เย็นของวันนั้นหลังจากที่กลับมาจากมหาวิทยาลัย ลูซี่มุ่งตรงกลับห้องทันทีเพราะเธอรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งตัว คงเพราะพิษไข้จากการตากฝนเมื่อวานแถมเธอก็ทิ้งตัวนอนไปทั้งๆ ที่เสื้อผ้าเปียกโชก
เธออยากจะทิ้งตัวอีกครั้งแต่ก็ต้องฝืนเอาร่างกายของตัวเองไปชำระล้างฝุ่นและหยาดเหงื่อที่ติดตัวมาทั้งวันออกไปก่อน หวังจะให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น หลังจากใช้เวลาไม่นานเธอก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวแต่แล้วเสียงบางอย่างที่ดังอยู่หน้าห้องทำให้เธอต้องหยุดชะงักยืนตัวแข็ง
“ใครน่ะ!? ” ลูซี่กำผ้าเช็ดตัวเอาไว้แน่น ตะโกนถามออกไปด้วยความรู้สึกหวาดกลัว
ปึง!!!
เสียงประตูกระแทกเข้ากับกำแพงสีขาวอย่างแรงจนเธอที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำถึงกับสะดุ้ง ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความตกใจปนหวาดกลัวเมื่อเห็นผู้บุกรุกที่ไม่มีทางจะเข้ามาได้แต่เขากลับมายืนอยู่ที่หน้าของเธอ
“ออสติน!! คุณเป็นใครกันแน่ คุณต้องการอะไรจากหนู” น้ำเสียงสั่นเครือดังแผ่วๆ ดวงตาคู่สวยพร่ามัวเพราะน้ำสีใส พยายามเดินถอยหลังเรื่อยๆ ด้วยความหวาดกลัว
ร่างสูงก้าวเข้ามาอย่างไม่สนใจความตกใจของเธอ ดวงตาสีแดงเรืองรองของเขาจับจ้องเธอราวกับจะเจาะลึกเข้าไปในจิตใจ รัศมีของเขาแผ่พลังที่ทำให้บรรยากาศรอบตัวดูหนักอึ้ง
" ลูซี่... เจ้าต้องรู้ความจริง" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ แววตายังคงมองเธอด้วยความพิศวงเช่นเคย
“ความจริงอะไร? ”
" รอยสักที่ข้อมือของเจ้า มันคือพันธสัญญาและนั่นหมายความว่า...เจ้าเป็นของข้า "
ลูซี่ก้มมองข้อมือซ้ายของตัวเอง รอยสักสีแดงยังคงเด่นชัดเจน คำพูดประโยคสุดท้ายของออสตินทำให้เธอเหมือนถูกกระชากวิญญาณออกจากร่าง หลังจากนี้ชีวิตของเธอคงไม่ต่างจากนกในกรงทองเป็นแน่
" คุณพูดเรื่องบ้าอะไร? หนูไม่เคยทำสัญญาอะไรแบบนั้น! " เธอส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อพลางเดินถอยหลังเมื่อรู้สึกว่าออสตินเดินเข้ามาใกล้
ลูซี่มองชายตรงหน้าอย่างรู้สึกสับสนและหวาดกลัว ตอนนี้เธอไม่มีทางหนีอีกแล้ว แผ่นหลังบางชนเข้ากับกำแพงสีขาวเข้ามุมอย่างไม่มีทางให้หนี เขายืนขวางล็อกตัวเอาไว้แล้ว
" เจ้าทำไปแล้ว โดยไม่รู้ตัว " เขาย้ำด้วยน้ำเสียงเย็นๆ ราบเรียบไร้อารมณ์
" เจ้าคือผู้ถือครองดวงตาแห่งเอเดน และพันธสัญญาที่เจ้าทำกับข้า มันไม่อาจลบล้างได้ "
ลูซี่ส่ายหน้าปฏิเสธไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาพูดเธอช็อกจนตัวสั่นพยายามจะพูดอะไรบางอย่างแต่ทุกคำพูดขาดหายไปพร้อมกับสติที่เริ่มเลือนราง เธอล้มพับลงไปแต่ก่อนที่ร่างจะกระแทกพื้น ออสตินก็พุ่งเข้ามาประคองเอาไว้ได้ทันและเขาสัมผัสได้ถึงความร้อนจากร่างของเธอ มันร้อนดั่งเปลวไฟ
"เธอมีไข้!!..." เขาพึมพำกับตัวเองค่อยๆ ช้อนตัว อุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาว
ชายหนุ่มไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เขาค่อยๆ วางเธอลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง ตอนนี้คิดได้อย่างเดียวว่าต้องทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเธอเย็นลงก่อน
มีวิธีเดียวที่จะสามารถช่วยเธอให้หายจากพิษไข้ได้ ดวงตาสีแดงของเขาเปล่งประกายขณะยกมือขึ้นหวังใช้พลังของตัวเองรักษาเธอ
“หยุดเดี๋ยวนี้!! นางเป็นมนุษย์! เจ้าจะใช้พลังของตัวเองไม่ได้ อยากให้นางตายรึยังไง”
เจ้าของน้ำเสียงกังวานดังขึ้นจากมุมห้องเป็นเหตุให้ออสตินต้องลดมือลง นัยน์ตาคมมองใบหน้าสวยของคนที่กำลังหลับใหลด้วยความเป็นห่วง
" เจ้าทำอะไรลงไปรู้ตัวบ้างไหม? เธอไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ความผิดมหันต์นี้เจ้าต้องรับผิดชอบ "
คาอิน เดินออกจากมุมมืดของห้อง เดินเข้ามาใกล้ๆ ด้วยท่าทางเคร่งขรึม เขามองดูสหายคนสนิทอย่างไม่เข้าใจ แววตาของออสตินที่มองหญิงสาวเต็มไปด้วยความกังวลและห่วงใย เขาไม่เคยเห็นสายตาแบบนี้จากเพื่อนเลย นี่เป็นครั้งแรก.....
" ข้าไม่มีทางเลือก ดวงตาแห่งเอเดนเลือกเธอแล้ว ลูซี่คือผู้ถูกลิขิต " น้ำเสียงของออสตินอ่อนลง มือหนาลูบสัมผัสที่แก้มเนียนร้อนผ่าวของคนตัวเล็กที่กำลังหลับใหลเพราะพิษไข้ ความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะอธิบายแทรกเข้ามาภายในจิตใจของเขา
" แต่เจ้ารู้ไหมว่าการทำพันธสัญญาโดยไม่ให้นางรู้ตัวนั้น เป็นการเปิดประตูให้ปีศาจตนอื่นล่าตัวนางได้? ตอนนี้พวกมันรู้แล้วว่านางอยู่ที่ไหน! " คาอินพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและหนักแน่น
คำพูดของอีกฝ่ายทำให้ออสตินนิ่งงันไปชั่วขณะ เสียงกัดฟันกรอดดังก้องในลำคอ มือหนาทั้งสองข้างกำแน่นจนเห็นเส้นเอ็นนูนขึ้นมา ไม่รู้ว่าโกรธที่พวกปีศาจรู้ตัวหรือโกรธตัวเองที่ทำอะไรลงไปโดยไม่คิดถึงผลที่ตามมา
" ข้าจะไม่ยอมให้พวกมันแตะต้องเธอเด็ดขาด " เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่
" งั้นเจ้าก็ควรเริ่มวางแผนได้แล้ว เพราะนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ออสติน...เจ้าทำให้สงครามครั้งนี้ซับซ้อนขึ้นมากกว่าเดิม " คาอินถึงกับถอนหายใจ กล่าวเตือนเพื่อนด้วยความหวังดี แม้จะรู้ผลที่ตามมาแต่เขาก็พร้อมอยู่เคียงข้างสหายรักเสมอ
คืนนั้นทั้งคืนหลังจากที่อาคินกลับไป ออสตินก็ไม่เป็นอันทำอะไร เขาเดินเข้าออกห้องน้ำเป็นว่าเล่นเพราะคนที่หลับไม่ได้สติไม่มีท่าที่ที่อุณหภูมิในตัวจะลดลงเลย
“อือ! อย่ายุ่งจะนอน” เสียงแหบพร่าดังขึ้นแผ่ว พยายามปัดป้องมือหนาที่กำลังวุ่นวายให้ออกไปจากตัวเธอ
“อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวใส่เสื้อให้” ออสตินไม่มีทางเลือก เขาก้าวขึ้นนั่งคร่อมตัวของเธอเอาไว้แบบหลวมๆ พยายามใส่ชุดนอนให้ ขนาดเลือกแบบชุดเดรสยังยากเลย
“ลูซี่!!! อยู่ให้มันนิ่งๆ ได้ไหม เดี๋ยวบีบนมแม่ง” น้ำเสียงเริ่มข่มขู่เมื่อคนตัวเล็กไม่ยอมให้ความร่วมมือ เขาพยายามเป็นสุภาพบุรุษแล้วนะแต่เธอนั่นแหละ
“เฮ้อ~ กว่าจะใส่ได้”
เขาพึมพำออกมาเบาๆ พลางทิ้งตัวลงนอนข้างๆ เธอหลังจากที่สู้รบกันมานานกว่าจะทำสำเร็จ
แสงแดดยามเช้าลอดผ่านม่านสีขาวที่พลิ้วไหวจากลมอ่อน ๆ ลูซี่ค่อย ๆปรือตาขึ้นอย่างช้าๆ เธอรู้สึกหนักศีรษะเล็กน้อยและเจ็บแปลบ ๆ ที่ขมับ มือบางยกขึ้นแตะหน้าผากของตัวเองก่อนจะพบว่ามีผ้าขนหนูชื้น ๆ วางอยู่
" ตื่นแล้วเหรอ? " เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นจากมุมห้อง ทำให้เธอสะดุ้งเหลือบมองเจ้าของเสียงที่ยืนกอดอกพิงขอบประตูด้วยสายตาที่เลื่อนลอยเพราะยังตื่นไม่เต็มที่
“คุณมาอยู่ในห้องหนูได้ไง” เธอถามเสียงแหบพร่า พลางขยับตัวคว้าตุ๊กตาหมีตัวใหญ่เข้ามากอด
" ก็มาดูแลคนป่วยไง ไหนดูดิ " ออสตินตอบพลางขยับเดินเข้ามาใกล้ๆ หย่อนตัวลงนั่งข้างเตียงแล้วค่อยๆ วางมือเย็น ๆ ลงบนหน้าผากของเธอ สีหน้าเคร่งขรึมของเขามีแววกังวลเล็กน้อย
“อือ หนูไม่เป็นอะไร ว่าแต่คุณเข้ามาในห้องหนูได้ยังไง จำได้ว่าล็อกประตูแล้ว” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัยพลางดึงมือหนาของเขาออกจากหน้าผาก หัวสมองกำลังพยายามเรียบเรียงเรื่องราวที่ขาดหายไป
“ฉันเห็นเธออาการไม่ดีตั้งแต่ในห้องเรียนแล้ว....แล้วก็ไม่คิดว่าจะมาเจอเธอที่นี่ในสภาพที่ป่วยสุดๆ แล้วเธอก็เป็นคนเปิดประตูให้ฉันเข้ามาเองนะ”
นี่เขาเป็นห่วงถึงขั้นแอบตามเธอมาเลยเหรอแต่คงไม่ใช่หรอกมั้ง คงไม่บังเอิญอยู่ที่นี่เหมือนกันด้วยหรอกนะ........
“หนูเนี่ยนะ! เปิดประตูให้คุณ แล้วคุณ.......” ลูซี่พยายามยิงคำถามต่อแต่เขากลับ ยกมือขึ้นมาปิดปากเธอเอาไว้
“ช่างเถอะน่า! กินข้าวดีกว่า จะได้กินยา วันนี้ไม่ต้องไปเรียน! ฉันให้จินดาจัดการเป็นธุระลาป่วยทุกวิชาให้เรียบร้อยแล้ว” เขาจัดการเสร็จสรรพจนเธอได้แต่พยักหน้าตอบรับงึกๆ
รู้สึกเหมือนมีบางอย่างถูกปิดกั้นเอาไว้ เธอจำได้เพียงว่ากลับมาจากมหาวิทยาลัย อาบน้ำเสร็จและหลังจากนั้นทุกอย่างก็เป็นภาพขาวโพลนราวกับความทรงจำนั้นถูกลบล้างอย่างตั้งใจ ทิ้งไว้เพียงคำถามในหัวใจที่เธอไม่กล้าหาคำตอบ............
ลมหนาวพัดพาหิมะโปรยปรายทั่วท้องฟ้าแห่งอังกฤษ คืนนี้คือคืนที่ทุกอย่างดูเงียบสงบ ลูซี่จับจูงมือออสตินข้ามสะพานหินเล็กๆ ไปยังคฤหาสน์แอลเบอร์ บ้านหลังใหญ่ที่เคยเป็นของพ่อเธอ สถานที่ที่บรรจุความทรงจำในวัยเด็ก แม้ว่าตอนนี้มันจะดูว่างเปล่าและเย็นเยือก" ที่นี่คือบ้านของพ่อหนู " ลูซี่เอ่ยเสียงเบา ใบหน้าซ่อนรอยยิ้มเศร้าหลังจากสำรวจคฤหาสน์อยู่พักใหญ่ พวกเขาเดินออกมาที่สวนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของหลุมศพพ่อแม่ลูซี่ หิมะที่ตกหนักปกคลุมทุกสิ่งเหมือนผ้าห่มสีขาวสะอาดตา" คุณพ่อ คุณแม่ค่ะ หนูพาคนหล่อมาแนะนำให้รู้จัก ตอนนี้หนูแต่งงานกับเขาแล้วนะ " ลูซี่นั่งลงข้างหลุมศพ มือของเธอเอื้อมไปลูบแผ่นหินจารึกชื่อของพ่อแม่เธอด้วยความอ่อนโยน พลางชูมือข้างซ้ายโชว์แหวนเพชรสวยๆที่นิ้วนาง" คุณนายและคุณแอลเบอร์ ผมไม่อาจขอพรใดจากท่าน นอกจากขอให้ท่านรับรู้ว่าผมจะอยู่เคียงข้างลูซี่ ดูแลเธอด้วยทุกสิ่งที่ผมมี ทั้งชีวิตและจิตวิญญาณของผม " ออสตินย่อตัวลงข้างเธอ ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มอย่างชอบใจก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นสายลมหนาวพัดผ่าน เสมือนเสียงตอบรับเงียบๆ จากธรรมชาติ ลูซี่ยิ้มทั้งน้ำตาขณะที่เธอเอนหัวลงบนไ
ค่ำคืนนี้ท้องฟ้ามืดมิดไร้เงาจันทร์ สายลมเย็นพัดผ่านสวนหลังของคฤหาสน์หลังใหญ่ อากาศเย็นจับใจจนเธอต้องห่อตัวในเสื้อคลุมหนา ส่วนทางด้านของออสติน เขายืนอยู่ที่ระเบียง มือทั้งสองของเขาเท้าราวเหล็ก มองท้องฟ้าสีดำสนิทด้วยสายตาที่ลูซี่ไม่เคยเห็นมาก่อนสายตาแห่งความคิดถึงและความเจ็บปวด“ ออสติน คุณคิดอะไรอยู่เหรอ? ” ลูซี่เอ่ยถามในขณะที่เดินเข้าไปหาและโอบกอดเขาจากทางด้านหลัง“ อดีต…” เขาตอบเสียงเบา แต่คำ คำนั้นกลับหนักหน่วงราวกับบรรทุกเรื่องราวนับพันไว้ในใจลูซี่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย เธอไม่ค่อยได้ยินเขาพูดถึงอดีตก่อนที่เขาจะกลายเป็นลูซิเฟอร์เลย เธอคลายอ้อมกอดแล้วเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆกับเขา พร้อมเอียงคอมองดูอีกฝ่ายด้วยแววตาที่อยากรู้“ เล่าให้หนูฟังหน่อยได้ไหม? ” เธอถามอย่างอ่อนโยน“ ถ้าเธออยากฟัง ฉันจะเล่า…” เขาว่าพลางจูงมือของเธอไปนั่งที่โซฟา ที่อยู่ไม่ไกลในยุคเริ่มต้นของทุกสิ่ง ออสตินเคยเป็นเทวทูตผู้สูงส่งที่สุดในสวรรค์ เขาเป็นผู้คุมแสงสว่าง ผู้ที่เหล่าเทวทูตน้อยใหญ่ต่างเคารพนับถือ“ ฉันเคยรักสวรรค์… มันคือบ้านของฉัน ” ออสตินกล่าว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความคิดถึง“ แต่ความรักนั้นกลับกลายเป
ออสตินนั่งอยู่บนบัลลังก์สีดำอันสง่างาม เปลวเพลิงแห่งนรกลุกโชนรอบตัวเขา สายตาเต็มไปด้วยอำนาจและความหนักแน่น ปีศาจน้อยใหญ่ต่างมองเขาด้วยสายตาเคารพยำเกรง แต่เมื่อสายตาเขาหันไปสบกับลูซี่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ความดุดันในแววตานั้นก็อ่อนลงลูซี่ก้าวเข้ามาใกล้ ร่างของเธอสง่างามราวกับเทพธิดา แต่ในสายตาของปีศาจทุกตน เธอคือราชินีผู้สงบอำนาจแห่งความมืด........" หนูตัดสินใจได้แล้ว! ถ้าคุณจะเป็นราชาของที่นี่ หนูจะอยู่ข้างคุณ...ในฐานะราชินีเช่นกัน " ดวงตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับด้วยความสุข น้ำเสียงอ่อนหวานแต่นุ่มลึกคำพูดนั้นทำให้ออสตินเบิกตากว้าง ยันกายลุกขึ้นจากบัลลังก์ทันที ก้าวลงไปรับราชินีของเขาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจ รอยยิ้มกว้างฉายอย่างชัดเจนบนใบหน้าหล่อ" เธอตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม? " น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความหวัง“ค่ะ!! แต่ทุกอย่างต้องเป็นไรตามกติกาของหนูนะ”" กติกาของเธอ? ช่างกล้าต่อรองจังเลยนะ " ออสตินหัวเราะเบา ๆ อย่างพึงพอใจ" หนูจะอยู่ข้างคุณ แต่คุณต้องเคารพการตัดสินใจของหนู ให้อิสระที่จะเลือกเส้นทางของตัวเองและหนูจะอยู่กับคุณในฐานะคู่ชีวิต ไม่ใช่ในฐานะผู
หลังจากจัดการกับมาร์คัสในนรก ออสตินและอาคินเดินทางกลับขึ้นมายังโลกมนุษย์แต่พวกเขาไม่ได้มีเวลาให้พักผ่อน ทันทีที่ปรากฏตัวบนพื้นโลก ทั้งสองพบว่าปีศาจจำนวนมากหลุดออกมาจากรอยแยกที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และขุมนรกเสียงกรีดร้องของผู้คนดังระงม ปีศาจตัวใหญ่และตัวเล็กเพ่นพ่านไปทั่วเมือง สร้างความเสียหายและความโกลาหล" เราต้องรีบกำจัดพวกมันให้หมดก่อนที่ทุกอย่างจะพังมากกว่านี้! " ออสตินกล่าวขณะเรียกอาวุธคู่ใจของเขาออกมาส่วนทางด้านอาคินก็ใช้พลังแห่งการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว จัดการกับปีศาจตัวเล็กที่วิ่งพล่านไปทั่ว เขากระโจนไปมาระหว่างอาคาร ใช้ดาบเงินแทงและฟันปีศาจจนหายวับไปทีละตัวออสตินเผชิญหน้ากับปีศาจระดับสูงที่มีพลังแข็งแกร่งกว่า เขาใช้เปลวเพลิงจากพลังลูซิเฟอร์เผาผลาญปีศาจเหล่านั้น บ้างก็ใช้เวทมนตร์ปิดกั้นทางหลบหนี บังคับให้พวกมันต่อสู้กับเขาจนถึงที่สุดปีศาจบางตัวพยายามจะหลบหนีไปยังเขตที่มีผู้คน แต่ทั้งออสตินและอาคินทำงานเป็นทีมอย่างยอดเยี่ยม คอยสกัดพวกมันไม่ให้หนีออกไปสร้างความเสียหายเพิ่มเติมในกลุ่มปีศาจที่หลุดออกมา มีหนึ่งตัวที่โดดเด่นและทรงพลังที่สุด มันคือ " เมธัส " ปีศาจยักษ์ที่มีร่างกา
@Gates of Midnightสถานที่ลึกลับนี้ดูแตกต่างจากที่เขาจำได้ รอยร้าวขนาดมหึมาปรากฏขึ้นตรงกลางห้องโถง เหล่าปีศาจกำลังหลั่งไหลออกมาจากรอยแยกนั้น เสียงคำรามกึกก้องสะท้อนไปทั่วทั้งสถานที่" แกยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ ออสติน? " เจ้าของเสียงทุ้มคือราเฟลคนเดิมเพื่อนเก่า หัวหน้าผู้นำกลุ่มกบฏ เขาปรากฏตัวยืนอยู่ตรงหน้าประตูด้วยท่าทีเคร่งขรึม" ข้ามาที่นี่เพื่อปิดมัน " ออสตินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดวงตาคมดั่งไฟจ้องมองปีศาจที่กำลังหลั่งไหลออกมา“ถ้าคิดว่าทำได้!! ก็เข้ามาสิ” ราเฟลยิ้มเยาะพลางตั้งการ์ดให้พร้อมสำหรับการปะทะกันในครั้งนี้ออสตินแสยะยิ้มออกมาอย่างชอบใจก่อนจะเปิดใช้อำนาจของลูซิเฟอร์เต็มรูปแบบ พื้นดินสั่นสะเทือนและเปลวเพลิงจากนรกก็เริ่มโหมกระหน่ำขึ้นเกมพลังแห่งความมืดครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น การต่อสู้ที่ไม่ได้เดิมพันแค่ชีวิตของออสตินแต่รวมถึงชะตากรรมของทั้งโลกมนุษย์และขุมนรกด้านของลูซี่ เธอยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางพายุที่บ้าคลั่ง พลังที่มาร์คัสปลดปล่อยออกมา เธอพยายามรวบรวมสมาธิเพื่อใช้พลังมหาศาลของตัวเองขัดขวางเขา ท่ามกลางความสับสนของพลังที่ปะทะกัน เสียงตะโกนของจินดาก็ดังแทรกขึ้น" ลูซี่!"เธอหั
ช่วงเช้าของวันใหม่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างในห้องนอน เธอลุกขึ้นจากเตียงและตรงเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาแต่ในระหว่างที่น้ำอุ่นกำลังไหลผ่านผิว เธอรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ ภาพแปลก ๆ เริ่มปรากฏขึ้นในหัวของเธอมันเป็นภาพเงามืดของปีศาจและเสียงกระซิบที่ทำให้เธอขนลุกด้วยความตื่นตระหนก เธอคว้าผ้าขนหนูมาพันตัวไว้และรีบวิ่งออกจากห้องน้ำโดยลืมตัวไปว่าเธออยู่ในสภาพไม่เหมาะสม“ ออสติน! หนูเห็นแปลกๆ ภาพอีกแล้ว!.....เอ้ย! ภาพแปลกๆ ”เธอตะโกนพลางวิ่งไปที่ห้องนั่งเล่นแต่ก็ต้องชะงักทันที เพราะนอกจากออสตินที่นั่งอยู่บนตรงโซฟาแล้วยังมีอาคินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันด้วย เขาส่งยิ้มให้กับเธอก่อนจะลากสายตาลงมาเรื่อยๆ“ ลูซี่!”ออสตินเบิกตากว้างเมื่อเห็นเธอในสภาพพันผ้าขนหนูผืนเดียว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวงทันที รีบลุกขึ้นจากโซฟาตรงไปหาลูซี่ก่อนจะลากกลับเข้าไปในห้องขณะที่อาคินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความตกใจปนขำ“คุณฟังหนูก่อน! หนูภาพบางอย่าง.....มันน่ากลัวมากด้วย”“แต่งตัวก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เขากระซิบเสียงต่ำแต่เต็มไปด้วยความจริงจัง ก่อนจะปิดประตูห้องนอนลงเขาปล่อยให้ลูซี่แต่งตัวส่วนตัวเองก็กลับมา