‘จับมัน! อย่าให้มันหนีไปได้!!’ ภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ที่บุกเข้ามาในบ้านแวบเข้ามาในหัว เป็นผลให้ศีรษะเล็กส่ายหนีเพื่อลบภาพความทรงจำอันเลวร้ายออกไปจนเส้นผมสีขาวปลิวไสว
ต้องระวังอีกเป็นเท่าตัว ซอมบี้ยังพอทำใจให้ฆ่าได้เพราะเคยเป็นคน แต่คนที่เห็นว่าเป็นคนอาจไม่ใช่คนอีกต่อไป
เฮ้อ… ทั้งที่ไม่ชอบใช้ชีวิตซับซ้อนแท้ ๆ ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยนะ
ในขณะที่ครุ่นคิด ขาก็พากระต่ายหนุ่มมาถึงชายป่าและทุ่งมันสำปะหลังสูงชะลูดได้ในที่สุด
“มาถึงแล้ว” ด้วยเวลาแค่ 4 ชั่วโมงกว่า “ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้” อย่าดูถูกระยะทางสิบกิโลบนภูเขาเด็ดขาด ทางต่างระดับและส่วนที่ต้องระมัดระวังนั่นแหละที่ทำให้การเดินทางล่าช้า ถ้าเป็นคนทั่วไปคงใช้เวลามากกว่านี้อีกสองเท่า แต่พอกลายเป็นกระต่ายก็เหมือนจะง่ายดายขึ้นมา
อันดับแรกคงต้องออกจากป่ามันสำปะหลังไปให้ได้ก่อน ถ้าเป็นก่อนได้รับพลังมาเขาคงไม่รีรอที่จะถอนมันออกไปจนเต็มกระเป๋า ก็นี่มันแหล่งอาหารชั้นดีเลยนี่นา รู้สึกว่าถัดไปอีกสองกิโลจะเป็นไร่อ้อยของโรงงานน้ำตาล
น้ำตาล!
จริงสิ ที่บ้านพักไม่มีน้ำตาลเลย ต้องแวะไปที่นั่นด้วย แล้วก็พวกเครื่องปรุง มีของที่ต้องการเต็มไปหมด แสดงว่าต้องมีหลายที่ที่ต้องไป
เฉินเฟิงสูดลมหายใจเข้า และพ่นออกเป็นจังหวะ
“ฟู่ว” เพื่ออาหาร ต้องสู้!
“เราจะไปที่ไหนก่อนคะหัวหน้า” หงส์เปิดโบรชัวร์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวที่หยิบติดมือมาจากร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ดูเหมือนว่าละแวกนี้คนจะกลายเป็นซอมบี้ไปหมดแล้ว น้ำมันในร้านถึงได้มีปริมาณมากราวกับไม่เคยมีใครเข้ามาใช้บริการอีกเลยหลังค่ำคืนนั้น
“ใจจริงอยากไปโรงงานปลากระป๋อง แต่ที่ใกล้ที่สุดคือโรงงานน้ำตาล คงต้องไปดูลาดเลาที่นั่น” โจเซฟบอกแผนการคร่าว ๆ ให้ลูกน้องฟังพร้อมถามความคิดเห็นไปในตัว “หรือใครคิดว่าควรไปที่ไหนก่อน”
“ผมยังไงก็ได้” ทีโอ
“ผมแล้วแต่หัวหน้าครับ” ตุ่น
“น้ำตาลก็ดีค่ะ เผื่อหงส์จะแอบจิ๊กไปใช้ในบ้าน” หญิงสาวคนเดียวในกลุ่ม
“จิ๊กอะไรล่ะ แค่เราออกมาทำภารกิจก็ได้ส่วนแบ่งอยู่แล้ว” ตุ่นแย้ง
“แค่พูดเล่นน่ะ พูดเล่น”
“แล้วนิคล่ะ” โจเซฟถามตัดบท เดี๋ยวสองคนนี้ได้ทะเลาะกันอีก
“ยังไงก็ได้” นิโคลัส
“โอเค ไปโรงงานน้ำตาลกันเลย”
ใบหูสีขาวใต้ฮู้ดกระตุกสองครั้ง และถึงมันจะไม่กระตุก เฉินเฟิงก็พอจะรู้สึกได้ว่ากำลังมีคนมุ่งหน้ามาทางนี้ และมาด้วยความเร็วมาก
คนเหรอ?
หรือจะเป็นคนที่รอดชีวิต มีรถเป็นพาหนะคงเป็นคนนั่นแหละ
เสียงเครื่องยนต์ดังทะลุแก้วหูเขาเลยทีเดียว
“ถ้าเป็นหนังก็คงเป็นพวกคนที่รวมตัวอยู่กันเป็นกลุ่ม” เหมือนเรื่อง Zombie City ที่เคยโด่งดังอยู่ช่วงหนึ่ง ตัวเอกเป็นคนจากค่ายของประชาชนที่นอกจากจะต้องรับมือกับซอมบี้แล้ว ก็ยังต้องคอยระมัดระวังการแทรกแซงจากฐานของรัฐบาลที่ต้องการจะเข้ามายึดครองทรัพยากรที่ค่ายของพระเอกมี
จะเป็นใครก็ช่าง ชายหนุ่มในเวลานี้มีบ้านบนภูเขาก็เพียงพอแล้ว แถมยังมีพลังพิเศษนี่อีก ไว้รอแข็งแกร่งกว่านี้ค่อยไปจัดการเจ้าพวกที่ขโมยบ้านของเขาไป จะต้องทำให้พวกมันลิ้มรสกับความเจ็บปวดให้ได้ ให้พวกมันหนีหัวซุกหัวซุนเหมือนอย่างที่เขาเป็น!
เฉินเฟิงมุ่งหน้าไปยังโรงงานน้ำตาลโดยอาศัยจากกลิ่นในอากาศ น่าแปลกที่นอกจากกลิ่นเหม็นเน่าของซากศพที่บ่งชี้ว่าบริเวณนี้มีซอมบี้แล้ว เขายังสามารถได้กลิ่นหอมหวานของอ้อยที่เติบโตเต็มที่ รวมถึงกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำตาล คาดว่าคงเป็นผลมาจากการเพิ่มของพลัง
เสียงรถยนต์ดังเข้าใกล้มาเรื่อย ๆ ทำให้เจ้ากระต่ายขาวรู้ได้ทันทีว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายนั้นไม่ต่างจากตนเลย
โรงงานอุตสาหกรรมละแวกนี้มีเป็นสิบ ทำไมต้องมาเจาะจงลงที่เดียวกันด้วยนะ
ชายหนุ่มรู้สึกหัวเสีย เขายังไม่พร้อมเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ในยุคนี้เลย นอกจากดาริณีหรือเด็กชายดล มนุษย์คนอื่นสำหรับเฉินเฟิงคือสิ่งที่ต้องระมัดระวังยิ่งกว่าซอมบี้
ในเมื่อไม่อยากเผชิญหน้ากันก็ต้องหลีกเลี่ยง อีกฝ่ายมีรถยนต์ก็แสดงว่าอาจไม่ได้มีแค่คนเดียว จำนวนเสียเปรียบกว่าเห็น ๆ หวังว่าคนพวกนั้นจะไม่นอนค้างที่นี่หรือขนของไปจนหมด น้ำตาลเองก็เป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ไม่อย่างนั้นอาหารหลังจากนี้มีหวังจืดชืดกันพอดี
ชายหนุ่มเฝ้ารออยู่ด้านนอกโรงงานบริเวณป่าอ้อยรกครึ้ม พวกมันคงเป็นวัตถุดิบของโรงงานนี้ คาดว่าคงเป็นส่วนที่ถูกคัดทิ้งจนเติบโตขึ้นมาเอง และที่ทำให้เขายังละล้าละหลังอยู่ตอนนี้ก็เป็นเพราะเขายังไม่มีประสบการณ์ฆ่าซอมบี้เลยสักตัว จะดีกว่าไหมถ้าให้พวกทหารหรือใครสักคนเข้าไปเคลียร์ด้านในก่อน เขาไม่รังเกียจที่จะเก็บของเหลือกลับไปหรอก
ไม่ถึง 10 นาทีรถบรรทุกทหารคันหนึ่งก็มุ่งไปยังโรงงานน้ำตาลที่เฉินเฟิงหมายตา ชายหนุ่มเช็กตัวเองเล็กน้อยว่าตอนนี้อยู่ในจุดปลอดภัยที่จะไม่มีใครหาตัวได้ไม่ว่าจะกลิ่นหรือเสียง แต่ถ้าในกลุ่มนั้นมีมนุษย์กลายพันธุ์ก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เป็นดังคาด รถบรรทุกของทหารมาจอดอยู่หน้าประตูโกดัง ชัดเจนว่ากลุ่มคนที่มาคือทหารของที่ไหนสักที่ หรือที่จริงแล้วในเมืองสามารถกวาดล้างซอมบี้สำเร็จแล้ว?
เพราะข้อมูลที่มีนั้นน้อยเกินไป ชายหนุ่มจึงไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าตนควรทำอย่างไรต่อ จะอยู่บนเขาแล้วใช้ชีวิตตามมีตามเกิด หรือเขาควรไปขอความช่วยเหลือจากค่ายของทหาร เมื่อสถานการณ์สงบค่อยเดินทางกลับบ้านพร้อมขอความช่วยเหลือเรื่องโจรบุกรุกบ้าน
กรร…
!!!
เสียงซอมบี้!
ไม่ไกลจากจุดที่เขาอยู่ด้วย เข้ามาใกล้โดยที่เขาไม่รู้ตัวได้ยังไง!
ได้ยังไง... นี่มันเกิดอะไรขึ้น!
เสียงคำรามในลำคอทำให้เฉินเฟิงต้องระมัดระวังตัวมากกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่กล้าเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่อย่างนั้นพวกทหารที่อยู่ในโรงงานน้ำตาลต้องรู้แน่ว่าเขาซ่อนตัวอยู่
กร๊าซซ!!
ซอมบี้ที่เคยมีระยะห่างกันหลายเมตรมุ่งตรงมาที่ซ่อนตัวของเขาอย่างไม่ลังเล
“จัดการก็ได้วะ” ถ้าไม่ทำก็คงกลายเป็นอาหารมันแบบง่าย ๆ ชายหนุ่มนำขวานที่เป็นอาวุธมีคมเพียงหนึ่งเดียวในบ้านออกมาจากกระเป๋า
หวืดโจเซฟบังคับแคปซูลไปพร้อมกับคอยประเมินการต่อสู้ หากพบว่าลำไหนกำลังจะพลาดท่าถูกโจมตีถึงชีวิต ก็จะใช้พลังพิเศษของตนเองดึงยานลำนั้นหลบให้พ้นวิถี ทำให้จนบัดนี้ก็ยังไม่มีผู้เสียชีวิตแม้จะสู้กันมามากกว่า 20 นาทีแล้วก็ตามทหารที่อยู่บนเรือเองก็ผลัดกันหยิบบาซูก้าและปืนเลเซอร์ออกมาช่วยสนับสนุน และเมื่อไหร่ที่มันดำดิ่งสู่ก้นมหาสมุทรก็จะเจออีกทีมรอต้อนรับอยู่เช่นเดิม จากที่ไร้รอยขีดข่วนก็เริ่มมีรอยถลอกประปรายถึงจะไม่เจ็บแต่ก็สร้างความรำคาญให้หมีน้ำยักษ์ไม่น้อยอ๊าาาาาาาาาา!!!เฉินเฟิงยกมือปิดหูขณะใช้สาหร่ายทะเลพันธนาการขาข้างหนึ่งของมันไว้กับภูเขาใต้ทะเลลูกหนึ่ง เสียงร้องพร้อมคลื่นกระแทกใต้น้ำทำให้แคปซูลหลายลำกระเด็นไปคนละทิศละทางยังดีที่ตัวกระจกนั้นมีความหนามากพอ ไม่อย่างนั้นอาจเกิดรอยร้าวและถูกแรงดันน้ำบีบอัดจนต้องสละแคปซูลหนีตายเมื่อกลับมาอยู่ใต้น้ำ สัตว์ยักษ์ก็มีความว่องไวมากกว่าอยู่บนอากาศ น่าเสียดายที่เกรย์สันทำได้เพียงแค่ขยายร่างและคงความสามารถเหมือนตัวต้นแบบของมันไว้ได้เท่านั้น ไม่สามารถดัดแปลงให้มีปีกหรือใช้พลังได้ดั่งเช่นมนุษย์ที่มีพลังพิเศษพรึ่บ!สาหร่ายทะเลคว้าจับขาท่อนอวบอีก
ซูม!เปรี๊ยะ!แป๊ะ! แป๊ะ! แป๊ะ! แป๊ะ! แป๊ะ!ด้วยระยะห่างที่น้อยนิดทำให้เมล็ดอาวุธของเจ้ากระต่ายตรงเข้าปากของหมีน้ำทุกนัด และไม่กี่วินาทีต่อมาฝักของมันก็ดีดตัวออก เปิดให้เมล็ดภายในฝักกระจายออกมากระแทกผนังในโพรงปากศัตรูอย่างรุนแรงหากว่าผลลัพธ์คราวที่ช่วยสิงหานั้นรุนแรงแล้ว ที่อดีตผู้ช่วยเชฟใช้ในวันนี้ก็ให้คูณเข้าไปอีก 10 เท่าอ๊าาาาาาา!!!หมีน้ำตัวเขื่องสะบัดศีรษะคล้ายรำคาญ บริเวณมุมแก้มมีรอยนูนขึ้นลงสลับไปมาเพราะอาวุธจากธรรมชาติที่สุดแสนจะธรรมดาแต่อานุภาพไม่เบาพร้อมกันนั้นก็มีเรือแคปซูลลำอื่นเข้าไประดมโจมตีมันอย่างต่อเนื่องไม่ให้หยุดพัก อย่างลำที่เพิ่งถอยออกมาคือหงส์และตุ่น หญิงสาวบรรจุน้ำแข็งแหลมคมยิงเข้าไปที่ใต้ท้องของมันเพื่อตรวจดูความแข็งของผิวหนังในจุดอ่อนไหว ก่อนตุ่นจะบังคับให้แคปซูลหลบกรงเล็บแหลมคม[ ใต้ท้องแข็งน้อยกว่าเปลือกด้านบน แต่ก็แค่เล็กน้อย ] หงส์กล่าวรายงานไปยังระบบการสื่อสารให้แคปซูลลำอื่นและคนบนเรือรบได้ยินไปด้วย[ โจมตีในปากดูเหมือนจะได้ผลนิดหน่อย ] เฉินเฟิงเอ่ยรายงานบ้างใต้ท้องมหาสมุทรที่มีมวลน้ำหนาหนักเช่นนี้ค่อนข้างกินแรงพลังพิเศษไม่น้อย หากไม่ใช่ว่าภายในแคปซูล
“มีความเป็นไปได้สูงครับ”“ท่านจอมพลครับมีความเคลื่อนไหวจากใต้น้ำแล้วครับ!!” ทหารเรือที่คอยรับผิดชอบจับความเคลื่อนไหวใต้ทะเลผ่านคลื่นความถี่ต่ำตะโกนรายงานเสียงดัง“พลปืนแต่ละหน่วยประจำที่!” จอมพลเรือโคลตันออกคำสั่งเสียงกร้าว เหล่าทหารที่ที่มัวแต่ตกใจกับสัตว์ประหลาดจึงรีบดึงสติกลับมายังภารกิจเบื้องหน้าซูม!เสาน้ำปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง และคราวนี้มันก็ถีบตัวขึ้นมาสูงกว่าเดิม เผยให้เห็นลำตัวเป็นปล้องแข็งราวกับว่าตัวมันถูกสวมไปด้วยเกราะเหล็กกล้าเรือรบลำใหญ่ใช้ไอพ่นเบี่ยงหลบการโจมตี จากนั้นลดระดับเพดานบินลงให้ป้อมปืนใหญ่อยู่ตรงกับช่วงลำตัวของมันจอมพลเรือโคลตันเป็นจอมพลที่ถูกมอบหมายให้ประจำการอยู่บนเรือประจัญบาน ดังนั้นสิ่งที่ชายวัยกลางมั่นใจบนเรือลำนี้เป็นที่สุดย่อมไม่พ้นหมู่ปืนใหญ่ที่มีพลังทำลายล้างสูง“หมู่ปืนใหญ่ ยิง!”ปืนใหญ่ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเรือรวมกันทั้ง 9 กระบอกต่างหันออกด้านข้าง ทันทีที่กระสุนพุ่งผ่านปลายปืนก็เกิดเสียงดังกัมปนาทและประกายไฟเมื่อมีเป้าชั้นดีไม่ต่างจากการหันปืนเข้ากำแพง ต่อให้เป็นพลปืนมือใหม่ก็ไม่มีทางยิงพลาดปัง! ปัง! ปัง! ปัง!แรงดันจากการปลายกระบอกปืนทำให้เรือ
กึง!คำภาวนาของคุณแม่ลูกหนึ่งสัมฤทธิ์ผลในอีก 3 วินาทีถัดมา ตัวเรือรบขนาดใหญ่ถูกกระชากเบี่ยงไปด้านข้างหลบการโจมตีจากสัตว์ร้ายไปได้ฉิวเฉียด พร้อมกับที่ทุกคนได้เห็นสัตว์ประหลาดตัวนั้นอย่างเต็มตา“นั่นมัน… ตัวอะไรกัน”แม้ตัวเรือจะกำลังเหวี่ยงไปตามแรงดึงของสมอ แต่สายตาของทุกคนก็ยังคงจดจ้องอยู่ที่ศัตรูผู้มีรูปลักษณ์ประหลาดอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต“คุณดา ชะลอสมอ” ถึงโจเซฟจะตะลึงกับสัตว์ประหลาดหน้าตาพิกล แต่ก็ยังมีสติพอที่จะถ่ายทอดคำสั่งกับภรรยาคนสวย หากปล่อยให้สมอทิ้งตัวลงน้ำ ตัวเรือจะต้องเอียงไปด้านล่าง จากนั้นก็จะเทคนบนเรือให้ตกลงไปยังผืนมหาสมุทร[ ได้ค่ะ ]ดาริณีกลับไปประจำแท่นยึดของตนเอง ฝ่ามือหยาบกร้านจากการฝึกใช้พลังเอื้อมไปคว้าโซ่เหล็กขนาดใหญ่ไว้แน่นแล้วออกแรงดึงรั้งให้กลับเข้าหาตัวทีละนิด ไม่ฝืนดึงกลับมาด้วยแรงทั้งหมดในทีเดียว ไม่อย่างนั้นสมอที่บินไปไกลอาจบินกลับมาด้วยความเร็วและทำให้เรือทะลุไปอีกด้านแทนภาพของสัตว์ประหลาดปริศนาถูกถ่ายไว้ได้และนำขึ้นจอให้คนในเรือได้เห็นรูปร่างของมันเหมือนหนอนปล้องตัวอ้วนๆ มี 8 ขา ตรงปลายมีเล็บแหลมคมที่ดูจากสายตาแล้วน่าจะฉีกกระชากเรือรบลำนี
โจเซฟปล่อยให้ทุกคนได้ตกตะกอนความคิดด้วยตัวเอง ชายหนุ่มพาทีมตรงไปยังหอสังเกตการณ์เพราะในระยะหลังเริ่มเจอสัตว์กลายพันธุ์จำนวนมากขึ้น หากไม่ประชุมวางแผนรับมือให้ดีอาจไปไม่ถึงจุดหมาย“เราจะคงระดับความสูงของหินไว้ แต่ไม่ต้องใช้ไอพ่นอีก” ด้วยระยะทางอีกไม่กี่ร้อยกิโลเมตร บวกกับทิศทางลมเป็นใจ อาจจะไปถึงเกาะเป้าหมายในตอนบ่ายพอดี“ผมเห็นด้วย ควรเลี่ยงการปะทะไปก่อน” ถึงทหารจะมีกำลังใจพร้อมสู้ต่อ แต่เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง“แล้วขากลับจะทำยังไง” จอมพลโคลตันขมวดคิ้ว ถึงจะไม่ต้องใช้ไอพ่นหลักที่ใช้พลังงานสูง แต่ทิศทางลมเหนือเมฆนั้นค่อนข้างแรง จำต้องใช้ไอพ่นบังคับทิศทางที่มากกว่าด้านล่างอยู่ดี หากชะล่าใจอาจถูกลมบนพัดไปที่ไหนก็ไม่รู้“ถึงตอนนั้นเราคงต้องขอพึ่งผู้มีพลังพิเศษธาตุลมแล้วล่ะครับ” การเดินทางกลับอาจล่าช้ากว่าขามา แต่ในเมื่อท้องทะเลเต็มไปด้วยสัตว์กลายพันธุ์ยักษ์อย่างนี้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องเสบียงอาหาร ด้านน้ำดื่มก็ยังมีคนที่สามารถใช้พลังเรียกออกมาได้ ต่อให้ลอยลำนานกว่าหนึ่งเดือนก็ยังไม่ใช่ปัญหา“ผมเห็นด้วยนะ” ยามาโมโตะพยักหน้าสนับสนุน ลูกน้องของเขาเสียขวัญและกำลังใจไปบางส่วนก็จริง แต่หากเซฟกำลังไว
ตึงๆๆๆแอ๊วๆ~“...” พิมพาไม่รู้จะบรรยายภาพที่เห็นตรงหน้าออกมาเป็นคำพูดอย่างไรเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนจิตใจตนมากเกินไปนักในภาพความทรงจำของเธอ ต้นไทรใหญ่ประจำหมู่บ้านริมธารนั้นมีอายุเกินกว่า 100 ปีไปแล้ว เป็นคุณทวดต้นไม้ที่ชาวบ้านในละแวกนี้ล้วนให้ความเคารพและนิมนต์พระมาทำบุญอย่างสม่ำเสมอมีเรื่องเล่าและตำนานมากมายเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของต้นไม้ต้นนี้ ถึงแม้จะผ่านมาหลายปากและถูกแต่งเสริมให้เกินจริงไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความศรัทธาลดน้อยลงพิมพาเคยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งตามประสาคนที่เติบโตขึ้นมาในยุคสมัยที่การศึกษาเริ่มเข้ามามีบทบาทและเทคโนโลยีที่สามารถทำให้เรารับรู้ข่าวสารได้มากขึ้น ความศรัทธาแบบงมงายจึงเบาบางลงไปตามกาลเวลาแต่วันนี้เธออาจจะต้องจัดระเบียบความคิดเสียใหม่… หรือเทพารักษ์ รุกขเทวดาจะมีจริง?แซ่กๆๆตึง!!กรรรซ์!!!แอ๊ว!~ต้นไทรใหญ่ยังคงมีขนาดลำต้นเท่าเดิม ที่แปลกไปคือรากอากาศที่ควรห้อยตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงกลับสามารถยืดออกไปไล่จับซอมบี้มนุษย์นกบนอากาศได้ ทั้งยังเหวี่ยงซอมบี้ตนนั้นกระแทกพื้นอย่างแรง กระดูกตามร่างกายหักงอผิดรูป และมีกองเชียร์เป็นพลายวารีที่กระโดดโลดเต้นชูงวง