หน้าหลัก / รักโบราณ / ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ / ตอนที่ 2 ค่ำคืนแห่งชะตากรรม

แชร์

ตอนที่ 2 ค่ำคืนแห่งชะตากรรม

ผู้เขียน: กุหลาบดิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-18 18:55:51

เสียงดนตรีบรรเลงดังสะท้อนก้องทั่ววังหลวง แสงโคมไฟสว่างไสวแต่งแต้มทั่วตำหนักองค์ชายสาม ผู้คนต่างเฉลิมฉลองให้กับพิธีสมรสขององค์ชายสาม หลงเจิ้งหยาง กับบุตรสาวของเสนาบดีไป๋เหวินเทียน

ทว่าภายในเรือนหอ บรรยากาศกลับเย็นเยียบราวกับหลุมศพ

ไป๋ลี่เยว่นั่งอยู่บนเตียงบุปผา อาภรณ์เจ้าสาวสีแดงสดปักดิ้นทองขับผิวงามให้ขาวผ่อง แต่หลังจากเจ้าบ่าวได้ปลดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกกลับเผยใบหน้าอวบดูซีดเซียว ร่างกายอวบอ้วนทำให้อาภรณ์ที่ควรจะสง่างามกลับดูรัดแน่นจนน่าอึดอัด

นางเอื้อมมือไปลูบชายผ้าของตัวเอง รู้สึกถึงเหงื่อที่ซึมออกมาผสมกับฝ่ามือเย็นเฉียบ เมื่อนางได้รู้ว่าบุรุษที่อยู่ตรงหน้าเกลียดชังนางเพียงใด

“สมความปรารถนาของเจ้าแล้ว หมดหน้าที่ของข้าแล้ว” น้ำเสียงเย็นชาและกดข่มดังขึ้นจากด้านหน้า หลังปลดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว

ไป๋ลี่เยว่เงยหน้าขึ้นสบตาบุรุษที่ถูกขนานนามว่าเป็นเทพสงครามแห่งแคว้นต้าเฉิง

หลงเจิ้งหยาง องค์ชายสามแห่งต้าเฉิง ยืนกอดอกมองนางด้วยสายตาเย็นชา เขาสวมอาภรณ์ชุดเจ้าบ่าวเต็มยศ ขับให้ใบหน้าคมคายดูดุดันราวกับเทพสงครามของแคว้น

“องค์ชายสาม ต่อจากนี้ หม่อมฉันได้ใช้ชีวิตร่วมกับท่านแล้ว แม้ท่านยังไม่รักหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันจะใช้ชีวิตข้างกายท่านให้ดีที่สุดเพคะ”

“เจ้าไม่คู่ควรกับตำแหน่งพระชายาของข้าด้วยซ้ำ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงกดต่ำ

“เจ้าใช้ความดีความชอบที่ช่วยชีวิตข้า มาแลกกับการเป็นพระชายาสามของข้า ฝันใฝ่ถึงข้าถึงเพียงนั้นเชียวหรือ”

ไป๋ลี่เยว่ชะงักงัน ราวกับถูกกรีดกลางหัวใจ

“หม่อมฉัน” นางอ้าปากจะพูด แต่กลับไม่มีคำใดเปล่งออกมา

“เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าเจ้าสมควรยืนอยู่ข้างกายข้า” ร่างสูงสูดหายใจลึกเพื่อระงับความโกรธ

“คิดจริงๆ หรือว่าเจ้าคู่ควรกับตำแหน่งพระชายาขององค์ชายสาม”

ไป๋ลี่เยว่กำมือแน่น มือของนางสั่นเล็กน้อย

“หม่อมฉัน”

“เจ้าเป็นสตรีที่โง่เขลาและเห็นแก่ตัวนัก ไป๋ลี่เยว่ ” หลงเจิ้งหยางกล่าวเสียงเย็น

“เจ้าอ้วน หน้าตาธรรมดา ไร้เสน่ห์ มีดีเพียงฐานะบุตรสาวขุนนางผู้มีความดีความชอบเท่านั้น”

“เช่นนี้แล้ว เจ้าคิดจริงหรือว่าข้าจะยินดีแต่งงานกับเจ้า”

ไป๋ลี่เยว่รู้สึกเหมือนโลกของนางกำลังพังทลาย บุรุษที่นางรัก พูดกับนางเช่นนี้

ใช่ นางรักเขา

เมื่อสามปีก่อน องค์ชายสามได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถูกลอบสังหาร บังเอิญว่านางไปพบเข้า และช่วยเหลือเขาไว้ แม้ในตอนนั้นเขาจะหมดสติ แต่นางก็ทุ่มเททุกสิ่งเพื่อรักษาชีวิตเขาเป็นเวลาหลายเดือนกว่าเขาจะฟื้น

ตอนนั้นนางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนที่นางช่วยชีวิตไว้เป็นใคร นางรู้เพียงว่ารักเขาตั้งแต่แรกพบ

เมื่อได้รับโอกาสให้ขอรางวัลจากฮ่องเต้ นางจึงขอเพียงแค่ ‘การแต่งงาน’ กับเขา คิดว่า บางทีเขาอาจจะมองนางในแง่ดีขึ้นบ้าง

ทว่า นางคิดผิด

“เจ้ามัน ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง” หลงเจิ้งหยางแค่นเสียงเย็นชา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจ

“เจ้าคิดจริงหรือว่าการช่วยชีวิตข้าจะทำให้ข้ารักเจ้า”

ไป๋ลี่เยว่ก้มหน้าลง น้ำตาที่เอ่อล้นถูกกลืนกลับไปในลำคอ

“หม่อมฉันมิได้หวังให้ท่านรักหม่อมฉันตอนนี้” นางกล่าวแผ่วเบา

“หม่อมฉันเพียงหวังว่า ท่านจะไม่รังเกียจหม่อมฉันเพียงนี้”

หลงเจิ้งหยางหัวเราะเยาะ “แต่ข้าก็รังเกียจเจ้าอยู่ดี”

“ไปให้พ้นจากสายตาข้า”

เสียงทรงอำนาจขององค์ชายสามดังขึ้นราวกับสายฟ้าฟาดกลางใจ ไป๋ลี่เยว่ที่อยู่ในชุดเจ้าสาวสีแดงสดยังไม่ทันตั้งตัวดี ก็ถูกผลักไสให้ล้มลงไปกับพื้นเย็นเยียบ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเดียดฉันท์ ราวกับว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นตราบาปของชีวิต นางกำมือแน่น พยายามสะกดกลั้นความเจ็บปวด แต่หยาดน้ำตากลับหยดลงมาบนอาภรณ์สีแดงสด

“องค์ชาย” นางพยายามยกมืออวบขึ้นคว้าแขนเสื้อของเขาไว้ แต่กลับถูกสะบัดออกอย่างไร้เยื่อใย

“อย่ามาแตะต้องข้า อ้วนเหมือนหมูเช่นเจ้า คิดหรือว่าจะคู่ควรกับข้า”

ไป๋ลี่เยว่กำมือแน่น ฝืนกล้ำกลืนก้อนสะอื้นในลำคอ

“แต่” นางเรียกเขาอย่างแผ่วเบา เสียงสั่นเครือ

“คืนนี้เป็นคืนเข้าหอของเรา”

“เข้าหอ น่าขันสิ้นดี” หลงเจิ้งหยางหัวเราะเย็นชา ดวงตาสีดำสนิทกวาดมองนางจากศีรษะจรดปลายเท้าอย่างเย้ยหยัน

“เจ้าคิดว่าข้าจะหลับนอนกับสตรีอัปลักษณ์เช่นเจ้าจริงหรือ”

หัวใจของไป๋ลี่เยว่บีบรัดแน่นจนแทบหายใจไม่ออก นางรับรู้ถึงความเกลียดชังที่เขามีต่อนาง แต่ไม่คิดว่ามันจะรุนแรงถึงเพียงนี้

“แต่หม่อมฉันเป็นพระชายาของพระองค์” นางพยายามเอ่ยออกมา แม้จะรู้ดีว่าคำพูดของนางไร้ความหมาย

หลงเจิ้งหยางก้าวเข้ามาใกล้ คุกเข่าลงตรงหน้าเตียงแล้วบีบคางของนางแน่นจนรู้สึกเจ็บ

“จำไว้ให้ดีไป๋ลี่เยว่ ข้าแต่งงานกับเจ้าก็เพราะราชโองการ หาใช่เพราะข้าเต็มใจ”

แววตาของเขามีแต่ความเย็นชา ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยเพลิงแค้นที่นางไม่เข้าใจ

“หากไม่ใช่เพราะเจ้าเป็นนางจิ้งจอกไปขอสมรสพระราชทานจากเสด็จพ่อมาบังคับข้า เจ้าคิดจริงหรือว่าข้าจะลดตัวมาแต่งกับเจ้าที่อัปลักษณ์เช่นนี้”

ไป๋ลี่เยว่เงยหน้าขึ้น ดวงตาของนางมีแววปวดร้าว

“หม่อมฉันรู้ ว่าท่านมิได้รักหม่อมฉัน”

“แต่หม่อมฉันก็เพียงหวังว่า จะได้ดูแลท่าน ได้อยู่เคียงข้างท่าน เพียงเท่านั้นก็พอใจแล้ว” นางกลั้นน้ำตาไว้ก่อนจะกล่าวต่อ

“แต่ดูเหมือนว่า หม่อมฉันจะคิดผิด”

หลงเจิ้งหยางจ้องมองนาง หัวเราะเยาะอีกครั้ง

“ดีที่เจ้ารู้ตัว เช่นนั้น เจ้าจงอยู่ในตำหนักไปเงียบๆ และอย่าได้หวังว่าจะได้รับความรักจากข้า เพราะข้าจะไม่มีวันรักเจ้า”

“ไม่มีวัน” หลงเจิ้งหยางย้ำเสียงดัง

เขากำลังจะออกจากห้องหอนี้โดยไม่ต้องแตะต้องนาง แต่ทันใดนั้นเอง ร่างกายของเขาก็เริ่มร้อนผ่าว

“นี่มัน”

ความร้อนวาบพุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย ความรู้สึกกระหายที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน กำลังถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง

“องค์ชาย ท่านเป็นอะไรไป” ไป๋ลี่เยว่มองเขาด้วยความตกใจ

“ข้า ข้าถูกวางยา” หลงเจิ้งหยางกัดฟันแน่น เขาถูกวางยาปลุกกำหนัดและรู้ทันทีว่านี่เป็นฝีมือของผู้ใด

“เสด็จแม่”

และมีเพียงนาง ที่อยู่ตรงหน้าเขาในยามนี้

“องค์ชาย”

ไป๋ลี่เยว่ยังคงนิ่ง แม้จะรู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น แต่นางก็ยังคงอ่อนโยน และมิได้ผลักไสเขาออกไป

หลงเจิ้งหยางกำหมัดแน่น เขาโกรธตัวเอง โกรธเสด็จแม่ โกรธไป๋ลี่เยว่ และโกรธโชคชะตาที่บีบบังคับเขา

แต่ในค่ำคืนนี้ เขาไม่มีทางเลือกอีกแล้ว

“เจ้าต้องการเป็นพระชายาของข้านักใช่หรือไม่” หลงเจิ้งหยางก้าวเข้ามาใกล้ ดวงตาเย็นเยียบของเขาเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน

“เช่นนั้น ข้าจะทำให้เจ้าสมปรารถนา”

ไป๋ลี่เยว่เงยหน้าขึ้นมองเขา ก่อนที่ร่างของนางจะถูกกระชากเข้าสู่อ้อมแขนของบุรุษที่นางรักสุดหัวใจ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 226 คำสาบานเลือดแห่งโอรส

    ลมหนาวพัดแรงจากทิศเหนือ ใบไม้แห้งปลิวว่อนเหนือผืนดินที่เพิ่งถูกกลบใหม่ หน้าหลุมศพมีเพียงร่างชายหนุ่มในอาภรณ์ดำสนิท ยืนอยู่เงียบงันราวรูปสลักหิน ผืนผ้าคลุมไหล่สีดำเข้มปราศจากลวดลาย เป็นสีที่อนุญาตให้ผู้ต้องโทษสกุลราชสวมได้ หากสำหรับเขาแล้ว มันคือสีแห่งอาลัยและความอัปยศที่ไม่อาจประกาศต่อฟ้าดินพิธีศพจัดในบริเวณสุสานวังหลังอย่างเรียบง่าย เสียงสวดส่งวิญญาณดับสิ้นไปพร้อมแสงสุดท้ายของอาทิตย์ยามอัสดง เหลือเพียงเสียงลมหวิวลอดช่องอิฐของสุสานเย็นเฉียบ กลิ่นดินชื้นปนกลิ่นยาพิษอ่อน ๆ ยังไม่ทันจางจากลมหายใจสุดท้ายของมารดา หลงเหวินหยางก้าวเข้าไปใกล้จนปลายรองเท้าแตะขอบดิน มือที่กำแน่นจนเส้นเลือดปูดสั่นเทา เขายกมือแตะป้ายไม้เล็ก ๆ ที่จารึกเพียงว่า “สุสานสตรีวังหลัง” ไม่มีพระนาม ไม่มียศศักดิ์ ห่อเกียรติยศไว้ในความเงียบ ไม่มีคำใดกล่าวถึงมารดาผู้เคยเป็น “ดวงใจแห่งวังหลวง” ข้าง ๆ มีเพียงธูปและดอกเหมยสีขาวเรียงรายอยู่เป็นระยะ หอมอ่อน ๆ ปนกลิ่นดินชื้นเขาก้มมองมือของตน...เย็นเยียบ ดั่งเลือดในกายถูกแช่แข็ง ปลายนิ้วนั้นเคยถูกมารดาจับอย่างอ่อนโยนเมื่อยังเยาว์ เคยแตะมงกุฎไหมทองเมื่อครั้งขึ้นรับตำแหน่งองค์ชายร

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 225 พิษดอกเหมยและคำสาบานแห่งเลือด

    “เหวินหยาง เจ้าแน่ใจหรือว่าจะรับผิดเรื่องนี้แทนแม่ของเจ้า” สุรเสียงของฮ่องเต้ดังก้องและเย็นชา องค์ชายสองชะงักงันทันที แววตาไหววูบ ไม่กล้าสบพระพักตร์ ความเงียบปกคลุมทั่วโถงจนได้ยินเสียงลมหายใจของทุกคน ผู้เป็นพระมารดาหันไปมองหลงเหวินหยาง ที่กำลังสั่นเทาด้วยความกลัวอยู่เบื้องหน้า ภาพโอรสที่กำลังจะถูกลงโทษรุนแรงและสูญสิ้นอนาคตก่อขึ้นในหัวของนาง แผนที่วางไว้จะถูกทำลายไม่ได้เด็ดขาด “เหวินเอ๋อร์...แม่จะไม่ให้ใครแตะต้องเจ้า” ความคิดนั้นแว่วขึ้น หัวใจนางสั่นระรัว มิใช่เพราะกลัวความตาย แต่กลัวเห็นเลือดในอุทรถูกเหยียบย่ำต่อหน้าต่อตา สิ่งเหล่านั้นทำให้กำแพงความเย่อหยิ่งของนางพังทลายลง ในสายตาของนางเต็มไปด้วยความรักและความเด็ดเดี่ยวอันน่าสะพรึงกลัว พระสนมชิงอวี่หลับตาลงช้า ๆ ยอมจำนนต่อโชคชะตาที่มืดมิด นางรู้ว่าไม่ว่านางจะปฏิเสธอย่างไร หลักฐานก็มัดตัวแน่นหนา แต่... หากนางยอมรับความผิดแต่เพียงผู้เดียว อย่างน้อย… หลงเหวินหยาง ผู้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของนางก็ยังมีทางรอด และยังมีความหวัง ที่จะกลับมาทวงอำนาจคืน ก่อนนางจะเงยหน้าขึ้นอีกคราอย่างเด็ดเดี่ยวไร้ความกลัว แววตาคมกริบแต่เปี่ยมด้วยความรันทด มอง

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 224 เพลิงพิโรธแห่งพระบัลลังก์ 2

    เมื่อโจรทั้งห้าถูกลากเข้ามาและส่งเสียงร้องอ้อนวอนขอความเมตตา พระสนมชิงอวี่ก็จำต้องสบตาพวกมันเพียงครู่ แม้นางจะปฏิเสธไม่รู้จัก...แต่ลึกในใจนางกลับย่อมรู้ดีว่า คนจากหลงซานเหล่านี้ล้วนแต่เป็นขุมกำลังลับของพระโอรสของนางเอง นางรักษาสีหน้าให้คงที่ ทว่ามุมปากของนางเริ่มเกร็งขึ้นเล็กน้อยอย่างมิอาจควบคุมได้“หม่อมฉันมิได้รู้จักพวกมัน… แม้แต่คนเดียวเพคะ” เสียงตอบของนางสงบ แต่นิ้วมือเรียวใต้แขนเสื้อเริ่มกำแน่นหลงเจิ้งหยางที่คุกเข่าอยู่ด้านข้าง เอ่ยขึ้นเสียงเรียบ แต่กรีดลึกกว่าคมดาบ “ถ้าเป็นเช่นนั้น หากพระสนมบริสุทธิ์ไร้มลทิน ก็ขอให้พระสนมได้โปรดอธิบายเรื่องตราประทับของตระกูลเซียวที่โจรผู้นั้นครอบครอง ถุงทองคำที่มาจากกรมคลังด้วยเส้นทางที่เชื่อมโยงผ่านทางตระกูลของท่าน และคำสารภาพของนางกำนัลและขันทีที่ถูกส่งไปสำนักพิธีการด้วยพ่ะย่ะค่ะ”พระสนมชิงอวี่ชะงักเพียงเสี้ยววินาที ก่อนคลี่ยิ้มบาง นางเพียงแค่นหัวเราะในลำคอ“สตรีในวังมีคนรับใช้มากมาย จะมีใครทราบได้ทุกฝีก้าวกันเล่าเพคะ”เสียงฮือฮาดังก้อง เหล่าเสนาบดีบางคนถึงกับทำปากขมุบขมิบด้วยความตกตะลึง ขณะที่หลงเหวินหยางโอรสของนาง กำหมัดแน่นจนข้อขาวซีดเส้นเ

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 223 เพลิงพิโรธแห่งพระบัลลังก์ 1

    ในความเงียบอันหนักอึ้งนั้น มีเพียงเสียงลมหายใจอันถี่กระชั้นของ องค์ชายสอง หลงเหวินหยางเท่านั้นที่โดดเด่นดังสะท้อนก้องอยู่กลางท้องพระโรงกว้าง ดวงตาคมวาวโรจน์มองตามแผ่นหลังของเสนาบดีฉีที่ค่อย ๆ ก้าวเดินออกจากท้องพระโรงไป ใบหน้าของเขาซีดเผือดราวผ้าขาว ริมฝีปากสั่นระริก เมื่อแผนการที่สมบูรณ์แบบ บัดนี้ได้ถูกไอ้ลูกฮองเฮาตัวร้ายทำลายลงอย่างสิ้นเชิงด้วยหลักฐานที่มิอาจปฏิเสธได้“ฝ่าบาท... น้องสามทรงกล่าวเหลวไหล เพียงต้องการใส่ร้ายกระหม่อมกับท่านแม่” เสียงของหลงเหวินหยางโพล่งออกมาอย่างลืมตัว เสียงนั้นดังลั่นสะเทือนกล้ามเนื้อในลำคอ มือที่เคยจับพู่กันเขียนฎีกาอย่างมั่นคงและกุมอำนาจพลเรือน บัดนี้สั่นเทาจนแทบจะจับอากาศไม่ได้“ปัง”เสียงกระแทกกำปั้นลงบนโต๊ะจากเบื้องบัลลังก์ดังก้องสะเทือนถึงอกของทุกผู้คน ฮ่องเต้ยกพระหัตถ์ขึ้นช้า ๆ พระพักตร์มืดครึ้มราวท้องฟ้าไม่มีแสงตะวัน เหล่าขุนนางทั้งบุ๋นและบู๊ต่างค้อมกายลงต่ำจนศีรษะแทบจรดพื้น ไม่มีผู้ใดกล้าสบพระเนตรขององค์จักรพรรดิแม้แต่ผู้เดียว“หยุดวาจากันทุกคน” พระสุรเสียงทรงอำนาจดังขึ้น พระเนตรคมกริบของพระองค์หันไปทางขันทีหลวงที่ยืนอยู่ข้างบัลลังก์“หลี่กงกง”

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 222 เมื่อคมหมากย้อนคืน 2

    “แล้วเกี่ยวข้องสิ่งใดกับเรื่องที่องค์ชายสองกล่าวหาเมื่อครู่” “พวกมันหาใช่โจรภูเขาแท้พ่ะย่ะค่ะ หากแต่เป็นหมากของผู้ใดบางคนที่ถูกส่งมาจากหลงซานเพื่ออำพรางตนภายใต้เงาโจรแอบอ้างเป็นโจรภูเขา แล้วสร้างเหตุปล้น เพื่อโยนความผิดให้ผู้รับผิดชอบการดูแลขบวนของคณะทูต” เสียงขององค์ชายสามนิ่ง ทว่าทุกพยางค์ราวกับคมดาบวาดลงบนกระดานหมาก ขณะเสียงลมหายใจของผู้คนในท้องพระโรงแทบหยุดนิ่ง แววตาของหลงเหวินหยางชะงักแข็งค้างชั่ววูบ ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มพลันจางไปอย่างไม่อาจควบคุมไม่ทัน องค์ชายสามสะบัดมือเบา ๆ ขันทีนำหีบไม้เข้ามา เปิดเผยของในนั้น เอกสารตราประทับกรมคลังแห่งต้าเฉิง, ถุงทองคำ, และตราสัญลักษณ์ของตระกูลขุนนาง โจรผู้หนึ่งตัวสั่น ก่อนหมอบกราบร้องเสียงดัง “พะ...พวกข้าได้รับคำสั่งจากท่านผู้มีพระคุณ ให้ปล้นขบวนคณะทูต เท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ” “ผู้มีพระคุณที่เจ้ากล่าวอ้างถึง คือผู้ใดกัน” สุรเสียงเย็นเยียบดังขึ้นจากบัลลังก์มังกร “เอ่อ…คนตระกูลเซียวพ่ะย่ะค่ะ” เมื่อคำว่า ‘ตระกูลเซียว’ หลุดจากปากโจร เสียงสูดลมหายใจพลันดังพร้อมกันทั่วโถงราวคลื่นกระแทก เสนาบดีบางคนถึงกับสะดุ้ง พระเนตรของฮ่องเต้แคบลงช้า

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 221 เมื่อคมหมากย้อนคืน 1

    “อย่างไรก็ดี เรื่องเช่นนี้… หากมองอีกแง่ ก็เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดที่ก็เป็นได้” เสียงพูดของหลงเหวินหยางแผ่วลงพร้อมรอยยิ้มบางที่ยากอ่าน“แต่ก็คงเป็นเพียงไมตรีระหว่างเชื้อพระวงศ์ต่างแคว้น หาใช่เรื่องใหญ่โต... หามิใช่เรื่องที่ควรน่าสงสัยใด ๆ หรอกกระมัง” เขาหยุดเพียงชั่วอึดใจ ก่อนกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนราวจะคลี่คลายเรื่อง แต่กลับกลายเป็นคมมีดซ่อนในรอยยิ้ม“ถึงอย่างไร กระหม่อมก็เชื่อมั่นว่าองค์ชายสามผู้ทรงสัตย์มั่นในราชวงศ์คงไม่กล้าก่อการสิ่งใด...ที่อาจดูคล้ายเป็นการลอบติดต่อกับต่างแคว้นอย่างลับ ๆ อันเข้าข่ายกบฏต่อใต้หล้าเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ”คำพูดนั้นอ่อนโยน เสียงท้ายประโยคนั้นเบาเพียงลมหายใจ แต่แฝงแรงสะเทือนถึงหัวใจคนฟังทั้งท้องพระโรง คำพูดดูคล้ายปกป้อง ทว่าเมื่อพินิจเนื้อหากลับเป็นการสาดน้ำมันลงบนเปลวเพลิงถ้อยคำ “มิอาจคิดการใหญ่” และ “ชิงความดีความชอบ” ดังก้องในใจผู้ฟังเหล่าขุนนางบางคนเริ่มซุบซิบ บ้างหลุบตา บ้างเหลือบมององค์ชายสามอย่างระแวดระวังแววพระเนตรของฮ่องเต้ที่วางอยู่บนพัดหลวงพลันไหววูบ พระโอษฐ์เม้มแน่น เสียงพระทัยคล้ายหนักอึ้งกว่าเดิมหลงเจิ้งหยางยังก้มศีรษะนิ่งงัน ดวงตาคู่น

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status