เจียงซุ่ยฮวนสงบสติอารมณ์ แล้วค่อย ๆ ก้าวเดินหนึ่งก้าว เข้าไปในถ้ำที่อยู่ตรงหน้าถ้ำนี้มีขนาดพอ ๆ กับถ้ำข้างหลัง แต่หนาวเหน็บและมืดมนกว่ามากรอบ ๆ ผนังถ้ำยังมีคบเพลิงที่องครักษ์ลับทิ้งไว้ นางหยิบคบเพลิงมาคบหนึ่ง แล้วเดินไปยังข้างบ่อน้ำลึกบ่อน้ำลึกตรงหน้ามีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณเจ็ดถึงแปดเมตร เนื่องจากแสงในถ้ำมืดมิด น้ำในบ่อจึงดำครึ้มเหมือนหมึกข้นทั้งยังเหมือนดวงตาที่ไม่มีขาวตา เมื่อจ้องมองนาน ๆ ดูเหมือนจะดูดดึงคนเข้าไปเจียงซุ่ยฮวนยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกได้ถึงลมหนาวเย็นยะเยือกจากก้นบ่อพัดโชยขึ้นมา แม้นางจะสวมชุดป้องกันและถือคบเพลิงอยู่ ก็ยังหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะตัวสั่นด้วยความหนาวแมลงเล็ก ๆ ที่เกือบโปร่งใสพวกนั้นรวมตัวกันเป็นก้อนในอากาศ ผ่านไปข้าง ๆ นาง แล้วบินไปยังบ่อน้ำลึกแมลงเหล่านี้หยุดอยู่เหนือบ่อน้ำลึก เหมือนก้อนเมฆลอยขึ้นลอยลง ดูเหมือนกำลังคุ้มครองบ่อน้ำแห่งนี้เจียงซุ่ยฮวนหันกลับไปมองที่ถ้ำเมื่อครู่ กองทรัพย์สมบัติถูกนางคุ้ยจนเละเทะ อัญมณีสีน้ำเงินหลายก้อนแตกกระจายแมลงเกือบโปร่งใสคืบคลานออกมาจากไพลินอย่างไม่ขาดสาย เริ่มต้นด้วยการสั่นปีก แล้วโบยบินขึ้นไป รวมตัวเป็นก้อ
เจียงซุ่ยฮวนย่นคิ้วถามว่า "กระดูกอะไร""กระหม่อมลองดูแล้ว เป็นกระดูกสัตว์ป่าพ่ะย่ะค่ะ"นางพึมพำว่า "ไม่แปลกที่อุโมงค์นั้นจะมีแสงกระสือโผล่ออกมา"ต่อมา มีองครักษ์ลับอีกสามนายก้าวออกมา"พวกกระหม่อมเดินไปทางอุโมงค์สายที่สอง ปลายทางก็เป็นถ้ำเช่นกัน ข้างในมีบ่อน้ำลึก กระหม่อมลองใช้เชือกจุ่มดูแล้ว ลึกประมาณห้าเมตร""พวกกระหม่อมเดินไปยังอุโมงค์เส้นที่สี่ ปลายทางเชื่อมต่อกับถ้ำ ในถ้ำมีหีบใบหนึ่ง พวกกระหม่อมคิดวิธีหลายอย่างแล้ว แต่ก็เปิดหีบไม่ออก""พวกกระหม่อมไปยังอุโมงค์เส้นที่ห้า เดินเข้าไปในถ้ำแล้วพบว่าข้างในว่างเปล่า แต่ผนังถ้ำเต็มไปด้วยจิตรกรรมฝาผนัง"ฟังถึงตรงนี้ เจียงซุ่ยฮวนอดถามขึ้นไม่ได้ว่า "จิตรกรรมแบบใด""จิตรกรรมค่อนข้างเลือนลาง แลดูคล้าย ๆ เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง แต่ว่าหญิงสาวนั้นกำลังทำอะไร กระหม่อมมองไม่ออกจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ"เจียงซุ่ยฮวนฟังแล้วครุ่นคิดอยู่นาน จึงกล่าวว่า "ข้าจะลงไปดูด้วยตนเอง"ปาฟางกล่าวห้ามว่า "พระชายา ข้างล่างนั้นอันตรายเกินไป คนที่ใช้มีดบินรูปผีเสื้อทำร้ายพี่น้องของเรา อาจยังซ่อนตัวอยู่ข้างล่างนั้นนะพ่ะยะค่ะ"เจียงซุ่ยฮวนกล่าวว่า "ข้าจะระวังให้ดี เจ้าทั้ง
เจียงซุ่ยฮวนรีบกล่าวทันที "ปาฟาง ใช้เชือกมัดพวกเขาไว้ อย่าให้กลับไปหาสมบัติเหล่านั้นอีก!"ตอนปาฟางลงมา พอดีว่าเอาเชือกป่านติดมาม้วนหนึ่ง เขารีบดึงเชือกป่านออกมา มัดคนเหล่านี้ติดกันแน่นราวกับลูกชิ้นเสียบไม้ลิ่วลู่โยนปิ่นปักผมกลับไป ถูมือทั้งสองแรงๆ บนเสื้อผ้า "พระชายา จะให้กระหม่อมเผาของพวกนี้ทิ้งหมดหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ""อย่าทำอะไรผลีผลาม องครักษ์ลับคนอื่นๆ ยังอยู่ในอุโมงค์ทางเดินข้าง ๆ " เจียงซุ่ยฮวนชูคบเพลิง สั่งว่า "พาคนเหล่านี้ขึ้นไปก่อน ขึ้นไปแล้วค่อยว่ากัน"ปาฟางและลิ่วลู่จูงเชือกเดินไปข้างหน้า คนเหล่านี้ก็ส่งเสียงตะโกนอย่างไม่พอใจ"ปล่อยข้ากลับไป!""ข้าต้องการทองของข้า! ข้าอยู่ห่างจากมันไม่ได้!"ฉู่เฉินถึงกับน้ำตาไหลพราก "สมบัติของข้า! พวกมันสำคัญกว่าชีวิตข้าเสียอีก!""อาจารย์ ข้ากลับไปซื้อของที่สวยกว่านี้ให้ท่าน""ข้าต้องการแต่สมบัติเหล่านี้เท่านั้น!"เจียงซุ่ยฮวนปวดหัวยิ่งนัก อยากจะทุบให้พวกเขาสลบไปก่อน แต่กลัวจะกระทบต่อร่างกายพวกเขา จึงต้องอดทนไว้กว่าจะกลับมาถึงใต้ปากถ้ำ เจียงซุ่ยฮวนกระโดดขึ้นไปก่อน จากนั้นบอกองครักษ์ลับห้าคนที่เฝ้าอยู่ข้างๆ ว่า "ดึงคนข้างล่างขึ้นมาท
เปลือกไข่เจียงซุ่ยฮวนใจหล่นวูบ อัญมณีสีน้ำเงินที่แตกนี้และของเหลวที่ไหลออกมา ดูเหมือนกับกำลังฟักอะไรบางอย่างออกมาปาฟางใช้ผ้าห่อจี้ทองบนพื้น เตรียมจะโยนไปที่ตัวฉู่เฉิน"ปาฟาง อย่าโยน!" เจียงซุ่ยฮวนห้ามเสียงต่ำ "ปล่อยให้พวกเขาวุ่นวายไปก่อน ยังไม่ต้องสนใจ"ขณะเดียวกัน นางก็หยิบคบเพลิงขึ้นมาแล้วก้มตัวค้นหารอบๆ แหวนหัวแม่มือหยกลิ่วลู่ค่อยๆ เดินเข้ามา ถามว่า "พระชายา ท่านกำลังหาอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ"นางกำลังจะตอบ ก็เห็นแมลงตัวหนึ่งเกาะอยู่บนรองเท้าของลิ่วลู่ แมลงตัวนี้รูปร่างขนาดคล้ายด้วงเต่าทอง แต่ตัวเกือบโปร่งใส แม้แต่ปีกก็โปร่งใสที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ แมลงตัวนี้มีปากแหลมคมมาก และค่อยๆ ยาวขึ้นเรื่อยๆ ส่วนลำตัวก็เล็กลงเรื่อยๆเจียงซุ่ยฮวนไม่ทันคิดอะไรมาก จึงฟาดคบเพลิงในมือไปที่แมลงตัวนั้นได้ยินเพียงเสียง "หึ่ง ๆ " เบาๆ แมลงกลายเป็นน้ำในพริบตา แล้วระเหยไปด้วยความร้อนอย่างรวดเร็วลิ่วลู่เห็นเหตุการณ์นี้ต่อหน้าต่อตา ก็ตะลึงไปครู่หนึ่ง แล้วกุมเท้าร้องขึ้นมาอย่างไม่มีเสียง "โอ๊ย! เจ็บ!"เจียงซุ่ยฮวนวางคบเพลิงกลับที่เดิม หยิบกล่องยาขี้ผึ้งจากแขนเสื้อส่งให้ลิ่วลู่ "ทานี้ที่เท้าของเจ้า
ไม่รู้ว่าองครักษ์ลับที่นำพาเจียงซุ่ยฮวนและพวกเข้ามาในอุโมงค์ทางเดินนี้ถือแหวนวงหนึ่งเอาไว้เมื่อไหร่ เขายิ้มอย่างโง่ ๆ พลางเดินเข้าไปหากองทรัพย์สมบัตินั้นเจียงซุ่ยฮวนตบหน้าผากเข้าฉาดหนึ่ง จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างจนปัญญา "ของพวกนี้มีปัญหาจริงๆ"ในถ้ำอันกว้างใหญ่ มีเพียงนาง ปาฟาง และลิ่วลู่ สามคนเท่านั้นที่ยังมีสติ คนอื่นๆ บ้างก็นั่งบนพื้นแล้วยิ้มอย่างเลื่อนลอย บ้างก็พุ่งเข้าไปกลิ้งเกลือกในภูเขาสมบัติ ราวกับกำลังเสียสติลิ่วลู่และปาฟางเห็นสภาพคนเหล่านี้ ก็ถอยหลังด้วยความตกใจ "บ้าไปแล้ว! พวกเขาบ้ากันหมดแล้ว!"หยวนจิ่วนอนอยู่ในกองทอง แววตาคลุ้มคลั่ง สองมือคว้าภาชนะทองโยนออกไป ตะโกนว่า "ของข้า! ทั้งหมดเป็นของข้า!"แหวนหัวแม่มือทองวงหนึ่งพุ่งไปหาลิ่วลู่ ลิ่วลู่ร้องเสียงหลง กระโดดขึ้นไปบนตัวปาฟางราวกับสปริง "สวรรค์ทรงโปรด อย่าให้ของนั่นโดนตัวข้าเชียว!"แหวนหัวแม่มือทองกระแทกผนังถ้ำ แล้วไถลตกลงมา กลิ้งหลุนหลุนมาหยุดข้างเท้าเจียงซุ่ยฮวนลิ่วลู่เกาะแขนขาแน่นบนตัวปาฟาง ร้อนรนจนเสียงเปลี่ยนไป "ของนั่นโดนตัวข้าหรือไม่"ปาฟางใช้แรงพอสมควรกว่าจะผลักเขาออก กล่าวว่า "ไม่โดน! มันกระแทกผนังถ้ำแล้ว"
ไป๋หลีเอ่ยห้ามว่า "พระชายา ข้างล่างอาจจะอันตรายยิ่งนะเพคะ""ไม่เป็นไร ข้าจะเดินแค่อุโมงค์ทางเดินสายนั้นสายเดียว" เจียงซุ่ยฮวนกล่าวจบ ก็กระโดดลงไปอย่างเบาหวิวไป๋หลีและคนอื่นๆ เห็นดังนั้น ก็กระโดดตามลงไปด้วย เหลือเพียงองครักษ์ลับห้าคนเฝ้าอยู่ข้างบนหลังจากเจียงซุ่ยฮวนยืนมั่นคงแล้ว ก็ไม่ได้หยุด แต่เดินตรงเข้าไปในอุโมงค์ทางเดินที่ฉู่เฉินทิ้งข้อความไว้ทันทีอุโมงค์ทางเดินแคบยิ่งนัก มากสุดเพียงเดินเคียงข้างกันได้แค่สามคน ผนังถ้ำด้านซ้ายเสียบคบเพลิงไว้เพื่อส่องสว่างเส้นทางข้างหน้าเจียงซุ่ยฮวนมองผนังถ้ำอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อค้นหาข้อความของฉู่เฉินขณะที่เดินไป ในที่สุดนางก็เห็นอักษรขนาดใหญ่สองบรรทัดเจ้าเก้า หากเจ้าลงมาแล้ว และเห็นข้อความนี้ จงเดินตรงไปข้างหน้าเรื่อยๆ มีของดีรออยู่!ลงท้ายด้วยข้อความว่าอาจารย์ที่รักที่สุดของที่สุดของเจ้าเก้านี่คือลายมืออาจารย์ แต่หวัดกว่าปกติมาก ดูออกว่าอาจารย์ตื่นเต้นมากตอนเขียนสองบรรทัดนี้เจียงซุ่ยฮวนคาดเดาว่า ตอนที่อาจารย์เขียนสองบรรทัดนี้ คงไม่รู้ว่ามีคนร้ายอยู่ มิฉะนั้นคงไม่ให้นางลงมาง่ายๆนี่หมายความว่า คนร้ายไม่ได้เดินมาตามทางนี้ใช่หรือ