“...” คนคนนี้เธอเคยเจอเขาเป็นครั้งคราวตอนมีประชุมหมู่บ้าน เขามีอาชีพรับจ้างทั่วไป ใครในหมู่บ้านจ้างอะไร ขอแค่ให้เงินเขาก็ไปทำทั้งนั้น แต่มาตอนนี้…
“แม่!” เห็นแม่นิ่งเงียบไปก็ใจไม่ดี ไหนจะการร้องไห้แบบไม่มีเสียงสะอื้นนี่อีก
“ผมว่าพวกเราไปต่อเถอะ” เฉินเฟิงที่พอมีแรงขึ้นมาบ้างเล็กน้อยรีบกล่าวทำลายบรรยากาศ พวกเขาเสียเวลาอยู่ตรงนี้มากไปแล้ว ดวงตาสีแดงเลือกที่จะไม่มองสภาพศพเละเทะตรงนั้นป้องกันไม่ให้สำรอกเอาเศษอาหารออกมา ปลอบใจตัวเองว่าพอถึงคราวจวนตัวมนุษย์ก็ต้องสู้
แม้ว่าคนที่สู้ด้วยจะเคยเป็นคนรู้จักก็ตาม…
“แม่ครับ ไปเถอะ” เด็กชายเองก็อยากอาเจียนกับภาพตรงหน้า แต่แม่กำลังไม่ได้สติ เด็กน้อยจึงยื่นมือไปดึงมือแม่ให้ลุกขึ้นเดินตามตน
“น้องดล!” ดาริณีราวกับหลุดจากภวังค์ฝัน หญิงสาวคว้าร่างลูกชายหมุนซ้ายขวามองหาร่องรอยบาดเจ็บ
ตอนที่เธอเห็นซอมบี้เบนเป้าหมายไปที่ลูกชาย เธอก็เหมือนสติขาดผึง กระหน่ำฟาดอะไรก็ตามที่กำลังจะทำอันตรายเด็กชาย
“ผมไม่เป็นอะไรครับ เรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ” มือเล็กจับมือแม่แล้วดึงให้ไปทางพี่ชายเฉินเฟิงที่ยืนรออยู่
“อะ อืม” ดาริณีเองก็เหมือนจะได้สติขึ้นมาบ้าง กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามแรงลากจูงของลูกชาย ทิ้งศพของคนในหมู่บ้านไว้ตรงนั้น
“แม่เจ็บไหมครับ” เด็กชายมองรอยข่วนตรงข้อมือ
“ไม่ครับ ไม่เจ็บเลย” เทียบกับลูกเธอยังปลอดภัยแผลแค่นี้นับเป็นอะไรได้
“พี่ดาทนอีกนิดนะครับ” ชายหนุ่มเหลือบมองแผลตรงข้อมือของหญิงสาวเล็กน้อย จากหนังสือและภาพยนตร์ที่เคยผ่านตามา บาดแผลที่เกิดจากซอมบี้มักมีเชื้อไวรัสอยู่ด้วย และจะทำให้คนคนนั้นกลายเป็นซอมบี้เหมือนกับมัน
เฉินเฟิงมองเลยไปยังเด็กชายดลที่คอยลากจูงแม่ให้เดินตามมา
ขอให้เรื่องแต่งพวกนั้นไม่เป็นจริงทีเถอะ
แต่คำภาวนาของเขาดูเหมือนจะคาดหวังมากเกินไป
เมื่อเฉินเฟิงพาสองแม่ลูกมาถึงบ้านต้นไม้หลังไม่เล็กไม่ใหญ่บนภูเขาที่สร้างไว้สำหรับพักผ่อน ดาริณีก็ล้มลงกับพื้นทันที ใบหน้าสวยบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความทรมาน
“แม่!” เด็กชายดลเดินไปเขย่าตัวมารดาไม่หยุด ก่อนรีบปล่อยมือเมื่อเนื้อตัวแม่มีอุณหภูมิสูงมากเหมือนคนเป็นไข้
เหมือนที่พี่ชายเป็น…
“แม่จะเป็นอย่างพี่ชายเหรอครับ”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” เฉินเฟิงตอบไม่เต็มเสียงนัก ตามหลักซอมบี้ที่เคยเห็นมา ถ้าคนปกติถูกโจมตีแล้วเกิดบาดแผล อย่างดีก็คงได้พลังพิเศษมา ส่วนถ้าเลวร้ายก็กลายเป็นพวกมัน…
ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่เป็นอย่างหลัง
ชายหนุ่มให้หญิงสาวพักอยู่ในห้องของเขาไปก่อนเพราะมีเตียงนอนและฟูก ถึงจะมีกลิ่นอับแต่ก็ยังดีกว่าให้นอนบนพื้นที่ยังไม่ถูกทำความสะอาด
“ดลเช็ดตัวให้แม่ไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ขอไปดูรอบ ๆ ก่อน” กลัวว่าจะมีซอมบี้โผล่มาอีก
“ครับ พี่เฟิงระวังตัวด้วยนะ” เพราะเหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้เด็กชายซุกซนเริ่มสุขุมและนิ่งสงบขึ้นมาก เขารู้สึกว่าตัวเองควรดูแลปกป้องแม่แทนบิดาที่ไร้ความรับผิดชอบ ทิ้งพวกเขาในยามที่กำลังลำบาก
“อืม” คราวนี้เฉินเฟิงไม่กล้าประมาทอีก เขาต้องดึงเอาความสามารถพิเศษที่ได้มาใหม่นี้ให้เกิดประโยชน์
ชายหนุ่มยืนนิ่งอยู่หน้าบ้านครู่หนึ่งก่อนหลับตาลงแล้วสูดลมหายใจลึก ๆ เพื่อตั้งสมาธิทั้งหมดไปยังประสาทสัมผัสการฟัง ทั้งเสียงลม เสียงสัตว์ หรือแม้แต่เสียงใบไม้เสียดสีกันก็สามารถรับรู้ได้
ดูเหมือนไม่ใช่แค่เป็นกระต่าย แต่ความสามารถทุกอย่างที่มนุษย์มีก็ถูกอัปเกรดขึ้นจนเหนือกว่ามนุษย์ธรรมดาและสัตว์บางชนิด
เฉินเฟิงพาลนึกไปถึงโจรที่บุกบ้านเขาในวันนี้ พวกมันมีกัน 4 คน แต่ละคนล้วนแล้วแต่มีการกลายพันธุ์จนคุ้นชินกับร่างกายเป็นอย่างดี แม้จะมีอยู่หนึ่งคนที่ไม่มีหูหรือหางให้สังเกต แต่เขารู้ว่ามันเป็นคนทำลายรั้วหน้าบ้านทั้งที่มีสิ่งกีดขวางมากมาย ซึ่งอาจจะเป็นพลังอะไรบางอย่างนอกจากการเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอก
“พี่เฟิง!” ชายหนุ่มเดินวนรอบบ้านจนแน่ใจว่าไม่มีซอมบี้อยู่ในระยะ 2 กิโลเมตรโดยมีบ้านต้นไม้เป็นจุดศูนย์กลาง พอกลับมาถึงบ้าน เด็กชายดลกลับวิ่งหน้าตาตื่นมาหา
“แม่! แม่แย่แล้ว” เด็กน้อยร้อนใจจนต้องออกมาตาม อาการของแม่เขาไม่เหมือนกับที่เฉินเฟิงเป็น
ชายหนุ่มไม่ชักช้ารีบเดินเข้าไปในบ้าน ระหว่างก่อนเข้าบ้านก็ลอบใช้หูฟังความเคลื่อนไหวภายในไปด้วย นอกจากเสียงเสียดสีกันของผ้าปูที่นอน เขาก็ยังได้ยินเสียงของไม้ปริแตก
เกิดอะไรขึ้นกับดาริณีกันแน่!
ปัง!ประตูห้องประชุมถูกเปิดออกกว้างด้วยฝีมือของทหารในค่าย บนใบหน้ามีเหงื่อเกาะเต็มหน้าผาก พร้อมกับสีหน้าวิตกกังวลไปถึงขั้นหวาดกลัว“มีรายงานการเคลื่อนไหวจากหมู่บ้านชาวประมงครับ!”…เฉินเฟิงใช้นัยน์ตาสีแดงมองความรกร้างว่างเปล่าของพื้นที่ชายฝั่งจังหวัด C ด้วยความประหลาดใจ คราวก่อนพวกเขามาในฤดูหนาว ทัศนียภาพถูกหิมะขาวโพลนปกคลุม ทำให้ไม่รู้เลยว่าความเสียหายจากเหล่าสัตว์กลายพันธุ์ต่ออาคารบ้านเรือนและถนนหนทางนั้นเลวร้ายเป็นอย่างมาก“หัวโยกเป็นตุ๊กตาหน้ารถเลย” หลุมบ่อเยอะเกินไปแล้ว!สุดท้ายจากที่ตั้งใจว่าจะให้ทหารอีกหลายนายมาลาดตระเวนเป็นเพื่อนก็ต้องพับเก็บไป สำหรับคู่รักหมีกระต่าย หากเป็นสถานการณ์เสี่ยงอันตราย ถ้าไม่ใช่สมาชิกในทีมที่รู้ใจกันดีแล้วละก็ การพาคนนอกมาด้วยจะมีแต่ทำให้การทำงานลำบากยิ่งขึ้นดังนั้นบนรถกระบะปรับแต่งสมรรถนะสูงในครั้งนี้จึงมีเพียงเฉินเฟิง นิโคลัส และเอ ลูกชายท่านนายพลอธิเพียงสามคน“เอ่อ เป็นเพราะบริเวณนี้ไม่ค่อยมีประชาชนมาตั้งรกรากก็เลยไม่มีการซ่อมแซมเลยน่ะครับ” เออธิบายสีหน้าจืดเจื่อน“ไม่ใช่ความผิดของคุณนี่ครับ อีกอย่างผมก็บ่นไปเรื่อย” เฉินเฟิงปัดมือไปมาในอากาศ เรื
“พวกนายนี่นะ” เอส่ายหน้าให้กับลูกน้อง เรื่องพวกนี้เป็นพื้นฐานที่มีสอนในโรงเรียนทหารอยู่แล้ว ดีเท่าไรที่สถานการณ์กำลังตึงเครียด ไม่อย่างนั้นแล้วโจเซฟได้เปิดอบรมชุดใหญ่แน่โจเซฟในฐานะรุ่นพี่ทหารผู้ผ่านสนามรบมาอย่างโชกโชน การที่เห็นรุ่นน้องหย่อนยานกับการวิเคราะห์สถานการณ์ง่ายๆ แบบนี้มีบทลงโทษอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ด้วยเหตุฉุกเฉินในปัจจุบันทำให้ทหารหนุ่มสาวเหล่านี้รอดพ้นคอร์สพิเศษของโจเซฟไปได้หวุดหวิดโดยไม่รู้ตัว...การโจมตีระลอกที่สองยังคงเป็นปลาบินเช่นเดิม ที่เพิ่มเติมขึ้นมามีเพียงจำนวนที่มากกว่ารอบก่อนสามเท่า“หมอนั่นกลัวเราอดตายเหรอ” หงส์ส่งกล้องส่องทางไกลให้ตุ่น ปลาบินจำนวนมากน่ากลัวก็จริง ยิ่งพวกมันอัปเกรดสติปัญญามาก็ไม่ต่างจากตัวปัญหาดีๆ นี่เอง“หรือกำลังจะด่าว่าเราโง่” ปลามากขนาดนี้ กินเข้าไปไอคิวน่าจะทะลุห้าร้อย“ก็เป็นไปได้นะพี่” ทีโอพยักหน้าสนับสนุน ตั้งแต่สู้กับสัตว์กลายพันธุ์มา มีพวกปลาทะเลนี่แหละสู้ยากที่สุด หากตัดหมาป่าขั้วโลกเหนือที่ได้ฟังจากนิโคลัสออกไป สิ่งที่เจอตามชายฝั่งคือมีแต่ตัวจี๊ดๆ ทั้งนั้นอ้อ หนูยักษ์ที่โรงงานอุตสาหกรรมก็เป็นหนึ่งในนั้น ดีแค่ไหนที่พวกเขาแข็งแ
“มาถึงตอนนี้แล้วปิดไปก็ไม่เป็นประโยชน์” ในเมื่ออีกฝ่ายเริ่มลงมือแล้ว กับลูกน้องที่ลงเรือลำเดียวกันแล้วก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องปิดบังอีก ต่อให้คนตรงหน้าเป็นสายสืบของเกรย์สันก็ใช่ว่าจะทำอะไรได้ เพราะคนที่มีอำนาจออกคำสั่งในเวลานี้คือโจเซฟต่างหาก ไม่ใช่ตน“พวกนายรู้ใช่ไหมว่าวันสิ้นโลกที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้มีที่มาที่ไปยังไง”“ครับ” นายทหารหลายนายพยักหน้า นัยน์ตาฉายประกายเคียดแค้นชิงชังอย่างเห็นได้ชัด“สงครามครั้งสุดท้ายระหว่างมนุษย์กับองค์กร SW กำลังจะเปิดฉากแล้ว” และเตรียมโต้กลับเมื่อหัวหน้าโจเซฟส่งสัญญาณ“!!!!”…การโจมตีชายฝั่งทะเลไม่ได้มีเพียงประเทศ T ที่ได้รับผลกระทบ แต่ยังมีอีกหลายประเทศที่ต้องรับมือกับสัตว์กลายพันธุ์ที่แข็งแกร่งขึ้นทั้งร่างกายและสติปัญญา แต่เพราะเตรียมการมาตั้งแต่เนิ่นๆ จึงทำให้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้น้อยมาก ทั้งยังสามารถนำสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมาเก็บตุนเป็นเสบียงในยามฉุกเฉินได้เพล้ง!“นี่มันเกิดอะไรขึ้น!” เกรย์สันมองรายงานการโจมตีของสัตว์ร้ายชุดใหม่ที่เขาใช้เวลาหลายเดือนในการปรับปรุงอย่างดี แต่กลับถูกมนุษย์ชั้นต่ำฆ่าตายอย่างกับว่าเป็นเพียงปลาธรรมดา หาใช่ส
มือหนึ่งก็จับอาวุธไว้แน่น ส่วนอีกมือก็หาที่ยึดจับไว้อย่างสุดชีวิต ไม่อย่างนั้นรู้ตัวอีกทีอาจถูกสะบัดตกจากหลังรถไปนอนนับดาวอยู่บนถนนก็เป็นได้คึ่กๆๆตุ่นหมุนพวงมาลัยกลับมาที่เดิม แต่ด้วยถนนหนทางขรุขระไร้การบูรณะมาเป็นเวลานาน ทำให้ทั้งคนทั้งรถสะเทือนกระเด้งกระดอนนั่งไม่ติดเบาะสักคน“ที่รัก ถ้ามีลูกกันนี่ลูกหลุดไปแล้วนะ” หงส์ว่าติดตลก หลุมบ่อระดับนี้ยิ่งกว่าดวงจันทร์ด้านมืดเสียอีก“ผมว่าลูกพี่น่าจะเกาะมดลูกไม่ปล่อยเพราะไม่อยากออกมาเจอโลกแบบนี้มากกว่า” ทีโอปรายสายตามองบ้านเรือนร้างผู้คน เป็นเขาก็ไม่อยากออกมา อยู่ในท้องต่อไปน่าจะสบายกว่า“ฮ่าๆ ก็จริง” หญิงสาวหนึ่งเดียวพยักหน้าเห็นด้วยตูม!!ปลาบินอีกตัวร่อนลงด้านข้างหมายจะกระแทกรถให้เสียหลักลงข้างทาง ทว่าตุ่นก็ดึงเบรกมือแล้วปล่อยในเสี้ยววินาทีพร้อมกับหมุนดริฟต์หลบไปได้อย่างสวยงาม“มากันไม่พักเลยน้าาา~” ทีโอทอดถอนใจ เป็นทีมเก็บข้อมูลนี่มันเหนื่อยจริงๆ“พวกมันตามมาหมดทุกตัวเลย แสดงว่าหลุมหลบภัยที่เหลืออาจมีกลุ่มใหม่ไปเสริม” นึกว่าจะแบ่งกำลังกันตามมาแค่บางส่วนแล้วให้ส่วนที่เหลือตามล่ามนุษย์ในหลุมหลบภัยต่อไปเสียอีกสมาชิกทีมทหารรับจ้างวิเคราะห
ตูม!!สองวันต่อมาไม่ขาดไม่เกิน สัญญาณที่โจเซฟว่าไว้ก็เกิดขึ้นในตอนเช้ามืด ทหารลาดตระเวนกะดึกยังไม่ทันผลัดเปลี่ยนเวรยามก็ต้องรีบกระชับอาวุธประจำกาย วิ่งกลับไปยังจุดประจำการของตนเองและสอดส่องหาต้นตอของเสียงดังสนั่นนั่น“เกิดอะไรขึ้น” เอเดินออกมาจากตึกอย่างรีบร้อน ด้านหลังมีกลุ่มของโจเซฟตามมาติดๆ ใบหน้าสมาชิกในทีมมีร่องรอยตื่นเต้นราวกับรอเวลานี้อยู่ตลอด“มีฝูงปลาบินโจมตีตึกร้างนอกเมืองครับ” ทหารที่ถือกล้องส่องทางไกลรายงาน“บริเวณนั้นมีอะไรหรือเปล่า” โจเซฟเดินเข้ามาสอบถามเมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีนักของเอ“พื้นที่ตรงนั้นเป็นหลุมหลบภัยฉุกเฉิน แต่โชคดีที่ครั้งนี้เราอพยพคนไปไกลกว่าเดิม หลุมนั้นจึงไม่ได้ถูกใช้งาน” ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าหากมีคนอาศัยอยู่จะเป็นอย่างไร“พวกมันรู้ว่าคนอาศัยอยู่ที่ไหนงั้นเหรอ?” หงส์อุทานเสียงสูง นี่มันเกินกว่าที่คิดไว้มากเลยนะ!“อาจใช่และไม่ใช่ พวกมันมีจำนวนเท่าไร” เอหันไปมองลูกน้องเพื่อขอคำตอบ“บนพื้นดินมีราว ๆ 10 ตัวครับ และมีที่บินวนอยู่บนฟ้าอีกเกือบ 20 ตัว” ทหารรายงานไปขนหลังคอก็ลุกเกรียวขึ้นมา แม้จะเทียบกับจำนวนร้อยตัวที่อยู่นอกชายฝั่งไม่ได้ แต่จำนวนเท่านี้ก็จัดกา
“ทำไมถึงเป็นคุณโจเซฟได้ล่ะ” คนในห้องพึมพำเสียงเบา ถึงฝูงปลาบินนอกชายฝั่งจะน่ากลัว แต่ถึงกับส่งทีมมหาเทพมาก็ออกจะเกินไปหน่อยหรือเปล่าในขณะที่ทหารหลายนายต่างงุนงง มีเพียงเอที่เบิกตากว้างเพราะทราบดีว่าเมื่อใดโจเซฟและทีมมาเยือน นั่นหมายความว่าถึงเวลาโต้กลับแล้ว“รีบไปเปิดประตูเร็ว” มนุษย์หมาป่ากลายพันธุ์หันไปสั่งการลูกน้อง นัยน์ตาสีเทาไหวระริกในที่สุดวันนี้ก็มาถึง!“ผมจะไปเปิดประตูต้อนรับเดี๋ยวนี้ครับ” นายทหารชั้นผู้น้อยเอ่ยขออนุญาตคนเป็นหัวหน้า พอได้รับการพยักหน้าตอบกลับมาก็วิ่งผลุนผลันออกจากห้องไป“พวกเราเองก็ออกไปรอต้อนรับกันเถอะ” เอหันไปพูดกับลูกน้องมือซ้ายและขวา ส่วนทหารในห้องคนอื่นยังมีภาระหน้าที่ของตนเองอยู่ ต่อให้อยากออกไปพบท่านเทพมากแค่ไหนก็ได้แต่อดทนอดกลั้นจนกว่าเวรยามของตนเองจะหมดลงแต่เมื่อเอลงมาถึง กลับไม่ได้เห็นรถบรรทุกทางทหารของค่ายเพียงคันเดียว ยังพบรถดัดแปลงของกลุ่มโจรที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ด้วย พาให้ทหารหลายนายที่อยู่รอบๆ กระชับอาวุธในมือของตนเองแน่น“คุณโจเซฟ… นี่มันอะไรกันครับ” หมาป่าหนุ่มขมวดคิ้ว คนที่ลงมาจากรถบรรทุกนั้นเป็นโจเซฟไม่ผิดแน่ ดังนั้นจะเป็นไปได้อย่างไรท