Share

บทที่ 6

Author: Mu lingxi
last update Last Updated: 2025-10-13 05:56:26

คำถามนั้น ราวกับมีเข็มพันเล่มทิ่มแทงเข้าหัวใจของนาง แต่ริมฝีปากของนางกลับยังคงมั่นคง

“จะไม่ตาย!” เสียงของนางดุจคำสั่งสวรรค์

“มีแม่อยู่…เป่าเป่าจะไม่ตาย! พี่สาวของเจ้าก็จะไม่ตาย!แม่เคยสัญญาไว้แล้วว่า จะถอนพิษให้พวกเจ้าให้ได้! จากนั้นเราจะเดินทางไปด้วยกัน…ไปให้ทั่วใต้หล้า!”

เด็กน้อยได้ยินดังนั้น ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยยิ้มอ่อนๆ ที่ฝืนเอาไว้ทั้งที่ไร้เรี่ยวแรง

“ท่านแม่…เป่าเป่าไม่เจ็บเลย…ไม่เจ็บแม้แต่น้อย…” เสียงนั่นเบายิ่งกว่าเสียงลมในยามราตรี

“ท่านไปกอดพี่สาวเถิด…พี่เป็นผู้หญิง…ผู้หญิง…กลัวเจ็บมากกว่าข้า…” จริงอยู่ เขาพูดว่า “ไม่เจ็บ” แต่ร่างเล็กนั้นกำลังปวดร้าวจนขยับแทบไม่ได้ เนื้อตัวบวมชาเหมือนถูกเข็มพันเล่มทิ่มแทง

แม้แต่แขนขา…ก็เหมือนจะไม่ใช่ของตนเองแล้ว!

โดยปกติ

เป่าเป่าไม่เคยเรียกหนิงหนิงว่า “พี่สาว” เลยสักครั้งนอกจากช่วงเวลาที่พิษกำเริบเท่านั้น…

และแม้แต่หัวใจที่แข็งดั่งเหล็กกล้าของหลินซีเอง ก็ยังต้องสั่นไหวในวินาทีนั้น…

นางก้มลงกระซิบแผ่วเบา

“แม่จะช่วยเจ้าเปลี่ยนเสื้อก่อน แล้วจะอุ้มเจ้าไปแช่ในโอ่งยา จากนั้นจะกลับมาดูแลพี่สาวของเจ้า…ดีหรือไม่”

เสียงของเด็กน้อยค่อยๆ เล็ดลอดออกมาจากลำคอแห้งผาก “ดีขอรับ…เป่าเป่าเชื่อฟังท่านแม่…”

หลินซีช้อนร่างของเป่าเป่าเข้ามาแนบอก ปลายนิ้วทั้งห้าสั่นเทา แม้จะเย็นจนขาวซีด ราวถูกลมหนาวกัดกร่อน แต่กลับยังคงกุมเสื้อผ้าบางๆ ของเด็กน้อยไว้แน่น

นางถอดเสื้อออกจากร่างนั้นด้วยมือที่ไร้ความมั่นคง

ไม่ใช่เพราะอากาศหนาว…

หากเพราะใจของมารดา ยากเกินจะหยัดยืนในยามต้องลงมือกับลูกตนเอง ร่างน้อยในอ้อมแขนเปลือยเปล่าราวแก้วน้ำค้าง เนื้อขาวผ่องแต่ไร้ชีวิต เย็นชืดราวซากน้ำแข็งที่มิอาจคืนอบอุ่น

ฝีเท้าของหลินซีหนักอึ้งทุกย่างก้าว ประหนึ่งแบกโชคชะตาของทั้งแผ่นดินเดินออกจากเรือน

ตรงเข้าสู่ลานด้านนอก ที่ควันพิษของยาเผาแรงยังคงลอยฟุ้งทั่วอากาศ

กลางลาน

โอ่งยาขนาดยักษ์ตั้งอยู่เหนือเปลวไฟโชนร้อน

เสียงเดือดของน้ำยาในนั้น…ฟังแล้วคล้ายเสียงกระซิบของยมทูต

สาวใช้สี่นางล้อมรอบโอ่งแต่ละทิศ ไม้คนยาในมือเคลื่อนไหวไม่หยุด ท่าทีคล่องแคล่ว จังหวะนิ่งราวฝึกมาแล้วนับพันครั้ง

กลิ่นยาเข้มข้นสีดำข้นคลั่ก พวยควันฟุ้งขึ้นปะปนกับกลิ่นฟืนและเปลวเพลิง เหมือนเป็นกลิ่นอันถูกส่งมาจากนรกสำหรับกลืนกินเลือดเนื้อคน

หนึ่งในสาวใช้ยื่นมือเปล่าลงแตะผิวน้ำยา

“ฉ่า…” เสียงเงียบ แต่แหลมลึก เสียดแทงเข้าโสต ฝ่ามือของนางพองขึ้นแทบในพริบตา ผิวหนังเปลี่ยนสี ปุดบวมเป็นแผลน้ำร้อนลวกทันทีที่ดึงขึ้น

แต่สีหน้าของนางกลับยังนิ่ง ไม่แม้แต่จะครางนางเพียงเอ่ยเสียงเรียบ “คุณหนูเจ้าขา…อุณหภูมิพอเหมาะแล้วเจ้าค่ะ”

หลินซีเพียงพยักหน้า

ไร้คำ ไร้น้ำเสียง

ราวกับสูญเสียการพูดไปชั่วขณะ

นางก้มมองเด็กน้อยในอ้อมแขน ร่างเล็กนั้นแน่นิ่ง ไร้สีเลือด ริมฝีปากคล้ำซีด เย็นชืดราวกับถูกชะล้างด้วยหยดน้ำค้างยามฤดูหิมะ

…นี่คือเลือดเนื้อของนาง

แต่ในยามนี้

นางกลับต้องเป็นผู้ผลักร่างนั้น…ลงสู่นรกด้วยมือของตนเอง

ฟันที่ขบแน่นจนได้ยินเสียงกรอด น้ำตาที่ค้างคาแต่ไม่อาจไหลใจของแม่ที่แทบขาด

หลินซีตัดใจ!

และในชั่วขณะนั้นเอง นางเหวี่ยงร่างเล็กเข้าสู่โอ่งยาอย่างรวดเร็ว

“อ๊า—!!”

เสียงกรีดร้องของเด็กชายดังลั่น สะท้อนก้องไปทั่วฟ้า เสียงนั้นหาใช่เสียงร้องธรรมดา แต่เป็นเสียงของน้ำแข็งในร่าง ที่ปะทะกับ เปลวเพลิงของยาเดือด เป็นเสียงของเส้นประสาทที่ถูกแผดเผาจากภายใน เสียงของชีวิตที่ดิ้นรนเฮือกสุดท้าย

เป่าเป่าแทบจะดิ้นพล่าน หากแต่เขาเพียงเบือนหน้าขึ้นแล้วสบตาเข้ากับหยดน้ำตาของแม่ ที่ไหลลงมาเงียบๆ

ดวงตาเล็กสั่นไหว

ริมฝีปากที่ควรจะแผดร้อง…กลับขบแน่น

เลือดไหลออกจากมุมปาก เพราะเขากัดมันไว้ด้วยทุกหยดแรงใจ

เขาจะไม่ตาย…

หากเขาตาย แล้วใครจะอยู่กับท่านแม่

ใครจะประคองพี่สาว

ใครจะยืนข้างท่านแม่ ในวันที่ฟ้าดินไม่เหลือผู้ใด

หลินซีเบือนหน้าหนี ไม่เอ่ยถ้อยคำ ไม่แม้แต่หายใจ นางหมุนตัวกลับเข้าเรือน ปลดอาภรณ์ของหนิงหนิงออกช้าๆจากนั้นโอบร่างบุตรสาวเอาไว้แน่น แล้วพาเดินออกมา

โอ่งยาใบที่สองรออยู่ตรงหน้า กลิ่นควันยังคงแผดเผาแต่แล้ว…

มือของหนิงหนิงกลับยกขึ้น ยึดข้อมือของหลินซีไว้แน่น

“หนิงเอ๋อร์…” นางเอ่ยเรียกเสียงพร่า

บุตรสาวเงยหน้าขึ้น

ดวงตาใสแจ่ม…แต่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้

“ท่านแม่…ข้าจะไม่ตาย น้องชายของข้าก็จะไม่ตาย พวกเราจะมีชีวิตอยู่… เพื่ออยู่เคียงข้างท่าน เพื่อปกป้องท่านแม้ทั่วหล้าจะมีเพียงเรา!”

คำพูดที่หนักแน่นนั้น เสียดแทงเข้ากลางอกของหลินซีมารดาผู้ผ่านความตายมานับครั้งไม่ถ้วน กลับไม่อาจทนฟังถ้อยคำเช่นนี้ได้โดยไม่สะท้านใจ

นางหลับตาแน่น น้ำตาไหลริน เสียงที่เปล่งออกมาสะอื้นปนแข็งกร้าว

“หนิงเอ๋อร์ เจ้าจะต้องอยู่รอด! เป่าเป่าก็เช่นกัน แม่ขอสาบาน! แม่จะไปนำบัวหิมะกลับมา!

ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตทั้งชีวิตของแม่…ก็จะเอามาให้ได้!”

หนิงหนิงพยักหน้า แน่วแน่ มิไหวเอน “ข้า…เชื่อท่านแม่” และในอีกมุมหนึ่ง กลางโอ่งยาที่เป่าเป่ากำลังหมดสติ ริมฝีปากเล็กขยับขึ้นเพียงน้อย

เสียงไม่มี

ลมหายใจไร้เงา

แต่ถ้อยคำสุดท้ายที่ปากเอื้อนเอ่ยออกมา…

“ข้าเอง.. ก็เชื่อท่านแม่… เช่นกัน…”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 66

    หลินซีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจพวกคนสวมหน้ากากไม่ได้เอ่ยคำใดแม้แต่น้อยเพียงแค่หมายตาเป้าหมาย แล้วโถมเข้ามาโจมตีหวงจิ่วเยี่ยอย่างบ้าคลั่งหวงจิ่วเยี่ยออกมาโดยไม่ได้พกกระบี่หรืออาวุธใดๆนางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปลดกระบี่อ่อนที่พันอยู่ที่เอว ส่งให้เขาอย่างรวดเร็ว“ยืมไปใช้ก่อน!”หวงจิ่วเยี่ยชะงักนิดเดียว แต่เพียงพริบตาก็ยื่นมือรับกระบี่จากนางจากนั้นกลับควักกระบี่เล็กจากเอวตนออกมาเป็นกระบี่ขนาดเล็กเพียงนิ้วมือเดียว แล้วยื่นให้หลินซีแทน ไม่กล่าวคำใด พลันเหินร่างเข้าสู่สมรภูมิ “นี่มัน…” หลินซีอึ้งไปชั่วครู่ แล้วก็อดหัวเราะทั้งน้ำตาไม่ได้ นางนึกถึงเหตุการณ์ในจวน ขนม ของเล่น ของใช้ของสองพี่น้อง ที่มักจะสลับกันอยู่เสมอ ทั้งที่นางจัดวางไว้แยกชัดเจน ไม่แน่ว่า… นิสัยแบบนี้ คงถ่ายทอดมาจากเขา นางเงยหน้าขึ้น สายตามองไปยังร่างของหวงจิ่วเยี่ยในสนามรบ เขาใช้กระบี่ได้อย่างแม่นยำ รวดเร็วราวสายฟ้า กระบวนท่าลื่นไหลดั่งสายน้ำ แต่เฉียบขาดทุกดอกฟัน แต่ละท่วงท่า ไม่มีความลังเล ไม่มีคำว่าเมตตา ทุกครั้งที่ลงมือ มีเสียงโหยหวนติดตามมา ไม่ถึงขั้นตาย แต่ล้วนถูกฟันจนเส้นเอ็นขาด บางคนถูก

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 65

    หนิงหนิงกับเป่าเป่ามีทางรอดแล้ว ไม่ต้องทรมานกับพิษร้ายที่กัดลึกถึงไขกระดูกอีกต่อไป “เทียนซานเสวี่ยเหลียน” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบชัด แววตาแน่วแน่ไม่เปลี่ยน หลินซีหัวเราะทั้งน้ำตา มือหนึ่งยกขึ้นปิดปากแต่น้ำตากลับไหลไม่หยุด ยิ่งเช็ดก็ยิ่งไหลไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่าย ๆ เขาไม่เคยชินกับการเห็นผู้หญิงร้องไห้และไม่รู้เลยว่าควรปลอบอย่างไร “อยู่ดี ๆ จะร้องไห้ไปไยกัน” เขาพึมพำเบา ๆ ล้วงหาผ้าเช็ดหน้าภายในชุดแต่สุดท้ายกลับพบว่า ไม่ได้พกมาเลย มือที่กำลังจะเอื้อมไปเช็ดน้ำตานางกลับถูกคว้าไว้แน่น “ของจริงหรือ?” เสียงของนางเบาแทบไม่ได้ยิน แต่ในแววตากลับสั่นไหว “ใช่ ของจริงแน่นอน” เขาตอบกลับโดยไม่ลังเล นางยิ้มทั้งน้ำตา ริมฝีปากสั่นเล็กน้อย “ของจริง… แล้วเจ้าจะให้ข้าจริงๆ หรือ?” เขาพยักหน้าแน่นหนัก “อืม ให้เจ้าแน่นอน” หลินซีไม่ลังเล มือเรียวกวาดกล่องผ้าไหมในมือเขามาแน่นหนา ปิดฝาลงแล้วกอดไว้แนบอกเหมือนสิ่งนี้คือชีวิตนาง น้ำหนักภายในใจที่แบกมาตลอดห้าปี ร่วงหล่นในพริบตา หญิงสาวที่เคยแข็งแกร่งไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครกลับรู้สึกอ่อนแรงจนต้องพิงพาเขา โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงความจริงว่า ชายตรงหน้าคือบิด

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 64

    หลินซีแค่นเสียงเย็นชา ไม่แม้แต่จะชายตามอง หมุนกายหมายจะจากไป แต่ยังไม่ทันพ้นสองก้าว กลับรู้สึกถึงสิ่งใดบางอย่างผิดแผก จึงหยุดยืน หันกลับมามองเขาด้วยแววตาเรียบเย็น “ท่านอ๋องทรงว่างนักหรือ?” คำเรียกขานว่า ‘ท่านอ๋อง’ ทำให้คิ้วของหวงจิ่วเยี่ยขมวดเข้าหากันอย่างไม่อาจปิดบัง เขาเกลียดชื่อนี้ยิ่งกว่าสิ่งใด หากจะให้เลือก เขายอมให้นางเอ่ยนามเขาออกมาเต็มปากเสียยังดี ชื่อว่า หวงจิ่วเยี่ย เดิมทีสำหรับเขาก็เป็นเพียงชื่อหนึ่ง แต่เมื่อหลุดจากเรียวปากนาง กลับคล้ายกลายเป็นบทเพลงที่ไพเราะเกินบรรยาย เมื่อเห็นเขานิ่งเฉย นางจึงก้าวเข้าไปหา แววตาเปี่ยมระแวง เขาเห็นนางยิ่งใกล้ หัวใจในอกก็เต้นแรงขึ้นทุกที เผลอก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว แต่แล้ว… แขนของเขากลับถูกรั้งไว้โดยนาง อีกมือนางล้วงอ้อมไปด้านหลังเขา ลูบคลำโดยไร้ซึ่งความเกรงใจ “เจ้าคิดทำสิ่งใด?” เขากัดฟันถามเสียงต่ำ “มิได้คิดสิ่งใด” นางตอบเรียบ “เพียงอยากดูว่า เจ้าซ่อนอะไรไว้กันแน่ ถึงต้องลอบเร้นนัก” ยามนั้น เป็นกลางคืน ลมแรง แสงจันทร์เจือจาง หญิงชายยืนใกล้ชิดแนบอกกันกลางเงามืด ท่วงท่าคล้ายบุรุษสตรีที่มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง เ

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 63

    นางจากไปแล้ว เขาเพียงนั่งนิ่งอยู่เบื้องหน้ากระดานหมากล้อม แม้ผลแพ้ชนะจะตัดสินไปแล้ว แต่ในใจกลับยังว้าวุ่นไม่รู้จบ มือหนึ่งหยิบตำราพิชัยสงครามขึ้นมาแต่แม้จะเคยอ่านจนขึ้นใจ ทว่าครั้งนีไม่มีแม้แต่ตัวอักษรเดียว ที่จะผ่านเข้าสู่จิตใจได้เลย จนกระทั่ง สายตาเขาหยุดลงตรงถ้อยคำเพียงไม่กี่บรรทัด “เมื่อศัตรูยึดชัยภูมิไว้แล้ว จักต้องโยนหินล่อหยก ลอบย้ายเส้นทาง สร้างเรื่องลวง ฉกโอกาส พลิกแผนศัตรูและสุดท้าย เคี่ยวไฟใต้หม้อให้หมดทางเดือด!” ประโยคนั้น แม้รุนแรงเกินจำเป็น แต่กลับทำให้เขานึกถึงนางอย่างห้ามใจไม่ได้ หญิงสาวผู้หยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีราวเพลิงที่ไม่มีวันดับ หากวันหนึ่ง เขาเผลอทำลายความหยิ่งในแววตาคู่นั้นลงจนหมดสิ้น บางทีนางก็คงไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออีก ที่สามารถดึงดูดใจเขาได้ หรือไม่ ก็อาจถึงคราวต้องฆ่านางเสียด้วยซ้ำ ให้สมกับสิ่งที่นางเคยทำไว้กับเขา! แต่ในเมื่อถึงตอนนี้ เขากลับไม่ได้ฆ่านาง หากแต่เก็บนางไว้ในใจเสียแล้ว เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันเริ่มต้นขึ้นเมื่อใด เพียงรู้ว่าอยากคว้าเอาความรู้สึกนั้นไว้ให้แน่น อยากให้มีนางอยู่ข้างกาย แล้วค่อยๆคิดหาคำตอบในภายหลัง ทว่

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 62

    “ปุ๊!”“แค่ก แค่ก แค่ก!!”หลินซีสำลักชาทันทีที่ได้ยินถ้อยคำจากปากเขาน้ำชาที่เพิ่งจิบเข้าไปแทบพ่นกระจายออกมาทั้งคำ นางรีบหันหน้าหนีไปอีกทางอย่างลนลาน หน้าแดงจัดจนแทบเปลี่ยนสีนางไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ชายตรงหน้าผู้ซึ่งผู้คนร่ำลือกันว่าโหดเหี้ยมอำมหิต เย็นชาดั่งน้ำแข็งพันปี ฆ่าคนไม่กะพริบตา เป็นถึงผู้บัญชาการสูงสุดแห่งแคว้นเยี่ย จะเป็นบุรุษคนเดียวกันกับที่เพิ่งกล่าววาจาเช่นนั้นออกมาสุดท้าย…คำว่า “เล่าลือ” ก็เป็นเพียง “คำเล่า” เท่านั้นเองหวงจิ่วเยี่ยมองนางไอจนตัวโยน ไม่ได้กล่าวอะไรเพียงแค่ขยับมือวางหมากลงอย่างสงบนิ่งดวงตาคมทอดมองกระดานตรงหน้า เห็นผลแพ้ชนะที่สิ้นสุดไปแล้วอย่างเรียบง่ายแม้เขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแต่ในแววตานั้นกลับไร้ซึ่งความโกรธหรือไม่พอใจตรงกันข้าม ยังรู้สึกยินดีที่ได้พบผู้ที่ทัดเทียมกับตนโดยเฉพาะเมื่อรู้ว่าคนผู้นั้นคือ “นาง”หลินซีวางหมากลงอีกเม็ด เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น ตรงไปตรงมาไร้เยื่อใย“ท่านอ๋อง ท่านแพ้แล้ว ได้โปรดทำตามสัญญาเถิด”เขาพยักหน้าช้า ๆ รับคำอย่างสงบ“ข้ายอมรับว่าแพ้จริงแต่ถึงข้าจะบอกเจ้าว่า หิมะบัวเทียนซานอยู่ที่ใด…เจ้าก็ใช่ว่าจะได้มันไปง่าย ๆ ห

  • ลิขิตรักข้ามภพ ชายาพิษฝาแฝด   บทที่ 61

    เพราะหนิงหนิงกับเป่าเป่าเคยพูดไว้ว่า…‘พวกเราไม่กลัวตาย… แต่เรากลัวว่า ตอนที่ต้องตายท่านแม่จะไม่อยู่ด้วย…”ไม่… เป็นไปไม่ได้!หลินซีไม่มีวันยอมให้ลูกๆต้องตาย!นางไม่มีวันปล่อยให้ลูก ๆ ของนางจากไปอย่างเดียวดายในโลกที่โหดร้ายเช่นนี้ ไม่มีวัน!เด็กทั้งสองยังเล็กนัก เส้นทางชีวิตในวันหน้ายังอีกยาวไกลนางจะต้องหาวิธีไม่ว่าอย่างไรจะต้องให้พวกเขามีชีวิตรอดต่อไปให้ได้ ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของตนเอง นางก็ยินยอมหวงจิ่วเยี่ยเดินนำหน้า นางเดินตามอยู่เงียบ ๆเขาก้าวไปช้า นางก็ย่างตามช้า ๆ ทั้งสองมิได้เอ่ยสิ่งใดเขาไม่หันกลับมา นางก็ไม่ทัก ไม่เรียก ไม่ใส่ใจกระทั่งถึงทางแยก ระหว่างหอพักกับโถงหน้าเขาตั้งใจจะตรงไปยังห้องของตน แต่หลินซีกลับหยุดยืนอยู่ที่เดิมไม่กี่ก้าวถัดไป เขารู้สึกถึงความว่างเปล่าด้านหลังจึงชะงัก หันกลับมา สายตาเย็นเฉียบจับจ้องนาง “เหตุใดจึงไม่เดินต่อ?”หลินซียกคิ้ว ตอบเสียงเรียบ“ท่านอ๋อง ท่านเดินผิดทางแล้ว”จะพาไปห้องพักของเขารึ? จะให้ไปเล่นหมากในนั้น?เห็นทีจะไม่เหมาะมังหวงจิ่วเยี่ยนิ่งไปเล็กน้อย จากนั้นก็คล้ายเข้าใจบางสิ่งเขาส่ายหน้าเบา ๆ อย่างไร้อารมณ์ก่อนจะเปลี่ยนเส้นทาง เด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status