นับตั้งแต่วันที่คุณไผ่รู้ว่าฉันตั้งท้อง เขาก็ดูแลฉันเป็นอย่างดีมากขึ้นกว่าเดิม จนแม้กระทั่งคนรอบข้างยังสังเกตได้ ทุกอย่างอีกทั้งบรรยากาศที่เกิดขึ้นในบ้านต่างอบอวลไปด้วยมวลความสุขเล็ก ความตึงเครียดที่เคยมีก่อนหน้านี้ด้วยเพราะคุณไผ่เธอไม่เคยแสดงสีหน้า ทั้งทางหน้าตาและอารมณ์ของความสุขให้ใครได้เห็นเลย แต่พอที่เขารู้ว่าฉันท้องทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จนฉันเองก็ยังรู้สึกผ่อนคลายเหมือนกันกระทั่งเมื่อเหลือเวลาอีกแค่สองวันที่ฉันกับคุณไผ่จะต้องเข้าสู่ประตูวิวาห์ด้วยกันแล้ว คุณไผ่เองเขาก็ต้องการที่จะพาฉันให้ไปรู้จักกับคนคนหนึ่งที่ฉันเองไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้เจอ...“ไหนไหนมะรืนนี้เราก็จะแต่งงานกันแล้ว ฉันอยากพาเธอไปเจอคนสำคัญที่สุดของฉัน” คุณไผ่พูดขึ้นหลังจากที่เราเพิ่งกินข้าวเย็นกันเสร็จ“ใครเหรอคะ เขาใจดีไหมคะมนต์กลัวว่าเขาจะไม่ชอบมนต์” ฉันตอบด้วยคำพูดใสซื่ออย่างที่ฉันคิด“ฮ่าฮ่า เธอนี่ขี้กังวลไม่เปลี่ยนเลยนะ เขาต้องชอบเธออย่างแน่นอนเธอไม่ต้องกังวลไปหรอก” ใบหน้าที่แย้มยิ้มเพราะนึกขำในความคิดของหญิงสาวตรงหน้า“อย่างนั้นหรือคะ เขาคนนั้นต้องเป็นคนใจดีมากแน่ ๆ” ฉันพูดไปยิ้มไป“...เธอ
“ยะ...ยินดีด้วยนะครับคุณไผ่ ตอนนี้คุณมนต์เธอตั้งครรภ์แล้วครับ”สิ้นคำบอกของหมอสูงวัย ชายหนึ่งที่กับยืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก ความรู้สึกหลากหลายประเดประดังเข้ามาจนเขารู้สึกมึนหัวไปหมด กระทั่งเมื่อความรู้สึกแรกที่แน่ชัดที่สุดนั่นก็คือความปีติยินดีที่แผ่ซ่านในหัวใจ“จะ...จริงหรอหมอ หมอพูดจริง ๆ ใช่ไหม” น้ำเสียงตื่นเต้นถามหมอสูงวัยที่ยืนสงบนิ่งอยู่ด้านข้าง ก่อนที่ใบหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยริ้วรอยตามวัยจะพยักหน้าเบา ๆ ส่งกลับมา“ป้าสุภา...ผมกำลังจะเป็นพ่อคนแล้วใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มที่ได้รับคำยืนยันจากคุณหมอเต็มไปด้วยความดีใจ ก่อนที่เขาจะหันไปหาป้าแม่บ้านที่เป็นเสมือนญาติผู้ใหญ่ที่เหลืออยู่อีกคน พร้อมกับบอกด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือดีใจอย่างปิดไม่มิดและด้วยสีหน้าดีใจที่เอ่อล้นออกมาของคนตัวโต ก็ถึงกับทำให้ป้าสุภาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดในใจ“ชะ...ใช่ค่ะ” ป้าสุภาตอบตะกุกตะกัก“เอ๊ะ...!! นี่ป้าไม่ดีใจกับผมเลยหรอที่ผมกำลังจะเป็นพ่อคนน่ะ” ชายหนุ่มที่ไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่เขานับถือถึงไม่ได้รู้สึกเหมือนกับที่เขารู้สึก หรือเป็นเพราะการกระทำของเขาก่อนหน้านี้ที่มีต่อหญิงสาว ถึงได้ทำให้ป้าสุภาไม่พอใจ“ดะ...ด
เช้าของวันหนึ่ง...มันเป็นวันที่ชุดเจ้าสาวถูกส่งมาให้ฉันลองสวมใส่ ภาพความวุ่นวายยามเช้านับตั้งแต่ที่ฉันร่วมโต๊ะอาหารมื้อเช้ากับคุณไผ่เสร็จ ชุดสีขาวสะอาดละลานตาถูกจัดเรียงเต็มไปหมด และด้วยภาพตรงหน้าถ้าหากเกิดขึ้นในสถานการณ์ปกติแล้วล่ะก็ ป่านนี้ฉันคงยิ้มหน้าบานเต็มใจที่จะให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น เพียงแต่...ด้วยความจริงที่ตอกย้ำเข้ามาในโสตประสาทว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นและเผลอคิดว่าทุกอย่างมันดีขึ้นแล้ว แต่ว่ามันกลับไม่อาจเปลี่ยนแปลงความคิดที่ว่า คุณไผ่ยังคงจะอยากแก้แค้นคุณวาคิมอยู่ไปได้เลย...ใบหน้าที่พลันสลดลงดูเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด และในขณะที่ฉันกำลังลองชุดเจ้าสาวอยู่นั้น ความรู้สึกอึดอัดใจถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญอยู่ก็ได้ทำให้ฉันกลั้นใจพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดออกมา...“คุณไผ่ค่ะ มนต์ว่าเราแต่งงานกันเงียบ ๆ ดีกว่าไหมคะ อีกอย่าง...”และในจังหวะที่ฉันยังพูดไม่จบ...“ไม่ได้...!! ทำไมกลัวผัวเก่ารู้หรอไง”เสียงตวาดของคุณไผ่ดังลั่นอย่างที่ฉันไม่ได้ยินมาสักพักใหญ่ ๆ แล้วทำให้ฉันถึงกับตกใจสะดุ้งโหยง และไม่ใช่แค่ฉันเท่านั้นที่ขวัญเสีย แต่เหล่าพนักงานที่มาจากร้านชุดเจ้าสาวก็ต่างตกใจยืนตัวสั่
น้ำตาที่รินไหลออกมาเงียบ ๆ จากหางตา หลังมองไปยังร่างกำยำที่ทิ้งตัวนอนหลับด้านข้างซึ่งเป็นร่างของคนที่ให้ตัวฉันมีมลทิน มีตราบาปของความรู้สึกผิดเกิดขึ้น เสียงลมหายใจที่ถูกผ่อนออกมาสม่ำเสมอของร่างที่นอนหงายแผ่หลาด้วยความเหนื่อย จากบทสวาทบทแล้วบทเล่าที่เขามอบให้จนหน้าขาของฉันถึงกับสั่นเทิ้มแทบจะลุกขึ้นไปชำระคราบคาวที่เปรอะเปื้อนไม่ไหว แต่ถึงกระนั้นฉันก็จำต้องฝืนร่างกายลุกขึ้นไป เพราะอย่างน้อยคืนนี้ฉันจะได้ไม่ต้องจมอยู่กับคราบคาวเหล่านี้ซ่าาาาา ~~สายน้ำที่สาดซัดออกมาจากฝักบัวราดรดลงบนใบหน้าหวานสวยที่ตอนนี้ดวงตากลมโตได้มีน้ำใสอุ่นไหลเครือออกมา เสียงสะอึกสะอื้นโดยที่มือบางทั้งสองข้างยกขึ้นมาปิดปากเอาไว้แน่นด้วยกลัวว่าเสียงจะดังเล็ดลอดออกไปทำให้คนที่หลับอยู่ด้านนอกตื่นขึ้นมาก่อนที่สองมือน้อย ๆ คู่เดิมจะเลื่อนลงไปจับยังหน้าท้องที่ตอนนี้พอสัมผัสดี ๆ แล้วจะเริ่มรับรู้ได้ถึงความแข็งนูนเล็ก ๆ ความรู้สึกผิดคละเคล้าผสมปนเปไปกับความรู้สึกขยะแขยงตัวเองในทันทีที่คิดไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เพราะถึงแม้จะทำใจมาบ้างแล้วก็ตาม แต่มันก็อดที่จะรู้สึกไม่ได้อยู่ดียามที่ทุกอย่างมันได้เกิดขึ้นมาแล้ว ก่อนที่
ขาเรียวสวยทั้งสองข้างค่อย ๆ อ้ากว้างออกมากขึ้นเพื่อบอกเป็นนัย ๆ ว่าฉันเปิดรับตัวตนของเขาให้เข้ามาสู่การโอบกอดโดยร่องสวาทของฉันแล้ว และทันทีที่ร่างกายฉันเปิดรับแบบนั้น เจ้าของลำเอ็นที่แข็งขยายใหญ่ก็ไม่รอช้าค่อย ๆ ขยับตัวร่นเข้ามา ก่อนจะกดแก่นกายที่ตั้งลำส่งหัวเห็ดสีแดงก่ำให้มุดเข้าถ้ำที่ปากทางเต็มไปด้วยน้ำเหนียวสีใสกึก...กึก...พรวด“อ๊ะ...ซี๊ดดดดด ~~”“อ่ะ...อ่าาาาาส์ แน่นมาก”เสียงคำรามที่มาพร้อมกับใบหน้าที่เชิดขึ้น สีหน้าเหยเกที่ไม่ได้บอกถึงความเจ็บปวด แต่ทว่า...เป็นความเสียวซ่านอย่างถึงใจที่น้อยครั้งนักคนอย่างเขาจะได้เจออะไรแบบนี้ปั่ก...ปั่ก...ปั่กเอวแกร่งที่เริ่มขยับด้วยท่วงท่าเนิบนาบ เนื่องจากความรัดแน่นของร่องอุ่นที่กำลังบีบลำเอ็นของเขาอยู่ในตอนนี้ มันทำให้เขาไม่อาจขยับเข้าออกได้เร็วอย่างต้องการ ด้วยกลัวว่าตัวเองจะล่มปากอ่าวเสียเชิงชายให้อับอายต่อหญิงสาวที่อายุน้อยกว่าหลายปีที่อยู่ใต้ร่างในตอนนี้แต่ทว่า...ท่วงท่านาบเนิบเชื่องช้าค่อย ๆ บรรจงบรรเลงเพลงสวาทกลับยิ่งทำให้ความเสียวซ่านที่ตีมวนอยู่ในท้องน้อยของทั้งชายหญิงทั้งสองยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น จนชายหนุ่มที่ไม่ค่อยได้เจอ
แกร๊ก ~~เสียงประตูที่ถูกเปิดและปิดลงในเวลานี้ คงมีเพียงคนเดียวที่จะมาหาฉันในยามนี้ นั่นก็คือ...“เป็นอะไรนอนไม่หลับหรือไง...หรือว่าคิดถึงฉันอยู่” คำพูดที่แข็งกระด้างไม่มีความนุ่มนวลหรือโรแมนติกเลยสักนิด บ่งบอกได้ดีว่าคนที่เข้ามาใหม่คือคนที่ฉันกำลังรอคอยไม่ผิดแน่“คะ...คุณไผ่...” ฉันที่ค่อย ๆ เดินกลับไปยังที่นอนขนาดใหญ่ของตัวเอง หลังจากที่เห็นเขาขึ้นไปนั่งรออยู่ก่อนแล้ว“ก็ฉันน่ะซิ เธอคิดว่าใครล่ะ” คำถามยียวนที่ส่งมาอีกครั้ง พร้อมกับแววตาแพรวพราวจนกลบความดุดันที่มักจะมีในเวลาปกติไปได้อย่างมิดชิด“เปล่าค่ะ มนต์ไม่ได้คิดว่าเป็นใคร” ฉันเสหน้าหลบสายตาที่ไม่ปกติของคนตรงหน้า จนกระทั่งเมื่อกายสาวถูกรวบให้เข้าไปประชิดเข้ากับแผงอกอันกว้างขวาง นั่นจึงทำให้ฉันได้กลิ่นละมุดอ่อน ๆ ออกมาจากลมหายใจของชายหนุ่ม“คุณไผ่ดื่มมาเหรอคะ...??” หญิงสาวเอียงคอถามด้วยความสงสัย หรือว่าหลับนอนกับเธอมันน่ารังเกียจจนเขาต้องใช้วิธีย้อมใจด้วยความเมามายเสียก่อน“นิดหน่อยน่ะ” เสียงนุ่มที่ส่งออกมาช่างน่าจักจี้รูหู ด้วยเพราะเขาไม่เคยใช้โทนเสียงแบบนี้กับฉันมาก่อน“ก็พอเข้าใจได้” ใบหน้าขาวที่ต้องแสงโคมไฟสีส้มจนดูเนียนใสเสห