LOGINหลายวันต่อมา...
หลังจากวันที่รันเวย์ได้เห็นรูปถ่ายความสงสัยของเด็กน้อยก็ไม่ได้จางหายไป แต่ยายและแม่นี่สิ ไม่คิดที่จะบอกความจริงเขาเลย และเขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ว่าในขณะที่ผู้ใหญ่ทั้งคู่คุยกันอยู่ ความจริงทั้งหมดได้เข้าหูเด็กน้อยอย่างรันเวย์
เขาไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังที่ผู้ใหญ่คุยกัน แต่เพราะกลางดึกเขาบังเอิญปวดฉี่และต้องการจะเข้าห้องน้ำพอดี ทำให้เขารู้ว่าผู้ชายที่เขาเรียกว่าคุณลุง แท้จริงแล้วคือพ่อของเขา แต่เพราะเป็นเด็กที่ฉลาด ในเมื่อแม่และยายไม่อยากให้รู้ เขาเองก็ต้องเก็บความลับเอาไว้ ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไป
@ทริปเปิ้ลทรีคอนโดมิเนียม
“หม่ามี๊ครับ...นี่คอนโดใหม่ของหม่ามี๊เหรอครับ” รันเวย์เอ่ยถาม พร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆ คอนโดหรูที่ใหม่ที่แม่พาย้ายมา
“ใช่ครับ รันเวย์ชอบไหม”
“ชอบครับ...มีอ่างอาบน้ำใหญ่กว่าที่เก่าอีก”
“งั้น...รันเวย์อยากไปแช่น้ำในอ่างไหมครับ ถ้าอยากเดี๋ยวมี๊จะไปเตรียมน้ำให้”
“แล้วไม่ให้เวย์ช่วยจัดห้องเหรอครับ”
“ไม่เป็นไรครับ...เดี๋ยวมี๊จัดการเอง...มีของแค่นิดเดียวเดี๋ยวมี๊จัดเสร็จมี๊จะเตรียมอาหารรอ”
“จะได้กินข้าวผัดปูไหมครับ?” เด็กน้อยเอ่ยถามด้วยแววตาแห่งความหวัง
“แน่นอนครับ มี๊แถมปีกไก่ทอดน้ำปลาให้ด้วยดีไหม”
“เย่ๆ หม่ามี๊ใจดีที่สุดเลย...”
ด้านสายหมอก...
เกือบสองอาทิตย์ที่เขายังคงติดต่อใบชาไม่ได้ แถมในห้องเดิมที่เธออยู่ตอนนี้ก็มีคนใหม่เข้ามาอยู่แทน แถมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอแอบมาเอาของไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งที่ก็จับตาดูแล้ว ทำไมถึงยังพลาดได้
และในเมื่อไม่เจอ แล้วเธอก็ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว เขาก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องอยู่ห้องของน้องสาวอีกต่อไป จึงตัดสินใจขนของของตัวเองและเจ้าแมวอ้วนกลับคอนโดเก่าของตัวเอง พร้อมกับหัวใจที่ว้าวุ่น และกระวนกระวายใจ
ด้านใบชา...
“เดี๋ยวทานเสร็จแล้วหม่ามี๊ขอทำงานแป๊บหนึ่งนะครับ น้องเวย์ห้ามเสียงดังนะ เสร็จแล้วเดี๋ยวมี๊พาลงไปเล่นโซนเด็กเล่นด้านล่าง”
“หม่ามี๊ครับ...เวย์ไปเองได้ครับ...หม่ามี๊ทำงานเลย”
“ไม่ได้ครับ...เดี๋ยวมี๊จะเป็นคนพาไปเอง...มี๊กลัวรันเวย์หลง”
“เวย์ไม่หลงครับ มี๊ทำงานเลยครับเวย์ไปเองได้”
“งั้น...เดี๋ยวมี๊ไปส่งเวย์ที่โซนเครื่องเล่น แล้วมี๊จะขึ้นมาทำงานต่อ”
“ไม่เป็นไรครับ...นี่ไง...น้าหม่อนมาพอดี...เดี๋ยวเวย์ไปกับน้าหม่อนก็ได้ครับ” ด้วยเพราะไม่อยากที่จะรบกวนเพราะเห็นว่าผู้เป็นแม่ยุ่งมาก ต้องเตรียมเอกสารเพื่อไปสัมภาษณ์งานที่ใหม่อีก จึงเอ่ยชวนให้ใบหม่อนเป็นคนพาไปเอง
“ไปสิเจ้าแสบ พี่ชาเดี๋ยวหม่อนพาหลานไปเอง พี่ทำงานเถอะ เดี๋ยวให้เล่นสักพักเดี๋ยวหม่อนพามาส่ง”
“อืม...เอางั้นก็ได้...อย่าพากันไปไหนไกลนะ” เอ่ยบอกน้องชาย และไม่วายหันไปสั่งลูกชายอีกคน
กว่าที่เธอจะตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่นี่เธอก็ดูองค์รวมหลายๆ อย่าง ที่นี่ใกล้ที่ทำงานใหม่ และห่างไกลจากคอนโดเดิมมากๆ แถมมีโซนเด็กเล่น ซึ่งเธอคิดว่าถ้ารันเวย์มาหาเธอบ่อยๆ ก็น่าจะชอบด้วย แถมยังมีความปลอดภัยที่สูงมากๆ ด้วย ใกล้สถานที่สำคัญอย่างสถานีรถไฟฟ้า โรงพยาบาลเอกชนดัง แถมใกล้ๆ ก็ยังมีห้างสรรพสินค้าด้วย เดินไปเองก็ยังได้ ถือว่าสะดวกมากๆ แม้จะแพงกว่าที่เดิมหน่อย แต่ในสถานะตอนนี้ที่เธอยังไม่มีรถใช้ คิดว่าอยู่ที่นี่ก็เหมาะกับเธอที่สุดแล้ว
โซนเด็กเล็กใต้คอนโด...
“น้าหม่อนครับ...เวย์เล่นเหนื่อยแล้ว แต่ยังไม่อยากขึ้นห้องเลย เวย์กลัวมี๊จะยังทำงานไม่เสร็จ...น้าหม่อนช่วยไปซื้อน้ำหวานให้เวย์หน่อยได้ไหมครับ”
“ได้ครับ...งั้นรอที่โซนนี้นะ...ห้ามไปไหน...เดี๋ยวน้ามา” ว่าแล้วใบหม่อนก็รีบเดินไปที่มินิมาร์ทใต้คอนโดที่อยู่ห่างจากโซนเด็ก แต่ไม่มากนัก เพื่อไปซื้อขนมและน้ำให้หลาน
และจังหวะที่รันเวย์กำลังเล่นเพลินๆ อยู่นั้น เด็กน้อยตาไวก็ดันเหลือบไปเห็นสายหมอกที่เดินอุ้มแมวพร้อมกับสัมภาระกระเป๋าเข้ามาด้วย และด้วยความดีใจ ไม่รู้ว่าเพราะเรื่องบังเอิญหรือเปล่า จึงรีบวิ่งออกจากโซนเด็กไปหาสายหมอกทันที
“คุณลุงครับ...” เสียงเด็กน้อยตะโกนมาแต่ไกล ดึงความสนใจแก่ชายหนุ่มร่างสูงให้หันไปสนใจอยู่ไม่น้อย
“เอ้า...เจ้าเด็กน้อย...มาทำอะไรที่นี่...” หัวใจที่ขุ่นมัวในตอนแรกพลันสว่างสดใสขึ้นมาหน่อย เมื่อเห็นรอยยิ้มและความสดใสของเด็กคนนั้น
“เอ่อ...คุณลุงมาทำอะไรที่นี่ครับ...”
“ที่นี่คือคอนโดลุง...ลุงย้ายกลับมาอยู่คอนโดเดิมน่ะ...อยากเล่นกับพี่ชายไหม” ตอบเสร็จก็เอ่ยถามเพราะคิดว่าเขาคงอยากเล่นกับนมสด บวกกับท่าทีของนมสดเองก็ดูเหมือนอยากจะดิ้นออกมาจากกระเป๋าอวกาศเต็มทนแล้วเช่นกัน
“อยากครับ...งื้อ...คิดถึงพี่ชายที่สุดเลย...และเวย์ก็คิดถึงคุณลุงเหมือนกันนะครับ...” ไม่พูดเปล่าแต่กลับโผลเข้าไปกอดสายหมอกด้วย
สร้างความประหลาดใจแก่สายหมอกอยู่ไม่น้อยเลย พร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ ที่มันผุดขึ้นมาในหัวใจ ความรู้สึกเหมือนว่าได้กอดใครสักคนที่เขาผูกพัน ความอบอุ่นนี่มันคืออะไรกันสายหมอกตั้งคำถามกับตัวเองในใจ มันรู้สึกดีมากๆ จนแทบจะลืมความทุกข์ที่ก่อกวนอยู่ในใจไปเสียทุกสิ่ง หรือเด็กนี่จะมีพลังฮีลใจเขาเหรอ เขาคิดในใจ
“คุณลุงคิดถึงเวย์ไหมครับ”
“คิดถึงสิ..ไม่เจอกันตั้งนาน...ว่าแต่...ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่...พ่อแม่ไปไหน”
“มี๊ทำงานครับอยู่ด้านบน...”
“มี๊ทำงานอยู่ที่นี่เหรอ?...”
“ครับทำงานอยู่ที่นี่ ต่อไปก็อาจจะมาที่นี่บ่อยๆ แล้ว” ความหมายของรันเวย์และสิ่งที่เขาถาม มันไม่ได้ตรงกันแต่อย่างใด สายหมอกคิดว่าแม่ของเด็กนี่คงมาทำงานเป็นพนักงานสักตำแหน่งในคอนโดนี้แน่ๆ แต่ในความคิดของรันเวย์คือแม่นั่งทำงานอยู่ที่ห้องของตัวเองต่างหาก
“แต่ลุงไม่ค่อยอยู่ห้องน่ะสิ ลุงต้องไปเรียนแล้วก็ไปทำงานด้วย”
“คุณลุงขยันจังเลย...”
“ลุงไม่ชอบให้ตัวเองอยู่ว่างๆ ลุงไม่อยากคิดถึงใครบางคน”
“คิดถึง...ทำไมไม่ไปหาครับ”
“ไปหาไม่ได้ เพราะลุงไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน”
หมับ!
“โอ๋ๆ นะ...รันเวย์ก็คิดถึงพ่อเหมือนกัน...”
“...ห๊ะ?”
“อะ...เอ่อ...เวย์หมายถึง...เวย์ก็ไม่ได้อยู่กับพ่อครับ...”
“อ้าว...แล้วพ่อไปไหน...”
“พ่อกับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกันครับ...เวย์อยู่แค่กับแม่...”
“โธ่...เจ้าเด็กน้อย...ไม่เป็นไรนะ...” ไม่รู้ว่าใครต้องปลอบใคร เธอเขาเองก็รับรู้ได้ถึงแววตาที่แสนคิดถึงของรันเวย์ที่สื่อออกมา
“แต่แม่ของเวย์เก่งมากๆ เลยนะครับ...เลี้ยงเวย์มาคนเดียว...”
“แบบนี้จะมีภาพจำแย่ๆ เกี่ยวกับพ่อไหมเนี่ย” เขาอุทานเบาๆ เพราะกลัวว่าเด็กน้อยจะมีปม
“ไม่ครับ...มี๊เคยบอกว่าพ่อเวย์หล่อมากเลย...หล่อแบบคุณลุง...คุณลุงหน้าคล้ายพ่อเวย์เลย...คุณลุงช่วยมาเป็นพ่อของเวย์ได้ไหมครับ”
“หืม...ไม่ได้หรอก...ลุงจะไปเป็นพ่อให้เวย์ได้ยังไง...ของแบบนี้เป็นให้กันง่ายๆ ไม่ได้นะ...อีกอย่างลุงมีคนในใจอยู่แล้ว”
“ว้า...แย่จัง...” ทำหน้าเศร้าๆ เล็กน้อยเสียจนสายหมอกอดเอ็นดูไม่ได้ “แต่แม่ของเวย์...สวยมากเลยนะ...”
“สวยแค่ไหน...ไหนเอามาดูสิ” ในเมื่ออวดมาขนาดนี้ก็อดอยากรู้ไม่ได้ อยากจะรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงแบบไหนกันที่เลี้ยงลูกได้น่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้ ทั้งที่เลี้ยงมาคนเดียว แต่กลับเติบโตมาฉลาดขนาดนี้เลยเหรอ เขาคิดในใจ
"รันเวย์!!"บทสนทนาของทั้งคู่สะดุดลง เมื่อได้ยินเสียงเรียกด้วยความตกใจของใครบางคน
หลายวันต่อมา...หลังจากวันที่รันเวย์ได้เห็นรูปถ่ายความสงสัยของเด็กน้อยก็ไม่ได้จางหายไป แต่ยายและแม่นี่สิ ไม่คิดที่จะบอกความจริงเขาเลย และเขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ว่าในขณะที่ผู้ใหญ่ทั้งคู่คุยกันอยู่ ความจริงทั้งหมดได้เข้าหูเด็กน้อยอย่างรันเวย์เขาไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังที่ผู้ใหญ่คุยกัน แต่เพราะกลางดึกเขาบังเอิญปวดฉี่และต้องการจะเข้าห้องน้ำพอดี ทำให้เขารู้ว่าผู้ชายที่เขาเรียกว่าคุณลุง แท้จริงแล้วคือพ่อของเขา แต่เพราะเป็นเด็กที่ฉลาด ในเมื่อแม่และยายไม่อยากให้รู้ เขาเองก็ต้องเก็บความลับเอาไว้ ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไป@ทริปเปิ้ลทรีคอนโดมิเนียม“หม่ามี๊ครับ...นี่คอนโดใหม่ของหม่ามี๊เหรอครับ” รันเวย์เอ่ยถาม พร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบๆ คอนโดหรูที่ใหม่ที่แม่พาย้ายมา“ใช่ครับ รันเวย์ชอบไหม”“ชอบครับ...มีอ่างอาบน้ำใหญ่กว่าที่เก่าอีก”“งั้น...รันเวย์อยากไปแช่น้ำในอ่างไหมครับ ถ้าอยากเดี๋ยวมี๊จะไปเตรียมน้ำให้”“แล้วไม่ให้เวย์ช่วยจัดห้องเหรอครับ”“ไม่เป็นไรครับ...เดี๋ยวมี๊จัดการเอง...มีของแค่นิดเดียวเดี๋ยวมี๊จัดเสร็จมี๊จะเตรียมอาหารรอ”“จะได้กินข้าวผัดปูไหมครับ?” เด็กน้อยเอ่ยถามด้วยแววตาแห่งความหวัง“แน่นอนคร
หลายวันมานี้ใบชาเตรียมเอกสารเพื่อไปสมัครงานที่สายการบินแห่งใหม่ แต่ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นสายการบินอันดับสองก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น และโชคดีหน่อยที่เธอยังไม่ใช่ตัวตึงในสายการบินเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยนักบินเท่านั้น ตอนลาออก แม้ว่าเขาจะเสียดายเธอ แต่พอฟังเหตุผลเขาก็จำยอมให้เธอออกตามที่ต้องการเธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายพักใหญ่เลย จนกระทั่งวันนี้เธอได้ถูกเรียกตัวไปสัมภาษณ์งาน“แม่คะ ชาจะไปสัมภาษณ์งานแล้ว ขอพรจากแม่หน่อยได้ไหมคะ” ร่างเล็กเดินเข้าไปนั่งตรงหน้าผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่เหนือเธอที่โซฟาไม้สัก พร้อมพนมมือขอพรจากพระในบ้าน“ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี ราบรื่น ไม่ติดขัด ลูกของแม่เก่งอยู่แล้ว แม่เชื่อว่าลูกทำได้” อวยพรพร้อมทั้งยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาวสุดที่รัก จากนั้นใบชาก็ก้มลงกราบไปที่ตักเมื่อได้รับพรที่ศักดิ์จากปากของแม่“ขอบคุณนะคะ...ตอนเย็น...ฝากไปรับรันเวย์หน่อยนะคะแม่...วันนี้ชาอาจจะกลับดึกหน่อยเพราะเดี๋ยวชาจะแวะไปดูคอนโดใหม่ด้วย...”“พี่ชาเอารถของหม่อนไปใช้ก็ได้นะ...วันนี้หม่อนมีนัดกับเพื่อนเดี๋ยวเพื่อนมารั
เช้าวันต่อมา...ใบชารีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปบินตามไฟล์ทในตาราง จัดการจัดเตรียมอาหารเช้า และเอกสารสำหรับการบินเรียบร้อยแล้วก็รีบออกจากห้องไป แต่พอเปิดประตูห้องออกไปกลับเจอสายหมอกยืนพิงผนังรออยู่ที่หน้าห้อง ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก“กินข้าวเช้ายังครับ...” สายหมอกถาม ส่วนเธอก็สอดส่ายสายตามองด้วยความระแวง กลัวว่าคนของเขาจะออกมาเห็นและเข้าใจผิดได้“เอ่อ...เรียบร้อยแล้ว” ตอบเพียงเท่านั้น แล้วเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าของเธอมาถือไว้แทน“มะ...หมอก...ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ถือเอง”“เดี๋ยวหมอกถือให้” ในเมื่อเขาดันทุรังที่จะทำก็จำยอมให้เขาทำไป ก่อนที่จะรีบเดินไปเข้าลิฟต์ เพราะกลัวว่าใครจะเห็นเข้า เธอไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งคนของใครทั้งนั้น แม้จะรักมากแค่ไหน หากเขาเป็นของคนอื่นไปแล้ว เธอก็ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปยุ่ง“หมอกคิดถึงพี่มากเลยนะ พี่หายไปไหนมา พี่ช่วยบอกหมอกได้ไหมครับ” เอ่ยถามเหตุผลหลังจากที่ทั้งคู่เข้ามาอยู่ในลิฟต์“พี่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพิ่งกลับมาได้สองปี”“ที่เลิกกันเพราะไปเรียนต่อเหรอ”“อืม...”“ทำไมไม่บอกหมอกดีๆ ทิ้งไปแบบนั้น หมอกใจหายนะรู้ไหม ติดต่อก็ไม่ไ
แล้วใครบอกกันล่ะว่าที่ผ่านมาเธอไม่รักเขา เธอรักเขาสุดขั้วหัวใจ และยิ่งรู้ว่าเธอมีลูกกับเขา แน่นอนว่ารักนี้ไม่มีวันจาง หรือลดน้อยลงไปเลยสักวัน เจอหน้าลูกทุกวันก็ยิ่งรักมากขึ้น ยิ่งคิดถึงจนแทบขาดใจ แต่คิดถึงแล้วจะให้ทำยังไง ในเมื่อตอนนี้เธอไม่กล้าแม้แต่จะดึงเขากลับมา เธอไม่กล้าเห็นแก่ตัวได้เลย เพราะเธอเป็นคนที่ทิ้งเขาไปเอง“ตอบดิชา แค่ชาพูดว่าชาเองก็ยังรักหมอก แค่นี้เลย” เขายังคงคาดคั้นเธออีกครั้ง ดวงตาแดงก่ำของสายหมอกตอนนี้มันสะท้านความหวังออกมา หวังให้เธอนั้นพูดมันออกมาสักที“...”“พูดดิชา!!!...”ตะโกนใส่หน้าเธอจนเธอสะดุ้ง“แล้วหมอกล่ะ...ถ้าหมอกพูด...พี่ก็พูด”“รักสิ ไม่รักหมอกจะเป็นบ้าแบบนี้เหรอ”หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเร็วขึ้นมา ดีใจที่ตอนนี้เขายังมีความรู้สึกนั้นกับเธอ แต่พอจะดีใจมันก็มีหน้าแฟนเขาผุดขึ้นมาหลอกหลอนเธอและทำให้เธอต้องเก็บความรู้สึกที่มีเอาไว้ภายในใจ พร้อมกับย้ำตัวเองในใจว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ควร เธอไม่ควรไปบอกรักแฟนชาวบ้านแบบนี้“แฟนหมอกรู้ไหม ว่าหมอกมาตามราวีแฟนเก่าแบบนี้”“ตอนนี้มีแค่เราสองคน จะไปพูดถึงคนอื่นทำไม”“แต่คนอื่นที่หมอกพูดถึง คือคนที่หมอกจะแต่งงานด้วย หมอกควรจ
หลังจากที่คายคุกกี้ทิ้งก็รู้สึกอยากจะกินคุกกี้เจ้าประจำขึ้นมา จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทักแชทหาน้องสาว หวังให้ประกายดาวสั่งให้สายหมอก : น้องดาวครับประกายดาว : คะเฮีย?สายหมอก : หนูช่วยสั่งคุกกี้ให้เฮียหน่อยได้ไหมครับประกายดาว : วันนี้ดาวไม่ว่างเลยเฮีย เดี๋ยวดาวให้ช่องทางติดต่อแล้วเฮีย สั่งเองได้ไหมคะสายหมอก : ได้ครับประกายดาว : ส่งข้อมูลการติดต่อสายหมอก : ขอบคุณครับเมื่อได้ช่องทางการติดต่อเขาก็ไม่รีรอรีบกดติดตามเพจ ตามด้วยทักข้อความส่วนตัวไปด้านใบชาติ้ง!!สายหมอก : สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าวันนี้เปิดรับออเดอร์ไหมครับเสียงข้อความในโทรศัพท์มือถือของใบชาดังขึ้น ดึงความสนใจแก่ร่างเล็กที่กำลังดูทีวีอยู่เพลินๆ ทว่าเมื่อหยิบเครื่องสี่เหลี่ยมขึ้นมาอ่านก็แทบช็อก เพราะข้อความที่ทักมานั้นดันเป็นสายหมอก พร้อมกับภายในใจที่คิดไปกันใหญ่ว่า หรือว่าเขาจะรู้ว่าเธอขายคุกกี้“หรือรันเวย์จะให้คุกกี้ไปผิดกล่อง?” วิเคราะห์กับตัวเอง ด้วยหัวใจที่สั่นระรัว และไม่รู้ว่าควรจะรับอ
“สนุกไหมครับรันเวย์” ใบชาเอ่ยถามลูกชาย หลังจากออกมาจากโรงภาพยนตร์“สนุกมากครับมี๊...เวย์อยากอยู่กับมี๊ทุกวันเลย...ไม่อยากกลับเลย” ว่าแล้วก็งอแงอ้อนแม่เสียหน่อย“งั้นก็ต้องกลับไปตั้งใจเรียน ปิดเทอมค่อยมาอยู่ด้วยกันโอเคไหมครับ” ย่อตัวลงตรงหน้าลูกชาย แล้วใช้สองมือประคองใบหน้าเขา ตามด้วยเอ่ยบอกด้วยความเอ็นดู“หม่ามี๊ครับ...เราไม่ย้ายคอนโดได้ไหมครับ”“ทำไมครับ?”“เวย์อยากเจอคุณลุง เวย์อยากเจอพี่ชาย”“เวย์ครับ...มี๊เคยบอกใช่ไหมครับว่าเราไม่ควรไว้ใจคนแปลกหน้า...ต่อให้เขาดีแค่ไหน...ก็ไม่ควรอยู่ใกล้...บางคนอาจจะไม่ได้หวังดีกับเราก็ได้นะครับ” ที่เธอพูดเธอไม่ได้จะบอกว่าสายหมอกไม่ดี แต่เธอแค่กลัวว่าลูกชายจะไว้ใจคนอื่นง่ายเกินไป การที่เขาเป็นแบบนี้ มันเป็นภัยต่อตัวเขาเอง หากคนที่เข้าหาไม่ใช่สายหมอกแต่เป็นคนอื่น ทำท่าทีใจดีแบบนี้กับเขา แล้วจับตัวไปจะทำยังไง ใจของเธอจะไม่ขาดหรอกเหรอ“แต่คุณลุง...เป็นคนดีนะครับ...คุณลุงใจดีกับเวย์มากๆ เลย”“แต่คนอื่นที่ไม่ใช่คุณลุงล่ะครับ ถ้าเขามีหมา มีแมว เวย์ก็จะมองว่าเขาใจดีทุกคนแบบนี้เหรอ”รู้แหละว่าลูกชายรักสัตว์ แต่การที่คนอื่นเอาสิ่งที่ชอบมาล่อมันก็เข้าตาโจรพอด







