Home / รักโบราณ / ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย / ตอนที่ 8 ไม่มีทางหลีกเลี่ยง

Share

ตอนที่ 8 ไม่มีทางหลีกเลี่ยง

last update Last Updated: 2025-01-03 02:19:58

    อวิ๋นเซียวกลับเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าเคร่งเครียด เขาไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากบอกกับภรรยาได้เช่นไร เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วใช่ว่าเขาอยากจากนางไปเป็นทหารเสียเมื่อไหร่ เห็นกันอยู่ว่าไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้เลย

“ภรรยา พวกเจ้ากินข้าวกันไปก่อน เมื่อสักครู่ข้าได้ยินเสียงสัญญาณที่หัวหน้าหมู่บ้านเรียกรวมชาวบ้าน ข้าในฐานะตัวแทนครอบครัวจะต้องไปเข้าร่วมประชุม เจ้าพาน้อง ๆ กินข้าวไปก่อนไม่ต้องรอข้า”

“เรื่องอะไรหรือเจ้าคะ ท่านพี่รู้หรือไม่”

“น่าจะเรื่องเกณฑ์ชาวบ้านไปเป็นทหาร ข้าเองก็ไม่แน่ใจสักเท่าไหร่ เอาไว้ไปถึงก็คงจะรู้”

“เจ้าค่ะ”

ที่ลานหน้าศาลพรรพชนของหมู่บ้าน ตอนนี้แต่ละครอบครัวส่งตัวแทนมาแล้วครอบครัวละ 1 คน เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเห็นว่ามากันครบทุกคนแล้วก็เริ่มเอ่ยปากบอกสาเหตุที่เขาเรียกทุกครอบครัวมาในวันนี้

“เอาล่ะ ที่ข้าเรียกพวกเจ้ามาในวันนี้ ข้ามีเรื่องอยู่สองเรื่องที่จะแจ้งให้พวกเจ้าได้รับรู้กันเอาไว้และจะต้องทำตามไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ข้าเองก็หนักใจเช่นกันแต่ถ้าหากพวกเจ้าคนใดคนหนึ่งไม่ทำตามแล้วครอบครัวของเจ้าจะมีความผิดร้ายแรง”

“มันเรื่องอันใดกันแน่ท่านหัวหน้าหมู่บ้านรีบ ๆ พูดมาเถอะ พวกข้าเองก็ร้อนใจ”

“เอาล่ะ ๆ เรื่องแรก ทุกครอบครัวจะต้องส่งคนในครอบครัวไปเป็นทหาร 1คน อายุตั้งแต่ 15 หนาวขึ้นไป 1ครอบครัว 1 คน เรื่องที่สอง ยกเลิกการจ่ายเงิน 10 ตำลึงทองทดแทนการเข้าร่วมกองทัพ”

“เป็นแบบนี้ก็แย่แล้วน่ะสิ จะทำเช่นไรดี” ตอนนี้ชาวบ้านเริ่มส่งเสียงพูดคุยกันเสียงดังไปทั่วทั้งลานหน้าศาลบรรพชนแห่งนี้

“พวกเจ้ากลับไปปรึกษากันในครอบครัวให้ดี อีก 3 วันให้มาลงชื่อที่ข้าแล้วจะมีทหารมารับพวกเจ้าในอีก 2 วันถัดไป แยกย้ายกันได้”

ตอนนี้บ้านเหลียนเองก็กำลังปรึกษากันหลังจากที่เหลียนอี้ปิงกลับมาจากการเข้าร่วมการประชุม เขาได้นำเอาคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้านมาบอกเล่าให้คนในบ้านฟัง

“ท่านพี่เช่นนี้ก็แย่สิเจ้าคะ เงินที่พวกเราเตรียมเอาไว้ตอนนี้ก็ใช่ไม่ได้เสียแล้ว เช่นนี้จะทำเช่นไรดีเจ้าคะ ไม่ว่าท่านหรือลูกอี้หลุนข้าก็ไม่เต็มใจจะให้ไปเป็นทหารนะเจ้าคะ” นางซ่งซื่อได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญ

“ท่านแม่อย่าร้องไห้ไปเลยขอรับ ให้ข้าไปเถอะ ท่านอยู่ทางนี้ก็มีน้องให้ข้าเพิ่ม อีกอย่างท่านน้าเขยก็กลับมาอยู่เสียที่นี่แล้วสองคนช่วยกันทำงานเป็นกำลังหลักของบ้าน ข้าคิดว่าคงไม่ลำบากมากขอรับ ส่วนตัวข้านั้นข้าจะดูแลรักษาตัวเองให้ดี อีกอย่างไม่ใช่ว่าน้องเขยก็ต้องไปเข้ากองทัพเช่นเดียวกันกับข้าหรือ ท่านอยู่ที่นี่จะได้ช่วยเหลือน้องสาวได้หากสามีนางไม่อยู่”

“เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้ มันไม่สามารถหลักเลี่ยงได้แล้ว เช่นนั้นแม่จะเตรียมอาหารแห้งให้เจ้านำติดตัวไปมากหน่อย”

“ขอบพระคุณขอรับท่านแม่”

ทางด้านอวิ๋นเซียวเมื่อกลับมาถึงบ้านจื้อโหยวไล่ให้เขาไปอาบน้ำจะได้มากินข้าว นางเหลือกับข้าวในส่วนของเขาเอาไว้ หลังจากที่อวิ๋นเซียวกินข้าวและนำถ้วยจานไปล้างเรียบร้อยแล้วเขาจึงบอกเล่าเรื่องที่ได้รับรู้มาในวันนี้ให้ภรรยาและน้องชายน้องสาวของเขาฟัง

“วันนี้หัวหน้าหมู่บ้านแจ้งว่าให้ทุกครอบครัวส่งตัวแทนเข้าร่วมกองทัพต่อ 1 คน นับตั้งผู้ที่มีอายุ 15 หนาวขึ้นไปและยกเลิกการจ่ายเงินทดแทนการไปเป็นทหาร ตอนนี้ไม่ว่าจะมีเงิน 10 ตำลึงทองหรือไม่ก็ไม่อาจหลีกหนีเรื่องในครั้งนี้ได้”

“เช่นนั้นก็คงต้องทำใจยอมรับใช่หรือไม่เจ้าคะ”

“อืม คงเป็นเช่นนั้น”

“พี่ใหญ่ท่านไม่ต้องห่วงทางนี้พวกข้าจะดูแลพี่สะใภ้อย่างดี ท่านต้องปลอดภัยกลับมานะขอรับ”

“สถานการณ์รุนแรงหรือไม่เจ้าคะ”

“ตอนนี้ถือว่ายังไม่มีอะไรร้ายแรง ไม่แน่ว่าพวกเราอาจจะไม่ได้ออกไปฟาดฟันกับศัตรูก็เป็นได้ ชาวบ้านเช่นพวกเราคงต้องไปเป็นกำลังเสริมเสียมากกว่า”

“ข้าก็ขอให้เป็นเช่นนั้นเถอะเจ้าค่ะ แล้วจะออกเดินทางเมื่อไหร่หรือเจ้าคะท่านพี่”

“อีก 3 วันจะต้องไปลงชื่อที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน และอีก 2 วันหลังจากนั้นเป็นวันออกเดินทาง”

"อืม เหลือเวลา 5 วันสินะ เช่นนั้นข้าจะเตรียมอาหารแห้งให้ท่านพี่นำติดตัวไปให้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถหาได้ ส่วนเรื่องทางบ้านท่านพี่อย่าได้เป็นกังวลข้าจะดูแลน้อง ๆ เป็นอย่างดี"

“ข้ากลัวว่าป้าสะใภ้ใหญ่จะมารังแกพวกเจ้า”

“ข้าหาได้กลัวนางไม่ หากนางยังกล้าหน้าด้านมา ข้าเองก็กล้าที่จะไม่เกรงใจเจ้าค่ะ"

“แต่ข้าก็อดเป็นห่วงเจ้าไม่ได้อยู่ดี”

“ท่านพี่วางใจได้เจ้าค่ะ ข้าไม่ปล่อยให้ตัวเองโดนรังแกดังเช่นที่ผ่านมาแน่นอนเจ้าค่ะ”

เช้าวันต่อมา จื้อโหยวชวนสามีเข้าป่าล่าสัตว์ อย่างน้อยหากล่าสัตว์มาได้บ้างนางยังสามารถทำเนื้อตากแห้งให้สามีของนางนำติดตัวเอาไปด้วย 

นอกจากนี้นางยังนำสมุนไพรห้ามเลือดมาบดให้ละเอียดให้สามีนางนำติดตัวไปด้วย มีทั้งยาห้ามเลือด ยาแก้ไข้ ยาแก้ปวด นางทำเป็นยาลูกกลอนใส่ขวดไว้หลายสิบขวด

 อีกส่วนนางนำไปให้ญาติผู้พี่ของนางที่บ้านท่านยาย ถึงแม้ว่าอี้หลุนจะอายุน้อยกว่านางแต่ก็ยังมีศักดิ์เปนญาติผู้พี่ของนางอยู่ดี

เมื่อครบเวลา 3 วันตามที่หัวหน้าหมู่บ้านได้แจ้งเอาไว้ให้ไปลงชื่อ แต่ละครอบครัวต่างทยอยมาลงชื่อกันจนครบ ตลอดเวลา 3 วันที่ผ่านมานางทำเนื้อตากแห้งเอาไว้เป็นจำนวนมาก อย่างน้อย ๆ สามีของนางยังพอมีอาหารกินระหว่างเดินทาง

นอกจากเนื้อตากแห้งและยาต่าง ๆ นางยังนำข้าวที่หุงสุกแล้วไปตากจนแห้งและเมื่อแห้งดีแล้วนางนำมาทอดจนพองจากนั้นนางนำมาบดละเอียดเป็นผงโจ๊กสำเร็จรูปที่นางลองทำดู 

ก่อนนำข้าวไปตากนางใส่เกลือลงไปผสมกับข้าวในขั้นตอนการหุงข้าว ทำให้ข้าวมีรสเค็มนิด ๆ พอนำไปทอดและนำมาบดให้ละเอียด ตอนจะกินก็สามารถเทน้ำอุ่นหรือน้ำร้อนใส่ลงไปคนให้เข้ากันเพียงเท่านี้ก็สามารถอิ่มท้องได้

 นางเองไม่คิดว่ามันจะสำเร็จและออกมาอร่อย อวิ๋นเซียวลองชิมดูเขาคิดว่ามันกินง่ายและอร่อยมากอีกด้วย นางนำข้าวทอดที่บดละเอียดแล้วใส่ลงในกระบอกไม้ไผ่และปิดฝาอย่างแน่นหนาได้ทั้งหมด 10 กระบอกด้วยกัน

ด้วยกลัวว่าท่านพ่อท่านแม่จะนึกสงสัยในตัวนาง ผงโจ๊กสูตรทดลองนี้ไม่ได้นำไปให้ญาติผู้พี่แต่อย่างใด นางเพียงกำชับสามีว่าหากเดินทางไปด้วยกันให้เขาแบ่งให้กับญาติผู้พี่ของนางด้วยเพียงเท่านั้น

ในที่สุดก็มาถึงวันออกเดินทาง อวิ๋นเซียวเดินออกจากบ้านพร้อมภรรยาและน้องชายน้องสาวเพื่อไปส่งเขาที่ปากทางเข้าหมู่บ้านอันเป็นจุดนัดพบระหว่างทหารผู้ที่ทำหน้าที่มารับชาวบ้านเพื่อเข้าร่วมกองทัพ

ท่านลุงท่านป้าเองก็มาส่งลูกชายคนเดียวของพวกเขาเช่นเดียวกัน อวิ๋นเซียวมีห่อผ้า 2 ห่อ จื้อโหยวยังให้เงินเขาคิดตัวไปเล็กน้อย นางกำชับเขาว่าให้พยายามส่งจดหมายถึงนางเพื่อที่นางจะได้รู้ว่าเขาอยู่ดีมีสุขหรือไม่ นางเองย่อมเป็นห่วงเขาเช่นเดียวกัน

“ท่านพี่ ท่านดูแลตัวเองให้ดี อย่าลืมส่งจดหมายถึงข้า หากท่านไม่ติดต่อกลับมาเป็นเวลาหนึ่งปีข้าจะออกไปตามหาท่าน หรือว่าท่านจะทิ้งให้ข้าเป็นหม้ายไปทั้งอย่างนี้เจ้าคะ”

“ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะพยายามส่งจดหมายถึงเจ้า ข้าเองยังไม่รู้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้ เจ้าอยู่ที่นี่ดูแลบ้านรอข้ากลับมานะ ถึงแม้ว่าข้าและเจ้าเพิ่งจะแต่งงานกันและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในเวลาอันน้อยนิด แต่ใจของข้าย่อมมีแต่เจ้า ข้าสัญญาจะกลับมาหาเจ้า เจ้ารอข้านะอาโหยว”

“ข้าจะรอท่านเพียง 1 ปีเท่านั้นเจ้าค่ะ”

“เจ้าพาน้อง ๆ กลับบ้านเถอะ ข้าต้องไปรวมกลุ่มกับชาวบ้านคนอื่นแล้ว ดูแลตัวเองดี ๆ และรอข้ากลับมานะ”

“เจ้าค่ะ นี่เจ้าค่ะ ถุงหอมไล่แมลงข้าทำเอาไว้ให้ท่านพี่พกติดตัวเองไว้”

“ขอบใจเจ้ามา เจ้าช่างแสนดี ข้าดีใจที่มีเจ้าเป็นภรรยา”

อวิ๋นเซียวไปรวมกลุ่มกับชาวบ้านคนอื่นและในกลุ่มก็มีเหลียนอี้หลุนอยู่ด้วย จากนั้นทหารที่เดินทางมารับเช็ครายชื่อเมื่อมากันครบแล้วจึงพาพวกเขาออกเดินทางไปยังเมืองชายแดนอันเป็นที่ตั้งของค่ายทหารในตอนนี้

การศึกยืดเยื้อมานาน ประชาชนมากมายล้วนได้รับความเดือดร้อนจากภัยสงครามในครั้งนี้ ชาวบ้านทุกคนออกมาจากหมู่บ้านก็หาได้มาตัวเปล่าทุกคนต่างนำอาวุธที่ตัวเองคิดว่าถนัดและใช้งานได้ง่ายนำติดตัวมาเพื่อใช้ป้องกันตัว

อวิ๋นเซียวนำธนูของเขามาด้วย นอกจากธนูแล้วยังมีมีดสั้นอีกด้าม ห่อผ้าทั้งสองห่อ เต็มไปด้วยความห่วงใยจากภรรยา ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือยาเขาจึงหวงแหนห่อผ้าของตนเองไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ด้วยเกรงว่าของสำคัญที่ภรรยาเตรียมเอาไว้ให้จะถูกผู้อื่นที่มีใจละโมบแย่งชิงเอาได้

หลังจากสามีออกเดินทางไปแล้วนางพาน้องชายน้องสาวเดินกลับเข้าไปในหมู่บ้าน ตอนนี้บรรยากาศในหมู่บ้านเงียบเหงาเป็นอย่างมากด้วยแต่ละครอบครัวล้วนเสียใจและไม่สบายใจที่ลูกหลานหรือสามีต้องไปเป็นทหาร หากโชคดีได้กลับมาก็แล้วไปเถอะ หากโชคร้ายไม่ได้กลับมาพวกเขาจะทำเช่นไร 

เว่ยจื้อโหยวไม่มีเวลาโศกเศร้านาน นางเริ่มพลิกหน้าดินในพื้นที่ว่างหลังบ้าน นางจะปลูกผักและหาผลไม้มาปลูกตอนนี้นางต้องการเพียงแค่หาเงินให้ได้มาก ๆ เท่านั้นเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

 นางอยากจะสร้างบ้านหลังใหม่และอยากส่งเสียให้น้อง ๆ ของนางและน้อง ๆ ของสามีได้เรียนหนังสือ ในเมื่อสามีไม่อยู่คอยปกป้องนางแล้วนางย่อมปกป้องตัวเอง

หลายวันมานี่นางมัวแต่วุ่นวายเตรียมของให้สามีจนลืมหลุมกับดักปลาที่นางขุดเอาไว้เมื่อหลายวันก่อนไปเสียสนิท เมื่อนึกขึ้นมาได้นางจึงชวนน้องทั้งสองไปดูหลุมดักปลาที่ขุดเอาไว้ หากว่ามีปลาอยู่นางจะนำไปขายเพื่อหาเงินเข้าบ้าน

หวังว่าชีวิตที่สองนี้นางจะมีความสุข มีเงินร่ำรวย ชาติที่แล้วนางไม่มีอะไรสักอย่าง เงิน ครอบครัว แถมยังตายเสียก่อนจะมีสามีอีกด้วย

มาชาตินี้ยังไม่ได้แอ้มสามีเลย จำเป็นจะต้องพลัดพรากจากกันเสียแล้ว พระเจ้าช่างกลั่นแกล้งนางเสียจริง ไหนล่ะพรวิเศษ ไหนล่ะมิติ แล้วไหนล่ะความโชคดี ไม่มีอะไรสักอย่าง

ไม่ใช่ว่าตามพลอตนิยายที่เคยอ่านมา คนที่ทะลุมิติมาก็ต้องมีอะไรติดตัวมาให้บ้างสิ นี่อะไรนางมีเพียงความสามารถในชาติที่แล้วและความรู้ติดมาเท่านั้น ส่วนร่างเดิมมีเพียงพละกำลังเท่านั้นที่ดีกว่าคนอื่น 

“เฮ้อสวรรค์ช่างกลั่นแกล้งข้านัก ใช่ว่าข้าอยากจะตายแล้วเกิดใหม่เสียหน่อย ใครที่ส่งข้ามาที่นี่ช่างไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี” เว่ยจื้อโหยวเดินไปบ่นไปจนน้องชายน้องสาวคิดว่าพี่สะใภ้คิดถึงพี่ใหญ่มากจนเลอะเลือน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 113 บทส่งท้าย

    หลังจากเหลียนอี้หลุนแต่งภรรยาเข้าบ้านได้ไม่นาน หยวนจิ้งเองก็พบรักเข้ากับหญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่งในหมู่บ้านแถบชานเมือง นางเป็นบุตรสาวพรานป่าที่มีนิสัยใจคอกล้าหาญไม่ต่างไปจากน้องสะใภ้อย่างเว่ยจื้อโหยว ที่สำคัญนางเป็นคนจิตใจดี หยวนจิ้งแต่งภรรยาได้ไม่นาน ภรรยาของเขาก็ตั้งครรภ์ทันที ต่างจากอี้หลุนที่ไม่ว่าจะทำยังไง ภรรยาก็ยังไม่ตั้งครรภ์เสียที ส่วนภรรยาของกู้ตงและสหายทั้งสองตอนนี้ตั้งครรภ์แล้วเช่นเดียวกัน เว่ยจื้อโหยวเองก็กำลังจะคลอดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ด้วยความพยายามของอี้หลุนในที่สุดภรรยาก็ตั้งครรภ์เสียที เซี่ยเหิงเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าคนอื่น อ้ายหลินเองก็ท้องโตและกำลังใกล้คลอดตามเว่ยจื้อโหยวมาติด ๆ หมู่บ้านต้าลี่เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ เว่ยเจี้ยนป๋อได้เป็นบิดาของจอหงวนฝ่ายบุ๋น อวิ๋นเซียวนั้นมีน้องชายเป็นขุนนางฝ่ายบู๊ อวิ๋นเฟยกับหย่งคังก็มีลูกชายหญิงให้บิดามารดาได้เลี้ยงหลานไม่เหงา ทำเอาลุงใหญ่อย่างเหลียนอี้ปิงอิจฉาตาร้อนไปหมดเจ้าแฝดต้าเป่ากับเสี่ยวเป่า หลังจากมารดาคลอดน้อง ๆ แล้วทั้งสองคนจะเข้าไปศึกษาที่เมืองหลวงตามที่รับปากกับท่านลุงเฟยหลงเอาไว้ เว่ยจื้อโหยวมีความสุขที่ได้อยู่กับลู

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 112 คนดีพี่มาง้อ

    เหลียนอี้หลุนตอนนี้กำลังชั่งใจตัวเองอยู่ว่าจะทำตามใจตัวเองหรือจะยอมเดินออกมาอย่างเช่นที่เคยทำ ไม่ใช่ว่าเขาไม่พึงใจในตัวม่านหลิน เพียงแต่เขาคิดว่าตัวเองมีชาติกำเนิดต่ำต้อย บิดามารดาเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาเท่านั้น เจ้าเมืองเตี้ยนถงเองไม่เคยคิดดูถูกชาติกำเนิดของเหลียนอี้หลุนอย่างที่ตัวอี้หลุนเข้าใจ ที่ฮูหยินท่านเจ้าเมืองกุเรื่องว่าจะให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายของสหายของนางนั้นเพื่อกระตุ้นให้อี้หลุนรู้ใจตัวเองเพียงเท่านั้น เหลียนอี้หลุนทำหน้าที่คุ้มกันขบวนสินค้ามานานแล้วและนางเองก็รู้ดีว่าเขาพึงใจในตัวบุตรสาวคนเล็กของนาง ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้แสดงออกโจ่งแจ้ง แต่คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมานานเช่นนางกับสามีนั้นมีหรือจะไม่รู้ว่าชายหนุ่มคิดเช่นไรกับบุตรสาวของตัวเอง ม่านหลินนั้นตกหลุมรักเหลียนอี้หลุนตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบเขาเมื่อ 2 ปีก่อน ถึงในสายตาคนอื่นนางเป็นคุณหนูจวนขุนนางที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอะไร นอกจากวิ่งออกไปเที่ยวตรงนั้นทีตรงนี้ที แต่ความจริงแล้วฝีมือการทำอาหาร งานเย็บปักและการต่อสู้ไม่ได้ด้อยเลย ม่านหลินเองก็เริ่มถอดใจแล้วเช่นเดียวกัน นางคิดว่าความพยายามของตัวเองไม่เป็นผลสำเร็จ ขนาดที่นาง

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 111 ยอดลูกสะใภ้

    หมู่บ้านหนานซานตอนนี้ข่าวการกลับมาของสามสหายปากร้ายแห่งหมู่บ้านหนานซานที่กลับมาจากเมืองหลวงพร้อมทั้งนำภรรยากลับมาด้วยเป็นที่เลื่องลือไปสี่หมู่บ้านยี่สิบลี้เลยก็ว่าได้ชาวบ้านหลายคนต่างไม่อยากจะเชื่อว่าบุรุษปากคมเช่นสามคนนั้นจะสามารถแต่งภรรยาจากเมืองหลวงกลับมาได้ อีกทั้งเหล่าภรรยายังเป็นคุณหนูของตระกูลใหญ่ที่มาพร้อมกับสินเดิมมากมายและเช้าวันนี้หลังจากที่ส่งสามีออกไปทำงานแล้วเหล่าสะใภ้ทั้งสามก็นัดแนะกันเข้าป่าล่าสัตว์หาของป่าดังเช่นชาวบ้านทั่วไป ทั้งสามคนคิดว่าตัวเองตัดสินใจถูกแล้วที่แต่งงานมาอยู่หมู่บ้านหนานซานแห่งนี้“ท่านแม่ ท่านพ่อ พี่สะใภ้ข้าไปก่อนนะเจ้าคะ ป่านี้เสวี่ยเหลียนกับซินเหมยคงมารอแล้ว” ม่อจื่อ“จื่อเอ๋อร์ระวังตัวด้วยนะ อย่าเข้าป่าลึกมากนัก บ้านเราไม่ได้ขาดแคลนสิ่งใดอย่าทำอะไรให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย เข้าใจหรือไม่” แม่สามีบอกลูกสะใภ้ชาวเมืองอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะท่านแม่ ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี”ผิงม่อจื่อหลังจากบอกลาแม่สามีแล้วก็มุ่งหน้ามาที่จุดนัดหมายที่มีสหายสองคนรออยู่ที่ทางขึ้นเขาท้ายหมู่บ้าน เส้นทางนี้ชาวบ้านในหมู่บ้า

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 110 ของฝากจากเมืองหลวง

    หลังจากผ่านพ้นการแต่งงานแบบที่แปลกประหลาดไปแล้ว สี่หนุ่มแห่งหมู่บ้านต้าลี่ต่างได้ภรรยากลับไปฝากคนที่บ้านด้วยนอกเหนือจากของฝากที่พวกเขาซื้อเอาไว้มากมายเพราะทั้งสี่คนแต่งงานแล้วและภรรยายังตามสามีกลับไปด้วย ขากลับทำให้มีขบวนรถม้าเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว เว่ยจื้อโหยวเองถึงแม้จะดีใจที่เจ้าพวกลิงทโมนทั้งสี่ในที่สุดก็รู้จักแต่งภรรยามีครอบครัวเสียทีจะได้ไม่ต้องรวมหัวกันไปทำเรื่องอะไรพิเรน ๆ อีก แต่ดูท่าทีภรรยาของแต่ละคนแล้ว เว่ยจื้อโหยวคิดว่าคงมีเรื่องปวดหัวตามมาอีกไม่น้อย “เดินทางปลอดภัยนะ อาเซียวน้องสะใภ้” เฟยหลง“ขอบคุณขอรับพี่รอง ท่านกลับไปดูแลพี่สะใภ้กับหลานชายเถอะไม่ต้องเป็นห่วง” อวิ๋นเซียว“เจ้าแฝดไม่อยู่กับลุงที่เมืองหลวงหรือ” เฟยหลงถามหลานชาย“ไม่ขอรับ ข้าจะไปช่วยท่านพ่อทำงาน เอาไว้ถึงเวลาเข้าสำนักศึกษาแล้วค่อยมาอยู่กับท่านลุงที่เมืองหลวงขอรับ แต่ต้องรอให้ท่านแม่มีน้องก่อนนะขอรับ เพราะหากพวกเราสองคนมาอยู่ที่เมืองหลวงข้ากลัวท่านแม่จะเหงา” ต้าเป่า“ได้ เช่นนั้นลุงรองจะสร้างเรือนเอาไว้ให้พวกเจ้าสองคนนะ เอาติดกับเรือนของน้องชายเลยดีหรือไม่”“ดีขอรับ ท่านลุงรักษาตัวด้วยนะขอรับ เอาไว้ต้าเ

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย   ตอนที่ 109 เอาคืนให้ชุยต้า(2)

    เวลาผ่านไปอีกสองวันก็มีข่าวออกมาว่าชุยต้าหวังพร้อมนางจินซื่อถูกจับข้อหาร่วมมือกันทำให้อดีตภรรยาเอกถึงแก่ความตาย และยึดเอาสินเดิมภรรยาพร้อมทั้งใส่ความบุตรที่เกิดกับภรรยาเอกให้มีความผิดและส่งขายไปเป็นทาสหลวงหลังจากเจ้าหน้าที่ทางการสอบสวนแล้วนางจินซื่อสารภาพว่าเป็นคนวางยาอดีตภรรยาเอกเพื่อต้องการขึ้นมาเป็นภรรยาเอกแทน ส่วนชุยต้าหวังมีความผิดฐานยึดเอาสินเดิมภรรยาและขายลูกชายทั้งสี่ไปเป็นทาส ด้วยเหตุนี้นางจินซื่อมีโทษประหารข้อหาฆ่าคนตาย ชุยต้าหวังมีโทษจำคุก 30 ปี ส่วนลูกชายอย่างชุยตงหลางนั้นไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่บิดามารดาได้กระทำลงไปจึงไม่มีความผิด ลูกสาวอย่างชุยรุ่ยเอ๋อร์นั้นมีส่วนรู้เห็นและร่วมมือกับมารดาทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายมีโทษจำคุกตลอดชีวิตเช่นเดียวกันทางการได้คืนสินเดิมของมารดาชุยต้าทั้งหมดให้กับพวกเขาสี่พี่น้อง ชุยต้าเองย่อมรู้ว่าเป็นฝีมือของฮูหยิน แต่พวกเขาไม่ยินดีที่จะอยู่เมืองหลวงอีกต่อไป เพราะต่างก็ตั้งใจลงหลักปักฐานที่หมู่บ้านต้าลี่แล้ว ชุยต้ากลับไปคงต้องคุยกับพี่น้องของตัวเองเรื่องสินเดิมมารดาที่เหลือไม่มากแล้วเพราะตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ชุยต้าหวังและนางจินซื่

  • ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย    ตอนที่ 108 เอาคืนให้ชุยต้า (1)

    หย่งซีและชุยต้ากลับมาถึงจวนแม่ทัพพร้อมกับที่เว่ยจื้อโหยวกลับมาจากวังหลวงเช่นเดียวกัน หย่งซีใบหน้าบูดบึ้งเดินกระแทกเท้าตึง ๆ เข้าไปหาพี่สาวเพื่อบอกกับนางว่าเขาและชุยต้าถูกคนรังแกอย่างไรบ้าง“เป็นอะไรเสี่ยวซีทำไมหน้าตาบูดบึ้งเช่นนั้น ใครทำอะไรให้โมโหมาหรือ” เว่ยจื้อโหยวถามน้องชาย“ก็วันนี้ข้าไปเดินเที่ยวตลาดในเมืองมาแล้วไปเจอยายป้าปากแดงอยู่ ๆ ก็เข้ามาด่าว่าพี่ชายชุยต้ากับข้า แถมยังบอกว่าพี่ชายชุยต้าเป็นอดีตพี่ชายของนาง เท่านั้นยังไม่พอนางยังด่าว่าเป็นทาสด้วย เป็นทาสอะไรกันไม่ได้เป็นทาสเสียหน่อย”“ใครกันน่ะ เหตุใดถึงได้กล้าด่าคนอื่นกลางตลาดขนาดนั้น ไม่กลัวคนอื่นจะมองไม่ดีแล้วไม่มีใครมาสู่ขอหรือ แถมเป็นสตรีด้วย”“ข้าไม่รู้หรอกพี่ใหญ่ รู้แค่ว่านางไม่สวย ทาหน้าขาวโพลนแถมยังปากแดงอีกด้วย ใครจะไปสนใจกันว่านางเป็นใคร ไม่ได้รู้จักแต่เข้ามาด่า นางบอกว่าพี่ชุยต้าเป็นอดีตพี่ชาย”“สรุปที่เจ้าโมโหขนาดนี้ แม่นางผู้นั้นด่าเจ้าหรือด่าชุยต้า” “ด่าข้าด้วย ด่าพี่ชายชุยต้าด้วย นางด่าข้าว่าไอ้เด็กเหลือขอ พ่อแม่ไม่สั่งสอน” หย่งซีหน้างอตอบพี่สาว“ตกลง ตกลง ข้าเข้าใจแล้ว เดี๋ยวจะไปถามชุยต้าเดี๋ยวพี่สาวจะจัดก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status