공유

๔.๒ ปัจจุบัน

last update 최신 업데이트: 2025-04-25 18:00:39

“ทีม Local ไปกันเถอะ ไม่อยากคุยกับ...หมา มันเห่าแล้วหนวกหู”

นรินทร์พูดพร้อมหันไปเน้นย้ำคำหลังอย่างหนักแน่นและมองตรงไปยังภากรณ์อย่างตั้งใจ คนในทีมหัวเราะคิกคักชอบใจกับความดื้อร้ายไม่ยอมใครของนรินทร์ ก่อนเทวินจะถอนหายใจแล้วเงยหน้าพูดกับภากรณ์ที่ขมวดคิ้วอย่างขุ่นเคืองกับคำพูดของนรินทร์ 

“เฮ้อ...นี่สินะตัวอย่างสุภาษิตไทยที่ว่า...หมาหวงก้าง”

ภากรณ์ได้ยินดังนั้นจึงหันไปมองขวางเทวินที่ยืนยิ้มตาปริบๆ หน้าระรื่นใส่เขา ภากรณ์แค่นหัวเราะออกมาอย่างเยาะเย้ยพร้อมกับกอดอกเหมือนผู้ชนะ

“อย่าได้ใจไปเลย ยังไงนรินทร์ก็ไม่มีทางเลิกรักฉันได้หรอก ไม่งั้นคงไม่อยู่กับฉันมาถึงเจ็ดปี ป่านนี้คงนึกเสียใจอยู่ข้างใน แค่ไม่แสดงออกก็เท่านั้น”

“ครับ ผมจะรักษาแผลใจนั้นอย่างดีเลย ขอบคุณ...คุณภากรณ์ที่ช่วยเปิดทางให้”

เทวินพูดขึ้นทั้งรอยยิ้มไม่มีทีท่าว่าจะสลดใจกับคำพูดของภากรณ์เลยแม้แต่น้อย การที่ผู้หญิงกำลังอ่อนแอแล้วมีใครสักคนเข้าไปดูแลอย่างจริงใจย่อมโอนเอนไปทางคนผู้นั้น ภากรณ์เข้าใจความหมายคำพูดของเทวินเป็นอย่างดี สีหน้าที่ยิ้มเยาะเทวินในตอนแรกกลับบึ้งตึงในทันทีพร้อมกับจ้องมองตามหลังเทวินที่วิ่งตามนรินทร์ไป

“ฉันไม่มีทางให้มันเป็นอย่างนั้นแน่ ไอ้เทวิน”

ห้องประชุม

“ฉันไม่เห็นด้วยค่ะบก.! งานเลี้ยงของบริษัททำไมทีมฉันถึงไปไม่ได้แล้วต้องไปทำงานแทน!”

“เอาน่านรินทร์ นิตรสารของทีมเธอขายดีมากนะ งานมันเลยต้องต่อเนื่องเรื่อยๆลูกค้าจะได้ไม่หาย”

“แต่ฉันทำ Local ของประเทศอื่นๆที่เรายังไม่รู้จักนะคะ ทำไมอยู่ๆ ถึงให้ทำ Local ภายในประเทศทั้งๆที่เราก็รู้จักประเทศเราดีอยู่แล้ว”

“ก็นี่ไง หมู่บ้านนี้ไงที่ยังไม่มีข้อมูลที่ไหน เราจึงยิ่งต้องนำเสนอไม่ใช่หรือ สมัยนี้น่ะเขานิยม Local Trend ภายในประเทศจะตาย ยิ่งที่ไหนยังไม่มีใครเคยไปมาก่อนก็ยิ่งน่าสนใจ ยิ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ก็ยิ่งดีไปกันใหญ่ เรามีแต่ได้กับได้”

“ถ้าบก. ยังไม่ฟัง ฉันคงจะต้องยุบทีมแล้วไปรวมกับทีมแฟชั่นที่ฉันเคยตั้งขึ้นมาแทน ไม่ต้องมีทีม Local Trend ดีไหมนะ? ล้มเลิกไปเลย!”

“ไอหย๋า พูดอะไรอย่างนั้น นิตยสาร Local Trend ตอนนี้ชูสำนักพิมพ์เราเลยนะ ยิ่งเธอเป็นคนเขียนบทความยอดขายยิ่งดีไปกันใหญ่ อย่าคิดโง่ๆ ปิดกั้นโอกาสตัวเองแบบนั้นสินรินทร์”

บรรณาธิการของสำนักพิมพ์เริ่มทำหน้าเครียด เหงื่อตกท่วมใบหน้าเต็มไปหมด เมื่อได้ยินว่านรินทร์จะยุบทีมเพราะนรินทร์ถือว่าเป็นคนที่เขียนบทความสร้างรายได้ให้สำนักพิมพ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ และไหนจะลูกชายตัวดีของตนเป็นคนมาขอร้องอ้อนวอนบรรยายสรรพคุณหมู่บ้านนี้ให้ส่งทีมนรินทร์ไปเพราะไม่มีใครทำได้ดีเท่าเธอ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เหมือนกับเล่นสงครามประสาทเพราะพึ่งหย่ากันไปแล้วเมื่อวานทำเอาเขาหนักใจไม่น้อย

ภากรณ์หัวเราะเยาะนรินทร์ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาถามหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาอย่างหาเรื่อง

“หรือว่าเธอกลัวความลำบากกันแน่นะ...ไม่งั้นคงไม่มาจับฉันหรอกใช่ไหม”

“สำคัญตัวเกินไปมาก แค่เดินตกท่อหัวฟาดหรอกย่ะถึงไปคว้านายมาน่ะ...คนอย่างฉันทำ Local Trend ในสถานที่ที่ลำบากมาเป็นร้อย ๆเล่ม จะมากลัวความลำบากอะไรตอนนี้ใช้สมองอันน้อยนิดคิดหน่อย”

“แต่ที่นั่นมันทุรกันดารมากเลยนะ ไม่มีแม้แต่ไฟฟ้าจะใช้...”

“ฉันจะทำ!”

“หัวหน้า!!”

นรินทร์พูดตอบรับอย่างลืมตัวกับการยั่วยุของภากรณ์ เพราะเขาอยู่กับเธอมานานจึงรู้นิสัยของเธอดี มันจึงง่ายที่เขาจะหลอกล่อให้เธอตอบรับ คนในทีมถึงกับร้องห้ามแทบไม่ทันพร้อมกับกุมขมับไปตามๆ กัน นรินทร์ที่เพิ่งได้สติจากเสียงเรียกของคนในทีมก็ถึงกับทำหน้าเจื่อนพร้อมกับเม้มปากแน่นอย่างรู้สึกผิด

“หึ...”

“หัวหน้าไม่น่าไปหลงกลเลย โธ่...” เทวินเอ่ยด้วยใบหน้าเสียดาย

“เอาเป็นว่าตกลงตามนี้ เลิกประชุมได้”

บรรณาธิการของสำนักพิมพ์รีบพูดขึ้นอย่างกระตือรือร้นพร้อมกับหัวเราะร่วนอย่างพอใจ แล้วหันไปยกนิ้วโป้งให้ลูกชายของตนเป็นเชิงบอกว่าเขาทำได้ดีมาก ภากรณ์ยักคิ้วให้ผู้เป็นพ่อพร้อมกับยกยิ้ม นรินทร์มองเหตุการณ์ทั้งหมดตาขวางก่อนจะรีบเก็บสมุดบันทึกในที่ประชุม แล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกไป ปล่อยให้สองพ่อลูกดีใจกันอยู่อย่างนั้น

“ผมว่า ผมเปลี่ยนใจจะไปกับทีม Local นะพ่อ”

“อ้าว แล้วงานเลี้ยงบริษัทที่ญี่ปุ่น?”

“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องห่วง”

“แล้วทำไมอยู่ๆ นึกอยากจะไปล่ะนั่น”

“ผมคิดว่านรินทร์คงทำอะไรไม่ได้ ถ้าไม่มีผม”

ภากรณ์พูดกับผู้เป็นพ่อก่อนจะยิ้มกริ่มออกมา พลางนึกหลงตัวเองว่านรินทร์จะอยู่ไม่ได้ถ้าขาดเขาไป เพราะฉะนั้นเขาจึงคิดจะใจดีกับเธอเพื่อมิตรภาพที่ดีในอนาคตเพียงเท่านั้น ถึงแม้เขาจะคิดอย่างนั้นแต่ความรู้สึกของเขากลับบอกว่า กลัวเธอจะไปอยู่กับชายอื่นสองต่อสองในที่แบบนั้น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รักเธอแล้วแต่ก็ไม่ได้อยากให้เธอเลิกรักเขาเสียหน่อย

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕๕. รำถวาย (2/2)

    ชุดไทยสีแดงแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวอย่างน่าทึ่ง ชาวบ้านพากันโห่ร้องด้วยความตกใจปนทึ่ง แม่สายหันไปพยักหน้าให้เหล่านักดนตรีชาวบ้านก่อนจะบรรเลงเพลงที่อ่อนช้อย ซึ่งเป็นบทเพลงที่แตกต่างจากทางด้านภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่จะค่อนข้างเร็ว แต่เพลงรำถวายนี้กลับเป็นการรำอ่อนช้อยเหมือนนางรำในราชวังอย่างไรอย่างนั้น“ไม่เหมือนที่แม่ซ้อมให้ไม่ใช่หรือ?” ผู้ใหญ่บ้านเอ่ยถามพลางหันไปมองแม่สายผู้เป็นภรรยา“รำนารีบารมี…เป็นรำที่ไม่ใช่ใครก็รำได้ นางโดนสิงอยู่แน่ๆ…” แม่สายเอ่ยพลางมองจ้องไปยังนรินทร์ที่กำลังเริ่มร่ายรำเสียงฆ้องดังสลับกับเสียงตะโพนในจังหวะเนิบๆ เมื่อเธอกระทืบเท้าหมุนตัวหันมาก็เป็นเสียงเป่าสังข์ดังก้องกังวาน พระจันทร์ด้านบนที่ขึ้นพอดีกับปลายยอดเทวาลัยเกิดปรากฏการณ์จันทร์ทรงกลด ชาวบ้านต่างฮือฮาเมื่อเห็นภาพตรงหน้าราวกับภาพวาดรอยยิ้มหวานบางๆเปื้อนใบหน้า เธอสวยงามไม่ต่างจากในอดีตเลย…ทุกคนในทีมต่างอึ้งทึ่งมองเธอจนไม่กระพริบตา พชรเองก็ไม่ต่างกัน…สายตาคมเอ่อคลอเคลือบไปด้วยน้ำตาใส จ้องมองหญิงสาวที่รำอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕๔. รำถวาย (1/2)

    งานบวงสรวงถูกจัดขึ้นหน้าเทวาลัย แสงเทียนแสงตะเกียงถูกประดับประดาอย่างสวยงาม มันคืองานบวงสรวงที่ผิดกับภาพจำเธอไปเสียหน่อยเพราะว่ามันถูกจัดขึ้นตอนกลางคืน ท่ามกลางพระจันทร์เต็มดวง เธอต้องรำถวายลานหน้าเทวาลัยที่มืดสลัวนั้นนรินทร์ถูกมินตรารุ่นน้องคนสนิทจับนั่งแต่งหน้าอยู่ที่บ้านผู้ใหญ่ หลังจากที่ถูกกำชับให้อาบน้ำอาบท่าทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำอบน้ำหอมกลิ่นกฤษณาคลอกลิ่นดอกมะลิหอมจนตัวเธอเองยังได้กลิ่น เสื้อผ้สชุดไทยนั้นเธอได้มาจากแม่สายล้วนเป็นสีแดงพร้อมมงกุฏที่สีทอง อีกทั้งยังมีเครื่องประดับสีทอง แต่เธอกลับรู้สึกไม่ชอสีแดงเสียเท่าไหร่ ยิ่งมองตัวเองในกระจกแป้งพับก็ยิ่งทำให้นึกถึงผู้หญิงคนนั้น เพียงแค่คิดขนก็ลุกเกลียวจนเธอเผลอลูบแขนของตัวเองปอยๆ“พี่นรินทร์หนาวเหรอ?” มันตราที่กำลังตั้งใจแต่งหน้าเอ่ยถามขึ้นมาด้วยสีหน้าเป็นห่วง นรินทร์หันไปยิ้มแห้งแล้วส่ายหน้าไปมา มินตราทำหน้างงครู่หนึ่งแล้วเอ่ยถามต่อ“อ้าว…อย่าบอกนะว่า….”“ว่า?”“พี่นรินทร์รับรู้ถึงพลังงานบางอย่างเมื่อใส่ชุดนี้” มินตราเอ่ยพลางท

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕๓. ตามติดไม่ห่าง

    “อุปกรณ์เราถูกไฟไหม้หมดเลย ข้อมูลต่างๆไม่เหลือเลย” นิลนนท์เอ่ยขึ้น หลังจากที่นรินทร์ได้นอนพักเต็มอิ่มมาตั้งแต่เมื่อวานพร้อมกับความทรงจำใหม่ความรู้ใหม่ในหัวที่ตัวเองพึ่งเจอและเห็นมากับตานรินทร์ละความคิดจากเหตุการณ์นั้นไม่ได้เลย แม้ในขณะที่เธอนั่งฟังเพื่อนสนิทของตนพูดและจ้องมองเพื่อนสนิทของตนอย่างเหม่อลอยอยู่ก็ราวกับว่าเป็นภาพของนาคานักรบคนนั้นที่อยู่ข้างกายพญาเพชรแก้วที่มีใบหน้าและชื่อเหมือนกันกับเพื่อนของตน“นรินทร์…นรินทร์!! มึงฟังกูอยู่หรือเปล่าวะเนี่ย?” นิลนนท์เรียกและเอามือวาดกลางอากาศใกล้ใบหน้าของนรินทร์แต่เธอยังคงนิ่งค้าง ก่อนที่นรินทร์จะสะดุ้งเล็กน้อยหันไปมองหน้านิลนนท์และคนอื่นๆที่จ้องมองเธอเป็นตาเดียว“ฮะ?! อ๋อ อือ..”“อือ อะไรของมึง สรุปไม่ได้ฟัง?” นิลนนท์เอ่ยย้ำ“พี่นรินทร์ พี่เป็นอะไรไปเนี่ย” มินตราเอ่ยพร้อมกับจับมือเธอเอาไว้ด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงเป็นใย นรินทร์หันไปมองหน้ามินตราก่อนจะผละตัวออกเล็กน้อยพร้อมดึงมือออก มินตรายิ่งงงไปกันใหญ่กับท่าทีของรุ่นพี่ที่สน

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕๒. ธารา รัตนา ราตรี

    เสียงร้องห่มร้องของไห้ของเหล่าบริวารที่รับใช้เจ้าแม่นางมานานนั้นกลับกลายเป็นเสียงที่เงียบที่สุดเมื่อจอมกษัตริย์นาคาคำรามลั่น ธารานาคาบริวารผู้ที่จงรักภักดีต่อเจ้าแม่นางด้วยใจจริงเนื่องด้วยหัวใจของนาคาหนุ่มผู้นี้นั้นหลงรักเจ้าแม่นางมาตั้งแต่ก่อนพญาเพชรแก้วและนางจักได้เจอกันเสียอีก ด้วยความเจียมเนื้อเจียมตนอยู่เสมอจึงมิคิดอาจเอื้อมเป็นอื่น ขอเพียงได้ดูแลตามหน้าที่แต่ทว่าบัดนี้นั้นนางได้ถูกสังหารต่อหน้าต่อตาเขาไปเสียแล้ว ธาราขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมือกำหมัดแน่น สายตาเพ่งมองร่างของเพชรฆาตที่ขาดเป็นสองท่อนเพราะครีบเกล็ดของเจ้าจอมนาคา อีกทั้งนางคีภทัรายังย่างก้าวเข้ามาเตรียมจักหยิบคว้ากริชนั้นขึ้นด้วยรอยยิ้ม ทั้งธาราและรัตนาเห็นอย่างนั้นก็รีบพุ่งเข้าไปคว้ากริชนาคามาเสียก่อนที่นางคีภทัราจะเอื้อมถึงมัน เพราะเป็นกริชศักดิ์สิทธิ์ที่มีเพียงเจ้าของถึงจะทนจับมันได้ นาคาและนาคีทั้งสองกรีดร้อ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕๑. พญาเพชรแก้ว

    ราวกับรับรู้ว่าพญาเพชรแก้วจะกลับมายังวังบาดาลคืนนี้ คีภัทราจึงได้ตระเตรียมแผนการเอาไว้ ไม่หนำซ้ำยังร่ายมนต์บังไว้มิให้ผู้ใดเข้าไปได้ เหล่าบริวารจะไม่สามารถรับรู้ได้แน่เนื่องจากความหยั่งรู้ในบุญบารมีนั้นต่างกัน ธาราเองเมื่อเห็นว่าไม่มีพญานกอย่างที่บริวารว่าก็รีบรุดหน้ากลับมายังหอนอนเพื่อเฝ้าเจ้าแม่นางของตนแต่ก็เห็นว่าประตูปิดอยู่คิดว่านางนาคีบริวารทั้งสองคงจะจัดการเรื่องเจ้าแม่นางเรียบร้อยดีแล้วจึงออกไปทำหน้าที่ของตนต่อ ธาราแลเห็นการกลับมาของพญาเพชรแก้วชายผู้เป็นที่รักของเจ้าแม่นางก็เตรียมจะเข้าไปทำความเคารพและแจ้งเรื่องที่นรินธราล้มหลับไป แต่ทว่าทุกอย่างกลับตาลปัดไปเสียหมดคีภัทราวิ่งโร่เข้าไปหาพญาเพชรแก้วที่พึ่งกลับมาจากศึก ก่อนจะเกิดเรื่องขึ้นโดยที่ไม่มีใครกล้าขัดเนื่องด้วยเห็นว่าเจ้าจอมกษัตริย์นั้นเกรี้ยวกราดเต็มที่เจ้าแม่นางถูกจองจำอยู่ในคุกนาคาไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรพญาเพชรแก้วกลับเลี่ยงที่จะฟัง แม้จักเป็นคำพูดของหญิงผู้เป็นที่รักอย่างนรินธราก็ตามที ธาราเห็นทีจักทนไม่ไหวจึงตั้งหน้าไปเข้าเฝ้าเจ้าจอมกษัตริย์ด้วยตนเอง“ข้าแต่องค์กษัตริย์แห่งเหล่าน

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๕๐. นคภกร

    “นางจักมอบยศถาบรรดาศักดิ์ให้พี่จริงดั่งว่าแน่รึ? มิใช่ว่าทำการสำเร็จก็ปิดปากสังหารพี่ดอกรึ?” ภรรยาสาวเอ่ยถามผู้เป็นสามีด้วยท่าทีที่ไม่ไว้วางใจผู้จ้างวานนัก อีกทั้งในใจยังแอบหวงสามีตนเนื่องจากรู้นิสัยของนาคาหนุ่มสามีตนดี ขนาดรับตนเป็นภรรยายังมีเล็กมีน้อยไม่หยุดหย่อน หากแต่ว่าผู้เป็นภรรยานั้นก็ไม่ได้ต่างจากผู้เป็นสามีเลย อย่างที่เขาเรียกว่า…ศีลเสมอกัน…“มิง่ายปานนั้นดอก ในเมื่อนางบอกว่ามิให้พี่ปริปากว่าใครคือผู้จ้างวานทำเรื่องบัดสี นั่นย่อมหมายถึงความลับของนางอยู่ที่ข้าแลหากพญาเพชรแก้วรู้เข้านางคงมิพ้นถูกชังน้ำหน้าจนถูกเนรเทศเป็นแน่”“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดี พี่ก็จักมีเงินมีทองมียศถาบรรดาศักดิ์เป็นนาคานักรบ จักได้มิมีผู้ใดมาดูแคลนได้อีก” ทั้งสองสามีภรรยาหัวเราะขึ้นมาอย่างพอใจ พลางในหัวคิดถึงสมบัติแลอำนาจในมือก็ยิ่งทำให้สุขใจ“พี่ไปก่อนหนากันตา เจ้าจงอดทนรอคอยพี่”นาคาหนุ่มผู้มากตัณหาเอ่ยลาเมียคู่กรรมจะได้เมียใหม่เป็นถึงนาคีสายเลือดกษัตริย์…จักมิต้องมาทนอยู่ในชั้นนาคาต่ำต้อยอีกเจ้าแม่นางน

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status