Share

03 เก็บตุน [3/5]

Author: 816
last update Last Updated: 2025-03-28 09:54:11

‘จับมัน! อย่าให้มันหนีไปได้!!’ ภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ที่บุกเข้ามาในบ้านแวบเข้ามาในหัว เป็นผลให้ศีรษะเล็กส่ายหนีเพื่อลบภาพความทรงจำอันเลวร้ายออกไปจนเส้นผมสีขาวปลิวไสว

ต้องระวังอีกเป็นเท่าตัว ซอมบี้ยังพอทำใจให้ฆ่าได้เพราะเคยเป็นคน แต่คนที่เห็นว่าเป็นคนอาจไม่ใช่คนอีกต่อไป

เฮ้อ… ทั้งที่ไม่ชอบใช้ชีวิตซับซ้อนแท้ ๆ ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วยนะ

ในขณะที่ครุ่นคิด ขาก็พากระต่ายหนุ่มมาถึงชายป่าและทุ่งมันสำปะหลังสูงชะลูดได้ในที่สุด

“มาถึงแล้ว” ด้วยเวลาแค่ 4 ชั่วโมงกว่า “ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้” อย่าดูถูกระยะทางสิบกิโลบนภูเขาเด็ดขาด ทางต่างระดับและส่วนที่ต้องระมัดระวังนั่นแหละที่ทำให้การเดินทางล่าช้า ถ้าเป็นคนทั่วไปคงใช้เวลามากกว่านี้อีกสองเท่า แต่พอกลายเป็นกระต่ายก็เหมือนจะง่ายดายขึ้นมา

อันดับแรกคงต้องออกจากป่ามันสำปะหลังไปให้ได้ก่อน ถ้าเป็นก่อนได้รับพลังมาเขาคงไม่รีรอที่จะถอนมันออกไปจนเต็มกระเป๋า ก็นี่มันแหล่งอาหารชั้นดีเลยนี่นา รู้สึกว่าถัดไปอีกสองกิโลจะเป็นไร่อ้อยของโรงงานน้ำตาล

น้ำตาล!

จริงสิ ที่บ้านพักไม่มีน้ำตาลเลย ต้องแวะไปที่นั่นด้วย แล้วก็พวกเครื่องปรุง มีของที่ต้องการเต็มไปหมด แสดงว่าต้องมีหลายที่ที่ต้องไป

เฉินเฟิงสูดลมหายใจเข้า และพ่นออกเป็นจังหวะ

“ฟู่ว” เพื่ออาหาร ต้องสู้!

“เราจะไปที่ไหนก่อนคะหัวหน้า” หงส์เปิดโบรชัวร์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวที่หยิบติดมือมาจากร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ดูเหมือนว่าละแวกนี้คนจะกลายเป็นซอมบี้ไปหมดแล้ว น้ำมันในร้านถึงได้มีปริมาณมากราวกับไม่เคยมีใครเข้ามาใช้บริการอีกเลยหลังค่ำคืนนั้น

“ใจจริงอยากไปโรงงานปลากระป๋อง แต่ที่ใกล้ที่สุดคือโรงงานน้ำตาล คงต้องไปดูลาดเลาที่นั่น” โจเซฟบอกแผนการคร่าว ๆ ให้ลูกน้องฟังพร้อมถามความคิดเห็นไปในตัว “หรือใครคิดว่าควรไปที่ไหนก่อน”

“ผมยังไงก็ได้” ทีโอ

“ผมแล้วแต่หัวหน้าครับ” ตุ่น

“น้ำตาลก็ดีค่ะ เผื่อหงส์จะแอบจิ๊กไปใช้ในบ้าน” หญิงสาวคนเดียวในกลุ่ม

“จิ๊กอะไรล่ะ แค่เราออกมาทำภารกิจก็ได้ส่วนแบ่งอยู่แล้ว” ตุ่นแย้ง

“แค่พูดเล่นน่ะ พูดเล่น”

“แล้วนิคล่ะ” โจเซฟถามตัดบท เดี๋ยวสองคนนี้ได้ทะเลาะกันอีก

“ยังไงก็ได้” นิโคลัส

“โอเค ไปโรงงานน้ำตาลกันเลย”

ใบหูสีขาวใต้ฮู้ดกระตุกสองครั้ง และถึงมันจะไม่กระตุก เฉินเฟิงก็พอจะรู้สึกได้ว่ากำลังมีคนมุ่งหน้ามาทางนี้ และมาด้วยความเร็วมาก

คนเหรอ?

หรือจะเป็นคนที่รอดชีวิต มีรถเป็นพาหนะคงเป็นคนนั่นแหละ

เสียงเครื่องยนต์ดังทะลุแก้วหูเขาเลยทีเดียว

“ถ้าเป็นหนังก็คงเป็นพวกคนที่รวมตัวอยู่กันเป็นกลุ่ม” เหมือนเรื่อง Zombie City ที่เคยโด่งดังอยู่ช่วงหนึ่ง ตัวเอกเป็นคนจากค่ายของประชาชนที่นอกจากจะต้องรับมือกับซอมบี้แล้ว ก็ยังต้องคอยระมัดระวังการแทรกแซงจากฐานของรัฐบาลที่ต้องการจะเข้ามายึดครองทรัพยากรที่ค่ายของพระเอกมี

จะเป็นใครก็ช่าง ชายหนุ่มในเวลานี้มีบ้านบนภูเขาก็เพียงพอแล้ว แถมยังมีพลังพิเศษนี่อีก ไว้รอแข็งแกร่งกว่านี้ค่อยไปจัดการเจ้าพวกที่ขโมยบ้านของเขาไป จะต้องทำให้พวกมันลิ้มรสกับความเจ็บปวดให้ได้ ให้พวกมันหนีหัวซุกหัวซุนเหมือนอย่างที่เขาเป็น!

เฉินเฟิงมุ่งหน้าไปยังโรงงานน้ำตาลโดยอาศัยจากกลิ่นในอากาศ น่าแปลกที่นอกจากกลิ่นเหม็นเน่าของซากศพที่บ่งชี้ว่าบริเวณนี้มีซอมบี้แล้ว เขายังสามารถได้กลิ่นหอมหวานของอ้อยที่เติบโตเต็มที่ รวมถึงกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของน้ำตาล คาดว่าคงเป็นผลมาจากการเพิ่มของพลัง

เสียงรถยนต์ดังเข้าใกล้มาเรื่อย ๆ ทำให้เจ้ากระต่ายขาวรู้ได้ทันทีว่าเป้าหมายของอีกฝ่ายนั้นไม่ต่างจากตนเลย

โรงงานอุตสาหกรรมละแวกนี้มีเป็นสิบ ทำไมต้องมาเจาะจงลงที่เดียวกันด้วยนะ

ชายหนุ่มรู้สึกหัวเสีย เขายังไม่พร้อมเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ในยุคนี้เลย นอกจากดาริณีหรือเด็กชายดล มนุษย์คนอื่นสำหรับเฉินเฟิงคือสิ่งที่ต้องระมัดระวังยิ่งกว่าซอมบี้

ในเมื่อไม่อยากเผชิญหน้ากันก็ต้องหลีกเลี่ยง อีกฝ่ายมีรถยนต์ก็แสดงว่าอาจไม่ได้มีแค่คนเดียว จำนวนเสียเปรียบกว่าเห็น ๆ หวังว่าคนพวกนั้นจะไม่นอนค้างที่นี่หรือขนของไปจนหมด น้ำตาลเองก็เป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ไม่อย่างนั้นอาหารหลังจากนี้มีหวังจืดชืดกันพอดี

ชายหนุ่มเฝ้ารออยู่ด้านนอกโรงงานบริเวณป่าอ้อยรกครึ้ม พวกมันคงเป็นวัตถุดิบของโรงงานนี้ คาดว่าคงเป็นส่วนที่ถูกคัดทิ้งจนเติบโตขึ้นมาเอง และที่ทำให้เขายังละล้าละหลังอยู่ตอนนี้ก็เป็นเพราะเขายังไม่มีประสบการณ์ฆ่าซอมบี้เลยสักตัว จะดีกว่าไหมถ้าให้พวกทหารหรือใครสักคนเข้าไปเคลียร์ด้านในก่อน เขาไม่รังเกียจที่จะเก็บของเหลือกลับไปหรอก

ไม่ถึง 10 นาทีรถบรรทุกทหารคันหนึ่งก็มุ่งไปยังโรงงานน้ำตาลที่เฉินเฟิงหมายตา ชายหนุ่มเช็กตัวเองเล็กน้อยว่าตอนนี้อยู่ในจุดปลอดภัยที่จะไม่มีใครหาตัวได้ไม่ว่าจะกลิ่นหรือเสียง แต่ถ้าในกลุ่มนั้นมีมนุษย์กลายพันธุ์ก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เป็นดังคาด รถบรรทุกของทหารมาจอดอยู่หน้าประตูโกดัง ชัดเจนว่ากลุ่มคนที่มาคือทหารของที่ไหนสักที่ หรือที่จริงแล้วในเมืองสามารถกวาดล้างซอมบี้สำเร็จแล้ว?

เพราะข้อมูลที่มีนั้นน้อยเกินไป ชายหนุ่มจึงไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าตนควรทำอย่างไรต่อ จะอยู่บนเขาแล้วใช้ชีวิตตามมีตามเกิด หรือเขาควรไปขอความช่วยเหลือจากค่ายของทหาร เมื่อสถานการณ์สงบค่อยเดินทางกลับบ้านพร้อมขอความช่วยเหลือเรื่องโจรบุกรุกบ้าน

กรร…

!!!

เสียงซอมบี้!

ไม่ไกลจากจุดที่เขาอยู่ด้วย เข้ามาใกล้โดยที่เขาไม่รู้ตัวได้ยังไง!

ได้ยังไง... นี่มันเกิดอะไรขึ้น!

เสียงคำรามในลำคอทำให้เฉินเฟิงต้องระมัดระวังตัวมากกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่กล้าเคลื่อนไหวสุ่มสี่สุ่มห้า ไม่อย่างนั้นพวกทหารที่อยู่ในโรงงานน้ำตาลต้องรู้แน่ว่าเขาซ่อนตัวอยู่

กร๊าซซ!!

ซอมบี้ที่เคยมีระยะห่างกันหลายเมตรมุ่งตรงมาที่ซ่อนตัวของเขาอย่างไม่ลังเล

“จัดการก็ได้วะ” ถ้าไม่ทำก็คงกลายเป็นอาหารมันแบบง่าย ๆ  ชายหนุ่มนำขวานที่เป็นอาวุธมีคมเพียงหนึ่งเดียวในบ้านออกมาจากกระเป๋า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วันสิ้นโลกของผม   97 ความลับ (3) [5/5]

    “คุยแต่เรื่องซีรีส์ไม่ก็พวกหนังฆาตกรรมสยองขวัญที่เข้าฉายก่อนวันสิ้นโลก แถมเป็นพวกสายโซเชียลเหมือนกันก็เลยค่อนข้างมีเรื่องคุยเยอะ” ผิดกับเขาที่ชอบดูพวกสตรีมเมอร์หรือไม่ก็เล่นเกมออนไลน์มากกว่า จึงไม่ค่อยเข้าใจคำสแลงที่มีความหมายยาก ๆ ที่ทั้งสองคนใช้พูดคุยตลอดการเดินทาง“ก็ทำตัวสมกับเป็นวัยรุ่นดี” โจเซฟไม่ได้ออกความเห็นหากทั้งสองคนจะสนิทกัน เหมือนไอซ์จะปรับปรุงทัศนคติและความคิดของตัวเองได้บ้างแล้ว ส่วนเลวี่ถึงจะมีทีโอที่เคยเป็นรูมเมตอยู่ในกลุ่มด้วย แต่เพราะความรู้สึกที่มีให้กันนั้นเป็นไปในลักษณะของการชอบพอ ย่อมต้องมีเรื่องที่ไม่สามารถพูดกับอีกฝ่ายได้ หากมีคนให้ปรับทุกข์เรื่องส่วนตัวหรือแม้แต่เรื่องของทีโอก็คงจะดีไม่น้อย“ก็ไม่ได้ว่าอะไร…” ปากบอกไม่ว่าอะไร แต่น้ำเสียงกลับเบาลง ทั้งยังก้มหน้า ใช้เท้าเขี่ยหิมะเล่นราวกับเด็กน้อย ที่ถูกเพื่อนหยิบของเล่นที่ตนถูกใจไปแล้วทำอะไรไม่ได้“อะไรกัน เหงาเหรอเจ้าหนูทีโอ” โจเซฟแกล้งแหย่“ไม่ได้เหงาสักหน่อย หมอนั่นมีเพื่อนเพิ่มก็ดีแล้ว จะได้บ่นผมน้อยลง” คนปากแข็งยังคงง้างเท่าไรก็ง้างลำบากอยู่วันยังค่ำ แม้จะเริ่มสำรวจท่าทีของเลวี่มากขึ้น แต่ความไม่กล้าที่บ

  • วันสิ้นโลกของผม   97 ความลับ (3) [4/5]

    พวกเขาเลือกที่จะจอดรถห่างจากหมู่บ้านครูเมตตาไปประมาณ 3 กิโลเมตร ให้พ้นระยะการได้ยินของมนุษย์กลายพันธุ์ พอเช็กว่าไม่มีคนหรือสัตว์ประหลาดอยู่ในละแวกนี้ถึงค่อยยอมให้ไอซ์ใช้พลังนำปลานกกระจอกออกมาจากมิติ จากนั้นดาริณีก็นำเชือกท้ายรถมาผูกปลาทั้งสองเข้าด้วยกันแล้วเดินลากมันไปยังทางเข้าหมู่บ้านด้วยตัวคนเดียว คนที่เหลือก็ช่วยกันกรุยทางไม่ให้หญิงสาวเดินลำบากวิทย์ตกใจแทบตายเมื่อเปิดประตูมาแล้วเจอสมาชิกในทีมของโจเซฟลากสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ติดมือกลับมาด้วย หลังจากพิจารณากันอยู่ครู่หนึ่งวิทย์ก็ขอให้ลากปลาพวกนี้ไปวางไว้ที่สนามหญ้าหน้าสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ด้วยความใหญ่โตใกล้เคียงกับรถบรรทุกขนาดเล็กของปลาบินทั้งสองตัว ย่อมดึงดูดความสนใจของเด็ก ๆ ในบ้านได้เป็นอย่างดี หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ก็พยายามมาด้อม ๆ มอง ๆ เผื่อจะได้รับส่วนแบ่งมาสักคำสองคำเช่นกันเนื่องจากคนในค่ายของวิทย์นั้นมีเพิ่มมาพอสมควร อีกทั้งเด็กน้อยทั้งหลายก็ยังอยู่ในวัยกำลังโต ปลา 1 ตัวโดยไม่ตัดแบ่งสักส่วนจึงตกเป็นของหมู่บ้านครูเมตตาไปโดยปริยายจากนั้นก็ขอให้ไอซ์อยู่ที่บ้านครูเมตตาก่อนสักวันสองวัน พวกเขายังมีธุระที่ต้องไปต่อ ซึ่งไอซ์ก็ไม่ได

  • วันสิ้นโลกของผม   97 ความลับ (3) [3/5]

    ช่วงที่มีโรคระบาดนอกจากเชื้อไวรัสแล้ว สิ่งแปลกปลอมที่เรารับเข้ามาในร่างกายก็มีแค่วัคซีนที่รัฐบาลแจกจ่ายเท่านั้น“ถ้าใช่จริงเขาก็คงอยากจะยกระดับมนุษย์ให้พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งล่ะมั้ง” โจเซฟไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีที่มีคนบางกลุ่มคิดว่าพวกเขาเป็นหนูทดลองในกรงสีน้ำเงินใบนี้ “หรือตีความอีกอย่าง… คงมีคนหวังให้โลกวุ่นวายอย่างที่เป็นอยู่มาตั้งแต่แรก”“มีแต่เรื่องน่าปวดหัวทั้งนั้นเลย” เฉินเฟิงยกมือปิดตาแหงนคอพิงกับพนักโซฟา รู้สึกอ่อนล้าไปทั้งกายและใจ วันสิ้นโลกที่เขากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว“เหมือนการรีเซตโลกใหม่” ทำลายระบบของมนุษย์ให้สิ้นซาก ให้สัตว์กลับมามีอำนาจปกครองถิ่นของตนอย่างที่เคยเป็นเมื่อครั้งอดีตกาล แบ่งพื้นที่อยู่อาศัยกันให้พอดีกับความต้องการ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในมือให้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะคุ้มได้ก่อนทีจะมองหาทรัพยากรชิ้นใหม่“...” สิงหาเป็นนักวิทยาศาสตร์ เขาย่อมเข้าใจดีว่าการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนั้นสำคัญมากแค่ไหน ปัญหาก่อนหน้านี้อาจไม่ได้ส่งผลกระทบในยุคสมัยของพวกเขามากนัก แต่คนที่จะรับกรรมก็คือเด็กรุ่นหลังที่ถูกผู้ใหญ่ถลุงทรัพยากรไปอย่างละโมบโลภมากการที่โลกร้

  • วันสิ้นโลกของผม   97 ความลับ (3) [2/5]

    “ตอนที่ผมยังเด็กและเป็นแค่นักหัดวิจัยโนเนมเมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน มีโครงการหนึ่งที่โด่งดังมากในวงการนักวิทยาศาสตร์ เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนโดยเฉพาะ... พวกคุณรู้จักคำว่าโลกร้อนใช่ไหมครับ” สิงหาหันมาถามแขกก่อน เขาเคยได้ยินว่าชาวบ้านบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโลกร้อนคืออะไร ไม่รู้แม้กระทั่งว่าการกระทำของตนเองนั้นทำร้ายโลกที่เราอาศัยอยู่ไปมากน้อยแค่ไหน“เคยได้ยินสิ” มีการรณรงค์อยู่ทั่วทุกที่ ขอแค่เป็นคนที่อยู่ในโลกโซเชียลต้องมีผ่านตาสักครั้งแน่นอน“เพราะกิจกรรมในแต่ละวันของมนุษย์นั้นส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อโลกเพิ่มมากขึ้นในระดับที่เรียกได้ว่ามหาศาล พวกคุณคงเคยได้ยินเรื่องธารน้ำแข็งขั้วโลกที่ละลาย ทำให้แบคทีเรียที่เคยมีชีวิตอยู่เมื่อหลายล้านปีก่อนกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งใช่ไหมครับ นั่นนับเป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความตระหนกให้กับพวกเรานักวิจัยเป็นอย่างมากโครงการที่กล่าวมาจึงถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเตรียมรับมือกับอนาคต ผมไม่รู้รายละเอียดเชิงลึกมากนัก รู้แค่ว่าหลังจากที่มีการคัดนักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งไปเข้าร่วมการประชุมที่ต่างประเทศ เมื่อพวกเขากลับมาก็ไม่ได้ออกมาเผยแพร่การประชุมก

  • วันสิ้นโลกของผม   97 ความลับ (3) [1/5]

    หัวหน้าหน่วยหรือคนที่ทำคุณประโยชน์ให้กับค่ายพันธมิตรจะมีสวัสดิการที่ทางค่ายมอบให้แตกต่างกันไป อย่างสิงหาที่เป็นถึงระดับหัวหน้าก็ได้รับเสบียงอาหาร แต้มคะแนนรายเดือน การเข้าถึงข้อมูลสำคัญ การรักษาพยาบาล และบ้านประจำตำแหน่งสิงหาไม่ค่อยได้เข้ามาที่บ้านหลังนี้บ่อยนัก ภายในบ้านจึงมีเฟอร์นิเจอร์เพียงไม่กี่ชิ้น เพราะเจ้าของบ้านมักจะหมกตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อเฝ้างานวิจัยมากกว่า เมื่อต้องต้อนรับแขกคนสำคัญ นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะจึงต้องผันตัวมาเป็นพ่อบ้านเต็มรูปแบบ“ชาล็อต ขอผ้าขนหนูแห้งหน่อย” ก่อนหน้านี้เด็กหนุ่มกำลังง่วนอยู่กับการถูพื้นด้วยน้ำอุ่น แต่เขาดันถอยหลังไปชนถังน้ำจนมันหกราดไปทั้งบ้านออด~“อ๊ะ มากันแล้ว” สิงหาสะดุ้งเฮือก รีบลุกขึ้นแล้วก้าวไปที่ประตูโดยลืมไปว่าพื้นในบ้านยังคงเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ และทันทีที่สลิปเปอร์สำหรับใส่ในบ้านเหยียบของเหลวลงไป…พรืด! ตุบมีแต่เสียงก็เดาได้ว่าเด็กหนุ่มได้ลื่นก้นกระแทกพื้นไปแล้วเรียบร้อย“ขอโทษครับ ให้แขกเห็นภาพไม่น่าดูซะแล้ว” สิงหาในสภาพเปียกโชกไปทั้งตัวเดินออกมาเปิดประตูรั้ว ฝ่ามือข้างหนึ่งลูบสะโพกตัวเองป้อย ๆ ผายมือให้แขกทั้งสามเดินเข้ามาในตัวบ้าน

  • วันสิ้นโลกของผม   96 ความลับ (2) [5/5]

    “เดี๋ยวผมลองไปถามท่านนายพลเอง” โจเซฟว่าจบก็เตรียมจะเดินไปที่หน่วยทหาร ไอซ์จึงรีบวิ่งตามไปติด ๆ“แน่ใจนะว่าดูแลไหว” นิโคลัสหันไปมองทีโอที่เสนอแผนการนี้ขึ้นมา“ก็ดูเหมือนจะสำนึกได้บ้างแล้ว คงไม่มาก่อเรื่องหรอกมั้ง” ทีโอยักไหล่“คิดยังไงถึงจะพาเขาไปด้วย” ปกติเห็นเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน มาวันนี้กลับเสนอให้ไปเยี่ยมบ้านกันเสียอย่างนั้น“ปลาบินสองตัวเลยนะพี่นิค แบ่งให้สามหมู่บ้านได้สบายเลย” แถมยังอยู่ในสภาพสดใหม่อีกต่างหาก“แต่นั่นเป็นผู้มีพลังมิติที่มีเพียงคนเดียวในค่ายนะ” เจ้ากระต่ายไม่คิดว่าท่านนายพลจะยอมให้หลานชายออกไปด้านนอกอีก“ก็ไม่แน่นะครับ ตอนนี้ขอแค่เป็นหัวหน้าเราไปพูด ผมคิดว่าท่านนายพลต้องฟัง ระหว่างที่พวกเราไปบ้านบนภูเขาก็ให้ไอซ์พักอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไปก่อน” ไม่ได้มีความคิดจะเปิดเผยเรื่องเส้นทางลับแลกเปลี่ยนสิ่งของหรือที่ตั้งของหมู่บ้านในสมาพันธ์ผู้รอดชีวิต“เนื้อปลาหลังรถเราก็มีพอแค่กินกันในบ้านบนภูเขา แต่ถ้ามีเยอะ ๆ คงพอแบ่งให้กับอีกสามหมู่บ้านได้แน่ หน้าหนาวแบบนี้อาหารยิ่งมีเยอะเท่าไรก็ยิ่งดี” เขาอยากให้เด็ก ๆ ที่บ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้าได้กินเนื้ออย่างเต็มปากเต็มคำเหม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status