Share

ลิขิต โลหิต จันทรา
ลิขิต โลหิต จันทรา
Author: ไป๋ชิงหง

บทนำ

last update Last Updated: 2025-10-09 15:58:03

บทนำ

‘เซียวม่านหลิว’ ธิดาคนที่สามของเสนาบดีแห่งกรมโยธาเซียวอี้ไฉ ปีนี้อายุครบสิบหกปีบริบูรณ์รูปโฉมงดงาม หลักจริยาครบถ้วน ความสามารถทางการเรือนไม่ขาดตกบกพร่อง ถือได้ว่าเป็นยอดหญิงงามอันครบถ้วนสมบูรณ์ จักรพรรดิองค์ที่สิบห้าแห่งต้าถัง ‘เว่ยฉือซินหย่ง’ คิดเป็นพ่อสื่อหมั้นหมาย เซียวม่านหลิว กับ ‘เว่ยฉืออวี่หยาง’ ผู้ดำรงตำแหน่งรองเสนาบดีกรมคลัง บุตรชายคนที่สี่ของ ‘จวินจี๋จวิ้นอ๋อง’ ผู้มากความสามารถ ในวันที่สิบห้าเดือนห้าให้เว่ยฉืออวี่หยางยกขบวนของหมั้นไปสู่ขอเซียวม่านหลิวที่จวนตระกูลเซียว

ใครๆ ต่างก็รู้ว่าจักรพรรดิพระองค์นี้ทรงโปรดปรานหลายชายคนนี้มาก ถึงขั้นคิดแต่งตั้งเป็นองค์ชายเสียด้วยซ้ำ การพระราชทานหมั้นหมายในครั้งนี้จึงเป็นไปตามความต้องการของเว่ยฉืออวี่หยางตั้งแต่ต้น ทว่าเพราะไม่ต้องการบีบบังคับนาง ครั้งนี้จึงเป็นเพียงการพระราชทานหมั้นหมาย น่าเสียดายที่เซียวม่านหลิวมิอาจยอมรับไมตรีครั้งนี้ได้

วันที่สิบห้าเดือนห้า เซียวม่านหลิวหายตัวไปอย่างลึกลับ ผู้ที่มารับของหมั้นแทนจึงกลายเป็น ‘เซียวม่านหนิง’ ธิดาคนรองของเสนาบดีเซียวผู้มีจิตปฏิพัทธ์ให้เว่ยฉืออวี่หยางมานานแล้ว ทว่าเว่ยฉืออวี่หยางผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในราชการตั้งแต่อายุยังน้อยไหนเลยจะถูกผู้อื่นจูงจมูกโดยง่าย เพียงค่ำคืนเดียว ประกาศตามหาเซียวม่านหลิวก็ถูกติดไปทั่วทั้งเมืองหลวง

เพราะต้องการหลบหลีกงานหมั้นหมายเพื่อหลีกทางให้พี่สาวคนรองสมหวังในรัก นางจึงปลอมตัวเป็นชายหนุ่มรับจ้างในขบวนพ่อค้า มุ่งหน้าออกจากลั่วหยาง ทว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัด งานจิปาถะที่นางมาสมัครกลับเป็นขบวนโจรขุดสุสาน ทั้งสุสานที่กำลังจะขุดนี้ยังเป็นถึงสุสานของราชวงศ์

หนีงานหมั้นว่าต้องโทษหนักแล้ว ทว่าขุดสุสานของราชวงศ์ยิ่งโทษหนักกว่า

ระหว่างการขุดสุสานในครั้งนี้กลับทำให้ชีวิตของนางเปลี่ยนแปลงไป

ดังคำที่ว่า ‘สตรีไม่ควรยุ่มย่ามพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์’

เมื่อนางย่างเท้าเข้าสู่สถานที่แห่งนี้ก็คล้ายกับว่าถูกใครบางคนร้องเรียก จนถูกนักพรตที่อยู่ในขบวนโจรจับได้ว่ามีสตรีปะปนมากัขบวนเดินทางด้วย ครั้นหมายหลบหนีกลับถูกปลายกระบี่เฉี่ยวผิวหนังตรงลำคอจนโลหิตรินไหล เมื่อหยาดสีแดงเปรอะเปื้อนกับพื้นผนังหินของสุสานโบราณแห่งนี้กลับกลายเป็นการปลุกคนผู้หนึ่งให้ตื่นขึ้น

เว่ยฉือหลี่หมิง คือชื่อของข้า”

“ท่านแซ่เว่ยฉือมิใช่เป็นเชื้อพระวงศ์หรอกหรือ”

“นั่นย่อมใช่แน่นอน”

เขาก็ถูกฝังในสุสานของราชวงศ์มิใช่หรือ

“แต่ชื่อของท่านกลับผิดหลักการอยู่บ้าง ใบหน้าของท่าน ผิวพรรณของท่านน้ำเสียงของท่าน อย่างไรก็ไม่เหมาะกับชื่อหลี่หมิง”

“หมายความว่าอย่างไร”

“ชื่อกลางของจักรพรรดิองค์ปัจจุบันคือซิน ลำดับถัดมาคืออวี่ ท่านลำดับที่เท่าใดในสายสกุลเว่ยฉือกันเล่า”

เว่ยฉือหลี่หมิงนิ่งอึ้งไปดวงตาคล้ายฉายประกายสีแดงเรื่อเรืองในความมืด “น้องชายของข้าคือเว่ยฉือหลี่จิ้ง ลูกชายของเขาคือเว่ยฉือเทียนหลาง เว่ยฉือเทียนเฟิง”

ครั้นได้ยินคำตอบของเขาสมองของนางก็บิดม้วนขนลุกชูชันไปทั้งกาย “จักรพรรดิพระองค์ก่อนมีพระนามเดิมว่า…เว่ยฉือเทียนหลาง”

เซียวม่านหลินนับนิ้วของตัวเอง ไล่ลำดับรุ่นของเขาอยู่ในใจ

สวรรค์ ศพมีชีวิตผู้นี้ถึงกับแก่กว่านางสามรุ่น เขาถือเป็นปู่ทวดของเว่ยฉืออวี่หยาง ทั้งยังแก่กว่านางตั้งมากโข

ทว่าแทนที่จะตกใจกับคำตอบของนาง ชายหนุ่มกลับหัวเราะเย็นเยียบในลำคอ “ราชทินนามของข้าคือไท่หมิง องค์รัชทายาทลำดับที่หนึ่งซึ่งถูกแต่งตั้งในปีเสวียนจิ้งที่สิบแปด”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิต โลหิต จันทรา   บทส่งท้าย 2

    “อ๊า! เจ็บเหลือเกิน”“อึ๊บ! ฟูเหริน อึ๊บไว้เจ้าค่ะ”“หลิวหลิว มองหน้าแม่นะ เบ่งออกมา แค่อึ๊บเดียวเท่านั้น กลั้นหายใจแล้วเบ่งออกมาทีเดียวเลย!”“อึ๊บ…อ๊า!”“อุแว้…อุแว้!”“ว้าย! คลอดแล้วเจ้าค่ะ! อุ๊ย เป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ ตรงหน้าอกมีปานสีแดงคล้ายดวงไฟเลยเจ้าค่ะ!”“ต๊าย! หลานข้า น่ารักน่าชังนัก หลิวหลิว ดูสิ คิ้วเหมือนหมิงเอ๋อร์ไม่มีผิด คิกๆ แต่ดวงตากับปากดันเหมือนเจ้ามากเหลือเกิน น่าเสียดายที่ข้าอุ้มเขาไม่ได้”ปังๆๆ “เปิดประตู! ให้ข้าเข้าไปได้หรือยัง” หลี่หมิงที่ยืนเฝ้าหน้าประตูห้องราวกับหนูติดจั่นเริ่มอยู่ไม่สุข ความตื่นเต้นทรมานตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาทำให้เขาทั้งหวาดกลัวและสงสารเซียวม่านหลิวจนทำอะไรไม่ถูก ครั้นได้ยินเสียงเด็กร้องก็ค่อยโล่งใจ อยากจะเห็นหน้าลูกเต็มแก่แล้วทันใดนั้นประตูก็เปิดออก หลี่หมิงพลันพุ่งตัวไปยังเตียงที่เซียวม่านหลิวนอนอยู่ ได้เห็นทารกตัวแดงๆ ที่ส่งเสียงอ้อแอ้ในผ้าอ้อมข้างหญิงสาวที่ใบหน้าซีดเผือดก็ยิ้มอย่างโล่งใจใบหน้ากลมป้อมและนิ้วเล็กๆ โยกไหวไปมาพร้อมกับเสียงประหลาดพิกลหูทำให้หลี่หมิงหวาดระแวงเล็กน้อย แต่เมื่อได้สบตากับดวงตาอันสุกสกาวของเจ้าตัวน้อย ก็รู้สึกราวกั

  • ลิขิต โลหิต จันทรา   บทส่งท้าย 1

    กลิ่นหอมอ่อนๆ ของอาหารหลากหลายชนิดลอยกระทบนาสิกจนทำให้ดวงตากลมโตลืมขึ้นช้าๆ ร่างในอาภรณ์ตัวบางบิดกายพลางหาวอย่างเกียจคร้าน เสียงจานชามกระทบโต๊ะทำให้ดวงตาของนางเหลือบมองไปยังกลางห้อง พลันเห็นแผ่นหลังอันคุ้นเคยของผู้เป็นสามีเข้าเต็มตา เขากำลังง่วนอยู่กับการตระเตรียมอาหารเช้า ตรงเอวมีผ้าสีเข้มมัดอย่างแน่นหนาดูแปลกพิกล ครั้นได้ยินเสียงหาวเบาๆ ของนางก็หันกลับมา ใบหน้าที่ซ่อนอยู่ในเงาสลัวจากด้านนอกปรากฏรอยยิ้มอบอุ่นสายหนึ่ง พานให้หญิงสาวเผลอมองตาค้างอย่างเผลอไผล“ฟูเหรินตื่นแล้วหรือ อาหลัน เตรียมน้ำมาให้นางล้างหน้า”“เจ้าค่ะ” สาวใช้โผล่มาจากที่ไหนสักแห่งขานรับอย่างรวดเร็วราวกับคอยรับคำสั่งแต่แรกแล้ว“อ๊ะ! ไม่ต้องหรอก”เซียวม่านหลิวตั้งท่าจะลงจากเตียง ทว่าหลี่หมิงกลับถลาเข้ามาประคองนางอย่างระมัดระวัง“ไม่ได้ เจ้าต้องดูแลตัวเองให้มาก” หลี่หมิงพูดอย่างอารมณ์ดีเซียวม่านหลิวย่นจมูกเล็กน้อย กลิ่นควันไฟที่ติดตามตัวหลี่หมิงทำให้นางพะอืดพะอมจนต้องเบนหน้าหนี ทว่าหลี่หมิงกลับคิดว่านางยังตื่นไม่เต็มตาจึงเบียดตัวเข้าประคอง“ฟูเหริน ค่อยๆ ลุกสิ”“ท่านถอยออกไปก่อน”“ทำไมเล่า”เซียวม่านหลิวผลักหลี่หมิงจนช

  • ลิขิต โลหิต จันทรา   ตอนที่ 20 : เกิดเป็นลูกหลานมิอาจอกตัญญูต่อบรรพบุรุษ [5]

    ค่ำคืนมืดมิด ท้องฟ้าเปิดโล่ง หนุ่มสาวสองคนนั่งคลอเคลียข้างหน้าต่าง มองหมู่ดาวที่แข่งกันทอแสงริบหรี่งดงามจับตา“ให้เขามีเวลาเพียงหนึ่งเดือน ไม่น้อยไปหรือ” เซียวม่านหลิวอดถามไม่ได้ หลังจากที่เว่ยฉือหลี่จิ้งถูกรับตัวเข้าวังหลี่หมิงเหล่มองนาง กล่าวขึ้นด้วยความรู้สึกน้อยอกน้อยใจ“เจ้าอยากให้ข้าอายุสั้นหรือ”หากหลี่หมิงให้เวลาเว่ยฉือหลี่จิ้งนานกว่านี้ นอกจากจะทำให้น้องชายผูกพันกับลูกหลานมากขึ้นจนตัดไม่ขาด ร่างกายของหลี่หมิงเองก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วยโดยเฉพาะร่างกายที่อายุขัยสิ้นสูญไปนานแล้ว นอกจากจะอาศัยร่างของผู้อื่น สังขารของเว่ยฉือหลี่จิ้งก็ค่อยๆ เสื่อมสภาพลงเช่นกันหากไม่เพราะเขาทราบมาว่าร่างของเว่ยฉือหลี่จิ้งหายไปจากสุสานราชวงศ์ หลี่หมิงคงไม่คิดขุดคุ้ยอดีตให้เจ็บปวดเช่นนี้ โดยเฉพาะเรื่องของชวีชิงชิว เป็นสิ่งที่เขาไม่อยากคาดการณ์มากที่สุดเขายังอยากหลอกตัวเองว่าชวีชิงชิวมิได้ทรยศความไว้ใจของตนหากชวีฮองเฮาไม่ชิงขอร้องและขอติดตามเข้าสู่สุสานด้วย หลี่หมิงคงไม่คิดเหยียบย่ำสถานที่แห่งนั้นเด็ดขาดเซียวม่านหลิวเห็นหลี่หมิงสีหน้าเรียบตึง แววตาเย็นเยียบ ใจของนางพลันรู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมาเสียอ

  • ลิขิต โลหิต จันทรา   ตอนที่ 20 : เกิดเป็นลูกหลานมิอาจอกตัญญูต่อบรรพบุรุษ [4]

    จักรพรรดิทรงให้จวินจี๋จวิ้นอ๋องออกหน้า โดยที่พระองค์ทรงแฝงกายมากับขบวนเกี้ยวของวังจวิ้นอ๋องด้วยครั้นถึงหน้าประตูวัง องครักษ์ของจวินจี๋จวิ้นอ๋องจึงไล่ชาวบ้านออกไปจากบริเวณนี้ แล้วพาคนซึ่งสวมหมวกปิดบังใบหน้ากว่าสิบคนเข้าไปในวังเทียนมิ่งโดยที่เจ้าบ้านยังไม่ออกมาต้อนรับเสียด้วยซ้ำครั้นองค์จักรพรรดิและพระญาติทั้งหลายเสด็จถึงห้องโถงที่คนทั้งสามกำลังกินอาหารกันอยู่ เซียวม่านหลิวก็พลันเข่าอ่อน รีบขยับกายหนีในทันใดทว่าหลี่หมิงกลับคว้าแขนของนางไว้“เจ้ากลัวอะไร”“พวกท่านอาวุโสกว่าองค์จักรพรรดิก็จริง แต่ข้าไม่ใช่ ข้ายังอยากให้ตระกูลเซียวมีลูกหลานสืบสกุลอยู่นะ”ถึงสามีนางจะเป็นบรรพบุรุษขององค์จักรพรรดิ ทว่านางไม่ใช่ อย่างไรก็ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมมาเป็นลำดับแรก“ถวายพระพรฝ่าบาท ขอจงทรงพระเจริญ หมื่นปี หมื่น หมื่นปี” นางและข้ารับใช้ในวังเทียนมิ่งหมอบกราบในทันทีที่บุรุษในชุดสามัญชนก้าวเข้ามา ถึงแม้จะก้มหน้าอยู่ก็ยังสัมผัสได้ถึงรัศมีอำนาจของโอรสสวรรค์ มีเพียงสองคนที่ยังคงทระนงไม่หวั่นไหว นั่งหน้าไม่เปลี่ยนสีได้ ก็เห็นจะเป็นหลี่หมิงกับเว่ยฉือหลี่จิ้งนั่นล่ะ“ไม่เป็นไร ลุกขึ้นเถอะ” สุรเสียงเคร่งขร

  • ลิขิต โลหิต จันทรา   ตอนที่ 20 : เกิดเป็นลูกหลานมิอาจอกตัญญูต่อบรรพบุรุษ [3]

    “องค์ชายสี่ ท่านตบพระพักตร์องค์จักรพรรดิแบบนั้น ไม่ถูกสั่งโบยหรือตัดหัวหรอกหรือ”เซียวม่านหลิวถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ ดวงตากลมโตสำรวจใบหน้าขององค์ชายสี่ด้วยสายตาใคร่รู้ แม้ว่าเว่ยฉือหลี่จิ้งจะเป็นน้องชายของหลี่หมิง แต่เพราะเขาตายตอนที่อายุมากกว่าหลี่หมิง ใบหน้าของหลี่หมิงจึงอ่อนเยาว์กว่าเล็กน้อย แต่เพราะใบหน้าที่เริ่มไร้สีเลือดของเขาจึงทำให้ดูน่าเวทนาสงสารอย่างยิ่ง นางเองก็ไม่แปลกใจเลยที่เว่ยฉือหลี่จิ้งจะริษยาผู้เป็นพระเชษฐา เพราะหลี่หมิงมีทุกอย่างที่เขาต้องการจริงๆ ตอนที่ออกจากสุสานเพราะนางไม่ได้สติจึงไม่รู้ว่าเว่ยฉือหลี่จิ้งถูกใครแบกหามมา หลี่หมิงบอกแต่เพียงว่าน้องชายของเขาถูกคนลากออกจากสุสาน สภาพดูแทบไม่ได้ ต้องพักฟื้นหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ เช่นกัน ครั้นร่างกายกลับมากระปรี้กระเปร่า หลี่หมิงก็ส่งน้องชายบุกเข้าห้องบรรทมของจักรพรรดิด้วยแผนการอันชั่วร้ายคนอย่างเว่ยฉือหลี่จิ้ง นอกจากหลี่หมิงแล้วเขากลับมิได้เกรงใจผู้ใดเลยแม้แต่น้อยเว่ยฉือหลี่จิ้งยิ้มเย็น กล่าวเสียงเรียบ “เขาจะกล้าตัดหัวข้าได้อย่างไร ในเมื่อข้าคือผู้ร่างจดหมายให้คืนราชบัลลังก์แก่เสด็จพี่ ซินหย่งรู้อยู่แก่ใจว่าการสังหารผู้มี

  • ลิขิต โลหิต จันทรา   ตอนที่ 20 : เกิดเป็นลูกหลานมิอาจอกตัญญูต่อบรรพบุรุษ [2]

    กลับมาสู่ปัจจุบันเมื่อคิดถึงสตรีที่นอนหนุนตักเขาในตอนนี้ หลี่หมิงก็อมยิ้มมุมปาก ค่อยๆ เก็บเกี่ยวกลุ่มผมเงางามขึ้นมา ใช้หวีหยกสางให้อย่างเบามือ หลังจากที่ชวีฮองเฮาสิงร่างนาง เซียวม่านหลิวก็หมดสติไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ กระทั่งตอนนี้ข้ามมาอีกวันแล้วกลับยังไม่รู้ตัว“ไท่จื่อ…”เป้ยหยวนร้องเรียกหน้าประตู ไม่กล้าก้าวล่วงเข้ามาในห้องนอนของเขาที่ปลดม่านมุ้งลงเพราะเกรงว่าจะเห็นภาพอันไม่เหมาะสมหลี่หมิงปรายตามององครักษ์คู่ใจ “เป็นอย่างไร”“จักรพรรดิทรง…” เป้ยหยวนกัดริมฝีปาก ไม่รู้จะรายงานอย่างไรดี“บอกมา”“ทูลไท่จื่อ องค์ชายสี่ทรง…” เป้ยหยวนยังคงละล้าละลัง“เจ้าจะรั้งรออีกนานหรือไม่”“องค์ชายสี่ทรงตบพระพักตร์องค์จักรพรรดิคาห้องบรรทมพ่ะย่ะค่ะ”หลี่หมิงเลิกคิ้ว ดวงตาเป็นประกาย “ตามหมอมาหรือยัง”“เสิ่นหลิวสิงตรวจพระอาการอยู่พ่ะย่ะค่ะ”“แล้วองค์จักรพรรดิเล่า”“หลังจากที่โดนฝ่ามือขององค์ชายสี่ องค์จักรพรรดิก็เสด็จไปยังห้องเก็บป้ายบรรพชนทันทีพ่ะย่ะค่ะ”“อืม…เด็กคนนั้นคงรู้ตัวแล้วกระมังว่าข้ากำลังคิดทำอะไรอยู่”เป้ยหยวนไม่ออกความเห็นใดๆ นิ่งเงียบรอคอยคำสั่ง“ออกไปเถอะ ต่อไปเรียกนายท่านก็พอ บทบาทในฐา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status