี้“แฟนหมอกรู้ไหม ว่าหมอกมาตามราวีแฟนเก่าแบบนี้”“ตอนนี้มีแค่เราสองคน จะไปพูดถึงคนอื่นทำไม”“แต่คนอื่นที่หมอกพูดถึง คือคนที่หมอกจะแต่งงานด้วย หมอกควรจ
หลังจากที่คายคุกกี้ทิ้งก็รู้สึกอยากจะกินคุกกี้เจ้าประจำขึ้นมา จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทักแชทหาน้องสาว หวังให้ประกายดาวสั่งให้สายหมอก : น้องดาวครับประกายดาว : คะเฮีย?สายหมอก : หนูช่วยสั่งคุกกี้ให้เฮียหน่อยได้ไหมครับประกายดาว : วันนี้ดาวไม่ว่างเลยเฮีย เดี๋ยวดาวให้ช่องทางติดต่อแล้วเฮีย สั่งเองได้ไหมคะสายหมอก : ได้ครับประกายดาว : ส่งข้อมูลการติดต่อสายหมอก : ขอบคุณครับเมื่อได้ช่องทางการติดต่อเขาก็ไม่รีรอรีบกดติดตามเพจ ตามด้วยทักข้อความส่วนตัวไปด้านใบชาติ้ง!!สายหมอก : สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าวันนี้เปิดรับออเดอร์ไหมครับเสียงข้อความในโทรศัพท์มือถือของใบชาดังขึ้น ดึงความสนใจแก่ร่างเล็กที่กำลังดูทีวีอยู่เพลินๆ ทว่าเมื่อหยิบเครื่องสี่เหลี่ยมขึ้นมาอ่านก็แทบช็อก เพราะข้อความที่ทักมานั้นดันเป็นสายหมอก พร้อมกับภายในใจที่คิดไปกันใหญ่ว่า หรือว่าเขาจะรู้ว่าเธอขายคุกกี้“หรือรันเวย์จะให้คุกกี้ไปผิดกล่อง?” วิเคราะห์กับตัวเอง ด้วยหัวใจที่สั่นระรัว และไม่รู้ว่าควรจะรับอ
“สนุกไหมครับรันเวย์” ใบชาเอ่ยถามลูกชาย หลังจากออกมาจากโรงภาพยนตร์“สนุกมากครับมี๊...เวย์อยากอยู่กับมี๊ทุกวันเลย...ไม่อยากกลับเลย” ว่าแล้วก็งอแงอ้อนแม่เสียหน่อย“งั้นก็ต้องกลับไปตั้งใจเรียน ปิดเทอมค่อยมาอยู่ด้วยกันโอเคไหมครับ” ย่อตัวลงตรงหน้าลูกชาย แล้วใช้สองมือประคองใบหน้าเขา ตามด้วยเอ่ยบอกด้วยความเอ็นดู“หม่ามี๊ครับ...เราไม่ย้ายคอนโดได้ไหมครับ”“ทำไมครับ?”“เวย์อยากเจอคุณลุง เวย์อยากเจอพี่ชาย”“เวย์ครับ...มี๊เคยบอกใช่ไหมครับว่าเราไม่ควรไว้ใจคนแปลกหน้า...ต่อให้เขาดีแค่ไหน...ก็ไม่ควรอยู่ใกล้...บางคนอาจจะไม่ได้หวังดีกับเราก็ได้นะครับ” ที่เธอพูดเธอไม่ได้จะบอกว่าสายหมอกไม่ดี แต่เธอแค่กลัวว่าลูกชายจะไว้ใจคนอื่นง่ายเกินไป การที่เขาเป็นแบบนี้ มันเป็นภัยต่อตัวเขาเอง หากคนที่เข้าหาไม่ใช่สายหมอกแต่เป็นคนอื่น ทำท่าทีใจดีแบบนี้กับเขา แล้วจับตัวไปจะทำยังไง ใจของเธอจะไม่ขาดหรอกเหรอ“แต่คุณลุง...เป็นคนดีนะครับ...คุณลุงใจดีกับเวย์มากๆ เลย”“แต่คนอื่นที่ไม่ใช่คุณลุงล่ะครับ ถ้าเขามีหมา มีแมว เวย์ก็จะมองว่าเขาใจดีทุกคนแบบนี้เหรอ”รู้แหละว่าลูกชายรักสัตว์ แต่การที่คนอื่นเอาสิ่งที่ชอบมาล่อมันก็เข้าตาโจรพอด
“มี๊ครับ มี๊ทำไมหน้าซีดๆ ไม่สบายหรือเปล่าครับ” รันเวย์ยืนขึ้นแล้วใช้หลังมืออังไปที่หน้าผากใบชา“มี๊ไม่เป็นอะไรครับ...เอ่อ...งั้นเดี๋ยวมี๊ไปเปิดน้ำอุ่นให้แช่นะครับ วันนี้จะเอาฟองสีอะไร” ว่าแล้วก็เอ่ยถามลูกชาย เพราะปกติเขาจะชอบใช้บาธบอมม์ สบู่อโรม่าฟองฟู่ในอ่างทุกครั้งเวลาแช่น้ำ“สีฟ้าครับมี๊”“โอเคครับ เดี๋ยวมี๊ไปเตรียมให้นะ” พูดจบก็เดินไปเตรียมน้ำให้ลูกชาย พอเตรียมเสร็จ เธอก็ปล่อยให้รันเวย์เล่นน้ำไป ส่วนเธอก็ออกไปซื้อของมาทำมื้อเย็นให้เขาด้วยเพราะเธอหยุดหลายวัน และรันเวย์ก็จะได้นอนกับเธอสองคืน เธอจึงมีการเตรียมกิจกรรมต่างๆ ไว้ทำกับลูกชาย บวกกับต้องเจียดเวลาทำคุกกี้อีก จะหักโหมมากก็ไม่ได้ เพราะการเป็นนักบิน การนอนต้องเพียงพอ“รันเวย์ครับ...เล่นพอหรือยังครับ...ข้าวผัดปูเสร็จแล้วน้า”“โอเคครับมี๊...มี๊ช่วยมาถูหลังให้เวย์หน่อยได้ไหมครับ”เมื่อเห็นว่าลูกเล่นจนพอใจแล้ว เธอก็ไปอาบน้ำล้างตัวให้ลูกเป็นขั้นตอนสุดท้าย แล้วเตรียมตัวกินข้าวต่อ แต่สักพักก็จามถี่ๆ ด้วยเพราะแช่น้ำนาน บวกกับอากาศในห้องค่อนข้างที่จะเย็น เลยมักจะเป็นหวัดแบบนี้อยู่บ่อยๆ หลังอาบน้ำ พอเห็นรันเวย์เป็นแบบนี้ก็อดคิดถึงสายหมอ





![สยบรักวิศวะตัวแรง[ ENGINEER'S SECRET ]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

