Share

บทที่ 4

Author: Mu lingxi
last update Last Updated: 2025-10-13 05:55:25

เสียงเด็กหญิงน้อยตอบอย่างนอบน้อม นางนั่งหลังตรง ใบหน้าจริงจังจนผู้พบเห็นยังอดยิ้มไม่ได้ ข้างกายมีเด็กชายอีกคนกำลังยกนิ้วนับถอยหลัง

“ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง ฟุบ!” ไม่ทันขาดคำ อาจารย์ผู้เฒ่า ก็ฟุบหลับลงบนโต๊ะจริงๆ!

“อืม หนิงหนิง เจ้านี่พัฒนาขึ้นไม่น้อยเลยนะ!” เด็กชายพูดยิ้มๆ

“แหงสิ! ข้าหนิงหนิงผู้ยิ่งใหญ่ไงเล่า!” เด็กหญิงสะบัดหน้าภูมิใจ มือเล็กๆ ยกขึ้นลูบมวยผมทรง “หัวซาลาเปา” อย่างอวดดี

แต่พอแขนเสื้อร่นลง กลับเผยรอยแดงประหลาดราวกับสัญลักษณ์บนข้อมือ! หนิงหนิงขมวดคิ้ว รีบดึงแขนเสื้อปิดแน่น

“อย่าปิดเลย ข้าเห็นหมดแล้ว!” เป่าเป่าหัวเราะพลางยกแขนเสื้อตนเองขึ้นบ้าง “ดูสิ ข้าก็มีเหมือนกัน…แถมเข้มขึ้นทุกวันด้วย!”

หนิงหนิงเบิกตากว้าง ก่อนจะฟาดน้องชายไปเพี้ยะหนึ่ง “พูดมากจริง! รีบลงมือได้แล้ว!”

“โอ้ย~ ใจเย็นๆเถิดท่านพี่ อาจารย์หลับปุ๋ยขนาดนี้ จะหนีไปไหนได้อีกเล่า” แม้จะบ่น แต่เป่าเป่าก็รีบวิ่งไปคว้าพู่กัน จุ่มหมึกลงเต็มปลาย แล้ว…

จัดการวาดลวดลายบนหน้าของ อาจารย์อย่างไรความปรานี “ฮ่าๆๆ! งามนัก! งดงามยิ่งนัก เสียจนท่านแม่เองก็ยังจำไม่ได้!”

เมื่อแกล้งจนหนำใจแล้ว สองแฝดหัวเราะคิกคัก พลางจูงมือกันออกจาก ห้องศึกษา

แต่ทันทีที่ประตูเปิดออก กลับเจอกับ พ่อบ้านใหญ่ ยืนรออยู่ตรงหน้า!

สายตาทั้งคู่สบกันเพียงแวบเดียว เป่าเป่ารีบพุ่งเข้าไปหาอย่างว่องไว “ท่านลุงพ่อบ้าน~ เมื่อครู่อาจารย์เล่าเรื่องสนุกนัก! ข้าอยากเล่าให้ท่านฟังด้วย!”

พ่อบ้านใหญ่ได้ยินชื่อเรื่องเท่านั้น ใบหน้าก็แข็งค้างเสร็จแน่…หายนะมาเยือนแล้ว!

แต่เพราะเกรงเสียมารยาท จึงทำได้เพียงพยักหน้าเบาๆเป่าเป่าก็ยืดอก สูดลมหายใจอย่างมาดมั่นแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังประหนึ่งนักเล่านิทานมืออาชีพ

“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีภูเขาลูกหนึ่งบนภูเขานั้นมีวัด

ในวัดมีพระชราหนึ่งองค์กับแม่ชีอีกหนึ่งรูป…”

ภายในห้องหนังสือเล็กของจวน ตะวันสายสาดลอดหน้าต่างเข้ามาอบอุ่น อากาศสงบเงียบจนได้ยินแม้เสียงปลายพู่กันเสียดสีกับกระดาษ

พ่อบ้านชราผู้มากประสบการณ์ นั่งเงี่ยหูฟังเรื่องเล่าของคุณชายตัวน้อยตั้งแต่ต้น ก็ยังคงพยักหน้ารับด้วยมารยาทตามหน้าที่แต่พอได้ยินประโยคถัดมา…กลับสะดุ้งเฮือก! หัวใจแก่ๆ แทบหยุดเต้น

เขารีบโค้งกาย ลนลานเอ่ยว่า

“คุณชาย เรื่องเล่าของท่านช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก! เพียงแต่บ่าวยังมีธุระต้องไปจัดการ ขออภัยที่ไม่อาจอยู่ฟังจนจบขอรับ!” สิ้นคำ ร่างชรานั้นก็หมุนกายออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ฝีเท้าแทบสะดุดเพราะความลนลาน ไม่แม้เหลียวหลังกลับมามองสองแฝดสักนิดเดียว

เสียงหัวเราะใสแจ๋วดังขึ้นทันทีที่พ่อบ้านลับตา

“ฮ่าๆๆ … ท่านพ่อบ้านนี่ชักจะน่ารักขึ้นทุกวันแล้วนะ!”เป่าเป่าหัวเราะจนตัวโยน แววตาเจิดจ้าเต็มไปด้วยความซุกซน หนิงหนิงผู้เป็นพี่สาวแม้มิได้หัวเราะเสียงดัง แต่ก็ยกหน้าพยักหน้า สีหน้าบ่งบอกชัดว่าเห็นด้วยเต็มที่

“ท่านพ่อบ้านน่ารักจริงๆ แต่ก็ออกจะน่าสงสารนิดหน่อยด้วยแหละ” น้ำเสียงของนางอ่อนโยนแต่ซ่อนความเอ็นดู

“ไปเถอะ! แอบออกไปเล่นกัน!”

เป่าเป่าคว้ามือพี่สาวทันที ร่างเล็กกระตือรือร้นพาอีกฝ่ายมุ่งหน้าไปยังสวนด้านหลัง ความตั้งใจปรากฏชัดในดวงตากลมโต เขาคิดจะปีนกำแพงหนีออกไป

หนิงหนิงชะงักเล็กน้อย แววตากังวลผุดขึ้น เอ่ยเสียงเบา

“หากท่านแม่รู้เข้า…จะเป็นอย่างไรนะ”

เป่าเป่าทำปากยื่น เบ้หน้า “หากท่านแม่รู้ ก็แค่โดนดุเท่านั้น! หรือว่าเจ้าไม่กล้า”

“ไม่ใช่ว่าไม่กล้า!” หนิงหนิงขมวดคิ้วแน่น เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังเกินวัย

“เพียงแต่…ช่วงนี้ท่านแม่ไม่ค่อยสบายใจ ข้าว่าเราไม่ควรทำให้ท่านลำบากใจเพิ่ม เข้าใจหรือไม่”

เป่าเป่าพยักหน้าหงึกๆ แต่รอยยิ้มยังไม่จาง “เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว! เช่นนั้นไม่หนีไปเล่นก็ได้! เปลี่ยนแผน…ไปหาของกินในครัวแทนเป็นไร”

หนิงหนิงสบตาน้องชาย ก่อนคลี่ยิ้มบางๆ ยอมตามใจในที่สุด “อื้ม!”

ห้องหนังสืออีกฟากของจวน

บรรยากาศเงียบขรึมหนักอึ้ง ชายผู้คุกเข่าอยู่บนพื้นไม่กล้าขยับ ไม่กล้าหายใจแรงแม้แต่น้อย ยิ่งไม่กล้าแหงนหน้ามองสตรีชุดขาวที่ยืนอยู่ริมหน้าต่าง ผมยาวสยาย ดวงตาเย็นเฉียบ ร่างทั้งร่างแผ่กลิ่นอายเย็นยะเยือกจนขนลุก

ครู่ใหญ่ หลินซีจึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น “ซือหรงกับพวกนางอยู่ที่ใด”

“เรียนคุณหนู พวกนางได้ตามไปยังเมืองหลวงแล้วขอรับ!”

“เมืองหลวง” หลินซีพึมพำเบาๆ สองคำนี้ทำให้นางใจสั่น นึกถึงความหมายที่ฝังอยู่ลึกในความทรงจำ

หลายปีก่อน… ที่นอกเมืองหลวง ในป่าแห่งนั้น นาง บังคับขืนใจชายผู้หนึ่ง และหลังจากนั้นก็ได้ตั้งครรภ์ ให้กำเนิดเป่าเป่ากับหนิงหนิง เดิมทีนางเพียงคิดว่าในโลกแปลกแยกนี้ อย่างน้อยก็ยังมีผู้ที่สืบสายเลือดเดียวกันกับนาง ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมทางในโชคชะตา ทว่าไม่เคยคาดคิดเลยว่า… ชายคนนั้นไม่เพียงได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังมีพิษฝังลึกในร่างกาย! และพิษนั้น ได้ส่งต่อถึงลูกทั้งสองที่ยังอยู่ในครรภ์ ทำให้พวกเขาเกิดมาพร้อมกับความเจ็บปวดทรมาน

นางเคยเชื่อว่า เพียงได้ หิมะบัวแห่งเทือกเขาเทียนซาน มาเป็นตัวยาหลัก ก็จะถอนพิษนี้ได้ ปกป้องชีวิตลูกทั้งสองให้ปลอดภัยตลอดไป

แต่ใครจะคาดคิดว่าโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นดั่งใจ

“ฝ่ายตรงข้ามมีกำลังเท่าไร” หลินซีเอ่ยถามเสียงเรียบ

“ทัพใหญ่สามหมื่นนาย!”

เพียงเพราะบัวหิมะหนึ่งดอกของเทือกเขาเทียนซาน…อีกฝ่ายกลับกล้าส่งกำลังพลนับ สามหมื่นคนบุกมาเพื่อตามหา!

แต่ที่ทำให้นางขบกรามแน่นกว่านั้นคือ

คนของนางที่ส่งไปล่วงหน้าเพื่อสืบข่าว กลับ ไม่มีแม้แต่คนเดียว ที่สามารถจับเบาะแสใดๆ ได้!

แม้แต่เงาก็ไม่มี!

เรื่องนี้

บ่งบอกเพียงสิ่งเดียวพวกมันซ่อนตัวได้ลึกอย่างน่ากลัว!หลินสูดลมหายใจเข้าลึก ลึกเสียจนเหมือนจะกลืนโทสะทั้งหมดลงในอก จากนั้นเอ่ยถามด้วยเสียงต่ำและเยือกเย็น

“พวกเรามีกี่คน”

เสียงตอบมาจากชายผู้คุกเข่าอยู่ตรงหน้า นิ่งแต่หนักแน่น “สามพันขอรับ”

สามพัน…

ปะทะสามหมื่น…

ความต่างนี้มิใช่เพียงแค่จำนวน แต่คือหายนะที่มองเห็นชัดอยู่เบื้องหน้า “แล้วเราสูญเสียไปกี่คน”

ขณะเอ่ยประโยคนี้ มือเรียวข้างหนึ่งของหลินซี กำแน่นจนเส้นเลือดนูนขึ้น นิ้วทั้งห้าสั่นระริกด้วยความอดกลั้นอย่างสุดกำลัง

หากมิใช่เพราะช่วงนี้หนิงหนิงกับเป่าเป่าอาการพิษกำเริบ…

หากมิใช่เพราะลูกทั้งสองของนางอยู่ในช่วงเวลาอันเปราะบางนี้ ต่อให้ต้องข้ามภูเขา ฝ่าทะเลเพลิงนางก็จะออกศึกด้วยตนเอง!

จะไม่มีวันยอมให้ใครต้องตายแทนนาง!

เด็ดขาด!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 55

    “ต่อให้เทียนซานเสวี่ยเหลียนไม่ตกอยู่ในมือพวกเราตั้งแต่แรก หากเมื่อใดมันเผยโฉม เราก็ต้อง แย่งมาให้ได้…ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม!” เสียงของนางราวสายลมหนาวในหุบเหว ฉูเหวินทรุดกายคุกเข่าทันที “ขอรับ!” ศึกหญิงงามชิงเด่น ข่าวลือเรื่องที่อ๋องผู้สำเร็จราชการจะจัดการคัดเลือกหญิงงาม เพียงแพร่สะพัดออกไป ก็สร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งแผ่นดิน ขุนนางผู้ทรงอำนาจและตระกูลมั่งคั่งต่างรีบส่งบุตรีที่งดงามที่สุดของตนออกมาอวดโฉม บ้างว่าจ้างครูผู้ชำนาญมาสอนศิลปะสารพัดแขนง บ้างสั่งตัดชุดงามล้ำจากหอจิ่นซ่านเก๋อ ยิ่งใครปรารถนาผลลัพธ์มากเท่าไร ยิ่งทุ่มเทมากเท่านั้น โชคดีที่หอจิ่นซ่านเก๋อมีหญิงปักผ้าฝีมือเอกมากพอ แม้จะสั่งทำเฉพาะ ก็ยังสามารถส่งมอบได้ภายในสามวัน แน่นอนว่า สิ่งแรกที่ถูกนำมานับถือคือเงินทอง หากเจ้ามีเงิน เจ้าก็เป็นได้ถึงขั้นบงการ หากขัดสนแต่ยังอยากรักษาหน้า ก็เลือกซื้อเสื้อผ้าสำเร็จรูปแขวนอยู่ตรงนั้น จ่ายเงินแล้วนำกลับไปอวดอ้างก็ยังได้อยู่ดี เพราะเสื้อผ้าของหอจิ่นซ่านเก๋อขึ้นชื่อมาแต่เดิมว่า หรูหรา งดงาม และสูงศักดิ์ “คุณหนู ฮะฮะฮะ ช่วงนี้รายได้งามนัก” ฉูเหวินถือสมุดบัญชีเดินยิ้มเข้ามาใ

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 54

    คืนนั้น… คงทำให้ตาเฒ่าชราผู้นั้น ตกใจไม่น้อยเลยกระมัง ไม่อย่างนั้น ตลอดหลายวันที่ผ่านมาผู้คนมากมายยังแวะเวียนมาดูอาการนาง ทว่าเพียงเขาผู้เดียวที่ไม่เคยปรากฏตัว“ตาเฒ่าเป็นอย่างไรบ้าง?” ซือหรงชะงักเล็กน้อย ก่อนตอบเสียงเรียบ “ท่านอาวุโสยังแข็งแรงดีเจ้าค่ะ!” หลินซีส่ายหน้าเบา ๆ แววตาเศร้าลึกจนยากจะเอ่ย “ข้าไม่ได้หมายถึงยามนี้ แต่หมายถึงคืนนั้น หลังจากเขาส่งข้ากลับมาแล้ว… เขาเป็นอย่างไรบ้าง?” ซือหรงเม้มปากแน่น หันมองรอบกายอย่างระวัง พอแน่ใจว่าไม่มีผู้ใดอยู่ใกล้ จึงโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบา “คืนนั้น หลังจากผู้อาวุโสอุ้มคุณหนูกลับถึงเรือน เขาก็หมดสติลงทันทีเจ้าค่ะ ” คำพูดแผ่วๆ เหล่านั้น กลับดังกึกก้องในห้วงจิตของหลินซี หัวใจพลันบีบรัดแน่น ราวถูกมือใครบีบไว้เต็มแรง “ข้าคิดว่า… เทียนซานเสวี่ยเหลียน หาได้ง่ายดายนัก เหมือนของที่หยิบออกมาจากกระเป๋า แต่เปล่าเลย…” เสียงนางสั่นเครือ มือเรียวค่อย ๆ ยกขึ้นปิดริมฝีปากแน่น กลั้นเสียงสะอื้นที่แทบจะทะลักออกมา สูดลมหายใจเข้าลึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งหมด… คือความประมาทของนางเอง นางควรระลึกไว้ให้มั่น ว่า… หวงจิ่วเยี่ยคือผู้ใด เขาไม่ใช่ชายคนหน

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 53

    เด็กน้อยสองคน วัยเพียงห้าขวบเท่านั้น กลับกอดกันแน่นราวกับโลกทั้งใบพังทลาย และมีเพียงอ้อมกอดนี้เท่านั้น… ที่ยังหลงเหลือ หลายวันที่ผ่านมา พวกเขาไม่เคยร้อง ไม่เคยเอะอะ แม้กระทั่งคำพูดก็ยังต้องเอื้อนเอ่ยเบาที่สุด เพราะกลัวจะรบกวนผู้เป็นมารดาที่นอนหลับไม่รู้สึกตัว แม้จะยังเล็กนัก แต่กลับเข้าใจทุกอย่างเข้าใจมากเกินกว่าที่เด็กวัยนี้ควรจะเข้าใจ และเพราะเข้าใจ พวกเขาจึงเลือกที่จะเก็บซ่อนความรู้สึกทั้งหมดไว้ในใจ ในความเงียบที่กดทับ บนใบหน้าที่ฝืนแววกล้า ไม่มีใครรู้เลยว่าในใจของเด็กน้อยสองคนนี้ เต็มไปด้วยความกลัว ความว้าเหว่ และความหวังเพียงริบหรี่ที่เกาะกุมอยู่ ซือหรงยืนเงียบอยู่หน้าประตูห้อง สายตาแน่วนิ่งไปยังภาพบนเตียง เด็กน้อยสองคนกอดกันแน่นจนแทบเป็นเนื้อเดียว ริมฝีปากบางเม้มแน่น ดวงตาแดงก่ำ ก่อนจะหันหน้าหนีเงียบๆ น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงอาบแก้ม ไร้เสียงสะอื้น แต่กลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจนแทบกลืนไม่ลง ในห้วงขณะนั้นเอง มือของหลินซีก็ขยับไหวเพียงเล็กน้อย เปลือกตาคู่งามค่อยๆ เปิดขึ้นช้าๆ อย่างยากเย็นและภาพแรกที่แลเข้ามาในสายตา คือภาพของเป่าเป่าและหนิงหนิง เด็กน้อยทั้งสองที่กอดกันแน่น เฝ้านา

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 52

    เพราะเขารู้ดี หวงจิ่วเยี่ยไม่เคยเป็นเช่นนี้ เขาไม่ใช่คนชอบดื่มสุรา และต่อให้ดื่ม… ก็ไม่เคยเมา แต่ยามนี้… เขากลับดื่มราวกับไม่ต้องการตื่นขึ้นมาอีกเลย เหมือนคนที่ไม่เหลืออะไรให้หวงแหนในโลกนี้อีกแล้ว “ท่านอ๋อง?” จิ่นอู่เอ่ยขึ้นเบา ๆ พักใหญ่ กว่าหวงจิ่วเยี่ยจะค่อย ๆ ลืมตา เขาหันมามองจิ่นอู่ตรง ๆ สายตานิ่งราวกับคนสิ้นใจ ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว “จิ่นอู่… เจ้ารู้ไหม ที่จริง ข้ามีความลับข้อหนึ่ง ไม่เคยบอกใครมาก่อนเลยจริงๆ” จิ่นอู่ขมวดคิ้วทันที “ความลับ? ท่านน่ะ มีมากเกินพอแล้ว ข้าไม่อยากรู้ ” แต่หวงจิ่วเยี่ยกลับจับไหล่เขาไว้แน่น มือที่ยังอุ่นด้วยสุรา แต่กลับสั่นอย่างรุนแรง “ไม่… เจ้าต้องฟัง! จิ่นอู่… ข้าขอแค่ครั้งเดียว เจ้าต้องฟังให้จบ!” จิ่นอู่เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจยาว “ก็ได้ ว่ามา ข้าฟังอยู่” เงียบไปชั่วอึดใจ แล้วเสียงนั้นก็ดังขึ้นเบาๆ “จริง ๆ แล้ว ข้า...”หวงจิ่วเยี่ยกระดกสุราลงคอหลายอึกติดกัน สุราร้อนลวกราวเปลวเพลิง ไหลผ่านลำคอจนแทบหายใจไม่ออก ในห้วงขณะหนึ่ง เขากลับรู้สึก อยากกลับไป… อยากกลับไปเสียเถอะ… เสียงไอแห้งๆ ดังขึ้นถี่รัว ก่อนที่ร่างสูงจะโซเซเดินออกจากลานอย่างเ

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 51

    แต่กลับ… ไม่อาจสลัดหลุดและในอ้อมแขนนั้น ร่างของหญิงสาวผู้แกร่งกล้า ค่อย ๆ เย็นเยียบลงทุกที เลือดสีเข้มไหลรินจากมุมปาก หยดลงบนอกเสื้อของเขาเป็นดวง ๆ “เจ้าหนู…?” เสียงเรียกนั้นเบาหวิว ราวตาเฒ่ากำลังร้องเรียกวิญญาณใกล้พราก หลินซีฝืนลืมตา ใบหน้าซีดขาวไร้สีเลือด “ข้าไม่เป็นไร… พาข้ากลับไป ข้า… ข้าจะไปหาหนิงหนิงกับเป่าเป่า ข้ายัง… ยังต้องไปหา…ลูก…ของข้า…” เสียงของนางแผ่วจนแทบไร้ลมหายใจ แต่ทุกคำกลับหนักแน่นดุจภูผา ชายชรากัดฟันแน่น น้ำเสียงพลันแปรเป็นเกรี้ยวกราด “ไม่! คนดีมักอายุสั้น แต่คนอย่างเจ้า ไม่ใช่แน่นอน! เจ้ายังต้องอยู่ต่อไป!” เขาแหงนหน้าสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหยุดวิ่ง หันกลับทันควัน แล้วพาร่างในอ้อมแขนพุ่งตรงไปยัง “สาขาหลักของสำนักกุ้ยเซี่ย” ที่ตั้งอยู่กลางเมือง! หากหวงจิ่วเยี่ยมันจะตาม ก็ให้มันตามมา! หากมันกล้าขวาง ข้าจะฆ่ามันเสียด้วยมือของข้าเอง!และหวงจิ่วเยี่ยก็ไล่ตามไม่ลดละ สีหน้าของเขาแข็งกร้าว ดวงตาแดงฉาน มือแน่นดั่งกรงเหล็ก เขาไม่ได้ไล่เพื่อฆ่า เขาแค่จะชิงตัวนางกลับคืนมา แต่แล้ว… เมื่อแสงจันทร์ทอดตัวลงกระทบใบหน้าหญิงสาวในอ้อมแขนของกู่เซี่ย เขาก็ต้องชะงัก ใบหน้าท

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 50

    เขาไม่เคยต้องการให้นางเจ็บ ไม่เคยเลย… เขาปล่อยกระบี่ลง ปล่อยให้นางแทงเข้ามาโดยไม่หลบเลี่ยง ขณะเดียวกัน หวงจิ่วเยี่ยรวบรวมพลังไว้ที่มือข้างหนึ่งก่อนปลายกระบี่ของหลินซีจะสัมผัสถึงอก เขากลับยื่นมือออกอย่างรวดเร็ว ใช้เคล็ด “ดูดพลัง” ดูดลมปราณทั้งหมดของนางกลับเข้าสู่ร่างตน! “เคล็ดดูดพลัง! เจ้าหนู ระวัง!” เสียงคำรามของชายชรากู่เซี่ยดังลั่นราวฟ้าผ่า เขากระโจนเข้าหานางทันที ทว่า มังกรหนึ่งกับองครักษ์เงาสองคน พุ่งมาขวางไว้ในพริบตา! เสียงกระบี่ปะทะดังแหลมสนั่นกลางอากาศ ประกายโลหิตกระเซ็นวาบ แต่กู่เซี่ยไม่มีทางฝ่าเข้าไปได้ หลินซีเบิกตาโพลง จ้องหน้าเขาด้วยความไม่อยากเชื่อขณะพลังภายในร่างไหลออกอย่างไม่อาจควบคุม มือเรียวไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะจับกระบี่ไว้ให้มั่น ร่างทั้งร่างอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ สุดท้าย… กระบี่ร่วงหล่นจากมือ และร่างของนางก็ตกจากอากาศอย่างหมดเรี่ยวแรง แต่หลินซี… ยังไม่ยอมแพ้! ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไร นางจะตายไม่ได้! ภาพในใจแวบขึ้นมา เสียงหัวเราะใสๆของหนิงหนิงรอยยิ้มอบอุ่นของเป่าเป่า หัวใจที่แทบหยุดเต้นของนางกลับเต้นแรงอีกครั้ง นางยังมีลูก นางต้องอยู่ต่อ! ทันใดนั้น ร่างที่ใกล้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status