หลี่เหมยซินเดินทางมาถึงหน้าหอวิหคราตรี ดวงตาคู่งามนิ่งสงบภายใต้หมวกคลุมหน้าสีดำ ชุดที่สวมใส่เป็นเครื่องแบบจอมยุทธหญิง ท่าทางเดินตรงอย่างมั่นใจยื่นตราวิหคนั่นให้คนของหอดู เขาก็ผายมือเชิญให้นางเดินตามขึ้นไปชั้นหก
หลี่เหมยซินไม่ได้สนใจสิ่งแปลกใหม่ในหอวิหคราตรีสักนิด นางเดินตามบ่าวในหออย่างใจเย็นและมีเป้าหมาย นางนั่งจิบชารอผู้ที่มีอำนาจสูงสุดของหอนี้อยู่ในห้องตามที่บ่าวชายผู้นั้นบอก
สักพักชายวัยกลางคนก็เดินเข้ามาให้ห้อง เมื่อประตูปิดสิ่งที่พูดในห้องนี้ถือว่าเป็นความลับ ชายวัยกลางคนเริ่มเปิดบทสนทนาก่อน “เชิญท่านกล่าวสิ่งที่ต้องการขอรับ อย่าลืมว่าตามเงื่อนไขสิ่งที่ขอต้องถูกต้องตามกฎบ้านเมืองเรา”
“ข้าต้องการยาถอนพิษน้ำค้างแข็งแล้วก็.. ล้างมลทินให้ตระกูลหลี่ด้วย”
พู่กันในมือของชายวัยกลางคนที่จุดบันทึกนั้นถึงกับชะงัก ก่อนเขาจะดึงสติกลับมาได้โดยที่หลี่เหมยซินไม่ทันสังเกต “คำขอท่านใช้เวลาดำเนินการอนุมัติภายใน 7 วันขอรับ”
“ข้าต้องการในเช้าวันถัดไป” หลี่เหมยซินเสียงเย็นเพราะนางไม่มีเวลารอพวกเขาถึง 7 วัน
“ไม่ได้ขอรับ การอนุมัติคำขอตามเงื่อนไขข้อสอง เจ้าขอ
ณ ป่าแห่งหนึ่งในเขตแดนทางเข้าเมืองฉางอัน ผืนป่าที่เงียบสงบร่มรื่นน่าอยู่นี้เป็นเพียงภาพมายาให้มนุษย์หลงเข้าไปเจอกับหายนะ ใครก็ตามเมื่อก้าวข้ามเขตแดนนั้นแล้วยากที่จะมีชีวิตรอดกลับออกมาสายลมพร้อมเสียงกระทบของกิ่งไม้ต่างๆ เป็นที่สังเกตได้ชัดราวกับมีบางอย่างเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ทิ้งพลังงานอันบางเบาไว้ตามทางให้หล่อเลี้ยงทุกสรรพสิ่งที่มีชีวิตในเขตแดนแห่งนี้“ไม่เจอกันนานพวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” สตรีอาภรณ์ขาวดั่งเพชรงามเปล่งประกายแสงราวกับเทพธิดากล่าวทักทายสหายที่พึ่งพบหน้าหลังจากไม่ได้เจอกันนาน“สนใจสลับหน้าที่กันไหมล่ะ ข้าเริ่มจะเบื่องานที่ทำอยู่นี้เต็มทีแล้ว” บุรุษอาภรณ์สีแดงราวกับเปลวเพลิงที่พร้อมจะมอดไหม้ทุกสิ่งกล่าว“สบายมาก เจ้าดูแลฉางอันคนเดียวลำบากแล้ว” สตรีอาภรณ์สีเขียวมรกตกล่าวทั้งยิ้มอ่อน“มีเรื่องจะเล่าให้เจ้าฟังเยอะแยะเลยแหละ เดี๋ยวไว้ตอนฟื้นฟูพลังคอยเม้าท์มอย” สตรีอาภรณ์สีเหลืองอ่อนกล่าวพลางเดินไปเกาะแขนสตรีอาภรณ์ขาวอย่างเป็นมิตร“ช้าอยู่ได้ ข้าคิดถึงฉางอันใจจะขาดแล้ว” บุรุษอาภรณ์สีส้มถือพัดคู่ใจเดินผ่านสหายที่มัวยืนขวางทาง โดยม
“ลงมาทำอะไรที่นี่ขอรับ ข้าน้อยไปที่ห้องไม่พบท่านคิดว่าจะยกเลิกจ้างงานแล้วเสียอีก” เสียงบุรุษวัยกลางคนทางด้านหลังเรียกสติ หลี่เหมยซิน“ข้าไม่ทำเช่นนั้นแน่นอน นายของท่านว่าอย่างไรบ้าง” หลี่เหมยซินปรับโทนเสียงให้ฟังดูปกติเพื่อไม่ให้เขาจับสังเกตได้“ยินดีด้วยขอรับ” ลุงจินกล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างจริงใจ แต่นางยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเจ้าของหอวิหคราตรีแห่งนี้ เจ้าของที่นี่คงไม่อยากพบใครเลยตัดปัญหาด้วยการอนุมัติคำขอให้จบๆ ไป“ผ่านแล้ว?” หลีเหมยซินเสียงหลง“เรื่องล้างมลทินให้ตระกูลหลี่ทางเราจะดำเนินการจัดการทุกอย่างเองทั้งหาหลักฐานพยานปาก ท่านรอฟังข่าวได้เลยขอรับ ทางเราขอที่อยู่ท่านเพื่อทางเราจะแจ้งข่าวความคืบหน้าให้ทราบด้วยขอรับ”“หอวิหคราตรี”“?” ลุงจินเงยหน้ามองหลี่เหมยซินตาปริบๆ“ได้ยินว่ามีห้องพักให้เช่า ข้าคิดจะพักอยู่ที่นี่จนกว่างานจะเสร็จ” พลางชี้ไปที่ป้ายประกาศปล่อยห้องพักให้เช่าทั้งแบบรายวันรายเดือนรายปีในราคาที่ย่อมเยา ป้ายนั้นติดบนเสาหลักต้นหนึ่งของหอเช้าวันต่อมาระหว่างที่หลี่เหมยซินกำลังรับประทานอาหารร้านห
หลี่เหมยซินเดินทางมาถึงหน้าหอวิหคราตรี ดวงตาคู่งามนิ่งสงบภายใต้หมวกคลุมหน้าสีดำ ชุดที่สวมใส่เป็นเครื่องแบบจอมยุทธหญิง ท่าทางเดินตรงอย่างมั่นใจยื่นตราวิหคนั่นให้คนของหอดู เขาก็ผายมือเชิญให้นางเดินตามขึ้นไปชั้นหกหลี่เหมยซินไม่ได้สนใจสิ่งแปลกใหม่ในหอวิหคราตรีสักนิด นางเดินตามบ่าวในหออย่างใจเย็นและมีเป้าหมาย นางนั่งจิบชารอผู้ที่มีอำนาจสูงสุดของหอนี้อยู่ในห้องตามที่บ่าวชายผู้นั้นบอกสักพักชายวัยกลางคนก็เดินเข้ามาให้ห้อง เมื่อประตูปิดสิ่งที่พูดในห้องนี้ถือว่าเป็นความลับ ชายวัยกลางคนเริ่มเปิดบทสนทนาก่อน “เชิญท่านกล่าวสิ่งที่ต้องการขอรับ อย่าลืมว่าตามเงื่อนไขสิ่งที่ขอต้องถูกต้องตามกฎบ้านเมืองเรา”“ข้าต้องการยาถอนพิษน้ำค้างแข็งแล้วก็.. ล้างมลทินให้ตระกูลหลี่ด้วย”พู่กันในมือของชายวัยกลางคนที่จุดบันทึกนั้นถึงกับชะงัก ก่อนเขาจะดึงสติกลับมาได้โดยที่หลี่เหมยซินไม่ทันสังเกต “คำขอท่านใช้เวลาดำเนินการอนุมัติภายใน 7 วันขอรับ”“ข้าต้องการในเช้าวันถัดไป” หลี่เหมยซินเสียงเย็นเพราะนางไม่มีเวลารอพวกเขาถึง 7 วัน“ไม่ได้ขอรับ การอนุมัติคำขอตามเงื่อนไขข้อสอง เจ้าขอ
“นางเป็นอย่างไรบ้าง” เสียงทุ้มเอ่ยถามกับบ่าวรับใช้ชายข้างกายขณะนั่งอ่านตำราในห้องเงียบๆ คนเดียว“ตั้งแต่ฟื้นขึ้นมาคุณหนูหลี่เอาแต่เหม่อมองไปที่หน้าต่างด้านนอก ไม่พูดไม่จา ไม่ยอมทานอาหารหรือน้ำเลยขอรับ” บ่าวชายรายงานตามที่เห็นให้นายท่านของตนฟังฮ่าวหรานประมุขสำนักไป๋เหลียงละสายตาจากตำราในมือ ใบหน้าคมครุ่นคิดพักหนึ่งก่อนถอนหายใจ น้ำเสียงทุ้มอ่อนโยนกล่าว “สภาพจิตใจนางย่ำแย่มาก อย่าปล่อยให้นางอยู่คนเดียวเด็ดขาด”“ขอรับ”หลายเดือนที่ผ่านมาหลังจากช่วยหลี่เหมยซินในวันที่นางเกือบโดนเผาทั้งเป็น เขาพานางมารักษาตัวในสำนักไป๋เหลียงที่ตั้งอยู่กลางป่ากลางเขาห่างไกลจากโลกภายนอกช่วงเวลารักษาอาการป่วยของหลี่เหมยซินจะยาวนานหลายเดือน แผลตามร่างกายจากการถูกทรมานในคุกดีขึ้นก็จริง แต่สภาพจิตใจของนางกลับเหมือนเดิม“ลุกขึ้นมาเถิด ถึงเวลาอาหารแล้ว” เสียงฮ่าวหรานดังขึ้นตั้งแต่ทางเข้าห้องของนาง“…” หลี่เหมยซินในชุดขาวปล่อยผมสีหมึกยาวสลวยนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง นางไม่เพียงเงียบเช่นทุกครั้งแต่นางยังไม่แม้แต่จะหันไปมองเขาด้วยซ้ำ ใบหน้างามขาวซีดดวงตาแสดงถึงความว่าง
หลี่เหมยซินไม่อยากให้คนของหอวิหคราตรีเสี่ยงตายเพราะช่วยนางอีก นางรู้ว่าไม่มีนักฆ่าคนไหนไม่กล้าลงมือกับคนของหลันเซ่อถึงตายเพราะผลที่ตามมายากจะคาดเดาแต่ก็รู้ทั่วว่าไม่ใช่เรื่องน่ายินดีสักนิด เจ้าของหอวิหคราตรีอย่างหลันเซ่อให้ความสำคัญกับคนของตนมากขนาดไหน หลันเซ่อคงไม่ยอมให้ฆาตกรลอยนวลแน่หลี่เหมยซินนางใช้เส้นทางซ้ายมือเพื่อให้เวลาท่านแม่กับเยว่หมิงพอถึงทางแยกกลับไปเส้นทางเดิมที่เร็วกว่า ขณะที่กำลังเลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นทางเดิมหลี่เหมยซินนก็กระอักเลือดดำคำโตเพื่อขับพิษออกมาก่อนครบ 2 ชั่วยาม การขับพิษออกจากร่างกายของนางเร็วกว่าที่คิดนางจึงต้องกินยาสามเม็ดรอบสองตามลงไปเหลือเวลาอีก 4 ชั่วยาม แต่ถ้าขับพิษออกมาก่อนเวลากำหนดอีกนางคงไม่รอดแน่ตัวยายังขาดอีกสองเม็ดฟิ้ววว ฟิ้ววว ฟิ้ววว ฟิ้วววลูกธนูพุ่งมาทางหลี่เหมยซิน นางตัดสินใจตีม้าของบุรุษร่วมทางให้เขาหนีกลับเข้าไปเส้นทางเดิม ส่วนตัวนางก็ขี่ม้าหนีไปอีกทางเพราะหักโหมเกินไปบาดแผลเก่าจึงเริ่มปริรอยเลือดไหลซึมติดเสื้อหลี่เหมยซินชัดขึ้นเรื่อยๆ นางกัดฟันทนความเจ็บปวดขี่ม้าต่อไปด้วยความเร็วทั้งยังต้องคอยหลบลูกธนู
ขบวนรถม้าและคนนับสิบต่างพากันอพยพหนีนักฆ่าที่กำลังตามมาติดๆ ตอนกลางคืน หลี่เหมยซินนั่งกังวลใจอยู่ในรถม้ากับท่านแม่และล่องลอยฟิ้วววว ฟิ้วววว ฟิ้วววว ฉึก! ฉึก! ฉึก!ลูกธนูปักทะลุกำแพงไม้ของรถม้า ขณะเดียวกันขบวนทั้งหมดก็หยุดวิ่งกะทันหันเพราะถูกกลุ่มคนชุดดำล้อมรอบ หลี่เหมยซินกระโดดลงจากรถม้าปะทะกับชายชุดดำพร้อมหลี่ลู่เสียนและคนของหอวิหคราตรีอย่างดุเดือดหลี่ลู่เสียนเป็นแม่ทัพใหญ่วรยุทธของเขาย่อมสูงกว่าคนทั่วไป นั่นทำให้นักฆ่าส่วนมากเล็งเป้าหมายไปที่เขาก่อน ขณะที่ล่องลอยลู่เสียนก็กำลังถูกล้อมด้วยนักฆ่ามากมายจนแทบต้านไม่อยู่นักฆ่าคนหนึ่งใช้โอกาสนั้นซัดเข็มพิษใส่หลี่ลู่เสียนแบบไม่ทันตั้งตัว แต่เขาก็แกว่งดาบทำให้เข็มพิษนั้นย้อนกลับหาพวกมันทั้งหมดหลี่เหมยซินตาไวเห็นนักฆ่าสองคนจู่โจมทางด้านหลังท่านพ่อในจังหวะที่ไม่สามารถหันไปรับมือได้ นางจึงกระโดดเข้าดงนักฆ่าสกัดคนผู้นั้นกระเด็นไปไกลทันที ที่ตรงนี้อันตรายเป็นอย่างมากสำหรับหลี่เหมยซินเพราะหากพลาดนิดเดียวก็ถูกปลิดชีพได้ พวกมันมีวรยุทธสูงกว่านางหลายเท่า ดังนั้นไม่แปลกที่ท่านพ่อจะรับมือแทบไม่อยู่สองพ่