Share

กลุ่มต้าหยางกับอสูรหมูป่า

last update Last Updated: 2025-12-03 17:08:29

“พวกเขายังต้านไว้ได้” หญิงสาวพยายามใจเย็น

เทียนจื่อซานหันหลังมองเป็นครั้งคราว ถึงสัตว์อสูรตัวนี้จะมีขนาดใหญ่ แต่ด้วยจำนวนคนของพวกเขามากกว่าทำให้ล้มมันได้ไม่ยาก หัวหน้ากลุ่มต้าหยางสะบัดดาบไล่คราบเลือดเดินยิ้มแป้นมารายงาน

“เรียบร้อยแล้วขอรับคุณหนู พวกข้าจะตรวจตราแถวนี้อีกสักครู่ พวกนั้นจะแล่เนื้อออกมาด้วย ระหว่างนี้คุณหนูกับผู้ติดตามนั่งพักกันก่อนเถอะขอรับ”

“เข้าใจแล้ว ขอบคุณท่านมาก” นางค้อมศีรษะลงเล็กน้อย

เทียนจื่อซานยิ้มกว้างค้างไว้อย่างนั้นโดยไม่รู้ตัว

เดินกลับไปหาพี่น้องจนคนอื่นมองมาด้วยสายตาแปลก ๆ ถึงได้พึ่งรู้สึก

“ลูกพี่…นี่ข้าคงไม่ได้คิดไปเองใช่ไหม”

“คิดอะไร?”

พวกพี่น้องมองหน้ากันเลิ่กลั่กแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ปล่อยเทียนจื่อซานงงงวยอยู่คนเดียว พวกเขาเฉไฉไปเรื่องอื่นแล้วตั้งหน้าตั้งตาแล่เนื้อสัตว์อสูร หัวหน้ากลุ่มต้าหยางไม่ได้ติดใจอะไรในท่าทีของสมาชิกจึงเดินไปสำรวจรอบ ๆ กับผู้ติดตามจากสกุลกู้

กู้หลินฟางมองตามคนนู้นคนนี้ดูพวกเขาทำงานอย่างเพลิดเพลิน นางปล่อยใจลอยแล้วนั่งเหม่อ มีสาวใช้ปูผ้าตั้งโต๊ะของว่างให้อยู่ข้าง ๆ เดินทางอีกวันครึ่งถึงสองวันก็น่าจะถึงที่หมาย ต้องหาที่ค้างแรมก่อนฟ้ามืด ดูจากเวลาตอนนี้พวกเขายังเดินทางต่อได้อีกหน่อย

คนจากสำนักคุ้มภัยจะหาอาหารกินกันเอง นายจ้างไม่มีหน้าที่รับผิดชอบปากท้องของพวกเขา อาหารสำหรับเดินทางระยะไกลมักเป็นเนื้อตากแห้งแข็ง ๆ นาน ๆ ทีจะมีเนื้อมาให้ล่า อาหารมื้อต่อไปเป็นของสดใหม่ก็ไม่เลว

อาหารหรือ?

บางทีนางอาจสามารถทำอะไรกับเรื่องนี้ได้

จุดประกายความคิดของการค้ามักมาจากเรื่องเล็ก ๆ

น้อย ๆ แบบนี้อยู่บ่อยครั้งเหมือนกัน เป็นเรื่องทั่วไปในชีวิตประจำวันจึงทำให้หลายคนมองข้าม เพราะเคยชินกับมันโดยไม่รู้ตัว

น่าสนใจดีนี่ อาจจะต่อยอดได้มากกว่าที่ข้าคิด

“คุณหนู พัดเหล็กของท่านเจ้าค่ะ” เสี่ยวจูประคองมันด้วยสองมือให้เจ้านาย

“เอามาทำไมกัน” นางเลิกคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ ไม่ได้บอกให้นำมันมาให้เสียหน่อย

“คุณหนูไม่ใช่หาไม่เจอ เลยไม่ได้เอามันออกมาหรือเจ้าคะ?”

“ไม่นะ”

“อ้าว ขออภัยเจ้าค่ะ ข้านึกว่าคุณหนูไม่ได้ถือไว้เพราะหามันไม่เจอเมื่อตอนเจ้าหมูป่าวิ่งมาเสียอีกเจ้าค่ะ”

“ไม่ใช่หรอก ข้าเชื่อว่าพวกเขาจัดการได้ ไม่ต้องถึงมือตัวเองก็ไม่มีปัญหา”

ถึงจะเป็นสัตว์อสูรตัวใหญ่ แต่มันก็มีแค่ตัวเดียว

ถ้ามันมาเป็นคู่หรือมีลูกมาด้วยนางคงได้ถือพัดเหล็กของตัวเองไว้แล้ว ถึงอย่างนั้นพลังข่มขวัญของพวกสัตว์อสูรก็น่ากลัวอยู่ดี

กู้หลินฟางรับพัดมาเก็บไว้กับตัว นางคงทำให้พวกสาวใช้เป็นห่วงถ้าไม่ถือไว้

“จะว่าไปพวกกลุ่มต้าหยางนี่สมคำร่ำลือจริง ๆ นะ”

“เจ้าก็ได้ยินข่าวลือมาเหมือนกันรึ?”

สาวใช้คนสนิททั้งสองป้องปากซุบซิบกันทั้งที่ตรงนี้ไม่มีใครอื่น และเจ้านายก็ได้ยินชัดเต็มหู

“คนจากสำนักคุ้มภัยคลุกดินคลุกฝุ่นตัวใหญ่น่ากลัว แต่กลุ่มต้าหยางมีแต่คนรูปงามสะอาดสะอ้าน”

เนื้องานของหอคุ้มภัยมักจะต้องไปคลุกฝุ่นคลุกโคลนอย่างที่เห็น เดินทางติดต่อกันนานหลายวัน และกักขฬะกันพอสมควร ดังนั้นสมาชิกของหอจะหาคนหน้าตาสะอาดสะอ้านได้ยาก เรื่องดูแลตัวเองไม่ต้องพูดถึง ไม่ต่างกับงมเข็มในมหาสมุทรเลย

เรื่องนี้ต้องชมเชยเทียนจื่อซาน เวลาที่เขารู้สึกชอบพอหรือสนใจใครก็อยากให้อีกฝ่ายประทับใจ และเห็นภาพลักษณ์ดี ๆ ของตัวเอง เขาจึงเคี่ยวเข็ญให้พี่น้องในกลุ่มดูแลตัวเองไปด้วย แม้จะไม่ได้รับรักตอบก็ยังทำสม่ำเสมอมาจนตอนนี้

น่าเจ็บใจที่พอทำแบบนั้นพี่น้องที่พบรักล้วนสมหวัง พวกเขาทั้งหมดจึงยังหมั่นดูแลตัวเอง เพราะผลลัพธ์ปรากฏเห็น ๆ ตรงหน้า แต่คนต้นคิดกลับปลูกแห้วได้เป็นไร่

“ก็เป็นความจริงอยู่นะ”

กู้หลินฟางมองตามแผ่นหลังของคนที่กำลังถูกพูดถึง นางรู้สึกเห็นด้วยกับคำพูดนั้นอย่างบอกไม่ถูก จากที่ไปหอคุ้มภัยมาเมื่อวันก่อนก็ดูจะเป็นความจริงเสียด้วย

ไม่มีอะไรคัดค้านเลย หน้าตาดีจริง ๆ

“อืม…อาจต้องมองไว้หน่อยนะ”

“อะไรหรือเจ้าคะคุณหนู?”

“ไม่มีอะไร ข้าคิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ พรุ่งนี้จะออกเดินทางแต่เช้าพวกเจ้ารีบนอนเถอะ” สุดท้ายนางก็เปลี่ยนเรื่อง

หญิงสาวนอนพักในกระโจมหลังใหญ่ พวกสาวใช้คนสนิทนอนพื้นขนาบข้าง ส่วนคุณหนูผู้เป็นเจ้านายนอนพื้นปูฟูกอยู่ตรงกลาง ระดับของหัวนอนก็ต่างกัน

แสงตะเกียงในกระโจมดับลง กู้หลินฟางหลับไปโดยที่กำพัดเหล็กเอาไว้แนบตัวตลอดทั้งคืน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้   บทส่งท้าย วาสนาของบุรุษผู้นั้น 2 (จบ)

    นานครั้งจะได้หยุดพักวันนี้พวกเขาจึงออกมาตกปลาที่แม่น้ำนอกเมือง กู้หรูอันกับหยางอวี่พาบุตรชายวัยแปดเดือนมาเปลี่ยนบรรยากาศด้วยเช่นกัน เป็นวันธรรมดาแสนเรียบง่ายที่นานครั้งจะได้มีส่วนอีกคนก็อาสามาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก“อ้ายอวี่ เจ้าไหวแน่นะ” กู้หลินฟางหันมามองคนที่นั่งอยู่เสื่อปูพื้นเป็นระยะ“ไม่เป็นไรขอรับท่านพี่ ข้ารับมือไหว” เอ่ยบอกทั้งเหงื่อตก มือหนึ่งเขาอุ้มหลานคนเล็กไว้แนบอก อีกมือกำลังจับเสื้อหลานคนโตที่กำลังจะวิ่งไว้ดูอย่างไรก็ไม่ใช่ว่าไม่เป็นไรเลยนะ“จริง ๆ นะขอรับ พวกท่านพี่พักผ่อนตามสบายเถอะขอรับไม่ต้องสนใจข้า”ในเมื่อเขายืนยันถึงขนาดนั้นแล้วนางจะหักหาญความตั้งใจก็ใช่ที่“ถ้าไม่ไหวก็เรียกข้าล่ะ”“ขอรับ” หลังนางหันกลับไปสนใจปลาในน้ำเขาก็มาวุ่นวายกับสองแสบนี่ต่อกู้อ้ายอวี่ต้องเอาเชือกมาผูกเอวหลานคนโตไว้กับเอวตัวเองไม่ให้นางวิ่งเล่นไปไกลหูไกลตามากเกิน เขาปล่อยหลานชายนอนกลิ้งเล่นบนเบาะที่เตรียมมา“ท่านน้า อวี้อวี้อยากไปเล่นน

  • วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้   บทส่งท้าย วาสนาของบุรุษผู้นั้น 1

    พื้นระเบียงเปียกน้ำเป็นทางยาว ฝ่าเท้าเล็ก ๆ วิ่งหนีพี่เลี้ยงไปทั่วเรือน เสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากของเด็กหญิงวัยสี่ขวบเป็นดั่งดอกไม้บานในสวนของฤดูใบไม้ผลิกู้จื่ออวี้เป็นคุณหนูน้อยที่ซุกซนเสียจนต้องมีพี่เลี้ยงตามประกบใกล้ชิด ไม่อย่างนั้นแม่สาวน้อยคงได้พาแขนขาเล็ก ๆ ของตัวเองปีนขึ้นต้นท้อแล้วห้อยโหนอยู่บนนั้น ทำมารดากับท่านน้าหัวใจวายวันละหลายรอบคุณหนูน้อยกำลังคึกได้ที่ถูกคว้าตัวไว้อุ้มค้างต่องแต่ง พอเห็นว่าคนที่มาขัดจังหวะการป่วนพี่เลี้ยงเป็นใครนางก็เอ่ยเรียกเสียงสดใส“ท่านพ่อ!” มือน้อย ๆ ไขว่คว้าจับชุดขนสัตว์ของเขาด้วยความเคยชิน แต่เทียนจื่อซานก็ไม่ให้ลูกเข้าใกล้“พ่อพึ่งกลับมา อาบน้ำแล้วค่อยมาเล่นกับเจ้านะ”“ไม่เอา!” บุตรสาวตัวน้อยหน้าบูดบึ้ง แก้มพองเหมือนยัดผลพลับเข้าไปทั้งลูกเขายิ้มแหย ลูกสาวงอนเสียแล้ว ใช่ว่าจะหายง่ายเสียด้วย แต่เขาจะแตะตัวลูกก็ไม่ได้เหมือนกัน บนตัวมีแต่กลิ่นเลือดสัตว์ ไหนจะดินฝุ่นที่ไปกลิ้งทับมาอีก“แม่นม” เขาเรียกนางมาแล้วส่งจื่ออวี้น้อยคืน

  • วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้   ลูกเขยสกุลกู้ 2

    “ทำหน้าฮึกเหิมเชียว มีอะไรดี ๆ อย่างนั้นหรือ”“ไม่มี ข้าแค่คิดว่าจะช่วยงานหลินหลินได้อย่างไรบ้างน่ะ”“แปลว่าคิดออกแล้วสิ ยิ้มกว้างขนาดนั้น”“อื้อ!” เขาขานรับอย่างกระตือรือร้นแล้วบอกความคิดของตนให้นางฟังเวลาที่เดินกลับบ้านนี้อยากให้ยาวนานขึ้นอีกหน่อย เสียงของเขานุ่มนวลยามเมื่อเอ่ยถึงอนาคตที่มีนางอยู่ด้วย เทียนจื่อซานยังคงเหมือนวันแรกที่นางได้ทำความรู้จักกับเขา บางทีการถูกถอนหมั้นสองครั้ง และยกเลิกการหมั้นหนึ่งครั้งอาจเพื่อโชคชะตานี้หลายเดือนต่อมาสิ่งที่เป็นที่เชิดหน้าชูตาของแคว้นอ้ายก็ไม่ใช่เพียงการค้าขายแต่เป็นระบบขนส่งที่นำหน้าใครก็ตามในแผ่นดินใหญ่นี้ ใครก็ตามที่เคยปรามาสสกุลกู้ไว้ต้องกลืนน้ำลายตัวเองและสงบปากสงบคำให้ดี เพราะไม่อย่างนั้นอาจเป็นพวกนอกคอกที่ถูกสั่งห้ามขึ้นขบวนรถก็เป็นได้ ถึงสกุลกู้ผู้มีใจกว้างขวางจะไม่เคยคิดห้ามใครใช้งานมันแต่ก็มีคนที่หวั่นเกรงจากเรื่องราวในอดีตอยู่ดีก่อนที่พาหนะเหล็กนี่จะได้อวดโฉมผู้คนต่างดูถูกดูแคลนทุกสิ่งที่หญิงสาวผู้นั้นกระทำ แม้แต่สามีของนา

  • วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้   ลูกเขยสกุลกู้ 1

    เห็นกู้หลินฟางเดินมาแต่ไกลหัวหน้ากลุ่มต้าหยางก็ออกมารับนาง ฝากที่เหลือให้เสวียนหรงดูแล“หลินหลิน” เขาฉวยมือนางไปจับแนบไว้ ยิ้มพออกพอใจออกนอกหน้าชวนหมั่นไส้“ไปเดินในเมืองกันไหม”“ได้เลย”การจับมือถือแขนเช่นนี้โดนผู้คนมองตามจนเหลียวหลังและนินทา แต่ทั้งสองไม่ได้สนใจเทศกาลใบไม้ผลิที่คู่รักจะได้เพลิดเพลินและเคยสัญญากับอ้ายอวี่ไว้ว่าจะไปด้วยยังไม่ทันเกิดพวกเขาก็จะแต่งงานแล้ว นึกถึงแล้วก็ชวนขบขันที่อะไร ๆ ก็ดูไม่เป็นไปตามแผนเลยแม้แต่อย่างเดียวตั้งแต่ต้นปี ราวกับเป็นช่วงมรสุมชีวิตถาโถมอย่างไรอย่างนั้น พอมาถึงจุดนี้ก็เริ่มสำเร็จลุล่วงไปทีละอย่าง กาลข้างหน้าอันใกล้คงมั่นคงแล้ว“หลินหลินอยากไปที่ใดหรือ”“ข้าอยากไปดูอะไรแถวท่าเรือหน่อยเลยให้ท่านมาเป็นเพื่อน”ดูเหมือนคนรักของเขาจะแอบมาทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆ อีกแล้ว ก็ดีที่นางเลือกพาเขาไม่ใช่มาลำพังกับลู่ไป๋ที่ไม่รู้แอบอยู่ตรงไหน“ข้าต้องทำอะไรหรือเปล่า”“หากถูกเจอแค่ตีเนียนไปกับข้าก็พอ&rdq

  • วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้   แต่งเข้าสกุลกู้ 3

    กู้หลินฟางเดินทางมาเหนื่อยแล้วจึงขอตัวไปพักผ่อน ฉู่หลานไม่เข้าใจสิ่งที่ลูกพูดทั้งหมด แต่ก็รับรู้ได้ว่าเรื่องนี้นางไม่จำเป็นต้องห่วงมากเกินไป การสำรวจเส้นทางและคำขอจากวังหลวงเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้ว สกุลกู้มีเวลามากพอจะทุ่มความสนใจไปที่งานใหญ่ที่กำลังจะมาถึงเมื่อตัดสินใจแล้ว สามวันให้หลังนางจึงพาเทียนจื่อซานมาพบครอบครัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง อีกไม่นานจะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนางหวังว่าพวกเขาจะเข้ากันได้ดีหรือเขม่นกันไม่มาก โชคดีที่การพบกันเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะบุคลิกร่าเริงของเทียนจื่อซานเป็นกันเองและจริงใจทุกการกระทำ เขาจึงชนะใจพ่อแม่ของว่าที่ภรรยาได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอพอรู้ว่าเขาเป็นหัวหน้ากลุ่มต้าหยาง พ่อกับแม่ของนางก็ซักถามเป็นการใหญ่ กู้หลินฟางแทบจะกลายเป็นคนนอกเสียเอง ประสบการณ์ของเขาทำให้ผู้อาวุโสทั้งสองที่ชีวิตอิ่มตัวตื่นเต้นอย่างที่ไม่ได้รู้สึกมานาน“หลังแต่งแล้วก็จะไปทำงานอย่างเดิมหรือ”“ข้าคิดว่าจะยังทำต่อไปขอรับ ราคาวัตถุดิบของสัตว์อสูรสูงไม่น้อย ยิ่งพวกที่จัดการยากบางตัวไม่สามารถตีราคาได้จนต้องเปิดประม

  • วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้   แต่งเข้าสกุลกู้ 2

    คุณหนูใหญ่สกุลกู้เดินไปที่เรือนรับรอง นอกจากเสียงโครมครามก่อนหน้านี้ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวก็มีแต่เสียงโวยวายของสตรีนางหนึ่งดังทะลุออกมา กู้หลินฟางเคาะประตูพอเป็นมารยาทแล้วเปิดพรวดเข้าไปเลย ทั้งห้องเงียบกริบหันมามองนางเป็นตาเดียว“แหม คุณหนูเฉียวนี่เอง ข้านึกอยู่ว่าท่านพ่อซื้อแร้งมาเลี้ยงหรือเปล่า ไม่ใช่สินะ” นางเยื้องย่างมานั่งลงข้างบิดาในห้องนี้นอกจากประมุขตระกูลกับเฉียวฮวาแล้วก็ยังมีฮูหยินอีกคน ใบหน้าของนางไม่แสดงอารมณ์ เพียงส่งสายตามองบุตรสาวครู่หนึ่ง ฉู่หลานเวลาอยู่บ้านในฐานะแม่และนายหญิงนางจะเป็นคนอ่อนโยนมาก ยิ้มแย้มและพูดคุยกับบ่าวไพร่ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเสมอ แต่เวลาต้องทำหน้าที่ฮูหยินของนายท่าน นางจะแสดงอีกด้านหนึ่งให้เห็นแทน“เจ้าว่าข้าเป็นแร้งรึ!”“ขออภัยด้วยที่ข้าเข้าใจผิด แต่เสียงคุณหนูเฉียวดังออกไปถึงข้างนอก คงยากจะคิดได้ว่าเป็นบุตรสาวผู้ดีที่ไหน”“ลามปาม!” กู้หลินฟางอายุอ่อนกว่านางตั้งเท่าไร มีสิทธิ์อะไรมาพูดกับนางแบบนี้“คุณหนูเฉียว ที่ท่านทำอยู่ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status