ฟางหลินเฉินลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาพบว่าตัวเขานอนอยู่ในห้องที่ถูกตกแต่งด้วยผ้าม่านสีแดงเต็มไปหมด แม้แต่แสงไฟสลัวในห้องก็ยังเป็นสีแดงจางๆ เขากะพริบตาเพื่อไล่ความง่วงงุน แต่ไม่ทันไรเขาก็ได้ยินเสียงสะอื้นไห้เบาๆ เสียงนั้นไพเราะยิ่ง
เขาหันไปตามเสียงสะอื้นที่พยายามปกปิดไว้ ทันใดหัวใจของฟางหลินเฉินก็เต้นรัวราวกับจะกระดอนออกมาข้างนอกให้ได้ เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะได้พบกับความงดงามบาดลึกลงในใจเช่นนี้
“..นางฟ้า” เสียงของเขาแหบพร่าสั่นรัว คล้ายเขาละเมอออกไปโดยไม่รู้ตัว
หญิงสาวในชุดแดงเงยหน้าขึ้นมาสบตาฟางหลินเฉิน ท่าทางของนางคล้ายตกใจและนึกไม่ถึงอยู่หกส่วน แต่อีกสี่ส่วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ชั่วขณะที่สายตาของฟางหลินเฉินสบเข้ากับดวงตาคู่นั้น โลกทั้งใบพลันหยุดนิ่ง สรรพเสียงรอบข้างเหมือนถูกกลืนหายไปในลมหายใจติดขัดของสตรีตรงหน้า
ผีเสื้อนับพันเริ่มโบยบินในท้องของเขา ทุกอย่างรอบตัวลอยละล่องดั่งหมอกยามเช้า เขามองเห็นรายละเอียดทุกอย่างในตัวนางที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงขึ้น
ดวงตาผลซิ่ง[1]กลมโตเป็นประกายของนาง เขารู้สึกว่ากำลังจ้องมองดาวที่สว่างสดใสที่สุดในท้องฟ้ายามค่ำคืน คราบน้ำตาเล็กๆ ที่มุมหางตากลมทำให้เขารู้สึกราวกับว่าเป็นน้ำตาศักดิ์สิทธิ์ ที่ละลายหัวใจของเขาจนเหลวอยู่ใต้เท้าของนาง
ความอบอุ่นแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจของฟางหลินเฉิน ราวกับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าที่ค่อยๆ สาดส่องเข้ามาในห้องที่เคยมืดมิด ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับนางเต็มไปด้วยความลึกลับและเสน่ห์ที่เขาไม่อาจต้านทาน
เขารู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในห้วงความฝันที่ไม่อยากตื่นขึ้นมาอีกเลย หรือท่านอ๋องฉินกวงจะทำงานผิดพลาดส่งเขาขึ้นมาบนสวรรค์โดยไม่ตั้งใจ
นางนั่งอยู่ข้างเตียง สวมชุดแดงงานแต่งปักลายคลื่นน้ำและลายฉาฮวา[2]บานฉ่ำ รับกับใบหน้าอวบกลม แม้สองแก้มจะถูกน้ำตาทำให้เกิดเป็นร่องรอยของคราบเครื่องประทินโฉม แต่นัยน์ตากลมโตที่มีน้ำตาเอ่อเล็กน้อย งดงามรับกับริมฝีปากแดง
หญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ตัวผอมบางน่ารักตามมาตรฐานความงามของคนทั่วไป แต่กลับงดงามตามที่ฟางหลินเฉินเคยจินตนาการไว้ราวกับออกมาจากความฝันของเขา ไหล่กลม ตัวอวบอ้วนน่ากอด แม้ชุดงานแต่งจะรุ่มร่ามทำให้นางดูตันจนเหมือนไม่มีคอ แต่เขาก็ยังมองอย่างหลงใหล
‘เธออุตส่าห์แต่งคอสเพลย์เพื่อฉันสินะ นี่มันสวรรค์ชัดๆ ขอบคุณครับท่านอ๋องงง...’ ฟางหลินเฉินกรีดร้องอยู่ในใจ
“ท่าน..ท่าน..” หญิงสาวตรงหน้ายังคงมองเขาไม่กะพริบตา น้ำเสียงของนางสั่นเครือ แต่กลับกังวานไพเราะ แม้นางจะเอ่ยด้วยความตื่นตระหนก
“แม่นาง เจ้าเป็นนางฟ้าใช่หรือไม่” เขาเริ่มแสดงความเจ้าชู้ออกมา แววตาส่องประกายคล้ายอยากกลืนกินหญิงสาวตรงหน้าให้ได้เสียเดี๋ยวนั้น
“ท่านพี่..ท่านไม่ได้..” เสียงของนางไพเราะราวกับนกเยี่ยอิง[3]
“...” ฟางหลินเฉินแทบละลายเมื่อนางเรียกเขาว่าท่านพี่ เขาเอื้อมมือออกไปดึงตัวคนงามให้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยกันกับเขา แม้นางจะมึนงงและประหลาดใจ แต่ก็โอนอ่อนตามแต่โดยดี
“น้องหญิง ผู้ใดทำให้เจ้ามีน้ำตากัน ข้าจะช่วยปลอบเจ้าเอง” ฟางหลินเฉินเอื้อมสองมือไปกุมใบหน้ากลมและเช็ดคราบน้ำตาข้างแก้มกลมให้หญิงสาว
“..ไม่..ไม่เจ้าค่ะ” เสียงใสเอ่ยตอบ ท่าทางคล้ายไม่คุ้นชินกับความอบอุ่นฉับพลันของชายหนุ่ม
เขาไม่รอช้า ดึงคนงามเข้ามาจูบทันทีอย่างหิวกระหาย แม้ร่างในอ้อมกอดของเขาจะแข็งทื่อตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แต่เขากระหายเกินกว่าจะหยุดได้
ฟางหลินเฉินดูดดื่มริมฝีปากนุ่มอย่างเอาแต่ใจ ลิ้มเลียราวกับต้องการจะครอบครองเป็นเจ้าของ เมื่อหญิงสาวค่อยๆ ถอยออกไปอย่างประหม่า เขาก็เอื้อมมือหนึ่งไปประคองหลังศีรษะของนางเพื่อบังคับให้นางอยู่ที่เดิม เขาจะได้จูบได้อย่างถนัดมากขึ้น
สองแขนแกร่งของเขาโอบคอของนาง ดึงนางมาไว้ในอ้อมแขนและจูบดูดดื่มยิ่งขึ้น เขาแลบลิ้นออกไปพยายามจะเข้าไปสำรวจความหอมหวานในปากเล็กของหญิงสาว นางสั่นสะท้านจับเสื้อเขาไว้แน่น แต่สุดท้ายก็ยอมเปิดริมฝีปากให้เขาเข้าไปยึดครอง
ลิ้นของเขาซอกซอนค้นหา กวาดรสหวานดูดดื่ม เขาผลักนางล้มลงบนเตียงเบาๆ เขาล้มตัวลงไปทับความนุ่มนิ่มทั้งตัวของนางไว้ สองมือของเขาเลื่อนลงมาเกาะกุมอกอวบอ้วนและบีบคลำอย่างหยาบคาย ระหว่างที่เขาใช้ลิ้นบดเบียดลิ้นของนาง หญิงสาวหลับตาแน่นลมหายใจติดขัด แต่ไม่กล้าขัดเขา
เขาดูดลิ้นของนางแรงๆ ก่อนจะยอมปล่อยอย่างเสียดาย แต่เขาต้องยอมปล่อยลิ้นหวานเพราะอยากชิมเลียที่อื่นบ้าง ริมฝีปากของเขาเลื่อนไปตามคางของนางลงไปยังคอนุ่ม และดูดแรงๆ
“อะ!..” หญิงสาวสะดุ้ง ลมหายใจของนางติดขัดเพราะมือใหญ่ที่กำลังบีบหน้าอกอวบ ริมฝีปากของนางสั่นระริกเพราะเพิ่งถูกเขารุกรานอย่างหนัก
แต่ชายหนุ่มที่รุกรานกลับไม่ใส่ใจ ยังคงจุมพิตไปตามคอและดูดทุกที่ที่เขาต้องการ มือหนาพยายามถอดเสื้อของนางทิ้ง แต่ไม่ว่าจะสำรวจตรงไหนก็ไม่มีกระดุมให้เขาปลด
ฟางหลินเฉินจำต้องเงยหน้าขึ้นมามอง เขาสำรวจหารอยต่อของเสื้อชุดแดงที่นางสวมใส่ แต่สองมือกลับบีบนวดอกอิ่มไม่ยินยอมปล่อยวางแม้สักวินาที
“เสื้อเธอถอดยังไงเนี่ย” เขาหงุดหงิดเล็กน้อย
“เอ่อ..ข้า..ข้าถอดเองเจ้าค่ะ” หญิงสาวส่งเสียงสั่นเครือ ทั้งร่างของนางสั่นระริก แต่เห็นชัดว่านางพยายามรับมือความต้องการของเขา และเอาใจเขาด้วยการยกมือสั่นๆ ขึ้นมาปลดชุดแต่งงานรุ่มร่ามออก
“สวยมากเลยครับ..” ฟางหลินเฉินมองภาพของคนใต้ร่างอย่างหลงใหล
“..เอ่อ” ใบหน้าของหญิงสาวแดงขึ้นจนแม้แต่แป้งที่แก้มก็ยังไม่อาจปกปิดได้มิดชิด
เมื่อหญิงสาวดึงเสื้อออกจนเห็นไหล่ขาวเนียนกลมนุ่ม ฟางหลินเฉินก็รีบช่วยนางดึงเสื้อของนางทิ้ง แววตาของเขาวาววับ
“เสื้อในแบบโบราณซะด้วย..เจ้าช่างใส่ใจยิ่งนัก” เขาพูด
เพราะตู้โตว[4]สีแดงปิดแทบจะถึงคอ ฟางหลินเฉินจึงเอื้อมมือออกไปบีบก้อนซาลาเปาที่ทะลักออกมาด้านข้างแทน สัมผัสนุ่มมือ และผิวเนียนละเอียดที่ล้นออกมา ทำให้เขาหายใจออกแรงๆ ก่อนจะก้มลงไปจูบริมฝีปากแดงอีกครั้ง
[1]ดวงตาผลซิ่ง ว่ากันว่าดวงตาแบบนี้จะทำให้ดูอ่อนเยาว์ สะท้อนถึงความใสซื่อบริสุทธิ์ ใครเห็นก็อยากจะเข้าหาด้วยความเอ็นดู ผลซิ่ง คือ แอปริคอท เป็นผลไม้มีเมล็ดคล้ายอัลม่อน ภายนอกคล้ายลูกพีชและบ๊วย
[2]ฉาฮวา หมายถึง ดอกคาร์มีเลีย ความหมายของดอกไม้คือความถ่อมตัวและรักงดงามในอุดมคติ หรือรักอันสูงส่ง
[3]เยี่ยอิง หมายถึง นกไนติงเกล
[4]ตู้โตว หมายถึง เสื้อชั้นในแบบโบราณของจีน
พรุ่งนี้ เขาจะกินกันแล้วค่ะ มาเร็วเคลมเร็วสมเป็นฟางหลินเฉินผู้คลั่งรักนะคะ
ฟางหลินเฉินเป็นบุรุษที่ผ่านสมรภูมิบนเตียงมามาก วันนี้เขายอมรับกับตัวเองว่าหญิงสาวใต้ร่างคนนี้ ถูกใจเขาไปเสียทุกอย่าง แม้แต่ยามที่นางควบคุมตัวเองไม่อยู่ สุขสมจนหน้าแดงก่ำสายตาเหลือกกลับ นางยังคงดูน่ารัก ขณะที่นางคว้าจับผ้าปูที่นอนไว้แน่น สองมืออวบของนางก็ยังน่ามองสำหรับเขา“อ้า..อา ไม่..ไม่..อ้า!” หลิวลี่อินรู้สึกใกล้ลอยไปถึงขอบฟ้าทุกขณะ ความร้อนแรงของสัมผัสที่สอดประสานกันแผดเผาราวกับเปลวไฟที่ลุกโชน นางแทบจะหยุดหายใจเมื่อเขากัดที่ข้อเท้าและกระทุ้งเข้ามาในตัวนางลึกสุดครั้งแล้วครั้งเล่าฟางหลินเฉินรู้สึกถึงการบีบรัดในช่องแคบ เขาจึงขยับสะโพกให้เร็วขึ้นและแรงขึ้น จนตัวเขาเองก็ใกล้ถึงจุดระเบิดความเสียวซ่านเพราะนางบีบแน่นเหลือเกิน แต่ยังคงพยายามอดทนเพื่อพานางฟ้าแสนน่ารักไปให้ถึงยอดเมฆาเสียก่อน“อ๊ะ อ้า ๆ ๆ....” เสียงกรีดร้องอย่างไร้สติดังออกมา สายน้ำแห่งความสุขสันต์พุ่งกระแทกตัวของเขาและแตกออกราวกับน้ำพุคลั่ง หญิงสาวร่างอวบอ้วนตัวสั่นสะท้าน แอ่นอกขึ้นและหลับตาแน่นกัดฟัน ปลายเท้าของนางสั่นอย่างรุนแรงคล้ายไม่อาจควบคุมใกล้ริมฝีปากของเขาฟางหลินเฉินแทบคลั่งเมื่อสายน้ำรักของนางพรั่งพรูออกมาจากช่อ
“เจ้าชื่ออะไร” ฟางหลินเฉินโยนผ้าแพรทิ้งและก้มลงมาจุมพิตริมฝีปากของหญิงสาว เอ่ยถามเรื่องสำคัญ ทั้งที่ปกติเขาจะไม่ถามชื่อของใครเวลาทำเรื่องพวกนี้ แต่นางฟ้าตรงหน้าทำให้เขาอดใจไม่ได้จริงๆ เขาอยากรู้จักนางมากขึ้น“ข้า..คือ ท่านไม่รู้หรือ” หญิงสาวมองเขาและขมวดคิ้วด้วยความไม่แน่ใจ เขาไม่รู้จักชื่อของนางจริงหรือ“หือ?..” เขายังคงถูริมฝีปากไปมาแผ่วเบาบนริมฝีปากของนางอย่างหลงใหล“ข้า หลิวลี่อิน[1]เจ้าค่ะ” นางได้แต่คิดว่าเขาอาจกำลังสับสน“อือ ไพเราะจัง เหมือนเสียงของเจ้าเลย” เขาพูดและแนบจุมพิตลงไปบนปากระเรื่อแรงๆ หนึ่งครั้ง “เอ่อ..ขอบ..ขอบคุณเจ้าค่ะ” หญิงสาวใบหน้าแดงก่ำกับคำชื่นชมนั้น นางคิดว่าเขารังเกียจนางมาโดยตลอด ที่แท้เขาทั้งอ่อนโยนและชื่นชมนาง หรือเขาเพียงกลั่นแกล้ง นางไม่อาจรู้ แต่รู้เพียงยามนี้ในอกของนางสุขสมมากล้นด้วยความอบอุ่น เท่านี้ก็เพียงพอ“ข้าจะเบามือ เราลองกันใหม่อีกครั้งนะ ข้าสัญญาจะทำให้เจ้ารู้สึกดี ไม่เจ็บปวดอีก” ฟางหลินเฉินเงยหน้าขึ้นมามองสบตากลมโตคล้ายผลซิ่ง[2]ของหลิวลี่อิน “ลองใหม่..อะไรเจ้าคะ” นางถามด้วยความไร้เดียงสา“ฮึ..ก็..” เขาจับมืออวบอ้วนของหญิงสาวลงไปบีบคลึงแท่งห
ฟางหลินเฉินยอมปล่อยมือจากขาอวบ ก้มลงมาจูบดูดดื่มลิ้นแดงน่ารัก และกอดไหล่เนียนของนางเอาไว้แน่น ระหว่างที่เขาฝังแท่งหยกร้อนเสียดสีแผดเผาร่องฉ่ำน้ำเสียงเตียงดังสนั่นตามแรงกระแทกของชายหนุ่ม เขาก้มลงไปกัดไหล่นวลฝังเขี้ยวของเขาลงในเนื้อแน่นสุดแรง ขยับสะโพกของเขาขึ้นลงอย่างเร็วเร่ง ในที่สุดความสุขล้นปรี่ก็ปลดปล่อยใส่ธารน้ำคับแคบของหญิงสาว เขาคำรามออกมาผ่านเนื้อนุ่มที่กัด ร่างกายของเขาสั่นสะท้านเพราะการปลดปล่อย สองมือใหญ่กอดร่างแน่นนิ่มไว้ แม้จะไปถึงยอดเขาแล้วแต่ฟางหลินเฉินยังคงขยับนวดคลึงแท่งหยกร้อนของเขาเบาๆ เพื่อคงระยะเวลาแห่งความสุขสันต์ไว้ให้นานขึ้น เมื่อเขารีดนมขาวขุ่นของตัวเองออกมาจนแทบทุกหยด ในที่สุดเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวสั่นเทาใต้ร่างของเขา เขาคาดว่าจะได้เห็นสีหน้าสุขสมแต่กลับเห็นเพียงใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด นางกัดริมฝีปากตัวเองไว้แรงจนแทบห้อเลือด“แม่นาง!” เขารีบชันศอก เอื้อมมือออกไปแตะริมฝีปากสีชาด “อย่ากัด..อย่ากัดตัวเอง เจ็บมากใช่ไหม..หายใจ อย่ากัดตัวเอง” เขาใช้นิ้วโป้งดึงริมฝีปากล่างของนางเบาๆ “ดี..เด็กดี” เขาเอ่ยชื่นชม เมื่อนางยอมอ้าปากหอบหายใจอย่างเชื่อฟัง
หญิงสาวไม่ประสาที่ได้แต่ตัวสั่นพยายามรับมือบุรุษหิวโหย แต่ก็ถูกเขากลืนกินลิ้นของนางอีกครั้ง เขาทั้งกัดทั้งดูดดื่ม สองมือใหญ่ก็คว้าคลึงอกอิ่มของนาง สอดมือเข้าไปด้านในตู้โตวและใช้ปลายนิ้วลูบรอบๆ ยอดอกจนนางตัวสั่นครวญครางผ่านริมฝีปากที่เขายึดครองฟางหลินเฉินพึงพอใจมาก เขายอมปล่อยริมฝีปากระเรื่อให้นางได้หอบหายใจ เลื่อนลงมาดูดเม้มที่คอนุ่มนิ่ม หญิงสาวตัวกลมยังไม่ทันหายใจได้ถึงท้องเขาก็เลื่อนลงมาดื่มยอดถันผ่านตู้โตว“อ๊ะ..!” เสียงหวานครางตกใจเพราะไม่เคยถูกล่วงเกินมากเพียงนี้มาก่อน นางยกมือสั่นขึ้นมาปกปิดเสียงน่าอาย แต่ไม่อาจกลั้นทนความเสียวซ่านที่เขาเลียจนตู้โตวของนางเปียกชุ่มมือใหญ่ข้างหนึ่งเอื้อมมาดึงมืออวบของนางเพราะอยากได้ยินเสียงไพเราะ ทั้งที่อีกมือยังคงบีบยอดถันของนางและยังคงลิ้มเลียยอดชมพูอีกข้างของนางอย่างหิวกระหาย“อืม..คนงาม..ครางหน่อย เสียงคุณเพราะมาก ยังกับเสียงนางฟ้าเลย” เขาขอร้องเสียงแหบพร่าหญิงสาวใต้ร่างของเขาตัวสั่นระริกหอบกระเส่าอย่างน่าสงสาร แต่ฟางหลินเฉินกลับกระตุกเชือกผูกตู้โตวของนางเพื่อเปิดเผยอกอวบ เมื่อเขาดึงตู้โตวของนางออก ชายหนุ่มถึงกับหยุดหายใจซาลาเปาลูกใหญ่ตรงห
ฟางหลินเฉินลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาพบว่าตัวเขานอนอยู่ในห้องที่ถูกตกแต่งด้วยผ้าม่านสีแดงเต็มไปหมด แม้แต่แสงไฟสลัวในห้องก็ยังเป็นสีแดงจางๆ เขากะพริบตาเพื่อไล่ความง่วงงุน แต่ไม่ทันไรเขาก็ได้ยินเสียงสะอื้นไห้เบาๆ เสียงนั้นไพเราะยิ่งเขาหันไปตามเสียงสะอื้นที่พยายามปกปิดไว้ ทันใดหัวใจของฟางหลินเฉินก็เต้นรัวราวกับจะกระดอนออกมาข้างนอกให้ได้ เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะได้พบกับความงดงามบาดลึกลงในใจเช่นนี้“..นางฟ้า” เสียงของเขาแหบพร่าสั่นรัว คล้ายเขาละเมอออกไปโดยไม่รู้ตัวหญิงสาวในชุดแดงเงยหน้าขึ้นมาสบตาฟางหลินเฉิน ท่าทางของนางคล้ายตกใจและนึกไม่ถึงอยู่หกส่วน แต่อีกสี่ส่วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวชั่วขณะที่สายตาของฟางหลินเฉินสบเข้ากับดวงตาคู่นั้น โลกทั้งใบพลันหยุดนิ่ง สรรพเสียงรอบข้างเหมือนถูกกลืนหายไปในลมหายใจติดขัดของสตรีตรงหน้าผีเสื้อนับพันเริ่มโบยบินในท้องของเขา ทุกอย่างรอบตัวลอยละล่องดั่งหมอกยามเช้า เขามองเห็นรายละเอียดทุกอย่างในตัวนางที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงขึ้นดวงตาผลซิ่ง[1]กลมโตเป็นประกายของนาง เขารู้สึกว่ากำลังจ้องมองดาวที่สว่างสดใสที่สุดในท้องฟ้ายามค่ำคืน คราบน้ำตาเล็กๆ ที่มุมหางตากลมทำให้เขารู
ฟางหลินเฉินรู้ตัวอีกที เขาก็พบว่าตัวเขาถูกผูกมัดไว้กับบางสิ่งที่ทั้งเย็นและนุ่มมาก แต่เขาไม่เห็นสิ่งใดมัดเขาทั้งสิ้น และไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่สามารถหลุดออกไปได้ เขามองไปรอบๆ และพบกับบุรุษรูปงามผู้หนึ่ง ชายผู้นั้นคล้ายอายุมากแล้ว แต่กลับยังคงงดงามยิ่งกว่าสตรี ใส่ชุดโบราณรุ่ยร่ายสีดำมืดมิด ในมือถือพู่กันสีทองกำลังนั่งขีดเขียนบางอย่างในพื้นที่ว่างเปล่า และด้านข้างของบุรุษรูปงามนั้นยังมีกระจก หรือจะเรียกให้ถูกคือแอ่งน้ำที่ใสและนิ่งมากจนแทบไม่มีอะไรกระเพื่อม“เอ่อ..คุณครับ” ฟางหลินเฉินเอ่ย“อืม..มาแล้วหรือ” ชายรูปงามตอบโดยไม่มองหน้าเขา“ช่วยแก้มัดได้ไหม ถ้าคุณ..อยากได้เงิน ผมพอมี..แต่ถ้าอยากได้ร่างกาย ..ผมให้ได้มากสุดแค่หอมแก้ม”“...”“ผมสาบานว่าจะไม่บอกใคร” ฟางหลินเฉินพยายามต่อรอง เขาคิดว่าตัวเองถูกแฟนคลับประหลาดที่ใส่ชุดคอสเพลย์จับตัวมาเรียกค่าไถ่ หรือไม่ก็หลงใหลเขาจนทนไม่ได้จึงทำเช่นนี้“สาบานหรือ? ..เจ้าแน่ใจหรือว่าจะไม่พูด?” ในที่สุดบุรุษงดงามก็เงยหน้ามองเขา“ผมไม่พูดแน่นอน” ฟางหลินเฉินรีบยืดยกรับคำ ทั้งที่ในใจคิดไว้ว่าถ้าหลุดออกไปได้จะต้องรีบแจ้งตำรวจให้มาจับคนโรคจิตนี่ให้เร็