นิโคลัสไข้ขึ้นอยู่หนึ่งคืน เช้าวันถัดมาก็กลับมาเป็นปกติ แต่ที่ไม่ปกตินั่นก็คือการที่อีกคนก็ยังไม่ฟื้นคืนสติ เท่ากับว่าข้าวเย็นไม่ได้กิน แถมข้าวเช้าก็กินไม่ได้อีก เจ้ากระต่ายกลัวว่าคุณหมอหมีจะไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ จึงเอามะเขือเทศ (ไปเร่งโตเอาในสวนของบ้านครูเมตตา) มาคั้นเป็นน้ำให้ชายหนุ่ม อ้อ ไม่ลืมผสมเกลือเล็กน้อยด้วย เดี๋ยวจะกลืนไม่ลงจนกลายเป็นฝันร้ายได้“คุณเฉินเฟิง ที่นี่ยังพอมีพวกร้านสะดวกซื้อหรือห้างอยู่ คุณอยากลองออกไปหากระเป๋าหรือของใช้อย่างอื่นบ้างไหมครับ” วิทย์พูดขึ้นเมื่อเจอหน้ากันตอนเช้า เพราะต้องดูแลนิโคลัส เจ้าตัวจึงเอ่ยปฏิเสธในการร่วมรับประทานมื้อเช้ากับบ้านครูเมตตา ชายหนวดโค้งจึงต้องอาศัยช่วงที่อีกฝ่ายนำน้ำในกะละมังสำหรับเช็ดตัวไปรดในแปลงผักจึงค่อยเอ่ยปากชวน“แต่คุณนิค...” เจ้ากระต่ายมีท่าทีลังเล การต่อสู้เมื่อวานทำให้เขาเสียเป้ใบเก่งไป รวมถึงสัมภาระบางส่วนอย่างพวกเสื้อผ้าหรือชุดชั้นใน…“ผมขอให้คุณแม่มาคอยดูแลในตอนที่ท่านว่างแล้วครับ ท่านรับปากว่าจะพาเด็ก ๆ มาป่วนจนคุณนิโคลัสตื่นเลย” ชายหนุ่มอายุน้อยกว่าตบอกรับประกัน“ก็ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอรบกวนด้วยนะครับ” เฉิน
เฉินเฟิงมองสภาพเละเทะภายในห้างอย่างคาดไว้อยู่แล้ว บางจุดยังมีคราบเลือดแห้งเกรอะกรัง กลิ่นเหม็นเน่าไม่พึงประสงค์ลอยคละคลุ้งปะปนกับกลิ่นอับของฝุ่น“เอ่อ... พวกเรามีมาสก์นะครับ” ก่อนวันสิ้นโลกพวกเขาต้องกักตุนมันไว้เพราะโรคระบาด ในช่วงเวลานั้นก็ภาวนาว่าให้ตื่นมาในตอนเช้า โลกจะสดใสขึ้นไม่ต้องใส่มาสก์อีกมาตอนนี้ไม่รู้ว่าระหว่างโรคระบาดที่พาคนล้มตายกันเป็นแสนเป็นล้าน กับซอมบี้บุกล้างโลกในคราวเดียว อย่างไหนน่ากลัวกว่ากัน“ขอบคุณครับ” เฉินเฟิงรับมาด้วยความเต็มใจ กลิ่นเหม็นเน่าคงไม่สามารถกันได้ แต่กันฝุ่นสักนิดก็ดีเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นคงได้จามไม่หยุดวิทย์และกลุ่มพาชายหนุ่มมายังชั้นที่จัดแสดงสินค้าประเภทเสื้อผ้า“พวกคุณเก็บกวาดซอมบี้ได้หมดเลยนี่” เจ้ากระต่ายเอ่ยชม ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็ไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติเลย อีกทั้งยังไม่ทิ้งซากศพไว้ตามทางให้ระคายสายตา“ครับ เป็นเพราะพวกเราอยากนอนหลับอย่างสบายใจก็เลยพยายามกันมาก” ชายหนุ่มที่มีพลังพิเศษพยักหน้าด้วยความภาคภูมิใจ เขามีพลังไฟเพราะการออกมาเคลียร์ซอมบี้และได้รับบาดเจ็บ ดีที่สามารถผ่านพ้นช่วงเวลาแสนเจ็บปวดที่เหมือนร่างกายถูกแยกได้ อีกท
ต้องรู้สึกสิ้นหวังมากแค่ไหนกันนะ เมื่อมองไปทางไหนก็เจอแต่ซอมบี้และฝูงชนจำนวนมากที่พยายามวิ่งหนีเอาชีวิตรอด หากมีเด็กสักคนพลัดหลงกับพ่อแม่…“ได้หนังสือมาเยอะเลยนะครับ” วิทย์ทักขึ้นขัดภวังค์หดหู่ของอดีตผู้ช่วยเชฟ เฉินเฟิงจึงได้ปัดจินตนาการเหล่านั้นออกจากสมอง“ส่วนใหญ่ก็เป็นหนังสือทำอาหารน่ะครับ”“สมกับที่เป็นเชฟเลยนะครับ”“เคยเป็นครับ เคยเป็น” เจ้ากระต่ายแก้ เวลานี้ไม่มีทั้งภัตตาคารหรือลูกค้าอีกแล้ว เขายังสามารถเรียกตัวเองว่าเป็นเชฟได้อีกหรือเปล่าก็ไม่รู้“แต่ต้มจับฉ่ายเมื่อวานอร่อยมากเลยครับ” ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย “ไม่ได้เป็นเชฟในร้านอาหารแล้ว ก็เป็นเชฟวันสิ้นโลกได้นี่ครับ”เฉินเฟิงหลุดยิ้มออกมานั่นสินะ ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปยังไง เขาก็ยังคงรักการทำอาหารอยู่ดี…“อือ…”“ตื่นแล้วเหรอจ๊ะ” เมตตาผละจากนิตติ้งที่กำลังถักอยู่ ลุกขึ้นไปดูคนป่วย“ผม…” นิโคลัสปรือตามองเพดานไม่คุ้นตา ก่อนสมองจะประมวลได้ว่าก่อนหน้านี้เขากำลังทำอะไรอยู่ “อาเฟิง!”“ใจเย็นก่อนพ่อหนุ่ม” เห็นคนป่วยมีท่าทีสับสนมันงงครู่หนึ่ง ก่อนจะกระเด้งตัวเรียกหาเพื่อนในทีมแล้วก็เตรียมล้มฟุบไปอีกหน คนอายุมากกว่าก็ไม่ได้ว่องไวพอจะไปรับ
“มื้อเที่ยงจะทำอะไรเหรอครับ” เฉินเฟิงเดินเข้ามาในครัวเห็นครูเมตตาและสมาชิกในทีมของวิทย์กำลังเตรียมอาหารกัน“ว่าจะทำผัดผักบุ้งกับข้าวต้มจ้ะ” เพราะผักบุ้งคือผักที่โตง่ายที่สุดและสามารถตัดกินได้เรื่อย ๆ แทบจะเป็นมื้อหลักของบ้านครูเมตตาในยุคนี้“ถ้าอย่างนั้นผมช่วยนะครับ” เจ้ากระต่ายไม่ได้เสนอตัวช่วยเร่งโตพืชผักในสวนครัวเพื่อให้ได้ทำเมนูอาหารอย่างอื่นเพิ่ม แต่จะกินแบบเดียวกับที่พวกเขาทำแทน “ผมมีผลไม้อบแห้งที่เอามาด้วย ครูแบ่งให้เด็กกินคนละชิ้นนะครับ มีส่วนของพวกคุณวิทย์ด้วย” เฉินเฟิงยกให้พวกเขาทั้งกล่อง แต่ควรบริหารจัดการให้กินได้หลายวันหน่อย“ขอบคุณมากเลยนะ เป็นเพราะพวกคุณ เด็ก ๆ เลยมีอาหารอร่อยกิน” เมตตารับไว้ด้วยความยินดี เด็กอยู่ในวัยกำลังโต การที่ได้กินอาหารที่เหมาะสมจะทำให้การเจริญเติบโตของพวกเขาดียิ่งขึ้น ถ้าวันใดเฉินเฟิงหรือนิโคลัสขอความช่วยเหลือจากเธอละก็ เธอก็พร้อมจะให้ความร่วมมือเต็มที่“เห็นพวกเขากินกันอร่อยผมก็ดีใจแล้วครับ มาครับ เดี๋ยวผมช่วยสับกระเทียม” มัวแต่ขอบคุณกันไปมา เวลาอาหารคงถูกร่นลงไปอีก คุยไปทำไปดีกว่า“คุณครูพอจะมีพวกเมล็ดผักเหลือบ้างไหมครับ ที่ยังไม่ปลูกก็ได้” ผั
พอตกกลางคืนปัญหาใหม่ก็บังเกิดเขาจะนอนกับคุณหมอหมีอย่างสนิทใจได้ยังไงล่ะทีนี้“เดี๋ยวผมนอนข้างล่างก็ได้” นิโคลัสเห็นเชฟหนุ่มมองเตียงสลับกับมองเขา เดาว่าอีกฝ่ายคงลำบากใจที่จะต้องร่วมเตียงกับคนที่คิดเกินเลย แม้จะให้ความหวังแต่ก็ยังไม่ควรอยู่ชิดใกล้“ไม่” เจ้ากระต่ายรีบปฏิเสธ หัวคิ้วขมวดมุ่นชนกัน ก่อนจะถอนหายใจออกมาเสียงเบา “เฮ้อ ไม่ต้องหรอกครับ นอนด้วยกันนี่แหละ”“แต่คุณลำบากใจ”“มันก็ใช่ครับ แต่ผมไม่ได้ลำบากใจเพราะว่าคุณนิค เอ่อ คุณ…”“เพราะผมชอบคุณ”“...!!” พูดออกมาได้ง่าย ๆ อย่างนี้เลยเหรอพี่!“หมายความว่าอาเฟิงโอเคที่ผมชอบคุณ... ใช่หรือเปล่า” นัยน์ตาคมเบิกกว้างอย่างมีความหวัง ใบหูกลมบนศีรษะตั้งขึ้นเพราะความตื่นเต้น ต่างจากใบหูสีขาวที่ค่อย ๆ ลู่ลงเพราะประหม่าและเขินอาย“กะ... ก็ไม่ใช่ว่าไม่โอเค” พูดไปก็เสหน้าไปอีกทางไม่ไหวเขาสู้สายตาวิบวับของคุณหมอหมีไม่ไหว ถ้าเผลอจ้องมองไปนาน ๆ แล้วเขาต้องเผลอตอบตกลงไปทันทีจะทำยังไงไม่ได้สิ เขาต้องเล่นตัว เอ๊ย! ต้องศึกษากันไปก่อน จะปุบปับคบกันเลยไม่ได้!ถึงไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะได้เจอใครในอนาคตอีกหรือเปล่า แต่เขาก็ควรสแกนคนที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง
วิทย์ตาลีตาเหลือกวิ่งออกมาจากห้องนอนทั้งที่ยังไม่สวมเสื้อผ้าท่อนบนอยู่ ๆ ก็มีลูกน้องวิ่งไปปลุกเขาบอกว่าคุณนิโคลัสเรียกรวม ชายหนวดโค้งเห็นทั้งคุณหมอและคุณเชฟแต่งตัวรัดกุมก็รู้สึกเก้อกระดาก ยังดีที่ก่อนออกมาเขาคว้าเสื้อกล้ามใกล้มือติดมาด้วย ดังนั้นตอนนี้ขอใส่ก่อนล่ะ“เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ” หญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยถาม เธอรับอยู่เวรยามในค่ำคืนนี้ พอชายหนุ่มทั้งสองบอกให้ไปปลุกวิทย์และเพื่อนคนอื่นก็ไม่รอช้าแม้จะยังไม่ได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็ตาม“ผมกับอาเฟิงได้ยินเสียงเหมือนมีสัตว์ 4 ขาขนาดใหญ่อยู่ด้านนอก มันกำลังตรงมาที่นี่”“!!!”ชายหนวดโค้งรีบหันไปมองนอกกำแพงที่มีพลังป้องกันของคุณแม่กางล้อมรอบอยู่ ตอนวิ่งมาเขาไม่ทันสังเกตเห็นเลยว่าคุณแม่ได้ใช้พลังไปแล้ว“มันเข้ามาใกล้แค่ไหนแล้วครับ” วิทย์หน้าซีดเผือดรีบถามถึงสถานการณ์ปัจจุบัน“ใกล้มากแล้ว น่าจะห่างไปประมาณ 2 กิโล” เฉินเฟิงเองก็เผยสีหน้าเคร่งเครียด เจ้าตัวที่โผล่มายามวิกาลดูไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด“แล้ว… แล้ว…” ชายหนุ่มอึกอัก เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อ“ผมจะออกไปดูกับคุณนิคครับ ถ้าคุณอยากไปด้วยก็ตามมา แต่ต้องเหลือคนบางส่วนไว้คอยปกป้องที่นี่บ้าง” เจ้ากร
ตึง ๆ ๆ ๆเสียงฝีเท้าหนักกระทบกับพื้นเร่งจังหวะมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวินาทีที่ยังไม่เห็นว่าสิ่งที่ต้องเผชิญนั้นเป็นตัวอะไร ความหวาดกลัวยิ่งบีบรัดในช่องอกมากขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบจะขาดอากาศหายใจตึก ตักเฉินเฟิงกำเมล็ดฟักเขียวไว้ในมือแน่น เมื่อไหร่ที่เจ้าสัตว์กลายพันธุ์โผล่หน้าของมันออกมา เขาจะฝังเมล็ดลงดินและเร่งโตมันทันที และถ้าหากเห็นว่าพวกเราเสียเปรียบก็จะควบคุมเถาของมันไปรัดพันศัตรูไว้เพื่อสร้างโอกาสให้คนที่มีพลังต่อสู้สูงอย่างนิโคลัสได้เปิดฉากโจมตีตึง ๆ ๆ321พรึ่บ!ทุกคนพร้อมใจกันสาดไฟไปที่สัตว์กลายพันธุ์ที่โผล่ออกมาจากหัวมุมถนนกี๊ซซ!เสียงแหลมสูงถูกเปล่งออกมาด้วยความตกใจ เจ้าสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดไม่ต่างจากช้างยกอุ้งมือด้านหน้าปิดบังดวงตาของมันที่ถูกแสงเล่นงานอย่างไม่ทันตั้งตัวแร็กคูน!ไม่ผิดแน่ รอยแต้มสีดำรอบดวงตาเหมือนหน้ากากโจร มีหางสีดำสลับขาวคาดเป็นพวง เคยได้ยินว่าแร็กคูนเป็นสัตว์เลี้ยงที่ไม่ต้องมีทะเบียนรับรองเหมือนกับสัตว์นำเข้าชนิดอื่น แถมยังเพาะพันธุ์ขายกันในประเทศอีกด้วย ราคาค่าตัวก็ไม่ต่างจากสุนัขพันธุ์แพง ๆ เลยแต่ความยาวตัวเต็มวัยของแร็กคูนจะอยู่ที่ประมาณ 2 ฟุตครึ่งตั้
ไม่ผิดเลยที่ใครหลายคนมักบอกว่าแร็กคูนเป็นสัตว์ที่ฉลาดกว่าแมวและใกล้เคียงกับสุนัข อีกทั้งยังเป็นสัตว์ที่ชอบฉวยโอกาส อย่าได้เผลอวางอาหารไว้ในระยะสายตาของมันเด็ดขาดแล้วจะจัดการกับมันอย่างไร?เฉินเฟิงเองก็ฉุกคิดถึงข้อนี้ได้เช่นกัน มันฉลาดเกินไป การโจมตีเองก็ไม่มีแบบแผนตายตัว อีกทั้งยังปรับเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามความเหมาะสม“ทุกคนหาที่หลบ!!” วิทย์ร้องลั่น เรียกสติให้ทั้งสองคนหลุดจากภวังค์ความคิด เมื่อเจ้าแร็กคูนเกิดความรำคาญถึงขีดสุด มันทุบทำลายบ้านเรือนในบริเวณใกล้มือ จากนั้นก็นำเศษอิฐยกขึ้นปาใส่พวกเขาและนั่นยิ่งทำให้เข้าถึงตัวของมันยากขึ้นตามไปด้วยตูม ๆ ๆ ๆฝนอิฐถูกปาไปอย่างไม่มีแบบแผน แต่ก็สร้างความโกลาหลเล็ก ๆ ให้กับกลุ่มมนุษย์ได้เป็นอย่างดีตั้งแต่ต้นจนจบเฉินเฟิงไม่เคยออกจากที่ซ่อนตัว ชายหนุ่มจึงใช้จังหวะนี้เร่งโตต้นฟักเขียวให้เจริญเติบโต จากนั้นก็ค่อย ๆ เลื้อยไปตามท้องถนนจนในที่สุดก็มาถึงขาหลังของมันเจ้าสัตว์กลายพันธุ์ตัวยักษ์มัวแต่ให้ความสนใจกับมนุษย์ที่วิ่งหนีตายหลบการโจมตีทำให้ละเลยเสียงการเคลื่อนไหวเล็กน้อยของต้นไม้ใบหญ้าในความคิดของมันไป กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ถูกมัดขาทั้งสองข้างเ
หนึ่งชั่วโมงต่อมาทุกคนก็ไปรวมกันที่มินิมาร์ตอีกครั้ง หงส์กลับมาพร้อมกับคริสตัลซอมบี้สีใสจำนวน 12 เม็ด พวกมันถูกล้างทำความสะอาดมาเป็นอย่างดีแล้ว“แถวนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านมาเลยเหรอเนี่ย” การที่มีคริสตัลเกิดขึ้นในสมองของซอมบี้ได้นั้น หมายความว่าเจ้าพวกนี้ไม่ใช่ซอมบี้ที่เพิ่งเกิดในเร็ว ๆ นี้“คนน่าจะไปกระจุกตัวอยู่ในเมืองกันหมดแล้วล่ะค่ะ” หงส์ให้ความเห็นอาหารเย็นวันนี้เป็นปลากระป๋องกับแครกเกอร์ที่เฉินเฟิงใช้มันฝรั่งบดผสมรวมกับแป้งแล้วนำไปอบ ใช้เป็นอาหารฉุกเฉินยามออกเดินทางเพราะมีน้ำหนักน้อยและไม่ต้องยุ่งยากกับการประกอบอาหารนอกบ้านสำหรับทหารที่ผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน พวกเขากินกันไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ มีเพียงดาริณีและพิมพาที่ต้องพยายามกินให้มากหน่อย แม้รสชาติจะแปลกแปร่งเพราะไม่เคยกินแครกเกอร์กับปลากระป๋องมาก่อน ก็ต้องฝืนกินเข้าไปอีกหลายคำ วันนี้ใช้พลังไปเยอะต้องชดเชยสภาพความเป็นอยู่หลังออกจากเซฟโซนนั้นต้องรัดกุมทุกด้าน พวกเธอขอติดตามมาด้วยจะต้องอดทนและเรียนรู้ที่จะยอมรับและผ่านมันไปให้ได้ในสักวันหนึ่ง“กินน้ำให้พอดีนะคะ” หงส์แนะนำ “เกิดปวดห้องน้ำตอนกลางคืนจะลำบาก”“ถ้
“ใจร้อนอะไรครับเนี่ย” เฉินเฟิงตำหนิ“ใครใช้ให้เลียเจ้านี่ล่ะ” เขาไม่ของขึ้นจนลากคนรักไปทำกิจกรรมบนเตียงให้ถึงที่สุดก็นับว่าอดทนมากแล้ว มีอย่างที่ไหนยกมือข้างที่เลอะน้ำกามของเขาขึ้นดม หรี่ตาสีแดงลงคล้ายครุ่นคิดแล้วใช้ลิ้นสีแดงสดเลียเบา ๆ เป็นใครจะไปทนไหวเล่นเอาสติขาดผึงเลยทีเดียวซึ่งเจ้ากระต่ายน่าตีก้นก็ไม่ได้สำนึก ยกมือข้างที่ว่าขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา เพราะเมื่อกี้เผลอใช้มือข้างนี้ผลักอกคนรัก จึงมีบางส่วนที่ถูกเช็ดออกไปแล้ว“ก็ผมสงสัยนี่…” เฉินเฟิงคิดถึงการกระทำของตนเองเมื่อครู่ก็หน้าร้อนผ่าว แค่จินตนาการก็รู้สึกว่ามันต้องอีโรติกมากแน่ แต่จะให้ถอยก็ดูไม่เป็นตัวเขาสักเท่าไร “เลยอยากลองชิมว่ารสชาติเป็นยังไง” ช้อนดวงตากลมโตสีทับทิมเป็นประกายออดอ้อนคุณหมอหมีตัวโตที่ยังคงคร่อมอยู่ด้านบน“...” นี่กำลังพยายามแก้ตัวหรือยั่วเขาอยู่กันแน่ หือ “ที่รักทำแบบนี้พี่ของขึ้นอีกแล้วเห็นไหม” นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนก้มมองกลางกายของตนที่กลับมาแข็งตัวอีกครั้ง“ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ เป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติอยู่แล้ว” เฉินเฟิงยิ้มตอบพร้อมกับกระถดตัวลงไปอยู่ในระดับเดียวกับอาวุธของคุณหมอ“...”“เดี๋ยวผมปลอบให้มั
เฉินเฟิงนอนโรงพยาบาลเป็นคืนที่ห้าแล้วหลังจากฟื้นขึ้นมา เขายังคงกินนอนอยู่ที่นี่เพราะต้องทำกายภาพบำบัดให้ร่างกายกลับมาใช้งานได้ดังเดิมเมื่อเห็นว่าเจ้ากระต่ายปลอดภัยหายห่วง คนอื่น ๆ จึงเริ่มออกไปทำภารกิจกันถี่ขึ้น แม้แต่ทีโอเองก็ไม่ได้มานอนเฝ้าที่ห้องอีกแล้ว ภายในห้องจึงเหลือแค่ชายหนุ่มผมขาวและคนรักผู้มีใบหูหมีสีน้ำตาล กับคุณสิงหาที่จะแวะเวียนมาตรวจอาการทุกเช้าวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากทำกายภาพในตอนเช้าเสร็จ แพทย์เจ้าของคนไข้ดันบอกว่าตอนนี้สภาพร่างกายของเขาดีขึ้นมาแล้ว หากจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับคนรักก็ไม่มีปัญหามีสิครับหมอ!!เพราะเขากับนิโคลัสไม่เคยเกินเลยถึงขั้นนั้น ที่ผ่านมาก็มีแค่กอดกับจูบ ส่วนเรื่องเมคเลิฟอะไรนั่นตัดไปได้เลย ถ้าไม่ใช่นิโคลัสนอนเป็นผัก ก็มีภารกิจโหดหินรออยู่ พอรอดตายมาได้ก็กลายเป็นเขาที่นอนติดเตียงต่อ จะเอาเวลาไหนไปจู๋จี๋กันถามหน่อยไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิด แต่สถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวยให้คิดต่างหาก แม้จะไม่รู้ว่าระหว่างเขากับคนรักจะดำเนินขั้นสุดท้ายของการเมคเลิฟแล้วจะเป็นยังไง แต่ถ้าค่อยเป็นค่อยไปโดยเริ่มจากบทรักสุดเบสิกได้ละก็… บอกเลยเขาสู้ตาย‘พี่นิค’ เจ้ากระต่ายมองค
ขนาดที่ค่ายพันธมิตรยังมีคนที่มีหูสัตว์เกลื่อนกลาด เรียกได้ว่ามีประชากรที่เป็นทั้งมนุษย์ธรรมดาและมนุษย์กลายพันธุ์อย่างละครึ่งเลยล่ะ ส่วนผู้มีพลังพิเศษไม่ว่าที่ไหนก็ยังมีจำนวนน้อยนิดเหมือนกันหมด“งั้นผมขอไปกักตัวที่บ้านก่อนนะ” การกักตัวกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดไปแล้ว เมื่อไหร่ที่ออกไปด้านนอกจะต้องกักตัวเป็นเวลา 3 วัน ป้องกันไม่ให้นำเชื้อที่ติดตัวมาไปแพร่ใส่คนอื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม“ครับผม” กลุ่มหน้าประตูสองคนเดินไปส่งเฉินเฟิงและนิโคลัสที่บ้าน ถ้าเกิดชายหนุ่มกลายเป็นซอมบี้ระหว่างทางก่อนถึงบ้านขึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่ปังหลังประตูรั้วบ้านและประตูหน้าบ้านถูกปิด เฉินเฟิงก็มองสภาพบ้านที่ยังคงสะอาดสะอ้านไม่มีร่องรอยของคราบฝุ่นเป็นไปได้ยังไง?หรือว่าในตอนที่พวกเขาไม่อยู่มีคนเข้ามาอาศัย?“อ้อ พวกผมลืมบอกไป กลุ่มแม่บ้านเขาช่วยกันผลัดเปลี่ยนมาทำความสะอาดบ้านให้นะครับ พวกป้า ๆ เขาอยากตอบแทนเรื่องเสบียงสำรองที่ให้มา” เป็นกรที่ตะโกนมาจากนอกบ้านช่วยไขข้อข้องใจให้เจ้ากระต่ายพอดิบพอดี เกือบได้ระเบิดโทสะแล้วไหมล่ะ“ฝากขอบคุณด้วยนะ” เฉินเฟิงตะโกนกลับไป“ครับผม!” และได้รับการตะโกน
ลงมาถึงตีนเขาเฉินเฟิงก็แยกกับกลุ่มของโจเซฟ ชายหนุ่มยืนมองแก๊งจักรยานพากันปั่นเรียงแถวออกไปยังถนนเส้นใหญ่ที่เชื่อมติดกับทางเข้าหมู่บ้าน ยังดีที่บริเวณนี้ไม่มีซอมบี้เพ่นพ่านเพราะถูกกำจัดไปเยอะ อีกทั้งยังอยู่ห่างจากตัวเมืองที่มีประชากรมากก็ได้แต่หวังว่าพวกเขาจะปลอดภัยกลับมาอย่างสวัสดิภาพไม่สิต้องกลับมาปลอดภัยอย่างแน่นอน!“เอาไปกี่กล่องดี” นิโคลัสยกกล่องยาสมุนไพรออกมาจากหลังรถ“เอาไปสัก 3 กล่องก่อนก็แล้วกันครับ” ถือไปเยอะเดี๋ยวจะเด่นสะดุดตาเกินไป“โอเค” คุณหมอหมีพยักหน้าเข้าใจ ถือติดมือไปน้อยก็ดูไม่สมกับค่าครู แต่ถ้าเอาไปไปเยอะก็อาจทำให้บางคนเกิดความคิดไม่ดีขึ้นมาได้สมุนไพรแห้งเหล่านี้พวกเขาขนกลับมารวมแล้วมีมากกว่า 10 กล่อง นำขึ้นไปเก็บไว้บนภูเขาแล้ว 10 กล่อง ที่อยู่ตรงนี้จึงเป็นส่วนที่กันเอาไว้แบ่งปันให้คนในหมู่บ้านด้านล่างตั้งแต่ต้น แต่จะทยอยให้ทีละไม่มากไม่ให้ผิดสังเกต“ไม่รู้กลับหมู่บ้านครั้งนี้จะได้เจอกับป้ากิ่งแก้วอีกหรือเปล่านะครับ” เฉินเฟิงเอ่ยกลั้วหัวเราะ พวกเขาเจอกันทีไรมีแต่เรื่องชวนปวดหัวทุกทีถ้าให้เขาพูดแบบเห็นแก่ตัวหน่อยเขาอยากจะบอกเหลือเกินว่าถ้าหมู่บ้านนี้ขาดกิ่งแก้ว
“จักรยานมีทั้งหมด 5 คัน คนที่จะออกไปสำรวจก็คือ พี่ดา พี่พิม ตุ่น หงส์ และหัวหน้า ถูกต้องไหมคะ” หงส์ทวน พอดาริณียกมือขอไปด้วย โจเซฟก็ไม่รีรอรีบออกตัวว่าจะไปด้วยเช่นกันทันทีแหม… ไม่ค่อยออกนอกหน้าเลยนะหัวหน้า“อะไร… ก็แค่เห็นว่ายังมีจักรยานอยู่อีกหลายคัน” คนร้อนตัวรีบพูด“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ” หงส์หันไปหัวเราะคิกคัก ล้อเลียนคู่คนคุยที่หน้าแดงซ่านไปหมดแล้ว“แม่หน้าแดงมากเลย” ขนาดเด็กชายดลยังอดแซวแม่ตัวเองไม่ได้ตกลงเรื่องจำนวนคนกันเสร็จสรรพ ก็ออกไปจัดเตรียมแพ็กกระเป๋าบ้านใครบ้านมัน เฉินเฟิงเองก็เตรียมเก็บของเช่นกัน เพราะเขากับคนรักมีแพลนจะลงไปนอนที่บ้านของตนในหมู่บ้าน และถือโอกาสสอบถามหมอยาสมุนไพรว่าจะสามารถสอนความรู้ให้ตนได้หรือไม่หรือถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้นิโคลัสได้เรียนด้วย“เดี๋ยวนะครับ จะไปกันหมดวันนี้เลยเหรอ” ทีโอคิดว่าจะออกเดินทางในอีกวันหรือสองวันข้างหน้า ใครจะไปคิดว่าพอตัดสินใจเสร็จปุ๊บก็เก็บของปั๊บ“จะช้าอยู่ทำไมล่ะ ขืนมัวแต่โอ้เอ้คงมีคนอื่นตัดหน้าไปก่อน” หงส์“ตามใจ” ทีโอถอนหายใจ ดูท่าเย็นนี้คงต้องให้เด็ก ๆ กินปลากระป๋องแล้วล่ะ “ระวังตัวกันด้วยนะครับ”“คราวนี้ไม่ประมาทอีกแน่”
“ก็ดีนะ” นิโคลัสพยักหน้าเห็นด้วย“แต่น้ำมันรถที่มีจะไม่พอให้เราตะลอนหาของได้ตามใจชอบน่ะสิ” โจเซฟส่ายหน้าเห็นต่าง พวกเขาไม่มีถังน้ำมันสำรองกักตุนไว้ในปริมาณมาก ดังนั้นจึงค่อนข้างเป็นกังวลหากต้องนำรถออกไปตระเวนหาของอย่างไม่รู้ทิศทาง“ขี่จักรยานไปไง” หงส์เสนอ“ไหวหรือ?” โจเซฟไม่ได้มีเจตนาดูถูก แต่ขี่จักรยานไปในสถานการณ์ที่ไม่ปกติแบบนี้ค่อนข้างเสี่ยงเอาการ ไหนจะอากาศประเทศ T ที่ไม่ค่อยปกตินัก บางวันก็ร้อนจนอยากจะนั่งแช่น้ำทั้งวัน บางวันก็ฝนตกหวิดจะเกิดโรคระบาดจากน้ำอีกรอบ“ถ้ารู้เส้นทางเข้าเมืองก็ไม่น่าจะยากไม่ใช่เหรอคะ” อีกอย่างจักรยานที่เอามาก็เป็นจักรยานเสือภูเขา มีไว้สำหรับเร่งความเร็วอยู่แล้วถ้าเจอซอมบี้ก็แค่ใช้พลังสู้กับมัน“ถ้าไม่ออกไปหาของตอนนี้ อีกหน่อยก็ไม่เหลืออะไรให้หาแล้วล่ะค่ะ” พอมนุษย์ที่เคยเอาแต่หวาดกลัวเริ่มปรับตัวได้ พวกเขาจะสามารถเรียกความกล้าและออกไปผจญอันตรายเหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเธอเชื่อว่าอย่างนั้นไม่มีใครเอาแต่สั่นกลัวอยู่แต่ในบ้านได้หรอก“ถ้าอย่างนั้นพิมขอไปด้วยได้ไหมคะ” หญิงสาวยกมือ“แม่!” พลอยใสตกใจตาโต “ถ้าแม่ไปพลอยก็จะไปด้วย” เด็กสาวรีบยกมือตาม ก่อนจะ
“อร่อย! อร่อยมาก!!” เขาไม่เคยกินอาหารรสชาติแบบนี้มาก่อนเลย“อร่อยก็ดีแล้วครับ ปะ พวกเรายกไปที่โต๊ะเลยดีกว่า” เห็นคนรักไม่บาดเจ็บในปากก็โล่งอก ยิ้มกว้างให้กับเมนูอาหารในวันนี้ ดีที่ตอนนั้นหลังจากได้ชิมต้มหมูชะมวงของเชฟในครัวเขาก็ไปค้นหาสูตรอาหารชนิดนี้ในอินเทอร์เน็ตต่อ ทำพลาดอยู่ 4-5 จานก็ได้รสชาติคล้ายคลึงที่สุดเท่าที่จะทำได้อืม… เขาก็เก่งเหมือนกันนะเนี่ย //ยืดหลังอาหารทยอยเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ ภาพบรรยากาศแสนสุขก็กลับมาอีกครั้ง เด็ก ๆ ตักแกงกินกับข้าวคำโต ผู้ใหญ่พูดคุยกันเรื่องสัพเพเหระ นั่งปรึกษากันว่าพรุ่งนี้จะทำอะไร มีตรงไหนต้องปรับปรุง พอของคาวหมดก็ต่อด้วยเมนูผลไม้ล้างปาก เป็นส้มโอที่ถูกบิเนื้อออกเป็นเส้น ๆ แล้วนำไปคลุกเคล้ากับน้ำตาลและน้ำปลา ได้รสชาติหวานเค็มตัดกับความเปรี้ยวอมหวานของส้มโอเมื่อไม่เหลืออาหารให้จัดการอีก ตุ่น หงส์ และทีโอก็อาสานำภาชนะทุกชิ้นไปล้างโดยมีเด็กซน 3 คนออกตัวว่าอยากไปช่วยล้างด้วย ไม่รู้ว่าไปช่วยหรือไปป่วนกันแน่ฟากมังคุดก็นั่งเลียปากเลียมือ นอนตีพุงอย่างสุขใจ มันเพิ่งเคยกินอาหารที่ชายหนุ่มทำแบบเต็มที่ เครื่องแน่น ๆ เน้น ๆ แบบนี้เป็นครั้งแรกอร่อยมาก… อร่อยจนไ
อีกสาเหตุหนึ่งที่เฉินเฟิงเลือกเมนูนี้ขึ้นมาก็เพราะตอนอยู่ในค่ายเขาได้ไปแลกบางสิ่งบางอย่างมาจากตลาดนัดในค่ายพันธมิตร ราคาของมันเรียกได้ว่าแพงหูฉี่ กระปุกหนึ่งราคา 8 แต้ม กว่าจะต่อรองมาได้ก็เปลืองน้ำลายไปเยอะ แต่พอแม่ค้าเห็นว่าโจเซฟยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มก็ลดราคาให้อย่างเร็วเหลือเพียง 6 แต้ม สมกับเป็นเทพเดินดินของคนในค่ายพันธมิตรจริง ๆซึ่งเจ้าสิ่งนั้นก็คือ… กะปิและน้ำมันพืชนั่นเอง!ผู้คนส่วนมากในค่ายไม่นิยมทำอาหารกินเองเพราะใช้แต้มคะแนนไปแลกอาหารที่โรงอาหารได้หลากหลายกว่าเฉินเฟิงแทบจะใช้แต้มคะแนนที่มีทั้งหมดแลกมันมาให้ได้มากที่สุด มีน้ำปลากับซีอิ๊วหวานอีกอย่างที่ขาดไม่ได้เลย พอเห็นว่าตรงไหนมีวางขายก็อยากจะซื้อมาให้หมดเชฟใหญ่ประจำบ้านตระเตรียมวัตถุดิบประกอบอาหาร มองข้าวของบนโต๊ะที่มีครบอย่างที่อาหารจานหนึ่งควรจะเป็นด้วยสีหน้าอิ่มเอิบอา… มีเครื่องปรุงพร้อมนี่มันสวรรค์ชัด ๆอิ่มเอมกับบรรยากาศเครื่องปรุงและวัตถุดิบรอบตัวเรียบร้อยแล้วก็เริ่มจากทำเครื่องแกงก่อนเป็นอันดับแรก โดยคนที่รับหน้าที่นี้คือเฉินเฟิง ส่วนสองสาวจะนั่งฉีกใบชะมวงและหั่นเนื้อตะโขงแดดเดียว ก่อนจะนำไปล้างน้ำเพื่อล้างความเค็ม