Home / รักโบราณ / ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ / ตอนที่ 3 ความผิดฐานล่วงเกิน

Share

ตอนที่ 3 ความผิดฐานล่วงเกิน

last update Last Updated: 2025-06-18 22:52:53

ยามอรุณแรกของวันใหม่ แสงแดดอ่อนส่องผ่านผ้าม่านสีแดงสดภายในห้องหอ ร่างของบุรุษรูปงามลืมตาขึ้น และทันทีที่สติของเขากลับมาเต็มที่ สายตาของเขาก็เต็มไปด้วยโทสะ

“ข้าทำสิ่งใดลงไป”

“เมื่อคืน ข้าหลับนอนกับนางอย่างนั้นหรือ” หลงเจิ้งหยางหันขวับไปมอง และสิ่งที่เขาเห็นคือร่างของไป๋ลี่เยว่ที่นอนขดตัวอยู่ข้างกาย

นางยังคงหลับตา ดวงหน้าที่ไร้เครื่องประทินโฉมยังคงเต็มไปด้วยรอยแดงจากสัมผัสของเขาเมื่อคืน

“ข้าแตะต้องนาง ซ้ำแล้วย้ำเล่า” ความร้อนรุ่มในร่างกายของเขามอดดับไปแล้ว แต่สิ่งที่แทนที่กลับเป็นเพลิงแห่งความเกลียดชัง

“ข้าถูกนางทำให้แปดเปื้อน”

เขาผุดลุกขึ้นจากเตียง ใบหน้าเต็มไปด้วยความขยะแขยง

“ไป๋ลี่เยว่”

ไป๋ลี่เยว่สะดุ้งตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงตวาด นางกะพริบตาช้าๆ ราวกับยังไม่ทันตั้งตัว

“องค์ชาย”

นางมองใบหน้าของพระสวามี แต่สิ่งที่นางเห็นกลับมิใช่สายตาอ่อนโยนหรือความยินดี มีเพียง ความรังเกียจ

“เมื่อคืน เจ้าทำสิ่งใดกับข้า” หลงเจิ้งหยางกล่าวเสียงเย็นชา

“เจ้ากล้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ”

ไป๋ลี่เยว่ชะงัก มือของนางกำผ้าห่มแน่น

“หม่อมฉันมิได้ทำสิ่งใดเพคะ”

“หึ มิได้ทำสิ่งใด” เขาหัวเราะเยาะ

“เมื่อคืนข้าถูกวางยาได้อย่างไร”

“หม่อมฉันมิรู้เรื่องนี้จริงๆ เพคะ” นางรีบปฏิเสธ

“หม่อมฉันมิได้วางยา”

“อย่ามาโกหก”

หลงเจิ้งหยางตวัดสายตาคมกริบมองนาง ก่อนจะกระชากผ้าห่มออกจากตัวนางโดยไร้ซึ่งความอ่อนโยน

“เจ้ามิได้เป็นคนวางยา แต่เจ้าคงทูลขอเสด็จแม่ให้วางยาข้าแทนใช่ไหม เช่นนั้นข้าคงไม่ต้องแตะต้องเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า”

ไป๋ลี่เยว่หน้าซีดเผือด นางอาจมิได้วางยาเขา แต่นางก็เป็นผู้เดียวที่ได้รับผลจากมัน ถูกครอบครองโดยบุรุษที่นางรัก แต่เขากลับเกลียดชังมันยิ่งกว่าสิ่งใด

“เจ้าอ้วน ไร้เสน่ห์ และต่ำต้อยเกินกว่าจะเป็นพระชายาของข้า ถึงกับต้องให้เสด็จแม่ช่วยวางยาข้า”

คำพูดนั้น บาดลึกลงกลางใจของไป๋ลี่เยว่

“ข้าต้องทนแตะต้องเจ้าทั้งคืน เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าขยะแขยงเพียงใด”

ไป๋ลี่เยว่กำมือตัวเองแน่น นางเม้มริมฝีปาก กลั้นน้ำตาที่รื้นขึ้นมาไม่ให้ไหลออกมา

“หม่อมฉัน” ไป๋ลี่เยว่ตัวสั่น นางมองเขาด้วยดวงตาเจ็บปวด

“หุบปากเสีย” หลงเจิ้งหยางเดินไปคว้าอาภรณ์ของตนเอง ก่อนจะสวมใส่อย่างเร่งร้อน

“ข้ามิอาจทนอยู่ที่นี่ได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว เจ้ามิใช่สตรีที่ข้าเลือก และข้ามิอาจทนมองหน้าเจ้าได้อีก”

เขาโยนผ้าสีขาวที่เปื้อนโลหิตของนางลงบนพื้น รอยยิ้มของเขายิ่งเย้ยหยันกว่าเดิม

“ยินดีด้วย เจ้าเป็นพระชายาของข้าอย่างสมบูรณ์แล้ว”

ไป๋ลี่เยว่กำผ้าห่มแน่น ตัวสั่นสะท้านด้วยความอับอาย น้ำตาคลอเบ้าแต่กลับไม่ยอมไหลออกมา หลงเจิ้งหยางยืนกอดอก มองนางด้วยสายตาไร้ความรู้สึก

“วันนี้ ข้าจะกราบทูลฝ่าบาท ขอออกไปทำศึกที่ชายแดน” หลงเจิ้งหยางเอ่ยอย่างเรียบเฉย ราวกับว่านี่เป็นเรื่องปกติของเขา

ไป๋ลี่เยว่ชะงักงัน เงยหน้ามองเขาด้วยสายตาตกตะลึง “ท่านจะไป ท่านจะทิ้งหม่อมฉันไปเลยหรือเพคะ”

“ใช่” หลงเจิ้งหยางกล่าวเสียงเรียบ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ แล้วโน้มตัวลงกระซิบข้างหูนาง

“ข้ามิได้เพียงทิ้งเจ้า แต่ข้าจะไล่เจ้าไปให้ไกลที่สุด” หลงเจิ้งหยางหัวเราะเย็นชา

“ตั้งแต่นี้ไป เจ้าจะต้องย้ายไปอยู่ตำหนักเย็น อย่าได้ก้าวล้ำเข้ามาในชีวิตของข้าอีก”

“ตำหนักเย็น”

คำพูดนั้นราวกับมีดที่กรีดลงกลางหัวใจของไป๋ลี่เยว่ นางเม้มริมฝีปากแน่นพยายามสะกดกลั้นน้ำตา นางไม่นึกว่า เขาจะกล้าทิ้งนางไว้เพียงลำพังเช่นนี้

“เพราะเหตุใดเพคะ” นางพึมพำเสียงสั่น มือสั่นระริก

“เพราะข้าไม่ต้องการเห็นเจ้า ข้าไม่มีวันยอมให้เจ้ามาอยู่ข้างกายข้าเด็ดขาด เจ้าคิดว่าเจ้าจะได้อยู่ในตำหนักของข้า เช่นพระชายาคนอื่นหรือ ฝันไปเถิด ตำหนักนี้ ข้าจะปิดตาย จนกว่าข้าจะกลับมา เจ้าไม่มีสิทธิ์จะมาอยู่”

“แต่หม่อมฉันเป็นพระชายาของท่าน”

“แล้วอย่างไรเล่า ถึงเจ้าจะมีตำแหน่ง แต่เจ้าก็มิได้อยู่ในใจข้า” เขาตวัดสายตามองนาง

“เจ้าคิดว่าเพียงแค่คืนเดียว เจ้าจะสามารถผูกมัดข้าได้หรือ” หลงเจิ้งหยางกล่าวอย่างเย็นชา

“อย่าได้คิดว่าเพราะเมื่อคืน ข้าจะเปลี่ยนใจ สำหรับข้า มันก็เป็นแค่เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะถูกบีบบังคับ ไม่มีวันที่ข้าจะยินยอมรับเจ้า” เขาก้าวเข้าไปใกล้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหยิ่งผยองและความดูแคลน

“ไม่มีวัน” เพียงเท่านั้น หลงเจิ้งหยางก็สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินออกไปจากห้อง โดยไม่แม้แต่จะเหลียวมองนางอีก

หลงเจิ้งหยางก้าวไปที่ประตู แต่ก่อนที่เขาจะออกจากห้อง ไป๋ลี่เยว่ก็เอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว รู้สึกเหมือนลมหายใจของนางกำลังจะหมดไป หัวใจของนางถูกบดขยี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“องค์ชาย ”

เขาชะงักไปครู่หนึ่ง แต่ก็มิได้หันกลับมา แต่ถึงแม้เขาจะรังเกียจนางเพียงใด นางก็ยังอยากให้เขารู้ว่านางมิได้มีเจตนาร้าย

“หม่อมฉัน หม่อมฉันไม่เคยคิดจะวางยาท่าน แม้ท่านจะไม่รักหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันก็ไม่เคยคิดจะทำให้ท่านต้องลำบากใจ เพียงเพราะว่า..”

“พอเถิด” หลงเจิ้งหยางตัดบท มิให้โอกาสนางอธิบาย

“ถึงแม้เจ้าจะมิได้วางยา ข้าก็มิได้ต้องการเจ้าตั้งแต่แรก”

“เจ้ารู้ตัวหรือไม่ ว่าการที่ข้าต้องแตะต้องเจ้ามันเป็นเรื่องที่ข้าขยะแขยงเพียงใด”

ไป๋ลี่เยว่รู้สึกเหมือนมีดพันเล่มพุ่งเข้าใส่ ร่างกายของนางเย็นเฉียบ หัวใจของนางแทบหยุดเต้น

“จงอยู่ที่ตำหนักเย็นไปเถิด” เขากล่าวอย่างไร้เยื่อใย

“และอย่าได้หวังว่าข้าจะมองเจ้าด้วยสายตาอื่น เพราะข้ามิได้รักเจ้า และจะไม่มีวันรัก”

สิ้นถ้อยคำเฉือนใจน้ำตาของนางเอ่อล้นที่ขอบตา แต่สุดท้ายนางก็กัดฟันอดกลั้นเอาไว้ เขามิได้ต้องการให้นางอยู่ เช่นนั้นนางก็ควรไป นางสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเขาเป็นครั้งสุดท้าย

“หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ หม่อมฉันจะไม่รบกวนชีวิตของท่านอีก”

“ต่อให้ท่านมิได้รักหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันก็ยังรักท่าน”

“แต่ตั้งแต่นี้ไป หม่อมฉันจะไม่ขอร้องให้ท่านเมตตาหม่อมฉันอีก”

“เพราะหม่อมฉันกำลังจะจากไป เช่นเดียวกับหัวใจของหม่อมฉัน”

หลงเจิ้งหยางชะงักไปชั่วครู่ กำหมัดแน่น แต่เขาก็มิได้หันกลับมามองนางแม้แต่น้อย มีเพียงแค่น้ำเสียงเย็นชาเป็นคำพูดสุดท้าย ที่ถูกทิ้งไว้แทนคำลาจาก

“ก็ดี”

หลังจากกล่าวจบ เขาก็ก้าวออกจากห้องหอไปโดยไม่แม้แต่หันกลับมามองอีกเลย

ไป๋ลี่เยว่จ้องมองแผ่นหลังของเขาที่ค่อยๆ ห่างออกไป น้ำตาที่นางกลั้นเอาไว้ก็ร่วงหล่นลงมาเงียบๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 77 แผนร้ายของกระบี่ไร้เสียง

    “…ใคร” ซูเหวินเงยหน้าช้า ๆ “หนึ่งในนักฆ่ากลุ่มกระบี่ม่วง พ่ะย่ะค่ะ” หลงเจิ้งหยางกำมือแน่นจนข้อนิ้วขาวซีด “พวกมัน…ยังไม่ตายหมดอย่างนั้นหรือ” เขาพึมพำกับตัวเอง คิ้วเข้มขมวดแน่น “มันเป็นกลุ่มขนาดใหญ่ มีกำลังคนจำนวนมากพ่ะย่ะค่ะ” เสียงขององครักษ์รายงานอย่างเร่งร้อน “สายที่หอเมฆหม่นรายงานว่า มีการส่งของบางอย่าง เป็นหีบดำขนาดเล็ก พร้อมจดหมายลับ กระหม่อมสันนิษฐานว่า...น่าจะเป็นการว่าจ้างบางอย่างที่ส่อเค้าเป็นภัยอย่างยิ่งอีกพ่ะย่ะค่ะ” หลงเจิ้งหยางหรี่ตาลงช้า ๆ ดวงตาคมวาวราวพญาเหยี่ยวที่จับจ้องเหยื่อในระยะประชิด สีหน้าของเขาสงบนิ่ง แต่อากัปกิริยากลับแฝงไปด้วยแรงกล้าของพายุที่พร้อมโหมกระหน่ำ “สั่งให้คนของเราจับตาทุกฝีก้าว อย่าให้คลาดสายตาแม้แต่ก้าวเดียว อย่าเพิ่งลงมือ…สืบให้ได้ว่ามีแผนอันใดอีก ข้าจะไม่ยอมให้พวกมันเดินเกมในเงามืดลับหลังเราได้อีกเป็นครั้งที่สอง” “รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ” “…เจ้าช่างไม่เคยทำให้ข้าผิดหวังเลยจริง ๆ เสนาบดีหลี่…” หลงเจิ้งหยางยืนนิ่ง ริมฝีปากขยับพึมพำแผ่วเบาราวเสียงลมพัด ตอนแรกคล้ายคำชม แต่กลับตามมาด้วยแววตาเย็นเยียบ ก่อนจะตาหรี่ลงอีกครั้ง พลางเสียงคำสั่งเย็นชา

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 76 ใต้เงาจันทร์ที่อ่อนโยน

    “เขาไม่ควรใช้มันแล้ว...” เสียงพึมพำแผ่วเบาราวสายลมหลุดจากริมฝีปากไป๋ลี่เยว่ นางชะงักมือลงขณะกำลังจะหยิบสมุนไพรอีกกำมือใส่ลงหม้อต้มยา กลิ่นสมุนไพรหอมอบอวลลอยขึ้นทั่วห้องยามน้ำเดือดปุด ๆ ดวงตางามหรี่ลงเล็กน้อย เมื่อเห็นใบซานเจียวเซินที่ยังวางอยู่ในถาด มือเรียวสั่นเล็กน้อย ราวกับลังเล… สมุนไพรนี้ แม้จะช่วยฟื้นกำลังสำหรับผู้ที่ยังอ่อนแรง...ให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น แต่เหตุใดมันกลับใช้ไม่ได้ผลกับคนที่นอนเจ็บอยู่ในตำหนัก องค์ชายสาม...เขามิได้มีทีท่าว่าอาการจะหนักถึงเพียงนั้นแล้ว เหตุใดยังเอาแต่นอนนิ่งเช่นผู้ไร้เรี่ยวแรง นางดับไฟ มือบางยกหม้อยาสมุนไพรเมื่อเดือดได้ที่แล้วลง ก่อนจะเทรินยาใส่ถ้วยอย่างเรียบร้อย เบนสายตาไปทางห้องบรรทมที่พระสวามีของนางนอนพักอยู่ แล้วเดินเนิบช้าสู่ห้องบรรทมที่สองพ่อลูกดูแลกันอยู่ แสงแดดยามสายลอดผ่านม่านบางภายในห้องบรรทม หลงเจิ้งหยางนั่งพิงหัวเตียงในอาภรณ์ผ้าแพรสีอ่อน มือหนึ่งถือกระดาษที่หลงจิ่นอวิ๋นวาดเล่น อีกมือวางนิ่งบนตัก แม้ใบหน้าซีดเซียว แต่แววตาฉายประกายอ่อนโยนขณะมองภาพครอบครัวที่โอรสน้อยกำลังวาด เสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังขึ้น ทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมอง “ยามาแล้วเพคะ”

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 75 รอดั่งขุนเขามิไหวติง

    ห้องบรรทมในตำหนักชิงอวิ๋น เสียงฝีเท้าแผ่วเบา บนพื้นหินเจียระไนดังก้องสะท้อนในโถงเงียบสงัดของตำหนักชิงอวิ๋น ซูเหวินก้าวเข้ามาในห้องด้านใน ซึ่งมีเพียงตะเกียงน้ำนมดวงเดียวให้แสงสลัว กลิ่นยาสมุนไพรคละคลุ้งไปทั่ว ดวงตาคมใต้คิ้วหนาหรี่ลงเล็กน้อย เมื่อพบว่าองค์ชายสามยังคงนั่งเอนกายพิงหมอนอยู่บนเตียง มีผ้าคลุมหนาห่มกายอยู่ แม้บาดแผลยังไม่หายสนิท แต่สีหน้าดูดีขึ้นกว่าก่อนหน้า ทว่าผู้เป็นนายกลับมิยอมพักผ่อน ยังคงรอคอยการรายงานจากเขา “องค์ชาย กระหม่อมขอรายงาน…” ซูเหวินกล่าวเสียงเบา ขณะเดินเข้ามาคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าประสานมือคารวะ หลงเจิ้งหยางเงยหน้าขึ้นช้า ๆ ปรายตามองเขานิ่ง ๆ ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงแผ่วทว่าเด็ดขาด “ได้ความว่าอย่างไร..ว่ามา” เขาหยุดพูดไปครู่ ดวงตาทอดมองความมืดนอกหน้าต่าง ราวกับจับจ้องอะไรบางอย่าง ซูเหวินค้อมศีรษะก่อนกล่าวเสียงเบา “กระหม่อมเริ่มตามร่องรอยได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ ผู้ที่ลงมือในวันนั้น…” เขาหยุดเว้นจังหวะ ก่อนกล่าวต่อ “มือสังหารมิใช่พวกจากแคว้นเรา หากแต่เป็นผู้ที่มีฝีมือ เป็นนักฆ่าที่ชำนาญวิชาจากแดนใต้…เรียกตนว่ากระบี่ม่วง กลุ่มนี้รับงานเฉพาะจากสกุลขุนนางใหญ่เพีย

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 74 ผิดแผน แค้นมิสร่างซา

    ระเบียงทางเดินในวังหลวง “ท่านเสนาบดีหลี่…” เสียงทุ้มนุ่มฟังดูสุภาพดังขึ้นจากด้านข้าง ทำให้ผู้เป็นขุนนางเฒ่าหยุดชะงัก หันไปพบกับบุรุษในอาภรณ์สีม่วงปักลายมังกรห้ากรงเล็บ ใบหน้าเปี่ยมรอยยิ้มแต่แววตากลับลึกล้ำ “องค์ชายสอง กระหม่อมคารวะพ่ะย่ะค่ะ” เสนาบดีหลี่รีบประสานมือคารวะหลงเหวินหยาง องค์ชายสูงศักดิ์เพียงยกมือขึ้นเบา ๆ “ไม่ต้องเกรงใจท่านเสนาบดี ข้าเพียงผ่านมาพอดี เห็นท่านยังมีแววหมองในดวงตา คงเป็นเรื่องของคุณหนูหลี่กระมัง” “พระองค์ทรงเอ่ยถึง…” เสนาบดีหลี่สบตาอีกฝ่าย สีหน้าเจือรอยระวัง “ข้าเองก็ได้ยินขุนนางกล่าวถึงเรื่องในงานชมบุปผาวันนั้น... ข้าเจ็บใจแทน คุณหนูหลี่เป็นหญิงงามมีความสามารถ หาได้ควรถูกลบแสงด้วยอุบะดอกไม้เช่นนั้น...” หลงเหวินหยางถอนใจแผ่วเบาอย่างคนมีเมตตา ดวงตาของเขาฉายความเจ็บใจแทนอย่างจริงใจ แต่เพียงพริบตาเดียวก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มละมุน “น่าเสียดายที่บางผู้ไม่เห็นคุณค่า กลับไปลุ่มหลงสิ่งเดิมที่มีอยู่และคิดว่าดีที่สุดแล้ว” ดวงตาคมจับจ้องขุนนางคู่สนทนาอย่างสื่อความหมาย “แต่บางที...อาจถึงเวลาที่สวรรค์ควรมอบเวทีใหม่ให้นางได้เจิดจรัสในที่ที่เหมาะสมกว่า” ขุนนางหลี่ยืน

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 73 สายใยใต้ความเจ็บ

    “ท่านพ่อ…เจ็บมากหรือไม่…” เสียงโอรสน้อยถามบิดา ทว่าไม่มีคำตอบจากบุรุษที่ยังนอนนิ่งอยู่ ดวงตาที่เพิ่งลืมเมื่อครู่ปิดลงอีกครั้ง เสียงลมหายใจแผ่วเบาแต่สม่ำเสมอ เป็นสิ่งเดียวที่ยืนยันว่าเขายังอยู่ตรงนี้ ไป๋ลี่เยว่นั่งนิ่งเฝ้ามองลูกน้อยที่จับมือพระบิดาราวกับกลัวอีกฝ่ายจะหายไป สายตานางทอดยาวไปยังร่างที่นอนแน่นิ่ง ใบหน้าที่เคยดุดันบัดนี้ซีดขาวไร้สีเลือด “…ดื้อด้านเพียงใด ตัวเองเจ็บเจียนตายยังตื่นมาห่วงลูก…” แม้ปากจะบ่น แต่ร่างบางที่ดูอ่อนแรงจากการเฝ้าดูแผล กลับไม่มีทีท่าว่าจะลุกไปพักแม้เพียงครู่ เดิมทีคิดจะเพียงรักษาให้เสร็จแล้วเดินจากไป…แต่กลับทำไม่ได้ “ท่านแม่…” เด็กน้อยเอ่ยเสียงงัวเงีย “ถ้าท่านพ่อฟื้นอีกที จะเจ็บอีกไหม” นางไม่ตอบในทันที…เพียงแค่มองใบหน้าที่ซีดขาวของบุรุษตรงหน้า ดวงตานั้นปิดสนิท ไร้แววแห่งความทรมาน แต่กลับคล้ายหลับลึกยิ่งกว่าครั้งไหน “ไม่หรอก แม่ให้ยาระงับปวดแล้ว…เจ้ากลัวหรือไม่ เสี่ยวเป่า” นางถาม พลางเอื้อมมือไปลูบผมโอรส หลงจิ่นอวิ๋นพยักหน้าช้า ๆ “กลัว…แต่ก็…สงสารท่านพ่อ” คำตอบสั้น ๆ ของเด็กน้อย ทำให้หัวใจของนางคล้ายถูกมือใครบางคนบีบไว้เบา ๆ เขาเงียบไปชั่วครู่แล้

  • ลิขิตรัก องค์ชายไร้ใจ   ตอนที่ 72 ใจร้ายแม้ยามเจ็บ

    “เปิดทาง! เปิดประตูตำหนักเดี๋ยวนี้!”เสียงตะโกนของซูเหวินกึกก้องสะท้อนลั่นลานด้านหน้าตำหนักชิงอวิ๋น อีกทั้งเสียงฝีเท้าดังระรัวประหนึ่งกลองรบกลางรัตติกาล กลบความเงียบสงบของตำหนักให้แตกกระเจิง ทหารเวรยามวิ่งกรูมาอย่างตื่นตระหนก ก่อนชะงักไปเมื่อภาพตรงหน้ากระแทกใจร่างสูงใหญ่ไร้สติขององค์ชายสาม ถูกซูเหวินแบกไว้บนแผ่นหลัง เสื้อคลุมโชกโลหิต และไหล่ซ้ายมีลูกศรยาวปักคาไว้ ข้างกายคือเสียงร้องสะอื้นของเด็กน้อยผู้สูงศักดิ์ องค์ชายน้อยหลงจิ่นอวิ๋นที่หลินซ่างอุ้มวิ่งตามมาร้องน้ำตานองแก้ม“เสด็จพ่อ พ่อข้า ท่านพ่อ..ฮึก…”เสียงเล็กนั้นสั่นเครือ ประดุจมีดกรีดกลางหัวใจ ก่อนที่จะบอกให้หลินซ่างปล่อยตัวเองลง ฝีเท้าเล็กเร่งตามซูเหวินไม่ต่างจากใจที่แทบหลุดออกจากอก“รีบ! ส่งข่าวถึงหมอหลวงโดยไว! ให้คนไปเชิญหมอหลวงเดี๋ยวนี้” หลินซ่างตะโกนก้อง พลางวิ่งตามซูเหวินไปทว่า…ทุกเสียงหยุดกึกทันที เมื่อม่านผ้าแพรหน้าตำหนักพลันแหวกออกเงาร่างหนึ่งปรากฏกาย ร่างระหงในชุดสีขาวสะอาดราวม่านหมอกใต้แสงจันทรา พระชายาไป๋ลี่เยว่ ผู้งามเลิศล้ำแห่งตำหนัก ยามนี้ดวงหน้างามซีดเผือด ทว่าสง่าราศีมิได้ลดถอยนางยืนนิ่ง…ดวงตาเบิกโพลงเมื่อเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status