หน้าหลัก / แฟนตาซี / ลิขิตสัญญานาคา / ๓.๑ อดีตนานนับพันปี

แชร์

๓.๑ อดีตนานนับพันปี

ผู้เขียน: นรินทร์ลดา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-25 02:00:25

หญิงสาวรูปร่างอรชรผิวขาวเนียนผ่องเป็นยองใยเนียนละเอียดในชุดโบราณแต่งองค์ทรงเครื่องประดับด้วยทองหยองเต็มตัว มงกุฎทองคำพันรอบศีรษะสวย ผมมวยสูงทัดด้วยดอกมะลิส่งกลิ่นหอมอบอวลเสมือนกลิ่นประจำกายของหญิงสาว 

นิ้วมือเรียวสวยกรีดกรายลงบนผิวน้ำใสอย่างแผ่วเบา ใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างอ่อนโยนเมื่อมองลงไปในแม่น้ำเห็นสรรพสัตว์มากมายแหวกว่ายไม่ไกลมือของเจ้าหล่อนนัก 

            “เจ้าทำอันใดอยู่รือหลานปู่”

            ชายหนุ่มที่ดูไม่แก่ชราลงเลย แต่แทนตัวเองว่าปู่เดินเอามือไขว้หลังบ่งบอกถึงความมีอำนาจมาดใหญ่เข้าไปหาหญิงสาวที่นั่งรื่นรมย์อยู่ริมธารพร้อมรอยยิ้ม ชายหนุ่มแต่งองค์ทรงเครื่องมงกุฎทองครอบเศียรทรงขอมที่มองดูก็ว่าคือราชาของเมืองนี้ 

บริวารที่เฝ้าตามารับใช้หญิงสาวต่างพากันโค้งหมอบให้ผู้ที่เดินเข้ามา มีเพียงหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างลำธารเพียงเท่านั้นที่หันไปมองราชาหนุ่มผู้มาเยือนพร้อมกับหันไปยิ้มรับอย่างอ่อนหวานก่อนจะเก็บมือไว้หน้าตักอย่างเรียบร้อยและโค้งศีรษะลงอย่างเคารพ

            “เจ้าปู่มุจรินท์ มีเรื่องอันใดรือเพคะถึงได้มาตามหาหลานด้วยพระองค์เอง”

            “เงยหน้าขึ้นเถิดหลานปู่...”

            “เพคะ”

            “มีเจ้าชายเมืองน้อยเมืองใหญ่ต่างพากันมาสู่ขอหลานปู่...มิมีผู้ใดที่เจ้าพึงใจบ้างรือ”

            “หลานมิได้หวังครองคู่กับผู้ใด...ใจของหลานหวังเพียงจักแสวงหาทางธรรมตามพุทธศาสดาเพคะ”

            “ปู่ได้ฟังความเจ้าเช่นนั้นก็ดีใจ แต่...ครานี้จักเป็นคราสุดท้ายมิได้รือ”

            “เจ้าเมืองผู้สูงศักดิ์องค์ใดรือเพคะ ที่ทำให้เจ้าปู่มาเรียกหาหลานให้ไปดูตัวด้วยองค์เอง”

            “เจ้าเมืองบูรพาบุตรของพญาอนันต์สหายของปู่”

            “เจ้าปู่ว่าเช่นไร หลานก็คงมิกล้าขัดเพคะ”

            ใบหน้าสวยของหญิงสาวสลดลงเมื่อได้ยินคำขอร้องของเจ้าปู่ผู้ที่ชุบเลี้ยงดูตนมาตั้งแต่เล็ก องค์ราชาเห็นใบหน้าหลานก็ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเข้าไปลูบศีรษะอย่างเอ็นดูหลานคนเล็กสุดรักสุดหวงและตามใจมาตลอด 

นรินธราไม่เคยที่ขัดคำสั่งของผู้เป็นปู่เลยสักครั้งเดียว ไม่ว่าจะดูคู่ครองมากี่ครั้งกี่คราก็ไม่เคยปริปากบ่น เจ้าปู่เองก็ไม่ได้บังคับแต่อย่างใด เมื่อไม่ถูกตาต้องใจก็ไม่เคยขัด จัดสาร์นส่งไปปฏิเสธเสียทุกครั้ง 

            “ครานี้แค่คราเดียว หากหลานมิพึงใจในชายใด ปู่พร้อมจักทำตามในสิ่งที่เจ้าปรารถนา”

            “เพคะ”

            “ปู่แค่อยากให้เจ้ามีคู่บุญคู่บารมีช่วยส่งเสริมนำพาบุญร่วมกัน ตามบารมีของเจ้าเพียงเท่านั้น”

            นรินธราโค้งศีรษะลงอย่างเคารพก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินตามเจ้าปู่เข้าไปในวังใหญ่ที่วิจิตรสวยงาม องค์ราชาเดินไปนั่งบนบัลลังก์ทองก่อนจะตามมาด้วยหญิงสาวร่างอรชรนั่งลงพระที่นั่งข้างบัลลังก์กษัตริย์ เจ้าเมืองบูรพามองนิ่งค้างกับความงามของหญิงสาวอย่างที่ไม่เคยมองหญิงใดมาก่อนอย่างถูกชะตา 

แม้ว่าจะมีชายารูปโฉมงดงามที่ถูกประทานให้มากมายก็มิมีหญิงใดทำให้เขาพึงใจได้เลยสักคน แต่หญิงงามตรงหน้าที่ยังไม่ยอมสบสายตากับเขากลับทำให้เขาตราตรึงใจ

            “เป็นอย่างไรมาเล่า เจ้าเพชรแก้ว”

            “ขอประทานอภัยที่มารบกวนพระองค์พระเจ้าข้า”

            “เอาเถิดๆ ว่าความของเจ้ามาเถิด”

            “พระเจ้าข้าองค์มุจรินท์ เสด็จพ่อของกระหม่อมได้รับสั่งให้กระหม่อมมาสู่ขอเจ้าฟ้าน้อยนรินธราพระเจ้าข้า”

            “อืม... ว่าอย่างไรเล่าหลานปู่ มองพี่เขาเสียหน่อยเถิด ว่าเจ้าคิดเห็นเป็นประการใด”

            “เพคะ”

            นรินธราเนียมมองใบหน้าของชายหนุ่มก่อนจะโค้งศีรษะให้อย่างเคารพตามขนบธรรมเนียม ก่อนที่จะเงยใบหน้าสวยสดงดงามนั้นขึ้น สองสายตาประสานกันไปมาก่อนที่นรินธราจะหลบสายตาคมของชายหนุ่มอย่างเหนียมอายแล้วหันมองไปยังพระพักตร์ของผู้เป็นปู่พร้อมรอยยิ้มและพยักหน้าเล็กน้อย เพราะเธอเองก็ถูกชะตากับเขาไม่น้อย องค์ราชาเห็นดังนั้นจึงยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

            “เจ้าปู่ว่าอย่างไร หลานก็เห็นควรเช่นนั้น”

            “อืม...แล้วเจ้าเล่าเจ้าเพชรแก้ว”

            “กระหม่อมให้สัตย์สัญญาจักรักแลดูแลมิห่างตัวห่างใจเลยพระเจ้าข้า กระหม่อมพึงใจจักรับนางไปเป็นมเหสีคู่บุญคู่บารมีพระเจ้าข้า”

            “งั้นรือ”

            หญิงสาวชม้อยชม้ายชายตามองชายหนุ่มรูปงามที่รู้สึกพึงใจตั้งแต่แรกเห็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนอย่างเหนียมอาย เหมือนทุกอย่างถูกกำหนดมาแล้วไม่อาจจะฝืนชะตาได้ เพียงสบตากลับรู้สึกนึกรักราวกับรักกันมานานแรมปี

            “กระหม่อมจักจัดงานให้สมเกียรติกึกก้องเกรียงไกร มิให้น้อยหน้าผู้ใดในสามโลกพระเจ้าข้า”

            “เจ้าเพชรแก้วก็มีชายาอยู่หลายมิใช่รือ เจ้าจักจัดการเช่นไร ตัวข้านั้นเชื่อถือยึดมั่นในคู่เดียวใจเดียว หากหลานข้าจักต้องไปเป็นสองรองผู้ใด หรือเป็นเพียงตัวเลือกในรัก ข้าคงจักยกให้มิได้”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕๕. รำถวาย (2/2)

    ชุดไทยสีแดงแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวอย่างน่าทึ่ง ชาวบ้านพากันโห่ร้องด้วยความตกใจปนทึ่ง แม่สายหันไปพยักหน้าให้เหล่านักดนตรีชาวบ้านก่อนจะบรรเลงเพลงที่อ่อนช้อย ซึ่งเป็นบทเพลงที่แตกต่างจากทางด้านภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่จะค่อนข้างเร็ว แต่เพลงรำถวายนี้กลับเป็นการรำอ่อนช้อยเหมือนนางรำในราชวังอย่างไรอย่างนั้น“ไม่เหมือนที่แม่ซ้อมให้ไม่ใช่หรือ?” ผู้ใหญ่บ้านเอ่ยถามพลางหันไปมองแม่สายผู้เป็นภรรยา“รำนารีบารมี…เป็นรำที่ไม่ใช่ใครก็รำได้ นางโดนสิงอยู่แน่ๆ…” แม่สายเอ่ยพลางมองจ้องไปยังนรินทร์ที่กำลังเริ่มร่ายรำเสียงฆ้องดังสลับกับเสียงตะโพนในจังหวะเนิบๆ เมื่อเธอกระทืบเท้าหมุนตัวหันมาก็เป็นเสียงเป่าสังข์ดังก้องกังวาน พระจันทร์ด้านบนที่ขึ้นพอดีกับปลายยอดเทวาลัยเกิดปรากฏการณ์จันทร์ทรงกลด ชาวบ้านต่างฮือฮาเมื่อเห็นภาพตรงหน้าราวกับภาพวาดรอยยิ้มหวานบางๆเปื้อนใบหน้า เธอสวยงามไม่ต่างจากในอดีตเลย…ทุกคนในทีมต่างอึ้งทึ่งมองเธอจนไม่กระพริบตา พชรเองก็ไม่ต่างกัน…สายตาคมเอ่อคลอเคลือบไปด้วยน้ำตาใส จ้องมองหญิงสาวที่รำอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕๔. รำถวาย (1/2)

    งานบวงสรวงถูกจัดขึ้นหน้าเทวาลัย แสงเทียนแสงตะเกียงถูกประดับประดาอย่างสวยงาม มันคืองานบวงสรวงที่ผิดกับภาพจำเธอไปเสียหน่อยเพราะว่ามันถูกจัดขึ้นตอนกลางคืน ท่ามกลางพระจันทร์เต็มดวง เธอต้องรำถวายลานหน้าเทวาลัยที่มืดสลัวนั้นนรินทร์ถูกมินตรารุ่นน้องคนสนิทจับนั่งแต่งหน้าอยู่ที่บ้านผู้ใหญ่ หลังจากที่ถูกกำชับให้อาบน้ำอาบท่าทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำอบน้ำหอมกลิ่นกฤษณาคลอกลิ่นดอกมะลิหอมจนตัวเธอเองยังได้กลิ่น เสื้อผ้สชุดไทยนั้นเธอได้มาจากแม่สายล้วนเป็นสีแดงพร้อมมงกุฏที่สีทอง อีกทั้งยังมีเครื่องประดับสีทอง แต่เธอกลับรู้สึกไม่ชอสีแดงเสียเท่าไหร่ ยิ่งมองตัวเองในกระจกแป้งพับก็ยิ่งทำให้นึกถึงผู้หญิงคนนั้น เพียงแค่คิดขนก็ลุกเกลียวจนเธอเผลอลูบแขนของตัวเองปอยๆ“พี่นรินทร์หนาวเหรอ?” มันตราที่กำลังตั้งใจแต่งหน้าเอ่ยถามขึ้นมาด้วยสีหน้าเป็นห่วง นรินทร์หันไปยิ้มแห้งแล้วส่ายหน้าไปมา มินตราทำหน้างงครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถามต่อ“อ้าว…อย่าบอกนะว่า….”“ว่า?”“พี่นรินทร์รับรู้ถึงพลังงานบางอย่างเมื่อใส่ชุดนี้” มินตราเอ่ยพลางท

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕๓. ตามติดไม่ห่าง

    “อุปกรณ์เราถูกไฟไหม้หมดเลย ข้อมูลต่างๆไม่เหลือเลย” นิลนนท์เอ่ยขึ้น หลังจากที่นรินทร์ได้นอนพักเต็มอิ่มมาตั้งแต่เมื่อวานพร้อมกับความทรงจำใหม่ความรู้ใหม่ในหัวที่ตัวเองพึ่งเจอและเห็นมากับตานรินทร์ละความคิดจากเหตุการณ์นั้นไม่ได้เลย แม้ในขณะที่เธอนั่งฟังเพื่อนสนิทของตนพูดและจ้องมองเพื่อนสนิทของตนอย่างเหม่อลอยอยู่ก็ราวกับว่าเป็นภาพของนาคานักรบคนนั้นที่อยู่ข้างกายพญาเพชรแก้วที่มีใบหน้าและชื่อเหมือนกันกับเพื่อนของตน“นรินทร์…นรินทร์!! มึงฟังกูอยู่หรือเปล่าวะเนี่ย?” นิลนนท์เรียกและเอามือวาดกลางอากาศใกล้ใบหน้าของนรินทร์แต่เธอยังคงนิ่งค้าง ก่อนที่นรินทร์จะสะดุ้งเล็กน้อยหันไปมองหน้านิลนนท์และคนอื่นๆที่จ้องมองเธอเป็นตาเดียว“ฮะ?! อ๋อ อือ..”“อือ อะไรของมึง สรุปไม่ได้ฟัง?” นิลนนท์เอ่ยย้ำ“พี่นรินทร์ พี่เป็นอะไรไปเนี่ย” มินตราเอ่ยพร้อมกับจับมือเธอเอาไว้ด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงเป็นใย นรินทร์หันไปมองหน้ามินตราก่อนจะผละตัวออกเล็กน้อยพร้อมดึงมือออก มินตรายิ่งงงไปกันใหญ่กับท่าทีของรุ่นพี่ที่สน

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕๒. ธารา รัตนา ราตรี

    เสียงร้องห่มร้องของไห้ของเหล่าบริวารที่รับใช้เจ้าแม่นางมานานนั้นกลับกลายเป็นเสียงที่เงียบที่สุดเมื่อจอมกษัตริย์นาคาคำรามลั่น ธารานาคาบริวารผู้ที่จงรักภักดีต่อเจ้าแม่นางด้วยใจจริงเนื่องด้วยหัวใจของนาคาหนุ่มผู้นี้นั้นหลงรักเจ้าแม่นางมาตั้งแต่ก่อนพญาเพชรแก้วและนางจักได้เจอกันเสียอีก ด้วยความเจียมเนื้อเจียมตนอยู่เสมอจึงมิคิดอาจเอื้อมเป็นอื่น ขอเพียงได้ดูแลตามหน้าที่แต่ทว่าบัดนี้นั้นนางได้ถูกสังหารต่อหน้าต่อตาเขาไปเสียแล้ว ธาราขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมือกำหมัดแน่น สายตาเพ่งมองร่างของเพชรฆาตที่ขาดเป็นสองท่อนเพราะครีบเกล็ดของเจ้าจอมนาคา อีกทั้งนางคีภทัรายังย่างก้าวเข้ามาเตรียมจักหยิบคว้ากริชนั้นขึ้นด้วยรอยยิ้ม ทั้งธาราและรัตนาเห็นอย่างนั้นก็รีบพุ่งเข้าไปคว้ากริชนาคามาเสียก่อนที่นางคีภทัราจะเอื้อมถึงมัน เพราะเป็นกริชศักดิ์สิทธิ์ที่มีเพียงเจ้าของถึงจะทนจับมันได้ นาคาและนาคีทั้งสองกรีดร้อ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕๑. พญาเพชรแก้ว

    ราวกับรับรู้ว่าพญาเพชรแก้วจะกลับมายังวังบาดาลคืนนี้ คีภัทราจึงได้ตระเตรียมแผนการเอาไว้ ไม่หนำซ้ำยังร่ายมนต์บังไว้มิให้ผู้ใดเข้าไปได้ เหล่าบริวารจะไม่สามารถรับรู้ได้แน่เนื่องจากความหยั่งรู้ในบุญบารมีนั้นต่างกัน ธาราเองเมื่อเห็นว่าไม่มีพญานกอย่างที่บริวารว่าก็รีบรุดหน้ากลับมายังหอนอนเพื่อเฝ้าเจ้าแม่นางของตนแต่ก็เห็นว่าประตูปิดอยู่คิดว่านางนาคีบริวารทั้งสองคงจะจัดการเรื่องเจ้าแม่นางเรียบร้อยดีแล้วจึงออกไปทำหน้าที่ของตนต่อ ธาราแลเห็นการกลับมาของพญาเพชรแก้วชายผู้เป็นที่รักของเจ้าแม่นางก็เตรียมจะเข้าไปทำความเคารพและแจ้งเรื่องที่นรินธราล้มหลับไป แต่ทว่าทุกอย่างกลับตาลปัดไปเสียหมดคีภัทราวิ่งโร่เข้าไปหาพญาเพชรแก้วที่พึ่งกลับมาจากศึก ก่อนจะเกิดเรื่องขึ้นโดยที่ไม่มีใครกล้าขัดเนื่องด้วยเห็นว่าเจ้าจอมกษัตริย์นั้นเกรี้ยวกราดเต็มที่เจ้าแม่นางถูกจองจำอยู่ในคุกนาคาไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรพญาเพชรแก้วกลับเลี่ยงที่จะฟัง แม้จักเป็นคำพูดของหญิงผู้เป็นที่รักอย่างนรินธราก็ตามที ธาราเห็นทีจักทนไม่ไหวจึงตั้งหน้าไปเข้าเฝ้าเจ้าจอมกษัตริย์ด้วยตนเอง“ข้าแต่องค์กษัตริย์แห่งเหล่าน

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕๐. นคภกร

    “นางจักมอบยศถาบรรดาศักดิ์ให้พี่จริงดั่งว่าแน่รึ? มิใช่ว่าทำการสำเร็จก็ปิดปากสังหารพี่ดอกรึ?” ภรรยาสาวเอ่ยถามผู้เป็นสามีด้วยท่าทีที่ไม่ไว้วางใจผู้จ้างวานนัก อีกทั้งในใจยังแอบหวงสามีตนเนื่องจากรู้นิสัยของนาคาหนุ่มสามีตนดี ขนาดรับตนเป็นภรรยายังมีเล็กมีน้อยไม่หยุดหย่อน หากแต่ว่าผู้เป็นภรรยานั้นก็ไม่ได้ต่างจากผู้เป็นสามีเลย อย่างที่เขาเรียกว่า…ศีลเสมอกัน…“มิง่ายปานนั้นดอก ในเมื่อนางบอกว่ามิให้พี่ปริปากว่าใครคือผู้จ้างวานทำเรื่องบัดสี นั่นย่อมหมายถึงความลับของนางอยู่ที่ข้าแลหากพญาเพชรแก้วรู้เข้านางคงมิพ้นถูกชังน้ำหน้าจนถูกเนรเทศเป็นแน่”“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดี พี่ก็จักมีเงินมีทองมียศถาบรรดาศักดิ์เป็นนาคานักรบ จักได้มิมีผู้ใดมาดูแคลนได้อีก” ทั้งสองสามีภรรยาหัวเราะขึ้นมาอย่างพอใจ พลางในหัวคิดถึงสมบัติแลอำนาจในมือก็ยิ่งทำให้สุขใจ“พี่ไปก่อนหนากันตา เจ้าจงอดทนรอคอยพี่”นาคาหนุ่มผู้มากตัณหาเอ่ยลาเมียคู่กรรมจะได้เมียใหม่เป็นถึงนาคีสายเลือดกษัตริย์…จักมิต้องมาทนอยู่ในชั้นนาคาต่ำต้อยอีกเจ้าแม่นางน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status