“ว่าไง ตุ่นเพื่อนรัก” เอที่สัมผัสได้ว่าเพื่อนเป็นเพื่อนตายของเขาอยู่บริเวณนี้ก็ร้องทักเสียงดัง ไม่ยี่หระต่อซอมบี้ที่เริ่มเดินโขยกเขยกเข้ามาเพราะเสียงของตนส่วนลูกทีมอีกสิบชีวิตก็พากันหัวเราะครื้นเครงอย่างเห็นเป็นเรื่องสนุก“ออกไปเหม็นหน้ามันก่อนแล้วกัน” โจเซฟถอนหายใจเสียงดัง ซ่อนตัวต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ก็ไม่ได้ออกห่างจากโกดังมากนัก เผื่อมีเหตุไม่คาดฝันจะได้หนีไปตามแผนเดิมที่คิดไว้ “ทีโอ อย่าลืมปิดล็อกโกดังนี้ด้วยนะ” ก่อนจะหันไปสั่งลูกทีม ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับ ใช้มือข้างหนึ่งสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะของโกดังฉับพลันตัวน็อตที่เคยหมุนอยู่ในเกลียวก็ดันตัวออกแล้วโค้งงอจนล็อกมุมประตูไว้อย่างแน่นหนา“คุณหลบออกไปเถอะ” นิโคลัสกระซิบเตือน หลังจากนี้เขาพอจะเดาความคิดของหัวหน้าตนเองได้ จึงอยากให้ชายหนุ่มหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัย“แล้วพวกคุณ…”“ตรงนี้พวกเราจัดการได้ คุณไปเถอะ” คุณหมอประจำกลุ่มยืนยันเฉินเฟิงมีสีหน้าลังเล สุดท้ายก็ยอมเดินไปทางบ่อบำบัดน้ำเสียเพื่อให้หลุดไปยังป่าอ้อยด้านหลังนิโคลัสมองส่งจนกระทั่งไม่เห็นแผ่นหลังของชายหนุ่มแล้ว จากนั้นค่อยออกมารวมตัวกับเพื่อนร่วมทีม“งานยากเลยล่ะ” เจ
แล้วมาทำไมก็น่าจะรู้ว่าที่ห้องเหลือเขาแค่คนเดียว‘ผมมาหาพี่นั่นแหละ’ เสียงทุ้มหวานที่แมทชอบอวยนักหนาพูดกับเขา ริมฝีปากอิ่มประดับรอยยิ้มบางเบา‘มีธุระอะไร’ นิโคลัสหันไปประจันหน้า ไม่ยอมเปิดประตูห้องให้เข้าไปด้านในโดยง่าย ยืนคุยมันหน้าประตูนี่แหละ เผื่อใครผ่านไปผ่านมาจะได้ไม่เอาไปฟ้องรูมเมตว่าเขากับแฟนมันอยู่ด้วยกันสองต่อสอง‘พี่จะไม่ให้ผมเข้าห้องหน่อยเหรอ’ ไอซ์เงยหน้าจ้องตาคนตัวสูงกว่า ใช้สายตาออดอ้อนอย่างที่ชอบใช้ประจำกับพวกเหยื่อตัวน้อย ๆ ที่ผ่านมา ต่างก็ตรงที่กับชายหนุ่มคนนี้เขาจริงจัง ไม่คิดว่าการหาคู่นอนเป็นทหารแลกเปลี่ยนจะทำให้เขาได้มาพบกับคนที่สามารถกระตุกหัวใจของเขาได้...อยากได้...อยากให้ครอบครอง‘พูดธุระออกมา’ นิโคลัสกดเสียงต่ำให้รู้ว่าไม่พอใจมากเพราะเริ่มเดาบางสิ่งบางอย่างได้‘ผมชอบพี่’ ไอซ์สารภาพออกมาเสียงเบา ข้างแก้มปรากฏสีแดงระเรื่อ‘เหรอ’ ชายหนุ่มตอบรับเสียงเรียบ ไม่ได้มีท่าทีดีอกดีใจหรือรังเกียจ แค่รับรู้ไว้‘ถ้าผมเลิกกับพี่แมท ผมขอคบกับพี่ได้ไหมครับ’‘แต่ผมไม่ได้ชอบคุณ ไม่ต้องมาวุ่นวายกับผมอีกนะ’ นิโคลัสพูดจบก็เปิดประตูห้องแล้วปิดล็อก ทำราวกับว่าคำสารภาพรักนั้นเป็นเพ
และเพราะชื่อเสียงรวมถึงการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ชายหนุ่มอายุ 35 ปีผู้นี้จึงถูกไว้วางใจจากคนในระดับสูงมาก ไอซ์จึงไม่สามารถบังคับหรือให้คุณลุงผู้มีตำแหน่งสูงสุดในหมู่ทหารยัดเยียดตนเข้ามาในกลุ่มของโจเซฟได้เลย“ไหน ๆ เราก็มาทำภารกิจเดียวกัน ยังไงก็…” ไอซ์พยายามพูดขึ้นมาอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันพูดจบประโยค ใบหูเล็กบนศีรษะของเจ้าตัวก็กระดุกกระดิกขึ้นอย่างเร็ว พอหันไปมองหงส์ที่กระตุกชายเสื้อโจเซฟไม่หยุดก็ยิ่งแน่ใจมีบางอย่างกำลังมาความไม่สบายใจแผ่ซ่านตั้งแต่หน้าอกจนชาไปทั้งตัวอะไรกำลังมา…ตึกตักเกิดความเงียบขึ้นมาจากกลุ่มที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางรูปลักษณ์และมีประสาทการได้ยินที่ดี หงส์หน้าซีดเผือดจนต้องให้ตุ่นช่วยประคองน่ากลัว... สิ่งที่กำลังมาน่ากลัวนิโคลัสเกร็งร่างกายทุกส่วนเตรียมรับสถานการณ์เลวร้าย รู้สึกโล่งอกที่ปล่อยให้เฉินเฟิงหนีไปก่อน ส่วนพวกเขาเป็นทหาร จะอย่างไรก็ต้องประเมินสถานการณ์เพื่อรายงานเบื้องบน เพราะนิคมอุตสาหกรรมนี้คือชิ้นส่วนสำคัญที่จะช่วยแก้ไขเรื่องอาหารขาดแคลนภายในค่ายได้เพราะฉะนั้นต้องอยู่ดูให้รู้ถ้าไม่ไหวก็หนีและหาวิธีรับมือในอนาคตแต่ถ้าไหวก็ต้องสู้!“พี่เอ” ไอซ์ร้องเ
ลูกไฟขนาดเท่ากับลูกฟุตบอลพุ่งเข้าใส่กลางตัวของมัน ทำให้เจ้าหนูยักษ์ที่กำลังฟาดงวงฟาดงาในอากาศหันเหความสนใจมาที่มนุษย์เบื้องล่าง เจ้าพวกที่ทำให้มันตื่นจากการจำศีล!“ตุ่น” โจเซฟเอ่ยเรียกลูกทีมอีกคน พร้อมกับร่างของชายหนุ่มหูสุนัขที่พุ่งเข้าไปใกล้กับเจ้าสัตว์ประหลาดอย่างรอคำสั่งอยู่แล้ว“ทางซ้าย” หงส์ตะโกนบอกคนรัก ชายหนุ่มจึงสามารถกระโดดหลบหางสีน้ำตาลที่ฟาดลงมาได้ทันท่วงที“พวกมึงก็ช่วยเขาหน่อยสิวะ” เอหันไปสั่งลูกน้อง ส่วนไอซ์นั้นหลบไปยังด้านหลังสุด ใจจริงอยากจะวิ่งไปหานิโคลัส แต่เจ้าหนูยักษ์ตนนี้ดันโผล่ขึ้นมาขวางพวกเขาสองกลุ่มออกจากกัน ทะเล่อทะล่าวิ่งไปคงมีแต่ตายกับตายลูกน้องของเอสิบคนล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีพลังพิเศษโดยเป็นทีมที่ถูกซื้อตัวมาด้วยทรัพยากรมหาศาล เป็นทีมแนวหน้าของค่ายพันธมิตรที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดนั่นคือสิ่งที่ประชาชนทั่วไปในค่ายรับรู้ แต่ถ้าหากลองให้บุคลากรทางการทหารและกลุ่มให้ความช่วยเหลือภายในค่ายโหวตว่ากลุ่มของใครดีที่สุด ทุกคนคงเลือกทีมของโจเซฟอย่างไม่ลังเลใช้จำนวนคนน้อยที่สุด…สูญเสียทรัพยากรจากการต่อสู้น้อยที่สุด…บาดเจ็บน้อยครั้งที่สุด…แค่นี้ก็บอกได้แล้วไม
“มันกำลังจะทำอะไร” ทีโอแหงนมอง“หนูเป็นสัตว์ที่มีประสาทสัมผัสไวครับ มันคงคิดว่าการโจมตีของคุณโจเซฟจะทำอันตรายกับมัน มันเลยเลือกปีนหนีขึ้นไปบนหลังคาก่อน” เฉินเฟิงที่ค่อย ๆ เขยิบเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ บอกพฤติกรรมของหนูที่เขาเคยศึกษามาบ้างให้ทีมทหารได้รับรู้“งั้นที่ผ่านมาที่มันยอมให้พวกเราโจมตีใส่…” ว่าแต่ทำไมคนที่พวกเขาบอกให้หนีไปถึงมาอยู่ตรงนี้ได้“แหะ ๆ ผมวกกลับมาครับ” เฉินเฟิงหลบสายตาคาดโทษของทีโอ พลางอธิบายต่อเพื่อชวนคุย “มันคงดูออกว่าทำอะไรมันไม่ได้”“แล้วเราควรทำยังไงดี” โจมตีใกล้ก็ไหวตัวทัน โจมตีไกลก็ไม่มีอะไรที่แรงพอ“ถ้าเป็นเมื่อหลายเดือนก่อนผมคงแนะนำให้หาอาหารมาหลอกล่อมัน แต่ดูจากการที่มันไม่สนใจอ้อยหรือมันสำปะหลังคงต้องตัดเรื่องนี้ออกไปก่อน” เฉินเฟิงยิ้มแหย เขาเองก็จนปัญญา ที่มาหานี่เพราะใจล้วน ๆ ส่วนเรื่องกำลังคงต้องตามมีตามเกิด“แต่โดยทั่วไปแล้วหนูมีประสาทสัมผัสการได้ยินไม่ค่อยดีนะครับ มันจะได้ยินเสียงในระยะหกนิ้วเท่านั้น ถ้าเทียบกับไซส์ปกติกับตอนนี้ก็คงราว ๆ 600 เมตร”“ใกล้ไปหรือเปล่า” หงส์แทบไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน อย่างนี้การโจมตีในระยะไกลก็คือจุดได้เปรียบของการต่อสู้
“มันยังตามมาอยู่เลยครับ” หนึ่งในลูกน้องของเอหันไปมองด้านหลังด้วยสายตาหวาดหวั่น สมองเองก็ใกล้จะถึงขีดจำกัดเต็มทน เขาทั้งต้องขับรถหนีจากการตามล่าของหนูยักษ์ แถมด้านหน้าก็เริ่มมีซอมบี้มายืนขวางเพราะได้ยินเสียงอึกทึก จะผลัดเปลี่ยนกับเพื่อนร่วมทีมก็ไม่ได้ พวกมันเล่นใช้พลังเกินลิมิตจนนอนนิ่งไม่ไหวติงกันหมด‘คิดถูกหรือคิดผิดกันแน่วะที่มาอยู่ทีมนี้!’ตึง ๆ ๆกร๊าซซซ!!‘ไอ้นี่ก็ตามจังโว้ยย!!!’หนูยักษ์ยังคงวิ่งตามรถบรรทุกอย่างไม่ลดละ ยิ่งฟ้าเริ่มมืดมากเท่าไร ความเร็วในการไล่ตามของมันก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น“พี่เอ” ไอซ์เรียกลูกพี่ลูกน้องเสียงสั่น เขายอมออกจากฐานมาเพราะพี่ชายคนนี้บอกว่าจะรับภารกิจเดียวกับนิโคลัสถึงได้ขอติดตามมาด้วย แล้วทำไมถึงได้มาเจอตัวแบบนี้เข้าได้!“ชิ” เอกัดฟันกรอด เขานึกว่าไอ้หนูบ้านั่นมันจะวิ่งตามกลุ่มของตุ่นไป เพราะอย่างไรเขาก็มีรถ คงสามารถหนีจากมันได้รวดเร็วกว่า‘ทำไมมันไม่ตามกลิ่นเลือดของไอ้หมาบ้านั่นไปวะ! มาตามกลุ่มเขาทำไม’“ประคองรถไปก่อน ถ้าพ้นจากเขตนิคมอุตสาหกรรมมันคงเลิกตามไปเอง” ความหมายก็คือขับต่อไปอย่าได้หยุดพัก “ถ้ามันเข้ามาใกล้ค่อยใช้ปืน อย่ายิงสุ่มสี่สุ่มห้าเด็
“เหมือนที่นี่จะมีสัตว์ร้ายด้วยนะ” ตุ่นเงี่ยหูฟัง“เหรอครับ” พอคนบาดเจ็บพูดแบบนั้น เฉินเฟิงจึงลองตั้งสมาธิกับการฟังบ้าง ก่อนหน้านี้เขาเคยตรวจสอบละแวกที่พักอาศัย ไม่พบเจอสิ่งผิดปกติ แต่เวลานี้เขาเริ่มได้ยินเสียงการดำเนินชีวิตต่าง ๆ มากขึ้น จากที่คิดว่าสัตว์ที่ตัวใหญ่สุดในภูเขาลูกนี้คงไม่พ้นหมูป่า จึงอาจต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ หรือไม่ที่เพิ่งได้ยินอาจเป็นเพราะพวกมันเริ่มสัมผัสได้ว่ามีสิ่งมีชีวิตอื่นเข้ามาอาศัยในถิ่นฐานของมัน“ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงนะ” หงส์เสริม เธอไม่รู้สึกหวาดกลัวเลย นั่นหมายความว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นเธอเองก็สามารถจัดการได้“ค่อยโล่งใจหน่อยครับ” เฉินเฟิงถอนหายใจเสียงดัง นึกว่าแม้แต่บ้านบนภูเขาก็ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป หลังจากนี้เขาจะต้องหนีไปอยู่ที่ไหนล่ะคำยืนยันจากปากของหญิงสาวทำให้เขารู้สึกปลอดภัยขึ้นมากเลย“ใกล้ถึงแล้วครับ” แถมยิ่งเข้าใกล้จุดที่ตั้งบ้านก็รู้สึกเหมือนได้กลิ่นเนื้อย่างลอยอบอวลชวนน้ำลายสอหือ... เนื้อย่าง!!!“พี่ดา!” เฉินเฟิงผลุนผลันวิ่งตรงไปยังบ้านต้นไม้ก่อนใครหรือว่าจะมีคนขึ้นมาบนเขาอีกแล้ว ไม่อย่างนั้นจะมีกลิ่นเนื้อย่างได้ยังไง บ้านของเขามีแต่อาหารกระป๋องน
“เช็ดตัวอยู่บนนั้นไป” นิโคลัสสั่งเสียงขรึม คนถูกแทงจึงได้แต่บ่นกระปอดกระแปดและใช้ผ้าสะอาดในกระเป๋าชุบน้ำเช็ดตัว“ไว้แผลหายดีก่อนแล้วค่อยลงมาเล่นนะครับ” เฉินเฟิงเอ่ยปลอบใจเจ้ากระต่ายอยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงขาสั้นสำหรับลงอาบน้ำ นี่เป็นเสื้อผ้าไม่กี่ตัวที่เขามีติดบ้านต้นไม้ ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ก็ไม่มีโอกาสใส่เลยสักครั้งเพราะเกรงว่าจะทำให้หญิงสาวคนเดียวในที่นี้อย่างดาริณีรู้สึกกระอักกระอ่วนส่วนเวลาอาบน้ำปกติแล้วเขาจะถอดทั้งหมด เพราะทั้งเขาและหญิงสาวจะแบ่งเวลาอาบน้ำ จึงไม่ต้องห่วงว่าจะมีใครมาถ้ำมอง แต่วันนี้ไม่เหมือนปกติ ถึงจะเป็นผู้ชายที่มีทุกอย่างคล้ายกัน แต่พอเห็นคนอื่นเขามีกล้ามเป็นลูก ๆ คนที่มีแต่หน้าท้องแบนราบอย่างเขาก็อายเป็นนะ ขอซ่อนหน้าท้องอ่อนนุ่มไว้ก่อนแล้วกัน“ดีนะที่หัวหน้าตอบรับคำชวนของคุณเฉิน” ทีโอดำผุดดำว่ายก่อนจะว่าเข้ามาใกล้ชายหนุ่มที่ปราศจากฮู้ดคลุมศีรษะ ยิ่งทำให้ใบหูและเส้นผมของเจ้าตัวโดดเด่นขึ้นมา “คุณเฉินขาวมากกกก” ยิ่งโดนน้ำยิ่งขาวกระจ่างจนเหมือนจะเปล่งแสงออกมาได้เองนิโคลัสต้องแสร้งทำเป็นไม่หันไปมองร่างกายขาวผ่องอย่างกับคนไม่เคยต้องแสงแดดมาก่อนของชายหนุ่ม
“ดูเหมือนจะมีการแจกจ่ายงานด้วย” เด็กสาวยิ้มยินดี จะให้ล้างจานหรือกวาดถนนก็ทำได้ทั้งนั้น ขอแค่สามารถมีชีวิตต่อไปในแต่ละวันก็พอกลุ่มผู้รอดชีวิตบางคนก็มีชีวิตที่ดีขึ้นหลังได้ออกมาอยู่รวมกันในค่าย ไม่ต้องคอยหวาดระแวงในเวลากลางคืน ขอแค่ขยันอดทนก็ทำงานแลกข้าวกินได้ 3 มื้อ ไม่ต้องอดอยาก แต่บางคนที่หลงเข้าไปในค่ายที่มีการจัดการที่ค่อนข้างแย่ อีกทั้งยังผูกขาดอาหารและน้ำไว้ที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ใครที่เผลอหลงเข้าไปต่อให้อยากหนีก็มีแต่ต้องทิ้งชีวิตแล้วไปเกิดใหม่อย่างที่โจเซฟและกลุ่มจะได้เจอหลังจากนี้...“จะเข้าไปที่ห้างเหรอ เสียใจด้วยนะ ถิ่นนี้พี่จอง” ก่อนถึงห้างสรรพสินค้า ตุ่นและหงส์รับรู้ได้ว่ามีคนจับจองที่แห่งนั้นเป็นฐานที่มั่นแล้ว เพราะมีทั้งเสียงผู้คนเดินขวักไขว่ไปมา และมีเสียงการฆ่าซอมบี้ด้วยเช่นกัน โจเซฟตัดสินใจจะแสดงเป็นกลุ่มผู้รอดชีวิตที่มาหาที่พึ่งเพื่อดูว่าค่ายขนาดเล็กนี้มีความเป็นอยู่อย่างไร ถ้าหากเจรจากันได้ก็จะลองพูดคุยดู แต่สีหน้าและท่าทางของหงส์ก็ทำให้เขาเปลี่ยนใจ“เปล่า พวกเราแค่ผ่านมา” โจเซฟมองชายที่สักลายไว้ทั่วตัว หมอนั่นถือขวานขนาดใหญ่ไว้ ตามร่างกายมีเกล็ดขึ้นประปราย คล้ายกั
กลุ่มค้นหาสิ่งของจำเป็นทำแบบนี้อยู่หลายวัน บางสถานที่ก็เก็บกวาดมาได้เยอะ และบางทีก็เรียกได้ว่ามาเสียเที่ยว จนกระทั่ง 2 สัปดาห์ต่อมาพวกเขาก็ได้พบกับกลุ่มผู้รอดชีวิตกลุ่มใหญ่ที่กำลังมุ่งหน้าเข้าตัวเมือง“พวกคุณก็จะเข้าตัวเมืองเหมือนกันเหรอ” ชายชราคนหนึ่งถาม เขาถูกลูกหลานคะยั้นคะยอให้ออกจากบ้านหลังเก่าที่ใช้ซุกหัวนอนมาหลายชั่วอายุคน เหตุผลเพราะละแวกที่อยู่อาศัยไม่สามารถหาอาหารได้อีกแล้ว ประจวบเหมาะกับมีคนออกมาทำภารกิจและบอกว่าในตัวเมืองมีค่ายพิเศษที่นักการเมืองในท้องถิ่นเป็นคนจัดตั้งขึ้น พวกเขาจึงหมายมั่นปั้นมือว่าจะไปเข้าร่วมด้วยเดิมทีพวกเขาเป็นครอบครัวใหญ่ที่อาศัยอยู่ในโฉนดที่ดินเดียวกัน เพราะเป็นญาติพี่น้องที่บรรพบุรุษแบ่งสันปันส่วนที่ทางให้แต่ละคนปลูกบ้านและทำมาหากินร่วมกัน เมื่อถึงเวลาฉุกเฉินจึงรวมตัวกันช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้อย่างรวดเร็ว พวกเขามีตั้งแต่คนแก่อายุ 60 ปีขึ้นไป และเด็กน้อยไม่ประสาลืมตาดูโลกไม่ถึงหนึ่งขวบปีดี เมื่อนับรวมกันแล้วก็มีมากกว่า 10 ชีวิตพวกเขาสามารถประคับประคองจนผ่านพ้นวิกฤตต่าง ๆ มาได้ แม้กระทั่งฝนตกและมีผู้ติดเชื้อจำนวนมหาศาลมาป้วนเปี้ยนหน้าบ้านก็ไม่หวั่
…ภายนอกอาคารนั้นเงียบสงัดไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวเลย นั่นหมายความว่าสถานที่แห่งนี้ไม่มีใครอยู่อีกแล้ว มีเพียงตัวอาคารที่ถูกธรรมชาติค่อย ๆ คืบคลานเข้ามากลืนกินรอบนอกอาคารเต็มไปด้วยวัชพืชหลากหลายพันธุ์ พวกมันงอกแทรกขึ้นมาตามร่องอิฐตัวหนอนที่ถูกนำมาปูเป็นทางเดิน โชคดีที่ตอนนี้เป็นเวลากลางวัน หากเปลี่ยนเป็นตอนกลางคืนคงให้ความรู้สึกเหมือนกำลังออกไปล่าท้าสิ่งลี้ลับจนตุ่นขวัญผวาเกาะคนรักไม่ปล่อยแน่ ๆครืด…เสียงประตูฝืดเฝื่อนถูกเลื่อนออกด้วยสองมือของโจเซฟ ด้านบนมีกล่องเซนเซอร์ที่ในอดีตเคยจับการเคลื่อนไหวและเปิดประตูบานนี้อัตโนมัติ เพียงแต่ในเวลานี้ไม่มีกระแสไฟฟ้าที่เป็นแหล่งพลังงานให้มันอีกแล้ว ดังนั้นใครที่ต้องการเข้ามาภายในสำนักงานก็จำเป็นต้องลงแรงเปิดด้วยตัวเอง“สวมหน้ากากกันแก๊สไว้ก่อน” โจเซฟเห็นฝุ่นด้านในฟุ้งตลบก็ออกคำสั่งต่อทันทีดาริณีกับพิมพาได้รับหน้ากากนี้มาตั้งแต่วันที่ออกเดินทางวันแรก พวกเธอหยิบมันขึ้นมาสวมใส่อย่างว่าง่าย นอกจากฝุ่นที่ยังลอยเอื่อยอยู่ในอากาศ สภาพภายในอาคารก็บ่งบอกถึงการได้รับความเสียหายเช่นกัน ไม่ว่าจะโต๊ะ เก้าอี้ หรือชั้นวางเอกสารต่างถูกตั้งวางไว้ตามมุมหน้าต่าง
พอถึงระยะที่กำหนด ทุกคนก็ลงจากจักรยานแล้วใช้วิธีการเดินเท้าไปจนถึงจุดที่มีซอมบี้ระดับหนึ่งเดินโขยกเขยกอยู่กลางถนน พวกมันเดินจับกลุ่มกัน ลักษณะการแต่งกายคล้ายคลึงกับเจ้าหน้าที่รัฐจากสำนักงานที่ไหนสักแห่งเพราะอยู่ในชุดสีกรมท่าเหมือนกันทั้งหมด ตามตัวมีรอยแผลเหวอะหวะจากการกัดฉีก“ไม่มีซอมบี้วิวัฒนาการ” หงส์กะจากสายตาบวกกับลางสังหรณ์ของตน “มีแต่ระดับหนึ่งก็จริง แต่จะประมาทไม่ได้นะคะ” พร้อมกับเอ่ยเตือน“รับทราบค่ะ” พิมพามองซอมบี้ที่กำลังมุ่งหน้ามาทางตนก็กลืนน้ำลายลงคออึกหนึ่ง เรียกขวัญและกำลังใจให้ตนเองก่อนลงมือ“งั้นลุยเลยนะคะ” ดาริณีทุบกำปั้นปะทะฝ่ามือของตนเอง เกิดเสียงแน่นหนักชวนให้รู้สึกว่าต้องเจ็บตัวแน่หากโดนหญิงสาวเหวี่ยงหมัดใส่สักครั้ง“ลุยเลยครับ” สิ้นเสียงโจเซฟ พิมพาก็วิ่งขึ้นหน้า เหวี่ยงมีดยาวฟันเข้าที่แขนของซอมบี้ที่ตรงมายังเธอก่อนเป็นตัวแรก จากนั้นก็มุดลงต่ำ ให้ดาริณีที่วิ่งมาจากด้านหลังเหวี่ยงขวานใส่ลำคอของมันทันทีตุบการประสานงานของทั้งคู่เป็นไปอย่างไหลลื่น ความดีความชอบนี้ต้องยกให้กับครูฝึกสุดเข้มงวดอย่างโจเซฟที่พยายามให้หญิงสาวทั้งสองฝึกการต่อสู้มาก่อนจากบนภูเขา ทำให้ร่างกา
คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของเด็กน้อยทั้งสามจนกระทั่งผล็อยหลับไป ตอนเช้าหลังจากกินอาหารที่กักตุนในถ้ำเรียบร้อยก็ตรงดิ่งไปหาทีโอพร้อมกับคำถามที่ยังไม่ได้คำตอบ“ทำไมพี่หงส์ถึงมีเขาบนหัวล่ะครับ” เด็กชายดลถาม พวกเขาปรึกษากันก่อนออกจากฐานทัพลับแล้ว เนื่องจากดลอยู่กับกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มนี้มานานกว่าพลอยใสและปอนด์ เด็กชายจึงต้องรับหน้าที่ในการถามคำถามที่แสนละเอียดอ่อนนี้ ซึ่งดลเองก็ไม่ได้มองว่าเพื่อนโบ้ยงานมาให้ตนแต่อย่างใด เดินหน้าถามทันทีที่เห็นพี่ชายผู้ใช้พลังโลหะ“ไปอ่านเจอมาจากที่ไหนล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มเอ็นดู“พวกเราเจอในหนังสือสารคดีครับ” ปอนด์หยิบหนังสือดังกล่าวออกมาโดยจงใจเปิดหน้าที่มีภาพประกอบของกวางเพศผู้และกวางเพศเมียที่อ่านเจอเมื่อคืนให้คนอายุมากกว่าดู“อ๋อ สารานุกรมสัตว์โลก” ทีโอพยักหน้าเข้าใจ เห็นเด็ก ๆ ตั้งใจอ่านหนังสือที่เต็มไปด้วยสาระความรู้ก็เผลอเปรียบเทียบกับตัวเองเมื่อสิบกว่าปีก่อนที่มักออกไปร้านเกมคาเฟ่หรือไม่ก็เล่นเกมการ์ดกับเพื่อน คิดไม่ออกเลยว่าอีกหลายสิบปีต่อจากนี้จะมีเด็กฉลาดอย่างสามคนนี้เกิดขึ้นมาอีกมากแค่ไหน…พอหมดซอมบี้ โลกต้องพัฒนาอย่างก้าวกระโดดแน่“หรือเพราะพี่หงส
หนึ่งชั่วโมงต่อมาทุกคนก็ไปรวมกันที่มินิมาร์ตอีกครั้ง หงส์กลับมาพร้อมกับคริสตัลซอมบี้สีใสจำนวน 12 เม็ด พวกมันถูกล้างทำความสะอาดมาเป็นอย่างดีแล้ว“แถวนี้ไม่ค่อยมีคนผ่านมาเลยเหรอเนี่ย” การที่มีคริสตัลเกิดขึ้นในสมองของซอมบี้ได้นั้น หมายความว่าเจ้าพวกนี้ไม่ใช่ซอมบี้ที่เพิ่งเกิดในเร็ว ๆ นี้“คนน่าจะไปกระจุกตัวอยู่ในเมืองกันหมดแล้วล่ะค่ะ” หงส์ให้ความเห็นอาหารเย็นวันนี้เป็นปลากระป๋องกับแครกเกอร์ที่เฉินเฟิงใช้มันฝรั่งบดผสมรวมกับแป้งแล้วนำไปอบ ใช้เป็นอาหารฉุกเฉินยามออกเดินทางเพราะมีน้ำหนักน้อยและไม่ต้องยุ่งยากกับการประกอบอาหารนอกบ้านสำหรับทหารที่ผ่านความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน พวกเขากินกันไปเรื่อย ๆ อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจ มีเพียงดาริณีและพิมพาที่ต้องพยายามกินให้มากหน่อย แม้รสชาติจะแปลกแปร่งเพราะไม่เคยกินแครกเกอร์กับปลากระป๋องมาก่อน ก็ต้องฝืนกินเข้าไปอีกหลายคำ วันนี้ใช้พลังไปเยอะต้องชดเชยสภาพความเป็นอยู่หลังออกจากเซฟโซนนั้นต้องรัดกุมทุกด้าน พวกเธอขอติดตามมาด้วยจะต้องอดทนและเรียนรู้ที่จะยอมรับและผ่านมันไปให้ได้ในสักวันหนึ่ง“กินน้ำให้พอดีนะคะ” หงส์แนะนำ “เกิดปวดห้องน้ำตอนกลางคืนจะลำบาก”“ถ้
“ใจร้อนอะไรครับเนี่ย” เฉินเฟิงตำหนิ“ใครใช้ให้เลียเจ้านี่ล่ะ” เขาไม่ของขึ้นจนลากคนรักไปทำกิจกรรมบนเตียงให้ถึงที่สุดก็นับว่าอดทนมากแล้ว มีอย่างที่ไหนยกมือข้างที่เลอะน้ำกามของเขาขึ้นดม หรี่ตาสีแดงลงคล้ายครุ่นคิดแล้วใช้ลิ้นสีแดงสดเลียเบา ๆ เป็นใครจะไปทนไหวเล่นเอาสติขาดผึงเลยทีเดียวซึ่งเจ้ากระต่ายน่าตีก้นก็ไม่ได้สำนึก ยกมือข้างที่ว่าขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา เพราะเมื่อกี้เผลอใช้มือข้างนี้ผลักอกคนรัก จึงมีบางส่วนที่ถูกเช็ดออกไปแล้ว“ก็ผมสงสัยนี่…” เฉินเฟิงคิดถึงการกระทำของตนเองเมื่อครู่ก็หน้าร้อนผ่าว แค่จินตนาการก็รู้สึกว่ามันต้องอีโรติกมากแน่ แต่จะให้ถอยก็ดูไม่เป็นตัวเขาสักเท่าไร “เลยอยากลองชิมว่ารสชาติเป็นยังไง” ช้อนดวงตากลมโตสีทับทิมเป็นประกายออดอ้อนคุณหมอหมีตัวโตที่ยังคงคร่อมอยู่ด้านบน“...” นี่กำลังพยายามแก้ตัวหรือยั่วเขาอยู่กันแน่ หือ “ที่รักทำแบบนี้พี่ของขึ้นอีกแล้วเห็นไหม” นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนก้มมองกลางกายของตนที่กลับมาแข็งตัวอีกครั้ง“ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ เป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติอยู่แล้ว” เฉินเฟิงยิ้มตอบพร้อมกับกระถดตัวลงไปอยู่ในระดับเดียวกับอาวุธของคุณหมอ“...”“เดี๋ยวผมปลอบให้มั
เฉินเฟิงนอนโรงพยาบาลเป็นคืนที่ห้าแล้วหลังจากฟื้นขึ้นมา เขายังคงกินนอนอยู่ที่นี่เพราะต้องทำกายภาพบำบัดให้ร่างกายกลับมาใช้งานได้ดังเดิมเมื่อเห็นว่าเจ้ากระต่ายปลอดภัยหายห่วง คนอื่น ๆ จึงเริ่มออกไปทำภารกิจกันถี่ขึ้น แม้แต่ทีโอเองก็ไม่ได้มานอนเฝ้าที่ห้องอีกแล้ว ภายในห้องจึงเหลือแค่ชายหนุ่มผมขาวและคนรักผู้มีใบหูหมีสีน้ำตาล กับคุณสิงหาที่จะแวะเวียนมาตรวจอาการทุกเช้าวันนี้ก็เช่นกัน หลังจากทำกายภาพในตอนเช้าเสร็จ แพทย์เจ้าของคนไข้ดันบอกว่าตอนนี้สภาพร่างกายของเขาดีขึ้นมาแล้ว หากจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะกับคนรักก็ไม่มีปัญหามีสิครับหมอ!!เพราะเขากับนิโคลัสไม่เคยเกินเลยถึงขั้นนั้น ที่ผ่านมาก็มีแค่กอดกับจูบ ส่วนเรื่องเมคเลิฟอะไรนั่นตัดไปได้เลย ถ้าไม่ใช่นิโคลัสนอนเป็นผัก ก็มีภารกิจโหดหินรออยู่ พอรอดตายมาได้ก็กลายเป็นเขาที่นอนติดเตียงต่อ จะเอาเวลาไหนไปจู๋จี๋กันถามหน่อยไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคิด แต่สถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวยให้คิดต่างหาก แม้จะไม่รู้ว่าระหว่างเขากับคนรักจะดำเนินขั้นสุดท้ายของการเมคเลิฟแล้วจะเป็นยังไง แต่ถ้าค่อยเป็นค่อยไปโดยเริ่มจากบทรักสุดเบสิกได้ละก็… บอกเลยเขาสู้ตาย‘พี่นิค’ เจ้ากระต่ายมองค
ขนาดที่ค่ายพันธมิตรยังมีคนที่มีหูสัตว์เกลื่อนกลาด เรียกได้ว่ามีประชากรที่เป็นทั้งมนุษย์ธรรมดาและมนุษย์กลายพันธุ์อย่างละครึ่งเลยล่ะ ส่วนผู้มีพลังพิเศษไม่ว่าที่ไหนก็ยังมีจำนวนน้อยนิดเหมือนกันหมด“งั้นผมขอไปกักตัวที่บ้านก่อนนะ” การกักตัวกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดไปแล้ว เมื่อไหร่ที่ออกไปด้านนอกจะต้องกักตัวเป็นเวลา 3 วัน ป้องกันไม่ให้นำเชื้อที่ติดตัวมาไปแพร่ใส่คนอื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม“ครับผม” กลุ่มหน้าประตูสองคนเดินไปส่งเฉินเฟิงและนิโคลัสที่บ้าน ถ้าเกิดชายหนุ่มกลายเป็นซอมบี้ระหว่างทางก่อนถึงบ้านขึ้นมาคงเป็นเรื่องใหญ่ปังหลังประตูรั้วบ้านและประตูหน้าบ้านถูกปิด เฉินเฟิงก็มองสภาพบ้านที่ยังคงสะอาดสะอ้านไม่มีร่องรอยของคราบฝุ่นเป็นไปได้ยังไง?หรือว่าในตอนที่พวกเขาไม่อยู่มีคนเข้ามาอาศัย?“อ้อ พวกผมลืมบอกไป กลุ่มแม่บ้านเขาช่วยกันผลัดเปลี่ยนมาทำความสะอาดบ้านให้นะครับ พวกป้า ๆ เขาอยากตอบแทนเรื่องเสบียงสำรองที่ให้มา” เป็นกรที่ตะโกนมาจากนอกบ้านช่วยไขข้อข้องใจให้เจ้ากระต่ายพอดิบพอดี เกือบได้ระเบิดโทสะแล้วไหมล่ะ“ฝากขอบคุณด้วยนะ” เฉินเฟิงตะโกนกลับไป“ครับผม!” และได้รับการตะโกน