LOGINหลายวันมานี้ใบชาเตรียมเอกสารเพื่อไปสมัครงานที่สายการบินแห่งใหม่ แต่ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นสายการบินอันดับสองก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น และโชคดีหน่อย ที่เธอยังไม่ใช่ตัวตึงในสายการบินเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยนักบินเท่านั้น ตอนลาออก แม้ว่าเขาจะเสียดายเธอ แต่พอฟังเหตุผลเขาก็จำยอมให้เธอออกตามที่ต้องการ
เธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายพักใหญ่เลย จนกระทั่งวันนี้เธอได้ถูกเรียกตัวไปสัมภาษณ์งาน
“แม่คะ ชาจะไปสัมภาษณ์งานแล้ว ขอพรจากแม่หน่อยได้ไหมคะ” ร่างเล็กเดินเข้าไปนั่งตรงหน้าผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่เหนือเธอที่โซฟาไม้สัก พร้อมพนมมือขอพรจากพระในบ้าน
“ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี ราบรื่น ไม่ติดขัด ลูกของแม่เก่งอยู่แล้ว แม่เชื่อว่าลูกทำได้” อวยพรพร้อมทั้งยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาวสุดที่รัก จากนั้นใบชาก็ก้มลงกราบไปที่ตักเมื่อได้รับพรที่ศักดิ์จากปากของแม่
“ขอบคุณนะคะ...ตอนเย็น...ฝากไปรับรันเวย์หน่อยนะคะแม่...วันนี้ชาอาจจะกลับดึกหน่อยเพราะเดี๋ยวชาจะแวะไปดูคอนโดใหม่ด้วย...”
“พี่ชาเอารถของหม่อนไปใช้ก็ได้นะ...วันนี้หม่อนมีนัดกับเพื่อนเดี๋ยวเพื่อนมารับ” ใบหม่อนเสนอ ซึ่งใบชาก็เห็นด้วย จริงๆ รถยนต์คันนี้เธอตั้งใจซื้อให้น้องชาย เป็นรถยนต์คันเดียวในบ้าน ไม่ได้ราคาแพงมาก เป็นรถอีโคคาร์ทั่วๆ ไป
“ขอบใจนะ...งั้นพี่ไปก่อนนะเดี๋ยวจะสาย...แม่คะ อย่าลืมไปรับเจ้าเวย์นะคะ”
“อื้มไปเถอะ เดี๋ยวแม่ไปรับเอง”
15.30น.
นาฬิกาดังเตือนบอกสัญญาณว่าเป็นเวลาที่ต้องไปรับหลานชายแล้ว ใบบัวจึงรีบขับมอเตอร์ไซค์ไปรับหลานชายด้วยตัวเอง พอรับเสร็จก็แวะร้านค้าเพื่อซื้อขนม และร้านของสด เพื่อเตรียมทำมื้อเย็นให้หลานรักด้วยเลย
“เวย์ครับ...วันนี้อยากกินอะไรครับ”
“เวย์อยากกินข้าวผัดปูครับ...แต่อยากกินฝีมือมี๊”
“ติดใจรสมือแม่ ยายก็ทำอร่อยเหมือนกันน้า...ไม่ให้ยายทำให้เหรอ”
“งั้นเวย์กินแค่ไก่ทอดก็ได้ครับ แต่ขอเป็นปีกไก่ได้ไหมครับ” เมื่อไม่มีใครแทนที่แม่ได้ จึงเสนอเป็นเมนูอื่นแทน
“โอเคครับ งั้นเย็นนี้กินปีกไก่ทอดน้ำปลา...”
และจากนั้นยายกับหลานก็ซื้อของกันเสร็จ แล้วรีบขับรถกลับบ้านกัน ในระหว่างที่ใบบัวกำลังทำมื้อเย็นเพื่อจัดเตรียมให้หลานชาย รันเวย์ก็นั่งทำการบ้านของตัวเองรอ แต่อยู่ๆ ดินสอของเขาก็หัก ด้วยเพราะไม่อยากที่จะรบกวนคุณยายที่กำลังยุ่งอยู่นั้น จึงคิดหาวิธีแก้ปัญหาเอง
เดินเข้าไปในห้องของใบชา และรื้อเพื่อหาดินสอแท่งใหม่ เพราะเธอเคยเก็บเอาไว้ในลิ้นชัก ทว่าในจังหวะที่มือเล็กๆ กำลังค้นลิ้นชักข้างหัวเตียง อยู่ๆ สายตาของเขาก็ไปสะดุดเข้ากับสมุดไดอารี่ของใบชาที่เป็นรูปการ์ตูนที่เขาชอบ
ความน่ารักของปกดึงดูดให้เด็กน้อยเปิดดู เผื่อว่าจะได้ขอแม่เอามาไว้วาดรูปเล่น แต่พอเปิดเข้าไปด้านในกลับเจอรูปของใบชาและผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาแนบอยู่ในนั้น คิ้วเรียวเล็กขมวดมุ่น ไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ของตนถึงได้ไปถ่ายรูปคู่กับคุณลุงคนนั้น
ความสงสัยของเด็กน้อยมันแล่นเข้ามา ความอยากรู้อยากเห็นระคนดีใจที่ทั้งคู่รู้จักกัน จึงหยิบรูปถ่ายใบนั้นวิ่งออกจากห้องไปและไปถามคุณยาย จากในตอนแรกคิดว่าจะเป็นการรบกวน แต่ด้วยความอยากรู้ของเขามันมีมากกว่า จึงจำต้องถามออกไป
“คุณยายครับ...คุณยาย...”
“ครับลูก...” หญิงสูงวัยละสายตาจากกระทะทอดไก่หันมามองหลานชายตัวน้อยด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“ทำไมมี๊ ถึงได้ถ่ายรูปคู่กับคุณลุงครับ”
ใบบัวหรี่ไฟในเตาลง แล้วรีบเดินเข้ามาหยิบรูปที่เด็กน้อยนั้นส่งให้ตนขึ้นมาดู ก็ต้องตกใจ หรือว่านี่...จะเป็นพ่อของรันเวย์นะ เธอคิดในใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะคอนเฟิร์มหลานชาย แต่พอมาเทียบดูรูปนี้ กับหลานเธอ เอาเข้าจริงๆ ก็เดาได้ไม่ยากเลย เพราะทั้งคู่เหมือนกันอย่างกับแกะ
“เอ่อ...ยายก็ไม่รู้เหมือนกันครับ...เอาไว้คุณยายจะไปถามคุณแม่ให้นะ”
“เวย์ดีใจที่สุดเลย ที่มี๊รู้จักคุณลุง แล้วแบบนี้ ตอนอยู่ที่คอนโดมี๊จะเจอคุณลุงบ้างไหมนะ” เด็กน้อยวิเคราะห์พร้อมกับแววตาเป็นประกายแห่งความหวัง โดยที่ไม่รู้เลยว่า ก็ที่แม่เขาย้ายคอนโดและย้ายงาน ก็เพราะเจอกันนี่แหละ
“งั้นเอาไว้ยายจะถามให้ ตอนนี้เวย์ไปทำการบ้านต่อนะครับ...เสร็จแล้วจะได้อาบน้ำและมาทานมื้อเย็นกัน”
“เอ้า...แล้วไม่ต้องรอทานพร้อมมี๊เหรอครับ”
“วันนี้มี๊กลับดึกครับ...ไปบอกให้ยายพาเวย์ทานก่อนเลย...”
“กลับดึกก็อดรู้เลยน่ะสิว่าคุณลุงรู้จักมี๊ได้ไง”
“เอาไว้เรื่องนี้ยายถามให้นะครับ กินเสร็จแล้วก็ไปดูการ์ตูน แล้วไปนอนรอมี๊ โอเคไหมครับ”
“โอเคครับ...” รันเวย์พยักหน้าตอบรับอย่างว่านอนสอนง่าย ก่อนที่จะเดินไปนั่งทำการบ้านต่อ ส่วนใบบัวก็มองรูปในมือย้ำๆ อยู่อย่างนั้น เพราะเปอร์เซ็นต์ที่คิดว่านี่คือพ่อรันเวย์ก็แทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์เลยด้วยซ้ำ
ตกดึก...
หลังจากทานมื้อเย็นเสร็จ รันเวย์ก็นอนดูการ์ตูนที่ชอบอยู่พักใหญ่ เฝ้ารอให้แม่กลับมา แต่ด้วยเพราะปกติ ไม่ได้เป็นคนนอนดึก จึงผล็อยหลับไปบนเตียง ส่วนใบชาก็กลับมาบ้านเกือบจะ5ทุ่ม และทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามา ก็ต้องแปลกใจเพราะใบบัวแม่ของเธอนั่งรอเธออยู่ที่โซฟาไม้ ราวกับมีเรื่องบางอย่าง
“แม่ยังไม่นอนอีกเหรอคะ”
“ชา...มานั่งก่อนสิ...” พยักพเยิดหน้าให้ลูกมานั่งลงข้างๆ ก่อนที่จะหยิบรูปถ่ายที่ได้จากรันเวย์ส่งให้ใบชาดู วินาทีนั้นทำใบชาถึงกับหัวใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“อะไรคะแม่”
“แม่ไม่ได้อยากจะละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของลูกเลยนะ แต่รูปใบนี้รันเวย์ไปค้นเจอ แล้วรันเวย์มาถามแม่ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร...ชา...คนนี้คือพ่อของรันเวย์เหรอ” ใบบัวไม่อ้อมค้อมถามลูกสาวออกไปตรงๆ
“ค่ะแม่...พ่อของรันเวย์...เอ่อ...แต่แม่อย่าบอกรันเวย์ได้ไหมคะ...ชากลัวว่าเวย์จะไปรบกวนเขา...เขากำลังจะแต่งงาน...ชาไม่อยากเอาลูกมาอ้างให้เขาต้องเลิกกัน...แม่ชีวิตเขากำลังจะดี...ชาไม่อยากทำลายชีวิตเขาอีก” ร่างเล็กขอร้องแม่
“แต่เวย์เองก็ต้องการพ่อนะชา เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวย์เป็นลูก แล้วเขาเจอกันบ่อยขนาดนั้น แม่ว่าแล้วทำไมเวย์ถึงสนิทกับเขาเร็ว ชา...แม่ไม่รู้หรอกนะ ว่าลูกคิดอะไรอยู่ แต่อย่างน้อยให้พ่อเขาได้รู้ว่าเขามีลูก ถ้าเขาไม่เลิกกับคนนั้นก็ไม่เป็นไร แต่ให้เขาได้รู้ว่านี่คือสายเลือดของเขาก็ไม่ได้เลยเหรอ” เธอพยายามที่จะเข้าใจลูกนะ แต่เธอเองก็อยากให้หลานมีพ่อเหมือนกัน ไม่รับผิดชอบไม่เป็นไร เธอเองก็เลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่เธอแค่คิดว่า คนเป็นพ่อก็ควรจะรู้เรื่องลูกตัวเองด้วยหรือเปล่า
หลายวันมานี้ใบชาเตรียมเอกสารเพื่อไปสมัครงานที่สายการบินแห่งใหม่ แต่ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นสายการบินอันดับสองก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น และโชคดีหน่อยที่เธอยังไม่ใช่ตัวตึงในสายการบินเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยนักบินเท่านั้น ตอนลาออก แม้ว่าเขาจะเสียดายเธอ แต่พอฟังเหตุผลเขาก็จำยอมให้เธอออกตามที่ต้องการเธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูกชายพักใหญ่เลย จนกระทั่งวันนี้เธอได้ถูกเรียกตัวไปสัมภาษณ์งาน“แม่คะ ชาจะไปสัมภาษณ์งานแล้ว ขอพรจากแม่หน่อยได้ไหมคะ” ร่างเล็กเดินเข้าไปนั่งตรงหน้าผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่เหนือเธอที่โซฟาไม้สัก พร้อมพนมมือขอพรจากพระในบ้าน“ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดี ราบรื่น ไม่ติดขัด ลูกของแม่เก่งอยู่แล้ว แม่เชื่อว่าลูกทำได้” อวยพรพร้อมทั้งยกมือขึ้นลูบศีรษะลูกสาวสุดที่รัก จากนั้นใบชาก็ก้มลงกราบไปที่ตักเมื่อได้รับพรที่ศักดิ์จากปากของแม่“ขอบคุณนะคะ...ตอนเย็น...ฝากไปรับรันเวย์หน่อยนะคะแม่...วันนี้ชาอาจจะกลับดึกหน่อยเพราะเดี๋ยวชาจะแวะไปดูคอนโดใหม่ด้วย...”“พี่ชาเอารถของหม่อนไปใช้ก็ได้นะ...วันนี้หม่อนมีนัดกับเพื่อนเดี๋ยวเพื่อนมารั
เช้าวันต่อมา...ใบชารีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปบินตามไฟล์ทในตาราง จัดการจัดเตรียมอาหารเช้า และเอกสารสำหรับการบินเรียบร้อยแล้วก็รีบออกจากห้องไป แต่พอเปิดประตูห้องออกไปกลับเจอสายหมอกยืนพิงผนังรออยู่ที่หน้าห้อง ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก“กินข้าวเช้ายังครับ...” สายหมอกถาม ส่วนเธอก็สอดส่ายสายตามองด้วยความระแวง กลัวว่าคนของเขาจะออกมาเห็นและเข้าใจผิดได้“เอ่อ...เรียบร้อยแล้ว” ตอบเพียงเท่านั้น แล้วเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าของเธอมาถือไว้แทน“มะ...หมอก...ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่ถือเอง”“เดี๋ยวหมอกถือให้” ในเมื่อเขาดันทุรังที่จะทำก็จำยอมให้เขาทำไป ก่อนที่จะรีบเดินไปเข้าลิฟต์ เพราะกลัวว่าใครจะเห็นเข้า เธอไม่อยากถูกตราหน้าว่าแย่งคนของใครทั้งนั้น แม้จะรักมากแค่ไหน หากเขาเป็นของคนอื่นไปแล้ว เธอก็ไม่ควรเอาตัวเองเข้าไปยุ่ง“หมอกคิดถึงพี่มากเลยนะ พี่หายไปไหนมา พี่ช่วยบอกหมอกได้ไหมครับ” เอ่ยถามเหตุผลหลังจากที่ทั้งคู่เข้ามาอยู่ในลิฟต์“พี่ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพิ่งกลับมาได้สองปี”“ที่เลิกกันเพราะไปเรียนต่อเหรอ”“อืม...”“ทำไมไม่บอกหมอกดีๆ ทิ้งไปแบบนั้น หมอกใจหายนะรู้ไหม ติดต่อก็ไม่ไ
แล้วใครบอกกันล่ะว่าที่ผ่านมาเธอไม่รักเขา เธอรักเขาสุดขั้วหัวใจ และยิ่งรู้ว่าเธอมีลูกกับเขา แน่นอนว่ารักนี้ไม่มีวันจาง หรือลดน้อยลงไปเลยสักวัน เจอหน้าลูกทุกวันก็ยิ่งรักมากขึ้น ยิ่งคิดถึงจนแทบขาดใจ แต่คิดถึงแล้วจะให้ทำยังไง ในเมื่อตอนนี้เธอไม่กล้าแม้แต่จะดึงเขากลับมา เธอไม่กล้าเห็นแก่ตัวได้เลย เพราะเธอเป็นคนที่ทิ้งเขาไปเอง“ตอบดิชา แค่ชาพูดว่าชาเองก็ยังรักหมอก แค่นี้เลย” เขายังคงคาดคั้นเธออีกครั้ง ดวงตาแดงก่ำของสายหมอกตอนนี้มันสะท้านความหวังออกมา หวังให้เธอนั้นพูดมันออกมาสักที“...”“พูดดิชา!!!...”ตะโกนใส่หน้าเธอจนเธอสะดุ้ง“แล้วหมอกล่ะ...ถ้าหมอกพูด...พี่ก็พูด”“รักสิ ไม่รักหมอกจะเป็นบ้าแบบนี้เหรอ”หัวใจดวงน้อยเต้นรัวเร็วขึ้นมา ดีใจที่ตอนนี้เขายังมีความรู้สึกนั้นกับเธอ แต่พอจะดีใจมันก็มีหน้าแฟนเขาผุดขึ้นมาหลอกหลอนเธอและทำให้เธอต้องเก็บความรู้สึกที่มีเอาไว้ภายในใจ พร้อมกับย้ำตัวเองในใจว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ควร เธอไม่ควรไปบอกรักแฟนชาวบ้านแบบนี้“แฟนหมอกรู้ไหม ว่าหมอกมาตามราวีแฟนเก่าแบบนี้”“ตอนนี้มีแค่เราสองคน จะไปพูดถึงคนอื่นทำไม”“แต่คนอื่นที่หมอกพูดถึง คือคนที่หมอกจะแต่งงานด้วย หมอกควรจ
หลังจากที่คายคุกกี้ทิ้งก็รู้สึกอยากจะกินคุกกี้เจ้าประจำขึ้นมา จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทักแชทหาน้องสาว หวังให้ประกายดาวสั่งให้สายหมอก : น้องดาวครับประกายดาว : คะเฮีย?สายหมอก : หนูช่วยสั่งคุกกี้ให้เฮียหน่อยได้ไหมครับประกายดาว : วันนี้ดาวไม่ว่างเลยเฮีย เดี๋ยวดาวให้ช่องทางติดต่อแล้วเฮีย สั่งเองได้ไหมคะสายหมอก : ได้ครับประกายดาว : ส่งข้อมูลการติดต่อสายหมอก : ขอบคุณครับเมื่อได้ช่องทางการติดต่อเขาก็ไม่รีรอรีบกดติดตามเพจ ตามด้วยทักข้อความส่วนตัวไปด้านใบชาติ้ง!!สายหมอก : สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าวันนี้เปิดรับออเดอร์ไหมครับเสียงข้อความในโทรศัพท์มือถือของใบชาดังขึ้น ดึงความสนใจแก่ร่างเล็กที่กำลังดูทีวีอยู่เพลินๆ ทว่าเมื่อหยิบเครื่องสี่เหลี่ยมขึ้นมาอ่านก็แทบช็อก เพราะข้อความที่ทักมานั้นดันเป็นสายหมอก พร้อมกับภายในใจที่คิดไปกันใหญ่ว่า หรือว่าเขาจะรู้ว่าเธอขายคุกกี้“หรือรันเวย์จะให้คุกกี้ไปผิดกล่อง?” วิเคราะห์กับตัวเอง ด้วยหัวใจที่สั่นระรัว และไม่รู้ว่าควรจะรับอ
“สนุกไหมครับรันเวย์” ใบชาเอ่ยถามลูกชาย หลังจากออกมาจากโรงภาพยนตร์“สนุกมากครับมี๊...เวย์อยากอยู่กับมี๊ทุกวันเลย...ไม่อยากกลับเลย” ว่าแล้วก็งอแงอ้อนแม่เสียหน่อย“งั้นก็ต้องกลับไปตั้งใจเรียน ปิดเทอมค่อยมาอยู่ด้วยกันโอเคไหมครับ” ย่อตัวลงตรงหน้าลูกชาย แล้วใช้สองมือประคองใบหน้าเขา ตามด้วยเอ่ยบอกด้วยความเอ็นดู“หม่ามี๊ครับ...เราไม่ย้ายคอนโดได้ไหมครับ”“ทำไมครับ?”“เวย์อยากเจอคุณลุง เวย์อยากเจอพี่ชาย”“เวย์ครับ...มี๊เคยบอกใช่ไหมครับว่าเราไม่ควรไว้ใจคนแปลกหน้า...ต่อให้เขาดีแค่ไหน...ก็ไม่ควรอยู่ใกล้...บางคนอาจจะไม่ได้หวังดีกับเราก็ได้นะครับ” ที่เธอพูดเธอไม่ได้จะบอกว่าสายหมอกไม่ดี แต่เธอแค่กลัวว่าลูกชายจะไว้ใจคนอื่นง่ายเกินไป การที่เขาเป็นแบบนี้ มันเป็นภัยต่อตัวเขาเอง หากคนที่เข้าหาไม่ใช่สายหมอกแต่เป็นคนอื่น ทำท่าทีใจดีแบบนี้กับเขา แล้วจับตัวไปจะทำยังไง ใจของเธอจะไม่ขาดหรอกเหรอ“แต่คุณลุง...เป็นคนดีนะครับ...คุณลุงใจดีกับเวย์มากๆ เลย”“แต่คนอื่นที่ไม่ใช่คุณลุงล่ะครับ ถ้าเขามีหมา มีแมว เวย์ก็จะมองว่าเขาใจดีทุกคนแบบนี้เหรอ”รู้แหละว่าลูกชายรักสัตว์ แต่การที่คนอื่นเอาสิ่งที่ชอบมาล่อมันก็เข้าตาโจรพอด
“มี๊ครับ มี๊ทำไมหน้าซีดๆ ไม่สบายหรือเปล่าครับ” รันเวย์ยืนขึ้นแล้วใช้หลังมืออังไปที่หน้าผากใบชา“มี๊ไม่เป็นอะไรครับ...เอ่อ...งั้นเดี๋ยวมี๊ไปเปิดน้ำอุ่นให้แช่นะครับ วันนี้จะเอาฟองสีอะไร” ว่าแล้วก็เอ่ยถามลูกชาย เพราะปกติเขาจะชอบใช้บาธบอมม์ สบู่อโรม่าฟองฟู่ในอ่างทุกครั้งเวลาแช่น้ำ“สีฟ้าครับมี๊”“โอเคครับ เดี๋ยวมี๊ไปเตรียมให้นะ” พูดจบก็เดินไปเตรียมน้ำให้ลูกชาย พอเตรียมเสร็จ เธอก็ปล่อยให้รันเวย์เล่นน้ำไป ส่วนเธอก็ออกไปซื้อของมาทำมื้อเย็นให้เขาด้วยเพราะเธอหยุดหลายวัน และรันเวย์ก็จะได้นอนกับเธอสองคืน เธอจึงมีการเตรียมกิจกรรมต่างๆ ไว้ทำกับลูกชาย บวกกับต้องเจียดเวลาทำคุกกี้อีก จะหักโหมมากก็ไม่ได้ เพราะการเป็นนักบิน การนอนต้องเพียงพอ“รันเวย์ครับ...เล่นพอหรือยังครับ...ข้าวผัดปูเสร็จแล้วน้า”“โอเคครับมี๊...มี๊ช่วยมาถูหลังให้เวย์หน่อยได้ไหมครับ”เมื่อเห็นว่าลูกเล่นจนพอใจแล้ว เธอก็ไปอาบน้ำล้างตัวให้ลูกเป็นขั้นตอนสุดท้าย แล้วเตรียมตัวกินข้าวต่อ แต่สักพักก็จามถี่ๆ ด้วยเพราะแช่น้ำนาน บวกกับอากาศในห้องค่อนข้างที่จะเย็น เลยมักจะเป็นหวัดแบบนี้อยู่บ่อยๆ หลังอาบน้ำ พอเห็นรันเวย์เป็นแบบนี้ก็อดคิดถึงสายหมอ







