ฟางหลินเฉินยอมปล่อยมือจากขาอวบ ก้มลงมาจูบดูดดื่มลิ้นแดงน่ารัก และกอดไหล่เนียนของนางเอาไว้แน่น ระหว่างที่เขาฝังแท่งหยกร้อนเสียดสีแผดเผาร่องฉ่ำน้ำ
เสียงเตียงดังสนั่นตามแรงกระแทกของชายหนุ่ม เขาก้มลงไปกัดไหล่นวลฝังเขี้ยวของเขาลงในเนื้อแน่นสุดแรง ขยับสะโพกของเขาขึ้นลงอย่างเร็วเร่ง ในที่สุดความสุขล้นปรี่ก็ปลดปล่อยใส่ธารน้ำคับแคบของหญิงสาว เขาคำรามออกมาผ่านเนื้อนุ่มที่กัด ร่างกายของเขาสั่นสะท้านเพราะการปลดปล่อย
สองมือใหญ่กอดร่างแน่นนิ่มไว้ แม้จะไปถึงยอดเขาแล้วแต่ฟางหลินเฉินยังคงขยับนวดคลึงแท่งหยกร้อนของเขาเบาๆ เพื่อคงระยะเวลาแห่งความสุขสันต์ไว้ให้นานขึ้น
เมื่อเขารีดนมขาวขุ่นของตัวเองออกมาจนแทบทุกหยด ในที่สุดเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวสั่นเทาใต้ร่างของเขา เขาคาดว่าจะได้เห็นสีหน้าสุขสมแต่กลับเห็นเพียงใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด นางกัดริมฝีปากตัวเองไว้แรงจนแทบห้อเลือด
“แม่นาง!” เขารีบชันศอก เอื้อมมือออกไปแตะริมฝีปากสีชาด
“อย่ากัด..อย่ากัดตัวเอง เจ็บมากใช่ไหม..หายใจ อย่ากัดตัวเอง” เขาใช้นิ้วโป้งดึงริมฝีปากล่างของนางเบาๆ
“ดี..เด็กดี” เขาเอ่ยชื่นชม เมื่อนางยอมอ้าปากหอบหายใจอย่างเชื่อฟัง
จากนั้นเขาก็ก้มลงไปจูบริมฝีปากล่างที่นางกัดจนห้อเลือด ลิ้นอุ่นตวัดชิมบางเบา เขาหมุนลิ้นเป็นวงกลมรอบๆ รอยกัดเพื่อบรรเทาความเจ็บให้นาง
“เจ็บมากไหม” เขาถามเสียงเบาระหว่างที่ยังคงลิ้มเลีย
“เอ่อ..ไม่ ไม่แล้วเจ้าค่ะ” เสียงกระซิบตอบจากหญิงสาว นางตัวสั่นเทาเพราะความเจ็บที่อื่น แต่เขากลับคิดว่านางเจ็บเพราะถูกกัด
“อืม..” เขาก้มลงมาตวัดลิ้นรอบรอยกัดบนไหล่เนียน บริเวณที่เขาเป็นคนกัดเอง ยามนี้ก็เริ่มแดงช้ำแล้วเช่นกัน แต่เขาก็เลียรอบรอยกัดต่อไป ราวกับการทำเช่นนั้นจะช่วยบรรเทาความเจ็บได้จริง
“ท่าน..ท่านพี่ ข้าไม่เจ็บแล้วเจ้าค่ะ” แม้นางจะยังเจ็บระหว่างขาทุกครั้งที่เขาขยับตัว และการเลียเช่นนั้นก็ไม่ได้ทำให้นางหายเจ็บบนรอยกัด แต่นางกลับรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างประหลาด
“ครับ..ผมแค่รู้สึกว่าคุณหวานมาก” เขายิ้มที่มุมปากแล้วลากลิ้นเปียกลงมาเลียบนฐานอกอวบอ้วนต่อไป
“ฮือ..อา เอ่อ..ท่าน ท่านพี่” เสียงหวานร้องประท้วงเบาๆ นางยกมือมาต้องการจะผลักใบหน้าของเขา แต่นางกลับลังเลไม่กล้าวางมือไปสัมผัส
ฟางหลินเฉินเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มจนตาหยีย่น เขารู้สึกว่านางฟ้าคนนี้ช่างขี้อายจนน่ารักน่าสงสาร ชายหนุ่มจึงยื่นมือไปจับมือของนางและแนบไปบนแก้มของเขา
“ข้าเป็นของน้องหญิง เจ้าสามารถแตะต้อง จับ และกัดได้ตามชอบ” ในเมื่อหญิงสาวยังคงคีบคาแรกเตอร์เรียกเขาว่าท่านพี่ เขาก็เล่นตามบทและเรียกนางว่าน้องหญิง
เมื่อฝ่ามืออวบอิ่มของนางลูบไปบนแก้มของเขา แววตากลมโตก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย นางอ้าปากพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ จ้องมองฝ่ามือของตัวเองที่กำลังสัมผัสแก้มของชายหนุ่ม จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปสบตากับเขา
ฟางหลินเฉินคล้ายได้เห็นดวงดาวกำลังเต้นระบำสั่นระริกอยู่ไหนแววตาของหญิงสาว เขากล้าพูดได้ว่านางมองเขาด้วยความเคารพและบูชา ราวกับคลั่งไคล้หลงใหลเขาอย่างมาก และมีบางส่วนคล้ายไม่มั่นใจแต่ก็ยังชื่นชมเขา
“ใช่แล้วน้องหญิง ข้าเป็นของเจ้า”
“ข้า..ข้าเป็นฮูหยินของท่านแล้ว..ใช่หรือไม่” นางถามด้วยความใสซื่อ ตากลมโตยังคงมองเขาไม่วางตา
“เจ้าเป็นฮูหยินของข้า และข้าเป็นสามีของเจ้า..ในคืนนี้” เขายิ้มและดึงฝ่ามือของนางมาจูบเบาๆ
เขาเพียงพูดเพราะต้องการเล่นตามบทบาทสมมุติบนเตียงเพียงหนึ่งค่ำคืน แต่ไม่รู้ว่าหญิงสาวคิดอะไร นางยิ้มออกมาอย่างน่ามอง แววตาเต็มไปด้วยความสุข มีน้ำตาคลอเล็กน้อยที่หางตา ยิ่งขับให้นางงดงามขึ้นอีกหลายร้อยเท่า
“ฮูหยิน..” ฟางหลินเฉินมองด้วยความหลงใหล เขาจูบริมฝีปากของหญิงสาวเบาๆ ก่อนจะชันตัวลุกขึ้นเพราะอยากรีบล้างตัวและต่อรอบสอง
ช่วงจังหวะที่เขากำลังดึงแท่งหยกอ่อนนุ่มของตัวเองออกมา เขาก็ได้เห็นความจริงที่ทำให้หญิงสาวเจ็บปวด นางยังบริสุทธิ์อยู่ และเขาเป็นคนแรกของนาง!..
ฟางหลินเฉินตัวแข็งทื่อ เขารู้แล้วว่าเหตุใดหญิงสาวจึงดูขี้อายนัก ทั้งที่ทำงานเช่นนี้ หัวใจของเขาอ่อนยวบ แอบตำหนิผู้จัดการของเขาที่จัดหญิงสาวไม่รู้งานมาให้
เขารู้สึกผิดเล็กน้อย เพราะอย่างไรเขาก็คิดว่าครั้งแรกควรมอบให้คนรักดีกว่า อย่างน้อยนางฟ้าน่ารักจะได้ไม่เสียใจ แต่สายตายกย่องของหญิงสาวที่กำลังมองเขาอยู่ก็ทำให้เขารู้สึกว่านางอาจรักเขา และยอมพาตัวเองมามีความสุขกับเขา แม้จะชั่วค่ำคืนนางก็ยอม
เมื่อคิดดูว่าเขาอาจกำลังมีเซ็กกับแฟนคลับเขาก็รู้สึกผิดมากขึ้น เขาไม่ชอบมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับแฟนคลับมากเกินจำเป็น เพราะอาจมีผลเสียตามมาทีหลัง และพวกแฟนคลับที่คลั่งไคล้มากๆ ก็มักจะทำใจไม่ได้เมื่อทุกอย่างจบลงในวันรุ่งขึ้น
แต่ท่าทางน่ารักน่าทะนุถนอมของหญิงสาว ก็ทำให้ฟางหลินเฉินทำใจปล่อยนางไปไม่ได้ เขารู้ว่าไม่ควร แต่นางฟ้าที่แทบหลุดออกมาจากจินตนาการของเขาอยู่ตรงหน้า เขาจะปล่อยไปได้ยังไง
“ขอโทษนะ ผมไม่รู้ว่าคุณยัง..ว่านี่เป็นครั้งแรกของคุณ เมื่อครู่เลยรุนแรงไป เดี๋ยวผมจะทำใหม่ให้อ่อนโยนขึ้น ดีไหม..” เขาลูบแก้มกลมของนางเบาๆ ระหว่างที่ถอนตัวเองออกมา
“เอ่อ..เจ้าค่ะ” นางฟังเขาไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็ยินดีเชื่อฟังเขาทุกอย่าง
ฟางหลินเฉินเพียงหยิบผ้าแพรเนื้อนุ่มที่อยู่ข้างหัวเตียงมาเช็ดซิ่วฉิวอวบอูมของหญิงสาว ซึ่งปล่อยคราบน้ำรักของเขาผสมกับเลือดเล็กน้อยของนางออกมา เขาเช็ดอย่างเบามือ จ้องมองสายตาเขินอายที่มองมายังเขาอยู่ตลอดเวลา หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่นแปลกๆ
“ท่านพี่ ท่านไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ข้าจะปรนนิบัติท่านเองเจ้าค่ะ” หญิงสาวเอ่ยด้วยความขัดเขิน ระหว่างที่อ้าขาให้เขาเช็ดทำความสะอาดให้
“ฮูหยิน..ข้าต้องดูแลเจ้าอย่างดี” เขายิ้มตอบ ระหว่างที่ใช้ผ้าเช็ดคราบเลือดและคราบน้ำนมสีขุ่นบนแท่งหยกของเขา
“เอ่อ..ขอบคุณเจ้าค่ะ” นางค่อยๆ ปิดขาเข้าด้วยกันและมองไปทางอื่น สองแก้มกลมแดงก่ำ คล้ายนางไม่กล้ามองเขาตรงๆ
ฟางหลินเฉินเป็นบุรุษที่ผ่านสมรภูมิบนเตียงมามาก วันนี้เขายอมรับกับตัวเองว่าหญิงสาวใต้ร่างคนนี้ ถูกใจเขาไปเสียทุกอย่าง แม้แต่ยามที่นางควบคุมตัวเองไม่อยู่ สุขสมจนหน้าแดงก่ำสายตาเหลือกกลับ นางยังคงดูน่ารัก ขณะที่นางคว้าจับผ้าปูที่นอนไว้แน่น สองมืออวบของนางก็ยังน่ามองสำหรับเขา“อ้า..อา ไม่..ไม่..อ้า!” หลิวลี่อินรู้สึกใกล้ลอยไปถึงขอบฟ้าทุกขณะ ความร้อนแรงของสัมผัสที่สอดประสานกันแผดเผาราวกับเปลวไฟที่ลุกโชน นางแทบจะหยุดหายใจเมื่อเขากัดที่ข้อเท้าและกระทุ้งเข้ามาในตัวนางลึกสุดครั้งแล้วครั้งเล่าฟางหลินเฉินรู้สึกถึงการบีบรัดในช่องแคบ เขาจึงขยับสะโพกให้เร็วขึ้นและแรงขึ้น จนตัวเขาเองก็ใกล้ถึงจุดระเบิดความเสียวซ่านเพราะนางบีบแน่นเหลือเกิน แต่ยังคงพยายามอดทนเพื่อพานางฟ้าแสนน่ารักไปให้ถึงยอดเมฆาเสียก่อน“อ๊ะ อ้า ๆ ๆ....” เสียงกรีดร้องอย่างไร้สติดังออกมา สายน้ำแห่งความสุขสันต์พุ่งกระแทกตัวของเขาและแตกออกราวกับน้ำพุคลั่ง หญิงสาวร่างอวบอ้วนตัวสั่นสะท้าน แอ่นอกขึ้นและหลับตาแน่นกัดฟัน ปลายเท้าของนางสั่นอย่างรุนแรงคล้ายไม่อาจควบคุมใกล้ริมฝีปากของเขาฟางหลินเฉินแทบคลั่งเมื่อสายน้ำรักของนางพรั่งพรูออกมาจากช่อ
“เจ้าชื่ออะไร” ฟางหลินเฉินโยนผ้าแพรทิ้งและก้มลงมาจุมพิตริมฝีปากของหญิงสาว เอ่ยถามเรื่องสำคัญ ทั้งที่ปกติเขาจะไม่ถามชื่อของใครเวลาทำเรื่องพวกนี้ แต่นางฟ้าตรงหน้าทำให้เขาอดใจไม่ได้จริงๆ เขาอยากรู้จักนางมากขึ้น“ข้า..คือ ท่านไม่รู้หรือ” หญิงสาวมองเขาและขมวดคิ้วด้วยความไม่แน่ใจ เขาไม่รู้จักชื่อของนางจริงหรือ“หือ?..” เขายังคงถูริมฝีปากไปมาแผ่วเบาบนริมฝีปากของนางอย่างหลงใหล“ข้า หลิวลี่อิน[1]เจ้าค่ะ” นางได้แต่คิดว่าเขาอาจกำลังสับสน“อือ ไพเราะจัง เหมือนเสียงของเจ้าเลย” เขาพูดและแนบจุมพิตลงไปบนปากระเรื่อแรงๆ หนึ่งครั้ง “เอ่อ..ขอบ..ขอบคุณเจ้าค่ะ” หญิงสาวใบหน้าแดงก่ำกับคำชื่นชมนั้น นางคิดว่าเขารังเกียจนางมาโดยตลอด ที่แท้เขาทั้งอ่อนโยนและชื่นชมนาง หรือเขาเพียงกลั่นแกล้ง นางไม่อาจรู้ แต่รู้เพียงยามนี้ในอกของนางสุขสมมากล้นด้วยความอบอุ่น เท่านี้ก็เพียงพอ“ข้าจะเบามือ เราลองกันใหม่อีกครั้งนะ ข้าสัญญาจะทำให้เจ้ารู้สึกดี ไม่เจ็บปวดอีก” ฟางหลินเฉินเงยหน้าขึ้นมามองสบตากลมโตคล้ายผลซิ่ง[2]ของหลิวลี่อิน “ลองใหม่..อะไรเจ้าคะ” นางถามด้วยความไร้เดียงสา“ฮึ..ก็..” เขาจับมืออวบอ้วนของหญิงสาวลงไปบีบคลึงแท่งห
ฟางหลินเฉินยอมปล่อยมือจากขาอวบ ก้มลงมาจูบดูดดื่มลิ้นแดงน่ารัก และกอดไหล่เนียนของนางเอาไว้แน่น ระหว่างที่เขาฝังแท่งหยกร้อนเสียดสีแผดเผาร่องฉ่ำน้ำเสียงเตียงดังสนั่นตามแรงกระแทกของชายหนุ่ม เขาก้มลงไปกัดไหล่นวลฝังเขี้ยวของเขาลงในเนื้อแน่นสุดแรง ขยับสะโพกของเขาขึ้นลงอย่างเร็วเร่ง ในที่สุดความสุขล้นปรี่ก็ปลดปล่อยใส่ธารน้ำคับแคบของหญิงสาว เขาคำรามออกมาผ่านเนื้อนุ่มที่กัด ร่างกายของเขาสั่นสะท้านเพราะการปลดปล่อย สองมือใหญ่กอดร่างแน่นนิ่มไว้ แม้จะไปถึงยอดเขาแล้วแต่ฟางหลินเฉินยังคงขยับนวดคลึงแท่งหยกร้อนของเขาเบาๆ เพื่อคงระยะเวลาแห่งความสุขสันต์ไว้ให้นานขึ้น เมื่อเขารีดนมขาวขุ่นของตัวเองออกมาจนแทบทุกหยด ในที่สุดเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวสั่นเทาใต้ร่างของเขา เขาคาดว่าจะได้เห็นสีหน้าสุขสมแต่กลับเห็นเพียงใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด นางกัดริมฝีปากตัวเองไว้แรงจนแทบห้อเลือด“แม่นาง!” เขารีบชันศอก เอื้อมมือออกไปแตะริมฝีปากสีชาด “อย่ากัด..อย่ากัดตัวเอง เจ็บมากใช่ไหม..หายใจ อย่ากัดตัวเอง” เขาใช้นิ้วโป้งดึงริมฝีปากล่างของนางเบาๆ “ดี..เด็กดี” เขาเอ่ยชื่นชม เมื่อนางยอมอ้าปากหอบหายใจอย่างเชื่อฟัง
หญิงสาวไม่ประสาที่ได้แต่ตัวสั่นพยายามรับมือบุรุษหิวโหย แต่ก็ถูกเขากลืนกินลิ้นของนางอีกครั้ง เขาทั้งกัดทั้งดูดดื่ม สองมือใหญ่ก็คว้าคลึงอกอิ่มของนาง สอดมือเข้าไปด้านในตู้โตวและใช้ปลายนิ้วลูบรอบๆ ยอดอกจนนางตัวสั่นครวญครางผ่านริมฝีปากที่เขายึดครองฟางหลินเฉินพึงพอใจมาก เขายอมปล่อยริมฝีปากระเรื่อให้นางได้หอบหายใจ เลื่อนลงมาดูดเม้มที่คอนุ่มนิ่ม หญิงสาวตัวกลมยังไม่ทันหายใจได้ถึงท้องเขาก็เลื่อนลงมาดื่มยอดถันผ่านตู้โตว“อ๊ะ..!” เสียงหวานครางตกใจเพราะไม่เคยถูกล่วงเกินมากเพียงนี้มาก่อน นางยกมือสั่นขึ้นมาปกปิดเสียงน่าอาย แต่ไม่อาจกลั้นทนความเสียวซ่านที่เขาเลียจนตู้โตวของนางเปียกชุ่มมือใหญ่ข้างหนึ่งเอื้อมมาดึงมืออวบของนางเพราะอยากได้ยินเสียงไพเราะ ทั้งที่อีกมือยังคงบีบยอดถันของนางและยังคงลิ้มเลียยอดชมพูอีกข้างของนางอย่างหิวกระหาย“อืม..คนงาม..ครางหน่อย เสียงคุณเพราะมาก ยังกับเสียงนางฟ้าเลย” เขาขอร้องเสียงแหบพร่าหญิงสาวใต้ร่างของเขาตัวสั่นระริกหอบกระเส่าอย่างน่าสงสาร แต่ฟางหลินเฉินกลับกระตุกเชือกผูกตู้โตวของนางเพื่อเปิดเผยอกอวบ เมื่อเขาดึงตู้โตวของนางออก ชายหนุ่มถึงกับหยุดหายใจซาลาเปาลูกใหญ่ตรงห
ฟางหลินเฉินลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาพบว่าตัวเขานอนอยู่ในห้องที่ถูกตกแต่งด้วยผ้าม่านสีแดงเต็มไปหมด แม้แต่แสงไฟสลัวในห้องก็ยังเป็นสีแดงจางๆ เขากะพริบตาเพื่อไล่ความง่วงงุน แต่ไม่ทันไรเขาก็ได้ยินเสียงสะอื้นไห้เบาๆ เสียงนั้นไพเราะยิ่งเขาหันไปตามเสียงสะอื้นที่พยายามปกปิดไว้ ทันใดหัวใจของฟางหลินเฉินก็เต้นรัวราวกับจะกระดอนออกมาข้างนอกให้ได้ เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะได้พบกับความงดงามบาดลึกลงในใจเช่นนี้“..นางฟ้า” เสียงของเขาแหบพร่าสั่นรัว คล้ายเขาละเมอออกไปโดยไม่รู้ตัวหญิงสาวในชุดแดงเงยหน้าขึ้นมาสบตาฟางหลินเฉิน ท่าทางของนางคล้ายตกใจและนึกไม่ถึงอยู่หกส่วน แต่อีกสี่ส่วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวชั่วขณะที่สายตาของฟางหลินเฉินสบเข้ากับดวงตาคู่นั้น โลกทั้งใบพลันหยุดนิ่ง สรรพเสียงรอบข้างเหมือนถูกกลืนหายไปในลมหายใจติดขัดของสตรีตรงหน้าผีเสื้อนับพันเริ่มโบยบินในท้องของเขา ทุกอย่างรอบตัวลอยละล่องดั่งหมอกยามเช้า เขามองเห็นรายละเอียดทุกอย่างในตัวนางที่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงขึ้นดวงตาผลซิ่ง[1]กลมโตเป็นประกายของนาง เขารู้สึกว่ากำลังจ้องมองดาวที่สว่างสดใสที่สุดในท้องฟ้ายามค่ำคืน คราบน้ำตาเล็กๆ ที่มุมหางตากลมทำให้เขารู
ฟางหลินเฉินรู้ตัวอีกที เขาก็พบว่าตัวเขาถูกผูกมัดไว้กับบางสิ่งที่ทั้งเย็นและนุ่มมาก แต่เขาไม่เห็นสิ่งใดมัดเขาทั้งสิ้น และไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างไรก็ไม่สามารถหลุดออกไปได้ เขามองไปรอบๆ และพบกับบุรุษรูปงามผู้หนึ่ง ชายผู้นั้นคล้ายอายุมากแล้ว แต่กลับยังคงงดงามยิ่งกว่าสตรี ใส่ชุดโบราณรุ่ยร่ายสีดำมืดมิด ในมือถือพู่กันสีทองกำลังนั่งขีดเขียนบางอย่างในพื้นที่ว่างเปล่า และด้านข้างของบุรุษรูปงามนั้นยังมีกระจก หรือจะเรียกให้ถูกคือแอ่งน้ำที่ใสและนิ่งมากจนแทบไม่มีอะไรกระเพื่อม“เอ่อ..คุณครับ” ฟางหลินเฉินเอ่ย“อืม..มาแล้วหรือ” ชายรูปงามตอบโดยไม่มองหน้าเขา“ช่วยแก้มัดได้ไหม ถ้าคุณ..อยากได้เงิน ผมพอมี..แต่ถ้าอยากได้ร่างกาย ..ผมให้ได้มากสุดแค่หอมแก้ม”“...”“ผมสาบานว่าจะไม่บอกใคร” ฟางหลินเฉินพยายามต่อรอง เขาคิดว่าตัวเองถูกแฟนคลับประหลาดที่ใส่ชุดคอสเพลย์จับตัวมาเรียกค่าไถ่ หรือไม่ก็หลงใหลเขาจนทนไม่ได้จึงทำเช่นนี้“สาบานหรือ? ..เจ้าแน่ใจหรือว่าจะไม่พูด?” ในที่สุดบุรุษงดงามก็เงยหน้ามองเขา“ผมไม่พูดแน่นอน” ฟางหลินเฉินรีบยืดยกรับคำ ทั้งที่ในใจคิดไว้ว่าถ้าหลุดออกไปได้จะต้องรีบแจ้งตำรวจให้มาจับคนโรคจิตนี่ให้เร็