LOGINหลังจากที่คายคุกกี้ทิ้งก็รู้สึกอยากจะกินคุกกี้เจ้าประจำขึ้นมา จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทักแชทหาน้องสาว หวังให้ประกายดาวสั่งให้
สายหมอก : น้องดาวครับ
ประกายดาว : คะเฮีย?
สายหมอก : หนูช่วยสั่งคุกกี้ให้เฮียหน่อยได้ไหมครับ
ประกายดาว : วันนี้ดาวไม่ว่างเลยเฮีย เดี๋ยวดาวให้ช่องทางติดต่อแล้วเฮีย สั่งเองได้ไหมคะ
สายหมอก : ได้ครับ
ประกายดาว : ส่งข้อมูลการติดต่อ
สายหมอก : ขอบคุณครับ
เมื่อได้ช่องทางการติดต่อเขาก็ไม่รีรอรีบกดติดตามเพจ ตามด้วยทักข้อความส่วนตัวไป
ด้านใบชา
ติ้ง!!
สายหมอก : สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าวันนี้เปิดรับออเดอร์ไหมครับ
เสียงข้อความในโทรศัพท์มือถือของใบชาดังขึ้น ดึงความสนใจแก่ร่างเล็กที่กำลังดูทีวีอยู่เพลินๆ ทว่าเมื่อหยิบเครื่องสี่เหลี่ยมขึ้นมาอ่านก็แทบช็อก เพราะข้อความที่ทักมานั้นดันเป็นสายหมอก พร้อมกับภายในใจที่คิดไปกันใหญ่ว่า หรือว่าเขาจะรู้ว่าเธอขายคุกกี้
“หรือรันเวย์จะให้คุกกี้ไปผิดกล่อง?” วิเคราะห์กับตัวเอง ด้วยหัวใจที่สั่นระรัว และไม่รู้ว่าควรจะรับออเดอร์นี้ดีหรือไม่
ติ้ง!
สายหมอก : เอ่อ...ยังไม่รับออเดอร์งั้นเหรอครับ เสียดายจัง
ข้อความของเขายังทักย้ำมาอีกครั้ง
แต่เธอเลือกที่จะไม่ตอบเขา เพราะกลัวว่าเขาจะรู้ แต่แล้วสักพัก ก็มีไลน์แมนกดออเดอร์เข้ามา พร้อมกับโอนเงินให้เธอเรียบร้อย ผ่านไปไม่นาน ประตูห้องของเธอก็ดังขึ้น พร้อมกับไลน์แมนที่ยืนรอรับของอยู่ที่หน้าห้อง
“ขอบคุณนะคะพี่” ส่งถุงคุกกี้ให้ไลน์แมน ก่อนที่จะเข้าห้องไป
ร่างสูงในชุดยูนิฟอร์มสีเขียวมองที่อยู่ที่เขาต้องจัดส่งออเดอร์ พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กๆ เพราะลูกค้าที่กดสั่งออเดอร์ดันอยู่แค่คนละฟากตึกของแม่ค้า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เดินไปส่งของตามที่สั่ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!
แกร๊ก แอ๊ด!
“ขอบคุณครับ...ทั้งหมดเท่าไหร่ครับ” สายหมอกเอ่ยถามพร้อมกับหยิบกระเป๋าตังค์รอจ่ายค่าสินค้าที่สั่งไป
“3กล่อง 1800ครับ...”
“นี่ครับ ไม่ต้องทอน” หยิบแบงก์พันยื่นให้ไลน์แมนสองแบงก์แล้วหมุนตัวกลับเข้าห้อง ทว่าก่อนที่จะปิดประตูลง เขากลับได้ยินเสียงของไลน์แมนบ่นบางอย่างด้วยท่าทีหัวเสีย
หลังจากที่ใบชาส่งของเสร็จเพียงไม่นาน อยู่ๆ เสียงแจ้งเตือนออเดอร์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง พอกดตอบรับสักพัก ประตูห้องก็ดังขึ้น เธอจึงรีบจัดการจับกล่องคุกกี้ใส่ถุงเพราะกลัวว่าพนักงานจะรอนาน
แกร๊ก แอ๊ด!!
“เฮือก!” แต่ทันทีที่เปิดประตูออกมา ร่างเล็กก็ถึงกับตาโต เมื่อคนตรงหน้าเธอนี้ไม่ใช่ไลน์แมนที่มารับออเดอร์อย่างที่คิด ทว่ากลับเป็นสายหมอกที่ยืนจ้องหน้าเธอตาเขม็ง ตามด้วยมองไปที่ถุงคุกกี้ในมือเธอ
“ตกใจอะไรครับ...” ร่างสูงเอ่ยถาม
“อะ...เอ่อ...หมอกมาทำอะไร...มีอะไรเหรอ” พยายามกลบเกลื่อนแล้วเอาถุงคุกกี้ซ่อนไว้ทางด้านหลัง ทำเนียนเพราะคิดว่าเขาอาจจะแค่มาป่วนเธอ ไม่น่าจะรู้หรอกมั้งว่าเธอขายคุกกี้
“พอดีว่า...หมอกกดสั่งคุกกี้...แต่ไลน์แมนไม่ว่างหมอกเลยมาเอาแทน...โลกกลมจังเลยเนอะ...สั่งกินมาตลอดสองปีแต่ไม่เคยรู้เลยว่าพี่เป็นคนทำ” ร่างเล็กถึงกับสตั้นในสิ่งที่เขาพูด ในใจก็คิดว่าเขารู้ได้ยังไง รู้ตอนไหน เธอเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาซื้อคุกกี้เธอมาตลอด
เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น...
“แม่งอยู่ชั้นเดียวกัน จะกดสั่งในแอพทำบ้าอะไรวะเนี่ย กูอยู่ตั้งไกล ทำไมไม่เดินไปสั่งกันเอง” ประโยคที่ดังห่างออกไปเรื่อยๆ แต่กลับชัดทั้งประโยค ทำให้สายหมอกถึงกับใจสั่นไหว
และทันทีที่ได้ยินเช่นนั้นหัวใจของเขาก็เต้นเร็วจนผิดจังหวะ หรือแท้ที่จริงแล้วคุกกี้ที่เขาสั่งมาตลอด2ปี จะเป็นร้านของเธอ?
“พะ...พี่ครับ...เดี๋ยวก่อน” สายหมอกรีบวิ่งตามไลน์แมนคนนั้นออกไป ด้วยความร้อนใจ ก่อนที่จะกดสั่งคุกกี้ในแอพย้ำอีกครั้ง
“อะไรคุณ ผมไม่มีเวลามาเล่นตลกกับคุณนะ ผมมีรับออเดอร์อื่นอีก”
“คือผมไม่ได้จะกวนพี่นะครับ...แต่ช่วยรับออเดอร์ให้ผมได้ไหมครับ เดี๋ยวผมให้ค่าเสียเวลาพี่ก็ได้ นะครับ” สายหมอกขอร้อง
“ไอ้น้อง พี่ไม่ทำ...เงินมันซื้อเวลาของพี่ไม่ได้หรอก...ถ้าอยากสั่ง...ก็เดินไปสั่งเอง...ห้องอยู่มุมสุดนู้น” และยิ่งชัดเจน เมื่อไลน์แมนเอ่ยขึ้นมาแบบนั้นพร้อมกับชี้ไปอีกฟากตึก งั้นก็แปลว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขากินฝีมือของเธอมาโดยตลอดเลยเหรอเนี่ย และแล้วหัวใจดวงแกร่งของเขาก็เต้นระรัวขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะหันไปรบเร้าให้พี่ไลน์แมนรับออเดอร์จากเขาอีก
“พี่ ผมให้ห้าพัน ช่วยกดคอนเฟิร์มออเดอร์ให้ผมหน่อยนะ นะพี่นะ...แค่กดคอนเฟิร์ม แล้วพี่ก็กลับไปเลยที่เหลือผมจัดการเอง” สายหมอกขอร้อง จนสุดท้ายไลน์แมนคนนั้นก็จำต้องตกลง
“พี่เห็นว่าน้องขอร้องหรอกนะ ไม่ได้เห็นแก่เงินเลยสักนิด” พูดจบก็กดรับออเดอร์ จากนั้นเขาก็ยื่นเงินจำนวนที่เขาตกลงก่อนหน้านี้ให้ไป แล้วเดินไปที่หน้าห้องของเธอ เพื่อดูให้แน่ใจว่ามันใช่จริงๆ ไหม ทั้งที่ตอนนี้ วินาทีนี้มันก็โคตรที่จะชัดเจนแล้ว
ปัจจุบัน...
“อะ...เอ่อ...งั้น...ก็รีบเอาไปสิ” ร่างเล็กรีบยัดคุกกี้ใส่มือเขา ก่อนที่จะหมุนตัวกลับเข้าห้องและพยายามจะดันประตูปิด
แต่แล้วก็ถูกสายหมอกใช้มือ ดันประตูห้องของเธอเอาไว้เสียก่อน ด้วยแรงของเธอที่มีมันเทียบกับแรงของคนตัวโตไม่ได้เลย สุดท้ายแล้วเธอก็ต้านแรงของเขาเอาไว้ไม่อยู่ พร้อมกับร่างสูงที่เดินเข้ามาในห้องของเธอตามด้วยปิดประตูห้องและล็อกกลอนทันที
“ทำไม หมอกแค่เป็นลูกค้าก็ไม่ได้เลยเหรอชา” ร่างสูงเอ่ยถามเสียงแข็ง แววตาที่เขาจ้องมองมานั้นมันทั้งเจ็บปวด ทั้งไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าเธอจะพยายามหนีเขาไปถึงไหน
“กะ...ก็ได้ของแล้วก็ออกไปสิ...รู้แล้วว่าเป็นพี่มันจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา”
“ก็รอบหน้า หมอกจะได้มาอุดหนุนพี่อีกไง ไม่ต้องห่วงหรอกว่าหมอกจะอยากกลับมา ลืมไปแล้วหรือไงว่าหมอกกำลังจะแต่งงาน ก็แค่ติดใจคุกกี้ ไม่ได้ติดใจอย่างอื่น” คำว่าแต่งงานมันตอกย้ำจนหน้าแทบหงาย ทั้งใจชา ปวดใจจนแทบยืนไม่อยู่ ไม่เข้าใจว่ารู้แล้วจะทำไม แล้วจะมาประชดประชันเธอให้ได้อะไรขึ้นมา ยิ่งฟังคำนั้นจากปากของเขามันก็ยิ่งปวดใจราวกับถูกมีดแหลมๆกระหน่ำแทงเข้ามาที่กลางอกไม่ยั้ง
แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ คุกกี้ที่รันเวย์ให้ก็ไม่น่าจะรู้ เพราะเธอเองเนี่ยแหละที่ตั้งใจทำรสชาติแปลกๆ ไม่ให้เขาจับได้ แม้จะรู้ว่าเธอเป็นแม่ค้าคุกกี้ แต่เรื่องลูกก็หวังว่ามันจะเป็นความลับตลอดไป
“ก็ดีแล้ว...ยินดีด้วยอีกครั้ง...” เธอตอบเสียงเรียบ ดึงหน้านิ่งทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาต่อคำพูดของเขา ที่พยายามประชดเพื่อตอกหน้าเธอ
ปึ้ง!!
“เฮือก!!”
“ใจคอไม่คิดที่จะรู้สึกอะไรเลยหรือไงวะ!!” มือหนา ทุบไปที่ผนังห้องหลังเดินต้อนจนเธอจนมุม นี่น่ะหรือคนที่เคยรัก ไม่รู้สึกหึงหวงเขาบ้างเลยหรือไง ที่ผ่านมา มันมีแค่เขาเหรอที่คิดไปเองฝ่ายเดียว ทำไมเขาจะต้องเป็นคนเดียวที่คิดถึง ทำไมถึงเป็นเขาที่เป็นคนเดียวที่ยังรักและรู้สึกอยู่ โคตรจะใจร้ายเลย
“อย่ามาหงุดหงิดแบบนี้หมอก แล้วก็ออกไปได้แล้ว”รีบเอ่ยปากไล่เพราะกลัวคนของเขาจะมาเห็น
“ถามจริง ตอนคบกัน มีสักเสี้ยวหนึ่งไหมที่พี่รักหมอก” รักสิ รักมากด้วย และไม่เคยเลิกรักเลย แต่จะให้เธอพูดยังไง ในเมื่อเขามีคนใหม่ไปแล้ว พูดให้เขาไปเลิกกับผู้หญิงคนนั้นมาหาเธอเหรอ เธอทำไม่ได้หรอก เธอไม่อาจเห็นแก่ตัวได้ ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้ผิดอะไร แต่เธอนี่แหละที่ผิด ผิดที่เข้ามาอยู่ในสายตาเขาอีกครั้งจนเขาลังเล
หลายวันมานี้ใบชาเตรียมเอกสารเพื่อไปสมัครงานที่สายการบินแห่งใหม่ แต่ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นสายการบินอันดับสองก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น และโชคดีหน่อยที่เธอยังไม่ใช่ตัวตึงในสายการบินเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยนักบินเท่านั้น ตอนลาออก แม้ว่าเขาจะเสียดายเธอ แต่พอฟังเหตุผลเขาก็จำยอมให้เธอออกตามที่ต้องการเธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายพักใหญ่เลย จนกระทั่งวันนี้เธอได้ถูกเรียกตัวไปสัมภาษณ์งาน“แม่คะ ชาจะไปสัมภาษณ์งานแล้ว ขอพรจากแม่หน่อยได้ไหมคะ” ร่างเล็กเดินเข้าไปนั่งตรงหน้าผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่เหนือเธอที่โซฟาไม้สัก พร้อมพนมมือขอพรจากพระในบ้าน“ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี ราบรื่น ไม่ติดขัด ลูกของแม่เก่งอยู่แล้ว แม่เชื่อว่าลูกทำได้” อวยพรพร้อมทั้งยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาวสุดที่รัก จากนั้นใบชาก็ก้มลงกราบไปที่ตักเมื่อได้รับพรที่ศักดิ์จากปากของแม่“ขอบคุณนะคะ...ตอนเย็น...ฝากไปรับรันเวย์หน่อยนะคะแม่...วันนี้ชาอาจจะกลับดึกหน่อยเพราะเดี๋ยวชาจะแวะไปดูคอนโดใหม่ด้วย...”“พี่ชาเอารถของหม่อนไปใช้ก็ได้นะ...วันนี้หม่อนมีนัดกับเพื่อนเดี๋ยวเพื่อนมารั
เช้าวันต่อมา...ใบชารีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปบินตามไฟล์ทในตาราง จัดการจัดเตรียมอาหารเช้า และเอกสารสำหรับการบินเรียบร้อยแล้วก็รีบออกจากห้องไป แต่พอเปิดประตูห้องออกไปกลับเจอสายหมอกยืนพิงผนังรออยู่ที่หน้าห้อง ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก“กินข้าวเช้ายังครับ...” สายหมอกถาม ส่วนเธอก็สอดส่ายสายตามองด้วยความระแวง กลัวว่าคนของเขาจะออกมาเห็นและเข้าใจผิดได้“เอ่อ...เรียบร้อยแล้ว” ตอบเพียงเท่านั้น แล้วเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าของเธอมาถือไว้แทน“มะ...หมอก...ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ถือเอง”“เดี๋ยวหมอกถือให้” ในเมื่อเขาดันทุรังที่จะทำก็จำยอมให้เขาทำไป ก่อนที่จะรีบเดินไปเข้าลิฟต์ เพราะกลัวว่าใครจะเห็นเข้า เธอไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งคนของใครทั้งนั้น แม้จะรักมากแค่ไหน หากเขาเป็นของคนอื่นไปแล้ว เธอก็ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปยุ่ง“หมอกคิดถึงพี่มากเลยนะ พี่หายไปไหนมา พี่ช่วยบอกหมอกได้ไหมครับ” เอ่ยถามเหตุผลหลังจากที่ทั้งคู่เข้ามาอยู่ในลิฟต์“พี่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพิ่งกลับมาได้สองปี”“ที่เลิกกันเพราะไปเรียนต่อเหรอ”“อืม...”“ทำไมไม่บอกหมอกดีๆ ทิ้งไปแบบนั้น หมอกใจหายนะรู้ไหม ติดต่อก็ไม่ไ
แล้วใครบอกกันล่ะว่าที่ผ่านมาเธอไม่รักเขา เธอรักเขาสุดขั้วหัวใจ และยิ่งรู้ว่าเธอมีลูกกับเขา แน่นอนว่ารักนี้ไม่มีวันจาง หรือลดน้อยลงไปเลยสักวัน เจอหน้าลูกทุกวันก็ยิ่งรักมากขึ้น ยิ่งคิดถึงจนแทบขาดใจ แต่คิดถึงแล้วจะให้ทำยังไง ในเมื่อตอนนี้เธอไม่กล้าแม้แต่จะดึงเขากลับมา เธอไม่กล้าเห็นแก่ตัวได้เลย เพราะเธอเป็นคนที่ทิ้งเขาไปเอง“ตอบดิชา แค่ชาพูดว่าชาเองก็ยังรักหมอก แค่นี้เลย” เขายังคงคาดคั้นเธออีกครั้ง ดวงตาแดงก่ำของสายหมอกตอนนี้มันสะท้านความหวังออกมา หวังให้เธอนั้นพูดมันออกมาสักที“...”“พูดดิชา!!!...”ตะโกนใส่หน้าเธอจนเธอสะดุ้ง“แล้วหมอกล่ะ...ถ้าหมอกพูด...พี่ก็พูด”“รักสิ ไม่รักหมอกจะเป็นบ้าแบบนี้เหรอ”หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเร็วขึ้นมา ดีใจที่ตอนนี้เขายังมีความรู้สึกนั้นกับเธอ แต่พอจะดีใจมันก็มีหน้าแฟนเขาผุดขึ้นมาหลอกหลอนเธอและทำให้เธอต้องเก็บความรู้สึกที่มีเอาไว้ภายในใจ พร้อมกับย้ำตัวเองในใจว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ควร เธอไม่ควรไปบอกรักแฟนชาวบ้านแบบนี้“แฟนหมอกรู้ไหม ว่าหมอกมาตามราวีแฟนเก่าแบบนี้”“ตอนนี้มีแค่เราสองคน จะไปพูดถึงคนอื่นทำไม”“แต่คนอื่นที่หมอกพูดถึง คือคนที่หมอกจะแต่งงานด้วย หมอกควรจ
หลังจากที่คายคุกกี้ทิ้งก็รู้สึกอยากจะกินคุกกี้เจ้าประจำขึ้นมา จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทักแชทหาน้องสาว หวังให้ประกายดาวสั่งให้สายหมอก : น้องดาวครับประกายดาว : คะเฮีย?สายหมอก : หนูช่วยสั่งคุกกี้ให้เฮียหน่อยได้ไหมครับประกายดาว : วันนี้ดาวไม่ว่างเลยเฮีย เดี๋ยวดาวให้ช่องทางติดต่อแล้วเฮีย สั่งเองได้ไหมคะสายหมอก : ได้ครับประกายดาว : ส่งข้อมูลการติดต่อสายหมอก : ขอบคุณครับเมื่อได้ช่องทางการติดต่อเขาก็ไม่รีรอรีบกดติดตามเพจ ตามด้วยทักข้อความส่วนตัวไปด้านใบชาติ้ง!!สายหมอก : สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าวันนี้เปิดรับออเดอร์ไหมครับเสียงข้อความในโทรศัพท์มือถือของใบชาดังขึ้น ดึงความสนใจแก่ร่างเล็กที่กำลังดูทีวีอยู่เพลินๆ ทว่าเมื่อหยิบเครื่องสี่เหลี่ยมขึ้นมาอ่านก็แทบช็อก เพราะข้อความที่ทักมานั้นดันเป็นสายหมอก พร้อมกับภายในใจที่คิดไปกันใหญ่ว่า หรือว่าเขาจะรู้ว่าเธอขายคุกกี้“หรือรันเวย์จะให้คุกกี้ไปผิดกล่อง?” วิเคราะห์กับตัวเอง ด้วยหัวใจที่สั่นระรัว และไม่รู้ว่าควรจะรับอ
“สนุกไหมครับรันเวย์” ใบชาเอ่ยถามลูกชาย หลังจากออกมาจากโรงภาพยนตร์“สนุกมากครับมี๊...เวย์อยากอยู่กับมี๊ทุกวันเลย...ไม่อยากกลับเลย” ว่าแล้วก็งอแงอ้อนแม่เสียหน่อย“งั้นก็ต้องกลับไปตั้งใจเรียน ปิดเทอมค่อยมาอยู่ด้วยกันโอเคไหมครับ” ย่อตัวลงตรงหน้าลูกชาย แล้วใช้สองมือประคองใบหน้าเขา ตามด้วยเอ่ยบอกด้วยความเอ็นดู“หม่ามี๊ครับ...เราไม่ย้ายคอนโดได้ไหมครับ”“ทำไมครับ?”“เวย์อยากเจอคุณลุง เวย์อยากเจอพี่ชาย”“เวย์ครับ...มี๊เคยบอกใช่ไหมครับว่าเราไม่ควรไว้ใจคนแปลกหน้า...ต่อให้เขาดีแค่ไหน...ก็ไม่ควรอยู่ใกล้...บางคนอาจจะไม่ได้หวังดีกับเราก็ได้นะครับ” ที่เธอพูดเธอไม่ได้จะบอกว่าสายหมอกไม่ดี แต่เธอแค่กลัวว่าลูกชายจะไว้ใจคนอื่นง่ายเกินไป การที่เขาเป็นแบบนี้ มันเป็นภัยต่อตัวเขาเอง หากคนที่เข้าหาไม่ใช่สายหมอกแต่เป็นคนอื่น ทำท่าทีใจดีแบบนี้กับเขา แล้วจับตัวไปจะทำยังไง ใจของเธอจะไม่ขาดหรอกเหรอ“แต่คุณลุง...เป็นคนดีนะครับ...คุณลุงใจดีกับเวย์มากๆ เลย”“แต่คนอื่นที่ไม่ใช่คุณลุงล่ะครับ ถ้าเขามีหมา มีแมว เวย์ก็จะมองว่าเขาใจดีทุกคนแบบนี้เหรอ”รู้แหละว่าลูกชายรักสัตว์ แต่การที่คนอื่นเอาสิ่งที่ชอบมาล่อมันก็เข้าตาโจรพอด
“มี๊ครับ มี๊ทำไมหน้าซีดๆ ไม่สบายหรือเปล่าครับ” รันเวย์ยืนขึ้นแล้วใช้หลังมืออังไปที่หน้าผากใบชา“มี๊ไม่เป็นอะไรครับ...เอ่อ...งั้นเดี๋ยวมี๊ไปเปิดน้ำอุ่นให้แช่นะครับ วันนี้จะเอาฟองสีอะไร” ว่าแล้วก็เอ่ยถามลูกชาย เพราะปกติเขาจะชอบใช้บาธบอมม์ สบู่อโรม่าฟองฟู่ในอ่างทุกครั้งเวลาแช่น้ำ“สีฟ้าครับมี๊”“โอเคครับ เดี๋ยวมี๊ไปเตรียมให้นะ” พูดจบก็เดินไปเตรียมน้ำให้ลูกชาย พอเตรียมเสร็จ เธอก็ปล่อยให้รันเวย์เล่นน้ำไป ส่วนเธอก็ออกไปซื้อของมาทำมื้อเย็นให้เขาด้วยเพราะเธอหยุดหลายวัน และรันเวย์ก็จะได้นอนกับเธอสองคืน เธอจึงมีการเตรียมกิจกรรมต่างๆ ไว้ทำกับลูกชาย บวกกับต้องเจียดเวลาทำคุกกี้อีก จะหักโหมมากก็ไม่ได้ เพราะการเป็นนักบิน การนอนต้องเพียงพอ“รันเวย์ครับ...เล่นพอหรือยังครับ...ข้าวผัดปูเสร็จแล้วน้า”“โอเคครับมี๊...มี๊ช่วยมาถูหลังให้เวย์หน่อยได้ไหมครับ”เมื่อเห็นว่าลูกเล่นจนพอใจแล้ว เธอก็ไปอาบน้ำล้างตัวให้ลูกเป็นขั้นตอนสุดท้าย แล้วเตรียมตัวกินข้าวต่อ แต่สักพักก็จามถี่ๆ ด้วยเพราะแช่น้ำนาน บวกกับอากาศในห้องค่อนข้างที่จะเย็น เลยมักจะเป็นหวัดแบบนี้อยู่บ่อยๆ หลังอาบน้ำ พอเห็นรันเวย์เป็นแบบนี้ก็อดคิดถึงสายหมอ







