Home / รักโบราณ / วาสนาข้ามภพ ชะตารักพลิกผัน / ๐๕ ลมพัดใบไผ่ สู่ห้วงสมาธิอันล้ำลึก

Share

๐๕ ลมพัดใบไผ่ สู่ห้วงสมาธิอันล้ำลึก

last update Last Updated: 2025-06-05 19:24:39

ยามตรุษวสันต์¹เวียนมาบรรจบ อากาศยังคงเย็นยะเยือก

ทว่าภายในเรือนเล็กของสกุลตู้กลับอบอวลไปด้วยความอบอุ่นและบรรยากาศอันผ่อนคลาย ตู้เยี่ยนอวี่ในวัยสิบห้าปีบริบูรณ์ นั่งอยู่บนเสื่อฟางผืนบางภายในห้องของตนเอง ดวงตาหลับพริ้ม ใบหน้าสงบนิ่ง ลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ เป็นจังหวะที่มิเร่งร้อน มิช้าเกินไป

นี่มิใช่การพักผ่อนธรรมดา หากแต่เป็นการฝึกฝนวิชากำลังภายในจากม้วนคัมภีร์เก่าแก่ที่นางค้นพบโดยบังเอิญเมื่อหลายเดือนก่อน แม้ตำราจะเขียนด้วยภาษาที่ยากจะเข้าใจในตอนแรก แต่ด้วยความเพียรพยายามและสติปัญญาที่เฉลียวฉลาด ตู้เยี่ยนอวี่ก็ค่อย ๆ ตีความและทำความเข้าใจหลักการต่าง ๆ ได้ทีละน้อย

‘ลมปราณคือรากฐานแห่งชีวิต พลังงานหมุนเวียนในกายเปรียบดุจแม่น้ำที่ไหลหล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง’ เสียงท่องจำในตำราดังขึ้นในห้วงความคิดของนาง ‘หากแม่น้ำบริสุทธิ์และไหลเวียนสะดวก ร่างกายย่อมแข็งแรงและอายุยืนยาว’

นางจินตนาการถึงเส้นลมปราณในร่างกายของตนเอง แต่สัมผัสได้ถึงกระแสพลังงานที่ไหลเวียนอยู่ภายใน ทุกครั้งที่ลมปราณไหลเวียนผ่านจุดชีพจรสำคัญ ความรู้สึกร้อนวูบวาบก็แผ่ซ่านไปทั่วร่าง

แรกเริ่ม การฝึกฝนเป็นไปด้วยความยากลำบาก นางมิอาจควบคุมลมปราณได้อย่างใจนึก บางครั้งก็รู้สึกเจ็บปวด บางครั้งก็รู้สึกเหนื่อยล้า แต่ด้วยความมุ่งมั่นและอดทน ตู้เยี่ยนอวี่ก็มิเคยท้อถอย นางระลึกอยู่เสมอว่าวิชาความรู้เหล่านี้ อาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้นางเอาชีวิตรอดในโลกใบนี้ได้ และยังสามารถนำไปช่วยเหลือผู้อื่นได้อีกด้วย

“คุณหนูเจ้าคะ ถึงเวลาอาหารเช้าแล้วเจ้าค่ะ” เสียงเรียกของเสี่ยวจูดังขึ้นจากนอกห้องอย่างแผ่วเบา เกรงว่าจะรบกวนนายหญิงของตน

ตู้เยี่ยนอวี่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ทว่าแววตาของนางฉายประกายความสงบและแจ่มใส ดุจท้องฟ้าหลังพายุฝนผ่านพ้นไป ความรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าแผ่ซ่านไปทั่วสรรพางค์กาย

“เข้ามาเถิดเสี่ยวจู” นางตอบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล

เมื่อเสี่ยวจูเข้ามาในห้อง นางก็สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวคุณหนูของตน ดวงตาที่เคยฉายแววกังวลเมื่อแรกเริ่มนั้น บัดนี้กลับเปี่ยมไปด้วยความมั่นคงและสงบนิ่ง รูปร่างที่เคยบอบบางก็ดูแข็งแรงขึ้นเล็กน้อย

“วันนี้คุณหนูดูสดใสยิ่งนักเจ้าค่ะ” เสี่ยวจูเอ่ยชมด้วยความจริงใจ

ตู้เยี่ยนอวี่เพียงยิ้มตอบ มิได้กล่าวอันใด

นางรู้ดีว่านี่เป็นผลมาจากการฝึกฝนกำลังภายในที่นางเพิ่งเริ่มต้น เส้นทางนี้ยังอีกยาวไกล แต่เพียงแค่การเริ่มต้นก็ทำให้ร่างกายและจิตใจของนางแข็งแกร่งขึ้นมากแล้ว

วันเวลาผันผ่านไปอย่างเชื่องช้า ทว่ายามนี้วันเวลาก็ผันผ่านมาได้เดือนแล้วเดือนเล่าแล้ว

ยามฤดูใบไม้ผลิกลับมาเยือนอีกครา ต้นไม้ในหมู่บ้านซีหลินเริ่มผลิใบอ่อน ดอกไม้นานาชนิดเริ่มเบ่งบานส่งกลิ่นหอมกรุ่น

ในช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาชื่อเสียงของหมอเทวดาตู้ได้เป็นที่เลื่องลือไปไกลยิ่งนัก ดุจสายลมที่พัดพานำพาเอาข่าวสารไปทุกทิศทุกทาง ไม่เพียงแต่ชาวบ้านในหมู่บ้านซีหลินและหมู่บ้านใกล้เคียงเท่านั้นที่มาขอความช่วยเหลือ แม้แต่ผู้คนจากหัวเมืองอื่นก็เริ่มหลั่งไหลมาขอคำปรึกษาจากนาง

วันหนึ่ง ชายสูงวัยผู้หนึ่งในชุดผ้าไหมเนื้อดี ใบหน้าฉายแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด ได้เดินทางมาพร้อมกับบุตรสาวที่ป่วยหนัก บุตรสาวของเขามีอาการผื่นคันแดงไปทั่วตัว มีไข้สูง และอ่อนเพลียอย่างมาก

“คารวะหมอเทวดาตู้ ขอท่านโปรดเมตตาช่วยบุตรสาวของข้าด้วยเถิด” ชายผู้นั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน “ข้าเดินทางมาจากเมืองจิ่นหยาง มิมีแพทย์ผู้ใดในเมืองจิ่นหยางสามารถรักษาบุตรสาวของข้าได้เลยขอรับ”

ตู้เยี่ยนอวี่ก้าวเข้ามาใกล้ มองดูอาการของเด็กสาวอย่างละเอียดถี่ถ้วน นางสัมผัสที่ผิวหนังที่ร้อนผ่าว และตรวจดูอาการอื่น ๆ อย่างใจเย็น

“นี่คือโรคผื่นไฟ ซึ่งเกิดจากความร้อนสะสมในกายและลมปราณอุดกั้น” ตู้เยี่ยนอวี่กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นคง “มิใช่โรคร้ายแรง แต่ต้องใช้เวลาในการบำบัดรักษา”

ชายผู้นั้นถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ขอท่านโปรดช่วยบุตรสาวของข้าด้วยเถิด หากนางหายจากอาการป่วย ข้ายินดีตอบแทนท่านอย่างงาม”

ตู้เยี่ยนอวี่ส่ายหน้าเบา ๆ “ข้ามิได้หวังสิ่งใดตอบแทน ท่านเพียงแค่พาบุตรสาวของท่านมาพักรักษาตัวที่เรือนเล็กของข้าสักระยะก็พอแล้ว”

คำพูดของนางทำให้ชายผู้นั้นซาบซึ้งใจยิ่งนัก ดุจน้ำทิพย์ที่ชโลมจิตใจที่แห้งแล้งของเขา

ตลอดระยะเวลาการรักษา ตู้เยี่ยนอวี่มิได้ใช้เพียงความรู้ทางการแพทย์โบราณที่ได้ศึกษามาเท่านั้น แต่นางยังนำความรู้ด้านสุขอนามัยที่ทันสมัยกว่าจากโลกเดิมมาปรับใช้ด้วย เช่น การแยกภาชนะ การรักษาความสะอาดของบาดแผล และการให้ผู้ป่วยพักผ่อนในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก

“หากร่างกายสะอาด ปราศจากสิ่งสกปรก โรคภัยไข้เจ็บย่อมมิอาจเข้าสู่กายได้” นางกล่าวแนะนำแก่บ่าวรับใช้ที่ดูแลคนป่วย

เมื่อการรักษาดำเนินไป อาการของเด็กสาวก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ผื่นคันที่เคยแดงก่ำก็เริ่มจางลง ไข้ก็ลดลง และกลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้ง

“หมอเทวดาตู้ ! บุตรสาวของข้าหายแล้วขอรับ !” ชายผู้นั้นร้องอุทานด้วยความยินดี ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ก่อนที่ชายผู้นั้นจะจากไป เขามอบถุงผ้าไหมบรรจุทองคำจำนวนหนึ่งให้แก่ตู้เยี่ยนอวี่

“นี่คือสินน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากใจของข้า ขอท่านโปรดรับไว้ด้วยเถิด”

ตู้เยี่ยนอวี่ส่ายหน้าเบา ๆ “ข้ามิอาจรับสิ่งเหล่านี้ไว้ได้เจ้าค่ะ การได้เห็นผู้ป่วยหายจากอาการเจ็บป่วย นั่นคือสิ่งตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับข้าแล้วเจ้าค่ะ”

ชายผู้นั้นรู้สึกประทับใจในคุณธรรมของตู้เยี่ยนอวี่เป็นอย่างมาก ก่อนจากไปเขาได้โค้งคำนับนางอย่างนอบน้อม และให้คำมั่นสัญญาว่าหากมีสิ่งใดที่เขาจะช่วยเหลือได้ เขาจะมิมีวันปฏิเสธ

ยามฤดูใบไม้ผลิผลิบานเต็มที่ หมู่บ้านซีหลินเต็มไปด้วยชีวิตชีวา

ตู้เยี่ยนอวี่มิได้หยุดนิ่งอยู่กับที่ นางยังคงใช้เวลาในการฝึกฝนกำลังภายในอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้นางยังศึกษาตำราโบราณที่เกี่ยวกับธรรมชาติและสมุนไพร เพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้แก่ตนเองอย่างไม่หยุดหย่อน

วันหนึ่ง ในขณะที่นางกำลังนั่งสมาธิอยู่กลางสวนหลังบ้าน ท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้ที่กำลังเบ่งบาน ก็สัมผัสได้ถึงกระแสลมปราณที่ไหลเวียนในกายอย่างราบรื่นและรวดเร็วกว่าที่เคยเป็น แต่ทว่าก็มิได้รุนแรง

นางลองรวบรวมพลังงานภายในไว้ที่ฝ่ามือช้า ๆ ปรากฏว่าเกิดแสงเรืองรองสีฟ้าอ่อน ๆ ขึ้นที่ปลายฝ่ามือเล็กน้อย

“นี่คือพลังภายในงั้นหรือ ?” นางพึมพำกับตนเองด้วยความประหลาดใจ แววตาของนางฉายประกายความตื่นเต้น

แม้พลังนี้จะยังไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่ก็เป็นสิ่งยืนยันว่าการฝึกฝนของนางมิได้ไร้ผล

ตู้เยี่ยนอวี่รู้ดีว่าเส้นทางแห่งการฝึกฝนวิชากำลังภายในนั้นยังอีกยาวไกลนัก แต่นางก็มิได้หวาดหวั่น จิตใจของนางเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นและอดทน ดุจหินผาที่มิสะทกสะท้านต่อลมพายุ

นางตั้งใจว่าจะใช้พลังนี้เพื่อช่วยเหลือผู้คนให้ได้มากที่สุด ดุจแสงเทียนที่ส่องสว่างนำทางให้แก่ผู้ที่หลงทาง และจะมิยอมให้พลังนี้ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดโดยเด็ดขาด

ในยามค่ำคืนนั้น ตู้เยี่ยนอวี่นอนอยู่บนเตียงไม้แข็งกระด้าง แต่จิตใจกลับเปี่ยมด้วยความสุขสงบ ดุจทะเลสาบที่ราบเรียบยามไร้ลมพัด นางนึกถึงชีวิตในโลกเดิมที่วุ่นวายและเต็มไปด้วยการแข่งขัน บัดนี้ชีวิตในโลกใบนี้ แม้จะเรียบง่ายกว่า แต่กลับทำให้นางค้นพบความสุขและความหมายที่แท้จริงของชีวิต

“ฟ้าลิขิตให้ข้ามายังโลกใบนี้” นางรำพึงรำพัน “ข้าจะใช้ชีวิตนี้ให้คุ้มค่าที่สุด”

————————

¹ยามตรุษวสันต์ หมายถึง ช่วงเวลาแห่งเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ หรือกล่าวให้ง่ายคือช่วงตรุษจีน ซึ่งในวัฒนธรรมจีนถือเป็นช่วงเวลาเริ่มต้นปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติ เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข การเฉลิมฉลอง และการกลับบ้านหาครอบครัว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วาสนาข้ามภพ ชะตารักพลิกผัน   ๐๗ กายใจแกร่งกล้า ดุจหินผาต้านทานพายุ

    ยามฟ้าครามสดใส แสงตะวันสาดส่องลงมายังผืนดินร้อนระอุ แม้ไอแดดจะแผดจ้าเพียงใด แต่ก็มิอาจห้ามยั้งความตั้งใจของตู้เยี่ยนอวี่ได้เลยนางยังคงฝึกฝนวิชากำลังภายในอย่างมุ่งมั่น บริเวณลานหลังบ้านที่เงียบสงบ ต้นไผ่ที่ปลูกเรียงรายส่งเสียงเสียดสีกันตามแรงลม ดุจเสียงกระซิบจากธรรมชาติที่ช่วยให้นางเข้าถึงสมาธิได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นนางเคลื่อนไหวช้า ๆ แต่แฝงด้วยความแข็งแกร่งและคล่องแคล่ว ดุจกระเรียนที่กำลังร่ายรำเพลงยุทธ์ ท่วงท่าแต่ละท่วงท่าล้วนเชื่อมโยงกันอย่างเป็นธรรมชาติ ลมปราณในกายไหลเวียนอย่างสม่ำเสมอ ดุจสายน้ำที่ไหลรินในลำธารที่แห้งแล้งบัดนี้นางสามารถควบคุมลมปราณให้ไหลเวียนไปยังจุดต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น“ลมหายใจต้องเป็นหนึ่งเดียวกับลมปราณ” เสียงคำสอนในตำราดังก้องอยู่ในห้วงความคิดของนาง “เมื่อจิตมั่นคง ลมปราณย่อมบริสุทธิ์และไหลเวียนได้อย่างไร้ขีดจำกัด”ในทุก ๆ วันนางจะใช้เวลาในยามเช้าตรู่และยามค่ำคืนในการฝึกฝนวิชากำลังภายใน บางครั้งก็ฝึกซ้อมท่ารำมวยจีนโบราณ บางครั้งก็นั่งสมาธิเพื่อปรับลมปราณให้สมดุล แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด แต่นางก็มิเคยท้อถอย เพราะรู้ดีว่าการฝึกฝนเหล่านี้จะช่วยให้ร

  • วาสนาข้ามภพ ชะตารักพลิกผัน   ๐๖ สายธารแห่งปัญญา หล่อเลี้ยงจิตใจอันบริสุทธิ์

    เดือนสี่ ปีวสันต์ รัชศกเทียนเหอปีที่เจ็ดสิบเจ็ดยามอรุณรุ่งสาดส่องลงมายังหมู่บ้านซีหลิน ดุจแพรไหมสีทองที่คลี่คลุมผืนปฐพี เสียงระฆังจากวัดท้ายหมู่บ้านดังกังวานแผ่วเบา ดุจเสียงเรียกจากสรวงสวรรค์ตู้เยี่ยนอวี่ตื่นขึ้นจากห้วงนิทราด้วยจิตใจที่สงบและปลอดโปร่ง ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมานางมิเพียงแค่ร่ำเรียนวิชาการแพทย์และกำลังภายในเท่านั้น หากแต่ยังใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายกลมกลืนกับผู้คนในหมู่บ้านวันนี้นางมีนัดกับท่านผู้เฒ่าหลี่ หมอประจำหมู่บ้านที่เคยประจักษ์ในฝีมือของนางเมื่อคราวก่อน แม้จะเป็นผู้เฒ่า แต่ท่านผู้เฒ่าหลี่ก็เป็นผู้ที่มีจิตใจเปิดกว้าง ยินดีที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และมิได้ยึดติดกับความรู้เก่า ๆ เลย“คุณหนูตู้เยี่ยนอวี่ มาแต่เช้าเลยนะ” ท่านผู้เฒ่าหลี่เอ่ยทักทายด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ยามเห็นเยี่ยนอวี่ก้าวเข้ามาในเรือนยาของเขา“คารวะท่านผู้เฒ่าหลี่เจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี่โค้งคำนับอย่างนอบน้อม “ข้าเพียงอยากมาขอคำชี้แนะจากท่านผู้เฒ่าเจ้าค่ะ”“เชิญนั่งก่อนเถิด” ท่านผู้เฒ่าหลี่ผายมือเชิญไปยังที่นั่งว่าง “มิรู้ว่าวันนี้แม่นางมีข้อสงสัยอันใดหรือ ?”ตู้เยี่ยนอวี่นั่งลงอย่างเรียบร้อย“ข้ากำลังศึกษาต

  • วาสนาข้ามภพ ชะตารักพลิกผัน   ๐๕ ลมพัดใบไผ่ สู่ห้วงสมาธิอันล้ำลึก

    ยามตรุษวสันต์¹เวียนมาบรรจบ อากาศยังคงเย็นยะเยือกทว่าภายในเรือนเล็กของสกุลตู้กลับอบอวลไปด้วยความอบอุ่นและบรรยากาศอันผ่อนคลาย ตู้เยี่ยนอวี่ในวัยสิบห้าปีบริบูรณ์ นั่งอยู่บนเสื่อฟางผืนบางภายในห้องของตนเอง ดวงตาหลับพริ้ม ใบหน้าสงบนิ่ง ลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ เป็นจังหวะที่มิเร่งร้อน มิช้าเกินไปนี่มิใช่การพักผ่อนธรรมดา หากแต่เป็นการฝึกฝนวิชากำลังภายในจากม้วนคัมภีร์เก่าแก่ที่นางค้นพบโดยบังเอิญเมื่อหลายเดือนก่อน แม้ตำราจะเขียนด้วยภาษาที่ยากจะเข้าใจในตอนแรก แต่ด้วยความเพียรพยายามและสติปัญญาที่เฉลียวฉลาด ตู้เยี่ยนอวี่ก็ค่อย ๆ ตีความและทำความเข้าใจหลักการต่าง ๆ ได้ทีละน้อย‘ลมปราณคือรากฐานแห่งชีวิต พลังงานหมุนเวียนในกายเปรียบดุจแม่น้ำที่ไหลหล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง’ เสียงท่องจำในตำราดังขึ้นในห้วงความคิดของนาง ‘หากแม่น้ำบริสุทธิ์และไหลเวียนสะดวก ร่างกายย่อมแข็งแรงและอายุยืนยาว’นางจินตนาการถึงเส้นลมปราณในร่างกายของตนเอง แต่สัมผัสได้ถึงกระแสพลังงานที่ไหลเวียนอยู่ภายใน ทุกครั้งที่ลมปราณไหลเวียนผ่านจุดชีพจรสำคัญ ความรู้สึกร้อนวูบวาบก็แผ่ซ่านไปทั่วร่างแรกเริ่ม การฝึกฝนเป็นไปด้วยความยากลำบาก นางมิอาจคว

  • วาสนาข้ามภพ ชะตารักพลิกผัน   ๐๔ เมล็ดพันธุ์คุณธรรม แผ่กิ่งก้านสาขา

    ยามลมหนาวเริ่มพัดโชยมา ต้นไม้ในหมู่บ้านซีหลินเริ่มผลัดใบ ทิ้งความเขียวชอุ่มของฤดูร้อนไว้เบื้องหลัง ทว่าในใจของตู้เยี่ยนอวี่กลับมิได้มีแม้แต่ความเหี่ยวเฉา ดุจบุปผาที่ไม่เคยโรยรา ชื่อเสียงของหมอเทวดาตูได้แผ่ขยายออกไปไกลกว่าที่นางคาดคิด ผู้คนจากหมู่บ้านใกล้เคียงเริ่มเดินทางมาขอความช่วยเหลือมิขาดสาย ตั้งแต่ยามอรุณรุ่งจนกระทั่งยามสนธยา“คุณหนูเจ้าคะ มีชาวบ้านจากหมู่บ้านไผ่เขียวมาขอพบเจ้าค่ะ” เสี่ยวจูรายงานด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน แต่นัยน์ตากลับเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมในตัวนายหญิงของตนตู้เยี่ยนอวี่ที่กำลังจัดเรียงสมุนไพรในห้องปรุงยา หันมายิ้มอย่างอ่อนโยน“เชิญเขาเข้ามาเถิดเสี่ยวจู”ชายวัยกลางคนผู้หนึ่ง สวมเสื้อผ้าเก่า ๆ ขาด ๆ ใบหน้าฉายแววความกังวลอย่างเห็นได้ชัด เดินเข้ามาพร้อมกับเด็กสาววัยราวสิบขวบปีที่กำลังไอโขลก ใบหน้าซีดเซียว ร่างกายซูบผอม“คารวะหมอเทวดาตู้ ขอท่านโปรดช่วยบุตรสาวของข้าด้วยเถิด นางป่วยมาหลายวันแล้ว กินยาก็ไม่หาย ไอจนตัวโยน แทบจะขาดใจแล้วขอรับ” ชายผู้นั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน พร้อมกับคุกเข่าลงต่อหน้าเยี่ยนอวี่ตู้เยี่ยนอวี่รีบพยุงชายผู้นั้นขึ้น“ท่านลุงมิต้องทำเช่นนั้นเจ้

  • วาสนาข้ามภพ ชะตารักพลิกผัน   ๐๓ หยกงามซ่อนประกาย เปล่งรัศมีในความเงียบงัน

    ยามตะวันคล้อยต่ำ แสงสีทองสาดส่องกระทบผืนน้ำในลำธารซีหลิน ทำให้ผิวน้ำเป็นประกายระยิบระยับ ดุจดวงดาวนับร้อยที่ร่วงหล่นจากฟากฟ้าตู้เยี่ยนอวี่ยืนอยู่ริมท่าน้ำ มือเรียวบางกำลังซักผ้าอย่างคล่องแคล่ว ท่ามกลางเสียงเจื้อยแจ้วของเหล่าสตรีในหมู่บ้านที่กำลังทำกิจวัตรประจำวัน การเรียนรู้งานบ้านงานเรือนเหล่านี้เป็นดั่งบทเรียนสำคัญที่ทำให้นางเข้าใจชีวิตของผู้คนในยุคสมัยนี้อย่างลึกซึ้งขึ้นทีละน้อย“คุณหนูเยี่ยนอวี่ ช่างขยันขันแข็งยิ่งนัก” หญิงชราผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นขณะเดินผ่านไป นางมีใบหน้ายิ้มแย้ม และแววตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม“ท่านป้ากล่าวเกินไปแล้วเจ้าค่ะ” เยี่ยนอวี่ตอบด้วยรอยยิ้มงดงาม ดุจดอกเหมยยามแรกแย้ม “ข้าเพียงช่วยแบ่งเบาภาระของท่านแม่เท่านั้นเจ้าค่ะ”คำพูดของนางดูเป็นธรรมชาติยิ่งนัก ยากที่จะมีใครล่วงรู้ว่าเบื้องลึกในจิตใจของสตรีผู้นี้ ยังคงหลงเหลือเศษเสี้ยวความทรงจำจากโลกที่ห่างไกลออกไปนับพันปีหลังจากกลับจากท่าน้ำเยี่ยนอวี่ก็ตรงไปยังห้องสมุดของตระกูลทันที ห้องสมุดแห่งนี้เปรียบเสมือนหลุมหลบภัยชั้นดีสำหรับนาง เป็นสถานที่ที่นางสามารถดำดิ่งลงไปในโลกที่เต็มไปด้วยความรู้ และค้นพบหนทางที่จะใช้ชีวิต

  • วาสนาข้ามภพ ชะตารักพลิกผัน   ๐๒ วสันต์กาลผันผ่าน ชีวิตใหม่เพิ่งผลิบาน

    ยามอรุณเบิกฟ้า แสงเงินยวงของรุ่งอรุณทาบทาผืนฟ้าสีคราม ส่งมอบความอบอุ่นแก่โลกหล้า แม้จิตใจของตู้เยี่ยนอวี่จะยังคงสับสนดุจเรือน้อยกลางทะเลกว้าง แต่กายเนื้อกลับเริ่มฟื้นฟูคืนกำลังทีละน้อยเสียงเจื้อยแจ้วของนกน้อยนอกหน้าต่าง และกลิ่นไอดินที่ลอยมาตามสายลมยามเช้า ล้วนเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาในโสตประสาทของนาง¹“คุณหนู ท่านตื่นแล้วหรือเจ้าคะ ?” เสี่ยวจูผู้เป็นดุจเงาตามตัวของนาง เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถาดอาหารเช้าที่อบอวลด้วยกลิ่นหอมกรุ่น “ฮูหยินสั่งให้บ่าวทำโจ๊กสมุนไพรบำรุงกำลังมาให้เจ้าค่ะ”ตู้เยี่ยนอวี่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองไปยังเสี่ยวจูที่กำลังจัดสำรับอย่างคล่องแคล่ว ท่าทางของนางดูเป็นธรรมชาติและคุ้นเคย ดุจพี่น้องที่เติบโตมาด้วยกัน แตกต่างจากความสัมพันธ์ระหว่างนายกับบ่าวที่นางเคยจินตนาการไว้จากนวนิยายโบราณโดยสิ้นเชิง“ข้ามิได้เป็นอันใดแล้ว” เยี่ยนอวี่ตอบเสียงเบา พลางพยุงกายขึ้นนั่งพิงหมอน “แค่ยังรู้สึกมึนงงอยู่บ้าง”เสี่ยวจูส่งถ้วยโจ๊กมาให้ เยี่ยนอวี่จึงรับมาถือไว้สัมผัสถึงไออุ่นที่แผ่ออกมาจากถ้วย หน้าตาของโจ๊กนั้นขาวนวล มีกลิ่นหอมของข้าวและสมุนไพรบางชนิดลอยแตะจมูก“คุณหนูต้อ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status