หญิงสาวไม่ประสาที่ได้แต่ตัวสั่นพยายามรับมือบุรุษหิวโหย แต่ก็ถูกเขากลืนกินลิ้นของนางอีกครั้ง เขาทั้งกัดทั้งดูดดื่ม สองมือใหญ่ก็คว้าคลึงอกอิ่มของนาง สอดมือเข้าไปด้านในตู้โตวและใช้ปลายนิ้วลูบรอบๆ ยอดอกจนนางตัวสั่นครวญครางผ่านริมฝีปากที่เขายึดครอง
ฟางหลินเฉินพึงพอใจมาก เขายอมปล่อยริมฝีปากระเรื่อให้นางได้หอบหายใจ เลื่อนลงมาดูดเม้มที่คอนุ่มนิ่ม หญิงสาวตัวกลมยังไม่ทันหายใจได้ถึงท้องเขาก็เลื่อนลงมาดื่มยอดถันผ่านตู้โตว
“อ๊ะ..!” เสียงหวานครางตกใจเพราะไม่เคยถูกล่วงเกินมากเพียงนี้มาก่อน นางยกมือสั่นขึ้นมาปกปิดเสียงน่าอาย แต่ไม่อาจกลั้นทนความเสียวซ่านที่เขาเลียจนตู้โตวของนางเปียกชุ่ม
มือใหญ่ข้างหนึ่งเอื้อมมาดึงมืออวบของนางเพราะอยากได้ยินเสียงไพเราะ ทั้งที่อีกมือยังคงบีบยอดถันของนางและยังคงลิ้มเลียยอดชมพูอีกข้างของนางอย่างหิวกระหาย
“อืม..คนงาม..ครางหน่อย เสียงคุณเพราะมาก ยังกับเสียงนางฟ้าเลย” เขาขอร้องเสียงแหบพร่า
หญิงสาวใต้ร่างของเขาตัวสั่นระริกหอบกระเส่าอย่างน่าสงสาร แต่ฟางหลินเฉินกลับกระตุกเชือกผูกตู้โตวของนางเพื่อเปิดเผยอกอวบ เมื่อเขาดึงตู้โตวของนางออก ชายหนุ่มถึงกับหยุดหายใจ
ซาลาเปาลูกใหญ่ตรงหน้าดูราวกับก้อนเมฆที่อ่อนนุ่มที่สุดบนท้องฟ้า ขนาดของมันใหญ่เกือบเท่าลูกบอล แต่ก็ยังคงรักษารูปร่างกลมมนสมบูรณ์แบบ
ผิวของซาลาเปาเนียนเรียบ สีขาวนวลจนแทบอยากเอามือไปสัมผัสดูว่ามันนุ่มแค่ไหน เมื่อกดนิ้วลงเบาๆ ผิวซาลาเปาก็ยุบตัวลงเล็กน้อย ราวกับฟองน้ำที่ยืดหยุ่น พร้อมจะคืนตัวกลับมาอย่างนุ่มนวล
กลิ่นหอมของแป้งหอมลอยอวลอยู่ในอากาศ ทำให้เขารู้สึกน้ำลายสอ เขาก้มลงไปกัดเบาๆ รสชาติที่สัมผัสกับคมฟันเหมือนกับกำลังกอดความนุ่มไว้ในปาก นวลลิ้นและหวานละมุน ซาลาเปาลูกนี้ไม่เพียงแต่ใหญ่โตน่าบีบคลึงขบกัด แต่ยังเต็มไปด้วยความละเมียดละไมในทุกสัมผัสจนเขาละลายอยู่บนอกอวบนั้น
ทุกครั้งที่เขาแลบลิ้นออกไปเลีย ความอบอุ่นจะค่อยๆ แผ่กระจายจากภายในปากของเขาวิ่งไปทั่วร่าง ขับเน้นให้ไฟจากช่วงล่างลุกโหมลามไปยังความแข็งแกร่งของเขา
“อือ..อะ..” หญิงสาวที่ถูกเขาล้อเล่นถึงกับเก็บเสียงไว้ไม่ไหว
“แม่งเอ๊ย..” ฟางหลินเฉินหงุดหงิดเพราะความเจ็บปวดในท้องน้อย เขารีบชันตัวและพยายามถอดเสื้อของเขา แต่ไม่รู้ว่าเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่เป็นอย่างไร เขาจับตรงไหนก็ไม่มีกระดุมหรือซิปให้เปิด ชายหนุ่มจึงกระชากคอเสื้อจนขาดและถอดเสื้อออกอย่างเร่งรีบ
“พรุ่งนี้ผมชดใช้ค่าชุดให้” เขาบอกพร้อมกับดึงเชือกผูกเอวของหญิงสาวและถอดกางเกงของนาง ก่อนจะก้มลงไปดูดดื่มยอดถันชมพู ระหว่างที่เขาถอดกางเกงตัวเอง
“อะ..ท่าน..ท่านพี่”
“ใช่ ข้าคือท่านพี่ของเจ้า..เจ้าช่างน่ารักเหลือเกิน หอมไปทุกส่วน หวานจนละลายในปาก ข้าอยากกลืนกินเจ้าเดี๋ยวนี้..” เขาครางตอบเสียงแหบพร่าอย่างพึงพอใจที่อีกฝ่ายไม่หลุดคาแร็กเตอร์เลย
เขาทนไม่ไหวอีกแล้วจึงลุกขึ้นมองหาถุงยางอนามัยที่ควรมีเตรียมเอาไว้ข้างเตียง แต่กลับพบแต่ผ้าม่านแดงและไม่มีโต๊ะวางใกล้ๆ ไม่มีลิ้นชักที่ใส่ถุงยางอนามัยยามจำเป็น
“พวกคุณเก็บคอนด้อมไว้ตรงไหน” เขาหันมาถามหญิงสาว
“เอ่อ..ข้า..” หญิงสาวที่สั่นระริกอยู่ใต้ร่างของเขามองอย่างงุนงง คล้ายไม่เข้าใจว่าเขาพูดอะไร
“ถุงยางไง..คุณ..เอ่อ เจ้าไม่ได้เตรียมไว้หรือ” เขาถามอีก
“ข้า..คือ..ข้าไม่ทราบ ข้า..ขออภัยเจ้าค่ะ ข้า..” นางพยายามลุกขึ้นมาเพื่อขอโทษเขา แต่ท่าทางสั่นระริกและแววตาหวาดกลัวของนางทำหัวใจของเขาบีบรัดละลายจนต้องยอมแพ้
เขาทนไม่ไหวอีกแล้ว!!
“ช่างแม่ง..” เขาสบถ พร้อมกับจับขาอวบอัดของหญิงงามดึงเพื่อให้นางล้มตัวลงอีกครั้ง
“อ๊ะ!..ท่านพี่!”
“พรุ่งนี้ท่านพี่ค่อยซื้อยาให้นะ ขอสดเถอะ” เขาก้มลงมาชิดริมฝีปากของหญิงสาวและกระซิบ สองมือจับข้อเท้าของนางกางออก พร้อมกับเบียดตัวเขาเข้าไปอยู่ตรงกลาง
“เอ๊ะ!! อ๊ะ!!!..อา...” ทันทีที่เขาจับข้อเท้าอวบของหญิงสาว นางก็เริ่มครางและพยายามดึงเท้ากลับ ลมหายใจติดขัดน่าสงสารและสั่นเทาไปทั้งร่าง
“อะไรกัน จุดเสียวอยู่ที่ข้อเท้าเหรอ” ฟางหลินเฉินยิ้มอย่างพึงพอใจและกอดขาแน่นนุ่มมือของนางไว้ ดึงเท้าของนางขึ้นไปจรดริมฝีปากของเขา
“อ๊ะ..ท่านพี่!! อย่าเจ้าค่ะ..” เสียงไพเราะร้องประท้วง นางพยายามเอื้อมมือสั่นๆ ออกไปผลักมือของเขาทิ้ง แต่เขาก็กอดขาของนางไว้แน่นและเริ่มจุมพิตไปตามข้อเท้าของนาง
“อื้ม!!” หญิงสาวตัวสั่นระริก
ฟางหลินเฉินพึงพอใจมาก เขาทั้งจูบและตวัดลิ้นไปรอบๆ ข้อเท้า มือหนึ่งกอดขานางไว้ อีกมือจับแท่งหยกร้อนพยายามดันความแข็งของตัวเองถูรอบซิ่วฉิว[1]ฉ่ำน้ำของนาง
เขาพยายามขยับตัวเองเพื่อเปิดเส้นทางเข้าสู่ทางน้ำหลั่งริน แต่ดันอย่างไรก็ช่างยากเย็น นางฟ้าของเขาก็ตัวสั่นสะท้านครางเสียงหวานทรมานความต้องการของเขา
ฟางหลินเฉินตัดสินใจโน้มตัวไปด้านหน้า ดันขาของนางให้เปิดกว้างขึ้น และแทรกตัวเข้าสู่กลีบซิ่วฉิวบดขยี้แท่งหยกร้อนของเขาลงไปสุดแรง
“อ้า!!..” หญิงสาวร้องเสียงหลงอย่างไม่อาจควบคุม นางคล้ายเจ็บจนแทบทนไม่ไหว
แต่ความรัดแน่นในช่องอวบอิ่มและเสียงร้องของนางกลับยิ่งผลักเขาให้ต้องการมากยิ่งขึ้น เขาตัวสั่นและบดเบียดความแข็งโถมขยี้ให้ลึกขึ้น ก่อนจะดึงออกและโถมเข้าไปใหม่ อีกครั้งและอีกครั้ง
“อ้า..อา อะ อ้า อ๊ะ อา..” เสียงครวญครางที่ไม่อาจเก็บซ่อนของหญิงสาวถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อให้เขาคลั่งยิ่งขึ้น ฟางหลินเฉินไม่คิดอ่อนโยน เขาเพียงต้องการพาตัวเองไปสู่ยอดเขาไท่ซาน นำตัวเองปลดปล่อยนมอุ่นร้อนเพื่อคลายกำหนัด
“อะ..อื้ม..อือ อ้า..อา”
“ใช่ ร้องอีกสิ น่ารักมากเลย อา..” เขาโถมกระหน่ำตัวเองล่วงล้ำเข้าสู่ทางน้ำใสของนางซ้ำๆ กระแทกกระทั้นจนสายน้ำของหญิงสาวแตกกระจาย ส่งเสียงเปียกแฉะระคนเสียงครางของนาง
“อ้า..อือ อา อา”
“น่ารักจัง น่ารัก อ้า..บ้าเอ๊ย” เขาเห็นใบหน้ากลมหลับตาแน่น สองแก้มแดงก่ำ นางอ้าปากเพื่อร้องหอบทุรนทุราย เห็นลิ้นแดงเล็กๆ ของนางสั่นระริก และมีหยดน้ำที่ขอบตา
[1]ซิ่วฉิว หมายถึง ลูกบอลแพรปัก เป็นสัญลักษณ์มงคลอย่างหนึ่งของจีน เป็นลูกบอลที่ใช้ในงานมงคลเกี่ยวกับความรักและการครองคู่ เช่นโยนลูกบอลผ้าแพรเพื่อเลือกคู่ และระหว่างที่คู่บ่าวสาวทำพิธีกราบไหว้ฟ้าดินก็จะถือผ้าสีแดงที่ผูกตรงกลางเป็นลูกทรงกลม ซึ่งก็คือซิ่วฉิวนั่นเอง
ฟางหลินเฉินเป็นบุรุษที่ผ่านสมรภูมิบนเตียงมามาก วันนี้เขายอมรับกับตัวเองว่าหญิงสาวใต้ร่างคนนี้ ถูกใจเขาไปเสียทุกอย่าง แม้แต่ยามที่นางควบคุมตัวเองไม่อยู่ สุขสมจนหน้าแดงก่ำสายตาเหลือกกลับ นางยังคงดูน่ารัก ขณะที่นางคว้าจับผ้าปูที่นอนไว้แน่น สองมืออวบของนางก็ยังน่ามองสำหรับเขา“อ้า..อา ไม่..ไม่..อ้า!” หลิวลี่อินรู้สึกใกล้ลอยไปถึงขอบฟ้าทุกขณะ ความร้อนแรงของสัมผัสที่สอดประสานกันแผดเผาราวกับเปลวไฟที่ลุกโชน นางแทบจะหยุดหายใจเมื่อเขากัดที่ข้อเท้าและกระทุ้งเข้ามาในตัวนางลึกสุดครั้งแล้วครั้งเล่าฟางหลินเฉินรู้สึกถึงการบีบรัดในช่องแคบ เขาจึงขยับสะโพกให้เร็วขึ้นและแรงขึ้น จนตัวเขาเองก็ใกล้ถึงจุดระเบิดความเสียวซ่านเพราะนางบีบแน่นเหลือเกิน แต่ยังคงพยายามอดทนเพื่อพานางฟ้าแสนน่ารักไปให้ถึงยอดเมฆาเสียก่อน“อ๊ะ อ้า ๆ ๆ....” เสียงกรีดร้องอย่างไร้สติดังออกมา สายน้ำแห่งความสุขสันต์พุ่งกระแทกตัวของเขาและแตกออกราวกับน้ำพุคลั่ง หญิงสาวร่างอวบอ้วนตัวสั่นสะท้าน แอ่นอกขึ้นและหลับตาแน่นกัดฟัน ปลายเท้าของนางสั่นอย่างรุนแรงคล้ายไม่อาจควบคุมใกล้ริมฝีปากของเขาฟางหลินเฉินแทบคลั่งเมื่อสายน้ำรักของนางพรั่งพรูออกมาจากช่อ
“เจ้าชื่ออะไร” ฟางหลินเฉินโยนผ้าแพรทิ้งและก้มลงมาจุมพิตริมฝีปากของหญิงสาว เอ่ยถามเรื่องสำคัญ ทั้งที่ปกติเขาจะไม่ถามชื่อของใครเวลาทำเรื่องพวกนี้ แต่นางฟ้าตรงหน้าทำให้เขาอดใจไม่ได้จริงๆ เขาอยากรู้จักนางมากขึ้น“ข้า..คือ ท่านไม่รู้หรือ” หญิงสาวมองเขาและขมวดคิ้วด้วยความไม่แน่ใจ เขาไม่รู้จักชื่อของนางจริงหรือ“หือ?..” เขายังคงถูริมฝีปากไปมาแผ่วเบาบนริมฝีปากของนางอย่างหลงใหล“ข้า หลิวลี่อิน[1]เจ้าค่ะ” นางได้แต่คิดว่าเขาอาจกำลังสับสน“อือ ไพเราะจัง เหมือนเสียงของเจ้าเลย” เขาพูดและแนบจุมพิตลงไปบนปากระเรื่อแรงๆ หนึ่งครั้ง “เอ่อ..ขอบ..ขอบคุณเจ้าค่ะ” หญิงสาวใบหน้าแดงก่ำกับคำชื่นชมนั้น นางคิดว่าเขารังเกียจนางมาโดยตลอด ที่แท้เขาทั้งอ่อนโยนและชื่นชมนาง หรือเขาเพียงกลั่นแกล้ง นางไม่อาจรู้ แต่รู้เพียงยามนี้ในอกของนางสุขสมมากล้นด้วยความอบอุ่น เท่านี้ก็เพียงพอ“ข้าจะเบามือ เราลองกันใหม่อีกครั้งนะ ข้าสัญญาจะทำให้เจ้ารู้สึกดี ไม่เจ็บปวดอีก” ฟางหลินเฉินเงยหน้าขึ้นมามองสบตากลมโตคล้ายผลซิ่ง[2]ของหลิวลี่อิน “ลองใหม่..อะไรเจ้าคะ” นางถามด้วยความไร้เดียงสา“ฮึ..ก็..” เขาจับมืออวบอ้วนของหญิงสาวลงไปบีบคลึงแท่งห
ฟางหลินเฉินยอมปล่อยมือจากขาอวบ ก้มลงมาจูบดูดดื่มลิ้นแดงน่ารัก และกอดไหล่เนียนของนางเอาไว้แน่น ระหว่างที่เขาฝังแท่งหยกร้อนเสียดสีแผดเผาร่องฉ่ำน้ำเสียงเตียงดังสนั่นตามแรงกระแทกของชายหนุ่ม เขาก้มลงไปกัดไหล่นวลฝังเขี้ยวของเขาลงในเนื้อแน่นสุดแรง ขยับสะโพกของเขาขึ้นลงอย่างเร็วเร่ง ในที่สุดความสุขล้นปรี่ก็ปลดปล่อยใส่ธารน้ำคับแคบของหญิงสาว เขาคำรามออกมาผ่านเนื้อนุ่มที่กัด ร่างกายของเขาสั่นสะท้านเพราะการปลดปล่อย สองมือใหญ่กอดร่างแน่นนิ่มไว้ แม้จะไปถึงยอดเขาแล้วแต่ฟางหลินเฉินยังคงขยับนวดคลึงแท่งหยกร้อนของเขาเบาๆ เพื่อคงระยะเวลาแห่งความสุขสันต์ไว้ให้นานขึ้น เมื่อเขารีดนมขาวขุ่นของตัวเองออกมาจนแทบทุกหยด ในที่สุดเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวสั่นเทาใต้ร่างของเขา เขาคาดว่าจะได้เห็นสีหน้าสุขสมแต่กลับเห็นเพียงใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด นางกัดริมฝีปากตัวเองไว้แรงจนแทบห้อเลือด“แม่นาง!” เขารีบชันศอก เอื้อมมือออกไปแตะริมฝีปากสีชาด “อย่ากัด..อย่ากัดตัวเอง เจ็บมากใช่ไหม..หายใจ อย่ากัดตัวเอง” เขาใช้นิ้วโป้งดึงริมฝีปากล่างของนางเบาๆ “ดี..เด็กดี” เขาเอ่ยชื่นชม เมื่อนางยอมอ้าปากหอบหายใจอย่างเชื่อฟัง
หญิงสาวไม่ประสาที่ได้แต่ตัวสั่นพยายามรับมือบุรุษหิวโหย แต่ก็ถูกเขากลืนกินลิ้นของนางอีกครั้ง เขาทั้งกัดทั้งดูดดื่ม สองมือใหญ่ก็คว้าคลึงอกอิ่มของนาง สอดมือเข้าไปด้านในตู้โตวและใช้ปลายนิ้วลูบรอบๆ ยอดอกจนนางตัวสั่นครวญครางผ่านริมฝีปากที่เขายึดครองฟางหลินเฉินพึงพอใจมาก เขายอมปล่อยริมฝีปากระเรื่อให้นางได้หอบหายใจ เลื่อนลงมาดูดเม้มที่คอนุ่มนิ่ม หญิงสาวตัวกลมยังไม่ทันหายใจได้ถึงท้องเขาก็เลื่อนลงมาดื่มยอดถันผ่านตู้โตว“อ๊ะ..!” เสียงหวานครางตกใจเพราะไม่เคยถูกล่วงเกินมากเพียงนี้มาก่อน นางยกมือสั่นขึ้นมาปกปิดเสียงน่าอาย แต่ไม่อาจกลั้นทนความเสียวซ่านที่เขาเลียจนตู้โตวของนางเปียกชุ่มมือใหญ่ข้างหนึ่งเอื้อมมาดึงมืออวบของนางเพราะอยากได้ยินเสียงไพเราะ ทั้งที่อีกมือยังคงบีบยอดถันของนางและยังคงลิ้มเลียยอดชมพูอีกข้างของนางอย่างหิวกระหาย“อืม..คนงาม..ครางหน่อย เสียงคุณเพราะมาก ยังกับเสียงนางฟ้าเลย” เขาขอร้องเสียงแหบพร่าหญิงสาวใต้ร่างของเขาตัวสั่นระริกหอบกระเส่าอย่างน่าสงสาร แต่ฟางหลินเฉินกลับกระตุกเชือกผูกตู้โตวของนางเพื่อเปิดเผยอกอวบ เมื่อเขาดึงตู้โตวของนางออก ชายหนุ่มถึงกับหยุดหายใจซาลาเปาลูกใหญ่ตรงห
ฟางหลินเฉินลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาพบว่าตัวเขานอนอยู่ในห้องที่ถูกตกแต่งด้วยผ้าม่านสีแดงเต็มไปหมด แม้แต่แสงไฟสลัวในห้องก็ยังเป็นสีแดงจางๆ เขากะพริบตาเพื่อไล่ความง่วงงุน แต่ไม่ทันไรเขาก็ได้ยินเสียงสะอื้นไห้เบาๆ เสียงนั้นไพเราะยิ่งเขาหันไปตามเสียงสะอื้นที่พยายามปกปิดไว้ ทันใดหัวใจของฟางหลินเฉินก็เต้นรัวราวกับจะกระดอนออกมาข้างนอกให้ได้ เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะได้พบกับความงดงามบาดลึกลงในใจเช่นนี้“..นางฟ้า” เสียงของเขาแหบพร่าสั่นรัว คล้ายเขาละเมอออกไปโดยไม่รู้ตัวหญิงสาวในชุดแดงเงยหน้าขึ้นมาสบตาฟางหลินเฉิน ท่าทางของนางคล้ายตกใจและนึกไม่ถึงอยู่หกส่วน แต่อีกสี่ส่วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวชั่วขณะที่สายตาของฟางหลินเฉินสบเข้ากับดวงตาคู่นั้น โลกทั้งใบพลันหยุดนิ่ง สรรพเสียงรอบข้างเหมือนถูกกลืนหายไปในลมหายใจติดขัดของสตรีตรงหน้าผีเสื้อนับพันเริ่มโบยบินในท้องของเขา ทุกอย่างรอบตัวลอยละล่องดั่งหมอกยามเช้า เขามองเห็นรายละเอียดทุกอย่างในตัวนางที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงขึ้นดวงตาผลซิ่ง[1]กลมโตเป็นประกายของนาง เขารู้สึกว่ากำลังจ้องมองดาวที่สว่างสดใสที่สุดในท้องฟ้ายามค่ำคืน คราบน้ำตาเล็กๆ ที่มุมหางตากลมทำให้เขารู
ฟางหลินเฉินรู้ตัวอีกที เขาก็พบว่าตัวเขาถูกผูกมัดไว้กับบางสิ่งที่ทั้งเย็นและนุ่มมาก แต่เขาไม่เห็นสิ่งใดมัดเขาทั้งสิ้น และไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่สามารถหลุดออกไปได้ เขามองไปรอบๆ และพบกับบุรุษรูปงามผู้หนึ่ง ชายผู้นั้นคล้ายอายุมากแล้ว แต่กลับยังคงงดงามยิ่งกว่าสตรี ใส่ชุดโบราณรุ่ยร่ายสีดำมืดมิด ในมือถือพู่กันสีทองกำลังนั่งขีดเขียนบางอย่างในพื้นที่ว่างเปล่า และด้านข้างของบุรุษรูปงามนั้นยังมีกระจก หรือจะเรียกให้ถูกคือแอ่งน้ำที่ใสและนิ่งมากจนแทบไม่มีอะไรกระเพื่อม“เอ่อ..คุณครับ” ฟางหลินเฉินเอ่ย“อืม..มาแล้วหรือ” ชายรูปงามตอบโดยไม่มองหน้าเขา“ช่วยแก้มัดได้ไหม ถ้าคุณ..อยากได้เงิน ผมพอมี..แต่ถ้าอยากได้ร่างกาย ..ผมให้ได้มากสุดแค่หอมแก้ม”“...”“ผมสาบานว่าจะไม่บอกใคร” ฟางหลินเฉินพยายามต่อรอง เขาคิดว่าตัวเองถูกแฟนคลับประหลาดที่ใส่ชุดคอสเพลย์จับตัวมาเรียกค่าไถ่ หรือไม่ก็หลงใหลเขาจนทนไม่ได้จึงทำเช่นนี้“สาบานหรือ? ..เจ้าแน่ใจหรือว่าจะไม่พูด?” ในที่สุดบุรุษงดงามก็เงยหน้ามองเขา“ผมไม่พูดแน่นอน” ฟางหลินเฉินรีบยืดยกรับคำ ทั้งที่ในใจคิดไว้ว่าถ้าหลุดออกไปได้จะต้องรีบแจ้งตำรวจให้มาจับคนโรคจิตนี่ให้เร็