Share

บทที่ 11

หลังจากที่นีลนั่งลงไม่นาน พนักงานก็เริ่มเสิร์ฟอาหารให้ออร่า

นีลเอื้อมมือไปหยุดพนักงานที่กำลังเสิร์ฟอาหารให้ออร่าด้วยดวงตากลมโต เขาถามว่า “ขอโทษนะครับ เมนูนี้คือเมนูอะไรเหรอครับ?”

เด็กน้อยคนนั้นน่ารักและมารยาทดีจนพนักงานอดไม่ได้ที่จะหยุดและยิ้มให้เขา “เมนูนี้คือเสต็กเนื้อสันในค่ะ ถ้าหนูอยากกินก็ให้คุณแม่สั่งมาให้นะ!”

นีลมองพนักงานเสิร์ฟด้วยรอยยิ้มและพยักหน้า “ขอบคุณครับ คุณสวยมากเลยครับ!”

พนักงานเสิร์ฟในวัยสี่สิบรู้สึกยินดีกับคำชมของเด็กชายตัวเล็ก ๆ และรู้สึกราวกับว่างานเสิร์ฟของเธอเบาลงไปมาก

“อยากกินสเต็กนั่นไหมล่ะ?” แอนน์ขมวดคิ้วและถาม

นีลยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “ไม่ครับ”

“แล้วทำไมถึง…?”

“แม่ทูนหัว” นีลขัดจังหวะก่อนที่แอนน์จะพูดจบ

“มาเดิมพันกันเถอะ”

เด็กชายหยิบโทรศัพท์มือถือของแอนน์ขึ้นมาและเริ่มจับเวลา “ผมพนันได้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นจะไม่สามารถกินต่อได้ภายในสิบวินาที”

แอนน์มองเขาอย่างสงสัย “เธอเพิ่งจะเริ่มกินเองนะ”

เธอเหลือบมองนีลด้วยหางตา “อิจฉาที่เธอได้กินสเต็กเหรอ?”

“ห้า สี่ สาม สอง...”

นีลวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะแล้วนับถอยหลังอย่างมีชัยชนะ "หนึ่ง"

ปัง!

ออร่าที่นั่งอยู่ไม่ไกล โยนส้อมลงบนโต๊ะในขณะที่ใบหน้าของเธอกลายเป็นความน่าเกลียด

แอนน์ตกใจ เธอเห็นออร่ารีบวิ่งเข้าห้องน้ำด้วยความอับอาย

“อะไรกัน…?”

เด็กชายก้มหน้าลงและเริ่มกินสปาเก็ตตี้ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

...

ออร่าอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง

เธอเพิ่งจะกินสเต็กไปได้แค่คำเดียว! ต่อให้กินของเน่า ๆ ก็ไม่มีทางที่อาการจะแสดงออกมาเร็วเช่นนี้!

หญิงสาวเดินเซกลับไปที่โต๊ะและพบข้อความเล็ก ๆ วางอยู่ใต้ส้อมของเธอ

บนนั้นมีประโยคที่เขียนขึ้นอย่างประณีตด้วยตัวอักษรที่ชัดเจนและละเอียดอ่อน ‘ผลของการทำชั่ว’

ออร่าฉีกกระดาษทิ้งด้วยความโกรธ “ไปเรียกผู้จัดการแล้วหาภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้ฉัน!”

เธออยากจะรู้ว่าใครกันที่ช่างกล้าทำกับเธอเช่นนี้!

“ฉันขอโทษค่ะ คุณกิบสัน แต่เมื่อกี้ระบบความรักษาความปลอดภัยภายในร้านถูกแฮ็ก และวิดีโอจากกล้องวงจรปิดทั้งหมดก็ยังถูกลบไปทั้งหมดด้วยค่ะ...”

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!”

เธอยืนอยู่ในห้องควบคุมและโยนแก้วในมือใส่จอคอมพิวเตอร์

เสียงกระแทกระหว่างแก้วกับจอทำให้เกิดเสียงดัง

ต้องเป็นลูน่า กิบสันแน่ ๆ ต้องเป็นเธอแน่นอน!

...

เป็นเวลาสี่ทุม

รถมาเซราติสีดำมาหยุดที่บลูเบย์วิลล่า

โจชัวกดวางสายระหว่างประเทศสายสุดท้าย และลงจากรถอย่างหมดแรง

เขาเดินไปที่ห้องนอนของตัวเองเหมือนเช่นเคย แต่แล้วเขาก็หยุดชะงัก เขาหันหน้าเหลือบมองไปยังห้องนอนของเนลลี่ที่สุดทางเดินก่อนที่จะเดินเข้ามา

ไม่มีใครอยู่ภายในห้องนั้นเลย

“นายท่านกลับมาแล้วเหรอครับ?” เมื่อได้ยินเสียงจากห้องนอนของเนลลี่ พ่อบ้านก็เข้ามาทักทายเขา "คุณกำลังมองหาเจ้าหญิงน้อยอยู่หรือเปล่าครับ?"

โจชัวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "เธออยู่ที่ไหน?"

พ่อบ้านถอนหายใจ “เจ้าหญิงน้อยยืนกรานที่จะนอนกับลูน่า แต่ในห้องของเธอมีเพียงแค่เตียงเล็ก ๆ … เจ้าหญิงน้อยก็เลยขอไปนอนกับลูน่าที่ห้องคนรับใช้ที่ชั้นล่างแทนครับ”

เขาสังเกตดูสีหน้าของโจชัวอย่างรอบคอบ “ผมควรจะไปปลุกลูน่าและให้เธอพาเจ้าหญิงน้อยกลับมาไหมครับ?”

โจชัวไม่พูดอะไร เขาหันหลังและเดินลงไปที่ชั้นล่างก่อนที่เขาจะหยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าประตูห้องนอนของลูน่า

พ่อบ้านรับรู้ถึงความต้องการของเขาและรีบหยิบกุญแจออกมาเปิดประตูอย่างรวดเร็ว

ภายในห้องมืดสลัว มีเพียงโคมไฟข้างเตียงที่ยังคงเปิดอยู่ โจชัวก้าวขาที่ยาวเข้าไปภายในห้องและยืนมองดูผู้หญิงสองคน คนหนึ่งเป็นผู้ใหญ่และคนหนึ่งเป็นเด็กที่กำลังนอนกอดกันอยู่บนเตียง

ลูน่าสวมชุดนอนสีเทาอ่อนในขณะที่เธอกอดเนลลี่ซึ่งสวมชุดนอนสีชมพูอยู่ในอ้อมแขน แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะนอนหลับ แต่แขนของเธอก็ยังคงปกป้องใบหน้าที่ได้รับบาดเจ็บของเนลลี่เอาไว้

สิ่งนี้ทำให้โจชัวงุนงง ภาพนั้นทำให้เขารู้สึกว่าฉากตรงหน้านั้นดูอบอุ่นและเต็มไปด้วยความรัก

เขาหัวเราะเยาะตัวเอง เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ

เนลลี่เป็นลูกสาวของเขาและลูน่า กิบสัน เด็กหญิงที่ซึ่งเป็นสักขีพยานแห่งความรักของพวกเขา แต่ลูน่าที่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นเพียงแค่สาวใช้ที่มีเจตนาร้ายและพยายามเข้าใกล้เขาเพื่อผลประโยชน์ของเธอเอง

ไม่นานชายคนนั้นก็หันหลังเดินจากไป

“พรุ่งนี้เพิ่มเตียงเสริมในห้องนอนของเนลลี่ด้วย”

“ครับนายท่าน!”

ประตูห้องถูกปิดลง เสียงฝีเท้าที่ทางเดินก็ค่อย ๆ จางหายไป

ภายใต้แสงจันทร์อันเจิดจ้า ลูน่าลืมตาขึ้นและเหยียดยิ้มเยาะ

ค่ำคืนผ่านไปอย่างสงบ

วันรุ่งขึ้น ลูน่าตื่นแต่เช้าและทำอาหารเช้าให้เนลลี่ เธอได้ทำเผื่อไว้ให้กับโจชัวด้วยเช่นกัน

เมื่อตอนที่พวกเขาเคยอยู่ด้วยกัน เธอมักจะทำอาหารเช้าให้เขาอยู่เสมอ

เธอสงสัยว่ารสนิยมของเขาจะเปลี่ยนไปหรือไม่หลังจากที่ผ่านมาแล้วหกปี

เมื่อเธอนำอาหารเช้ามาที่โต๊ะ เนลลี่ก็ล้างหน้าล้างตาเสร็จเรียบร้อยและออกมาในชุดนอนตัวเล็ก

“ว้าว เช้านี้มีวาฟเฟิลที่หนูชอบด้วย!” ดวงตาของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เป็นประกาย เธอรีบวิ่งไปที่เก้าอี้เพื่อนั่งลง “เป็นอาหารเช้าที่น่ากินมากเลยค่ะ!”

“จริงเหรอ?” ก่อนที่เนลลี่จะพูดจบ เสียงของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากชั้นบนพร้อมกับเสียงหัวเราะเบา ๆ

เนลลี่เงยหน้ามองไปยังชายที่กำลังเดินลงบันไดมา เขาทั้งโดดเด่น หยิ่งผยอง และหล่อเหลามากจนเธอไม่อาจหาคำที่เหมาะสมพอมาพรรณนาถึงความหล่อเหลาของเขาได้

ใบหน้าของสาวน้อยแดงก่ำอย่างอธิบายไม่ถูก “อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณพ่อ”

เขาคือพ่อของเธอ พ่อที่เธอเพิ่งจะได้พบกับเขาเมื่อวานนี้!

“อรุณสวัสดิ์” ชายคนนั้นยิ้มและนั่งลงตรงข้ามกับเธอ

เนลลี่จิ้มวาฟเฟิลชิ้นเล็ก ๆ จากจานของเธอแล้ววางมันลงในจานตรงหน้าโจชัว “คุณพ่อลองชิมดูสิคะ คุณน้าทำวาฟเฟิลนี่ มันอร่อยมากเลย!”

โจชัวเหลือบมองวาฟเฟิลที่ยังไม่ถูกแตะสักคำซึ่งอยู่ตรงหน้าของเนลลี่ “ลูกยังไม่ทันได้กินมันเลย แล้วรู้ได้ยังไงว่ามันอร่อย?”

เธอยิ้มอย่างเขินอาย “หนูพอจะเดาออกค่ะ!” จากนั้นเด็กหญิงตัวน้อยจึงจิ้มวาฟเฟิลชิ้นหนึ่งเข้าปากตัวเอง “อื้ม อร่อยจริง ๆ ด้วย!”

ชายคนนั้นมองดูเด็กหญิงแก้มป่องที่กำลังเคี้ยวอาหารอยู่เต็มปาก “ยังเจ็บอยู่ไหม?”

เนลลี่ผงะก่อนที่เธอจะเข้าใจว่าเขากำลังถามถึงแก้มของเธอ

“ไม่เจ็บแล้วค่ะ”

เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ เนลลี่จึงแอบมองไปที่ลูน่าซึ่งยืนอยู่ริมห้อง “คุณพ่อคะ ทำไมไม่ถามคุณน้าบ้างล่ะคะ ว่าเธอเจ็บไหม? อาการบาดเจ็บของเธอรุนแรงกว่าหนูอีก”

โจชัวก้มหน้าลงพลางรับประทานอาหารเช้าและพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “เธอโตแล้ว เธอไม่เจ็บหรอก และต่อให้เป็นอย่างนั้นมันก็ไม่ใช่เรื่องของพ่อ”

เนลลี่ก้มศีรษะลงและกัดริมฝีปากเงียบ ๆ

หลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว โจชัวก็ออกไป

พ่อบ้านพาเนลลี่และลูน่าเดินไปรอบ ๆ วิลล่าเพื่อให้พวกเธอได้ทำความคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่

บลูเบย์วิลล่ามีขนาดใหญ่มากอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับเนลลี่ที่เพิ่งจะมาที่นี่เป็นครั้งแรก ทุกสิ่งทุกอย่างดูแปลกใหม่และเต็มไปด้วยความน่าประหลาดใจ แต่มันเป็นเพียงแค่เส้นทางแห่งความทรงจำสำหรับลูน่า

เธอดูเบื่อหน่ายและไม่ตื่นเต้นใด ๆ ตลอดทั้งเช้า

ทุกหนแห่งจะมีความทรงจำเกี่ยวกับเธอและโจชัวอยู่ และทุกความทรงจำจะย้ำเตือนเธอว่าเธอโง่แค่ไหนที่หลงใหลผู้ชายคนนั้น

มื้อเที่ยง เนลลี่ไม่มีความอยากอาหารมากนัก เธอจึงทานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ลูน่ารู้ดีว่าเนลลี่อาจจะยังไม่ชินกับอาหารที่นี่เพราะเธอเพิ่งจะกลับมาหลังจากที่อยู่ที่ต่างประเทศเป็นเวลานาน ดังนั้นลูน่าจึงออกไปข้างนอกในช่วงพักกลางวันเพราะต้องการออกไปซื้อส้มที่เนลลี่ชอบมาให้เธอ

หลังจากที่ลูน่าเดินออกมาจากบลูเบย์วิลล่า รถเฟอร์รารี่สีแดงก็ขับมาหยุดข้าง ๆ เธอโดยไม่ได้คาดคิด

กระจกรถถูกเลื่อนลงและเผยให้เห็นใบหน้าที่เย่อหยิ่งของออร่า “เราควรคุยกันหน่อยไหม?”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status