Masuk“ก็ได้ค่ะ..” เดมี่เม้มปากเอื้อมมือไปหยิบโทรศัทพ์มือถือที่เขายื่นให้พิมพ์ไอดีไลน์ส่วนตัวลงไป พอเสร็จเธอก็รีบเปิดประตูเดินหายเข้าไปในบ้านทันที
“ตัวโคตรหอมเลย” กลิ่นหอมจากตัวเดมี่ยังติดค้างอยู่ในเบาะ จนเจ้าของรถอดไม่ได้ที่จะเลื่อนมือลูบไล้ไปตามที่นั่งซึ่งยังคงอุ่นอยู่.. เดมี่เดินรีบร้อนเข้ามาในตัวบ้านจนเผลอชนเข้ากับคุณเลขา.. “อ่าวคุณเดมี่กลับมาตั้งแต่ตอนไหนครับ ทำไมไม่ได้ยินเสียงรถ” “เอ่อคือว่า วันนี้รถเสียพี่คนขับเอาไปเข้าอู่เดมี่ไม่อยากรอเลยกลับมาเอง แล้วทำไมวันนี้คุณกวินทร์ถึงอยู่บ้านล่ะคะ” เดมี่บ่ายเบี่ยงด้วยการถามเรื่องของเขา ปกติเวลานี้คุณกวินทร์ต้องอยู่กับคุณป๊าที่บริษัท..หรือว่า “คุณป๊าอยู่บ้านเหรอคะ” น้ำเสียงของเดมี่ห่างจากคำว่าดีใจจนทำให้กวินทร์นิ่วหน้า..แปลกๆ นะยัยเด็กเดมี่ ถ้าเธอรู้ว่าลูคัสอยู่ต้องรีบแจ้นส่งเสียงดังเข้าไปแล้ว ท่าทางเหมือนคนมีความผิด “อยู่ครับรอคุณเดมี่นานมาก ว่าแต่ทำไมวันนี้ถึงกลับบ้านช้าจังครับ” สายตาจับพิรุธทำให้เดมี่รีบวิ่งขึ้นไปด้านบน “คุณป๊าขาเดมี่มาแล้ว..” กวินทร์มองร่างบางวิ่งตัวปลิวขึ้นไป สายตาคมหรี่มองออกไปยังโรงรถคนขับรถซึ่งควบตำแหน่งบอดี้การ์ดส่วนตัวของเดมี่ไปไหน บรรยากาศอบอุ่นบนโต๊ะอาหารทำให้เหล่าสาวใช้พากันอมยิ้ม คุณหนูเดมี่ที่ปกติต้องนั่งทานข้าวคนเดียววันนี้เธอไม่ต้องเหงาอีกเมื่อมีคุณพ่อนั่งอยู่ด้วย “กินผักเยอะๆ หน่อยเดมี่” “เดมี่ไม่ชอบอ่ะ” เดมี่ย่นจมูกมองจานผัดผักรวมสีสวย ลูคัสหลิ่วตามองไปยังหัวหน้าแม่บ้าน ซึ่งรีบพยักหน้าเข้าใจ “คุณเดมี่คะ จานนี้คุณลูคัสลงมือทำเองเลยนะคะ” เดมี่หยุดเขี่ยข้าวในจานเธอมองใบหน้าคุณป๊าสลับกับมองจานอาหาร “ถามจริง จานนี้คุณป๊าทำเองเลยเหรอคะ” ท่าทางปลื้มๆ ของเธอทำให้เขายืดอก ต่างจากเหล่าสาวใช้ที่พากันเดินออกจากห้องอาหาร สวนทางกับคุณเลขาที่กำลังเดินหน้ายุ่งเข้ามา “ทำเองทุกขั้นตอนเลยครับ คุณเดมี่” กวินทร์เลื่อนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเดมี่ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลง เขาหยิบจานพร้อมกับโถข้าวมาตักโดยไม่สนสายตาของเจ้านายหนุ่ม “กูชวน..” ลูคัสถามไอ้คนที่ตักข้าวใส่ปากด้วยความรีบร้อน เขาไม่เคยถือตัวพออยู่กันเอง กวินทร์ก็กลายเป็นสมาชิกร่วมโต๊ะอีกคนที่เดมี่คุ้นชิน “จานนี้คุณป๊าทำให้เดมี่ คุณเลขากินอย่างอื่นเลยค่ะ” เดมี่ร้องห้ามเมื่อเขาตั้งท่าจะตักอาหารที่คุณป๊าทำให้เธอ “คุณลูคัสนี่เก่งจริงๆ นะครับ แครอทนี่เป็นชิ้นเท่าๆ กันเลย” กวินทร์น้ำเสียงแดกดัน ด้านเดมี่ก็ก้มลงมองแครอทในจาน “คุณป๊าเก่งจัง เดมี่ยังทำไม่ได้เท่านี้เลย คุณป๊าอยู่ทำให้เดมี่ทุกวันเลยนะคะ เดมี่สัญญาว่าจะกินให้หมดเลย” เดมี่ลุกจากเก้าอี้วิ่งไปนั่งลงที่ตักของคุณพ่อ ท่ามกลางสีหน้าตกใจของกวินทร์ “เดมี่ลุกขึ้น” ถึงจะบอกแบบนั้นแต่มือกลับพาดรั้งไปที่เอวลูกสาวจนกวินทร์ต้องลอบเบ้หน้า “เดมี่รักคุณป๊าจัง” เดมี่ยิ้มแฉ่งโอบต้นคอเขาไว้พร้อมกับก้มลงหอมแก้มซ้ายขวาสลับไปมา “เดมี่ฉันบอกให้ลงไป” ปากบอกแบบนั้นแต่สายตามองไปทางกวินทร์ ซึ่งตีความหมายได้ไม่ยากว่า ..มึงจะนั่งทำส้นตีนไร รีบไสหัวออกไป ..ไม่ต้องแดกแล้วกู พ่อลูกเค้าจะป้อนข้าวกัน ลูคัสเดินไปส่งลูกสาวหน้าห้อง กว่าเดมี่จะยอมปล่อยเขาออกมาก็นานสองนาน ใบหน้าเปื้อนยิ้มทำตัวราวกับเป็นเด็กวัยรุ่นหัดมีความรักขวางหูขวางตากวินทร์จนต้องกระแอมออกมา “หน้าระรื่นเชียวนะ ไปเล่านิทานกล่อมลูกมาเนี้ย” “เรื่องของกู เข้ามาหากูในนี่มีอะไร” กวินทร์ทรุดตัวนั่งลงค่อยๆ ไล่อ่านเอกสารที่กองไว้ตั้งแต่เช้า “เรื่องเดมี่..” “เดมี่ทำไม” กวินทร์กระแอมเบาๆ ให้คนที่ยืนอยู่มุมห้องเดินออกมา ลูคัสนิ่วหน้ามองคนขับรถของเดมี่ด้วยความไม่เข้าใจ “เล่าไป” กวินทร์กระตุ้น “คือเมื่อเย็นรถยางแตกครับ..”มือที่กำลังกำด้ามปากกาหยุดลงชายหนุ่มปัดกองเอกสารให้พ้นหน้า ธุรกิจพันล้านสำคัญน้อยกว่าเรื่องของลูกสาว “คือ..เมื่อเย็นก่อนกลับคุณเดมี่ไปทานข้าวกับกลุ่มเพื่อน เอ่อมีผู้ชายคนนึงเดินมาส่งคุณเดมี่ที่รถ จังหวะเดียวกับที่รถยางแตกพอดี ผู้ชายคนนั้นเลยอาสามาส่งคุณเดมี่ที่บ้าน” “มึงปล่อยให้เดมี่มากับมัน” แววตาวาวโรจน์ของผู้เป็นนายทำให้คนขับรีบก้มหน้า “ผมขอโทษครับนาย ผมกลัวคุณเดมี่ร้อนไม่อยากให้รอ” “มึงเป็นบอดี้การ์ดเดมี่ มึงปล่อยให้ลูกกูนั่งรถคนอื่นมาได้ยังไงวะ แล้วถ้ามันไม่พาเดมี่กลับมาส่งบ้านมึงรับผิดชอบไหวมั้ย” ปลายกระบอกปืนซึ่งถูกชักออกมาตอนไหนไม่รู้ทำให้คนขับรถรีบนั่งคุกเข่า พลางส่งสายตาไปหาคุณเลขา “ใจเย็นครับนาย..มึงมีรูปมันมั้ย” กวินทร์เริ่มซักประวัติไอ้พวกหน้าจืดที่มาตามเต๊าะเดมี่ “มีครับๆ ..” คนขับรีบล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เลื่อนไม่กี่ทีก็เจอรูปไอ้หน้าอ่อนคนนั้น กวินทร์คว้าขึ้นไปดูก่อนจะรีบคว่ำจอลง …สัส ถ่ายจังหวะดีซะด้วยนะมึง! ........... ฝากกดหัวใจ+คอมเม้นให้อีป๊าด้วยนะค้า อย่าลืมเก็บเข้าชั้นกันนะคะ ขอบคุณค้า...หลายเดือนก่อนลุงดอมเรียกให้เขาไปพบที่บ้านก่อนจะเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง ว่าคุณแพรพลอยแม่ของเดมี่พาเธอหนีเพราะรับไม่ได้ที่สามีทำธุรกิจผิดกฏหมาย ซึ่งปัจจุบันลุงดอมวางมือจากงานพวกนั้นแล้ว“แม่ของเดมี่เสียแล้ว ดอมช่วยลุงตามหาเดมี่ได้มั้ย” ชายสูงวัยแววตาเต็มไปด้วยความทุกข์ เมื่อทราบข่าวจากสายสืบว่าแพรพลอยเสียชีวิตไปหลายปี ส่วนเดมี่ก็ไร้ซึ่งข่าวคราว แน่นอนว่าลุงดอมเป็นถึงอดีตมาเฟียใหญ่ ถ้าจะหาตัวใครสักคนคงไม่ใช่เรื่องยากเว้นก็แต่มีใครบางคนกำลังขัดขวาง ซึ่งใครคนนั้นคงเป็นผู้ชายที่เดมี่เดินตามหลังขึ้นไปบนรถ..…ถึงเวลานกน้อยต้องกลับกรงทองแล้ว“พวกมึงไปตามสืบมาว่ามันเป็นใคร”เดม่อนหันไปสั่งลูกน้องชายหนุ่มหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ..ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของเขาใครก็อย่าหวังจะแย่งเธอไป! ความเร็วของรถทำให้เดมี่จับเบาะไว้แน่น อารมณ์กรุ่นโกรธของคุณป๊าตอนนี้ทำให้เธอไม่กล้าพูดอะไรออกไป ดวงตากลมโตเหลือบมองเสี้ยวหน้าของเขา เดมี่รวบรวมความกล้ายกมือแตะลงบนแขนแกร่ง“คุณป๊าคะคือว่า…”“เธอคงอายมากมั้งที่มีผัวแก่ๆ แบบฉัน”น้ำเสียงไม่พอใจเจือไปด้วยความน้อยใจทำให้หญิงสาวรีบเอนศรีษะเอาหน้าซบลงกับแขนของเขา เดมี่นึกว่า
…คุณป๊าคงไม่ว่าหรอกมั้งก็แค่สองสามชั่วโมง เดมี่คำนวณเวลาในใจ ก่อนรีบส่งข้อความบอกคนขับรถให้ขับตามไปทีหลังส่วนเธอติดรถเพื่อนๆ ไปที่ผับ..เสียงดนตรีดังกระหึ่มบวกกับเสียงพูดคุยทำให้เดมี่ไม่ทันสังเกตโทรศัพท์มือถือที่ดังวนอยู่นาน เสียงหน้าจอสว่างขึ้นก่อนจะดับลงไป“หายไปไหนวะเดมี่..”ลูคัสยืนพิงรถคันหรูอยู่หน้าคณะของเธอซึ่ง เหล่านักศึกษาพากันเดินออกจากตึกคนแล้วคนเล่าแต่เขายังไม่เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยเดินออกมา“หรือว่ากลับไปแล้ววะ”นี่กูก็เหยียบมาสุดๆ แล้ว กลับบ้านไปคงได้ใบสั่งมาดูเล่นหลายใบเพราะห้าวเกียร์ทุกไฟแดง แซงซ้ายมาแทบทุกคัน ความฝันคือการมาเซอร์ไพรส์ยัยลูกสาวพร้อมกับพาเธอไปเดทฉ่ำๆ ตบท้ายด้วยพาไปสวีทรับลมทะเลที่พัทยาหนีหน้าไอ้กวินทร์ที่จ้องจะขัดขวาง..นี่กูโดนเซอร์ไพรส์กลับหรือไง ชายหนุ่มรีบกดโทรหาคนขับรถของเดมี่ ถ้ายังไม่ถึงบ้านจะได้ให้รีบวนรถกลับมาส่ง ไม่อย่างนั้นโดนไอ้เลขาจับเป็นตัวประกันให้เขากลับไปนั่งใช้แรงงานสะสางกองเอกสารจนตายแน่ๆ แค่นี้มันก็โทรจิกยิกๆ“ไอ้เทพมึงอยู่ไหน”[หน้าผับMonster oneครับ] คนขับรถหน้าซีดปากสั่นรีบละล่ำละลักบอกเจ้านาย“หน้าผับ มึงไปทำอะไรหน้าผับวะ แล้วเดมี่ล
เดมี่หวีดเสียงครางเธอเสียดเสียวจนแทบสำลักความสุข เสียงครางราวกับจะขาดใจขาดห้วงลงเหลือเพียงเสียงหอบเหนื่อยอ่อน หญิงสาวนอนกระตุกเกร็งน้ำสีใสยังไม่ทันไหลลูคัสก็แลบลิ้นรอกิน..กวินทร์รอจนแสงไฟในห้องทำงานดับลง เข้าไปนานขนาดนี้หวังว่าเอกสารสำคัญจะถูกเจ้านายเซ็นต์สักที เขาค่อยๆ เปิดสวิตซ์ไฟตรงผนัง พอแสงไฟสว่างขึ้นภาพตรงหน้าก็ทำให้เลขาหนุ่มเข่าอ่อน“เหี้ยไรวะเนี้ย..”แฟ้มเอกสารกระจัดกระจาย บางอันหลุดออกมาจนปลิวว่อนเกลื่อนห้อง ชายหนุ่มหันไปมองบนโต๊ะถุงหิ้วแบรนด์ดังที่เจ้านายหิ้วมาถูกวางทิ้งไว้ กล่องสีน้ำเงินเข้มซึ่งคาดว่าคงเป็นกล่องเครื่องประดับถูกอ้าเปิดวางทิ้งไว้มุมโต๊ะ..“เข้ามาเปิดกันในนี้ได้ไงวะ นี่ห้องทำงานนะโว้ย” เลขาหนุ่มยกมือขึ้นขยี้ใบหน้าแรงๆ พร้อมกับทรุดตัวนั่งเก็บกองเอกสาร“อะไรวะเนี้ย..”กวินทร์หยิบแผ่นกระดาษขึ้นมาพิจารณาคราบน้ำเล็กๆ ซึ่งเปรอะจนทำให้น้ำหมึกจางลง แล้วมันไม่ใช่แค่แผ่นเดียวมันเป็นเกือบทุกแผ่น!…โอ้ย ไอ้คุณเจ้านายมึงจะมาน้ำแตกใส่เอกสารกูไม่ได้นะโว้ย!@เช้าวันต่อมาเดมี่เดินกึ่งวิ่งลงมาจากด้านบนหญิงสาวกวาดสายตาหาคุณป๊าของเธอ ก่อนจะเห็นว่าเหล่าบอดี้การ์ดยืนอยู่หน้าห้องท
แสงไฟจากหน้ารถทำให้เดมี่ยิ้มร่าดีใจ ร่างบางวิ่งตัวปลิวเข้าไปยืนกระโดดหอมแก้มคนที่กำลังเดินลงมา ลูคัสเลื่อนมือบีบสะโพกเธอเบาๆ ไม่สนสายตาหลายคู่ที่ต้องแสร้งมองไม่เห็นภาพสวีทของเจ้านายหนุ่มกับลูกเลี้ยงสาว..“หายไปไหนมาคะ เดมี่โทรหาตั้งหลายสาย”“ไปซื้อของมาให้เด็ก”ลูคัสชูถุงหิ้วแบรด์ดังซึ่งเขารีบบึ่งไปรับมาจากห้าง สั่งไปหลายดือนจนเกือบลืมจนกระทั้งSAของช็อปโทรเขามาแจ้ง“อะไรคะ ของเดมี่หรือเปล่าน๊า”“นั่นสินะ ของเดมี่หรือเปล่าเราขึ้นไปเปิดดูกันเถอะฉันอยากเปิดให้เธอดู”“ไปค่ะ เดมี่ก็อยากเปิด…ดูจะแย่”กวินทร์หน้าแดงเมื่อยัยคุณหนูเดมี่เว้นช่วงคำว่าเปิด ไม่ได้การล่ะ กองเอกสารที่เขาเตรียมไว้ยังรอเจ้านายไปเซ็นต์แล้วยัยเด็กนี่จะมาอยากเปิดอะไรตอนนี้“นายครับ ทางสิงค์โปร์เร่งสัญญามาแล้ว ผมว่าเจ้านายรีบไปดูเอกสารก่อนจะดีกว่า”“สำคัญมากมั้ย” ลูคัสหน้าตึงเมื่อโดนขัด นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วคิดว่ากูต้องทำงานตลอดหรือไงวะ“คิดว่าสำคัญครับ”“คุณป๊าไปทำงานก่อนเถอะค่ะ ไว้เราค่อยมาเปิดกันก็ได้” ลูคัสส่ายหน้ายิ้มๆ งานอะไรก็ช่างหัวแม่งเถอะ“เฮๆ ..นายครับวันนี้ขอเถอะนะ ถ้านายไม่เซ็นต์เบิกจ่ายเงินเดือนวันนี้ พวกพน
เดมี่ลากสายตามองไปตามแผงอกสาขาเล็กยังขนาดนี้แล้วสาขาใหญ่ซึ่งซ่อนอยู่ใต้กางเกงจะดกดำขนาดไหนกันนะ สายตาซุกซนของเธอทำให้ลูคัส ร้อนไปทั้งตัวเล่นมองสำรวจกันด้วยสายตาแบบนี้ยังบอกว่าไม่ได้คิดอะไรเขาจะทำให้เธอรู้ใจตัวเองเสียทีว่าเราสองคนใจตรงกัน!มือบางถูกเขาจับไปวางบนแผงอกกำยำ“ลองลูบดู” เดมี่ค่อยๆ กรีดนิ้วไปตามกลุ่มขนลากไล้ไปเรื่อยๆ จนหยุดอยู่ที่ขอบอันเดอร์แวร์ ลูคัสหายใจติดขัดช้อนตาหิวกระหายมองเธอช้าๆ“ล้วงเข้าไป”เดมี่สั่นหัวตั้งท่าจะชักมือกลับแต่ก็ถูกเขาคว้าไว้พร้อมกับจับมือเธอสอดเข้าไปใต้หว่างขา“อ่าส์” ลูคัสเสียงพร่าเมื่อมือนุ่มทาบทับลงกับท่อนเนื้อแข็ง ต่างจากหญิงสาวที่ทำท่าจะร้องไห้“เดมี่ไม่อยากจับ”“อยากลองอม?”“ไม่ๆ”“ขนาดนี้แล้วลองหน่อยนะ” ลูคัสตะล่อมเขาอยากเห็นปากจิ้มลิ้มอมรูดแท่งใหญ่คงเเป็นภาพที่สวยงามมาก และก็ยังเป็นคำตอบให้เขาได้มั่นใจว่าเดมี่เองก็มีใจ…ถึงขนาดอมให้มันก็ต้องมีคิดกันมั่งละว้า“ไม่มีทางมันเข้าไปในปากเดมี่ไม่ได้” แค่กำให้รอบยังไม่มิดแล้วจะเข้าปากได้ยังไง“เลียเฉยๆ ก็ได้”“ทำไม่เป็น”“เรียนรู้ ตั้งใจ ทำได้แน่นอน” หญิงสาวกำท่อนเนื้อค้าง อะไรของเขาคำขวัญวันเด็กหรือไ
หลังจากจับเธอกินรอบที่สอง ลูคัสก็ต้องรีบหยุดเมื่อร่างบอบบางของเดมี่รับไม่ไหวอีกต่อไปจู่ๆ เธอก็ไข้ขึ้นสูง จนเขาต้องรีบอุ้มเธอขึ้นมานอนพักบนห้องลูคัสจัดการเช็ดตัวลูกเลี้ยงสาวก่อนจะหยิบชุดนอนมาสวมใส่ เดมี่นอนหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนต่างจากเขาที่นอนหลับไม่ลงจนต้องพาตัวเองเดินมาจุดธูปที่ห้องพระ เบื้องหน้าคือรูปถ่ายแพรพลอยแม่ของเดมี่“เจ๊แพร..ผมจัดการเดมี่ไปแล้วขอโทษนะที่ผมอดทนรอจนเดมี่เรียนจบไม่ไหว เจ๊ไม่ต้องเป็นห่วงผมสัญญาจะดูแลเดมี่ด้วยชีวิต” ถ้อยคำที่แพรพลอยฝากฝังเขายังจำมันได้ดีเช้าวันต่อมาเดมี่งัวเงียลุกขึ้นนั่ง อาการเจ็บแปลบแล่นเข้ามาจนเธอต้องนั่งนิ่งๆ หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องส่วนตัว..เธอโดนเขากระแทกจนสติดับวูบไป พอคิดถึงตรงนี้เดมี่ก็รีบหยิบหมอนขึ้นมาปิดหน้า…เธอกับคุณป๊า“ตื่นแล้วเหรอ” น้ำเสียงทุ้มทำให้เดมี่รีบปั้นหน้าให้เป็นปกติ เขาจะเข้ามาทำไมเธอยังไม่พร้อมจะเจอหน้าตอนนี้“คุณป๊าเข้ามาทำไมคะ”“มาหาเมีย” เขานั่งลงปลายเตียงสายตาจดจ้องมาใต้ผ้าห่ม“คุณป๊าไม่นะ” เดมี่ดึงผ้าห่มแน่นเมื่อเขากระชากมันออกจนเกิดการยื้อแย่ง ลูคัสใช้สายตาดุๆ ให้เธอปล่อยมือ“







