Home / แฟนตาซี / วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม / ตอนที่ 5 กฎข้อที่ 3 ห้ามพูดชื่อสัตว์น้ำที่เห็นในตู้เสียงดัง

Share

ตอนที่ 5 กฎข้อที่ 3 ห้ามพูดชื่อสัตว์น้ำที่เห็นในตู้เสียงดัง

last update Huling Na-update: 2025-05-29 19:00:53

หลังจากที่พากันหนีออกมาจากอุโมงค์ใต้สมุทรที่เต็มไปด้วยปลาคลั่งได้สำเร็จ ทุกคนก็มาหยุดพักที่ทางเดินกว้างขวางแห่งหนึ่ง แม้จะพ้นจากอันตรายเฉพาะหน้า แต่บรรยากาศความหวาดกลัวยังคงปกคลุมอยู่หนาแน่น แสงไฟในทางเดินดูสว่างกว่าโซนก่อนหน้าเล็กน้อย เผยให้เห็นทางแยกหลายทางที่ทอดยาวไปในความมืดที่รออยู่เบื้องหน้า

เจมส์ที่เหน็ดเหนื่อยจากการพยายามวิ่งหนี ทิ้งตัวลงนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น เขาดูเหมือนหลับสนิทไปเลย ทุกคนก็มีอาการไม่ต่างกัน หอบหายใจเหนื่อย สีหน้าอ่อนแรง เม็ดเหงื่อผุดขึ้นทั่วร่างกาย พลอยหย่อนตัวลงนั่งคุดคู้อยู่ข้างๆ ใบหน้าของเธอยังคงซีดเผือด ส่วนรอยไหม้รูปตราประทับบนฝ่ามือของเธอก็ยังคงแดงก่ำ และดูเหมือนจะเด่นชัดขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย แพรวาใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กๆ เช็ดคราบเลือดปนเมือกสีแดงบางๆ ที่ซึมออกมาจากรอยไหม้นั้นทันทีที่เธอสังเกตเห็น

“เมือกสีแดงนี่มันอะไรกัน”

“ฉันก็ไม่รู้ มันไม่ใช่เลือดด้วยซ้ำ” พลอยเสริม

“เป็นแบบนี้มานานหรือยัง”

“ฉันไม่แน่ใจ แต่มันมักจะเป็นแบบนี้ เวลาที่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น”

“น่ากลัวชะมัด” แพรวาพูดพลางรู้สึกขนลุกไปทั่วร่างกาย

“แต่... ฉันก็แค่ให้ขนมปังกับปลาที่กำลังหิวแค่นั้นเองนะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะ?” พลอยพึมพำ น้ำตาคลอเบ้า

“เพราะเธอละเมิดกฎไง” กวินบอกเสียงนิ่ง

“แต่ฉันแค่ยื่นเฉยๆ เองนะ แล้วกระจกก็ดูดมันเข้าไป พวกเธอก็เห็น อุโมงค์นั่นมันไม่มีช่องทางให้ฉันโยนขนมปังเข้าไปได้ด้วยซ้ำ”

“เพราะเจตนาของเธอ...” อิฐพูดเสริม “เธอคิดอยากจะให้อาหารปลาเหล่านั้น ระบบจึงตอบสนองตามความตั้งใจของเธอ และนั่นเท่ากับการละเมิดกฎแล้ว”

“อันที่จริง ฉันว่ามันไม่ใช่แค่กฎ แต่มันคือคำสาป” กวินกล่าวเสียงเครือ เขามองไปที่มือของพลอย สลับกับมองไปที่เจมส์ “แล้วเราจะทำยังไงกับเจมส์ดี...”

“ยังไงเราต้องหาที่ปลอดภัยก่อน” อิฐกล่าวขึ้นมา เสียงของเขาหนักแน่นและสงบ “แล้วค่อยคิดหาวิธีช่วยเหลือ” เขากวาดสายตาไปรอบๆ ราวกับกำลังประเมินเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด ก่อนจะพบทางแยกหนึ่งที่ดูพอจะมีแสงไฟสลัวเล็กน้อย มีป้ายบอกทางเก่าๆ ว่าเป็นโซนปลาน้ำลึกปรากฎอยู่ “ทางนั้นน่าจะโอเคนะ”

มิกิยังคงตัวสั่นอยู่เล็กน้อย เธอหยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ได้เพื่อถ่ายคลิป แต่เพื่อตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ เธอพยายามติดต่อโลกภายนอกอย่างสิ้นหวัง แต่หน้าจอแสดงผลเพียงคำว่า ‘ไม่มีสัญญาณ’

“บ้าเอ๊ย! ติดต่อใครไม่ได้เลย!” เธอสบถอย่างหัวเสีย ความทะเยอทะยานที่จะทำคอนเทนต์เริ่มลดน้อยลงเมื่อความจริงของสถานการณ์เริ่มถาโถมเข้ามา

ต้นยังคงจดบันทึกทุกสิ่งอย่างละเอียดในสมุดของเขา แม้จะยังรู้สึกระแวงอยู่บ้าง แต่เขาจะไม่ยอมปล่อยโมเมนต์แบบนี้ผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์เด็ดขาด “ปลาที่คลั่งนั้น...ไม่เหมือนปลาทั่วไป พวกมันเหมือนถูกควบคุมด้วยอะไรบางอย่าง” เขารู้สึกทึ่งและหวาดกลัวไปพร้อมๆ กันกับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่กำลังเกิดขึ้น

ฟ้ายังคงหลับตาลง เธอสัมผัสได้ถึงพลังงานที่แปลกประหลาดที่ไหลเวียนอยู่ทั่วอควาเรียมนี้ “มีบางอย่างที่กำลังควบคุมทุกสิ่ง” เธอเอ่ยขึ้น “มันแข็งแกร่งมาก... และมันกำลังจับจ้องพวกเราอยู่” เธอรู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ แล่นผ่านร่างกายทุกครั้งที่พลังงานนั้นปั่นป่วน

ลุงแดงถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขานั่งลงข้างๆ เจมส์ พลางลูบผมของเจมส์เบาๆ “เด็กหนุ่มคนนี้... ได้ไปอยู่ในอีกโลกหนึ่งแล้ว” ลุงแดงพึมพำ “ อควาเรียมแห่งนี้... มันมีมิติที่ซ้อนทับกันอยู่”

“มิติที่ซ้อนทับ?” กวินหันมามองลุงแดงด้วยความสนใจ “ลุงแดงรู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่ใช่ไหมครับ?” กวินรู้สึกว่าลุงแดงมีข้อมูลบางอย่างที่ไม่ได้เปิดเผย และมันอาจเป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนา

ลุงแดงเงยหน้าขึ้นมองกวิน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าและบางอย่างที่ยากจะอธิบาย “ลุงก็ไม่รู้อะไรมากไปกว่านี้หรอก...”

ตึง!!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นหน่ึงครั้ง ดังกังวานไปทั่วพื้นที่ ทุกคนสะดุ้งโหยงหันขวับไปมองตามต้นทางที่เสียงดังขึ้น ทุกคนหน้าถอดสีเพราะหลังจากที่เพิ่งจะได้พักหายใจหายคอก็ดูเหมือนว่าถึงเวลาที่พวกเขาจะต้องวิ่งหนีกันอีกแล้ว

“ฉันว่าเราไม่มีเวลาแล้ว” แพรวากล่าวขึ้นมา “เราต้องไปต่อ” เธอช่วยกวินพยุงเจมส์ขึ้นมาอีกครั้ง แล้วพวกเขาก็เริ่มเดินไปตามทางที่อิฐชี้ไปสู่โซนสัตว์น้ำลึกก่อนหน้านี้

เมื่อเข้ามาในโซนสัตว์น้ำลึก บรรยากาศก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แสงไฟที่เคยสว่างในโซนก่อนหน้าบัดนี้ลดน้อยลงจนแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย มีเพียงแสงสลัวๆ จากตู้ปลาขนาดยักษ์บางตู้ที่ส่องสว่างออกมา เผยให้เห็นสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลลึกที่มีรูปร่างแปลกประหลาด น่ากลัว และบางตัวก็มีแสงเรืองรองในความมืด พวกมันว่ายวนอย่างเชื่องช้า ราวกับสัตว์ประหลาดในตำนาน เสียงน้ำไหลเอื่อยๆ ผสมกับเสียงกระซิบที่ดังขึ้นมาเป็นระยะๆ

“โซนนี้ดูน่าขนลุกกว่าโซนอื่นนะ” มิกิกระซิบกับต้น เธอพยายามที่จะสร้างบรรยากาศสนุกๆ เพื่อคลายความกลัว แต่ก็ทำได้ไม่เต็มที่นัก “ดูปลาตัวนั้นสิ! มันเหมือนปีศาจเลย!” เธอชี้ไปที่ปลาตัวหนึ่งที่มีปากขนาดใหญ่และฟันแหลมคม ว่ายวนอยู่ใกล้กระจก

“นั่นมันตัวอะไรน่ะ” ต้นถามด้วยสีหน้าขยะแขยง

แพรวาหันขวับมามองทันทีที่ได้ยินคำถาม “ห้ามตอบนะ!!”

แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ทันเสียแล้ว...

“มันคือ... ปลาแองเกลอร์!” มิกิโพล่งตอบออกไปด้วยเสียงอันดัง

“ฉิบหายแล้ว!”

ทันใดนั้น เสียงประกาศจากอควาเรียมก็ดังขึ้นอย่างรุนแรงและเกรี้ยวกราดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา! เสียงนั้นดุดันและดังก้องไปทั่วทั้งโซนสัตว์น้ำลึก ทำให้ทุกคนถึงกับสะดุ้งเฮือก

"ห้ามพูดชื่อสัตว์น้ำที่เห็นในตู้เสียงดัง!"

เสียงสังเคราะห์นั้นประกาศก้อง เปรียบดั่งเสียงฟ้าผ่าลงที่กลางอกของทุกคน!

กรี๊ดดดด!!!

มิกิกรีดร้องสุดเสียง เธอทรุดตัวลงกับพื้นทันที ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวสุดขีด

แสงไฟจากตู้ปลาทุกตู้ในโซนสัตว์น้ำลึกเริ่มกะพริบถี่ขึ้นอย่างบ้าคลั่ง สลับกับความมืดมิดที่เข้าปกคลุมชั่วขณะ ท่ามกลางแสงที่ริบหรี่นั้น ทุกคนเริ่มเห็นภาพหลอนที่น่าสะพรึงกลัว!

ภาพหลอนของสัตว์น้ำใต้ทะเลลึกขนาดมหึมา ที่มีฟันแหลมคมและดวงตาเรืองแสงสีแดงก่ำ พุ่งตรงเข้ามาหาพวกเขาจากทุกทิศทาง! พวกมันกระโจนผ่านผนังกระจกที่มองไม่เห็น ราวกับต้องการจะฉีกกระชากร่างของทุกคน!

เสียงกรีดร้องของมิกิยังคงดังอยู่ แต่คราวนี้มันไม่ใช่แค่เสียงกรีดร้องด้วยความกลัว แต่เป็นเสียงที่บ่งบอกถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส!

“มิกิ!” กวินร้องเรียกด้วยความตกใจ เขาพุ่งเข้าไปหาเธอ แต่ก็ต้องผงะถอยหลัง เมื่อเงาของสัตว์น้ำใต้ทะเลลึกพุ่งผ่านตัวเขาไป ราวกับว่ามีบางสิ่งที่มองไม่เห็นกำลังโจมตีมิกิอยู่

“พวกนายไม่เห็นพวกมันเหรอ!” มิกิร้องเสียงหลง “พวกมันกำลังพุ่งเข้ามาหาฉัน! พวกมันจะกินฉัน!” เธอพยายามปัดป้องอากาศว่างเปล่า ราวกับมีบางสิ่งกำลังรัดคอเธออยู่ ดวงตาของเธอเบิกกว้างจนเห็นแต่ตาขาว และเธอก็เริ่มไอสำลักอย่างรุนแรง ราวกับขาดอากาศหายใจ!

แพรวากับต้นพยายามเข้าไปช่วยมิกิ แต่พวกเขาก็เห็นภาพหลอนของสัตว์น้ำเหล่านั้นพุ่งเข้ามาโจมตีด้วยเช่นกัน แม้จะรู้ว่ามันคือภาพหลอน แต่ความสมจริงของมันก็ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวจนแทบขยับตัวไม่ได้

“พวกมันกำลังเล่นงานกับประสาทสัมผัสของเรา!” ต้นพึมพำ “และพวกมันส่งผลถึงความรู้สึกด้วย!”

“ดวงตาของมิกิ... เธอเห็นในสิ่งที่ไม่มีใครเห็น!” ฟ้าเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย ดวงตาของฟ้าปิดสนิท เธอสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ปั่นป่วนอย่างรุนแรงที่พุ่งออกมาจากตัวมิกิ “มันกำลังโจมตีสมองส่วนการรับรู้เสียงของเธอ!”

อิฐมองไปที่มิกิด้วยความสนใจ เขาสังเกตเห็นว่าดวงตาของมิกิเริ่มแดงก่ำ และมีเส้นเลือดฝอยปูดโปนออกมาคล้ายกับเจมส์ แต่คราวนี้ดูเหมือนว่ามันจะมากกว่านั้น อย่างที่ฟ้าบอกการลงโทษผู้ผิดกฎในครั้งนี้ดูเหมือนว่าส่งผลต่อการได้ยินของผู้ละเมิดด้วย

ลุงแดงถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขานึกถึงตำนานเก่าๆ ที่เล่าขานถึงเรื่องนี้ ตอนที่เขายังอายุน้อยกว่านี้เคยได้ยินมาบ่อยพอสมควร “เธอเป็นผู้ที่ถูกสาปให้ได้ยินเสียงจากใต้บาดาล มิกิกำลังได้ยินเสียงที่ไม่มีใครควรได้ยิน”

อาการของมิกิเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ เธอกรีดร้องอย่างต่อเนื่อง ราวกับกำลังถูกทรมานอย่างแสนสาหัส ก่อนที่เสียงกรีดร้องนั้นจะค่อยๆ แผ่วลง... แผ่วลง... จนในที่สุดก็กลายเป็นความเงียบ!

ตุบ!

มิกิทรุดตัวลงกับพื้นหมดสติไป ร่างกายของเธอกระตุกเล็กน้อย ดวงตาของเธอยังคงเบิกกว้าง แต่ไร้แวว และที่น่าตกใจที่สุดคือ... เธอไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียกใดๆ อีกเลย!

“มิกิ! ได้ยินไหม!” กวินตะโกนเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ

แพรวารีบเข้าไปตรวจสอบอาการของมิกิ “เธอหมดสติ...แต่ยังหายใจอยู่”

“มิกิ!!” กวินตะโกนเรียอีกครั้ง พลางตบที่หน้าของเธอเบาๆ เพื่อเรียกสติ แต่มิกิยังคงนอนนิ่ง ดวงตาเบิกโพลง ปรากฏเพียงตาขาวโพลน

เฮือก!!

ร่างกายของมิกิกระตุกแรงหนึ่งครั้ง พร้อมสูดหายใจเข้าร่าง ตาดำกลับมาปรากฏขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของเธอดูปกติดีเหมือนก่อนหน้านี้ เพียงแต่เธอยังนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ไม่ไหวติง

“มิกิ!!!”  กวินร้องเรียกเธออีกครั้ง

แต่เธอก็ยังแน่นิ่ง...

“ดูเหมือนเธอจะ... ไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว” แพรวาเอ่ยพูดไม่เต็มเสียงนัก

ทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น นี่คือผลลัพธ์ที่น่ากลัวกว่าที่คิด กฎข้อที่ 3 ไม่ได้ฆ่ามิกิ แต่พรากการได้ยินของเธอไป ทำให้เธอไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก พอไม่ได้ยิน เธอก็ไม่พูด กลายเป็นคนเงียบขรึมอย่างถาวร

เจมส์ที่นอนนิ่งอยู่ไม่ไกล เริ่มขยับตัว ดวงตาของเขาค่อยๆ ลืมขึ้นช้าๆ แต่แววตาที่สะท้อนออกมาบัดนี้เป็นสีดำสนิท ไร้อารมณ์ใดๆ และเขาก็จ้องมองมาที่มิกิด้วยแววตาที่ว่างเปล่า ราวกับว่าเขารับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอ

“เขา...รับรู้ได้เหรอ?” ต้นพึมพำ “หรือเพราะเขา... เป็นส่วนหนึ่งของมัน”

อิฐเดินเข้ามาใกล้เจมส์และมิกิ เขาสังเกตเห็นความคล้ายคลึงกันในอาการของทั้งสองคน “การละเมิดกฎแต่ละข้อ... ไม่ได้นำไปสู่ความตาย แต่เป็นการเปลี่ยนแปลง” อิฐสรุป “นั่นคือเปลี่ยนให้เป็นส่วนหนึ่งของอควาเรียมแห่งนี้”

ลุงแดงมองไปที่เจมส์และมิกิด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า “มันกำลังสร้าง 'ผู้เฝ้ารอคอย' ของมันเอง” ลุงแดงพึมพำ

แต่ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่เขาพูด และก็ไม่มีใครมีเวลามากพอที่จะตีความสิ่งที่ลุงแดงพูด เพราะสิ่งเดียวที่พวกเขาอยากจะทำในตอนนี้คือ

หาทางออกจากที่นี่ไปให้ได้!

ความเงียบที่น่ากลัวเข้าปกคลุมโซนสัตว์น้ำลึกอีกครั้ง มีเพียงเสียงน้ำไหลเอื่อยๆ และเสียงหัวเราะเยาะที่ลอยแว่วมาไกลๆ ราวกับต้องการจะเยาะเย้ยความทุกข์ทรมานของพวกเขา

กวินรู้สึกถึงความสิ้นหวังที่ถาโถมเข้ามาอีกครั้ง พวกเขาต้องหาทางออกจากที่นี่ให้ได้ ก่อนที่ทุกคนจะถูกกลืนกินและเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

เสียงสังเคราะห์นั้นกลับมาอีกครั้ง คราวนี้มันเป็นเสียงที่เย็นยะเยือกและเต็มไปด้วยการเย้ยหยัน

"กฎ...คือความจริง... จงรับมันไว้... เพื่อการดำรงอยู่... ในโลกใบใหม่ของเจ้า..."

เมื่อเสียงประกาศอันน่าสะพรึงจบลง อควาเรียมไตรตันก็กลับเข้าสู่ความเงียบงันที่มืดมิดและน่าขนลุกอีกครั้ง ทิ้งไว้เพียงกลุ่มคนที่เหลือรอด กับเพื่อนที่กำลังเปลี่ยนแปลง และความจริงที่ว่าพวกเขาได้เข้ามาในกับดักที่ไม่มีวันหนีรอดง่ายๆ

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม   ตอนที่ 41 วิธีหยุดยั้งพลังลึกลับ

    การที่ทุกคนถูกหลอกว่าสามารถหนีออกจากอควาเรียมได้แล้ว ทั้งที่ในความเป็นจริงเป็นเพียงภาพหลอนที่ถูกสร้างขึ้นมาให้ตายใจ นับว่าเป็นเรื่องที่บั่นทอนความรู้สึกและความหวังของทุกคนได้เป็นอย่างดี พวกเขาพลาดที่ไว้ใจสถานการณ์ตรงหน้าเกินไป ไม่คิดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังจะใจร้ายใจดำได้มากถึงขนาดนี้ความจริงอันน่าสะพรึงกลัวของการที่พวกเขาทั้งหมดไม่ได้หนีรอดออกจากอควาเรียมไตรตันไปไหน แต่ยังคงติดอยู่ภายในภาพหลอนที่สร้างขึ้นเพื่อกักขังพวกเขา ตอกย้ำความสิ้นหวังให้ลึกซึ้งขึ้นมากกว่าเดิม“นี่เรายังอยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ” พลอยถามด้วยน้ำเสียงสิ้นหวัง“ใช่ มันเก่งมาก ที่เล่นกับจิตใจเราได้ถึงขนาดนี้” อิฐกล่าวเสริม แม้จะดูท้อบ้างแต่เขาก็ยังมีประกายตาของความมุ่งมั่นซ่อนอยู่“แล้วเราจะทำยังไงดี ถึงจะออกจากที่นี่ได้” กวินถามขึ้นสายตาของอิฐจับจ้องไปที่สมุดบันทึกที่กวินถืออยู่ในมือก่อนจะยื่นมือไปขอเอามาเปิดดู เขาใช้เวลาเพ่งพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเริ่มพูดคุยกับคนอื่นที่เหลือ เพื่อปรึกษาหารือกันอย่างจริงจังเกี่ยวกับวิธีการที่จะทำลายแกนพลังงานของที่นี่“ตามสมุดบันทึกนี้” อิฐกล่าวพลางชี้ไปที่แผนผังที่ซับซ้อนในส

  • วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม   ตอนที่ 40 เปิดเผยความจริง?

    ความตายอันยิ่งใหญ่และการเสียสละของฟ้า เพื่อเปิดทางให้กลุ่มที่เหลือรอดหนีจากสิ่งมีชีวิตทดลองและดร.วินัยยังคงสร้างความสะเทือนใจอย่างแสนสาหัส บัดนี้แสงสลัวจากอุปกรณ์ทดลองเก่าๆ ในห้องปฏิบัติการส่องกระทบใบหน้าของพวกเขา เผยให้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่ออิสรภาพของตัวเอง“การเสียสละของฟ้าจะต้องไม่สูญเปล่า” อิฐย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“แล้วเราจะเอายังไงต่อดี” พลอยถาม“เราต้องไปต่อ...เพื่อทำลายแกนพลังงาน และหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้”อิฐพูดจบก็หันไปมองทางลับที่ถูกเปิดออกจากการใช้พลังต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตทดลองของฟ้าเมื่อครู่ นี่คือผลลัพธ์จากการเสียสละของฟ้า ทางลับนั้นเป็นอุโมงค์แคบๆ ที่ดูมืดมิดและน่าขนลุก แต่ก็มีแสงสว่างจางๆ ส่องออกมาจากปลายอุโมงค์ ราวกับเป็นแสงแห่งความหวัง“นั่นแหละทางออก” พลอยกรีดร้องด้วยความดีใจปนหวาดกลัว เธอชี้ไปที่ทางลับนั้น “เราไปกันเลยไหม”อิฐพยักหน้า “ไปกันเถอะ! แต่ก็ยังต้องระวังตัวไว้ให้ดีนะ” เขานึกถึงสิ่งที่เจ้าหน้าที่เคยบอกว่าไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ออกจากที่นี่พวกเขาพากันเดินเข้าไปในทางลับนั้นอย่างรวดเร็ว กลิ่นอับชื้นของน้ำเค็มและสนิมเหล็กปะปนกับ

  • วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม   ตอนที่ 39 การเสียสละครั้งสุดท้ายของฟ้า

    ความจริงที่ดร.วินัยเปิดเผยว่าอควาเรียมไตรตันคือศูนย์วิจัยลับที่สร้างสิ่งมีชีวิตไฮบริด และเขาเสนอให้พวกเขาเข้าร่วมการทดลองยิ่งตอกย้ำความหวาดกลัวและสิ้นหวังให้คนที่เหลือรอดอยู่ไม่น้อย บัดนี้แสงสลัวจากอุปกรณ์ทดลองเก่าๆ ในห้องปฏิบัติการส่องกระทบใบหน้าของกลุ่มคนที่เหลือรอด เผยให้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้เพื่ออิสรภาพ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตามอิฐยังคงยืนนิ่ง ใบหน้าของเขาเรียบเฉย “ข้อเสนอของคุณมันไร้สาระ”ดร.วินัยยิ้ม “พวกเจ้าคิดว่าจะต่อต้านข้าได้งั้นรึ” ดร.วินัยกล่าว น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “พวกเจ้าเป็นแค่หนูทดลองของข้าเท่านั้น” เขาชี้ไปที่ตู้ปลาขนาดใหญ่ที่อยู่กลางห้องปฏิบัติการ “แกนพลังงานแห่งไตรตันมันจะดูดกลืนพวกเจ้าทุกคนให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของข้า!!”ทันใดนั้น เสียงคำรามดังสนั่นหวั่นไหวมาจากตู้ปลาขนาดใหญ่ที่อยู่กลางห้องปฏิบัติการ สิ่งมีชีวิตทดลองขนาดมหึมาปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขาอีกครั้งพร้อมกระโจนใส่พวกเขาในทันที“กรี๊ดดดดดดด!” พลอยกรีดร้องสุดเสียงก่อนจะเริ่มวิ่งหนีฟ้าก้าวออกมาจากกลุ่มอย่างช้าๆ แล้วยืนขวางหน้าสิ่งมีชีวิตประหลาดนั่น เธอมองไปที่สิ่งมีชีวิตทด

  • วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม   ตอนที่ 38 เบื้องหลังอควาเรียม

    แผนที่ลับที่แพรวาค้นพบในตู้ปลาที่ใหญ่ที่สุด จุดประกายความหวังครั้งใหม่ในกลุ่มคนที่เหลือรอด แม้ทางออกจะถูกเฝ้าโดยสิ่งมีชีวิตทดลองขนาดมหึมา แต่ความหวังที่จะรอดชีวิตก็กลับมาอีกครั้ง“เราเจอทางออกแล้วใช่ไหมคะ” พลอยพึมพำ ใบหน้าของเธอฉายแววความหวังเล็กน้อย “เราจะรอดแล้วใช่ไหม”“เราต้องไปตามทางนี้ เพื่อทำลายแกนพลังงาน และหาทางออกไปจากที่นี่ให้ได้” อิฐเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตาเต็มไปด้วยความมั่นคง“แต่เราเข้าไปเอาแผนที่นั้นไม่ได้ ไอ้ตัวประหลาดในตู้นั่นมันต้องทำอะไรสักอย่างกับพวกเราแน่ๆ” แพรวาย้ำ“งั้นพวกเราก็ต้องช่วยกันจำ” อิฐกล่าวเสริมสิ้นคำของอิฐพวกเขาทุกคนก็แบ่งสัดส่วนช่วยกันจำเส้นทางที่ปรากฏบนแผนที่ เมื่อมั่นใจว่าจำส่วนของตัวเองได้พวกเขาก็ตัดสินใจเดินหน้าต่อไปตามแผนที่ลับที่แพรวาค้นพบ มันเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างแคบและมืดสลัวกว่าโซนอื่น มีเพียงแสงจางๆ จากตู้ปลาบางตู้ที่ส่องนำทาง บรรยากาศเงียบสงัดจนได้ยินเพียงเสียงฝีเท้าของพวกเขาที่ก้องกังวานไปทั่วทางเดิน และเสียงหัวใจที่เต้นระรัวด้วยความหวาดกลัวขณะที่พวกเขาเดินทางไปตามทางเดินนั้น พวกเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นเสียงของม

  • วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม   ตอนที่ 37 ค้นพบทางออก

    ความหวาดผวาและความสิ้นหวังยังคงทำลายจิตใจของพวกเขาที่ยังเหลือรอดอยู่อย่างหนักหน่วงยิ่งกว่าที่เคย หลังจากฟ้าเริ่มแสดงอาการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายคล้ายกับที่เกิดกับเจมส์ เธอต่อสู้กับพลังที่พยายามกลืนกินเธอไปอย่างช้าๆ แต่เสียงกระซิบที่ชัดเจนขึ้นที่บอกให้เธอกลับไปที่น้ำ ยิ่งทำให้การต่อสู้ยากลำบากขึ้น“ฟ้าจะรอดไหม” พลอยถามอย่างเป็นกังวล เธออยากไม่เสียใครไปมากกว่านี้อีกแล้ว แต่เธอก็ไม่กล้าพอที่จะพุ่งเข้าไปช่วย เพราะไม่อาจคาดเดาถึงผลกระทบที่จะตามมาได้เลยตุบ!แพรวาหมดสติล้มลงไปกองอยู่ที่พื้น ทุกคนตกใจรีบกรูกันเข้ามามุงเพื่อช่วยเหลือ เพียงครู่เดียวเธอก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า ดวงตาของเธอยังคงเต็มไปด้วยความเย็นชา แต่ก็มีประกายบางอย่างที่บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นที่เด็ดเดี่ยว เธอพยายามจะลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเลพลอยรีบประคองเธอไว้ “แพรวา! เธอฟื้นแล้ว!”แพรวามองไปรอบๆ อย่างสับสน สายตาของเธอไปหยุดอยู่ที่กวินที่ยังคงกุมสมุดบันทึกของนักวิทยาศาสตร์ไว้แน่นในมือ“ความจริงอยู่ในตู้ปลาที่ใหญ่ที่สุด” แพรวาย้ำ ความต้องการเดียวในความนึกคิดของเธอคือแรงจูงใจที่จะค้นหาความจริงเกี่ยวกับพ่อของเธอที่หายตัวไป แล

  • วิธีการเป็นผู้รอดชีวิตจาก 13 กฎเหล็กของอควาเรียมต้องห้าม   ตอนที่ 36 การต่อสู้ของฟ้า

    ความตายอันยิ่งใหญ่ของการเสียสละของลุงแดง เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของสิ่งมีชีวิตทดลองและเปิดทางให้กลุ่มที่เหลือรอดหนีไปได้ ยังคงสร้างความสะเทือนใจอย่างแสนสาหัส คำพูดสุดท้ายของเขาที่ว่า ความจริงอยู่ในตู้ปลาที่ใหญ่ที่สุด ก้องกังวานอยู่ในโสตประสาทของทุกคน ภาพอนาคตอันน่าสะพรึงกลัวที่ฉายขึ้นในตู้ปลาเหล่านั้น ราวกับจะบอกว่ามันเป็นชะตากรรมของพวกเขาแต่ละคนที่จะถูกอควาเรียมกลืนกิน ยิ่งตอกย้ำความสิ้นหวังให้ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิมพรึ่บ!! ไฟดับลงและสว่างขึ้นอีกครั้ง แพรวาและอิฐกลับมาแล้วด้วยสีหน้างุนงงและหวาดกลัว พลอยรีบถลาเข้าไปหาทันที“เป็นไงบ้าง มันพาไปที่ไหน”“ห้องๆ นึง” อิฐบอก แววตาเลื่อนลอย “มันให้พวกเราเห็นอดีตที่ผิดพลาดของตัวเอง”“มันกำลังพยายามทำให้พวกเราอ่อนแอ” แพรวาเสริม“ไม่เป็ฯไรนะ อย่างน้อยก็ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านี้ ฉันเป็นห่วงแทบแย่” พลอยรีบโอบทั้งสองคนเข้ามากอดเอาไว้ เธอไม่รู้ว่าควรทำอะไรมากไปกว่านี้ สิ่งเดียวที่คิดออกคือพยายามดึงให้ทั้งอิฐและแพรวากลับมาอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงให้ได้“แล้วลุงแดงล่ะ” อิฐเอ่ยถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังไม่เห็นหน้าคนที่ตนถามถึงพลอยผละออกพลางมองหน้าคนถา

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status