แชร์

บทที่ 508

ผู้เขียน: ทองประกาย
ผู้คนที่ถูกขังอยู่ในนั้นต่อสู้กันเยี่ยงสัตว์ป่า เพื่อให้แขกเหรื่อชมและเดิมพัน ผู้ที่มีชีวิตรอดจะได้รับเงินเดิมพันครึ่งหนึ่งและอิสรภาพ แต่น่าเสียดายที่ต้องแลกมาด้วยราคาแพง

โดยปกติผู้ชนะที่ออกมาจากสังเวียนสัตว์ มักจะเสียแขนหรือขาด้วย เพียงพอให้คนจินตนาการได้ว่าเหตุการณ์ในนั้นโหดร้ายและนองเลือดเพียงใด

เจียงอวี่มีสีหน้าเขียวคล้ำ ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกสหายร่วมเรียนพาไปสังเวียนสัตว์ หลังจากเห็นสภาพในนั้นแล้ว เขารู้สึกคลื่นเหียนจนกินข้าวไม่ลงถึงสามวัน

เจียงซุ่ยฮวนในสมัยนั้นยังเยาว์นัก กลับถูกเจียงเม่ยเอ๋อร์หลอกให้ไปยังสถานที่เช่นนั้น จนเป็นเหตุให้นางอาเจียนออกมาในงานฉลองวันเกิด และยังถูกมารดาลงโทษ

แต่เจตนาแรกของนาง กลับเป็นเพราะต้องการหาของขวัญมอบให้มารดา

เจียงอวี่หันไปมองเจียงซุ่ยฮวนที่อยู่ข้างกาย เด็กสาวที่เคยหวาดกลัวยำเกรงในอดีตได้เปลี่ยนเป็นหญิงสาวที่งดงามและเย็นชา นางกำลังเท้าคางมองเขา ริมฝีปากยังคงมีรอยยิ้มเย้ยหยันจาง ๆ

รอยยิ้มนั้นทิ่มแทงหัวใจเขา เขาอดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป ผลักโต๊ะตรงหน้าอย่างแรง สุราและอาหารกระจายเต็มพื้น

แม้ขุนนางทั้งหลายจะตกใจกับท่วงท่าของเจียงอวี่ แต่ก็มิได
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 509

    ฉู่เจวี๋ยรู้ว่าตนเองไม่อาจเอาชนะเจียงอวี่ได้ จึงก้าวถอยไปด้วยสีหน้าบึ้งตึง "ท่านจะพานางไปก็ได้ แต่ข้าต้องไปกับท่านด้วย" เจียงอวี่ไม่ตอบ เพียงหันไปมองเจียงซุ่ยฮวน "น้องหญิง เจ้าจงมาด้วยกันเถิด" เจียงซุ่ยฮวนลุกขึ้นอย่างเชื่องช้า คลุมเสื้อคลุมขนจิ้งจอกแล้วเดินออกไปนอกตำหนักเฟิ่งเทียน เมื่อทั้งสี่ออกไปแล้ว ผู้คนต่างเหยียดคอมอง จนเงาร่างของพวกเขาหายลับจากสายตาจึงหันกลับมา อัครเสนาบดียิ้มกล่าวว่า "เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องภายในของจวนอ๋องและจวนองค์ชายหนานหมิง พวกเราซึ่งเป็นคนนอกไม่ควรยุ่งเกี่ยว มา ดื่มสุราต่อกันเถิด!" ตำหนักเฟิ่งเทียนกลับมาคึกคักอีกครั้ง ชุนเถาที่นั่งอยู่ในแถวของหมอหลวงรู้สึกกังวลยิ่งนัก "หากองค์ชายหนานหมิงทำร้ายอาจารย์ของข้า จะทำเช่นไรดี?" นางไม่วางใจ ถึงขั้นคิดจะตามออกไปดู หมอหลวงเมิ่งยับยั้งนางไว้ ยิ้มกล่าวว่า "เจ้าไม่ต้องกังวลไป แม่ทัพฉีหยวนกำลังจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้อาจารย์ของเจ้าต่างหาก" ...... เจียงอวี่จับปกเสื้อเจียงเม่ยเอ๋อร์ เดินมาถึงอุทยานหลวงอันเงียบสงบ ยืนอยู่ข้างศาลา ฉู่เจวี๋ยอยากจะดึงเจียงเม่ยเอ๋อร์ออกมา แต่ถูกเจียงอวี่ขวางไว้ด้วยดาบยาว

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 510

    "เพราะข้าเกลียดนาง มีเพียงนางสิ้นชีวิต ข้าจึงจะได้เป็นชายาเอกของฉู่เจวี๋ย และจะกลายเป็นธิดาเพียงคนเดียวของท่านพ่อท่านแม่ ข้าชอบให้ทุกคนห้อมล้อมข้า..." "พอแล้ว!" เจียงอวี่ทนฟังต่อไปไม่ไหว เขาคำรามเสียงต่ำ แล้วฟาดมือลงบนใบหน้าเจียงเม่ยเอ๋อร์อย่างแรง "นางอสรพิษ!" เจียงเม่ยเอ๋อร์ถูกตบจนล้มคว่ำลงกับพื้น ฉู่เจวี๋ยอาทรโอบกอดนางไว้ แล้วเงยหน้าขึ้นตำหนิเจียงอวี่ "ท่านบอกว่าจะไม่ทำร้ายนางไงเล่า!" เจียงอวี่ถามอย่างไม่อยากเชื่อสายตา "ท่านไม่ได้ยินสิ่งที่นางเพิ่งกล่าวหรือ? ซุ่ยฮวนไม่เคยคิดจะฆ่านาง นางต่างหากที่ใส่ร้ายซุ่ยฮวนโดยเจตนา!" "ได้ยิน แต่แล้วอย่างไรเล่า? เม่ยเอ๋อร์ทำเช่นนี้ก็เพราะรักข้ามากเกินไปเท่านั้น!" ฉู่เจวี๋ยกล่าวอย่างเต็มปากเต็มคำ เจียงอวี่ตกตะลึง ชั่วครู่จึงได้สติ "ถูกต้อง ข้าเกือบลืมไปว่าท่านก็แทงซุ่ยฮวนด้วยกระบี่หนึ่งครั้งเช่นกัน" เขาทุ่มแรงทั้งหมดในร่างกาย ชกหมัดใส่ฉู่เจวี๋ย ฉู่เจวี๋ยที่ไม่ทันตั้งตัวถูกชกจนลอยไปตกลงแทบเท้าของฉู่เฉินที่ยืนดูความวุ่นวายอยู่ไม่ไกล ฉู่เฉินสัญชาตญาณยกเท้าขึ้น ถีบฉู่เจวี๋ยให้กลิ้งกลับไป แล้วเอามือปิดหน้าวิ่งหนีไป ฉู่เจวี๋ยกลิ้งไปบนพื้นห

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 511

    แสงดาบวูบผ่าน กระบี่ในมือเจียงอวี่ถูกกู้จิ่นตีกระเด็นไป ตกลงในพุ่มหญ้าหลังศาลา กู้จิ่นกล่าวด้วยความโกรธ "นี่แม่ทัพฉีหยวนจะใช้กลอุบายบาดเนื้อตัวเองกระนั้นหรือ?" เจียงอวี่กล่าวด้วยความสำนึกผิดอย่างสุดซึ้ง "หลายปีมานี้ ซุ่ยฮวนต้องทนทุกข์มากเหลือเกิน ข้าในฐานะพี่ชายแท้ ๆ ไม่เพียงไม่พบว่านางถูกรังแก ยังกลับยืนอยู่ฝั่งเจียงเม่ยเอ๋อร์ ตำหนิลงโทษนางบ่อยครั้ง" "ข้าช่างโง่เขลาเหลือเกิน!" "การตื่นรู้ตอนนี้ก็ยังไม่สายเกินไป" กู้จิ่นกล่าว "แต่ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการสุดโต่งเช่นนี้ ความเจ็บปวดที่ท่านก่อไว้เกิดขึ้นแล้ว แม้ท่านจะฟันตัวเองสิบกระบี่ก็ไม่อาจชดเชยได้" เจียงอวี่ก้มหน้านิ่งเงียบไม่เอ่ยวาจา ฉู่เจวี๋ยรีบวิ่งไปข้างกายเจียงเม่ยเอ๋อร์ เรียกนางเสียงแผ่วเบา แต่เจียงเม่ยเอ๋อร์นอนคว่ำอยู่กับพื้น สีหน้าเหม่อลอย ราวกับคนโง่เขลา ชายชุดดำผู้หนึ่งเก็บกระบี่จากพุ่มหญ้า นำไปมอบแก่กู้จิ่น กู้จิ่นมองกระบี่ในมือ กล่าวว่า "ผสมทองดำเข้าไป นับเป็นกระบี่ชั้นดี" "หากองค์ชายเป่ยโม่ชื่นชอบ ข้าน้อยขอมอบกระบี่เล่มนี้ให้ท่าน" เจียงอวี่ถอนหายใจยาว "ขอบพระทัยที่ทรงเตือนสติกระหม่อมด้วยถ้อยคำเพียงประโยคเ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 512

    เจียงเม่ยเอ๋อร์รู้สึกราวกับตกลงไปในบ่อน้ำแข็ง เรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นความลับในใจนาง นางกลับพูดออกไปทั้งหมด? แล้วเรื่องราวเกี่ยวกับกู่วิญญาณเล่า? นางได้พูดออกไปหรือไม่? นางเงยหน้ามองฉู่เจวี๋ย ริมฝีปากสั่นเล็กน้อย ไม่รู้จะเอ่ยถามอย่างไร เจียงซุ่ยฮวนเห็นสีหน้าของนาง จึงกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ "น่าเสียดายที่เจ้าพูดแค่ถึงตอนโยนข้าไปที่ป่าช้าร้าง หลังจากนั้นคงมีเรื่องราวน่าตื่นเต้นอีกมากที่ยังไม่ได้เล่า" เจียงเม่ยเอ๋อร์ถอนหายใจโล่งอก แล้วจึงนึกขึ้นได้ว่า นางไม่ได้เมาสุราเลย ก่อนหน้าที่นางจะสูญเสียสติ นางกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้อง! เมื่อมองดูเจียงซุ่ยฮวนที่มีสติสัมปชัญญะดี นางจึงตระหนักได้ในที่สุดว่า นางคงสวมเสื้อผ้าผิดชุด เจียงเม่ยเอ๋อร์ผลักฉู่เจวี๋ยออกอย่างบ้าคลั่ง เริ่มถอดเสื้อผ้าต่อหน้าทุกคน เพราะนางรู้ดีว่า หากไม่รีบถอดเสื้อผ้าเหล่านี้ออกเดี๋ยวนี้ นางอาจสูญเสียสติอีกครั้งได้ทุกเมื่อ การกระทำนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึง ยกเว้นฉู่เจวี๋ย ทุกคนต่างหันหน้าไปทางอื่น ฉู่เจวี๋ยรีบวิ่งไปกอดเจียงเม่ยเอ๋อร์ไว้ กล่าวอย่างร้อนรน "เม่ยเอ๋อร์ เจ้าสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเถิด!" "ท่านไม่เข้าใจ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 513

    "เจียงซุ่ยฮวนไม่มีความสามารถใดเลย ทั้งไม่รู้จักเอาอกเอาใจท่านพ่อท่านแม่ แต่นางยังคงอาศัยในจวนอ๋อง ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา" "ส่วนข้า ข้าต้องแสดงตัวว่าว่านอนสอนง่ายและฉลาดหลักแหลม ข้าต้องเชี่ยวชาญทั้งดนตรี หมากรุก อักษรศิลป์ และจิตรกรรม เพื่อให้ท่านพ่อท่านแม่ยินดี เพื่อไม่ให้ถูกขับไล่ออกจากจวนอ๋อง เพียงเพราะข้ามิใช่บุตรีแท้ ๆ ข้าจึงต้องทุ่มเทมากกว่าหลายเท่า" เจียงเม่ยเอ๋อร์ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกคับแค้นใจ ร่ำไห้อย่างสะอื้นว่า "ล้วนเป็นสตรีเหมือนกัน เหตุใดข้าจึงต้องมีชีวิตที่ลำบากเช่นนี้?" ฉู่เจวี๋ยฟังแล้วรู้สึกสงสาร รีบเข้าไปกอดเจียงเม่ยเอ๋อร์กล่าวว่า "เม่ยเอ๋อร์ หลายปีมานี้เจ้าทุกข์ทรมานมากนัก" "?" เจียงซุ่ยฮวนฟังแล้วสงสัยนัก "ข้าจำได้ว่า ตอนเจ้าอยู่ในจวนอ๋อง เจ้ากินดื่มสนุกสนานทุกวัน ดนตรี หมากรุก อักษรศิลป์ และจิตรกรรมล้วนให้ชุ่ยชิงทำแทน เจ้าทุ่มเทอะไรกันเล่า?" "ยังต้องถามหรือ?" ฉู่เฉินที่อยู่ด้านหลังพึมพำเบา ๆ "คงทุ่มเทกับการโกงสินะ" "เจ้าเงียบปาก!" เจียงเม่ยเอ๋อร์สูดน้ำมูก ชี้นิ้วไปที่เจียงซุ่ยฮวนตะโกนว่า "เจ้าเป็นธิดาเอก จะเข้าใจความรู้สึกของข้าได้อย่างไร? เจ้าอาจจะถูกเย้ยหยันส

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 514

    เจียงอวี่กระโดดลงจากกำแพง ลงสู่พื้นอย่างมั่นคงข้างต้นไม้ใหญ่ในสวนหลังของจวนองค์ชายหนานหมิง ยามราตรีลมพัดแรง กิ่งไม้แห้งถูกพัดลงพื้น แม้เจียงอวี่จะเคลื่อนไหวอย่างเบาเบา แต่ก็ยังเผลอเหยียบกิ่งไม้แห้งใต้เท้า ทำให้เกิดเสียงแผ่วเบา องครักษ์ที่กำลังลาดตระเวนได้ยินเสียง จึงส่งสัญญาณให้คนอื่น ๆ ทุกคนเบาฝีเท้าลง ค่อย ๆ เดินไปยังต้นไม้ใหญ่ เมื่อเดินมาถึงต้นไม้ใหญ่ พวกเขาพบว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่น องครักษ์ที่ได้ยินเสียงเกาศีรษะพลางกล่าวว่า "แปลกนัก เมื่อครู่ข้าได้ยินเสียงจากที่นี่ชัดเจน เหตุใดจึงไม่มีใคร?" องครักษ์อีกคนกล่าวอย่างหงุดหงิด "ยามดึกสงัดเช่นนี้จะมีใครได้ เป็นแมวป่าวิ่งผ่านไปแน่นอน" "ใช่แล้ว ช่างระแวงสงสัยจริง เสียเวลาเหลือเกิน" องครักษ์คนอื่น ๆ พากันเห็นด้วย "อากาศหนาวเย็นเช่นนี้ พวกเรารีบลาดตระเวนให้เสร็จแล้วกลับไปอุ่นสุราดื่ม ยังดีกว่ามาทนหนาวอยู่ที่นี่" องครักษ์ที่ได้ยินเสียงรู้สึกเสียหน้า จึงกล่าวอย่างไม่ยอมแพ้ "ข้าได้ยินเสียงจริง ๆ บางทีคนผู้นั้นอาจแอบซ่อนตัวอยู่" เขาพูดพลางเดินรอบต้นไม้สักรอบ "แม้ใต้ต้นไม้จะไม่มี แต่อาจซ่อนอยู่บนต้นไม้ก็ได้" กล่าวจบ เขาก็เงยหน้าขึ้

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 515

    ใบหน้าทารกผู้นี้ แตกต่างจากที่เขาจินตนาการไว้สิ้นเชิง แก้มกลมป่อง ผิวขาวนุ่มสะอาด มิใช่ทารกปีศาจ แต่เป็นทารกที่ปกติที่สุด! เจียงอวี่รู้สึกงุนงง นี่เป็นเรื่องอย่างไรกัน? บางทีทารกผู้นี้อาจเป็นปีศาจกลับชาติมาเกิด เติบโตไป ๆ ก็กลายเป็นปกติ? มองทารกน่ารักตรงหน้า เขาไม่อาจลงมือได้ คิดครู่หนึ่ง เขาจึงตัดสินใจอุ้มทารกนี้กลับไปก่อนแล้วค่อยวางแผนต่อไป เขาโน้มตัวลงอุ้มทารก แต่ทารกพลันร้องไห้เสียงดัง เสียงร้องไห้อย่างสุดกำลังทำให้เขาสะดุ้งตกใจ เขาปิดปากทารกไว้ พลางมองไปรอบด้าน หวังจะหาสิ่งใดให้ทารกหยุดร้อง บนโต๊ะมีของเล่นเล็ก ๆ ทำจากไม้หลายชิ้น อาจทำให้ทารกสงบลงได้ เจียงอวี่อุ้มทารกเดินไป เพิ่งเดินไปได้สองก้าว เขาพลันพบว่าพื้นกระดานใต้เท้ามีอะไรผิดปกติ กระดานแผ่นนี้สูงกว่ากระดานอื่น ๆ เล็กน้อย และเมื่อเหยียบลงไปยังโยกเบา ๆ เจียงอวี่ย่อตัวลงตรวจสอบพื้นกระดาน พร้อมกันนั้น เสียงร้องไห้ของทารกในอ้อมแขนก็หยุดลง เขาอยู่ในสนามรบมานาน ฝึกฝนสัญชาตญาณที่เฉียบไว เขารู้ว่ากระดานแผ่นนี้ต้องมีปัญหาแน่นอน การอุ้มทารกไว้ไม่สะดวก เขาจึงวางทารกกลับไปในเปล แล้วงัดกระดานแผ่นนี้ออกอย่างแรง พบว่า

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 516

    กงซุนซวีก้มหน้า กล่าวเสียงเบา "ข้ารู้สึกว่าวรยุทธ์ของตนยังไม่เพียงพอ อยากเรียนรู้จากอาจารย์อีกสักระยะ" "พื้นฐานของเจ้าได้รับการฝึกฝนมาดีพอแล้ว หากต้องการเก่งกาจขึ้น ลองไปฝึกฝนในค่ายทหารดูบ้าง" เจียงซุ่ยฮวนกล่าวเสริมอีกว่า "อีกอย่าง ค่ายทหารก็อยู่ที่ประตูเมืองนี่เอง ยามว่างเจ้าก็แอบกลับมาเรียนกับอาจารย์ได้" "ศิษย์พี่เจียง ท่านไม่อยากให้ข้าพักอยู่ที่นี่แล้วหรือ?" กงซุนซวีมองนางอย่างน่าสงสาร "ข้ามอบเงินให้ท่านได้นะ" "ที่นี่มิได้ขาดแคลนข้าวแกงสำหรับเจ้า" นางรู้สึกงุนงง จึงอธิบายว่า "เจ้าอยากเข้ากองทัพ ก็ควรรีบไปปรับตัวในค่ายทหารเสียแต่เนิ่น ๆ" "ที่นั่นมีคนหลากหลาย มีนิสัยสันดานต่าง ๆ นานา หากเจ้าไปก่อน ยังสามารถทำความคุ้นเคยกับผู้ฝึก หากไปช้า เมื่อถูกรังแก ก็จะไม่มีใครช่วยเจ้า" กงซุนซวีถึงกับเข้าใจในทันที รู้สึกว่าเจียงซุ่ยฮวนพูดมีเหตุผลมาก แต่เขายังคงลังเล "ข้ากลัวท่านแม่ทัพฉีหยวนจะเห็นว่าข้าอายุน้อย ไม่รับข้า" เขาเพิ่งพูดจบ ที่นอกประตูก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น หยิ่งเถากล่าวว่า "คุณหนู ท่านเจียงมาแล้วเจ้าค่ะ" เจียงซุ่ยฮวนยิ้ม "พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา" "ให้เขารออยู่ที่ห้องรับแข

บทล่าสุด

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 578

    ชายร่างยักษ์ถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจนแทบดูไม่ออกว่าเดิมมีหน้าตาเป็นเช่นไรมิหนำซ้ำ เลือดกำเดายังไหลทะลักไม่หยุด แขนทั้งสองไร้ความรู้สึก แม้แต่จะเช็ดเลือดออกจากใบหน้ายังไม่อาจกระทำได้เขาจ้องเจียงซุ่ยฮวนด้วยสายตาเจ็บใจ “เมื่อครู่นั้น…”—พูดได้เพียงสองคำ เลือดกำเดาก็ไหลย้อนเข้าปาก เขาสะอึกแล้วถ่มถุยออกมา “แหวะ! แหวะ! ช่างน่าขยะแขยงนัก!”น้ำลายปนเลือดแทบจะพ่นใส่เจียงซุ่ยฮวน นางแสดงสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์ ยกมือบังคับศีรษะของเขาให้หันไปทางอัฒจันทร์น้ำลายและเลือดกระเซ็นกระจาย ผู้ชมพากันหวีดร้องหลบหนี บางคนร้องเสียงหลง โดยเฉพาะหญิงสาวในชุดชมพูผู้หนึ่งที่ทนไม่ไหว โยนผ้าเช็ดหน้าขึ้นเวที “เอาผ้านี่อุดจมูกเขาซะ ข้ายินดีให้หนึ่งพันตำลึง!”“ตกลง” เจียงซุ่ยฮวนก้มลงหยิบผ้าจากพื้น ยัดเข้าไปในรูจมูกของชายร่างยักษ์อย่างไม่ลังเลในที่สุดชายผู้นั้นก็หยุดพ่นน้ำลาย เขาพูดเสียงอู้อี้ผ่านผ้าที่ยัดจมูก “เมื่อครู่นั้นข้าแค่ประมาทไป หากเจ้ากล้าพอ จงต่อแขนข้าให้กลับเข้าที่ เราจะสู้กันใหม่!”เจียงซุ่ยฮวนทรุดกายนั่งลง บีบหัวเขาแนบพื้น “ข้ามิได้ว่างนัก หากเจ้าตอบคำถามของข้า ข้าจะ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 577

    บุรุษร่างยักษ์ร้องโอดโอย พลางยกมือกุมใบหน้า ถอยหลังเซถลาไปหลายก้าวพลันมีเสียงโห่ร้องอย่างขัดเคืองดังลั่นจากบนอัฒจันทร์“นี่มันเรื่องอะไร! ร่างกายใหญ่โตปานนี้ยังสู้หญิงไม่ได้อีกหรือ!”“ใช่แล้ว! อ่อนแอเกินไปแล้วกระมัง!”“ลุกขึ้นสิ! ข้าลงพนันหมดหน้าตักไว้กับเจ้าเลยนะ!”ดูท่าคนเหล่านี้ล้วนวางเดิมพันไว้ที่ชายร่างใหญ่ผู้นั้นทั้งสิ้นก็ไม่แปลก...ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ต่างกันลิบลับ ใครบ้างเล่าจะเชื่อว่าสตรีอย่างเจียงซุ่ยฮวนจะชนะเขาได้ชายร่างใหญ่เช็ดมุมปากของตนเอง เห็นรอยเลือดติดปลายนิ้วก็นัยน์ตาแข็งกร้าวขึ้นมา “ดูท่าข้าคงประเมินเจ้าต่ำไปเสียแล้ว”แต่เดิมเขาเข้าใจว่านางก็เป็นแค่หญิงชาวบ้านธรรมดา ไยเลย...ผ่านไปไม่กี่กระบวนท่า ก็รู้แล้วว่านางหาใช่คนที่เขาจะประมาทได้เจียงซุ่ยฮวนบิดข้อมือเบา ๆ พลางกล่าวเย้ยหยัน “ถูกแล้ว...เจ้ามันตาบอด”ชายร่างใหญ่ลุกพรวดขึ้นจากพื้น แผดเสียงคำรามแล้วพุ่งตรงเข้าหานางด้วยแรงทั้งหมดเจียงซุ่ยฮวนเบี่ยงกายหลบไปด้านข้าง มือข้างหนึ่งยันเสาเวทีไว้แล้วดีดตัวลอยขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะเหวี่ยงเท้าเข้าใส่ใบหน้าชายผู้นั้นอีกคราชายร่างยักษ์ล้มตึงลงกับพื้น เลือดกำเดาไห

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 576

    “สู้กัน! สู้กันสิ!”“ปลุกนางให้ลุกขึ้นมา!”“อย่าเสียเวลา! เร็วเข้า ให้หล่อนลุกขึ้นมาสู้!”เจียงซุ่ยฮวนรู้สึกตัวตื่นจากเสียงอึกทึกโกลาหลรอบกาย เสียงเหล่านั้นดั่งคลื่นซัดถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ประหนึ่ง...จะเร่งให้นาง...สู้รึ!?นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้น พบว่าตนเองกำลังนอนคว่ำอยู่บนพื้นคล้ายลานประลอง ลานแห่งนี้เป็นวงกลม กว้างพอจะรองรับคนได้ราวสิบคนรอบลานประลองมีผู้คนมากมายนับร้อยราย กำลังส่งเสียงร้องตะโกนโห่อย่างบ้าคลั่งจากเครื่องแต่งกายดูแล้ว ล้วนเป็นบรรดาผู้มีฐานะจากเมืองหลวง สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น คำตะโกนเร่งเร้าดังไม่ขาดสายแรกเริ่ม เจียงซุ่ยฮวนยังงุนงงอยู่มาก นางเพิ่งอยู่หน้าจวนแท้ ๆ เหตุใดจึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้เล่า?เมื่อนางค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ฝูงชนโดยรอบก็ยิ่งโห่ร้องเสียงดังกระหึ่มกว่าเดิม“เสียงหนวกหูเสียจริง”นางยกมือกุมขมับ พลางพิจารณาสภาพแวดล้อมรอบกายอย่างตั้งใจสถานที่แห่งนี้...ดูเหมือนจะคุ้นตาอยู่บ้างทันใดนั้น ดวงตาของเจียงซุ่ยฮวนเบิกโพลง ใช่แล้ว! นางจำได้ ที่นี่นางเคยมาเยือนเมื่อหลายปีก่อน เจ้าของร่างเดิมถึงกับวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเพราะทนเห็นความโหดร้าย

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 575

    ปู้กู่ถูกคานไม้ที่ถล่มลงมาทับขาจน เจ็บมีสีหน้าบิดเบี้ยวไปทั้งใบหน้า องครักษ์ลับทั้งหลายเมื่อเห็นดังนั้นจึงกรูกันเข้าไป หวังจะยกคานไม้ออกให้พ้นจากขาของเขาทว่าเปลวเพลิงยังไม่สงบลงโดยสิ้นเชิง ความเสี่ยงที่จะเกิดไฟลุกซ้ำยังมีอยู่ทุกเมื่อ จึงจำต้องแบ่งกำลังครึ่งหนึ่งไว้ดับไฟ อีกครึ่งเข้าไปช่วยปู้กู่คานไม้ที่ถล่มลงมานั้นหนักหนายิ่งนัก แถมยังร้อนจนแทบจับต้องไม่ได้ การจะยกขึ้นจึงยากเย็นนัก ปู้กู่เหงื่อเต็มหน้า พร่ำครางเสียงต่ำ “อย่าห่วงข้าเลย รีบไปช่วยคนในเรือนก่อน!”องครักษ์ผู้หนึ่งวิ่งเข้าไปดูในเรือน แล้วรีบวิ่งกลับออกมารายงาน “ในเรือน...ไม่มีใครอยู่แล้ว!”“ว่าอะไรนะ!?” ปู้กู่กัดฟันกรอด “บัดซบ! ปล่อยให้มันหนีไปได้!”เจียงซุ่ยฮวนเมื่อได้ยินว่าข้างในว่างเปล่า ทั้งโกรธทั้งโล่งใจ โกรธที่หลี่ลี่หลบหนีไปได้ แต่โล่งใจที่เขายังมีชีวิตอยู่องครักษ์ที่อยู่ข้างกายนางเอ่ยถามอย่างเกรงใจ “พระชายา ขออนุญาตไปช่วยท่านปู้กู่ก่อนจะได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“ไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนก็เป็นห่วงปู้กู่ไม่น้อย หากปล่อยให้คานไม้นั้นกดทับอยู่นาน เกรงว่าจะยิ่งแย่ลง“ขอบพระคุณพระชายา กระหม่อมจะรีบกลับมาโดยเร็วพ่ะย่ะค่

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 574

    ครั้นได้ยินคำว่า “ไฟไหม้” ความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่ในห้วงนิทราของเจียงซุ่ยฮวนพลันสลายหายไปสิ้น หัวใจพลันเต้นโครมครามราวจะหลุดจากอกนางลุกพรวดจากที่นอน คว้าผ้าคลุมขนกระต่ายที่วางอยู่ข้างหมอนมาสวมอย่างลวก ๆ แล้วรีบลงจากเตียงในขณะเดียวกัน ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดอย่างรุนแรง หยิ่งเถาวิ่งพรวดเข้ามาทั้งที่ยังทรงตัวไม่ทันดี จึงพลาดล้ม “โครม” ลงกับพื้นหยิ่งเถาไม่ทันได้ลุกขึ้นก็รีบเงยหน้าร้องบอกเสียงลั่น “คุณหนู! รีบออกไปเถิด! ข้างนอกเกิดไฟขึ้นแล้ว!”เจียงซุ่ยฮวนรีบสวมรองเท้า ก้าวยาว ๆ ตรงเข้าไปฉุดหยิ่งเถาขึ้นจากพื้น แล้วจูงมือนางวิ่งออกไปทันทีมือของเจียงซุ่ยฮวนที่กำมือหยิ่งเถานั้นสั่นน้อย ๆ นางถามเสียงเร่งร้อน “เสี่ยวถังหยวนเล่า?”“คุณชายน้อยปลอดภัยดีเพคะ แม่นมเห็นก่อนจึงรีบพาออกไปหลบแล้วเพคะ” หยิ่งเถารีบตอบครั้นรู้ว่าลูกน้อยปลอดภัย เจียงซุ่ยฮวนจึงค่อยสงบลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “แล้วไฟเกิดที่ใด?”“เป็นห้องพักของท่านอาจารย์เพคะ” หยิ่งเถาตอบเจียงซุ่ยฮวนถึงกับชะงัก ห้องของฉู่เฉินหรือ!? แล้วหลี่ลี่ก็ยังอยู่ในนั้นด้วย!นางจึงเร่งฝีเท้าวิ่งออกไป ทว่าเพิ่งออกจากประตู ก็มีควันไฟใน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 573

    หากฝืนปลุกเขาขึ้นมาในยามนี้ เกรงว่าจะทำให้สติแตกเสียจนอาละวาดคลุ้มคลั่ง“ดูท่าคงต้องปล่อยให้ฟื้นขึ้นเองแล้วกระมัง” เจียงซุ่ยฮวนถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วเอ่ยเรียกจากในห้องว่า “ปู้กู่ เข้ามาหาข้าสักประเดี๋ยวสิ”ปู้กู่เปิดประตูเข้ามาทันที “พระชายา มีสิ่งใดจะทรงบัญชาหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจียงซุ่ยฮวนชี้ไปยังบุรุษที่นอนอยู่บนพื้น “เจ้ารู้จักบุรุษผู้นี้หรือไม่?”ปู้กู่หลับตานิ่ง พยายามรื้อค้นความทรงจำอย่างเคร่งเครียด ทว่านึกอยู่เนิ่นนานก็ยังคิดไม่ออกเจียงซุ่ยฮวนจึงกล่าวเป็นเชิงเตือน “ชายผู้นี้ผิวขาวซีดผิดธรรมชาติ คงมิได้ออกไปพบแสงตะวันมาเป็นเวลานานแล้ว”ปู้กู่นั่งย่อตัวลง เพ่งพินิจใบหน้าของบุรุษผู้นั้นอย่างละเอียด กระทั่งครู่หนึ่ง ก็อุทานเสียงเบา “ซี้ด…”“นึกออกแล้วหรือ?” เจียงซุ่ยฮวนเอ่ยถามปู้กู่ชี้ไปที่บุรุษผู้นั้นด้วยแววตาตกตะลึง “ผู้นี้ชื่อหลี่ลี่ เมื่อสิบปีก่อน เคยเป็นหนี้หอพนันถึงหนึ่งแสนตำลึง แล้วบุกเข้าไปปล้นคฤหาสน์ของพ่อค้าผู้มั่งคั่ง”“หากเพียงแค่ปล้นก็คงไม่ถึงกับร้ายกาจนัก เขากลับอาศัยฝีมือที่เหนือกว่าฆ่าล้างทั้งครอบครัวพ่อค้านั้น รวมแล้วกว่ายี่สิบชีวิต”เจียงซุ่ยฮวนสีหน้าหม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 572

    เจียงซุ่ยฮวนโดยสารรถม้ากลับถึงจวน พอเปิดม่านลงจากรถ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นปู้กู่ยืนอยู่เบื้องหน้าพร้อมผู้ติดตามนับสิบคน“เหตุใดเจ้าจึงพาผู้คนมากมายมาด้วย?” นางเหลือบมองแคร่ไม้ด้านหลังพลางถามปู้กู่รีบเอ่ยอย่างร้อนรน “พระชายา พอได้ข่าวว่าเส้นทางขากลับถูกเฉียนจิงอี๋สกัดไว้ กระหม่อมก็ตั้งใจจะนำคนไปช่วย แต่ไม่นานก็ทราบว่าท่านเสด็จกลับมาเสียแล้ว”“อืม...ตอนนี้ไม่มีอันใดแล้ว ให้พวกเขาแยกย้ายกันไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนโบกมือ นางยังเร่งรีบอยากกลับเข้าเรือนเพื่อสอบปากคำฉู่เฉินตัวปลอมปู้กู่สั่งให้คนที่มาด้วยกันกลับไป ทว่าตนเองกลับยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเจียงซุ่ยฮวนจึงถามขึ้น “เหตุใดเจ้ายังไม่ไปเล่า?”ปู้กู่เอ่ยว่า “พระชายา ขอพระองค์โปรดแจ้งกระหม่อมเถิด เฉียนจิงอี๋ขวางรถพระองค์ไว้ด้วยเหตุใด?”เจียงซุ่ยฮวนเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วกล่าวทิ้งท้ายว่า “ข้ารู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา ที่สำคัญคือแววตาที่เขามองข้ามันช่างประหลาด เจ้ารีบส่งคนไปสืบข่าวเขาสักหน่อยเถิด”ปู้กู่สีหน้าหนักแน่น “เฉียนจิงอี๋ผู้นี้มิใช่คนธรรมดาแน่ หอพนันซิ่งหลงของตระกูลเขากระจายอยู่ทั่วแคว้นต้าเหยียน และเขาเอง...ดูเหมือนจะมีธ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 571

    เจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วกดเสียงต่ำลงพลางกระซิบว่า “วางใจเถิด...ตอนนี้ไม่มีแล้ว”แววตาขององครักษ์ลับยังเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าเจียงซุ่ยฮวนเพียงยิ้มอย่างเงียบงัน หาได้กล่าวคำใดอีกไม่นานนัก เฉียนจิงอี๋ก็เดินออกจากรถม้าด้วยท่วงท่าสงบ มือไพล่หลังไว้ ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ากลับจางหายไปจนหมดสิ้น หางตายังพลันกระตุกเล็กน้อยเขาเห็นกับตาตนเองว่าเหล่าองครักษ์ลับจับคนยัดใส่รถม้า แล้วเขายังไล่ตามมาตลอดทางจากหอพนัน สายตาไม่เคยละไปที่อื่นเลยแม้แต่น้อยแต่เหตุใดคนผู้นั้นจึงหายไปเสียได้?เจียงซุ่ยฮวนยิ้มถาม “เห็นผู้ใดหรือไม่?”แววตาเฉียนจิงอี๋เย็นเยียบสั่นไหวเล็กน้อย ประหนึ่งกำลังครุ่นคิดบางสิ่งอยู่ เมื่อสบเข้ากับรอยยิ้มของเจียงซุ่ยฮวน เขาจึงยกยิ้มบาง ๆ “ขออภัยด้วยคุณหนู ข้าคงตาฝาดไป”เขาหยิบตั๋วเงินใบหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นสองมือส่งให้เจียงซุ่ยฮวน “เชิญคุณหนูรับของเล็กน้อยเป็นการขออภัย”ท่าทีของบุรุษผู้นี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนัก ไม่เสียแรงเป็นทายาทหอพนันโดยแท้ ขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังจะเอื้อมมือไปรับ กลับพบว่าตั๋วเงินในมือเขานั้นมิใช่ใบละแค่แสนตำลึง...แต่เป็นถึงสองแสนตำลึงเจียงซุ่ยฮวนชักมือกลั

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 570

    ควันสีเทาลอยฟุ้งขึ้นมา ลูกประคำที่เฉียนจิงอี๋ปาออกไปยังคงสภาพสมบูรณ์ แต่กลับฝังลึกอยู่กลางหลุมใหญ่บนพื้นแค่ลูกประคำธรรมดา กลับสามารถก่อความเสียหายได้ถึงเพียงนี้ ต้องมีพลังภายในลึกล้ำถึงเพียงใดกันแน่สีหน้าของเจียงซุ่ยฮวนพลันเคร่งขรึม ขณะเดียวกัน เหล่าองครักษ์ลับที่ล้อมรถม้าอยู่ก็ล้วนตั้งท่าเตรียมพร้อมด้วยท่าทีตึงเครียดแต่ก่อนพวกเขาเคยได้ยินชื่อของเฉียนจิงอี๋มาบ้าง รู้เพียงว่าเขาเป็นทายาทของหอพนันซิ่งหลง เป็นผู้มีอุปนิสัยเงียบขรึม หาได้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนบ่อยนักกระทั่งได้พบกับตัวจริงในวันนี้ จึงรู้ว่าบุรุษผู้นี้...มิใช่คนธรรมดาแน่นอน“แม่นางผู้นี้ ข้าไร้เจตนาจะสร้างความลำบากแก่ท่าน เพียงแต่ในฐานะทายาทของหอพนันซิ่งหลง ข้าย่อมไม่อาจเพิกเฉยมองลูกค้าถูกลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตา...ท่านว่าใช่หรือไม่?” เฉียนจิงอี๋ยิ้มละไม รอยยิ้มนั้นดูสุภาพอ่อนโยน หากแต่แฝงไว้ด้วยแรงกดดันจาง ๆ อย่างยากจะหยั่งถึงองครักษ์ลับทั้งหกยังคงเฝ้ารอบรถม้า หนึ่งในนั้นค่อย ๆ ถอยหลังออกไป แล้วอาศัยจังหวะชุลมุนลับหายไปในพริบตาเฉียนจิงอี๋เห็นดังนั้น จึงหัวเราะพลางถามว่า “หืม? ถึงกับต้องไปตามกำลังเสริมเชียวหรือ? หรื

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status