Share

บทที่ 13

Author: ทองประกาย
ฮูหยินพูดติดอ่าง “ตอนนั้นแผลบนตัวเจ้าเย็บปิดดีแล้ว ดูไม่มีอะไรน่าห่วง ข้าจึงไม่ได้นำออกมา”

ท่านโหวไม่ได้ลำเอียงเหมือนฮูหยิน แต่ไม่อยากเสียหน้าต่อหน้าผู้คน จึงตำหนิ “ซุ่ยหวาน เจ้าเป็นพี่สาว จะแย่งกับน้องไปไย? แค่โสมอายุพันปีเองนะ รอพี่ชายเจ้ากลับจากชายแดนมา ให้เขานำมาอีกรากก็ได้”

พี่ชาย? เจียงซุ่ยฮวนนึกขึ้นได้ทันที ฮูหยินมีบุตรชายอีกคนชื่อเจียงอวี่

เจียงอวี่สนิทกับเจียงเม่ยเอ๋อร์มาตั้งแต่เด็ก หลังร่างเดิมกลับจวนโหว เจียงอวี่คงคิดว่าร่างเดิมแย่งชิงตำแหน่งของเจียงเม่ยเอ๋อร์ จึงเย็นชากับร่างเดิม ทำให้ทั้งสองไม่สนิทกัน

เมื่อสองปีก่อน วันที่ร่างเดิมแต่งงาน เจียงอวี่นำทัพไปรักษาการณ์ที่ชายแดน ก่อนไปแม้แต่คำอวยพรก็ไม่พูด

ทั้งครอบครัวไม่มีใครเข้าข้างนางเลย เจียงซุ่ยฮวนจู่ๆ ก็รู้สึกปวดศีรษะ

เจียงเม่ยเอ๋อร์เห็นพ่อแม่เข้าข้างตน ดวงตาวาบด้วยความภูมิใจ จับมือเจียงซุ่ยฮวนทำท่าใจกว้าง “พี่สาวอย่าโกรธเลย พ่อแม่มิได้ลำเอียง เพียงแต่เป็นห่วงสุขภาพข้า หากพี่สาวต้องการ ข้าจะแบ่งโสมให้ครึ่งหนึ่งก็ได้”

นางคิดว่าเจียงซุ่ยฮวนจะโกรธปฏิเสธ และสะบัดมือออก จะได้มีเหตุผลแสร้งน่าสงสาร และเจียงซุ่ยฮวนจะได้ชื่อว่าขี้อิจฉา

แต่เจียงซุ่ยฮวนไม่เพียงไม่ปฏิเสธ ยังจับมือนางกลับ “เช่นนั้นพี่ก็จะไม่เกรงใจรับไว้”

“หา?” เจียงเม่ยเอ๋อร์ตะลึง ความเสียใจทะลักท่วมใจทันที

เจียงซุ่ยฮวนยิ้มอย่างมีความสุข ได้โสมอายุพันปีครึ่งรากมาฟรีๆ วันนี้ช่างคุ้มค่าจริงๆ

เมื่อเจียงเม่ยเอ๋อร์ไม่ได้ป่วย แขกก็เข้ามาล้อมวง ต่างเริ่มแสดงความยินดี

“วันนี้ช่างเป็นวันมงคลซ้อนมงคล สองเท่าทวีคูณ ขอแสดงความยินดีกับองค์ชาย อวยพรองค์ชาย!”

“ท่านโหวก็มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ มีธิดาที่รู้ความและว่าง่ายเช่นนี้ ทำเอาพวกเราอิจฉายิ่งนัก”

...

เจียงซุ่ยฮวนขี้เกียจดูคนพวกนี้ประจบสอพลอ จึงถอยออกจากฝูงชน ตั้งใจจะไปขอบคุณกู้จิ่น แต่พบว่ากู้จิ่นจากไปตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้

หลังเริ่มงานเลี้ยง เจียงซุ่ยฮวนมองอาหารมันๆ ตรงหน้า ไม่มีอารมณ์จะกิน จึงหาข้ออ้างออกจากโต๊ะ เดินเตร็ดเตร่รอบจวนหนานหมิงหวางเพื่อสูดอากาศ

เดินไปสักพัก มาถึงหน้าห้องฟืน เจียงซุ่ยฮวนกำลังจะหันหลังกลับ จู่ๆ ก็เห็นเงาร่างของกู้จิ่น

นางอึ้งไป ถาม “เหตุใดองค์ชายจึงอยู่ที่นี่?”

กู้จิ่นพูดหน้าตาเฉย “ข้าหลงทาง”

“...”

คำตอบแบบขอไปที เจียงซุ่ยฮวนกระตุกมุมปาก “หากองค์ชายไม่รังเกียจ ข้าพาท่านกลับได้”

“เจ้าคุ้นเคยที่นี่มาก?” กู้จิ่นทอดสายตามองนาง

“อย่างไรก็อยู่มาสองปี จำเส้นทางคร่าวๆ ได้”

กู้จิ่นเงียบไปครู่ “เช่นนั้นก็รบกวนคุณหนูเจียงนำทางให้ข้า”

“ได้เจ้าค่ะ” เจียงซุ่ยฮวนพากู้จิ่นเดินไปที่งานเลี้ยง ซ้อมคำขอบคุณในใจหนึ่งรอบ แล้วพูดออกมา “เมื่อครู่ขอบคุณองค์ชายที่ช่วย...”

เจียงซุ่ยฮวนยังพูดไม่ทันจบ ชูเจวี๋ยก็โผล่มาจากที่ใดไม่รู้ รีบเดินมาหน้าทั้งสอง

เห็นเจียงซุ่ยฮวนเขาขมวดคิ้ว “เจ้ามาอยู่กับอาของข้าทำไม?”

“ข้าอยากอยู่กับใครก็อยู่กับคนนั้น เจ้าจะมายุ่งอะไร?” เจียงซุ่ยฮวนยิ้มตาหยี “อาของเจ้าหน้าตาดี ข้าอยู่กับเขาแล้วอารมณ์ดี เจ้าจะทำอะไรข้าได้?”

ชูเจวี๋ยโกรธจนหน้าเขียว หากเป็นแต่ก่อน เจียงซุ่ยฮวนกล้าพูดกับเขาเช่นนี้ เขาคงตบไปแล้ว น่าเสียดายที่ทั้งสองหย่าขาดกันแล้ว เขาไม่อาจลงมือเหมือนแต่ก่อน

เขายิ่งคิดยิ่งโกรธ เพิ่งหย่ากันไม่นาน เจียงซุ่ยฮวนกลับมาเดินหัวเราะพูดคุยกับอาของตน ไม่รู้ทำไม เขารู้สึกเหมือนถูกนอกใจ

“เจ้ามีธุระอะไร?” กู้จิ่นพูดเสียงเย็น

ชูเจวี๋ยระงับอารมณ์ ก้มหน้าพูดอย่างนอบน้อม “อา ฝ่าบาทส่งคนมาเชิญท่านกลับวัง”

เจียงซุ่ยฮวนมีไหวพริบ ถอยหลังหนึ่งก้าว “ข้าไปก่อน ท่านคุยกันเถิด”

พูดจบ เจียงซุ่ยฮวนก็รีบจากไป ไม่แม้แต่จะมองชูเจวี๋ยสักแวบ ราวกับมองแล้วจะอาเจียนอาหารเมื่อวานออกมา

ชูเจวี๋ยโกรธขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่กล้าแสดงออกต่อหน้ากู้จิ่น ได้แต่พยายามกดข่มไว้

“อา รอข้ากับเม่ยเอ๋อร์ได้รินสุราให้ท่านก่อน ท่านดื่มแล้วค่อยไปเถิด”

กู้จิ่นช้อนตามองเขา “ไม่ต้องแล้ว”

ชูเจวี๋ยแอบขบฟัน ผ่านไปครู่หนึ่งพูดอย่างไม่ยอมแพ้ “อา เจียงซุ่ยฮวนผู้นั้นใจร้าย มีเล่ห์เหลี่ยมมาก ท่านอย่าเข้าใกล้นางนักจะดีกว่า”

“เจ้ากำลังสอนข้าหรือ?”

น้ำเสียงกู้จิ่นเบาหวิว แต่กลับราวภูเขาเล็กๆ กดให้ชูเจวี๋ยก้มหน้า “หลานไม่กล้า”

งานแต่งของชูเจวี๋ยและเจียงเม่ยเอ๋อร์แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว ทุกคนรู้ว่าเจียงเม่ยเอ๋อร์ผมร่วง โกรธจนเจียงเม่ยเอ๋อร์ไม่ออกจากบ้านครึ่งเดือน

ครึ่งเดือนนี้ เจียงซุ่ยฮวนมัวแต่เลือกจวน นางดูจวนเจ็ดแปดหลัง บ้างก็ราคาแพงเกินซื้อไม่ไหว บ้างก็ทรุดโทรมต้องซ่อมแซมเกินงบ บ้างก็ทำเลไม่ดี

มีจวนหลังหนึ่งตั้งอยู่ติดหอนางโลม ตอนนางปลอมตัวเป็นบุรุษไปดู เกือบถูกหญิงเชิญแขกหน้าหอลากเข้าไป ตกใจจนไม่ทันได้ดูจวนก็วิ่งหนี

นางทิ้งตัวลงบนโต๊ะถอนหายใจ “เมืองหลวงใหญ่โตปานนี้ ไฉนหาจวนถูกใจสักหลังไม่ได้เลย?”

พูดยังไม่ทันขาดคำ ประตูถูก “ปัง” เปิดออก หยิ่งเถาวิ่งเข้ามาอย่างตื่นเต้น “คุณหนู คุณหนู! บ่าวได้ยินที่ถนนว่ามีคนขายจวน ตรงกับที่คุณหนูต้องการเลยเจ้าค่ะ”

เจียงซุ่ยฮวนฮึกเหิม “อ้อ? จวนแถวไหน?”

“อยู่ข้างสำนักฟู่ชิง เป็นจวนใหญ่สามเรือนสามลาน ด้านหลังติดคูเมือง ทำเลดีมากเลยเจ้าค่ะ” หยิ่งเถาดูท่าวิ่งกลับมา หอบจนหายใจไม่ทั่วท้อง

“ทำเลดีจริงๆ” เจียงซุ่ยฮวนพยักหน้า แล้วถามคำถามสำคัญที่สุด “ราคาเท่าไร?”

หยิ่งเถาชูนิ้วสามนิ้ว เจียงซุ่ยฮวนตาโต “สามล้านตำลึง?”

“ไม่ใช่ๆ สามแสนตำลึงเจ้าค่ะ!”

“เป็นไปไม่ได้หรอก” เจียงซุ่ยฮวนคิดว่าหยิ่งเถาได้ยินผิด สามแสนตำลึงจะซื้อจวนทำเลดีและใหญ่ขนาดนี้ได้อย่างไร?

หยิ่งเถาส่ายหน้าแรงๆ “ไม่ได้ยินผิดเจ้าค่ะ สามแสนตำลึงจริงๆ คุณหนูไปดูตอนนี้ก็ได้”

“ดี”

เจียงซุ่ยฮวนรีบเปลี่ยนเป็นชุดบุรุษ แล้วออกจากประตูพร้อมกับหยิ่งเถา

สองคนมาถึงหน้าจวนที่หยิ่งเถาพูดถึง จวนหลังนี้ใหญ่จริงๆ และดูภายนอกก็ไม่ต่างจากจวนข้างเคียง เจียงซุ่ยฮวนไม่เข้าใจว่าทำไมขายถูกนัก

หยิ่งเถาเคาะประตู เคาะนานแต่ไม่มีคนตอบรับ

มีคนเดินผ่านมาหยุดหน้าเจียงซุ่ยฮวน ถาม “คุณชายท่านนี้ มาซื้อจวนหรือ?”

เจียงซุ่ยฮวนพยักหน้า “มาดูก่อน ท่านเป็นเจ้าของจวนหรือ?”

“ข้าไม่ใช่หรอก” คนผ่านทางรีบโบกมือ แล้วลดเสียงลง “ข้าแนะนำว่า ท่านรีบไปเถิด”

“ทำไมหรือ?” เจียงซุ่ยฮวนขมวดคิ้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
สายทองดี ยิ่งยวด
อยากอ่านอ่ะแต่ทำไมเปิดอ่านไม่ได้ต้องทำไงฝครรู้บอกด้วยนะตะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 820

    พลันแลเห็นเด็กหญิงน้อยผู้หนึ่งขดตัวอยู่ในหีบ มือทั้งสองประคองหมั่นโถวแห้งก้อนหนึ่งไว้แน่น ข้างกายยังมีถุงผ้าใบใหญ่ตั้งอยู่ใบหนึ่งนางมองไปยังลิ่วลู่ด้วยแววตาว่างเปล่า ใบหน้าน้อยแลดูไร้เดียงสา กะพริบตาปริบ ๆ อย่างน่าสงสารลิ่วลู่ร้องอุทานเสียงหลง ชี้ไปยังนางพลางกล่าวเสียงดังว่า “เจ้า...มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”เหล่าผู้คนที่เหลือต่างตกตะลึงกับปฏิกิริยาของเขา พากันขมวดคิ้วมองมาอย่างสงสัยฉู่เฉินยื่นหน้าเข้าไปดูใกล้ ๆ ก่อนจะตะลึงอุทานว่า “ถังซาซา เจ้าแอบเข้ามาในหีบตั้งแต่เมื่อไรกัน”ถังซาซากอดหมั่นโถวแน่น กล่าวเสียงแผ่วว่า “ตอนที่พวกท่านร่ำลาคราวก่อน ข้าแอบย่องเข้ามาตอนที่พวกท่านเผลอเจ้าค่ะ”บรรดาทหารองครักษ์ต่างมองหน้ากันไปมา พลางคิดในใจว่า เด็กน้อยผู้นี้สามารถเล็ดลอดสายตาพวกเขาเข้ามาได้ ร่างกายเช่นนี้เห็นทีจะเหมาะแก่การฝึกวิชาตัวเบายิ่งนัก!นับเป็นต้นกล้าที่หาได้ยากยิ่งเจียงซุ่ยฮวนถึงกับปวดหัว เดินเข้าไปพลางถามว่า “แม่นมของเจ้า กับพี่ชายเถี่ยหนิว ทราบเรื่องนี้หรือไม่”ถังซาซาแลบลิ้นทำหน้าทะเล้น “ข้าเขียนข้อความทิ้งไว้ให้พวกเขา พวกเขาต้องเห็นแน่ ๆ”“เช่นนี้มิได้” เจียงซุ่ยฮวนโน้

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 819

    นางอาศัยพระนามฝ่าบาทข่มขู่เจ้าเมือง เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าเจ้าเมืองตำแหน่งต่ำต้อย มิอาจพบฝ่าบาทได้โดยง่าย ต่อให้ได้พบ ก็มิกล้าเอ่ยเรื่องในวันนี้ออกไปเป็นแน่ส่วนนางนั้น ยิ่งไม่มีวันไปกราบทูลต่อฝ่าบาทเป็นอันขาด“ท่านพูดถูกต้องแล้ว!” เจ้าเมืองลูบมือตัวเองพลางกล่าว “ไม่ทราบว่าท่านจะโปรดให้ข้ามีโอกาสไถ่โทษ ได้รับใช้ท่านสักสองวันหรือไม่”“ไม่จำเป็น” เจียงซุ่ยฮวนกล่าวปฏิเสธด้วยเสียงเย็นชา “ข้ายังต้องรีบรุดเดินทางต่อ”“ถ้าเช่นนั้นก็ได้” เจ้าเมืองกล่าวประจบอีกสองสามคำ ครั้นจะจากไป เจียงซุ่ยฮวนก็เอ่ยขึ้นว่า “จำไว้ว่าอย่าได้เอนเอียงเข้าข้างคนผิด ข้าจะให้คนไปตรวจดู”“โปรดวางใจ ข้ามิกล้าทำเช่นนั้นเป็นอันขาด!”เมื่อเจ้าเมืองจากไปแล้ว ปาฟางจึงถามว่า “นายหญิง ท่านจะส่งคนไปตรวจดูเมื่อใดหรือ”“ก็แค่ขู่เขาเล่นเท่านั้น อย่าได้ใส่ใจจริงจังไปเลย” เจียงซุ่ยฮวนหันหน้ากลับ แล้วเริ่มตรวจดูของที่พวกเขาซื้อมาวางไว้เถ้าแก่ยิ่งมีท่าทีเอาอกเอาใจยิ่งกว่าเดิม “คุณหนู ตอนค่ำอยากทานสิ่งใดหรือไม่ ข้าจะให้พวกในครัวจัดทำให้ท่าน”“ไม่ต้อง ข้าได้สั่งอาหารไว้แล้ว” เจียงซุ่ยฮวนส่ายหน้าปฏิเสธ“เช่นนั้นข้าจะให้พวกในครั

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 818

    ทันทีที่เจ้าเมืองเห็นแผ่นป้ายทองอร่ามในมือของนาง เดิมทีก็ยังมิทราบว่าเป็นสิ่งใด จนกระทั่งได้ยินนางเอ่ยคำว่า “ฝ่าบาท” ออกมาเจ้าเมืองพลันรู้สึกว่าเข่าอ่อน แทบทรุดลงไปกับพื้นเจียงซุ่ยฮวนถอนหายใจยาว “เฮ้อ หากฝ่าบาทพิโรธขึ้นมา เกรงว่าทุกผู้คนในที่นี้ คงไม่มีผู้ใดหลบหนีรอด”เจ้าเมืองผู้นี้ ปกติก็มิเคยได้พบหน้าฝ่าบาท แต่มีความเคารพยำเกรงเป็นล้นพ้น เพียงได้ยินคำว่า “ฝ่าบาท” ก็ขาแข้งสั่นระริกเขากลืนน้ำลายอึกหนึ่ง เอ่ยถามด้วยเสียงสั่น “ท่านคือผู้ใดกันแน่”เจียงซุ่ยฮวนแย้มยิ้ม “หญิงผู้นี้ไร้ความสามารถนัก เมื่อไม่กี่เดือนก่อน พึ่งได้รับราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นหมอหลวงจากฝ่าบาทโดยตรง”เจ้าเมืองมีท่าทีลนลานอย่างเห็นได้ชัด หมอหลวงที่ได้รับแต่งตั้งโดยฝ่าบาท มีคุณค่าไม่น้อยไปกว่าท่านจองหงวนระดับสูงหมอหลวงทำหน้าที่รักษาฝ่าบาทและพระสนม หากมีใครไปกล่าวร้ายต่อหน้าฝ่าบาท ไม่เพียงแต่จะเสียตำแหน่ง แม้แต่ชีวิตก็อาจรักษาไว้ไม่ได้ในใจยังมีความหวังริบหรี่ เอ่ยถามว่า “เจ้าบอกว่าเป็นหมอหลวง แล้วมีหลักฐานหรือไม่”เจียงซุ่ยฮวนโยนแผ่นป้ายทองให้เขา “ดูให้ดีเถิด”เขาพลิกดูซ้ายขวา แต่ก็มิอาจแยกแยะว่

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 817

    เจียงซุ่ยฮวนนั่งเท้าคาง เหลียวมองอย่างไม่ใส่ใจ ก็เห็นเจ้าเมืองพุงพลุ้ย เดินอุ้ยอ้ายเข้ามาเจ้าเมืองหรี่ตา ไว้หนวดบนริมฝีปาก มุมปากห้อยตกดูแล้วเหมือนผู้มีอารมณ์ขุ่นเคืองเขาไขว้มือไว้ด้านหลัง เหลียวมองรอบทิศ แล้วกระแอมขึ้นสองครั้ง “แค่ก! แค่ก!”เจียงซุ่ยฮวนหัวเราะเบาๆ ในใจ เจ้าเมืองตัวกระจ้อยร่อย ความเย่อหยิ่งกลับสูงลิบ”เถ้าแก่รีบเข้ามาคำนับ “ท่านเจ้าเมือง ไม่รู้ว่าท่านจะมาถึงที่นี่ ข้าน้อยเสียมารยาทยิ่งนัก!”ขุนนางขมวดคิ้วเอ่ยขึ้นด้วยเสียงต่ำ “ได้ยินมาว่ามีผู้ก่อเรื่องที่นี่ คนผู้นั้นคือผู้ใดกัน”“เอ่อ…” เถ้าแก่เหลือบมองเจียงซุ่ยฮวน แล้วมองพวกที่นอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น มิรู้จะชี้มือไปทางใด“ข้าถามเจ้าอยู่นะ!” เจ้าเมืองเริ่มหงุดหงิดชายร่างใหญ่ผู้หนึ่งคลานไปกอดขาขุนนาง ร่ำไห้พลางร้องว่า “ท่านน้า! เป็นนางผู้นั้นที่ทำหน้าหยิ่งยะโส!”“นางใช้กาน้ำชาฟาดหัวข้า ยังขู่จะเชือดลิ้นข้าด้วย!”ครั้นได้ยินคำว่า ‘หยิ่งยะโส’ ทุกสายตาต่างหันไปมองเจียงซุ่ยฮวน"?"หน้าข้าดูหยิ่งยะโสถึงเพียงนั้นหรือเจียงซุ่ยฮวนนั่งตัวตรง เก็บสีหน้าไม่สบอารมณ์แล้วกล่าวเรียบ ๆ ว่า “ใช่ ข้าคือคนที่ลงมือ”“ท่านน้

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 816

    เพียงพริบตาเดียว เหล่าคนชั่วที่เคยท่าทางดุดันล้วนล้มระเนระนาด ครวญครางด้วยความเจ็บปวดแขกเหรื่อคนอื่นต่างพากันหนีออกจากโรงเตี๊ยมไปหมดแล้ว ภายในโรงเตี๊ยมเหลือเพียงความโกลาหล โต๊ะเก้าอี้ระเนระนาดไร้ระเบียบแม้แต่ขนมเปี๊ยะที่เพิ่งทอดเสร็จใหม่ ๆ ยังกลิ้งกระจายอยู่เต็มพื้นนับสิบชิ้นเสี่ยวเอ้อโผล่หัวออกมาจากหลังแท่นต้อนรับ เศษผักยังติดอยู่บนหน้าผาก ถามอย่างระมัดระวังว่า “คุณหนู โปรดเมตตาเถิด ข้าวของเสียหายปานนี้…”เจียงซุ่ยฮวนหลุบตาลง มองเห็นถุงเงินของพวกอันธพาลที่หล่นเกลื่อนอยู่กับพื้นจากการต่อสู้เมื่อครู่นางหยิบถุงเงินใบหนึ่งขึ้นมาด้วยท่าทีสบายใจ แล้วแย้มยิ้มบางเบา เอ่ยถามเสียงเรียบ “ข้าวของพวกนี้ ใครเป็นคนทุบทำลาย”เสี่ยวเอ้อหัวไว ตอบพลันทันทีว่า “เป็นฝีมือของบุรุษเหล่านี้ขอรับ!”เจียงซุ่ยฮวนถามกลับ “ในเมื่อเป็นพวกเขาทำลาย เช่นนั้นก็ควรให้พวกเขาชดใช้ ใช่หรือไม่”“ถูกแล้วขอรับ!” เสี่ยวเอ้อพยักหน้าอย่างแรงเจียงซุ่ยฮวนโยนถุงเงินให้ “เอาไป”เสี่ยวเอ้อรับถุงเงินมา แล้วรีบนำไปให้เจ้าของโรงเตี๊ยมที่เพิ่งวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาเจ้าของโรงเตี๊ยมเห็นภาพเบื้องหน้า ถึงกับหน้าซีดเผือด ตะโกน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 815

    “ชิ้นละสิบอีแปะ ห้าสิบอีแปะได้หกชิ้น ท่านอยากได้กี่ชิ้นเล่า” แม่ค้าเอ่ยถามพลางนวดแป้ง มือไม่หยุดหน้าไม่เงยราคาแลดูย่อมเยากว่าเมืองหลวงนัก เจียงซุ่ยฮวนล้วงเอาเงินออกมา “ข้าขอเอาหนึ่งตำลึงพอ”แม่ค้าถึงกับเงยหน้าขึ้น “หนึ่งตำลึงได้กว่าร้อยชิ้น ท่านจะซื้อมากถึงเพียงนี้ มีงานที่บ้านหรือ”“ไม่ใช่ ข้าจะเอาไว้เป็นเสบียงระหว่างเดินทาง”“ได้ ข้าจะย่างให้กรอบนอกนุ่มใน เก็บไว้นานก็ยังอร่อย”“ขอบใจมาก ข้าพักอยู่ที่โรงเตี๊ยมข้างๆ เสร็จแล้วร้องเรียกข้าด้วย”เจียงซุ่ยฮวนหันหลังกลับเข้าที่พัก เอ่ยกับลิ่วลู่และพรรคพวกที่ตามมาด้านหลัง “กินแต่ขนมเปี๊ยะคงไม่พออิ่ม พวกเจ้าออกไปหาซื้อของกินอย่างอื่นมาด้วย เผื่อไว้กินระหว่างทาง”“เวลามีจำกัด พวกเราไม่อาจกินอยู่แต่ในโรงเตี๊ยมได้ทุกมื้อ”แม้ในห้องทดลองของนางจะมีของกินมากมาย แต่ไม่อาจหยิบออกมาให้ประจักษ์แก่สายตาผู้คนได้ จำต้องออกไปจัดซื้อไว้บ้างจากนั้น เจียงซุ่ยฮวนก็กลับขึ้นห้อง เข้าไปในห้องทดลองของนางนางหยิบกระถางใบหนึ่งออกมา ใช้ดินที่เพาะขึ้นเองปลูกบัวหิมะลงไป รอให้บานสะพรั่ง ครานั้นก็จะได้นำมาทำเป็นยาครั้นเมื่อท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีหมึก เจียงซุ่ย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status