ลูซี่สะดุ้งตื่นก่อนฟ้าสาง รอยสัมผัสจากออสตินยังคงตราตรึงในจิตใจและร่างกายของเธอ ความสับสนและความรู้สึกผิดโหมกระหน่ำจนยากจะรับไหว รอยสักรูปปีกนกที่ข้อมือซ้ายเรืองแสงอ่อนๆ ราวกับเตือนถึงพันธะที่เธอไม่อาจหลีกหนีได้
เธอตัดสินใจหนีออกจากห้องของออสตินในขณะที่เขายังหลับสนิท จิตใจที่อ่อนแอผลักดันให้สร้างพลังป้องกันไม่ให้เขาตามหาเธอได้ง่าย เมื่อถึงเซฟโซน น้ำตาแห่งความสับสนก็ร่วงหล่นอย่างห้ามไม่อยู่
ในชั้นเรียนช่วงเช้า ลูซี่แทบไม่อาจจดจ่อกับอะไรได้ เสียงหัวเราะของเพื่อนร่วมชั้นดูเลือนรางราวกับเธอถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ดวงตาคู่สวยของเธอจ้องมองรอยสักที่ข้อมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันย้ำเตือนว่าเธอไม่ได้เป็นเพียงนักศึกษาธรรมดาแต่มีชะตากรรมอันยิ่งใหญ่รออยู่
แม้แต่จินดาก็ยังเห็นความผิดปกติของเธอ พยายามถามไถ่แต่ลูซี่ปฏิเสธทุกครั้ง กระนั้น แววตาของเธอไม่อาจหลอกเพื่อนคนนี้ได้
“เย็นนี้ไปเที่ยว เปลี่ยนบรรยากาศหน่อยไหม? จะได้ไม่เครียด”
“อือ ไปก็ไป”
ลูซี่ลังเลครู่หนึ่งก่อนพยักหน้าตอนรับเพื่อนสาว เธอต้องการหลีกหนีความคิดของตัวเองและหวังว่าการเปลี่ยนบรรยากาศจะช่วยให้จิตใจสงบขึ้น
ด้านของออสติน เขาสะดุ้งตื่นขึ้นในความเงียบงันช่วงสายของวัน มือควานหาลูซี่ตามความเคยชินกลับพบแต่ความว่างเปล่า ความผิดปกติจู่โจมความคิดทันที เขาใช้พลังจิตค้นหาเธอแต่กลับพบกำแพงบางอย่างที่เธอสร้างขึ้น
“ทำอะไรของเธอ ลูซี่! ” เสียงทุ้มต่ำแฝงความโกรธ พลุ่งพล่านในจิตใจ ความพยายามของเธอในการหลบหนีและขัดขืนยิ่งทำให้เขาโมโห
“เจ็บขนาดนั้นยังจะหนีไปอีก” เขาพึมพำพลางใช้พลังพยายามเจาะผ่านกำแพงที่ลูซี่สร้าง แม้พลังแสงบริสุทธิ์ของเธอจะแข็งแกร่งแต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้งพลังมืดระดับสูงสุดของเขาได้
ในช่วงเย็น ออสตินดักรอเธออยู่ในมุมเงียบของอาคารเรียน เมื่อเห็นเธอเดินออกมาจากห้องเรียนโดยลำพังก็แอบตามไปไม่ให้รู้ตัว หายวับไปดักหน้าเธอก่อนจะฉุดเข้าไปในมุมมืดของตรอกแคบระหว่างตึก
“ออสติน! คุณทำบ้าอะไรเนี่ย!” เสียงใสเอ่ยถามด้วยความไม่พอใจ มือเรียวฟาดเข้าอกแกร่งของอีกฝ่ายอย่างแรงด้วยความโกรธ
“เธอนั่นแหละ! ทำบ้าอะไร? คิดจะฟันฉันแล้วทิ้งอย่างงั้นเหรอ” ออสตินตะคอกถามกลับ น้ำเสียงของเขาสะท้อนถึงความรู้สึกไร้ค่าอย่างที่ไม่เคยเป็น เธอคือผู้หญิงคนแรกที่ทำกับเขาแบบนี้
“หึ!! ลูซิเฟอร์แบบคุณรู้จักคำนี้ด้วยเหรอคะ” ลูซี่แสยะยิ้ม กลั้วขำในลำคอออกมาอย่างชอบใจ ดวงตาคู่สวยมองคนตรงหน้าด้วยแววตาที่แสนเย็นชาราวกับไม่ใช่ตัวเธอ
“ลูซี่!!” คิ้วหนาขมวดเข้าหากัน อย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ความทรงจำของเธอที่เขาพยายามจะลบ อยากจะให้เธอจำเขาในแบบหล่อๆ ไม่ใช่ปีศาจปีกใหญ่มหึมา
“แปลกใจอะดิ! ที่หนูจำได้ทุกอย่าง มันคงเป็นเพราะเราได้กันมั้ง พลังของคุณเลยเสื่อม” แขนเรียวสะบัดออกอย่างแรงให้พ้นจากมือหนาของชายหนุ่ม เธอกอดอกเอาไว้แน่นราวกับกำลังสร้างกำแพงหนาขึ้น
“ก็ดี! จำได้ก็ดี ฉันจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาดูแลเธอ” น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นพร้อมกับแววตาเยือกเย็นไม่ต่างจากคนตรงหน้า
“ หนูก็ไม่ได้ขอให้คุณมาดูแลอยู่แล้ว...กลับนรกไปซะ!! หนูไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก!” ลูซี่ตะโกนใส่ออสตินด้วยน้ำเสียงดุดัน แต่ดวงตาที่สั่นไหวบอกความเจ็บปวดลึก ๆ ในใจ
“ลูซี่!!”
ออสตินตวาดกลับอย่างดังเป็นการเรียกสติของเธอ ในใจเจ็บปวดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พลางกระชากคนตัวเล็กกลับมาเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเดินหนี
“ปล่อย! หนูจะจัดการชีวิตของตัวเองได้! คุณไม่ต้องมายุ่ง!” ลูซี่ผลักอกเขาสุดแรง สีหน้าของเธอบอกชัดเจนว่าเธอไม่สนใจแล้วว่าคำพูดของเธอจะทำร้ายเขาขนาดไหน
“ ได้! อยากจะทำอะไรก็เชิญ แต่จำไว้นะ ถ้าพวกมันฆ่าเธอ ฉันจะไม่มาช่วยเธออีก!” ออสตินกัดฟันแน่น มือกำจนแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดนูน ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปอย่างหัวเสีย
เธอไม่ได้อย่าทะเลาะกับเขาเลย แต่พอเห็นหน้ามันก็อดไม่ได้เลยจริงๆ ความโกรธมันเข้าครอบงำ เขามีสิทธิ์อะไรมาลบความทรงจำของเธอ เธอเองก็ไม่ใช่เด็กดื้อ อธิบายก็ได้นิ! ยอมรับฟังและพร้อมรับมืออยู่แล้ว
กริ่ง!
เสียงแก้วกระทบกันเบา ๆ ดังสอดคล้องไปกับเสียงดนตรีแจ๊สจังหวะช้า ๆ ที่บรรเลงคลอเป็นฉากหลัง โต๊ะไม้ทรงกลมกระจายตัวเรียงราย บรรยากาศภายในบาร์ไม่ได้พลุกพล่านเหมือนวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่กลับเต็มไปด้วยความผ่อนคลายของคนที่มาพักใจหลังจากวันทำงาน
“เบาได้เบา! ยกถี่ขนาดนี้เดี๋ยวหัวใจวายนะเพื่อน” จินดาเอ่ยเตือนไม่พอ ยื่นมือมาคว้าขวดวิสกี้ออกให้พ้นจากมือของลูซี่อย่างทันขวัน
“นานๆ ที แกจะซีเรียลไปทำไม”
“ซีสิวะ! ถ้าแกเมาเรื่อน ฉันต้องแบกไปส่งที่คอนโดอีก”
คนเป็นเพื่อนยังคงไม่ลดละ ในเมื่ออีกฝ่ายเอาขวดหนี เธอก็ยกแก้วของเพื่อนแดกไปเลย แล้วก็สั่งใหม่! จบๆ ไป
“แดกขนาดนี้! ถ้าแกมีแฟน....ฉันคงคิดว่าแกอกหัก”
มือที่ถือแก้วถึงกับอ่อนยวบ วันก่อนยังจีบกันอยู่เลย เมื่อคืนก็พึ่งเอากันมา พอมาเย็นวันนี้ทะเลาะกันเอาเป็นเอาตาย ขนาดเธอโกรธเขาก็ยังไม่ยอมมาง้อ
“นี่!? หรือว่าแกกับอาจารย์ออสติน” คนเป็นเพื่อนนิ่งค้างไป คำตอบที่แสนเงียบสงัดของลูซี่เป็นคำตอบที่ชัดเจนมากยิ่งกว่าอีก
“เลิกเรียกเขาว่าอาจารย์ได้แล้ว....หมดวาระสอนไปล่ะ”
“เอ่อๆ สรุปคือ...แกกับคุณติน คบกัน?? ”
จินดาถึงขนาดโน้มหน้าเข้ามาใกล้ๆ จับจ้องคนตรงหน้าด้วยแววตาที่ไม่เชื่อและต้องการคำตอบที่มันชัดเจนมากกว่าความเงียบที่เธอตอบมาในครั้งแรก
“ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
ว่าจบก็ลุกขึ้นหมุนตัวออกไปทันที ทิ้งให้จินดานั่งอ้าปากค้างเพราะร้องประท้วงห้ามไม่ทัน แต่เธอก็รู้คำตอบที่แน่ชัดอยู่แล้ว และก็ดีใจกับเพื่อนเพราะดูจากนิสัยของออสตินที่เธอได้สัมผัสแค่ไม่กี่วันก็รู้ว่าเขาหวังดีกับเพื่อนของเธอมากแค่ไหน
“อะ! ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ”
เธอก็ไม่ได้เมาขนาดที่จะทรงตัวไม่อยู่อะไรขนาดนั้นสักหน่อย เขานั่นแหละที่เดินมาชนเองแล้วเธอก็ต้องเป็นฝ่ายเอ่ยคำขอโทษก่อน แต่ในระหว่างที่กำลังเบี่ยงตัวหลบจากอีกฝ่าย ร่างกายของลูซี่ก็อ่อนยวบทิ้งตัวลงไปตามแรงดึงดูดของโลก
“ลูซี่!!”
ออสตินไม่สามารถข่มใจของตัวเองได้อีกต่อไป เขาสัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจของเธอ ที่มันอ่อนลงไปทุกที ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับเธอ รู้แค่ว่าต้องตามหาให้เจอก่อนที่จะสายเกินไป
ปีกสีแดงเพลิงขนาดมหึมาแผ่ขยายอย่างสวยงามและทรงอำนาจ ลูซีเฟอร์พร้อมกลับสู่ห้วงแห่งอเวจีตามล่าจัดการพวกที่มันบังอาจมาทำร้ายราชินีแห่งขุมนรก
“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้ถ้าเจ้ายังไม่อยากเป็นผงธุลี” เสียงพลังที่ทรงอำนาจดังก้องสะท้อนไปทั่วขุมนรกของทางเหนือ แต่ดูเหมือนว่าคำข่มขู่ของออสตินจะไม่ได้ผล
“นางคนนี้! เป็นตัวล่อได้ดี! เจ้าว่าไหมออสติน ” ราเฟลเพื่อนรักหักเหลี่ยมแสยะยิ้มออกมาอย่างชอบใจ
“อย่าได้บังอาจแตะต้องเธอ.....อย่าหาว่าข้าไม่เตือนราเฟล”
ชายหนุ่มพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง เขาต้องคิดให้รอบคอบมากกว่านี้ ภาพของลูซี่ที่กำลังถูกโซ่หนาขนาดใหญ่ตรึงเอาไว้กลางโถงเป็นภาพที่เขาเองก็รับไม่ได้ ใบหน้าซีดของเธอน่าจะมาจากการที่พยายามใช้พลังของตัวเองต่อสู้และหลบหนีจากราเฟลแต่มันคงอยากไปสำหรับมนุษย์อย่างเธอ
ขุมนรกแห่งนี้มันกำลังกัดกินวิญญาณมนุษย์ของลูซี่ ร่างมนุษย์ของเธอกำลังจะตาย......
ข้าคิดถูกที่จับนางมาเป็นตัวล่อเจ้า
ลมหนาวพัดพาหิมะโปรยปรายทั่วท้องฟ้าแห่งอังกฤษ คืนนี้คือคืนที่ทุกอย่างดูเงียบสงบ ลูซี่จับจูงมือออสตินข้ามสะพานหินเล็กๆ ไปยังคฤหาสน์แอลเบอร์ บ้านหลังใหญ่ที่เคยเป็นของพ่อเธอ สถานที่ที่บรรจุความทรงจำในวัยเด็ก แม้ว่าตอนนี้มันจะดูว่างเปล่าและเย็นเยือก" ที่นี่คือบ้านของพ่อหนู " ลูซี่เอ่ยเสียงเบา ใบหน้าซ่อนรอยยิ้มเศร้าหลังจากสำรวจคฤหาสน์อยู่พักใหญ่ พวกเขาเดินออกมาที่สวนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของหลุมศพพ่อแม่ลูซี่ หิมะที่ตกหนักปกคลุมทุกสิ่งเหมือนผ้าห่มสีขาวสะอาดตา" คุณพ่อ คุณแม่ค่ะ หนูพาคนหล่อมาแนะนำให้รู้จัก ตอนนี้หนูแต่งงานกับเขาแล้วนะ " ลูซี่นั่งลงข้างหลุมศพ มือของเธอเอื้อมไปลูบแผ่นหินจารึกชื่อของพ่อแม่เธอด้วยความอ่อนโยน พลางชูมือข้างซ้ายโชว์แหวนเพชรสวยๆที่นิ้วนาง" คุณนายและคุณแอลเบอร์ ผมไม่อาจขอพรใดจากท่าน นอกจากขอให้ท่านรับรู้ว่าผมจะอยู่เคียงข้างลูซี่ ดูแลเธอด้วยทุกสิ่งที่ผมมี ทั้งชีวิตและจิตวิญญาณของผม " ออสตินย่อตัวลงข้างเธอ ใบหน้าหล่อฉีกยิ้มอย่างชอบใจก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นสายลมหนาวพัดผ่าน เสมือนเสียงตอบรับเงียบๆ จากธรรมชาติ ลูซี่ยิ้มทั้งน้ำตาขณะที่เธอเอนหัวลงบนไ
ค่ำคืนนี้ท้องฟ้ามืดมิดไร้เงาจันทร์ สายลมเย็นพัดผ่านสวนหลังของคฤหาสน์หลังใหญ่ อากาศเย็นจับใจจนเธอต้องห่อตัวในเสื้อคลุมหนา ส่วนทางด้านของออสติน เขายืนอยู่ที่ระเบียง มือทั้งสองของเขาเท้าราวเหล็ก มองท้องฟ้าสีดำสนิทด้วยสายตาที่ลูซี่ไม่เคยเห็นมาก่อนสายตาแห่งความคิดถึงและความเจ็บปวด“ ออสติน คุณคิดอะไรอยู่เหรอ? ” ลูซี่เอ่ยถามในขณะที่เดินเข้าไปหาและโอบกอดเขาจากทางด้านหลัง“ อดีต…” เขาตอบเสียงเบา แต่คำ คำนั้นกลับหนักหน่วงราวกับบรรทุกเรื่องราวนับพันไว้ในใจลูซี่เลิกคิ้วด้วยความสงสัย เธอไม่ค่อยได้ยินเขาพูดถึงอดีตก่อนที่เขาจะกลายเป็นลูซิเฟอร์เลย เธอคลายอ้อมกอดแล้วเดินเข้ามายืนอยู่ข้างๆกับเขา พร้อมเอียงคอมองดูอีกฝ่ายด้วยแววตาที่อยากรู้“ เล่าให้หนูฟังหน่อยได้ไหม? ” เธอถามอย่างอ่อนโยน“ ถ้าเธออยากฟัง ฉันจะเล่า…” เขาว่าพลางจูงมือของเธอไปนั่งที่โซฟา ที่อยู่ไม่ไกลในยุคเริ่มต้นของทุกสิ่ง ออสตินเคยเป็นเทวทูตผู้สูงส่งที่สุดในสวรรค์ เขาเป็นผู้คุมแสงสว่าง ผู้ที่เหล่าเทวทูตน้อยใหญ่ต่างเคารพนับถือ“ ฉันเคยรักสวรรค์… มันคือบ้านของฉัน ” ออสตินกล่าว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความคิดถึง“ แต่ความรักนั้นกลับกลายเป
ออสตินนั่งอยู่บนบัลลังก์สีดำอันสง่างาม เปลวเพลิงแห่งนรกลุกโชนรอบตัวเขา สายตาเต็มไปด้วยอำนาจและความหนักแน่น ปีศาจน้อยใหญ่ต่างมองเขาด้วยสายตาเคารพยำเกรง แต่เมื่อสายตาเขาหันไปสบกับลูซี่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้า ความดุดันในแววตานั้นก็อ่อนลงลูซี่ก้าวเข้ามาใกล้ ร่างของเธอสง่างามราวกับเทพธิดา แต่ในสายตาของปีศาจทุกตน เธอคือราชินีผู้สงบอำนาจแห่งความมืด........" หนูตัดสินใจได้แล้ว! ถ้าคุณจะเป็นราชาของที่นี่ หนูจะอยู่ข้างคุณ...ในฐานะราชินีเช่นกัน " ดวงตาของเธอเป็นประกายระยิบระยับด้วยความสุข น้ำเสียงอ่อนหวานแต่นุ่มลึกคำพูดนั้นทำให้ออสตินเบิกตากว้าง ยันกายลุกขึ้นจากบัลลังก์ทันที ก้าวลงไปรับราชินีของเขาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจ รอยยิ้มกว้างฉายอย่างชัดเจนบนใบหน้าหล่อ" เธอตัดสินใจดีแล้วใช่ไหม? " น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความหวัง“ค่ะ!! แต่ทุกอย่างต้องเป็นไรตามกติกาของหนูนะ”" กติกาของเธอ? ช่างกล้าต่อรองจังเลยนะ " ออสตินหัวเราะเบา ๆ อย่างพึงพอใจ" หนูจะอยู่ข้างคุณ แต่คุณต้องเคารพการตัดสินใจของหนู ให้อิสระที่จะเลือกเส้นทางของตัวเองและหนูจะอยู่กับคุณในฐานะคู่ชีวิต ไม่ใช่ในฐานะผู
หลังจากจัดการกับมาร์คัสในนรก ออสตินและอาคินเดินทางกลับขึ้นมายังโลกมนุษย์แต่พวกเขาไม่ได้มีเวลาให้พักผ่อน ทันทีที่ปรากฏตัวบนพื้นโลก ทั้งสองพบว่าปีศาจจำนวนมากหลุดออกมาจากรอยแยกที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์และขุมนรกเสียงกรีดร้องของผู้คนดังระงม ปีศาจตัวใหญ่และตัวเล็กเพ่นพ่านไปทั่วเมือง สร้างความเสียหายและความโกลาหล" เราต้องรีบกำจัดพวกมันให้หมดก่อนที่ทุกอย่างจะพังมากกว่านี้! " ออสตินกล่าวขณะเรียกอาวุธคู่ใจของเขาออกมาส่วนทางด้านอาคินก็ใช้พลังแห่งการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว จัดการกับปีศาจตัวเล็กที่วิ่งพล่านไปทั่ว เขากระโจนไปมาระหว่างอาคาร ใช้ดาบเงินแทงและฟันปีศาจจนหายวับไปทีละตัวออสตินเผชิญหน้ากับปีศาจระดับสูงที่มีพลังแข็งแกร่งกว่า เขาใช้เปลวเพลิงจากพลังลูซิเฟอร์เผาผลาญปีศาจเหล่านั้น บ้างก็ใช้เวทมนตร์ปิดกั้นทางหลบหนี บังคับให้พวกมันต่อสู้กับเขาจนถึงที่สุดปีศาจบางตัวพยายามจะหลบหนีไปยังเขตที่มีผู้คน แต่ทั้งออสตินและอาคินทำงานเป็นทีมอย่างยอดเยี่ยม คอยสกัดพวกมันไม่ให้หนีออกไปสร้างความเสียหายเพิ่มเติมในกลุ่มปีศาจที่หลุดออกมา มีหนึ่งตัวที่โดดเด่นและทรงพลังที่สุด มันคือ " เมธัส " ปีศาจยักษ์ที่มีร่างกา
@Gates of Midnightสถานที่ลึกลับนี้ดูแตกต่างจากที่เขาจำได้ รอยร้าวขนาดมหึมาปรากฏขึ้นตรงกลางห้องโถง เหล่าปีศาจกำลังหลั่งไหลออกมาจากรอยแยกนั้น เสียงคำรามกึกก้องสะท้อนไปทั่วทั้งสถานที่" แกยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ ออสติน? " เจ้าของเสียงทุ้มคือราเฟลคนเดิมเพื่อนเก่า หัวหน้าผู้นำกลุ่มกบฏ เขาปรากฏตัวยืนอยู่ตรงหน้าประตูด้วยท่าทีเคร่งขรึม" ข้ามาที่นี่เพื่อปิดมัน " ออสตินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดวงตาคมดั่งไฟจ้องมองปีศาจที่กำลังหลั่งไหลออกมา“ถ้าคิดว่าทำได้!! ก็เข้ามาสิ” ราเฟลยิ้มเยาะพลางตั้งการ์ดให้พร้อมสำหรับการปะทะกันในครั้งนี้ออสตินแสยะยิ้มออกมาอย่างชอบใจก่อนจะเปิดใช้อำนาจของลูซิเฟอร์เต็มรูปแบบ พื้นดินสั่นสะเทือนและเปลวเพลิงจากนรกก็เริ่มโหมกระหน่ำขึ้นเกมพลังแห่งความมืดครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น การต่อสู้ที่ไม่ได้เดิมพันแค่ชีวิตของออสตินแต่รวมถึงชะตากรรมของทั้งโลกมนุษย์และขุมนรกด้านของลูซี่ เธอยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางพายุที่บ้าคลั่ง พลังที่มาร์คัสปลดปล่อยออกมา เธอพยายามรวบรวมสมาธิเพื่อใช้พลังมหาศาลของตัวเองขัดขวางเขา ท่ามกลางความสับสนของพลังที่ปะทะกัน เสียงตะโกนของจินดาก็ดังแทรกขึ้น" ลูซี่!"เธอหั
ช่วงเช้าของวันใหม่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างในห้องนอน เธอลุกขึ้นจากเตียงและตรงเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตาแต่ในระหว่างที่น้ำอุ่นกำลังไหลผ่านผิว เธอรู้สึกเหมือนมีบางอย่างผิดปกติ ภาพแปลก ๆ เริ่มปรากฏขึ้นในหัวของเธอมันเป็นภาพเงามืดของปีศาจและเสียงกระซิบที่ทำให้เธอขนลุกด้วยความตื่นตระหนก เธอคว้าผ้าขนหนูมาพันตัวไว้และรีบวิ่งออกจากห้องน้ำโดยลืมตัวไปว่าเธออยู่ในสภาพไม่เหมาะสม“ ออสติน! หนูเห็นแปลกๆ ภาพอีกแล้ว!.....เอ้ย! ภาพแปลกๆ ”เธอตะโกนพลางวิ่งไปที่ห้องนั่งเล่นแต่ก็ต้องชะงักทันที เพราะนอกจากออสตินที่นั่งอยู่บนตรงโซฟาแล้วยังมีอาคินที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันด้วย เขาส่งยิ้มให้กับเธอก่อนจะลากสายตาลงมาเรื่อยๆ“ ลูซี่!”ออสตินเบิกตากว้างเมื่อเห็นเธอในสภาพพันผ้าขนหนูผืนเดียว สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวงทันที รีบลุกขึ้นจากโซฟาตรงไปหาลูซี่ก่อนจะลากกลับเข้าไปในห้องขณะที่อาคินเลิกคิ้วขึ้นด้วยความตกใจปนขำ“คุณฟังหนูก่อน! หนูภาพบางอย่าง.....มันน่ากลัวมากด้วย”“แต่งตัวก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เขากระซิบเสียงต่ำแต่เต็มไปด้วยความจริงจัง ก่อนจะปิดประตูห้องนอนลงเขาปล่อยให้ลูซี่แต่งตัวส่วนตัวเองก็กลับมา