การที่ค่ายมีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้รอดชีวิต อย่างน้อยหากพวกเขาบาดเจ็บหรือมีโรคประจำตัวก็ไม่ต้องกังวลว่าจะรักษาไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือการขยันทำงานเก็บแต้ม หากเกิดเหตุไม่คาดฝันจะได้ไม่ต้องวิ่งเต้นขอหยิบยืมคะแนนใครเพราะแค่ยาลดไข้ธรรมดาก็ใช้แต้มคะแนนไม่น้อยแล้วเฉินเฟิงมองโรงพยาบาลขนาดใหญ่ตรงหน้า เขาเองก็เคยมารักษาตัวที่นี่เช่นกัน เขาไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรง แค่เกิดอุบัติเหตุน้ำร้อนลวกเป็นแผลพุพองเล็กน้อย แต่เพราะภัตตาคารที่ทำอยู่มีสวัสดิการให้เบิกค่ารักษาพยาบาลที่นี่ได้ เขาเลยได้มีโอกาสมาเยือนโรงพยาบาลแห่งนี้นิโคลัสเป็นคนติดต่อขอพบกับหัวหน้าหน่วยวิทยาศาสตร์และการแพทย์ เพราะไม่ได้นัดไว้ล่วงหน้าจึงต้องนั่งรอที่ล็อบบี้ชั้นล่างเกือบหนึ่งชั่วโมง คนที่พวกเขามาขอพบจึงปลีกตัวลงมาได้“ขอโทษที่ให้รอนานนะครับ” สิงหาในชุดเสื้อเชิ้ตสีเขียวมินต์ทับด้วยกาวน์สีขาวเดินมาหาชายหนุ่มทั้งสองคนทันที จะว่าไปคนที่มากับนิโคลัสคือคนคนเดียวกับที่่สถานพยาบาลนี่นา ในที่สุดกลุ่มของคุณโจเซฟก็มีสมาชิกเพิ่มแล้วสินะ“ไม่ครับ เป็นพวกเราที่ไม่ได้นัดก่อนล่วงหน้า” นิโคลัสส่ายหน้าปฏิเสธ รู้ดี
“แข็งขนาดนั้นเลยเหรอครับ” จะว่าไปตอนพวกเขาเผาศพซอมบี้ก็มักจะเก็บเกี่ยวคริสตัลได้ ไม่ได้กลายเป็นเถ้าเหมือนกับร่างของพวกมัน“ครับ พวกเราลองมาหลายวิธีแล้ว ว่าแต่คุณนิโคลัสก็คงได้รับเชื้อซอมบี้มาสินะครับ”“อืม” คุณหมอหมีพยักหน้า“ถ้าอย่างนั้นอยากลองกระตุ้นพลังด้วยวิธีอื่นดูไหมครับ” สิงหารีบเสนอไปทางเฉินเฟิง มือสองข้างกำหมัดแน่น อยู่ ๆ เขาก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ หากสำเร็จละก็!จะต้องทำให้มนุษยชาติโต้กลับพวกซอมบี้หรือสัตว์กลายพันธุ์ได้แน่!!สิงหาพาเฉินเฟิงและนิโคลัสมายังห้องทดลองของตนเองใกล้กับห้องผู้บริหารที่อยู่ถัดไป โรงพยาบาลแห่งนี้งดใช้ลิฟต์เนื่องจากต้องสำรองไฟไว้ให้ห้องเก็บอุณหภูมิ นักวิทย์ฯ หมอและพยาบาลก็ต้องฟิตร่างกายกันหน่อย“นี่เป็นวัคซีนป้องกันเชื้อซอมบี้ที่ผมเพิ่งทำการวิจัย เจ้าตัวนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง ต้องขอบคุณพวกคุณมากเลยนะครับที่นำเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์กลับมาได้ แถมยังเอาเครื่องสังเคราะห์สารพันธุกรรมกลับมาได้อีก ทำให้งานทดลองของผมคืบหน้าไปเร็วมาก ตอนนี้วัคซีนทดลองชุดแรกก็ทำเสร็จแล้วครับ”“ผมลองใช้มันกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 2 ชนิดด้วยกัน นั่นก็คือหนูและกระต่ายอย่างละ 5 ต
สิงหามีวัคซีนอีกชุดหนึ่งที่เขายังไม่เคยทำการทดลองกับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นนอกจากกระต่ายชาล็อตที่รอดมาอย่างปาฏิหาริย์ เขาก็ยังไม่รู้ว่าควรปรับปรุงวัคซีนที่ตรงไหนเพราะตัวอย่างการทดลองน้อยเกินไป เคยแจ้งเรื่องนี้กับทางสำนักงานประกาศภารกิจแล้ว ว่าช่วยหาตัวอย่างการทดลองจำพวกหนูหรือกระต่ายมาให้หน่อยมีคนรับงานไปทำนะ…แต่กลับไม่มีสัตว์เหล่านั้นมาถึงห้องทดลองต้ม ผัด แกง ทอดไปหมดแล้วมั้ง?เนื้อสัตว์เป็นอะไรที่หายากมาก ๆ พวกหนูที่เพาะพันธุ์ไว้สำหรับการทดลองก็โตไม่ทันใช้ เพราะในหน่วยวิทยาศาสตร์นี้มีใครบ้างล่ะที่ไม่ต้องการสัตว์ทดลองไปใช้ในงานวิจัยของตัวเองเจ้าสัตว์ตัวจิ๋วพวกนี้จึงมีค่ายิ่งกว่าแต้มคะแนนที่ผู้รอดชีวิตขวนขวายหามาเสียอีกในสายตาของนักวิทยาศาสตร์ งานวิจัยหลายอย่างจึงยิ่งต้องพิถีพิถัน นอกจากวัตถุดิบทดลองจะน้อยแล้ว…สารตั้งต้นที่มีก็ช่างจำกัดจำเขี่ยเหลือเกิน“ผมขอดูสารประกอบทั้งหมดหน่อย” นิโคลัสไม่ได้วางใจให้คนรักฉีดทันที เขาเองก็เป็นหมออย่างไรก็คุ้นชินกับพวกงานวิจัยอยู่บ้าง“นี่ครับ ๆ” หากเป็นคนอื่นสิงหาคงไม่มอบรายละเอียดส่วนประกอบผลงานที่ยังไม่สำเร็จของตนให้เด็ดขาด แต่เพราะนี่ถือเป็นการทดล
การจะฉีดวัคซีนได้นั้นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดก็คือความพร้อมของร่างกาย วันนี้หมีกระต่ายจึงถูกไล่กลับไปกินอาหารและพักผ่อนก่อนหนึ่งวัน พรุ่งนี้ค่อยมาพบสิงหาที่โรงพยาบาลแห่งนี้อีกครั้งนิโคลัสเล่าเรื่องที่ตนจะเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสซอมบี้ในวันพรุ่งนี้ให้กับสมาชิกในทีมฟัง โจเซฟไม่ได้ว่าอะไรเขายอมรับการตัดสินใจของลูกทีมเสมอ โดยมีทีโอที่พยายามโน้มน้าวให้พวกเขารอให้ผลการทดลองนิ่งกว่านี้ก่อนจะดีกว่า“เกิดฉีดไปแล้วหัวใจวายเฉียบพลันขึ้นมาเหมือนหนูทดลองล่ะครับ” ขนาดวัคซีนก่อนวันสิ้นโลกเองก็ยังพัฒนาไปไม่ถึงไหน ยิ่งเวลานี้มีข้อจำกัดในทุกด้านไม่สมบูรณ์พร้อมสักอย่างย่อมสุ่มเสี่ยงมากกว่าแน่ ๆ“นั่นมันตอนที่ร่างกายเราไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง เซลล์ทุกอย่างยังคงเป็นมนุษย์ธรรมดาอยู่ แต่ตอนนี้เวลานี้ร่างกายที่เป็นของเราล้วนไม่มีใครรู้จักดีแม้แต่ตัวเราเอง” นิโคลัสส่ายศีรษะ ตัดสินใจแล้วว่าจะรับวัคซีนพร้อมคนรัก หากต้องเห็นคนรักกลายเป็นซอมบี้หรือหัวใจวายเฉียบพลันขึ้นมา เขาก็พร้อมจะตามไป…ชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ล้วนไร้ความหมายหากไม่มีเจ้ากระต่ายเคียงคู่เขาจะกินอาหารอีกต่อไปได้ยังไง… เมื่อคนทำอาหารไ
“วันนี้ก็ครบวันที่ 7 แล้วนะครับ มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะอีกไหมครับ” สิงหาหยิบชาร์ตคนไข้เดินเข้ามาในห้องพัก VVVIP บนเตียงขนาดใหญ่มีนิโคลัสนอนให้น้ำเกลืออยู่ หลังจากฉีดเข็มแรกเข้าไปคนที่น็อกร่วงกลางอากาศเป็นคนแรกกลับไม่ใช่เฉินเฟิงที่น่าเป็นห่วงที่สุด“ดีขึ้นมากแล้วครับ สองวันนี้ไม่มีอาการอะไรเลยนอกจากอ่อนเพลียเล็กน้อย” นิโคลัสนอนสำรวจตัวเองครู่หนึ่ง อาการหัวใจเต้นแรงที่ปรากฏขึ้นเป็นบางครั้งเหมือนว่าจะหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว“ผมลองสแกนกับตรวจคลื่นหัวใจแล้วไม่มีอะไรผิดปกตินะครับ” สิงหาแปลกใจกับอาการของคุณหมอหนุ่มมาก อาการที่เกิดขึ้นกับอีกฝ่ายเป็นนิมิตหมายอันดีของโรคภัยไข้เจ็บ แต่ผลตรวจร่างกายกลับไม่พบอะไรเลย อ้อ มีค่าความเข้มข้นของเลือดที่สูงขึ้น จด ๆ“คิดว่าคงไม่เกี่ยวกัน เชื้อซอมบี้อาจจะไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วส่งผลให้ร่างกายเกิดการ… @%^&%@” เฉินเฟิงกับทีโอนั่งมองหมอสองคนที่เริ่มคุยเรื่องการแพทย์กัน คำศัพท์ที่ไม่เคยได้ยินบินว่อนเต็มห้องพักไปหมด แต่ก็ไม่มีใครเข้าไปแทรกบทสนทนาเพราะรู้ว่าเป็นเรื่องสำคัญ“แล้วอย่างนี้ผมจะเริ่มกินคริสตัลเม็ดนี้ได้หรือยังครับ” เฉินเฟิงหยิบคริสตัลสีเหลืองอ่อนออกม
นักวิทย์ฯ อัจฉริยะมองทรัพยากรต่าง ๆ ที่ถูกใช้ไปแล้วก็ครุ่นคิดต่อ การจะให้คนคนหนึ่งเลื่อนขึ้นเป็นระดับ 2 จะต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่อย่างนั้นจะประสบปัญหาเดียวกับทีโอ ทั้งที่เลื่อนเป็นระดับ 2 แล้วแต่ร่างกายที่ไม่ได้รับสารอาหารเลยตลอด 1 เดือนย่อมไม่มีเรี่ยวแรงมากพอจะไปหาอาหารมาบำรุงส่วนที่สูญเสียไปได้ หากปล่อยทิ้งไว้อีก 1 สัปดาห์คงเสียชีวิตไปอย่างน่าเสียดายเป็นจริงอย่างที่สิงหาคาดเดา กลุ่มผู้รอดชีวิตด้านนอกที่เจอสถานการณ์การเลื่อนเป็นระดับ 2 เพียงลำพังล้วนตายจากไปโดยที่ไม่มีใครรู้ บางคนเห็นเพื่อนถูกซอมบี้กัดก็ปลิดชีวิตกันก่อนจะได้พิจารณาอาการเบื้องต้นด้วยซ้ำ พลอยทำให้มนุษย์ยังคงติดอยู่ในระดับ 1 ไปอีกหลายเดือนกว่าสิงหาจะประกาศผลการทดลองนี้“อาหารเช้ามาแล้วครับ” ทีโอถือกล่องใส่อาหารเดินเข้ามาในห้อง ดีนะที่เขาเป็นผู้มีพลังพิเศษระดับ 2 และมีร่างกายแข็งแรง เปลี่ยนเป็นให้คนธรรมดาเดินขึ้นบันได 10 ชั้นทุกวันก็ไม่ไหวหรือเปล่า แถมยังต้องไปเช้า กลางวัน เย็นด้วย “ผมเจอหลานท่านนายพลที่โรงอาหารอีกละ ทักถามหาพี่ทุกวัน”“ช่างหมอนั่นเถอะ” และนี่ก็เป็นคำตอบที่นิโคลัสตอบกลับไปเช่นเดิม“ผมก็ไม่ได้อ
…“อื้อ…” เสียงร้องจากริมฝีปากบางซีดพาให้คนที่กำลังฟุบหน้านอนอยู่ข้างเตียงรู้สึกตัว ใบหูกลมสีน้ำตาลกระดิกไปมาราวกับจะหาต้นตอของเสียง วันนี้เขาอยู่เฝ้าคนรักเพียงคนเดียว สามคนที่เหลือนัดแนะกันว่าจะไปเดินเล่นที่ตลาดนัดกลางคืนแล้วกลับไปนอนที่บ้านเช่า“อือ”“อาเฟิง!” นิโคลัสรีบเงยหน้ามองคนรักในความมืด แสงจันทร์จากหน้าต่างส่องให้เห็นเรียวคิ้วของเจ้ากระต่ายที่กำลังผูกกันเป็นโบหรือว่าจะไข้ขึ้น?คุณหมอหมีใช้หลังมือตนเอง แตะหน้าผาก แก้ม และลำคอ… ก็ไม่มีไข้หรือว่า!!“ที่รัก คุณตื่นแล้วใช่ไหม อาเฟิง อาเฟิง” ชายหนุ่มจ้องมองดวงตาที่ปิดสนิทคู่นั้นอย่างตั้งใจ จินตนาการถึงนัยน์ตาสีทับทิมเปล่งประกายที่เขาชอบจ้องมอง และหวังว่าวันนี้จะได้เห็นมันอีกเพียงแค่เปลือกตาของคนที่นอนอยู่ขยับขึ้นเท่านั้นและดูเหมือนว่าคำภาวนานั้นจะเป็นจริงเฉินเฟิงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นท่ามกลางความมืด ทั้งที่รู้สึกว่ากำลังลืมตา แต่ภาพด้านหน้าก็ยังคงดำมืด…หรือว่าเขายังคงฝันอยู่?“อาเฟิง” เสียง…เจ้ากระต่ายหันเหสายตาไปมองด้านข้าง มือของตนถูกบางสิ่งบางอย่างกอบกุมอยู่ ฝ่ามือหนาอุ่นนี้เขาคุ้นชินนัก“พี่... นิค” เสียงที่ถูกเปล่งออกมาทั้งแห
ตอนแรกเฉินเฟิงไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตนเองมีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้นมา คิดว่าตนเองนั้นคงสามารถใช้พลังพฤกษาได้หลากหลายกว่าเมื่อก่อน การควบคุมที่เคยเชื่องช้าคงมีความเร็วเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแน่คราวนี้ล่ะ!เขาจะได้เป็นกระต่ายแนวหน้าเสียทีจะลอกวิธีการต่อสู้ของพวกพืชมหาภัยที่เคยเจอมากับตัวเองให้ดู!จุดเริ่มต้นนั้นมาจากไม้ประดับที่ใช้ตกแต่งในห้องพักผู้ป่วยของเขาเอง คาดว่าแต่เดิมห้องนี้อาจจะเป็นห้องที่คนรวยมีเงินในยุคก่อนซื้อไว้ ยามเจ็บไข้จะได้พักผ่อนได้ทันทีโดยไม่ต้องรอเตียงจากทางโรงพยาบาล เพราะที่นี่มีต้นฟิโลเดนดรอนถูกตั้งไว้อยู่ เขาก็จำชื่อไม่ค่อยได้ว่าชื่อเต็ม ๆ ของมันคือต้นอะไร เอาเป็นว่าตามหลักแล้วโรงพยาบาลคงไม่มีทางนำของเหล่านี้มาประดับห้องผู้ป่วยแน่นอนเพราะพืชชนิดนี้… มีพิษเฉินเฟิงมีเพื่อนร่วมงานที่ชอบซื้อต้นไม้ในกระแสมาปลูกมาก ต้นไหนที่ว่าแพงหรือต้นไหนที่เรียกทรัพย์ก็จะไปกวาดซื้อมาไว้ในครอบครองให้ได้ หนึ่งในนั้นก็คือฟิโลเดนดรอนที่เจ้าตัวดูจะชอบมากเป็นพิเศษครั้งหนึ่งเคยมีเด็กฝึกงานไปกินเลี้ยงที่บ้านนั้น พอเหล้าเข้าปากก็ก่อกวนกันเต็มที่ แม้เจ้าของบ้านจะแยกส่วนสถานที่กินเลี้ยงและ
“ดูเหมือนจะมีการแจกจ่ายงานด้วย” เด็กสาวยิ้มยินดี จะให้ล้างจานหรือกวาดถนนก็ทำได้ทั้งนั้น ขอแค่สามารถมีชีวิตต่อไปในแต่ละวันก็พอกลุ่มผู้รอดชีวิตบางคนก็มีชีวิตที่ดีขึ้นหลังได้ออกมาอยู่รวมกันในค่าย ไม่ต้องคอยหวาดระแวงในเวลากลางคืน ขอแค่ขยันอดทนก็ทำงานแลกข้าวกินได้ 3 มื้อ ไม่ต้องอดอยาก แต่บางคนที่หลงเข้าไปในค่ายที่มีการจัดการที่ค่อนข้างแย่ อีกทั้งยังผูกขาดอาหารและน้ำไว้ที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ใครที่เผลอหลงเข้าไปต่อให้อยากหนีก็มีแต่ต้องทิ้งชีวิตแล้วไปเกิดใหม่อย่างที่โจเซฟและกลุ่มจะได้เจอหลังจากนี้...“จะเข้าไปที่ห้างเหรอ เสียใจด้วยนะ ถิ่นนี้พี่จอง” ก่อนถึงห้างสรรพสินค้า ตุ่นและหงส์รับรู้ได้ว่ามีคนจับจองที่แห่งนั้นเป็นฐานที่มั่นแล้ว เพราะมีทั้งเสียงผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา และมีเสียงการฆ่าซอมบี้ด้วยเช่นกัน โจเซฟตัดสินใจจะแสดงเป็นกลุ่มผู้รอดชีวิตที่มาหาที่พึ่งเพื่อดูว่าค่ายขนาดเล็กนี้มีความเป็นอยู่อย่างไร ถ้าหากเจรจากันได้ก็จะลองพูดคุยดู แต่สีหน้าและท่าทางของหงส์ก็ทำให้เขาเปลี่ยนใจ“เปล่า พวกเราแค่ผ่านมา” โจเซฟมองชายที่สักลายไว้ทั่วตัว หมอนั่นถือขวานขนาดใหญ่ไว้ ตามร่างกายมีเกล็ดขึ้นประปราย คล้ายกั
กลุ่มค้นหาสิ่งของจำเป็นทำแบบนี้อยู่หลายวัน บางสถานที่ก็เก็บกวาดมาได้เยอะ และบางทีก็เรียกได้ว่ามาเสียเที่ยว จนกระทั่ง 2 สัปดาห์ต่อมาพวกเขาก็ได้พบกับกลุ่มผู้รอดชีวิตกลุ่มใหญ่ที่กำลังมุ่งหน้าเข้าตัวเมือง“พวกคุณก็จะเข้าตัวเมืองเหมือนกันเหรอ” ชายชราคนหนึ่งถาม เขาถูกลูกหลานคะยั้นคะยอให้ออกจากบ้านหลังเก่าที่ใช้ซุกหัวนอนมาหลายชั่วอายุคน เหตุผลเพราะละแวกที่อยู่อาศัยไม่สามารถหาอาหารได้อีกแล้ว ประจวบเหมาะกับมีคนออกมาทำภารกิจและบอกว่าในตัวเมืองมีค่ายพิเศษที่นักการเมืองในท้องถิ่นเป็นคนจัดตั้งขึ้น พวกเขาจึงหมายมั่นปั้นมือว่าจะไปเข้าร่วมด้วยเดิมทีพวกเขาเป็นครอบครัวใหญ่ที่อาศัยอยู่ในโฉนดที่ดินเดียวกัน เพราะเป็นญาติพี่น้องที่บรรพบุรุษแบ่งสันปันส่วนที่ทางให้แต่ละคนปลูกบ้านและทำมาหากินร่วมกัน เมื่อถึงเวลาฉุกเฉินจึงรวมตัวกันช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้อย่างรวดเร็ว พวกเขามีตั้งแต่คนแก่อายุ 60 ปีขึ้นไป และเด็กน้อยไม่ประสาลืมตาดูโลกไม่ถึงหนึ่งขวบปีดี เมื่อนับรวมกันแล้วก็มีมากกว่า 10 ชีวิตพวกเขาสามารถประคับประคองจนผ่านพ้นวิกฤตต่าง ๆ มาได้ แม้กระทั่งฝนตกและมีผู้ติดเชื้อจำนวนมหาศาลมาป้วนเปี้ยนหน้าบ้านก็ไม่หวั่
…ภายนอกอาคารนั้นเงียบสงัดไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวเลย นั่นหมายความว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีใครอยู่อีกแล้ว มีเพียงตัวอาคารที่ถูกธรรมชาติค่อย ๆ คืบคลานเข้ามากลืนกินรอบนอกอาคารเต็มไปด้วยวัชพืชหลากหลายพันธุ์ พวกมันงอกแทรกขึ้นมาตามร่องอิฐตัวหนอนที่ถูกนำมาปูเป็นทางเดิน โชคดีที่ตอนนี้เป็นเวลากลางวัน หากเปลี่ยนเป็นตอนกลางคืนคงให้ความรู้สึกเหมือนกำลังออกไปล่าท้าสิ่งลี้ลับจนตุ่นขวัญผวาเกาะคนรักไม่ปล่อยแน่ ๆครืด…เสียงประตูฝืดเฝื่อนถูกเลื่อนออกด้วยสองมือของโจเซฟ ด้านบนมีกล่องเซนเซอร์ที่ในอดีตเคยจับการเคลื่อนไหวและเปิดประตูบานนี้อัตโนมัติ เพียงแต่ในเวลานี้ไม่มีกระแสไฟฟ้าที่เป็นแหล่งพลังงานให้มันอีกแล้ว ดังนั้นใครที่ต้องการเข้ามาภายในสำนักงานก็จำเป็นต้องลงแรงเปิดด้วยตัวเอง“สวมหน้ากากกันแก๊สไว้ก่อน” โจเซฟเห็นฝุ่นด้านในฟุ้งตลบก็ออกคำสั่งต่อทันทีดาริณีกับพิมพาได้รับหน้ากากนี้มาตั้งแต่วันที่ออกเดินทางวันแรก พวกเธอหยิบมันขึ้นมาสวมใส่อย่างว่าง่าย นอกจากฝุ่นที่ยังลอยเอื่อยอยู่ในอากาศ สภาพภายในอาคารก็บ่งบอกถึงการได้รับความเสียหายเช่นกัน ไม่ว่าจะโต๊ะ เก้าอี้ หรือชั้นวางเอกสารต่างถูกตั้งวางไว้ตามมุมหน้าต่าง
พอถึงระยะที่กำหนด ทุกคนก็ลงจากจักรยานแล้วใช้วิธีการเดินเท้าไปจนถึงจุดที่มีซอมบี้ระดับหนึ่งเดินโขยกเขยกอยู่กลางถนน พวกมันเดินจับกลุ่มกัน ลักษณะการแต่งกายคล้ายคลึงกับเจ้าหน้าที่รัฐจากสำนักงานที่ไหนสักแห่งเพราะอยู่ในชุดสีกรมท่าเหมือนกันทั้งหมด ตามตัวมีรอยแผลเหวอะหวะจากการกัดฉีก“ไม่มีซอมบี้วิวัฒนาการ” หงส์กะจากสายตาบวกกับลางสังหรณ์ของตน “มีแต่ระดับหนึ่งก็จริง แต่จะประมาทไม่ได้นะคะ” พร้อมกับเอ่ยเตือน“รับทราบค่ะ” พิมพามองซอมบี้ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางตนก็กลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง เรียกขวัญและกำลังใจให้ตนเองก่อนลงมือ“งั้นลุยเลยนะคะ” ดาริณีทุบกำปั้นปะทะฝ่ามือของตนเอง เกิดเสียงแน่นหนักชวนให้รู้สึกว่าต้องเจ็บตัวแน่หากโดนหญิงสาวเหวี่ยงหมัดใส่สักครั้ง“ลุยเลยครับ” สิ้นเสียงโจเซฟ พิมพาก็วิ่งขึ้นหน้า เหวี่ยงมีดยาวฟันเข้าที่แขนของซอมบี้ที่ตรงมายังเธอก่อนเป็นตัวแรก จากนั้นก็มุดลงต่ำ ให้ดาริณีที่วิ่งมาจากด้านหลังเหวี่ยงขวานใส่ลำคอของมันทันทีตุบการประสานงานของทั้งคู่เป็นไปอย่างไหลลื่น ความดีความชอบนี้ต้องยกให้กับครูฝึกสุดเข้มงวดอย่างโจเซฟที่พยายามให้หญิงสาวทั้งสองฝึกการต่อสู้มาก่อนจากบนภูเขา ทำให้ร่างกา
คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของเด็กน้อยทั้งสามจนกระทั่งผล็อยหลับไป ตอนเช้าหลังจากกินอาหารที่กักตุนในถ้ำเรียบร้อยก็ตรงดิ่งไปหาทีโอพร้อมกับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบ“ทำไมพี่หงส์ถึงมีเขาบนหัวล่ะครับ” เด็กชายดลถาม พวกเขาปรึกษากันก่อนออกจากฐานทัพลับแล้ว เนื่องจากดลอยู่กับกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มนี้มานานกว่าพลอยใสและปอนด์ เด็กชายจึงต้องรับหน้าที่ในการถามคำถามที่แสนละเอียดอ่อนนี้ ซึ่งดลเองก็ไม่ได้มองว่าเพื่อนโบ้ยงานมาให้ตนแต่อย่างใด เดินหน้าถามทันทีที่เห็นพี่ชายผู้ใช้พลังโลหะ“ไปอ่านเจอมาจากที่ไหนล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มเอ็นดู“พวกเราเจอในหนังสือสารคดีครับ” ปอนด์หยิบหนังสือดังกล่าวออกมาโดยจงใจเปิดหน้าที่มีภาพประกอบของกวางเพศผู้และกวางเพศเมียที่อ่านเจอเมื่อคืนให้คนอายุมากกว่าดู“อ๋อ สารานุกรมสัตว์โลก” ทีโอพยักหน้าเข้าใจ เห็นเด็ก ๆ ตั้งใจอ่านหนังสือที่เต็มไปด้วยสาระความรู้ก็เผลอเปรียบเทียบกับตัวเองเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่มักออกไปร้านเกมคาเฟ่หรือไม่ก็เล่นเกมการ์ดกับเพื่อน คิดไม่ออกเลยว่าอีกหลายสิบปีต่อจากนี้จะมีเด็กฉลาดอย่างสามคนนี้เกิดขึ้นมาอีกมากแค่ไหน…พอหมดซอมบี้ โลกต้องพัฒนาอย่างก้าวกระโดดแน่“หรือเพราะพี่หงส
หนึ่งชั่วโมงต่อมาทุกคนก็ไปรวมกันที่มินิมาร์ตอีกครั้ง หงส์กลับมาพร้อมกับคริสตัลซอมบี้สีใสจำนวน 12 เม็ด พวกมันถูกล้างทำความสะอาดมาเป็นอย่างดีแล้ว“แถวนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านมาเลยเหรอเนี่ย” การที่มีคริสตัลเกิดขึ้นในสมองของซอมบี้ได้นั้น หมายความว่าเจ้าพวกนี้ไม่ใช่ซอมบี้ที่เพิ่งเกิดในเร็ว ๆ นี้“คนน่าจะไปกระจุกตัวอยู่ในเมืองกันหมดแล้วล่ะค่ะ” หงส์ให้ความเห็นอาหารเย็นวันนี้เป็นปลากระป๋องกับแครกเกอร์ที่เฉินเฟิงใช้มันฝรั่งบดผสมรวมกับแป้งแล้วนำไปอบ ใช้เป็นอาหารฉุกเฉินยามออกเดินทางเพราะมีน้ำหนักน้อยและไม่ต้องยุ่งยากกับการประกอบอาหารนอกบ้านสำหรับทหารที่ผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน พวกเขากินกันไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ มีเพียงดาริณีและพิมพาที่ต้องพยายามกินให้มากหน่อย แม้รสชาติจะแปลกแปร่งเพราะไม่เคยกินแครกเกอร์กับปลากระป๋องมาก่อน ก็ต้องฝืนกินเข้าไปอีกหลายคำ วันนี้ใช้พลังไปเยอะต้องชดเชยสภาพความเป็นอยู่หลังออกจากเซฟโซนนั้นต้องรัดกุมทุกด้าน พวกเธอขอติดตามมาด้วยจะต้องอดทนและเรียนรู้ที่จะยอมรับและผ่านมันไปให้ได้ในสักวันหนึ่ง“กินน้ำให้พอดีนะคะ” หงส์แนะนำ “เกิดปวดห้องน้ำตอนกลางคืนจะลำบาก”“ถ้
“ใจร้อนอะไรครับเนี่ย” เฉินเฟิงตำหนิ“ใครใช้ให้เลียเจ้านี่ล่ะ” เขาไม่ของขึ้นจนลากคนรักไปทำกิจกรรมบนเตียงให้ถึงที่สุดก็นับว่าอดทนมากแล้ว มีอย่างที่ไหนยกมือข้างที่เลอะน้ำกามของเขาขึ้นดม หรี่ตาสีแดงลงคล้ายครุ่นคิดแล้วใช้ลิ้นสีแดงสดเลียเบา ๆ เป็นใครจะไปทนไหวเล่นเอาสติขาดผึงเลยทีเดียวซึ่งเจ้ากระต่ายน่าตีก้นก็ไม่ได้สำนึก ยกมือข้างที่ว่าขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา เพราะเมื่อกี้เผลอใช้มือข้างนี้ผลักอกคนรัก จึงมีบางส่วนที่ถูกเช็ดออกไปแล้ว“ก็ผมสงสัยนี่…” เฉินเฟิงคิดถึงการกระทำของตนเองเมื่อครู่ก็หน้าร้อนผ่าว แค่จินตนาการก็รู้สึกว่ามันต้องอีโรติกมากแน่ แต่จะให้ถอยก็ดูไม่เป็นตัวเขาสักเท่าไร “เลยอยากลองชิมว่ารสชาติเป็นยังไง” ช้อนดวงตากลมโตสีทับทิมเป็นประกายออดอ้อนคุณหมอหมีตัวโตที่ยังคงคร่อมอยู่ด้านบน“...” นี่กำลังพยายามแก้ตัวหรือยั่วเขาอยู่กันแน่ หือ “ที่รักทำแบบนี้พี่ของขึ้นอีกแล้วเห็นไหม” นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนก้มมองกลางกายของตนที่กลับมาแข็งตัวอีกครั้ง“ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ เป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติอยู่แล้ว” เฉินเฟิงยิ้มตอบพร้อมกับกระถดตัวลงไปอยู่ในระดับเดียวกับอาวุธของคุณหมอ“...”“เดี๋ยวผมปลอบให้มั
เฉินเฟิงนอนโรงพยาบาลเป็นคืนที่ห้าแล้วหลังจากฟื้นขึ้นมา เขายังคงกินนอนอยู่ที่นี่เพราะต้องทำกายภาพบำบัดให้ร่างกายกลับมาใช้งานได้ดังเดิมเมื่อเห็นว่าเจ้ากระต่ายปลอดภัยหายห่วง คนอื่น ๆ จึงเริ่มออกไปทำภารกิจกันถี่ขึ้น แม้แต่ทีโอเองก็ไม่ได้มานอนเฝ้าที่ห้องอีกแล้ว ภายในห้องจึงเหลือแค่ชายหนุ่มผมขาวและคนรักผู้มีใบหูหมีสีน้ำตาล กับคุณสิงหาที่จะแวะเวียนมาตรวจอาการทุกเช้าวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากทำกายภาพในตอนเช้าเสร็จ แพทย์เจ้าของคนไข้ดันบอกว่าตอนนี้สภาพร่างกายของเขาดีขึ้นมาแล้ว หากจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับคนรักก็ไม่มีปัญหามีสิครับหมอ!!เพราะเขากับนิโคลัสไม่เคยเกินเลยถึงขั้นนั้น ที่ผ่านมาก็มีแค่กอดกับจูบ ส่วนเรื่องเมคเลิฟอะไรนั่นตัดไปได้เลย ถ้าไม่ใช่นิโคลัสนอนเป็นผัก ก็มีภารกิจโหดหินรออยู่ พอรอดตายมาได้ก็กลายเป็นเขาที่นอนติดเตียงต่อ จะเอาเวลาไหนไปจู๋จี๋กันถามหน่อยไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิด แต่สถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวยให้คิดต่างหาก แม้จะไม่รู้ว่าระหว่างเขากับคนรักจะดำเนินขั้นสุดท้ายของการเมคเลิฟแล้วจะเป็นยังไง แต่ถ้าค่อยเป็นค่อยไปโดยเริ่มจากบทรักสุดเบสิกได้ละก็… บอกเลยเขาสู้ตาย‘พี่นิค’ เจ้ากระต่ายมองค
ขนาดที่ค่ายพันธมิตรยังมีคนที่มีหูสัตว์เกลื่อนกลาด เรียกได้ว่ามีประชากรที่เป็นทั้งมนุษย์ธรรมดาและมนุษย์กลายพันธุ์อย่างละครึ่งเลยล่ะ ส่วนผู้มีพลังพิเศษไม่ว่าที่ไหนก็ยังมีจำนวนน้อยนิดเหมือนกันหมด“งั้นผมขอไปกักตัวที่บ้านก่อนนะ” การกักตัวกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดไปแล้ว เมื่อไหร่ที่ออกไปด้านนอกจะต้องกักตัวเป็นเวลา 3 วัน ป้องกันไม่ให้นำเชื้อที่ติดตัวมาไปแพร่ใส่คนอื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม“ครับผม” กลุ่มหน้าประตูสองคนเดินไปส่งเฉินเฟิงและนิโคลัสที่บ้าน ถ้าเกิดชายหนุ่มกลายเป็นซอมบี้ระหว่างทางก่อนถึงบ้านขึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่ปังหลังประตูรั้วบ้านและประตูหน้าบ้านถูกปิด เฉินเฟิงก็มองสภาพบ้านที่ยังคงสะอาดสะอ้านไม่มีร่องรอยของคราบฝุ่นเป็นไปได้ยังไง?หรือว่าในตอนที่พวกเขาไม่อยู่มีคนเข้ามาอาศัย?“อ้อ พวกผมลืมบอกไป กลุ่มแม่บ้านเขาช่วยกันผลัดเปลี่ยนมาทำความสะอาดบ้านให้นะครับ พวกป้า ๆ เขาอยากตอบแทนเรื่องเสบียงสำรองที่ให้มา” เป็นกรที่ตะโกนมาจากนอกบ้านช่วยไขข้อข้องใจให้เจ้ากระต่ายพอดิบพอดี เกือบได้ระเบิดโทสะแล้วไหมล่ะ“ฝากขอบคุณด้วยนะ” เฉินเฟิงตะโกนกลับไป“ครับผม!” และได้รับการตะโกน